#เวลาผ่านไป
วันนี้ฝนเริ่มตั้งเค้าตั้งแต่ตอนเลิกคลาสเรียน แต่ชะเอมยังยืนยันจะกลับบ้าน เพราะคิดว่าคงตกแป๊บเดียวเดี๋ยวก็หยุด เธอวิ่งออกมาเพื่อจะไปที่หน้ามหาวิทยาลัย มือยกกระเป๋าสะพายแนบกับศีรษะเพื่อกันฝน แต่ลมแรงสาดเม็ดฝนเข้ามาที่ตัวของเธอขณะที่เธอกำลังวิ่ง จะถอยหลังกลับหรือจะวิ่งไปต่อ สุดท้ายมันก็มีจุดจบเหมือนกัน เพราะตัวเธอเปียกไปหมดแล้ว
จนกระทั่งวิ่งมาถึงป้ายรอรถหน้ามหาวิทยาลัย ถึงจะมีหลังคากันแดดกันฝนแต่มันก็ยังสาดเข้ามารอบด้านอยู่ดี
ซ่า ~ ครืน !! ⛈️
ทั้งฟ้าทั้งฝนมันแรงไปหมด จากที่ตอนแรกไม่ได้คิดเอาไว้เลย ว่ามันจะตกหนักขนาดนี้ เค้าฝนก็ดูไม่รุนแรงอะไรขนาดนั้นด้วย
"บ้าเอ๊ย..." เธอบ่นพึมพำ พร้อมกับพยายามเบี่ยงตัวหลบใต้กันสาดเล็กๆ ที่ดูเหมือนจะไม่ช่วยอะไรเลย เสื้อเปียกแนบลำตัวจนรู้สึกเย็นวาบไปถึงผิวข้างใน บวกกับมีลมหอบมาอีกระลอกอย่างกับยืนอยู่ในตู้เย็นยังไงยังงั้น เธอหนาวจนยืนตัวสั่นไปหมด
ชะเอมก้มลงมองตัวเอง รู้ทันทีว่า ณ เวลานี้มันแย่มากๆ ชุดนักศึกษาสีขาวเปียกจนมองทะลุเห็นบราเซียด้านในอย่างชัดเจน เพราะด้านในเธอใส่แค่บราตัวเดียว พอฝนตกเสื้อเปียกเสื้อนักศึกษาเจ้ากรรมก็ดันแนบเนื้อติดกับตัวของเธอแถมยังใสจนมองเห็นทะลุข้างในอีก
เธอเอากระเป๋าที่เปียกมาปิดตรงหน้าอกของตัวเองให้ได้มากที่สุดเพื่อหลบสายตาใครต่อใครที่ยืนหลบฝนอยู่ตรงนี้ด้วยกัน จังหวะนั้นเสียงฝีเท้าหนักๆ ดังขึ้นจากด้านหลัง
"อยู่นิ่งๆ !"
เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยดังขึ้น ก่อนจะมีเสื้อฮู้ดสีเทาดูหนาและใหญ่ถูกโยนคลุมมาที่ไหล่ของเธอ ร่างบางชะงักเหลียวหลังเงยหน้ามองขึ้นอย่างตกใจ รุ่นพี่ไทเธย์ยืนอยู่ข้างหลังของเธอ และเป็นเจ้าของเสื้อฮู้ดที่โยนมาใส่เธอก่อนหน้านี้ สภาพของเขาก็เปียกปอนไม่ต่างจากเธอเลย
"พะ...พี่ไทเธย์?"
"ฝนตกขนาดนี้ทำไมรีบวิ่งออกมา?"
