Home / โรแมนติก / ลวงเงารัก / 6...การจราจรในช่วงสาย (2)

Share

6...การจราจรในช่วงสาย (2)

Author: rasita_suin
last update Last Updated: 2025-07-19 01:09:33

ร่างสูงใหญ่เดินตามหญิงสาวเข้ามาในร้านด้วยท่าทางสบายๆ หลังจากวนหาที่จอดรถจนได้แต่ก็ต้องเข้ามาจอดในซอยถัดมา แล้วเดินกลับมาที่ร้านอีกที ถึงแดดจะเริ่มร้อน เหงื่อซึมออกมาบนแผงอกและแผ่นหลังจนเปียกเสื้อเชิ้ตเนื้อดี แต่เขาก็ยังดูเฉยๆ ไม่ได้มีอาการหงุดหงิดแต่อย่างใด ทั้งที่ร้านนี้ก็เป็นร้านธรรมดาไม่มีแอร์และคนก็ค่อนข้างเยอะ เธอเหลือบตามามองเขาเล็กน้อยตติยะจึงยิ้มให้แล้วชี้ไปที่โต๊ะเล็กๆ สำหรับนั่งสองคนซึ่งว่างอยู่พอดี

“นั่งตรงนั้นกัน”

ว่าแล้วชายหนุ่มก็เดินนำไปก่อนแต่หญิงสาวกลับเดินเข้าไปหาพ่อครัวที่ยืนอยู่หน้าหม้อโจ๊ก สั่งแล้วจึงเดินตามเข้าไป ตติยะนั่งลงแล้วมองหาคนที่ควรจะเดินตามเขา เมื่อเห็นว่าต้องสั่งก่อนเข้ามานั่งก็มองคนที่นั่งลงฝั่งตรงข้ามอย่างเก้อๆ เพราะเขาคิดว่าจะมีคนมารับออเดอร์

“ขอโทษนะ ทั้งที่ผู้ชายควรจะเป็นคนสั่ง”

“คุณไม่รู้นี่”

อีกฝ่ายยักไหล่อย่างไม่แคร์เท่าไร ตติยะเงียบไปขณะเพ่งมองคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขาพร้อมกับครุ่นคิดแล้วก็ส่ายหน้าอยู่คนเดียว ขณะที่หญิงสาวมองไปรอบๆ ร้านก่อนจะหันกลับมามองชายหนุ่มซึ่งมีเหงื่อผุดออกมาจนเต็มหน้าผาก

“เช็ดหน้าหน่อยไหม ดูเหมือนจะร้อนมาก” เธอบอกขณะมองหน้าเขา

ตติยะยิ้มนิดๆ แล้วก็พยายามหาผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ากางเกง แต่พอนึกได้ว่าเขาใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อสูทที่ถอดเอาไว้ในรถก็ส่ายหน้าให้ก่อนจะบอก

“ติวลืมผ้าเช็ดหน้าไว้ในเสื้อสูทน่ะ”

หญิงสาวฟังแล้วก็เงียบไป ขณะนั้นโจ๊กสองถ้วยกับปาท่องโก๋ที่เธอสั่งก็ถูกนำมาวางบนโต๊ะพอดี ดึงความสนใจของคนที่หิวไปหาอาหารอย่างทันควัน มือบางรีบจับช้อนคนโจ๊กร้อนๆ ส่วนมืออีกข้างก็หยิบปาท่องโก๋มากัดจนเต็มคำ ขณะเดียวกันก็ตักโจ๊กขึ้นมาเป่าแล้วจึงเอาเข้าปาก ก้มหน้าก้มตาทานโดยไม่สนใจชายหนุ่ม ขณะที่ตติยะได้แต่มองเอื้อมทรายทานสลับกับโจ๊กตรงหน้าตัวเองแล้วก็ทำหน้างอ จนในที่สุดก็พูดขึ้น

“พอได้กินแล้วก็ไม่สนใจติวเลยนะ”

เมื่อถูกทักหญิงสาวจึงชะงักแล้วเงยหน้ามองคนพูดอย่างแปลกใจ

“แล้วทำไมไม่กิน ไหนบอกว่าหิว”

