#เวลาผ่านไป
วันนี้ฝนเริ่มตั้งเค้าตั้งแต่ตอนเลิกคลาสเรียน แต่ชะเอมยังยืนยันจะกลับบ้าน เพราะคิดว่าคงตกแป๊บเดียวเดี๋ยวก็หยุด เธอวิ่งออกมาเพื่อจะไปที่หน้ามหาวิทยาลัย มือยกกระเป๋าสะพายแนบกับศีรษะเพื่อกันฝน แต่ลมแรงสาดเม็ดฝนเข้ามาที่ตัวของเธอขณะที่เธอกำลังวิ่ง จะถอยหลังกลับหรือจะวิ่งไปต่อ สุดท้ายมันก็มีจุดจบเหมือนกัน เพราะตัวเธอเปียกไปหมดแล้ว
จนกระทั่งวิ่งมาถึงป้ายรอรถหน้ามหาวิทยาลัย ถึงจะมีหลังคากันแดดกันฝนแต่มันก็ยังสาดเข้ามารอบด้านอยู่ดี
ซ่า ~ ครืน !! ⛈️
ทั้งฟ้าทั้งฝนมันแรงไปหมด จากที่ตอนแรกไม่ได้คิดเอาไว้เลย ว่ามันจะตกหนักขนาดนี้ เค้าฝนก็ดูไม่รุนแรงอะไรขนาดนั้นด้วย
"บ้าเอ๊ย..." เธอบ่นพึมพำ พร้อมกับพยายามเบี่ยงตัวหลบใต้กันสาดเล็กๆ ที่ดูเหมือนจะไม่ช่วยอะไรเลย เสื้อเปียกแนบลำตัวจนรู้สึกเย็นวาบไปถึงผิวข้างใน บวกกับมีลมหอบมาอีกระลอกอย่างกับยืนอยู่ในตู้เย็นยังไงยังงั้น เธอหนาวจนยืนตัวสั่นไปหมด
ชะเอมก้มลงมองตัวเอง รู้ทันทีว่า ณ เวลานี้มันแย่มากๆ ชุดนักศึกษาสีขาวเปียกจนมองทะลุเห็นบราเซียด้านในอย่างชัดเจน เพราะด้านในเธอใส่แค่บราตัวเดียว พอฝนตกเสื้อเปียกเสื้อนักศึกษาเจ้ากรรมก็ดันแนบเนื้อติดกับตัวของเธอแถมยังใสจนมองเห็นทะลุข้างในอีก
เธอเอากระเป๋าที่เปียกมาปิดตรงหน้าอกของตัวเองให้ได้มากที่สุดเพื่อหลบสายตาใครต่อใครที่ยืนหลบฝนอยู่ตรงนี้ด้วยกัน จังหวะนั้นเสียงฝีเท้าหนักๆ ดังขึ้นจากด้านหลัง
"อยู่นิ่งๆ !"
เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยดังขึ้น ก่อนจะมีเสื้อฮู้ดสีเทาดูหนาและใหญ่ถูกโยนคลุมมาที่ไหล่ของเธอ ร่างบางชะงักเหลียวหลังเงยหน้ามองขึ้นอย่างตกใจ รุ่นพี่ไทเธย์ยืนอยู่ข้างหลังของเธอ และเป็นเจ้าของเสื้อฮู้ดที่โยนมาใส่เธอก่อนหน้านี้ สภาพของเขาก็เปียกปอนไม่ต่างจากเธอเลย
"พะ...พี่ไทเธย์?"
"ฝนตกขนาดนี้ทำไมรีบวิ่งออกมา?"