"ก็คิดว่ามันจะตกแป๊บเดียว แล้วก็ไม่หนักค่ะ" เธอบอกตามความจริง กะว่าจะใช้ความสามารถอดีตนักกรีฑาในสมัยเด็กวิ่งกลับบ้าน แต่ตอนนี้ต่อให้จะเป็นนักกรีฑาระดับโลกก็ไม่น่าไหว
"เอาเสื้อใส่คลุมเอาไว้"
"ค่ะ" รีบเอาเสื้อของเขาสวมเข้ากับตัวเอง เวลาอยู่บนตัวของรุ่นพี่ทำไมถึงตัวพอดี แต่พออยู่บนตัวของเธอมันใหญ่จนคลุมก้นของเธอลงไปเลย
"คราวหน้าก็หัดหาอะไรสวมทับมาบ้าง คนอื่นเขาเห็นหมดแล้ว" ไม่ใช่แค่คนอื่นหรอก ตัวเขาเองก็เห็นแล้วเหมือนกัน แต่คนที่อยู่ตรงนี้ก่อนหน้าคงเห็นมากกว่า
ตอนที่วิ่งมาแล้วเห็นหน้าอกของเธอที่ถูกห่อด้วยบราเซียจนกลมเป็นก้อนราวกับซาลาเปา เล่นเอาหัวใจของเขาเต้นตุบตับไม่เป็นจังหวะเลย
"ก็ใครจะไปคิดว่าฝนจะตกล่ะคะ"
"สภาพนี้คงไม่หยุดตกง่ายๆ แน่"
"น่าจะอย่างนั้น"
"จะให้ยืนอยู่เป็นเพื่อนไหม?"
"ก็ถ้ารุ่นพี่ยังนึกสงสารก็...ช่วยอยู่เป็นเพื่อนหน่อยค่ะ"
"เพื่อนเธอหายไปไหนกันหมด"
"เลิกเรียนแล้วก็แยกย้ายสิคะ"
ทั้งสองยืนอยู่ด้วยกันจนกระทั่งค่ำ คนที่ยืนอยู่ด้วยกันก็เริ่มทยอยกลับเพราะมีคนมารับ สุดท้ายก็เหลือแค่สองคนที่ยืนอยู่ด้วยกัน ท่ามกลางด้านนอกที่ฝนเริ่มซาลงแล้ว
"ฝนซาแล้ว"
"กลับกันเถอะค่ะ ไหนๆ ก็เปียกแล้ว กลับสภาพนี้คงไม่เป็นไร"
"อือ..."
"เสื้อของพี่..."
"ใส่เอาไว้ก่อน ฉันไม่อยากเห็นภาพบาดลูกตา"
"ทำเป็นพูด ทำไมคะเห็นหน้าอกผู้หญิงแล้วผื่นมันจะขึ้นหรือไง?"
"เธอนี่ทำไมชอบพูดแบบนี้ เป็นผู้หญิงซะเปล่า ไม่รู้จักระมัดระวังตัวเลย"
"....." เธอถูกบ่น เหมือนกับพ่อที่กำลังบ่นลูกเลย ทั้งที่พ่อของเธอยังไม่เคยบ่นอะไรขนาดนี้
"ใส่เอาไว้หนาวไม่ใช่หรือไง"
เขาพูดเรียบๆ แต่แววตามองตรง รู้ว่าเธอกำลังลำบากจริงๆ
เธอกอดเสื้อฮู้ดไว้แน่น ทั้งที่มันก็เปียกไม่ต่างกัน แต่กลับรู้สึกอบอุ่นในใจอย่างบอกไม่ถูก
"เดี๋ยวฉันไปส่ง"
"ไปยังไงคะ?"
