"อาบอมขาน้องเอิงรักอาบอมนะคะ" "พูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่า" "รู้สิคะไม่รู้จะพูดได้ยังไง><" "อาว่าเราน่าจะเมา กลับห้องเอมิได้ละอาง่วงจะนอน" "ขอน้องเอิงนอนด้วยไม่ได้เหรอ" "ไม่ดะ..." "ห๊าววว ง่วงจังเดินกลับห้องไม่ไหวแน่" ตุ่บ เสียงล้มตัวลงบนที่นอน "เอิงลุกออกไป" "ไม่ลุกน้องเอิงจะนอนห้องนี้" "โอเคไม่เป็นไรงั้นอาจะออกไปเอง" หมับ!!!!! เสียงกอด "หื้ออออ ไม่เอาอาห้ามออกไปน้องเอิงไม่ให้อาบอมไป" "เอิงปล่อยอาอย่าทำแบบนี้" "ทำแบบนี้คือแบบไหนเหรอคะ แบบนี้รึเปล่า" จุ๊บ จ๊วบบบบบ จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ "อื้ออออออ" 🌸โดนเด็กรุกหนักขนาดนี้อาบอมคนดีจะทนได้มั๊ยเนี่ย 🌸เรื่องนี้เป็นเรื่องของพี่บอมคนดีเพื่อนสนิทอัยวาคุณแม่ของน้องเอิงซึ่งมีคุณพ่ออย่างพี่ภูผาที่หวงลูกสาวยิ่งกว่าอะไร มาลุ้นความรักต่างวัยของคู่นี้กันนะคะใครชอบแนวโคแก่กินหญ้าอ่อนห้ามพลาดเด็ดขาด เริ่องอัยวาภูผาอยู่ในเรื่องกลลวงร้ายซ่อนรักนะคะ
view moreเอิงเอย...
สวัสดีค่าฉันชื่อน้องเอิงนะคะเป็นลูกสาวคนเล็กของพ่อภูผาแม่อัยวาฉันมีพี่น้องทั้งหมด4คน มีพี่ภูมิพี่ชายคนโต พี่อันดาพี่สาวฝาแฝดของฉันเองแล้วก็น้องชายคนสุดท้องแล้วก็สุดแสบมากชื่อว่าภูฟ้า ตอนนี้ฉันอายุ18ปีแล้วค่ะเรียนอยู่ชั้นมอหกโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งแล้วก็ยังเป็นโรงเรียนหญิงล้วนอีกต่างหากไม่ต้องถามว่าใครให้มาเรียนที่นี่ถ้าไม่ใช่พ่อของฉัน พ่อหวงฉันกับพี่อันดามากหวงแบบชนิดที่ว่าผู้ชายคนไหนเข้าใกล้แทบไม่ได้เลยใครมาคุยด้วยพ่อจะถามทันทีว่าเป็นใครรู้จักได้ยังไง เห้อออ มีพ่อที่ขี้หวงขนาดนี้ถามว่าอึดอัดมั้ยตอนเด็กๆ ก็ไม่ค่อยอึดอัดหรอกค่ะแต่มาตอนนี้เริ่มแระ เนื่องจากว่าฉันกำลังมีความรักค่ะ ความรักที่ไม่สามารถบอกใครได้เพราะมันเป็นความรักที่ต่างวัยกันมากๆ
ฉันแอบหลงรักอาบอมเพื่อนสนิทของแม่อัยวาฉันรู้จักอาบอมมาตั้งแต่จำความได้ อาบอมน่ารักเอาใจใส่ฉันดีมากๆ แต่ไม่ได้ดีแค่กับฉันหรอกนะดีกับทุกคนเลย แต่ฉันนี่สิหลงรักความดีความเอาใจใส่ของอาบอมมากถึงขั้นเก็บเอามาฝันว่าฉันได้เป็นเจ้าสาวของอาบอม แต่....มันก็เป็นความรักที่ดูจะไม่มีทางสมหวังได้เลยเพราะอาบอมเค้าเห็นฉันเป็นแค่หลานเท่านั้น อีกอย่างเราอายุต่างกันมากยี่สิบกว่าปีเลย ตอนนี้อาบอมอายุ40ปีส่วนฉันเพิ่งจะ18ฉันไม่รู้จะทำยังไงดี เห้อคิดแล้วก็เครียด
