กึก ~
เสียงประตูบ้านปิดลงพร้อมกับเสียงฝนเบาลงจากด้านนอก ชะเอมเดินตัวเปียกเข้าไปในบ้าน ถือเสื้อฮู้ดไว้แนบอกอย่างระมัดระวัง ทั้งกลัวลื่น กลัวทำบ้านเลอะด้วย เพราะคนที่ทำความสะอาดก็คือแม่ของเธอ
"กลับมาจนได้นะลูก" เสียงผู้เป็นแม่ดังมาจากห้องนั่งเล่น ก่อนเจ้าตัวจะเดินออกมาพร้อมผ้าขนหนู
"แหะๆ เอมเปียกหมดเลยค่ะ" เธอได้แต่ยิ้มแห้งๆ ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน สภาพตอนนี้ก็เปียกฉ่ำไปหมดเลย ดีนะที่ไม่ถูกรถเหยียบน้ำฝนที่ขังอยู่ตามพื้นถนนแล้วกระเด็นเข้าใส่ ไม่งั้นงานหนักตกไปที่แม่ของเธอแน่ๆ
"แม่โทรหาตั้งหลายรอบ ทำไมไม่รับ? จะให้พ่อเอาร่มออกไปรอรับที่มหาลัย จะได้กางร่มกลับ"
"ขอโทษค่ะ มือเปียกหมดเลย เอมเลยไม่ได้หยิบโทรศัพท์ดู กลัวมันเปียกด้วย" ชะเอมตอบเสียงอ่อย ก่อนจะยื่นมือไปรับผ้าแล้วเช็ดหัวเช็ดหน้าให้แห้ง
"เอาผ้ามาแม่จะเอาไปผึ่งให้ จะได้เอาไว้ซัก"
"เอ่อ เสื้อตัวนี้เดี๋ยวเอมซักเองค่ะ มัน...มันค่อนข้างสำคัญ"
"หืม..."
"มะ ไม่มีอะไรค่ะ พอดีต้องเอาซักแล้วไปคืนเขา"
ผู้เป็นแม่มองแล้วยิ้มกริ่มเหมือนจะคาดเดาสายตาของลูกสาวออก ก็เลยไม่ได้ซักไซ้ถามอะไรมากมาย คงจะเป็นเสื้อของใครสักคนที่มีความสำคัญกับหัวใจดวงน้อยๆ ดวงนี้ เธอถึงไม่ยอมให้แม่ของเธอแตะต้องเลย
"แล้วนั่นใครมาส่งล่ะ?" ผู้เป็นพ่อพูดขึ้นบ้างเสียงมาจากในครัว
"เอ่อ...พ่อเห็นหรอ?" ชะเอมเดินเข้าไปตามเสียงที่ดังมา พ่อของเธอกำลังนั่งอ่านหนังสือจำพวกท่องเที่ยวอยู่ตามปกติ เขาเหลือบตาขึ้นมองลูกสาวเล็กน้อย
"หน้าตาดีนะ สูงๆ ขรึมๆ แฟนเหรอ?"
เธอชะงักมือที่เช็ดผม หัวใจเต้นตึกตักขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวเมื่อพ่อทักว่านั่นคือแฟนของเธอ ในใจก็คิดว่าถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ ก็ดีสินะ แต่พอนึกถึงความเป็นจริงแล้ว น่าเศร้าเลย
"เปล่าค่ะแค่รุ่นพี่ในมหาลัย พี่เขาเรียนวิศวะเหมือนกัน เป็นรุ่นพี่ที่คณะ ช่วยเอมไว้หลายครั้งแล้ว วันนี้ฝนตกก็เลยแวะมาส่งเฉยๆ"
แม่เลิกคิ้วทำหน้าเหมือนกำลังจะยิ้มเมื่อฟังลูกสาวพูดจนจบประโยค แต่ก็ยังมองออกอยู่ดีว่าเธอกำลังเขิน เลยแซวไปขยี้ไปอีกรอบ
"จริงเร้อ แค่รุ่นพี่เฉยๆ เหรอ?"