"เดินไงบ้านอยู่ใกล้ไม่ใช่หรอ"
"แต่เดี๋ยวรุ่นพี่ก็ต้องเดินกลับมาอีก เอมเดินกลับเองดีกว่าค่ะ"
"อย่าดื้อ"
เขาไม่รอฟังคำปฏิเสธ ร่างสูงใหญ่เดินนำออกไปกลางสายฝน เธอเลยไม่มีทางเลือกนอกจากเดินตาม ทั้งสองคนไม่มีร่ม ไม่มีเสื้อกันฝน มีแค่เสื้อฮู้ดที่เธอสวม กับความเงียบที่แทรกเสียงฝนระหว่างทาง
ตัดภาพไปที่หน้าบ้านชะเอม
ทั้งสองคนเปียกชุ่มจนเสื้อแนบไปกับผิวทุกส่วน เขายืนอยู่หน้าบ้านเธอ ผมเปียกยุ่งเล็กน้อย แต่ยังดูสงบนิ่งเหมือนเดิม
"เข้าบ้านก่อนมั้ยคะ เดี๋ยวเอมเอาผ้าขนหนูให้เช็ดตัวก่อนก็ได้ เสื้อผ้าก็มีให้เปลี่ยนนะคะ ไม่ต้องกลัวที่บ้านพ่อกับแม่เอมอยู่ เราไม่ได้อยู่สองต่อสองหรอก" เธอพูดเสียงอ่อยเพราะรู้สึกผิด
"ไม่เป็นไร ฉันจะกลับแล้ว"
"ถ้างั้นเสื้อตัวนี้ เดี๋ยวเอมซักให้แล้วเอาไปคืนรุ่นพี่นะคะ”
เธอพูดพร้อมกอดเสื้อไว้แน่น รู้สึกแปลกๆ กับความอบอุ่นที่ยังคงอยู่จากคนให้ เธอเงยหน้ามองเขา แล้วเผลอมองเลยไปที่ต้นแขนที่โผล่พ้นแขนเสื้อออกมา มัดกล้ามเป็นเส้นชัดแน่น ผิวขาวสะอาด
เขาใส่เสื้อกล้ามสีดำตัวบาง เห็นได้ชัดเจนว่าหุ่นเขาดีกว่าที่เธอคิดไว้มาก ไม่เคยเห็นมาก่อนเพราะเขาใส่แต่เสื้อฮู้ดตัวโตบังตลอด
เธอกะพริบตาถี่ๆ พยายามละสายตา แต่ใบหน้ากลับร้อนวูบวาบไปหมด ในใจก็คิดว่าถ้าได้กอดแขนล่ำๆ นั่นมันจะรู้สึกฟินขนาดไหน เพราะแค่คิดในใจมันก็ยังตื่นเต้นขนาดนี้แล้วเลย
"มองอะไรของเธอ" เขาเลิกคิ้วเล็กน้อยเหมือนจับได้ ว่าเธอกำลังจ้องมองอยู่
"เอ่อ...ปะ เปล่าค่ะ"
"ทำไมไม่เข้าบ้าน"
"อ๋อ รุ่นพี่ก็เดินกลับก่อนสิคะ"
"....."
"เสื้อตัวนี้ใส่ถังปั่นได้ใช่ไหมคะ หรือว่าต้องขยี้มือ"
"ซักได้ แต่อย่าเอาไปซักแล้วหดก็พอ"
เขาพูดแค่นั้นก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป ส่วนชะเอมก็ได้แต่ยืนมอง หัวใจของเธอมันรู้สึกจั๊กจี้บอกไม่ถูก เพราะทุกครั้งที่เธอลำบากหรือมีปัญหา มักจะมีเขาที่บังเอิญเข้ามาตลอดเลย หรือเขาตั้งใจก็ไม่รู้สิ
ปากบอกรำคาญไม่ชอบ เธอวุ่นวายจุ้นจ้าน ไล่ให้ไปไกลๆ แต่กลับยกเสื้อฮู้ดแสนหวงที่เขาใส่ตลอดเวลาทุกครั้งที่มามหาวิทยาลัย ให้เธอใส่ง่ายดายซะงั้น