“หิวสิ”

“งั้นก็กินสิ กินตอนกำลังร้อนๆ พร้อมกับปาท่องโก๋น่ะ อร่อยสุดๆ เลย”

“แซนด์น่ะ ยังโกรธเรื่องเมื่อวานอยู่ใช่ไหม”

คำถามของชายหนุ่มทำให้อีกฝ่ายจ้องเขาอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะก้มลงทานเหมือนเดิมพร้อมกับตอบเหมือนไม่ใส่ใจ

“เปล่านี่”

“งั้นก็ฉีกปาท่องโก๋ให้หน่อยสิ”

คราวนี้หญิงสาวเงยหน้ามามองเขาตาโต ก่อนจะบอกด้วยสีหน้าแหยงๆ

“มีมือหรือเปล่า ฉีกเองสิ”

“พูดแบบนี้ยังโกรธอยู่จริงๆ ด้วย” ตติยะฟันธงด้วยน้ำเสียงที่ดูงอแงเหมือนเด็กๆ

“ก็บอกว่าไม่ใช่”

“แล้วทำไมไม่ฉีกปาท่องโก๋ให้ติวล่ะ”

“ตัวก็โตอย่างกับ...อะไร ทำเองก็ได้”

“เมื่อก่อนกินโจ๊กด้วยกันแซนด์ก็ฉีกให้ทุกที แถมยังถามว่าเติมน้ำปลาหรือซอสไหมตลอด”

คำพูดของเขาทำให้อีกฝ่ายอึ้งแล้วก็เงียบไป ท่าทางดูอึกอัก

“คุณโตแล้วนะ ไม่ใช่เด็กๆ แล้วก็...เอ่อ...”

“ยังโกรธอยู่ก็ยอมรับมาเถอะน่า”

ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับยิ้มล้อเลียน ทำเอาคนเห็นนิ่งอึ้งไปแล้วหน้าก็ค่อยๆ แดงเรื่อขึ้นก่อนจะเปลี่ยนเป็นบูดบึ้งแล้วเบือนหน้าหนีเขาไปทางอื่นเหมือนไม่อยากสบตา

“นั่นไง แซนด์ยังโกรธอยู่ แล้วตอนนี้ก็งอนติวด้วย ใช่ไหม”

“ไม่หิวใช่ไหมถึงไม่กินสักที งั้นก็กลับไปเลย”

แม้เธอจะหันมาพูดเบาๆ ทว่าน้ำเสียงดูขุ่นขึ้งอย่างชัดเจน ชายหนุ่มจึงรีบยิ้มอ้อนพร้อมกับเอาใจ

“ติวกำลังจะกินแล้วนี่ไง” เขาบอกแล้วตักโจ๊กเข้าปาก “อื้ม...อร่อยมากเลย ปาท่องโก๋นี่ก็ด้วย”

ตติยะหยิบปาท่องโก๋มากัดกินตามหญิงสาว แล้วเคี้ยวทำหน้าตาเอร็ดอร่อยเหมือนเด็กๆ จนคนเห็นอดยิ้มขำไม่ได้ เมื่อเธอยิ้มและหัวเราะเขาก็ยิ่งกินด้วยท่าทางโอเวอร์มากขึ้น รู้สึกดีใจที่เห็นอีกฝ่ายยิ้มและหัวเราะอย่างสดใส

หญิงสาวมองคนที่ทำท่าตลกอยู่สักพักแล้วคิดว่าเขาคงร้อนมาก เพราะเหงื่อเริ่มไหลมากขึ้นกว่าเดิมจึงก้มลงหาบางอย่างในกระเป๋าของตัวเองก่อนจะหยิบทิชชูที่ปกติเอาไว้ซับหน้าออกมายื่นให้เขา ทว่าตติยะกลับยื่นหน้าของเขาเข้ามาใกล้ๆ อย่างทะเล้น โต๊ะเล็กที่ไม่ค่อยกว้างนัก ทั้งชายหนุ่มก็ตัวสูงใหญ่ พอเขาโน้มตัวแล้วยื่นหน้ามาหาทำให้ระยะใบหน้าของทั้งคู่ไม่ห่างกันมากนัก ตากลมโตคู่สวยมองใบหน้าหล่อเหลาคมคายที่มีไรหนวดเคราซึ่งคงไม่ได้โกนเมื่อเช้าด้วยแววตาที่ตติยะไม่เคยเห็น แต่แล้วอยู่ๆ เขาก็ต้องผงะหน้าหงายเพราะโดนหญิงสาวกระแทกทิชชูใส่หน้าผาก