"เอ่อ...ก็เฉยๆ แหละค่ะ มันยังไม่มีอะไร"
เธอพูดพลางเดินหลบสายตาทั้งสองคน แต่ก็ยิ้มจางๆ ออกมาเองโดยไม่รู้ตัว
"แต่อนาคตก็ไม่แน่หรอกมั้งคะ เอมอาจจะมีแฟนแล้วพามาแนะนำให้พ่อแม่รู้จักก็ได้"
น้ำเสียงของเธอแผ่วลงลงเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้แผ่วเบาจนพ่อแม่ของเธอไม่ได้ยิน
"โถ่ลูกแม่ โตขึ้นแล้วนะเรา"
ผู้เป็นแม่หัวเราะเบาๆ ก่อนจะเดินเข้ามาลูบหัวลูกสาวด้วยความรักและความอ่อนโยน
"แม่ไม่ห้ามหรอกนะ ถ้าเจอคนดีๆ ดูแลกันได้ก็ลองคุยกันดูได้เลย"
ชะเอมเงยหน้าขึ้นมองผู้เป็นแม่ แววตาของเธอสั่นเครือ เธอเองก็ไม่ได้คิดอยู่แล้วว่าพ่อกับแม่จะห้ามหรือไม่อยากให้เธอมีแฟน เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าจะเรื่องอะไรพ่อกับแม่เธอก็จะสนับสนุนและให้คำแนะนำตลอด ไม่เคยห้ามและก็ไม่เคยติเวลาเธอทำผิดแค่ให้คำแนะนำว่าควรทำยังไงเวลาเธอทำผิดพลาด เพราะต่อไปเธอจะได้ไม่ต้องทำมันอีก
"แม่..."
"ลูกน่ะโตแล้ว ก็ควรจะเริ่มเลือกทางเดินชีวิตของตัวเองได้แล้ว มันไม่ใช่หน้าที่ของพ่อแม่ที่จะบงการ ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ยิ่งเป็นเรื่องคนรักคู่ชีวิต ลูกต้องเป็นคนที่เลือกเอง เพราะมันคือความสุขของลูก ไม่ใช่ความสุขของพ่อแม่ และความสุขของพ่อแม่ก็คือเห็นลูกมีความสุขแค่นั้นเอง"
ผู้เป็นพ่อพยักหน้าอย่างเห็นด้วย เมื่อภรรยาพูดจบ
"แค่ขออย่างเดียว เลือกให้ดีแล้วก็ต้องรู้จักระวังตัวด้วย รู้มั้ย?"
"ระวังตัวเรื่องอะไรคะ?"
เธอถามอย่างรู้ทัน แต่หน้าเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ
"เราก็น่าจะรู้ว่าพ่อหมายถึงอะไร แต่ก็ระวังใจตัวเองด้วย รักคนอื่นได้ แต่อย่ารักมากกว่าตัวเอง"
"อ๋อ...เข้าใจแล้วค่ะ"
"ที่บอกให้ระวังตัว เพราะพ่อยังไม่อยากมีหลานตอนนี้ เก็ตไหม?"
พ่อพูดขำๆ พร้อมเสียงกระแอมที่จงใจ
"โธ่พ่ออออออ..."
