เอิงเอย....
หลังจากที่ฉันกินเบียร์เพื่อให้ตัวเองมีความกล้ามากขึ้นฉันก็ค่อยๆเดินออกมาจากห้องนอนยัยเอมิที่ตอนนี้หลับไปแล้วแล้วเดินลงมาดูว่าอาบอมขึ้นมานอนหรือยังหรือว่าเขายังนั่งอยู่ข้างล่าง แต่ฉันคิดว่าเขาไม่น่าจะอยู่ข้างล่างแล้วล่ะเพราะไม่อย่างงั้นยัยเอมิจะเอาเบียร์ขึ้นมาได้ยังไงถ้าอาบอมยังนั่งอยู่มีหวังโดนด่าเปิงแน่ที่แอบเอาเบียร์ขึ้นมาดื่มบนห้อง ฉันก็เลยแอบย่องไปที่หน้าประตูห้องนอนของอาบอมแล้วเอาหูแนบกับประตูเพื่อฟังว่าเขาอยู่ในห้องหรือเปล่า แต่ก็เงียบเงียบแบบเงียบสนิทไม่มีเสียงอะไรเล็ดลอดออกมาเลย หรือว่าอาบอมยังอยู่ข้างล่างฉันก็เลยค่อยๆเดินย่องลงบันไดมาดูเพื่อความแน่ใจแต่ก็ไม่เห็นใครไฟก็ปิดมืดสนิทหมดแล้ว คาดว่าอาบอมน่าจะอยู่ในห้องนอนของเขานั่นแล่ะสงสัยบ้านนี้ห้องนอนจะเป็นห้องที่เก็บเสียงก็เลยทำให้ไม่ได้ยินอะไรเลย ฉันเดินกลับมาอยู่ตรงหน้าห้องอาบอมอีกครั้งจากนั้นก็เลยลองบิดลูกบิดประตูห้องนอนดูปรากฏว่าประตูห้องนอนของอาบอมไม่ได้ถูกล็อกฉันก็เลยถือวิสาสะเปิดเข้าไปแบบช้าๆค่อยๆเปิดเผื่อว่าคนข้างในจะหลับอยู่แต่ภายในห้องสว่างจ้าไม่ได้มืด ฉันสอดส่ายสายตามองหาว่าอาบอมอยู่ตรงส่วนไหนของห้องแต่ก็ไม่เจอ ฉันก็เลยตัดสินใจเดินเข้าไปแล้วก็จัดการปิดล็อกประตูห้องนอนอย่างแน่นหนา แล้วฉันจะล็อกประตูทำไมเนี่ยงงกับตัวเองจริงๆแต่ก็ช่างมันเถอะล็อกไว้ก่อนดีกว่าเผื่อว่า.....อร๊ายยแกคิดอะไรอยู่เนี่ยยัยเอิงถ้าแม่อัยวารู้โดนตีตูดลายแน่><
อยากจะบอกว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เข้ามาอยู่ในห้องนอนของอาบอมผู้ชายที่ฉันแอบหลงรักมานานฉันเดินสำรวจทุกอย่างภายในห้องทำให้รู้ว่าอาบอมชอบสีดำกับสีขาวเพราะทั้งห้องมีอยู่แค่สองสีนี้ ฉันเดินไปที่ชั้นวางของซึ่งเป็นกระจกขนาดใหญ่มีกรอบรูปวางเรียงรายอยู่เต็มแทบทั้งชั้นเป็นรูปของอาบอมตั้งแต่เด็กจนโต ฉันมองไปที่รูปที่อาบอมสวมชุดนักศึกษาคนอะไรหล่อเท่ห์เป็นบ้าเลยเมื่อก่อนหล่อยังไงตอนนี้ก็ยังหล่อเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนจนกระทั่งมาสะดุดตากับรูปๆหนึ่งเป็นรูปที่อาบอมอุ้มฉันกับพี่อันดาตอนที่พวกเรายังเด็กในภาพฉันกอดคออาบอมแล้วก็ซบไปที่ไหล่ส่วนพี่อันดายืนทำหน้านิ่งๆเหมือนถูกบังคับให้ถ่ายรูปฉันหยิบมาดูใกล้ๆแล้วก็ยิ้มกับตัวเองโดยไม่รู้ตัว ฉันชอบอาบอมตั้งแต่เด็กเลยเหรอเนี่ยโอ๊ยเขินตัวเองแก่แดดตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสอบขวบ><