“โอ๊ย...วันนี้ทำไมแซนด์ดุจัง”

อีกฝ่ายไม่สนใจที่เขาพูดหันกลับไปทานโจ๊กของตัวเองเงียบๆ ตติยะหยิบทิชชูที่ยังติดที่หน้าผากตัวเองซับเหงื่อเบาๆ แต่ก็ยังพูดต่อไป

“ทำยังไงแซนด์ถึงจะหายโกรธเนี่ย”

เขาถามอย่างขำๆ แม้จะรู้สึกว่าเอื้อมทรายเหมือนจะไม่หายโกรธง่ายๆ ซึ่งเป็นเรื่องแปลกไปสำหรับหญิงสาว เพราะปกติเอื้อมทรายจะค่อนข้างใจเย็น ใจดี ไม่ถือสาอะไรมากมาย เมื่อก่อนเธอจะฉีกปาท่องโก๋ใส่ในโจ๊กก่อนทานทุกครั้งแล้วก็จะเผื่อแผ่มาถึงเขาด้วย ครั้งนี้เพื่อนของเขาคงจะไม่พอใจจริงๆ อาจจะโกรธที่เขาไม่ยอมบอกเธอตั้งแต่แรก ทั้งที่เจอกันมาแล้ว แต่พอมารู้อีกทีกลับเป็นตอนที่โดนภรวีวีนใส่

“แซนด์ไม่เคยโกรธติวนานแบบนี้นี่นา”

“ไม่ได้โกรธคุณมากเท่าแฟนคุณหรอก” เสียงไม่พอใจสวนขึ้นมา

“เรียกคุณอย่างนี้ก็หมายความว่าโกรธติวเหมือนกัน ถึงจะไม่มากก็เถอะ แต่ก็ยังโกรธอยู่ ใช่ไหม”

ชายหนุ่มสบตาหญิงสาวพร้อมกับทำหน้าให้น่าสงสารสุดๆ ขณะที่คนมองนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะกะพริบตาถี่ๆ ก้มลงทานต่อแล้วบอกด้วยน้ำเสียงรำคาญ

“ก็มันน่าหงุดหงิดไหมล่ะ อยู่ๆ ก็มีคนเดินเข้ามาด่า”

“วีวี่เขาเป็นพวกใจร้อนน่ะ แล้วเมื่อวานเขาก็มีเรื่องไม่สบายใจอยู่”

“ก็เลยมาพานชาวบ้านงั้นเหรอ”

“ติวขอโทษแทนเขาก็แล้วกันนะ”

หญิงสาวมองหน้าคนพูดอีกครั้งอย่างไม่พอใจ ตติยะรีบอ้อนต่อ

“นะ...จะให้ติวทำยังไงก็ได้ แซนด์หายโกรธเถอะนะ กลับมาพูดกับติวเหมือนเดิมเถอะ ติวเลี้ยงข้าวมื้อนี้ก็ได้ นะ...นะครับ”

ท่าทางของชายหนุ่มตัวโตๆ ที่ทำสีหน้ากับพยายามส่งสายตาออดอ้อนทำให้คนเห็นอดยิ้มไม่ได้ ใบหน้าขาวนวลมีเฉดสีแดงเรื่อ

“แค่คุณคนเดียว แฟนคุณไม่เกี่ยว”

แม้หญิงสาวจะบอกเสียงนิ่งๆ แต่ตติยะรู้ดีว่าอีกฝ่ายใจอ่อนแล้ว จึงยิ้มหวานพยักหน้ารับอย่างเต็มใจ เขาไม่สนอยู่แล้ว ที่เขาแคร์คือความรู้สึกของเอื้อมทรายไม่ใช่ภรวี