"ยัยเอิง!!!!" เสียงยัยเอมิตะโกนเรียกฉันมาแต่ไกล เอมิเป็นหลานสาวแท้ๆ ของอาบอมค่ะเป็นลูกสาวของลุงบาสพี่ชายอาบอมกับน้ายูมิ ฉันพี่อันดากับเอมิเราเรียนโรงเรียนเดียวกันมาตั้งแต่อนุบาลเราก็เลยสนิทกันมากเป็นพิเศษเพราะโตมาด้วยกัน
"แกจะตะโกนทำไมเนี่ย" ฉันถามยัยเอมิที่วิ่งหน้าตั้งมาหาฉัน
"ฉันมีเรื่องจะมาเม้าท์"
"เรื่องอะไรของแก"
"เรื่องอาของฉันน่ะสิ"
"อาบอมเหรอทำไม" ฉันกระตือรือร้นถามทันทีทันใด
"แหมมมพอบอกว่าเป็นเรื่องอาบอมนี่หูผึ่งตาโตเชียวนะ"
"ก็...แกทำหน้าตื่นเต้นฉันก็ตื่นเต้นตามไง" ฉันรีบปฏิเสธเพราะฉันไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้
"โอเคโอเคฉันจะยอมเชื่อแกก็ได้"
"ว่าแต่อาบอมทำไมเหรอ"
"เมื่อคืนอาบอมกลับมากับผู้หญิงคนนึงสวยมากด้วยแก ฉันว่านะต้องเป็นแฟนอาของฉันแน่ๆ เลย" ฉันใจหล่นวูบเมื่อได้ยินแบบนั้น
"หน้าแกทำไมดูหงอยๆ ล่ะ"
"เปล่าแกว่าไปเรื่อย"
"โอเค งั้นฉันจะเล่าต่อละนะ"
"อื้มมม"
"อาบอมพาผู้หญิงคนนั้นขึ้นห้องแล้วก็เพิ่งลงมาเมื่อเช้าผูหญิงคนนั้นนะท่าทางเหมือนไม่ได้นอนเลยทั้งคืน ฉันว่าพวกเค้าต้อง...คริ คริ ไม่อยากจะพูดอายอ่ะ><" ฉันใจแป้วขึ้นมาอีกเมื่อรับรู้เรื่องราวที่เพื่อนสนิทเล่าให้ฟัง
"แล้วแกมาเล่าให้ฉันฟังทำไม"
"อ้าวก็เห็นแกชอบถามฉันว่าอาบอมเป็นยังไงบ้างทำอะไรบ้างฉันก็เลยมาเล่าให้แกฟังไง"
"อืมมม"
"ยัยเอิง"
"อะไร"
"ฉันเป็นเพื่อนแกมาตั้งแต่จำความได้แกรู้สึกยังไงกับอาฉันทำไมฉันจะไม่รู้ถึงแกจะไม่บอกก็เถอะ"
"..........." ฉันเงียบเพราะไม่รู้จะพูดอะไรออกไป
"แกชอบอาบอมเหรอ"
"..........." ฉันเลือกที่จะไม่ตอบ
"ถ้าแกชอบแกก็บอกว่าชอบไม่เห็นต้องปิดบังกันเลยแล้วมันก็ไม่ได้น่าอายตรงไหน"
"ฉันกับอาบอมอายุต่างกันตั้งเยอะ"
"แล้วไงอายุเป็นเพียงตัวเลขป่ะดูแม่ฉันดิอายุห่างกับพ่อเกือบสิบปีพวกเค้ายังรักกันดีอยู่เลยไม่เคยทะเลาะกันเลยด้วย"
"แกคิดว่าฉันควรจะทำยังไงดี"
"สรุปแกรักอาบอมจริงๆ ใช่ป่ะหรือแค่ชอบเฉยๆ บอกฉันมาก่อน"
"ฉันรักอาของแก รักมากรักแบบที่ไม่เคยรู้สึกกับผู้ชายคนไหนมาก่อนเลย แกคือคนแรกเลยนะที่ฉันกล้าพูดเรื่องนี้"
