เธอทวงขึ้น เขาจึงหยุด หันกลับมามองเธอ โดยไม่ได้ตั้งตัว ริมฝีปากอิ่มสวยยื่นมาจุ๊บปากเขาดังม๊วบ เขาตกใจไม่น้อย แต่ก็นิ่งไว้ จนเธอผละออกไป เขาก็แสร้งยิ้ม ทำเหมือนชินชากับสิ่งที่เธอทำเมื่อสักครู่ ทั้งที่รู้สึกแปลก ๆ และไม่คุ้นเคยกับการสัมผัสในลักษณะนี้มาก่อน
ในชีวิตที่เหมือนไร้วิญญาณของเขา ไม่เคยจูบใครมาก่อน อย่าว่าแต่ถูกจูบเลย แม้แต่การกอด เขาก็ยังไม่เคยได้รับจากใคร การมีเซ็กส์ที่ผ่านมา ล้วนแล้วแต่เกิดจากความใคร่ การซื้อขาย สอดใส่แล้วกระแทกซ้ำๆ เพื่อปลดปล่อยความทรมานให้ฉีดพล่านออกมาก็เท่านั้น
“ผมกำลังจะ...” คงจูบทักทายกันทุกครั้งที่เจอกันสินะ เขาไม่น่าพลาดเรื่องนี้เลย “ทำพอดี”
เธอยิ้มหวานให้เขา ก่อนจะทำปากจู๋อย่างน่ารัก เพื่อรอให้เขาจูบเธอตอบเหมือนกับที่ทำทุกครั้ง
อคิราห์มองใบหน้าสวยที่หลับพริ้มแล้วอดยิ้มหยันไม่ได้ เธอไม่รู้ว่าเขาไม่ใช่คนเดิมของเธอ แต่เป็นอีกคนที่เธอไม่เคยรู้จัก เขาเชื่อว่าไม่มีใครเคยพูดถึงและเล่าเรื่องเขาให้เธอฟัง คนพวกนั้นตัดขาดเขา ทำเหมือนไม่มีเขาในโลกใบนี้ด้วยซ้ำ
เขาก้มเข้าหาเธอแล้วประกบปากสวยจนแนบแน่น เนิบนิ่งอย่างสำรวจ ความใกล้ชิดที่แสนพิเศษระหว่างหนุ่มสาว ราวกับกำลังถ่ายทอดจิตวิญญาณร่วมกัน ลมหายใจอุ่นซ่านที่สอดประสาน ทำให้เลือดลมในกายของเขาสูบฉีดพลุ่งพล่านอย่างไร้เหตุผล เขารู้สึกได้ว่าหัวใจเต้นเร็วเกินไป จนคล้ายกับว่ากำลังถูกคุณหมอในโรงพยาบาลใช้เครื่องกระตุ้น
“อ่าห์...” เขาสีหน้าไม่สู้ดีนัก ตอนที่ผละออก ดวงตาถลนมองเธอเหมือนเห็นสิ่งที่น่าเกรงกลัวตรงหน้า
ศลิษาลืมตากลมโตขึ้นมองเขาด้วยความรัก ยื่นมือจับแก้มสากของเขาแล้วลูบไล้อย่างอ่อนโยน
“ทำไมวันนี้สายตาดูเศร้าจัง...มีเรื่องอะไรไม่สบายใจรึเปล่าคะ...”
เขาตกใจหน้าเหวอ เธอรู้ได้ยังไงว่าเขากำลังรู้สึกดำดิ่งเศร้าลึก ทั้งที่พยายามปั้นหน้าให้เหมือนมนุษย์ปกติแทบตาย...ผู้หญิงคนนี้น่ากลัวว่าที่เขาคิดไว้เสียแล้ว
“อาจเศร้าเพราะคิดถึงคุณ” สายตาเศร้าซ่อนความเลือดเย็นเอาไว้ขณะคว้าเธอมาจูบอย่างดูดดื่ม แล้วบดขยี้รุนแรงเร่าร้อน ก่อนจะแทรกลิ้นเข้าไปในโพรงปากของเธอแล้วตวัดลิ้นอุ่นอย่างเมามันส์ หิวโหย...
“อืม....” ฝ่ามือแผ่นใหญ่เลื่อนขึ้นจับทรวงอกของเธอแล้วขยำนวดเน้น ก่อนจะเลื่อนลงในหว่างขาสดสาวแล้วฟอนเฟ้นเค้นคุ้ยความนุ่มนิ่มไม่หยุดมือ...