"ก็คิดว่ามันจะตกแป๊บเดียว แล้วก็ไม่หนักค่ะ" เธอบอกตามความจริง กะว่าจะใช้ความสามารถอดีตนักกรีฑาในสมัยเด็กวิ่งกลับบ้าน แต่ตอนนี้ต่อให้จะเป็นนักกรีฑาระดับโลกก็ไม่น่าไหว
"เอาเสื้อใส่คลุมเอาไว้"
"ค่ะ" รีบเอาเสื้อของเขาสวมเข้ากับตัวเอง เวลาอยู่บนตัวของรุ่นพี่ทำไมถึงตัวพอดี แต่พออยู่บนตัวของเธอมันใหญ่จนคลุมก้นของเธอลงไปเลย
"คราวหน้าก็หัดหาอะไรสวมทับมาบ้าง คนอื่นเขาเห็นหมดแล้ว" ไม่ใช่แค่คนอื่นหรอก ตัวเขาเองก็เห็นแล้วเหมือนกัน แต่คนที่อยู่ตรงนี้ก่อนหน้าคงเห็นมากกว่า
ตอนที่วิ่งมาแล้วเห็นหน้าอกของเธอที่ถูกห่อด้วยบราเซียจนกลมเป็นก้อนราวกับซาลาเปา เล่นเอาหัวใจของเขาเต้นตุบตับไม่เป็นจังหวะเลย
"ก็ใครจะไปคิดว่าฝนจะตกล่ะคะ"
"สภาพนี้คงไม่หยุดตกง่ายๆ แน่"
"น่าจะอย่างนั้น"
"จะให้ยืนอยู่เป็นเพื่อนไหม?"
"ก็ถ้ารุ่นพี่ยังนึกสงสารก็...ช่วยอยู่เป็นเพื่อนหน่อยค่ะ"
"เพื่อนเธอหายไปไหนกันหมด"
"เลิกเรียนแล้วก็แยกย้ายสิคะ"
ทั้งสองยืนอยู่ด้วยกันจนกระทั่งค่ำ คนที่ยืนอยู่ด้วยกันก็เริ่มทยอยกลับเพราะมีคนมารับ สุดท้ายก็เหลือแค่สองคนที่ยืนอยู่ด้วยกัน ท่ามกลางด้านนอกที่ฝนเริ่มซาลงแล้ว
"ฝนซาแล้ว"
"กลับกันเถอะค่ะ ไหนๆ ก็เปียกแล้ว กลับสภาพนี้คงไม่เป็นไร"
"อือ..."
"เสื้อของพี่..."
"ใส่เอาไว้ก่อน ฉันไม่อยากเห็นภาพบาดลูกตา"
"ทำเป็นพูด ทำไมคะเห็นหน้าอกผู้หญิงแล้วผื่นมันจะขึ้นหรือไง?"
"เธอนี่ทำไมชอบพูดแบบนี้ เป็นผู้หญิงซะเปล่า ไม่รู้จักระมัดระวังตัวเลย"
"....." เธอถูกบ่น เหมือนกับพ่อที่กำลังบ่นลูกเลย ทั้งที่พ่อของเธอยังไม่เคยบ่นอะไรขนาดนี้
"ใส่เอาไว้หนาวไม่ใช่หรือไง"
เขาพูดเรียบๆ แต่แววตามองตรง รู้ว่าเธอกำลังลำบากจริงๆ
เธอกอดเสื้อฮู้ดไว้แน่น ทั้งที่มันก็เปียกไม่ต่างกัน แต่กลับรู้สึกอบอุ่นในใจอย่างบอกไม่ถูก
"เดี๋ยวฉันไปส่ง"
"ไปยังไงคะ?"