“ไม่เป็นไร ขอแค่แซนด์หายโกรธติวก็พอ จะให้ติวเลี้ยงข้าวทั้งอาทิตย์ก็ยังได้ แต่เรียกติวสิ อย่าเรียกคุณ แบบนี้เหมือนยังโกรธอยู่เลย”

“คุณ เอ่อ...พูดเองนะ”

“แน่นอน ติวรับปาก ว่าแต่แซนด์ไม่โกรธติวแล้วนะ”

“อื้อ...แต่อาทิตย์เดียวน้อยไปนะ ถึงแค่เลี้ยงข้าวมันจะไม่คุ้มกันเลยกับความรู้สึกที่เสียไป แต่ยังไงคุณ เอ่อ...ติวก็เป็นเอ่อ...เพื่อน ฉันจะถือว่าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ แล้วก็ไม่เคยเจอยัยพายุทอร์นาโดแฟนติวก็แล้วกัน”

ตติยะได้ฟังที่หญิงสาวพูดแล้วก็ยิ้มกว้าง นึกในใจว่าเดี๋ยวนี้เพื่อนเขาพูดกัดคนเก่งขึ้นเยอะ เปรียบเทียบภรวีซะเขานึกภาพออกเลยทีเดียว

“ให้เลี้ยงทุกวันเลยก็ได้นะ เอาไหมล่ะ เลี้ยงตลอดไปเลยดีไหม”

ชายหนุ่มถามเล่นๆ แต่คิดว่าถ้าอีกฝ่ายรับเขาก็ยินดีทำตามที่เธอต้องการ

“มากไป แค่สองอาทิตย์ก็พอแล้ว”

หญิงสาวบอกเขาพร้อมสีหน้าแหยงๆ เพราะแค่อยากแกล้งเขานิดหน่อยเท่านั้น ก่อนจะบุ่นอุบอยู่ในใจคนเดียวขณะก้มหน้าทานโจ๊กกับปาท่องโก๋ต่อ

‘ขืนเจอกันทุกวันตลอดไปคงแย่’

=====

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ลวงเงารัก   40...(จบบริบูรณ์) (2)

    หลังเอื้อมทรายคลอดลูก ทั้งครอบครัวของตติยะก็ยังพักอยู่ต่อโดยไม่มีใครเดินทางกลับนอกจากแขก เพราะต่างก็เห่อหลานชายสองคนที่น่ารักน่าชังมากๆ แม้แต่คุณอานนท์กับคุณนิตยาเองก็ยังเฝ้าหลานทั้งสองคนไม่ห่าง ทิ้งงานที่โรงพยาบาลไปเลยทีเดียว เนื่องจากคุณนิตยาลงความเห็นว่าหลานตัวน้อยยังไม่แข็งแรงพอที่จะเดินทางไปโดนแดดโดนลมทะเลในตอนนี้ ก็เลยเพียงแค่พามาพักที่บ้านพักของตระกูลตติยะเพื่อความสะดวกสบาย และเสียงเด็กๆ จะได้ไม่รบกวนแขกของรีสอร์ต พวกเขาจึงพากันเกงานกันทั้งครอบครัว โดยคุณเจอเซ่สั่งงานผ่านทางวิดีโอคอลกับคนสนิทที่ไว้ใจได้ตลอดทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมาเลยทีเดียวส่วนตัวตติยะนั้นเขาตั้งใจเอาไว้แล้วว่าหลังแต่งงานจะพักฮันนีมูนเป็นเดือนจึงไม่เดือดร้อน เนื่องจากเคลียร์และกับเลขาอย่างคุณวิชัยเรียบร้อย หากมีอะไรด่วนวิชัยคงติดต่อเขามาเอง ก็กว่าเขาจะได้แต่งงานคนอื่นก็นำโด่งไปไกลไม่เห็นฝุ่นแล้ว เพราะนับตั้งแต่คืนที่เขาต้องเสียเงินซื้อรถให้น้องทั้งสองคน เอื้อมธารก็ไม่ค่อยจะยอมให้เขาแตะต้องสักเท่าไร แถมก็งานยุ่งเนื่องจากกำลังอยู่ในช่วงปรับโครงสร้างใหม่ นานๆ ครั้งถึงจะมีโอกาส ฉะนั้นพอแต่งงานตติยะจึงขอใช้เวลาส่วนตัวก