"เราเข้ามาห้องอาทำไม" ฉันตกใจจนเกือบทำรูปหลุดมือฉันรีบกรอบรูปวางไว้ตามเดิมแล้วหันมาเผชิญหน้ากับอาบอมที่ตอนนี้...เอ่อตอนนี้เขาอยู่ในสภาพที่แบบว่า...เอ่อออ....เพิ่งออกมาจากห้องน้ำและคงจะเพิ่งอาบน้ำเสร็จเพราะมีเพียงผ้าเช็ดตัวที่พันรอบเอวตัวมีแต่หยดน้ำเกาะเต็มไปหมดเห็นแบบนี้แล้วใจฉันเต้นแรงมากเพราะไม่เคยเห็นอาบอมในสภาพนี้มาก่อนมันแบบว่า อร๊ายยยฉันไม่รู้จะทำยังไงแล้วตอนนี้ฉันหันซ้ายหันขวาแล้วคิดว่าจะจะวิ่งออกไปจากห้องหรือว่าอยู่ต่อดี
"ว่าไงอาถาม"
"เอ่อคือว่าน้องเอิง เอ่อคือ..."
"ออกไป"
"ไม่ไปค่ะ"
".........."
"อาบอมขาน้องเอิงรักอาบอมนะคะ" ฉันตัดสินใจสารภาพรักอาบอมไปตรงๆอย่างไม่อ้อมค้อม
"พูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่า" อาบอมย้อนถามฉันด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
"รู้สิคะไม่รู้จะพูดได้ยังไง><"
"อาว่าเราน่าจะเมา กลับห้องเอมิได้ละอาง่วงจะนอน" อาบอมรู้ได้ไงว่าฉันเมาหรือเขาได้กลิ่น
"อารู้ได้ไงว่าน้องเอิงเมา"
"กลิ่นเบียร์หึ่งขนาดนี้จะไม่รู้ได้ยังไง เอาล่ะเราออกไปได้ละอาจะได้นอน" ไล่ได้ไล่ดีแบบนี้ต้องแกล้งให้เข็ด
"ขอน้องเอิงนอนด้วยไม่ได้เหรอ" ฉันทำหน้าเว้าวอนขั้นสุด
"ไม่ดะ..."
"ห๊าววว ง่วงจังเดินกลับห้องไม่ไหวแน่" ตุ่บ!!!! เสียงล้มตัวลงบนที่นอน
ฉันไม่สนใจว่าอาบอมจะพูดอะไรหรือไล่ยังไงฉันเดินไปที่เตียงนอนขนาดใหญ่ที่อยู่กลางห้องแล้วก็ล้มตัวลงไปนอน เตียงนอนอาบอมโคตรนุ่ม
"น้องเอิงลุกออกไป" อาบอมเดินมาข้างเตียงแล้วดึงแขนฉันให้ลุกแต่ฉันไม่ยอมลุกมาถึงขั้นนี้แล้ว
"ไม่ลุกน้องเอิงจะนอนห้องนี้" ฉันสะบัดแขนออกแล้วเกลือกกลิ้งไปมาบนที่นอนอย่างมีความสุข
"โอเคไม่เป็นไรงั้นอาจะออกไปเอง" อาบอมยืนเท้าเอวจ้องหน้าฉันแล้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจก่อนจะหันหลัง แต่ก่อนที่อาบอมจะก้าวขาออกไปจากห้องฉันก็รีบลุกจากที่นอนแล้ววิ่งไปกอดอาบอมจากทางด้านหลัง
หมับ!!!!! เสียงกอด
"หื้ออออ ไม่เอาอาห้ามออกไปน้องเอิงไม่ให้อาบอมไป" ฉันเอาใบหน้าซบแผ่นหลังที่เย็นจัด
"เอิงปล่อยอาอย่าทำแบบนี้" อาบอมพยายามดันตัวฉันออกแต่ฉันเกาะแน่นยิ่งกว่าตุ๊กแก
"ทำแบบนี้คือแบบไหนเหรอคะ แบบนี้รึเปล่า" ฉันตัดสินใจเดินมายืนอยู่ตรงหน้าอาบอมแล้วทำให้สิ่งที่ไม่เคยมาก่อนในชีวิตนั่นก็คือการ....