เธอบ่นเสียงยาวก่อนจะเดินหนีขึ้นห้องไป จู่ๆ หัวใจของเธอมันก็เต้นรัวไปหมดเลย ความรู้สึกเหมือนถูกจับได้ เหมือนมีคนรู้ความลับที่มีแค่ในใจของเธอที่คิดแค่นั้น
ชะเอมเดินเข้าไปในห้องนอน ก่อนจะเอาเสื้อฮู้ดที่เปียกแฉะแขวนกับไม้แขวนแล้วเอาห้อยไว้ตรงประตูหน้าต่าง จากนั้นก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมานั่งทำรายงาน ยังดีที่ไหนกระเป๋าสะพายมีแฟ้มใส่พวกกระดาษเอกสารอะไรอีกทีนึง มันก็เลยไม่ได้เปียก
ขณะที่กำลังนั่งทำงานอยู่ตรงโต๊ะหนังสือ ชะเอมก็คอยชำเลืองตาขึ้นมองเสื้อฮู้ดที่แขวนอยู่เป็นระยะๆ มันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่ารุ่นพี่ไทเธย์กำลังยืนมองเธออยู่เลย นั่งมองไปก็ยิ้มไป ความรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอยู่ในห้วงของความฝันไม่มีผิด แต่เป็นความฝันที่เธอมีความสุขมากๆ
"โอ๊ย! ซี๊ดเจ็บ!" จู่ๆ เธอก็หยิกแขนของตัวเองอย่างแรง เพราะอยากได้ความแน่ใจอะไรบางอย่าง แต่มันก็เจ็บจี๊ดขึ้นมาทันทีที่เล็บของเธอจิกลงไป
"คิกคิก อย่างน้อยก็ไม่ใช่ความฝัน" เธอพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะหัวเราะคิกคักกับตัวเองอีกครั้งเหมือนคนบ้า
ก๊อกๆๆ ~
"ทำอะไรอยู่หรือเปล่าลูก แม่ขอเข้าไปได้ไหม"
"เข้ามาได้เลยค่ะแม่"
ผู้เป็นแม่เดินเข้ามาพร้อมกับถาดใส่ถ้วยข้าวต้มแล้วก็ข้างๆ กันก็มีห่อยาอยู่หอนึง
"ยกขึ้นมาทำไมคะ เดี๋ยวเอมก็ลงไปกินอยู่หรอก แค่ขอทำงานก่อน"
"แม่กลัวเราจะไม่ลงไปกินน่ะสิ กินสักหน่อยก็ยังดี แล้วก็กินยาดักเอาไว้ ได้ไม่เป็นไข้"
"ขอบคุณนะคะแม่"
"แหม เสื้อตัวนี้เนี่ยหวงนักนะ แม่จะเอาไปซักให้ก็ไม่เอา" ผู้เป็นแม่เหลือบไปเห็นเสื้อที่แขวนอยู่นอกหน้าต่าง ใต้หลังคาบ้านมีที่แขวนเสื้อผ้าอยู่
"ก็มันไม่ใช่เสื้อของเอมไง มันเป็นเสื้อของรุ่นพี่เขา เดี๋ยวถ้าซักแล้วเป็นอะไรขึ้นมา เอมก็จะได้รับผิดชอบได้เลย"
"แค่เสื้อตัวเดียวเองมันจะเป็นอะไรได้"
"ไม่เป็นอะไรค่ะเดี๋ยวเอมปั่นเอง"
"จ้ะๆ แต่ก็อย่าลืมกินข้าวกินยาด้วยนะ อย่าให้เป็นไข้ล่ะ"
"ค่าคุณอิ่มใจ ขอบคุณมากๆ นะคะสำหรับข้าวต้ม"
"จ้ะ แม่ไปล่ะ"
"บายค่ะ"