  • ลวงเงารัก   40...(จบบริบูรณ์) (1)

    สองปีต่อมา...“แซนด์ไปไหน คุณหมอเห็นแซนด์หรือเปล่าคะ”ในงานเลี้ยงฉลองงานแต่งงานของลูกชายคนโตตระกูลเวลเลโอ ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งบนเกาะซึ่งเจ้าของงานเหมาทั้งรีสอร์ตเพื่อรับรองแขกนั้น ร่างบางของเจ้าสาวชุดสวยหรูราวเจ้าหญิงเดินไปทั่วทั้งบริเวณจัดงาน หลังจากส่งแขกเรียบร้อยแล้วด้วยใบหน้ากังวล เอื้อมธารถามหมอหนุ่มที่กำลังจะไปนั่งดื่มกับกลุ่มเพื่อนในมุมหนึ่งของรีสอร์ต ทำเอาชายหนุ่มชะงักหันมองอย่างงงๆ เพราะแทนที่จะถามหาเจ้าบ่าวแต่เจ้าสาวกลับถามหาพี่สาว“เปล่าครับ แล้วนี่ซีจะไปไหน น่าจะพักนะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”วิศรุตต์พูดโดยไม่ได้เอ่ยถึงเจ้าบ่าวที่เขาคิดว่ามันคงนั่งร่วมวงอยู่กับกลุ่มเพื่อนๆ เรียบร้อยแล้ว เพราะไม่อยากเป็นคนชี้โพรงให้กระรอกฤกษ์ส่งตัวนั้นมีไปตั้งแต่เมื่อวานที่กรุงเทพฯ เพราะทั้งสองคนแต่งงานที่บ้านสวนแบบเรียบง่าย รดน้ำทำบุญ มีเพียงแขกผู้ใหญ่และคนสนิทจริงๆ ส่วนงานเลี้ยงมาจัดที่เกาะ ซึ่งเป็นความต้องการของเจ้าบ่าวเจ้าสาวแต่ก็อำนวยความสะดวกให้กับแขกที่ได้รับเชิญทั้งไทยและเทศอย่างดี ฉะนั้นคู่บ่าวสาวจึงไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันตามฤกษ์ ส่วนบ้านพักของตระกูลนั้นตติยะให้ผู้ใหญ่ในครอบครัวของเ

  • ลวงเงารัก   39......ครึ่งชัวโมงผ่านไปร่างบางก็ออกมา (2)

    เสียงหอบหายใจคละเคล้ากับเสียงเรียกชื่อเขา พร้อมปฏิกิริยาแสนซื่อจากร่างกายของหญิงสาวทำให้คนเจนสนามไหวร่างไม่นับครั้ง สายตาคมจ้องอกอวบสองข้างที่สะท้อนขึ้นลงไว้มั่น ทั้งแรงเสียดสีจากร่างอ่อนนุ่มก็ทำให้กายแข็งแกร่งร้อนขึ้นเรื่อยๆ จนสูงลิบแตะเพดาน หัวใจหนุ่มเต้นระส่ำยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ชายหนุ่มเองก็ยิ่งส่งตัวเองเร็วชนิดลืมโลก เขาไม่เคยคลั่งแบบนี้มาก่อน ลืมไปด้วยซ้ำว่าคนใต้ร่างเขานั้นเพิ่งครั้งแรก เมื่อไม่สามารถรั้งตัวเองได้ตติยะก็วิ่งชนโครมเต็มตัวไม่ยั้ง กระทั่งร่างของคนทั้งสองสะท้านเยือกขึ้นพร้อมกัน ร่างสูงใหญ่เกร็งคำรามพร่าในลำคอดัง ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำบิดเหยเกแหงนเงยมองเพดานห้องเอื้อมธารที่กรีดร้องพร้อมตาเบิกโพลงมองภาพชายหนุ่มตรงหน้าด้วยหัวใจที่กระหน่ำแรงโลด รู้สึกรักเขาและภาคภูมิใจในตัวเองอย่างที่สุด หน้าตาท่าทางของอีกฝ่ายแม้จะเหมือนทรมานแสนสาหัสแต่เธอรู้เขาสุขสุดๆ เลยเชียวแหละ เพราะอะไรน่ะหรือ เพราะเธอเองก็ไม่ต่างจากเขาเลยความรักกับเซ็กส์บางครั้งมันก็แยกกันไม่ออก เธอเพิ่งเข้าใจก็วันนี้เอง การได้มีความสุขกับคนที่รักนั้นคือเซ็กส์ที่สุดยอดจริงๆเมื่อปล่อยกายปล่อยใจตามอารมณ์ปรารถนาแล้วตต