จุ๊บ จ๊วบบบบบ ฉันเขย่งปลายเท้าแล้วโน้มคออาบอมลงมาก่อนจะจูบไปที่ริมฝีปากอาบอม แม่ขาน้องเอิงขอโทษที่ทำตัวไม่เป็นกุลสตรีแต่น้องเอิงรักอาบอมจริงๆ แม่อย่าว่าน้องเอิงนะคะแม่ ฉันพูดคนเดียวในใจเพราะก่อนมาแม่ขอร้องฉันว่าอย่าทำอะไรที่มันเกินงาม แม่รู้ได้ยังไงกันว่าฉันจะทำอะไร
จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ ฉันจูบสะเปะสะปะเพราะไม่เคยจูบกับใครมาก่อนอาบอมเป็นคนแรก
"หึ อ่อนหัดขนาดนี้ยังหล้าจะมาจูบ" อาบอมพูดก่อนที่ฉันจะต้องตาค้างเมื่ออาบอมจูบกลับด้วยความรุนแรง
"อื้ออออออ><" ฉันถูกอาบอมรุกจูบอย่างไม่ปรานีมันทั้งเร่าร้อนแล้วก็รุนแรงจนฉันที่เป็นคนจูบเขาก่อนทำอะไรไม่ถูก
"พอใจหรือยังพอใจแล้วก็ออกไปซะ" อาบอมผลักฉันออกแล้วก็ไล่ฉันอีก ฉันที่กำลังมึนงงกับตัวเองไม่รู้จะทำยังไงก็รีบวิ่งออกไปจากห้องด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย
บอม...."ฮึก ฮึก น้องเอิงคิดถึงอาบอมจังอยากกอดอาบอมมากๆเลย ฮือออ ฮือออ แต่ไม่เป็นไรค่ะน้องเอิงจะอดทน ฮึก ฮึก" พอได้ยินเสียงร้องไห้ของเอิงเอยใจผมมันก็ยิ่งสั่นจนทำอะไรไม่ถูก"พรุ่งนี้อาจะบินไปหานะครับคนดีไม่ร้องไห้นะ" ผมปลอบเอิงเอยที่ยังร้องไห้ไม่หยุด"แต่อาบอมต้องทำงานไม่ใช่เหรอคะไม่ต้องมาก็ได้ค่าน้องเอิงเข้าใจ""ไม่มีอะไรสำคัญเท่าเอิงกับลูกอีกแล้ว ไว้เจอกันนะครับคนดี รักนะครับ""รักเหมือนกันค่า"หลังจากวางสายผมก็รีบจองตั๋วเครื่องบินไปอเมริกาทันทีเวลาต่อมา...เอิงเอย...หลังจากที่ทุกคนรู้ว่าฉันตั้งท้องทุกคนก็พากันดีใจโดยเฉพาะพ่อของฉันเองที่เห่อหลานเอามากๆพอรู้ว่าหลานในท้องเป็นฝาแฝดชายหญิงก็รีบซื้อของใช้มาให้หลานๆจนตอนนี้ของเด็กอ่อนใกล้จะเต็มบ้านเพราะฉันต้องเรียนต่อที่นี่อีกหนึ่งปีส่วนอาบอมย้ายมาอยู่กับฉันเป็นที่เรียบร้อยส่วนงานก็ยังทำเป็นปกติเพียงแค่ไม่ต้องเข้าบริษัทเท่านั้น ทุกเช้าอาบอมจะตื่นขึ้นมาทำอาหารเช้าให้ฉันกับพี่อันดาทานพอเราสองคนไปเรียนอาบอมก็จะนั่งทำงานของเขาอยู่ที่บ้านพอฉันเลิกเรียนอาบอมก็จะไปรับที่มหาลัยแล้วก็กลับมาทำอาหารให้พวกเราทานทำให้ตอนนี้พี่อันดาไม่ต้องทำอาหารให้ฉั