#มหาวิทยาลัยช่วงบ่ายแก่ๆ ในห้องชมรมหุ่นยนต์ ชะเอมกำลังนั่งทำงานอยู่ ที่นี่มีแค่เธอ ส่วนรุ่นพี่คนอื่นๆ ก็แยกย้ายกันกลับหมดแล้ว ส่วนไทเธย์เห็นบอกว่าจะอาสาไปซื้อของกินมา เพราะเท้าของเธอยังเจ็บอยู่ ถึงจะไม่มากเท่าก่อนหน้านี้ แต่เวลาเดินก็ยังขัดอยู่นิดหน่อยขณะที่เธอกำลังนั่งอยู่เงียบๆ นั้น เสียงส้นรองเท้ากระแทกพื้นดังขึ้นจากหน้าประตู เดินเข้ามาใกล้เธอเรื่อยๆ แต่ชะเอมไม่ได้หันมอง เพราะรู้อยู่แล้วว่าเสียงรองเท้าส้นสูงแบบนี้จะต้องเป็นผู้หญิง"ว่าแล้วเชียว ว่าเธอจะต้องอยู่ที่นี่"น้ำเสียงนั้นประชดประชันอย่างชัดเจน เมษาเดินเข้ามาเอามือกอดอก สายตาไล่มองชะเอมตั้งแต่หัวจรดเท้าเหมือนกำลังดูถูกชะเอมหยุดการกระทำ หันไปมองแวบหนึ่งแล้วถอนหายใจเบาๆ"ถ้าพี่เมษาจะหาเรื่อง พูดมาตรงๆ ก็ได้นะคะ ไม่ต้องอ้อมโลก""กล้าพูดนะ" เมษาหัวเราะในลำคอ "แสดงว่าที่เดินสะเปะสะปะอยู่ข้างๆ ไททุกวันนี้ คงคิดว่าตัวเองสำคัญมากล่ะสิ?"ชะเอมลุกขึ้น แม้จะต้องเอียงตัวเล็กน้อยเพราะเจ็บขา แต่ก็ยังยืดตัวตรงได้"ไม่ได้คิดหรอกค่ะ แต่รุ่นพี่ไทเขาแสดงให้เห็นเองต่างหากว่าเอมสำคัญ""แก!""พี่เมษาจะมาหาเรื่องทำไมคะ หรือเป็นเพราะผู้ชายไม่ชอ
#วันถัดมาช่วงสายๆ ภายในลานกิจกรรมคนกำลังพลุกพล่าน บางบูธก็จัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่บางบูธก็ยังไม่เรียบร้อยดี ยังคงพัลวันหัวหมุนกันอยู่ แต่ชะเอมกับไทเธย์ก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะมันไม่ใช่หน้าที่ของตัวเอง"เดินดีๆ ระวังไปชนกับเขา" ไทเธย์หันศีรษะมาเล็กน้อยบอกกับคนข้างหลัง เพราะรอบข้างคนกำลังเดินสวนกันไปมาดูวุ่นวาย"มีอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมคนดูวุ่นวายกันจัง" เธอเดินเข้าไปใกล้ๆ และเอ่ยถามแบบกระซิบ"ไม่มีอะไรหรอก วันนี้จัดงานวันสุดท้าย ตอนเย็นเขาก็เก็บของกลับกันหมดแล้ว""....." ชะเอมพยักหน้าตอบรับอย่างเข้าใจ เพราะช่วงบ่ายๆ ของวันนี้ เสร็จจากงานกิจกรรมแล้วเธอก็ต้องเดินทางกลับเช่นกัน"เดินตามมาอย่าให้ห่างล่ะ เดี๋ยวก็หลงกันพอดี"เธอไม่ได้พูดอะไร นอกจากเดินตามหลังเขาไปอย่างเงียบๆ คงเพราะคนกำลังพลุกพล่าน การจราจรมันก็เลยค่อนข้างติดขัด จากที่เมื่อก่อนเธอเดินตามไทเธย์แทบไม่ทัน ตอนนี้นี่เบียดแผ่นหลังของเขาจนไม่รู้จะขยับไปทางไหนแล้ว"คนวุ่นวายจังค่ะ เราออกไปรอข้างนอก ให้เขาทำอะไรเสร็จกันก่อนดีไหมคะ""เอางั้นหรอ?" ถามกลับเหมือนเขาจะเริ่มเห็นด้วยกับสิ่งที่เธอพูด"ค่ะ""อืม งั้นก็ตามมา"ไทเธย์เดินนำออกไป โ