"เดินไงบ้านอยู่ใกล้ไม่ใช่หรอ"
"แต่เดี๋ยวรุ่นพี่ก็ต้องเดินกลับมาอีก เอมเดินกลับเองดีกว่าค่ะ"
"อย่าดื้อ"
เขาไม่รอฟังคำปฏิเสธ ร่างสูงใหญ่เดินนำออกไปกลางสายฝน เธอเลยไม่มีทางเลือกนอกจากเดินตาม ทั้งสองคนไม่มีร่ม ไม่มีเสื้อกันฝน มีแค่เสื้อฮู้ดที่เธอสวม กับความเงียบที่แทรกเสียงฝนระหว่างทาง
ตัดภาพไปที่หน้าบ้านชะเอม
ทั้งสองคนเปียกชุ่มจนเสื้อแนบไปกับผิวทุกส่วน เขายืนอยู่หน้าบ้านเธอ ผมเปียกยุ่งเล็กน้อย แต่ยังดูสงบนิ่งเหมือนเดิม
"เข้าบ้านก่อนมั้ยคะ เดี๋ยวเอมเอาผ้าขนหนูให้เช็ดตัวก่อนก็ได้ เสื้อผ้าก็มีให้เปลี่ยนนะคะ ไม่ต้องกลัวที่บ้านพ่อกับแม่เอมอยู่ เราไม่ได้อยู่สองต่อสองหรอก" เธอพูดเสียงอ่อยเพราะรู้สึกผิด
"ไม่เป็นไร ฉันจะกลับแล้ว"
"ถ้างั้นเสื้อตัวนี้ เดี๋ยวเอมซักให้แล้วเอาไปคืนรุ่นพี่นะคะ”
เธอพูดพร้อมกอดเสื้อไว้แน่น รู้สึกแปลกๆ กับความอบอุ่นที่ยังคงอยู่จากคนให้ เธอเงยหน้ามองเขา แล้วเผลอมองเลยไปที่ต้นแขนที่โผล่พ้นแขนเสื้อออกมา มัดกล้ามเป็นเส้นชัดแน่น ผิวขาวสะอาด
เขาใส่เสื้อกล้ามสีดำตัวบาง เห็นได้ชัดเจนว่าหุ่นเขาดีกว่าที่เธอคิดไว้มาก ไม่เคยเห็นมาก่อนเพราะเขาใส่แต่เสื้อฮู้ดตัวโตบังตลอด
เธอกะพริบตาถี่ๆ พยายามละสายตา แต่ใบหน้ากลับร้อนวูบวาบไปหมด ในใจก็คิดว่าถ้าได้กอดแขนล่ำๆ นั่นมันจะรู้สึกฟินขนาดไหน เพราะแค่คิดในใจมันก็ยังตื่นเต้นขนาดนี้แล้วเลย
"มองอะไรของเธอ" เขาเลิกคิ้วเล็กน้อยเหมือนจับได้ ว่าเธอกำลังจ้องมองอยู่
"เอ่อ...ปะ เปล่าค่ะ"
"ทำไมไม่เข้าบ้าน"
"อ๋อ รุ่นพี่ก็เดินกลับก่อนสิคะ"
"....."
"เสื้อตัวนี้ใส่ถังปั่นได้ใช่ไหมคะ หรือว่าต้องขยี้มือ"
"ซักได้ แต่อย่าเอาไปซักแล้วหดก็พอ"
เขาพูดแค่นั้นก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป ส่วนชะเอมก็ได้แต่ยืนมอง หัวใจของเธอมันรู้สึกจั๊กจี้บอกไม่ถูก เพราะทุกครั้งที่เธอลำบากหรือมีปัญหา มักจะมีเขาที่บังเอิญเข้ามาตลอดเลย หรือเขาตั้งใจก็ไม่รู้สิ
ปากบอกรำคาญไม่ชอบ เธอวุ่นวายจุ้นจ้าน ไล่ให้ไปไกลๆ แต่กลับยกเสื้อฮู้ดแสนหวงที่เขาใส่ตลอดเวลาทุกครั้งที่มามหาวิทยาลัย ให้เธอใส่ง่ายดายซะงั้น