"ถ้าแกรักอาของฉันจริงๆ ฉันจะช่วยแกเอง"
"ช่วยยังไง"
"ยังไม่รู้เหมือนกัน"
"อ้าว"
"เอาน่าเดี๋ยวก็คิดออกเองนั่นแล่ะ"
"แกคิดว่าเรื่องของฉันกับอาบอมจะสมหวังกี่เปอร์เซ็นต์"
"ตราบใดที่อาของฉันยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนแกก็มีสิทธิ์พันเปอร์เซ็นต์"
"ดูแกมั่นใจมากเลยนะเอมิทั้งที่อาแกไม่เคยเห็นฉันอยู่ในสายตาเลยเขาเห็นฉันเป็นแค่หลานเป็นลูกสาวของเพื่อน"
"แกอย่าเพิ่งท้อใจดิ แกตอ้งสู้ต้องตื้อ อาอัยเคยสอนฉันว่าถ้าเราชอบใครเราอย่าท้อแท้เราต้องใช้ลูกตื้อ ตื้อเท้านั้นที่จะครองโลก^^"
"แม่ฉันสอนแกแบบนี้จริงๆ เหรอ"
"เออดิ เมื่อตอนวันงานครบรอบงานแต่งงานพ่อแม่แกแล้วทีนี่แม่แกเรียกฉันไปคุยเพราะท่านรู้ว่าฉันแอบชอบพี่ชายแกอาอัยบอกว่าอยากให้ฉันสู้ห้ามถอย 🎶🎶ต้องสู้ต้องสู้จึงจะชนะ🎶🎶"
"แกร้องเพลงไรของแกเนี่ย"
"ไม่รู้ได้ยินอาม่าชอบร้องเลย อิอิ ว่าแต่แกเถอะจะสู้จริงๆ ใช่ป่ะ"
"อืมมม"
"ดีมากเพื่อนรัก เห้อออ ฉันจะได้แกเป็นอาสะใภ้เหรอเนี้ย><"
"แกก็พูดอะไรเนี้ยฉันเขินนะ><"
"มาขนาดนี้ไม่ต้องเขินแล้วเพื่อนร๊ากกก เอ๊ะหรือฉันจะลองเรียกแกว่าอาสะใภ้ดีน๊าาา" ยัยเอมิทำหน้าตาล้อเลียนฉันจนฉันเขิน
"บ้ายัยเอมิ><"
เรื่องนี้เป็นรุ่นลูกจากเรื่อง กลลวงร้ายซ่อนรักนะคะ
บอม...."ฮึก ฮึก น้องเอิงคิดถึงอาบอมจังอยากกอดอาบอมมากๆเลย ฮือออ ฮือออ แต่ไม่เป็นไรค่ะน้องเอิงจะอดทน ฮึก ฮึก" พอได้ยินเสียงร้องไห้ของเอิงเอยใจผมมันก็ยิ่งสั่นจนทำอะไรไม่ถูก"พรุ่งนี้อาจะบินไปหานะครับคนดีไม่ร้องไห้นะ" ผมปลอบเอิงเอยที่ยังร้องไห้ไม่หยุด"แต่อาบอมต้องทำงานไม่ใช่เหรอคะไม่ต้องมาก็ได้ค่าน้องเอิงเข้าใจ""ไม่มีอะไรสำคัญเท่าเอิงกับลูกอีกแล้ว ไว้เจอกันนะครับคนดี รักนะครับ""รักเหมือนกันค่า"หลังจากวางสายผมก็รีบจองตั๋วเครื่องบินไปอเมริกาทันทีเวลาต่อมา...เอิงเอย...หลังจากที่ทุกคนรู้ว่าฉันตั้งท้องทุกคนก็พากันดีใจโดยเฉพาะพ่อของฉันเองที่เห่อหลานเอามากๆพอรู้ว่าหลานในท้องเป็นฝาแฝดชายหญิงก็รีบซื้อของใช้มาให้หลานๆจนตอนนี้ของเด็กอ่อนใกล้จะเต็มบ้านเพราะฉันต้องเรียนต่อที่นี่อีกหนึ่งปีส่วนอาบอมย้ายมาอยู่กับฉันเป็นที่เรียบร้อยส่วนงานก็ยังทำเป็นปกติเพียงแค่ไม่ต้องเข้าบริษัทเท่านั้น ทุกเช้าอาบอมจะตื่นขึ้นมาทำอาหารเช้าให้ฉันกับพี่อันดาทานพอเราสองคนไปเรียนอาบอมก็จะนั่งทำงานของเขาอยู่ที่บ้านพอฉันเลิกเรียนอาบอมก็จะไปรับที่มหาลัยแล้วก็กลับมาทำอาหารให้พวกเราทานทำให้ตอนนี้พี่อันดาไม่ต้องทำอาหารให้ฉั