  • ลวงเงารัก   39......ครึ่งชัวโมงผ่านไปร่างบางก็ออกมา (1)

    ครึ่งชัวโมงผ่านไปร่างบางก็ออกมาจากห้องพร้อมผ้าขนหนูพันตัวเพราะไม่ได้ถือเสื้อผ้าเตรียมเข้าไป เธอทำใจกล้าก่อนจะมองดูว่าคนตัวสูงใหญ่อยู่ในห้องหรือไม่ เมื่อไม่เห็นก็รีบวิ่งพรวดไปที่ตู้ซึ่งเพิ่งจัดเสื้อผ้าเข้าไปค้นหาของอย่างรวดเร็ว ไม่รู้ว่าเขาไปไหน แต่ต้องรีบกลับเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำก่อนที่ตติยะจะเข้ามาทว่าช้าไปแล้ว เพราะประตูห้องเปิดพรวดในขณะที่ร่างสูงในชุดกางเกงเลกับเสื้อแขนตัดฟิตเปรี๊ยะจนเห็นกล้ามเนื้อเป็นมัดแข็งแกร่ง มือใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมก้าวเข้ามาในห้อง ชายหนุ่มชะงักมองคนร่างบางที่หันมามองเขาตาโต ส่วนหญิงสาวก็สะดุ้งตกใจจนเผลอปล่อยทุกอย่างในมือร่วงลงพื้นตาคมสีอ่อนมองร่างสวยตั้งแต่ใบหน้า ผมเปียกที่ถูกขมวดลวกๆ รุ่ยร่ายตกลงมาระลำคอระหง ไหล่บาง เนินอกอวบขาวนวลเนียนก่อนจะถูกผูกทับไว้ด้วยผ้าขนหนู สายตาเขาจึงไล่ลงล่างอย่างรวดเร็ว ขาขาวกลมกลึงที่โผล่จากผ้าผืนเล็กคลุมสะโพกอย่างหมิ่นเหม่ทำเอาชายหนุ่มกลืนน้ำลายเสียงดังชัดเจน คนที่สบตากับเขาถึงกับตัวสั่นเพราะแววกระหายฉายวาบโชติช่วงอย่างไม่ปิดบัง เอื้อมธารจึงเลี่ยงหลุบตาลงมองเสื้อผ้าแล้วย่อตัวลงหยิบ พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ให้มีส่วนล่อแห

  • ลวงเงารัก   38...สองเดือนต่อมาบ้านสวนก็ได้จัดงานแต่ง (4)