#ช่วงบ่ายๆ ของวันศุกร์ ทั้งสองจะต้องเดินทางกันในวันศุกร์ เพื่อที่จะได้ไปร่วมกิจกรรมในเช้าวันเสาร์และวันอาทิตย์ การเดินทางก็ไม่ได้ใช้เวลาอะไรมากมายแต่ทว่าก็มาถึงกันจนเย็นอยู่ดี"สวัสดีครับอาจารย์""สวัสดีค่ะอาจารย์"ไทเธย์กับชะเอมเข้ามาทักทายประธานชมรมและกลุ่มอาจารย์ที่มาร่วมชมรมนี้ด้วย แต่ชมรมของไทเธย์ไม่ได้มีอาจารย์มาด้วยเพราะเป็นเพียงชมรมเล็กๆ และก็ประสงค์จะมาดูงานเองไม่เกี่ยวกับทางมหาวิทยาลัย"ขึ้นพักกันเถอะ""เราจะพักกันที่นี่หรอคะ""ใช่ กิจกรรมมันอยู่ที่นี่ก็พักมันซะที่นี่แหละ""อ๋อ..."ไทเธย์พารุ่นน้องไปที่หน้าเคาน์เตอร์ก่อนจะบอกรายละเอียดต่างๆ ที่ได้ทำการจองเอาไว้ล่วงหน้ากับพนักงานแต่ทว่ากลับมีบางอย่างที่ชะเอมได้ยินแล้วถึงกับหูผึ่งในทันที"ห๊ะ! ห้องเดียว?""จะเสียงดังเพื่อ?""แต่รุ่นพี่ไม่ได้บอกนี่คะ ว่าเราจะพักห้องเดียวกัน""ตอนแรกฉันจองไว้แบบนี้ไง" ก่อนที่จะมาเขาได้จัดการอะไรๆ ไว้เรียบร้อยหมดแล้ว จะมาเปลี่ยนเอากระทันหันมันก็ไม่ทันหรอก จะยกเลิกโรงแรมนี้แล้วไปหาโรงแรมอื่นพักก็เสียเวลาแถมเสียเงินเพิ่มด้วย"ยะ แยกไม่ได้หรอ" พูดเสียงอ้อนๆ แต่ก็แผ่วเบามาก"ต้องขออภัยด้วยนะคะ ทางห
ในบ่ายวันหนึ่ง ณ ชมรมหุ่นยนต์ครืด~ ( ข้อความใหม่เข้า )ไทเธย์กำลังนั่งอ่านข้อความที่ถูกส่งเข้ามาในโทรศัพท์มือถือ เขาขมวดคิ้วย่นเหมือนกำลังคิดหนักเอามากๆ ราวกับว่าในนั้นมีเรื่องคอขาดบาดตายTon : ขอโทษว่ะ แม่กูเข้าโรงพยาบาลด่วน ไม่มีใครเฝ้าด้วยกูก็เลยต้องอยู่เฝ้า เรื่องกิจกรรมชมรมมึงช่วยหาคนอื่นไปแทนกูก่อนนะ ขอโทษจริงๆ ว่ะ แต่มันกระทันหันจริงๆ Thaithey : ไม่เป็นไร ขอให้แม่มึงหายไวๆ นะ มีอะไรให้ช่วยก็บอก เรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นหรอก ไทเธย์ไม่ได้ว่าอะไรเพื่อนสนิทเลย เพราะมันก็ฉุกละหุกกระทันหันจริงๆ บวกกับพอจะรู้เรื่องเพื่อนสนิทคนนี้มาอยู่บ้าง ว่าแม่ของเพื่อนคนนี้นั้นเจ็บออดๆ แอดๆ เข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น เคยแว๊บไปเยี่ยมอยู่ 2-3 ครั้งเหมือนกัน ถึงได้เข้าใจแต่ที่หนักใจอยู่ตอนนี้คือ เขาจะหาใครไปแทนได้ เพราะตอนที่ดีลกับทางปลายทางเอาไว้คือจะไปกันสองคน และทางนั้นก็เตรียมทุกอย่างรอเอาไว้เรียบร้อยหมดแล้วด้วย"เสร็จแล้วค่ะรุ่นพี่ไท ช่วยดูหน่อยพอได้ไหม" ชะเอมยื่นเอกสารไปตรงหน้าของรุ่นพี่ไทเธย์ เพราะเพิ่งเข้ามาชมรมใหม่ๆ หน้าที่ของเธอก็เลยไม่ได้มีอะไรมาก นอกจากคอยจดหลักสูตรและเอา