#เช้าวันถัดมา "เราต้องแต่งตัวแบบไหนคะ ชุดนักศึกษาหรือเปล่า?" เธอถามเพราะไม่รู้ แต่ก็เตรียมมาอยู่เหมือนกัน นอกจากชุดนักศึกษาก็มีชุดใส่เล่นทั่วไปแต่จะเป็นชุดที่ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย"ใส่เสื้อตัวนี้ไป" หยิบเสื้อแล้วยื่นให้"ตัวใหญ่จัง""ไม่ได้ตัดเผื่อ ฉันสั่งตัดแค่ขนาดที่ตัวเองใส่""ใส่ตัวอื่นไม่ได้หรอคะ? ตัวมันใหญ่ดูเทอะทะทำอะไรไม่สะดวกเลย""ตามใจ""โอเคค่ะ"ชะเอมหยิบเสื้อของตัวเองขึ้นมาสวมใส่ ก็เป็นเสื้อยืดธรรมดานั่นแหละ ส่วนล่างก็เป็นกางเกงวอร์มสีกรม ดูเป็นชุดทั่วๆ ไป#สักพักต่อมา"เสร็จแล้วหรือยัง""เสร็จแล้วค่ะๆ""งั้นก็ไปกัน ป่านนี้คนคงมาเต็มแล้ว""ค่ะ"ทั้งสองพากันลงไปที่ลานกิจกรรม ที่นี่เริ่มแน่นขนัดไปด้วยนักศึกษาจากหลายมหาวิทยาลัย ทั้งเสียงพูดคุย การจัดบูธ นิทรรศการย่อย รวมถึงการบันทึกข้อมูลสำหรับแลกเปลี่ยนกันระหว่างชมรม มันดูวุ่นวายไปหมดเลย และก็เป็นสถานที่ที่ไม่ค่อยถูกใจกับไทเธย์สักเท่าไหร่ด้วยชะเอมแต่งตัวธรรมดา เสื้อยืดกางเกงวอร์ม แต่ทว่าใบหน้าสดใสและท่าทางกระตือรือร้น กลับดึงดูดสายตาใครต่อใครได้มากกว่าที่คิด เธอดูสดใสและมีรอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์ สวยดูดี ต่อให้ชุดที่ใส่จะด
#ช่วงบ่ายๆ ของวันศุกร์ ทั้งสองจะต้องเดินทางกันในวันศุกร์ เพื่อที่จะได้ไปร่วมกิจกรรมในเช้าวันเสาร์และวันอาทิตย์ การเดินทางก็ไม่ได้ใช้เวลาอะไรมากมายแต่ทว่าก็มาถึงกันจนเย็นอยู่ดี"สวัสดีครับอาจารย์""สวัสดีค่ะอาจารย์"ไทเธย์กับชะเอมเข้ามาทักทายประธานชมรมและกลุ่มอาจารย์ที่มาร่วมชมรมนี้ด้วย แต่ชมรมของไทเธย์ไม่ได้มีอาจารย์มาด้วยเพราะเป็นเพียงชมรมเล็กๆ และก็ประสงค์จะมาดูงานเองไม่เกี่ยวกับทางมหาวิทยาลัย"ขึ้นพักกันเถอะ""เราจะพักกันที่นี่หรอคะ""ใช่ กิจกรรมมันอยู่ที่นี่ก็พักมันซะที่นี่แหละ""อ๋อ..."ไทเธย์พารุ่นน้องไปที่หน้าเคาน์เตอร์ก่อนจะบอกรายละเอียดต่างๆ ที่ได้ทำการจองเอาไว้ล่วงหน้ากับพนักงานแต่ทว่ากลับมีบางอย่างที่ชะเอมได้ยินแล้วถึงกับหูผึ่งในทันที"ห๊ะ! ห้องเดียว?""จะเสียงดังเพื่อ?""แต่รุ่นพี่ไม่ได้บอกนี่คะ ว่าเราจะพักห้องเดียวกัน""ตอนแรกฉันจองไว้แบบนี้ไง" ก่อนที่จะมาเขาได้จัดการอะไรๆ ไว้เรียบร้อยหมดแล้ว จะมาเปลี่ยนเอากระทันหันมันก็ไม่ทันหรอก จะยกเลิกโรงแรมนี้แล้วไปหาโรงแรมอื่นพักก็เสียเวลาแถมเสียเงินเพิ่มด้วย"ยะ แยกไม่ได้หรอ" พูดเสียงอ้อนๆ แต่ก็แผ่วเบามาก"ต้องขออภัยด้วยนะคะ ทางห