สองเดือนต่อมา...เอิงเอย...ตอนนี้ฉันกลับมาเรียนแล้วส่วนอาบอมก็เพิ่งกลับไปหลังจากที่มาอยู่กับฉันเกือบอาทิตย์ อยากจะบอกว่าตั้งแต่เราแต่งงานกันมาฉันก็ไม่อยากห่างอาบอมไปไหนเลยอยากอยู่ด้วยกันทุกวัน"เห้อออ คิดถึงอาบอมจัง>ฉันบ่นกับพี่สาวที่กำลังทำอาหารเช้าให้"อาบอมเพิ่งกลับไปเองนะ""ก็นั่นแล่ะค่ะ น้องเอิงคิดถึงอ่ะทำไงดี""คิดถึงก็โทรหาสิไม่เห็นยากเลย""โทรหาก็แค่ได้ยินเสียงมันไม่เหมือนได้เจอหน้าได้กอดได้หอมกันนี่คะพี่อันดา""เบาๆหน่อยเป็นสาวเป็นแส้พูดอะไร""ก็ตัวเองไม่มีแฟนนี่นาลองมีดูสิน้องเอิงมั่นใจว่าพี่ก็จะคลั่งรักไม่ต่างจากเอิงหรอก""ไม่มีทางพี่ชอบอยู่คนเดียวสบายใจดี""เอางี้มั้ยน้องเอิงจะหาแฟนให้เอาแบบหล่อรวยนิสัยดี เอ้อพี่เวกัสไงพี่จำได้มั้ย""จำได้แต่ไม่ต้องเลย""ฮั่นแน่จำได้แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วยล่ะคะพี่สาว^^" ฉันแซวพี่สาวตัวเองเพราะตอนวันแต่งงานของฉันพี่เวกัสมาร่วมงานแล้วเจอพี่อันดาตอนแรกเขาคิดว่าเป็นฉันเพราะเราหน้าคล้ายกันมากพี่เวกัสเลยเข้าไปทักพอรู้ว่าไม่ใช่ฉันพี่เวกัสก็รีบขอโทษทันทีที่หน้าแตกทักคนผิดส่วนพี่สาวฉันก็หน้าแดงเป็นลูกตำลึงเลย หรือว่าฉันจะจับคู่พี่เวกัสกับพี่อั
หลายเดือนต่อมา....วันนี้คือวันแต่งงานของฉันกับอาบอมเรากลับมาจัดงานแต่งงานกันที่ไทยในช่วงที่ฉันปิดเทอมแต่เราไม่ได้จัดงานที่บ้านหรือที่โรงแรมเรายกขบวนกันมาจัดงานที่เชียงใหม่ซึ่งอาบอมได้เซอร์ไพรส์ฉันด้วยการซื้อบ้านที่นี่และเราก็มาจัดงานแต่งงานกันที่นี่ ธีมงานเป็นเหมือนที่ฉันฝันเอาไว้เลยอาบอมจำได้ทุกรายละเอียดเพราะฉันเคยบอกอาบอมไว้นานแล้วว่าอยากจัดงานแต่งงานแบบไหน "ดีใจด้วยนะคะอาสะใภ้^^" ยัยเอมิแซวฉันขณะที่ช่วยฉันแต่งตัวแต่งหน้า วันนี้มันรับหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าสาวแต่ฉันไม่ได้มีแค่ยัยเอมิหรอกนะมีคริสกับชินด้วย อ่อลืมบอกไปว่าพี่เวกัสก็มาร่วมแสดงความยินดีกับฉันเหมือนกัน "ฉันหวังว่างานหน้าจะเป็นงานแต่งของแกกับพี่ชายฉันนะ""แกยังหวังอีกเหรอยัยเอิงฉันเองยังไม่กล้าหวังเลย" พอพูดถึงพี่ภูมิยัยเอมิก็ทำหน้าเศร้าอีกแล้วฉันไม่น่าไปพูดแซวมันแบบนี้เลยอยากตบปากตัวเองจริงๆทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าพี่ภูมิไม่ได้ชอบยัยเอมิเพราะไม่อย่างงั้นวันนี้พี่ภูมิคงไม่ควงสาวมางานแต่งฉันหรอกเหมือนกับว่ามาทำให้ยัยเอมิเห็นว่าเขาไม่ได้สนใจมัน แต่ถึงยังไงฉันก็ยังเชียร์เพื่อนตัวเองนะเพราะมันแอบชอบพี่ภูมิมานานเหมือนที่ฉันแอบ
เอิงเอย..."น้องเอิงตัวร้อนมากเลยเดี๋ยวอาจะเป็นคุณหมอดูแลเองนะครับ" "ดูแลยังไงเหรอคะ" ฉันถามอาบอม"ก็คุณหมอจะฉีดยาให้คนไข้ยังไงล่ะครับ""ฉีดยา??" "ใช่ครับฉีดยาด้วยเข็มของคุณหมอเอง^^" มือฉันยังคงเกาะกุมตรงส่วนนั้นของอาบอมที่แข็งตัวอย่างรวดเร็วจนใหญ่เต็มฝ่ามือ"เข็มคุณหมอต้องใหญ่มากแน่ๆเลยใช่มั้ยคะน้องเอิงกลัวจังเลยค่า" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนๆพร้อมกับบีบท่อนเอ็นในมือเบาๆใบหน้าของอาบอมแสดงถึงความเสียวฉันดูออก"หึ ไม่ต้องกลัวนะครับหมอจะค่อยๆ ทำการรักษารับรองตื่นขึ้นมาหายไข้อย่างแน่นอน""ถ้าอย่างงั้นคุณหมอช่วยรักษาน้องเอิงทีค่ะน้องเอิงไม่ไหวแล้ว""ครับเดี๋ยวคุณหมอจะจัดให้รับรองคืนนี้คนไข้ไม่ได้นอนแน่ๆ" อาบอมขู่ฉันแต่มีเหรอที่ฉันจะกลัวถ้าฉันกลัวฉันไม่ยอมอาบอมมาได้หลายปีขนาดนี้หรอก ฟึ่บ!! ฟึ่บ!! ฟึ่บ!! อาบอมลุกขึ้นแล้วถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกอย่างรวดเร็วจากนั้นก็มาถอดชุดนอนของฉันออกจนร่างกายของฉันและเขาเปลือยเปล่า"ขอหมอตรวจภายในหน่อยนะครับ" พูดจบอาบอมก็ขยับตัวลงไปอยู่ตรงปลายเท้าแล้วจับขาของฉันทั้งสองข้างให้แยกออกจากกันก่อนจะก้มลงไปตรงกึ่งกลางกายของฉัน ลมหายใจอุ่นร้อนปะทะเข้ากับน้องสาวของ
เอิงเอย...."อิ่มแล้วเหรอเอิง" ชินถามฉัน"อิ่มแล้วพวกนายจะสั่งอะไรอีกไหม" ฉันถามสองหนุ่ม"ทำไมยูกินน้อยจังไม่ถูกปากอีกเหรอ" คริสถามฉัน"ไม่รู้สิแต่ฉันไม่อยากกินแล้วอ่ะอยากกลับบ้านอยากนอน""ไม่สบายหรือเปล่า" ชินแตะหน้าผากฉันคงจะดูว่าฉันมีไข้หรือเปล่า"ตัวอุ่นๆนะสงสัยจะไม่ชินกับอากาศที่นี่ฉันว่าเธอกลับบ้านไปนอนดีกว่าฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเอง""ขอบใจนะแต่ไม่เป็นไรฉันอยากอยู่คนเดียวนายกลับห้องนายเถอะ""แน่ใจนะว่าอยู่คนเดียวได้" ชินเป็นห่วงฉันมากจริงๆฉันรับรู้และรู้มาตลอดว่าชินคิดยังไงกับฉัน