ณ ที่ดินทางภาคเหนือ สายลมอ่อนๆ พัดมาพร้อมกับกลิ่นหอมๆ ของธรรมชาติ มันเป็นกลิ่นที่เธออธิบายไม่ถูกเลย แต่มันดีมาก สดชื่นและทำให้รู้สึกโล่งสบายปอดแบบที่สุดเลย เพราะที่นี่กำลังอยู่ในช่วงก่อสร้าง ทั้งสองเลยต้องแวะเวียนมาดูอยู่บ่อยๆ อีกไม่นานบ้านหลังแรกของทั้งสองก็จะได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ช่วงเวลาหนึ่งถ้าได้มีลูกกันและลูกได้เติบโตขึ้น คนเป็นพ่อแม่ก็คงได้ย้ายกลับมาอยู่ที่นี่ ใช้ชีวิตช่วงบั้นปลายชีวิตอยู่ด้วยกัน "พี่ไทคะ.." "หืม?" เขาเดินเข้ามาหา "พี่คิดว่า บ้านของเราจะเป็นยังไงคะ" "ก็คงสวย น่าอยู่มากเลยแหละ" "เอมอยากเห็นเร็วๆ จัง""เราน่ะ เก่งมากเลยนะ รู้ไหม" คำชมเรียบๆ จากเสียงทุ้มต่ำอาจฟังดูธรรมดาสำหรับใครหลายคน แต่ชะเอมรู้ดี ว่ามันเต็มไปด้วยความภูมิใจที่เขาไม่ค่อยจะแสดงออกมาให้เห็น เธอทำงานตำแหน่งการออกแบบในบริษัท นี่เป็นครั้งแรกที่เธอออกแบบบ้านให้กับตัวเอง และสร้างมันขึ้นมาจริงๆ ตามแบบที่ตัวเองคิดขึ้นมา "มันเป็นความฝันของเอมเลยนะ ก่อนจะได้ออกมาเป็นแม่บ้านเต็มตัว ขอใช้ความสามารถของตัวเองหน่อยก็แล้วกัน" "เก่งมาก" "ตอนเด็กๆ เคยคิดว่า สักวันจะออกแบบบ้านให้กับตัวเอง ให้กับพ่อแม่ เ
#หลายเดือนต่อมา ช่วงชีวิตหลังแต่งงาน ชะเอมย้ายมาอยู่ที่คอนโดของไทเธย์อย่างเต็มตัว และออกไปทำงานพร้อมกับเขาในตอนเช้าของทุกวัน แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังทำงานอยู่ตำแหน่งเดิม และรับเงินเดือนเหมือนเดิม ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากกว่านั้น บางวันหลังเลิกงานที่บริษัทเขาก็จะต้องไปทำงานต่อที่คลับอีก ดูวุ่นวายไม่ใช่น้อยเลย เมื่อก่อนเธอไม่ได้อยู่ใกล้กับเขาก็เลยไม่รู้ว่าเขาต้องทำอะไรบ้าง แต่พอได้มาอยู่กับเขามีเวลาอยู่ด้วยกันแทบจะ 24 ชั่วโมง เธอถึงได้รู้ว่าเขาแทบจะไม่มีเวลาว่างเลย วันหนึ่งหลังเลิกงานไทเธย์ขับรถมาส่งภรรยาที่คอนโด ก่อนที่เขาจะออกไปทำงานที่คลับต่อ ซึ่งเขาก็บอกว่าไปจัดการธุระแค่พักเดียว เดี๋ยวค่ำๆ ก็จะกลับมากินข้าวตอนเย็นกับเธอเช่นเคย ติ๊ด ~ แกร๊ก ~ ชะเอมได้ยินเสียงปลดล็อคประตูพร้อมกับเสียงเปิดประตูเข้ามา เธอรู้ว่าเป็นใครก็เลยไม่ได้ออกไปดู เพราะมีแค่เธอกับเขาที่รู้รหัสและมีคีย์การ์ดของคอนโด "ฟอด!" "อ๊ะ! ตกใจหมดเลย เข้ามาทำอะไรคะ?" เธอรู้ว่าเขากลับเข้ามาแล้ว แต่เธอไม่คิดว่าเขาจะเดินเข้ามาในนี้ และก็ไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้จนเธอตกใจ "เข้ามาหอมแก้มไง" "เดี๋ยวเสื้อเหม็นนะคะ ออกไปข้างน