ในบ่ายวันหนึ่ง ณ ชมรมหุ่นยนต์ครืด~ ( ข้อความใหม่เข้า )ไทเธย์กำลังนั่งอ่านข้อความที่ถูกส่งเข้ามาในโทรศัพท์มือถือ เขาขมวดคิ้วย่นเหมือนกำลังคิดหนักเอามากๆ ราวกับว่าในนั้นมีเรื่องคอขาดบาดตายTon : ขอโทษว่ะ แม่กูเข้าโรงพยาบาลด่วน ไม่มีใครเฝ้าด้วยกูก็เลยต้องอยู่เฝ้า เรื่องกิจกรรมชมรมมึงช่วยหาคนอื่นไปแทนกูก่อนนะ ขอโทษจริงๆ ว่ะ แต่มันกระทันหันจริงๆ Thaithey : ไม่เป็นไร ขอให้แม่มึงหายไวๆ นะ มีอะไรให้ช่วยก็บอก เรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นหรอก ไทเธย์ไม่ได้ว่าอะไรเพื่อนสนิทเลย เพราะมันก็ฉุกละหุกกระทันหันจริงๆ บวกกับพอจะรู้เรื่องเพื่อนสนิทคนนี้มาอยู่บ้าง ว่าแม่ของเพื่อนคนนี้นั้นเจ็บออดๆ แอดๆ เข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น เคยแว๊บไปเยี่ยมอยู่ 2-3 ครั้งเหมือนกัน ถึงได้เข้าใจแต่ที่หนักใจอยู่ตอนนี้คือ เขาจะหาใครไปแทนได้ เพราะตอนที่ดีลกับทางปลายทางเอาไว้คือจะไปกันสองคน และทางนั้นก็เตรียมทุกอย่างรอเอาไว้เรียบร้อยหมดแล้วด้วย"เสร็จแล้วค่ะรุ่นพี่ไท ช่วยดูหน่อยพอได้ไหม" ชะเอมยื่นเอกสารไปตรงหน้าของรุ่นพี่ไทเธย์ เพราะเพิ่งเข้ามาชมรมใหม่ๆ หน้าที่ของเธอก็เลยไม่ได้มีอะไรมาก นอกจากคอยจดหลักสูตรและเอา
@คณะวิศวะกรรม หลังเลิกเรียนชะเอมกำลังจะเดินกลับบ้านตามปกติ ทว่าก้าวยังไม่พ้นบันได เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ทำให้เธอและกลุ่มเพื่อนต้องชะงักในทันที"เสื้อสวยดีนะ""???""ตั้งใจลงรูปแบบนั้นให้ใครดูล่ะ?"เสียงที่ฟังดูเหมือนกำลังยิ้ม แต่เป็นการประชดประชันมากกว่า ดูก็รู้ว่ามาดักรอแบบนี้กำลังหาเรื่องกันเรื่องอยู่ชะเอมหันไปพร้อมกับถอนหายใจ เห็นรุ่นพี่เมษายืนพิงราวบันไดอยู่กับกลุ่มเพื่อนกลุ่มเดิม แขนกอดอกมองด้วยสายตาที่เย็นเฉียบ"ก็ไม่ได้ตั้งใจให้ใครดูค่ะ แค่ลงรูปเฉยๆ เหมือนปกติ" เธอตอบนิ่งๆ"แค่ลงเฉยๆ? แน่ใจเหรอว่าไม่จงใจ" พี่เมษาเลิกคิ้ว พลางเดินเข้ามาใกล้ขึ้นทีละก้าวเหมือนกำลังหาเรื่อง"....." ชะเอมยืนนิ่ง เธอไม่ได้ถอยหนี และก็ไม่ได้กลัวด้วย"หลังจากที่ฉันเตือนเธอไปแล้ว ว่าอย่ามายุ่งกับไทอีก ทำไมเธอถึงไม่ฟัง?"ชะเอมเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ "รุ่นพี่ไทไม่ใช่ของใคร เขายังไม่มีแฟนนะคะ ถ้าพี่กำลังชอบตามจีบอยู่เหมือนกัน เราก็อยู่ในสถานะเดียวกัน เพราะฉะนั้น...ให้ผู้ชายเขาตัดสินเถอะค่ะ ว่าชอบใคร""เขาก็ต้องชอบฉันอยู่แล้ว" พูดด้วยความมั่นใจ"เหรอคะ แต่รุ่นพี่ก็อยู่มาตั้งนานแล