@คณะวิศวะกรรม หลังเลิกเรียนชะเอมกำลังจะเดินกลับบ้านตามปกติ ทว่าก้าวยังไม่พ้นบันได เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ทำให้เธอและกลุ่มเพื่อนต้องชะงักในทันที"เสื้อสวยดีนะ""???""ตั้งใจลงรูปแบบนั้นให้ใครดูล่ะ?"เสียงที่ฟังดูเหมือนกำลังยิ้ม แต่เป็นการประชดประชันมากกว่า ดูก็รู้ว่ามาดักรอแบบนี้กำลังหาเรื่องกันเรื่องอยู่ชะเอมหันไปพร้อมกับถอนหายใจ เห็นรุ่นพี่เมษายืนพิงราวบันไดอยู่กับกลุ่มเพื่อนกลุ่มเดิม แขนกอดอกมองด้วยสายตาที่เย็นเฉียบ"ก็ไม่ได้ตั้งใจให้ใครดูค่ะ แค่ลงรูปเฉยๆ เหมือนปกติ" เธอตอบนิ่งๆ"แค่ลงเฉยๆ? แน่ใจเหรอว่าไม่จงใจ" พี่เมษาเลิกคิ้ว พลางเดินเข้ามาใกล้ขึ้นทีละก้าวเหมือนกำลังหาเรื่อง"....." ชะเอมยืนนิ่ง เธอไม่ได้ถอยหนี และก็ไม่ได้กลัวด้วย"หลังจากที่ฉันเตือนเธอไปแล้ว ว่าอย่ามายุ่งกับไทอีก ทำไมเธอถึงไม่ฟัง?"ชะเอมเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ "รุ่นพี่ไทไม่ใช่ของใคร เขายังไม่มีแฟนนะคะ ถ้าพี่กำลังชอบตามจีบอยู่เหมือนกัน เราก็อยู่ในสถานะเดียวกัน เพราะฉะนั้น...ให้ผู้ชายเขาตัดสินเถอะค่ะ ว่าชอบใคร""เขาก็ต้องชอบฉันอยู่แล้ว" พูดด้วยความมั่นใจ"เหรอคะ แต่รุ่นพี่ก็อยู่มาตั้งนานแล
ตกค่ำที่บ้านของชะเอม หลังจากที่ทำอะไรๆ เสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว ชะเอมก็กลับขึ้นมาบนห้องนอนของตัวเองพร้อมกับเสื้อฮู้ดของรุ่นพี่ที่เพิ่งจะซักเสร็จ เธอตั้งใจซักมากยิ่งกว่าเสื้อผ้าของตัวเองที่โยนลงถังแล้วปล่อยให้เครื่องมันปั่นเองซะอีก จากนั้นก็เพิ่มความละมุนด้วยน้ำยาปรับผ้านุ่มกลิ่นโปรดของเธอ เหมือนจะเป็นน้ำหอมประจำตัวของเธอด้วยซ้ำ เพราะเธอไม่ได้ฉีดน้ำหอม กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่โชยมาจากตัวเธอก็เป็นกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มเนี่ยแหละคนตัวเล็กหยิบเสื้อตัวใหญ่มาสวมอีกครั้ง เสื้อฮู้ดของรุ่นพี่ไทเธย์ พรุ่งนี้เธอจะเอาไปคืนเขา แต่วันนี้ขอได้สัมผัสการสวมใส่อีกครั้งเถอะ เพราะก่อนหน้านั้นมันเปียกไปหมดเลยแต่จะว่าไปเสื้อตัวนี้มันใหญ่เกินไปสำหรับเธอมาก แขนยาวคลุมเลยมือไปครึ่งหนึ่ง แต่กลับรู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด เหมือนยังมีกลิ่นของเจ้าของติดอยู่เลยเธอหมุนตัวไปมาเบาๆ ส่องกระจกแล้วยิ้มกับเงาตัวเองที่ได้ใส่เสื้อของรุ่นพี่ มันรู้สึกดีจนพูดไม่ถูกเลยขณะที่กำลังมีความสุขอยู่นั้น ก็ดันนึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้ เธอจำคำพูดของรุ่นพี่ผู้หญิงได้ และก็เจ็บใจมากด้วย แค่ตอนนั้นไม่ได้ตอบโต้เท่านั้นเอง"หึ! เป็นของตัวเองงั้นหรอ