#ผ่านมาอีกหนึ่งปี วันเกิดของชะเอม ช่วงเวลามันผ่านไปเร็วมากๆ เลย ราวกับว่าเราแค่หลับตาลืมตาขึ้นมาอีกทีก็ผ่านไปหนึ่งปีแล้ว เวลาเปลี่ยนแปลงไปทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน แต่สิ่งที่ยังอยู่คงเดิมก็คือความรักที่ทั้งสองมีให้กันไม่เคยลดน้อยลงหรือเปลี่ยนแปลงไปเลย วันเกิดปีนี้ไม่เหมือนกับปีอื่นๆ เพราะไม่ได้จัดใหญ่โตเหมือนเช่นเคย เพื่อนๆ บางคนก็ติดงานมาอวยพรวันเกิดต่อหน้าไม่ได้ ชะเอมก็เลยไม่ได้จัดงานอะไร เพราะเกรงใจเพื่อนๆ จะมีก็แต่เป่าเค้กและจัดปาร์ตี้เล็กๆ ในครอบครัวที่มีกันอยู่สี่คน ส่วนเพื่อนๆ ต่างก็ได้แค่อวยพรผ่านหน้าจอ และจะส่งของขวัญวันเกิดตามให้ทีหลังอีกที "ลูกสาวแม่ โตขึ้นอีกปีแล้วสินะ เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว แม่ขอให้ลูกมีความสุขมากๆ คิดสิ่งใดก็ขอให้สมปรารถนา อย่าเจ็บอย่าจน สุขภาพร่างกายแข็งแรงนะลูก""ขอบคุณค่ะแม่" "พ่อเองก็ขออวยพรวันเกิดให้เรามีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยๆ แต่อย่าเพิ่งมีหลาน แต่งงานก่อน.." พูดจบก็มองค้อนไปที่ไทเธย์ ที่กำลังเตรียมจะอวยพรวันเกิดเป็นคนต่อไป "พ่อ..." "มานี่เลย! แกก็ชอบขัดลูกจริง เดี๋ยวก็เพี๊ยะเขาให้เลย!" แม่ของชะเอมทำท่าจะตีพ่อ อย
ไทเธย์ Talk หลังจากที่กลับจากที่เราเที่ยวที่ไร่องุ่นของสามแฝด เราสองคนก็กลับมาทำงานเช่นเคย ชะเอมได้เข้าทำงานอยู่ที่บริษัทของผมด้วยความสามารถของเธอเอง เธอจึงได้อยู่ในตำแหน่งออกแบบดีไซน์ตามที่เธอต้องการ ซึ่งผมก็ไม่ได้ช่วยอะไรเธอเลย เพราะเธอชอบบอกว่าผมใช้เส้นสายในการรับเธอเข้าทำงาน แต่ความเป็นจริงแล้วเธอเข้าทำงานได้ด้วยความสามารถของตัวเองต่างหากอันที่จริงก็อยากใช้ อยากทำให้เธอมาเป็นเลขาข้างกายเลยด้วยซ้ำ แต่ถ้าเป็นแบบนั้นเธอจะดูออกมากไป ทุกวันนี้ผมเลยทำได้เพียงแอบมองดูเธอผ่านกล้องวงจรปิด ดูเธอที่กำลังนั่งทำงานอย่างขะมักเขม้นทุกวัน ขยันแบบนี้มันน่าให้โบนัสซะจริงเลยตลอดระยะเวลาที่เราคบกันมาผมไม่รู้เลยว่าผมเปลี่ยนไปตั้งแต่ตอนไหน ผมเริ่มมีความสุขตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมเริ่มก้าวออกจากกรอบเล็กๆ ของตัวเองมานานแค่ไหนแล้ว กว่าจะรู้ตัวว่าตัวเองมีความเปลี่ยนแปลงก็ตอนที่เธอเริ่มทักว่าผมไม่เหมือนเดิม ไม่เหมือนคนเดิมที่เงียบ ไม่ค่อยคุยกับใคร ชอบอยู่กับตัวเองในมุมเล็กๆ ที่เป็นที่ปลอดภัยของผมชะเอมเธอทำให้โลกของผมค่อยๆ กว้างขึ้น ทำให้ผมรู้สึกว่าโลกกว้างใหญ่นี้มันก็ไม่ได้อันตรายหรือร้ายแรงไปซะหมดทุกอย่าง ม