สองเดือนต่อมา...เอิงเอย...ตอนนี้ฉันกลับมาเรียนแล้วส่วนอาบอมก็เพิ่งกลับไปหลังจากที่มาอยู่กับฉันเกือบอาทิตย์ อยากจะบอกว่าตั้งแต่เราแต่งงานกันมาฉันก็ไม่อยากห่างอาบอมไปไหนเลยอยากอยู่ด้วยกันทุกวัน"เห้อออ คิดถึงอาบอมจัง>ฉันบ่นกับพี่สาวที่กำลังทำอาหารเช้าให้"อาบอมเพิ่งกลับไปเองนะ""ก็นั่นแล่ะค่ะ น้องเอิงคิดถึงอ่ะทำไงดี""คิดถึงก็โทรหาสิไม่เห็นยากเลย""โทรหาก็แค่ได้ยินเสียงมันไม่เหมือนได้เจอหน้าได้กอดได้หอมกันนี่คะพี่อันดา""เบาๆหน่อยเป็นสาวเป็นแส้พูดอะไร""ก็ตัวเองไม่มีแฟนนี่นาลองมีดูสิน้องเอิงมั่นใจว่าพี่ก็จะคลั่งรักไม่ต่างจากเอิงหรอก""ไม่มีทางพี่ชอบอยู่คนเดียวสบายใจดี""เอางี้มั้ยน้องเอิงจะหาแฟนให้เอาแบบหล่อรวยนิสัยดี เอ้อพี่เวกัสไงพี่จำได้มั้ย""จำได้แต่ไม่ต้องเลย""ฮั่นแน่จำได้แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วยล่ะคะพี่สาว^^" ฉันแซวพี่สาวตัวเองเพราะตอนวันแต่งงานของฉันพี่เวกัสมาร่วมงานแล้วเจอพี่อันดาตอนแรกเขาคิดว่าเป็นฉันเพราะเราหน้าคล้ายกันมากพี่เวกัสเลยเข้าไปทักพอรู้ว่าไม่ใช่ฉันพี่เวกัสก็รีบขอโทษทันทีที่หน้าแตกทักคนผิดส่วนพี่สาวฉันก็หน้าแดงเป็นลูกตำลึงเลย หรือว่าฉันจะจับคู่พี่เวกัสกับพี่อั
หลายเดือนต่อมา....วันนี้คือวันแต่งงานของฉันกับอาบอมเรากลับมาจัดงานแต่งงานกันที่ไทยในช่วงที่ฉันปิดเทอมแต่เราไม่ได้จัดงานที่บ้านหรือที่โรงแรมเรายกขบวนกันมาจัดงานที่เชียงใหม่ซึ่งอาบอมได้เซอร์ไพรส์ฉันด้วยการซื้อบ้านที่นี่และเราก็มาจัดงานแต่งงานกันที่นี่ ธีมงานเป็นเหมือนที่ฉันฝันเอาไว้เลยอาบอมจำได้ทุกรายละเอียดเพราะฉันเคยบอกอาบอมไว้นานแล้วว่าอยากจัดงานแต่งงานแบบไหน "ดีใจด้วยนะคะอาสะใภ้^^" ยัยเอมิแซวฉันขณะที่ช่วยฉันแต่งตัวแต่งหน้า วันนี้มันรับหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าสาวแต่ฉันไม่ได้มีแค่ยัยเอมิหรอกนะมีคริสกับชินด้วย อ่อลืมบอกไปว่าพี่เวกัสก็มาร่วมแสดงความยินดีกับฉันเหมือนกัน "ฉันหวังว่างานหน้าจะเป็นงานแต่งของแกกับพี่ชายฉันนะ""แกยังหวังอีกเหรอยัยเอิงฉันเองยังไม่กล้าหวังเลย" พอพูดถึงพี่ภูมิยัยเอมิก็ทำหน้าเศร้าอีกแล้วฉันไม่น่าไปพูดแซวมันแบบนี้เลยอยากตบปากตัวเองจริงๆทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าพี่ภูมิไม่ได้ชอบยัยเอมิเพราะไม่อย่างงั้นวันนี้พี่ภูมิคงไม่ควงสาวมางานแต่งฉันหรอกเหมือนกับว่ามาทำให้ยัยเอมิเห็นว่าเขาไม่ได้สนใจมัน แต่ถึงยังไงฉันก็ยังเชียร์เพื่อนตัวเองนะเพราะมันแอบชอบพี่ภูมิมานานเหมือนที่ฉันแอบ
เอิงเอย..."น้องเอิงตัวร้อนมากเลยเดี๋ยวอาจะเป็นคุณหมอดูแลเองนะครับ" "ดูแลยังไงเหรอคะ" ฉันถามอาบอม"ก็คุณหมอจะฉีดยาให้คนไข้ยังไงล่ะครับ""ฉีดยา??" "ใช่ครับฉีดยาด้วยเข็มของคุณหมอเอง^^" มือฉันยังคงเกาะกุมตรงส่วนนั้นของอาบอมที่แข็งตัวอย่างรวดเร็วจนใหญ่เต็มฝ่ามือ"เข็มคุณหมอต้องใหญ่มากแน่ๆเลยใช่มั้ยคะน้องเอิงกลัวจังเลยค่า" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนๆพร้อมกับบีบท่อนเอ็นในมือเบาๆใบหน้าของอาบอมแสดงถึงความเสียวฉันดูออก"หึ ไม่ต้องกลัวนะครับหมอจะค่อยๆ ทำการรักษารับรองตื่นขึ้นมาหายไข้อย่างแน่นอน""ถ้าอย่างงั้นคุณหมอช่วยรักษาน้องเอิงทีค่ะน้องเอิงไม่ไหวแล้ว""ครับเดี๋ยวคุณหมอจะจัดให้รับรองคืนนี้คนไข้ไม่ได้นอนแน่ๆ" อาบอมขู่ฉันแต่มีเหรอที่ฉันจะกลัวถ้าฉันกลัวฉันไม่ยอมอาบอมมาได้หลายปีขนาดนี้หรอก ฟึ่บ!! ฟึ่บ!! ฟึ่บ!! อาบอมลุกขึ้นแล้วถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกอย่างรวดเร็วจากนั้นก็มาถอดชุดนอนของฉันออกจนร่างกายของฉันและเขาเปลือยเปล่า"ขอหมอตรวจภายในหน่อยนะครับ" พูดจบอาบอมก็ขยับตัวลงไปอยู่ตรงปลายเท้าแล้วจับขาของฉันทั้งสองข้างให้แยกออกจากกันก่อนจะก้มลงไปตรงกึ่งกลางกายของฉัน ลมหายใจอุ่นร้อนปะทะเข้ากับน้องสาวของ
เอิงเอย...."อิ่มแล้วเหรอเอิง" ชินถามฉัน"อิ่มแล้วพวกนายจะสั่งอะไรอีกไหม" ฉันถามสองหนุ่ม"ทำไมยูกินน้อยจังไม่ถูกปากอีกเหรอ" คริสถามฉัน"ไม่รู้สิแต่ฉันไม่อยากกินแล้วอ่ะอยากกลับบ้านอยากนอน""ไม่สบายหรือเปล่า" ชินแตะหน้าผากฉันคงจะดูว่าฉันมีไข้หรือเปล่า"ตัวอุ่นๆนะสงสัยจะไม่ชินกับอากาศที่นี่ฉันว่าเธอกลับบ้านไปนอนดีกว่าฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเอง""ขอบใจนะแต่ไม่เป็นไรฉันอยากอยู่คนเดียวนายกลับห้องนายเถอะ""แน่ใจนะว่าอยู่คนเดียวได้" ชินเป็นห่วงฉันมากจริงๆฉันรับรู้และรู้มาตลอดว่าชินคิดยังไงกับฉัน