รวมถึงคริสด้วยแต่ฉันก็ทำเป็นไม่รู้เพราะฉันไม่อยากให้ทั้งสองคนรู้สึกแย่ ฉันคิดว่าเราสามคนเหมาะที่จะเป็นเพื่อนกันมากกว่า"เอางี้นะเดี๋ยวไอจะแวะซุปเปอร์มาเก็ตซื้อของสดไปทำข้าวต้มไว้ให้ยูยูจะได้เอาไว้ทานตอนหิว" คริสบอกกับฉันด้วยสายตาเป็นห่วง"ขอบใจมากแต่ไม่เป็นไรฉันไม่อยากรบกวนพวกนายที่บ้านมีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่ถ้าหิวฉันก็แค่เติมน้ำร้อนก็กินได้แล้ว""โอเคแต่ถ้ามีอะไรก็โทรหาไอได้นะยูก็รู้ว่าหอพักไออยู่ใกล้ๆบ้านยูวิ่งมาห้านาทีก็ถึง""อื้มมม^^"ฉันกลับมาถึงบ้านก็รีบอาบน้ำแล้วเข้านอนเพราะตอนนี้ฉันรู้สึกปวดหัวข
เอิงเอย...นี่ก็ผ่านมาหลายอาทิตย์แล้วอาบอมก็ไม่ติดต่ออะไรมาเลยไม่โทรถามไม่ส่งข้อความอะไรมาหาเลย เขาคงเบื่อฉันแล้วจริงๆ พอคิดแบบนั้นน้ำตาก็ไหลออกมา"เอิงป่ะไปหาอะไรกินกันเมื่อวานฉันเจอร้านอาหารไทยร้านนึงไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่เธอน่าจะชอบ" ชินเดินเข้าบ้านมาแล้วชวนฉันออกไปหาอะไรกินเพราะตั้งแต่เช้าฉันยังไม่ได้กินอะไรเลย อยากจะบอกว่าอาหารที่นี่ไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่หาของอร่อยยากแต่ก็ต้องกิน ไอ้จะให้ทำอาหารกินเองก็ทำไม่เป็น คงต้องรอพี่สาวฉันมาก่อนเพราะรายนั้นชอบทำอาหารเหมือนแม่ มีแต่ฉันที่ทำอะไรไม่เป็นสักอย่างก็เลยต้องลำบากชินที่ต้องไปคอยหาร้านอาหารอร่อยๆให้ฉัน อ่อฉันลืมบอกไปว่าพอชินรู้ว่าฉันมาเรียนต่อที่นี่มันก็ตามมาแต่ไม่ได้ตามมาแค่ชินนะคริสก็ตามมาด้วยทำให้ตอนนี้ฉันมีเพื่อนถึงสองคนแต่สองคนนี้เวลาเจอหน้ากันก็ชอบทะเลาะกันตลอดเพราะแย่งกันเอาใจฉันจนบ้างครั้งฉันต้องเดินหนีขึ้นมาหมกตัวอยู่บนห้องบ้านที่ฉันอยู่เป็นบ้านของพ่อกับแม่ของฉันเองซึ่งย่าเป็นคนซื้อให้เพราะไม่อยากให้แม่ต้องไปเช่าอพาร์ทเม้นอยู่ช่วงที่มาเรียนต่อที่นี่แม่เล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อนแม่มาเรียนต่อที่นี่พร้อมกับอาบอมบ้านหลังนี้มีห้องน