#เช้าวันรุ่งขึ้น ชะเอมตื่นแต่เช้าเช่นเคย เธอรีบเอาเสื้อที่แขวนไว้ตรงหน้าต่างออกไปซักแล้วตากแดดแต่เช้า เพราะวันนี้อากาศปลอดโปร่งมากไม่มีเค้าฝนเลยสักนิด เหมือนที่เขาพูดกันว่า ต่อให้ฝนจะตกหนักแค่ไหนแต่สุดท้าย 'ฟ้าหลังฝนมักสวยงามเสมอ'เสื้อของรุ่นพี่ไทเธย์ที่เธอซักแล้วตากไว้ให้ คงได้คืนให้พรุ่งนี้เพราะเพิ่งจะได้ซัก ถึงยังไงก็ได้เจอกันที่มหาลัยทุกวันอยู่แล้ว"กินข้าวอิ่มแล้วเหรอลูก" แม่ถามขึ้นเมื่อเห็นลูกสาววางช้อนลง เธอดูกินน้อยกว่าปกติ จนอดถามไม่ได้"ค่ะแม่""จะรีบไปไหนแต่เช้า" ผู้เป็นพ่อเอ่ยถาม"ไม่ได้ไปไหนค่ะ ก็ไปเรียนตามเวลาปกติแหละ แค่ไม่ค่อยหิวเฉยๆ" เธอตอบ"ไม่สบายหรือเปล่าลูก""ก็ปกตินะคะ แค่ไม่ค่อยหิวแค่นั้นเอง"ไม่สบายเหรอ? ไม่นะเพราะเธอไม่ได้รู้สึกแย่อะไรเลย ก็รู้สึกปกติเหมือนเดิม เหมือนทุกเช้าที่เธอตื่นขึ้นมา"ถ้ารู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว ก็อยู่บ้านสักวัน ไลน์ไปลาอาจารย์เอาไว้ คนไม่สบายไปเรียนไม่ได้อาจารย์คงไม่ว่าหรอกมั้ง""อาจารย์ไม่ว่าหรอกค่ะ จะเข้าเรียนหรือไม่เข้าเรียนก็แล้วแต่ ขอแค่มีงานส่งก็พอ""เราก็อย่าทำแบบนั้นเชียวนะ" ผู้เป็นพ่อพูดเสียงเข้มเหมือนดุ"เอมไม่ใช่คนแบบนั้นส
กึก ~เสียงประตูบ้านปิดลงพร้อมกับเสียงฝนเบาลงจากด้านนอก ชะเอมเดินตัวเปียกเข้าไปในบ้าน ถือเสื้อฮู้ดไว้แนบอกอย่างระมัดระวัง ทั้งกลัวลื่น กลัวทำบ้านเลอะด้วย เพราะคนที่ทำความสะอาดก็คือแม่ของเธอ"กลับมาจนได้นะลูก" เสียงผู้เป็นแม่ดังมาจากห้องนั่งเล่น ก่อนเจ้าตัวจะเดินออกมาพร้อมผ้าขนหนู"แหะๆ เอมเปียกหมดเลยค่ะ" เธอได้แต่ยิ้มแห้งๆ ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน สภาพตอนนี้ก็เปียกฉ่ำไปหมดเลย ดีนะที่ไม่ถูกรถเหยียบน้ำฝนที่ขังอยู่ตามพื้นถนนแล้วกระเด็นเข้าใส่ ไม่งั้นงานหนักตกไปที่แม่ของเธอแน่ๆ"แม่โทรหาตั้งหลายรอบ ทำไมไม่รับ? จะให้พ่อเอาร่มออกไปรอรับที่มหาลัย จะได้กางร่มกลับ""ขอโทษค่ะ มือเปียกหมดเลย เอมเลยไม่ได้หยิบโทรศัพท์ดู กลัวมันเปียกด้วย" ชะเอมตอบเสียงอ่อย ก่อนจะยื่นมือไปรับผ้าแล้วเช็ดหัวเช็ดหน้าให้แห้ง"เอาผ้ามาแม่จะเอาไปผึ่งให้ จะได้เอาไว้ซัก""เอ่อ เสื้อตัวนี้เดี๋ยวเอมซักเองค่ะ มัน...มันค่อนข้างสำคัญ""หืม...""มะ ไม่มีอะไรค่ะ พอดีต้องเอาซักแล้วไปคืนเขา"ผู้เป็นแม่มองแล้วยิ้มกริ่มเหมือนจะคาดเดาสายตาของลูกสาวออก ก็เลยไม่ได้ซักไซ้ถามอะไรมากมาย คงจะเป็นเสื้อของใครสักคนที่มีความสำคัญกับหัวใจดวงน้อย