รวมถึงคริสด้วยแต่ฉันก็ทำเป็นไม่รู้เพราะฉันไม่อยากให้ทั้งสองคนรู้สึกแย่ ฉันคิดว่าเราสามคนเหมาะที่จะเป็นเพื่อนกันมากกว่า"เอางี้นะเดี๋ยวไอจะแวะซุปเปอร์มาเก็ตซื้อของสดไปทำข้าวต้มไว้ให้ยูยูจะได้เอาไว้ทานตอนหิว" คริสบอกกับฉันด้วยสายตาเป็นห่วง"ขอบใจมากแต่ไม่เป็นไรฉันไม่อยากรบกวนพวกนายที่บ้านมีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่ถ้าหิวฉันก็แค่เติมน้ำร้อนก็กินได้แล้ว""โอเคแต่ถ้ามีอะไรก็โทรหาไอได้นะยูก็รู้ว่าหอพักไออยู่ใกล้ๆบ้านยูวิ่งมาห้านาทีก็ถึง""อื้มมม^^"ฉันกลับมาถึงบ้านก็รีบอาบน้ำแล้วเข้านอนเพราะตอนนี้ฉันรู้สึกปวดหัวข
เอิงเอย...นี่ก็ผ่านมาหลายอาทิตย์แล้วอาบอมก็ไม่ติดต่ออะไรมาเลยไม่โทรถามไม่ส่งข้อความอะไรมาหาเลย เขาคงเบื่อฉันแล้วจริงๆ พอคิดแบบนั้นน้ำตาก็ไหลออกมา"เอิงป่ะไปหาอะไรกินกันเมื่อวานฉันเจอร้านอาหารไทยร้านนึงไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่เธอน่าจะชอบ" ชินเดินเข้าบ้านมาแล้วชวนฉันออกไปหาอะไรกินเพราะตั้งแต่เช้าฉันยังไม่ได้กินอะไรเลย อยากจะบอกว่าอาหารที่นี่ไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่หาของอร่อยยากแต่ก็ต้องกิน ไอ้จะให้ทำอาหารกินเองก็ทำไม่เป็น คงต้องรอพี่สาวฉันมาก่อนเพราะรายนั้นชอบทำอาหารเหมือนแม่ มีแต่ฉันที่ทำอะไรไม่เป็นสักอย่างก็เลยต้องลำบากชินที่ต้องไปคอยหาร้านอาหารอร่อยๆให้ฉัน อ่อฉันลืมบอกไปว่าพอชินรู้ว่าฉันมาเรียนต่อที่นี่มันก็ตามมาแต่ไม่ได้ตามมาแค่ชินนะคริสก็ตามมาด้วยทำให้ตอนนี้ฉันมีเพื่อนถึงสองคนแต่สองคนนี้เวลาเจอหน้ากันก็ชอบทะเลาะกันตลอดเพราะแย่งกันเอาใจฉันจนบ้างครั้งฉันต้องเดินหนีขึ้นมาหมกตัวอยู่บนห้องบ้านที่ฉันอยู่เป็นบ้านของพ่อกับแม่ของฉันเองซึ่งย่าเป็นคนซื้อให้เพราะไม่อยากให้แม่ต้องไปเช่าอพาร์ทเม้นอยู่ช่วงที่มาเรียนต่อที่นี่แม่เล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อนแม่มาเรียนต่อที่นี่พร้อมกับอาบอมบ้านหลังนี้มีห้องน
Mga Comments