    ขณะนั้นตติยะเริ่มขยับลุกขึ้นก้าวไปข้างหน้า ทว่าได้เพียงไม่กี่ก้าวก็ล้มลงแล้วลุกขึ้นใหม่ มือหนายื่นไปข้างหน้าเพื่อควานหาคนร่างบาง หากก็ต้องล้มอีกครั้งเพราะความรีบร้อนลุยน้ำและมองไม่เห็น แต่ชายหนุ่มก็ยังฝืนลุกขึ้นก้าวเร็วๆ ขึ้นไปบนผืนทรายจนได้ เขาขยี้ตาที่ยังแสบแต่ก็ยังลืมตาไม่ขึ้นจึงได้แต่เดินสะเปะสะปะยื่นมือไปทั่ว“ซี คุณยังอยู่แถวนี้หรือเปล่า ผมเป็นห่วงคุณนะ ตอบผม ให้ผมได้ยินเสียงคุณหน่อย”หลังจากลืมตาขึ้นมาแล้วยืนมองคนที่ดูเหมือนจะไม่ยอมแพ้ในการหาเธออยู่พักใหญ่จนแทบจะทนไม่ไหว มือบางก็ยื่นไปข้างหน้าช้าๆ หากก็ตัดใจลดมือลงในที่สุดและยืนนิ่งอย่างรอคอย ใจเต้นแรงลุ้นระทึกแทบจะกลั้นหายใจ ขอเวลาอีกนิดเดียว แค่นิดเดียวเท่านั้น‘ก้าวมาสิ มาหาฉัน’เอื้อมธารร้องเรียกอีกฝ่ายอยู่เพียงในใจ“คุณอยู่ที่นี่ใช่ไหมซี”ชายหนุ่มเคลื่อนไหวช้าลง พยายามจับทิศทางก่อนจะขยับไปด้านซ้ายมือเพียงสองก้าวแล้วคว้าหมับ ทำให้ร่างเย็นชื้นหากก็นุ่มนิ่มเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนเขาเต็มๆ ปากบางสวยก้มลงจูบข้างขมับเธอพร้อมกระซิบต่อว่าเบาๆ ทั้งที่ใจเขาแทบขาดรอน กลัวไปหมดทุกอย่าง“แกล้งผมทำไมฮึ คุณจะฆ่าผมหรือไง ทั้งที่รู้ว่าผมรักคุณ

  • ลวงเงารัก   38...สองเดือนต่อมาบ้านสวนก็ได้จัดงานแต่ง (3)

    “บอกอะไรคะ”ชินานางอดถามไม่ได้“ก็พี่ทิมบอกว่า ผู้ชายถ้าได้มีอะไรกับคนที่รักแล้วจะยิ่งรักมากขึ้น ให้ดูพี่เรฟเป็นตัวอย่าง เพราะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเวลาอยู่กับพี่นา แยมไม่ค่อยเชื่อ เพราะพี่เรฟเขาเย็นชา ชอบทำหน้าเฉยตลอด แต่แยมก็เห็นพี่เรฟมองตามพี่นาตลอดเหมือนกัน ตอนเราเล่นน้ำก็มอง แต่พอเห็นความน่ารักของพี่นาเวลาเขินอย่างนี้แยมเข้าใจเลยค่ะ แยมก็ชอบพี่นานะคะ”เอื้อมธารกับชินานางมองคนที่อธิบายเสียงใสแล้วก็มองหน้ากัน โดยชินานางเป็นฝ่ายเขินหลบไปก่อนขณะที่เอื้อมธารคิดตามคำพูดของสาวน้อย เธอเองก็เห็นด้วยเพราะรู้สึกได้ว่า เรฟแสดงออกว่าห่วงใยรักใคร่ชินานางมากกว่านิสัยปกติของเขา คล้ายกับแววตาที่อานินท์มองพี่สาวของเธอ แถมทั้งสองคนยังมีแผนจะแต่งงานกันในอีกหกเดือนข้างหน้า แต่เอื้อมทรายจะยังอยู่กับเธอโดยที่อานินท์ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยส่วนเมื่อคิดถึงแววตาและการเอาใจใส่ดูแลเธอของตติยะก็ไม่ได้น้อยไปกว่าใคร แถมเขายังดูจะตามใจเธอมากกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ ไม่ได้ทำให้เอื้อมธารรู้สึกน้อยหน้าใครๆ แต่อย่างใด“แล้วพี่เรฟ แบบว่ามีเซ็กส์กับพี่นาบ่อยไหมคะ”สาวน้อยจอมซักยังถามต่อ แม้ใบหน้าสวยของตัวเองจะแดงเรื่อขึ้น

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status