ตกดึกของวันถัดมา ฟึ่บ ~"ทำไมออกมาแบบนี้ อากาศมันเย็นนะ เดี๋ยวก็ไม่สบายเอาหรอก" ไทเธย์เดินออกมาพร้อมกับผ้าห่มผืนหนา เมื่อมองออกมาเห็นชะเอมที่ใส่แค่เสื้อตัวใหญ่ของเขาออกมายืนอยู่ตรงหน้าระเบียงที่นี่อยู่บนเขามีอากาศหนาวเย็นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ประจวบเหมาะกับมีฝนโปรยปรายอยู่ตลอดช่วงเย็นอีก มันเลยทำให้อากาศค่อนข้างหนาวมากกว่าเดิม"เดี๋ยวก็กลับเข้าไปแล้วค่ะ""ชอบที่นี่หรือเปล่า""ชอบสิคะ อากาศดีมากเลย""พี่ก็ชอบเหมือนกัน อยากมาเที่ยวแบบนี้บ่อยๆ จังเลย""....." ชะเอมไม่ได้ตอบ เธอได้แต่ยิ้มอยู่อย่างนั้น ก่อนที่รอยยิ้มนั้นจะหายไปเมื่อแผ่นหลังของเธอนั้นสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่มันกำลังดันอยู่ รู้สึกได้เลยว่ามันเป็นแท่งยาวๆ และร้อนมากๆ ด้วย "พี่ไท!""หืม?""ไม่ได้ใส่กางเกงในหรอ?""ไม่ได้ใส่อะไรสักอย่าง" ยอมรับแบบหน้าซื่อๆ เลย"พี่นี่มันทุเรศจริงๆ เดี๋ยวใครก็มาเห็นหรอก เดินโป๊ออกมาได้ยังไงเนี่ย" เธอบ่นเขายกใหญ่"ไม่โป๊หรอก เห็นไหมว่าพี่เดินมาพร้อมกับผ้าห่ม""แล้วนี่มัน...""ครับ มันกำลังแข็ง กำลังได้ที่เลย" พูดแบบเสียงกระเส่าๆ ลมที่ออกมาจากปากมันกระทบใบหูของเธอ ร้อนวาบไปชั่วขณะ ตัดกับอากาศที่
#ไร่ตะวันภูเมฆ ( เป็นไร่ของสามแฝด ไทป์ ไทม์ ทรานส์ )"โห ที่นี่น่าอยู่จังเลยค่ะ" ชะเอมมองไปรอบๆ ด้วยความตื่นเต้นทันทีที่ลงจากรถ"มากันแล้วเหรอ" มีคนเดินเข้ามาทักแบบเงียบๆ จากทางด้านหลัง พอหันกลับไปมองก็เห็นเป็นเพื่อนแฝดของไทเธย์ แต่ชะเอมยังแยกไม่ได้ว่าคนไหนชื่ออะไร เพราะทั้งสามหน้าเหมือนกันมาก และก็เพิ่งเจอกันได้ครั้งเดียวเอง"อ้าว นายเองก็อยู่หรอ""ครับ""คุณลุงกับคุณป้าล่ะ อยู่หรือเปล่า?""ไม่อยู่ครับ ไปฮ่องกงครับ กว่าจะกลับก็คงเดือนหน้า""อ๋อ...""เข้ามากันก่อนสิครับ""ป้ะ เข้าไปนั่งข้างในกันก่อน" ไทเธย์หันไปบอกคนข้างๆ ก่อนที่ทั้งสองจะพากันเดินเข้าไปพร้อมกับเจ้าของบ้าน"แล้วนี่ไอ้สองตัวอยู่หรือเปล่า""อยู่ครับ อยู่กันครบเลย พ่อกับแม่สั่งให้เฝ้าไร่น่ะครับ ก็เลยต้องอยู่บ้าน""หึหึ ไม่อย่างนั้นพวกแกคงไม่อยู่สินะ""ครับ"เป็นการมาครั้งแรกของชะเอม และถูกตอนรับเป็นอย่างดีเลยด้วย อย่างกับลูกค้า VIP แน่ะ แต่เสียดายที่นี่เขาไม่ได้รับลูกค้า"โฮมสเตย์อยู่ฝั่งโน้นนะครับ เดี๋ยวผมให้คนขนของไปให้""ไม่เป็นไร เดี๋ยวขับรถไปจอดหน้าโฮมสเตย์ก็ได้""ตามสบายครับ""เรื่องอาหารไม่ต้องห่วงนะครับ เดี๋ยวผมให