“อย่าสร้างความเดือดร้อนให้สาแล้วกัน”“คงเดือดร้อนเฉพาะตอนอยู่บนเตียงมั้ง”อคินชักสีหน้าไม่พอใจ “ช่วยพูดให้เกียรติเธอหน่อย ว่าแต่แกจะย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านรึเปล่า”“ถ้าฉันย้ายเข้ามา ฉันอาจทำให้แกเดือดร้อนได้นะ”“แต่ฉันอยากให้แกย้ายเข้ามา” เพราะเขาไม่อยากให้ศลิษาอยู่ไกลจากสายตาเขา แม้เขาต้องเจ็บปวดที่เธอเป็นของคนอื่นก็ตาม อย่างน้อยได้รู้ว่าเธอปลอดภัย ก็ยังดี “ฉันต้องการให้แกกับสาย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านโดยเร็วที่สุด หากแก...”“งั้นขอเป็นห้องนอนติดแกแล้วกัน แต่ถ้ามีเสียงดังรบกวนทั้งคืน แกต้องทำใจหน่อยนะ”อคินพยายามจะไม่โมโหแล้วนะ “ฉันบอกว่าจะปล่อยสาให้เป็นอิสระ แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันยกสาให้แก!!!”“เธอเป็นของฉันตั้งแต่แรกแล้ว แกก็รู้แล้วนี่”“แต่เธอเป็นคู่หมั้นฉัน จบมั้ย?”“เธอเป็นของฉัน!” ซึ่งเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เขามี ในขณะที่พี่ชายของเขามีครบทุกอย่าง “เธอเป็นของฉัน จำใส่สมองไว้ด้วย ว่าเธอเป็นสิทธิ์ของฉัน!”“ถ้าแกไม่โผล่กลับมา ป่านนี้เราคงแต่งงานกันแล้ว เป็นเพราะแกคนเดียว ชีวิตของฉันถึงได้พังแบบนี้”“งั้นแกก็หาทางจัดการฉันอีกสิ จะยัดฉันเข้าคุก หรือถีบลงไปในนรกดีล่ะ เอาที่แกถนัดเลย ไอ้คนดี!!
“เราถอนหมั้นกันนะคะ”อคินส่ายหน้าทันที“ไม่”“แต่คุณควรได้แต่งงานกับผู้หญิงที่ดีกว่าสา”“ไล่ผมให้ไปแต่งงานกับคนอื่น แล้วคุณจะได้อยู่กับไอ้อคิราห์อย่างนั้นสินะ”“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ แต่สาไม่ดีพอ...”“เราจะแต่งงานกัน ได้ยินมั้ย เราจะแต่งงานกันให้เร็วที่สุด ผมไม่ยอมเสียคุณไปแน่!!”สายตาแน่วแน่ของชายหนุ่มทำให้เธอยิ่งหนักใจ“ฉันไม่ยอมโว๊ย!!”อคิราห์ก้าวเข้ามายืนซ้อนหลังของหญิงสาว แล้วสวมกอดเธอเอาไว้แน่น“เพราะเธอเป็นดวงใจของฉัน”“ปล่อยคู่หมั้นฉันเดี๋ยวนี้!!”“แกนั่นแหละปล่อย เพราะเธอเป็นของฉันมาตั้งแต่แรกแล้วโว๊ย!!”“ตั้งแต่แรก แกเอาอะไรมาพูด”“เมื่อยี่สิบปีก่อนไง เธอเป็นคนช่วยชีวิตฉันไว้ นางฟ้าประจำตัวของฉัน เพราะงั้น ชีวิตของฉันจึงเป็นของเธอตั้งแต่บัดนั้น จนถึงตอนนี้ และตลอดไป!!”อคินไม่อยากจะเชื่อ “จริงเหรอสา??”สีหน้าของศลิษาบอกว่าเป็นเรื่องจริง อคินถึงกับอึ้งไปเลย เพราะไม่คิดว่าโลกมันจะกลมขนาดนี้“คุณรู้เรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่สา”“ก่อนที่คุณจะเข้าไปจัดการเขาจนสะบักสะบอมที่โฮมเสตย์นั่นแหละค่ะ”อคินถึงกับยกสองมือขึ้นกุมขมับ “เป็นไปไม่ได้”“แต่มันเป็นไปแล้วโว๊ย ที่สำคัญ เธออยากอยู่กับฉั
“ที่รักเป็นยังไงบ้าง? เจ็บตรงไหนรึเปล่า?” อคินเดินกลับเข้ามาสวมกอดหญิงสาวไว้แน่น พร้อมลูบแผ่นหลังปลอบโยน แสดงความเป็นเจ้าของเต็มที่ เพื่อให้ใครบางคนหยุดส่งสายตาหาคนรักของเขาเสียที “ผมขอโทษ ผมขอโทษที่ทำให้คุณต้องตกอยู่ในอันตราย ผมเกือบจะเสียคุณไปแล้ว ขอบคุณสวรรค์ ขอบคุณ”“คุณควรจะขอบคุณน้องชายของคุณนะคะ”เธอทวงขึ้น เขาผละตัวออก แล้วหันมองน้องชายฝาแฝดที่ยังนั่งมองเขาด้วยสายตาเย็นชาเหมือนที่เคยเป็นมา“ผมไม่จำเป็นต้องขอบคุณคนที่ลักพาตัวคุณไปหรอก”“คุณอคินคะ”“ไม่จำเป็น ใช่ ถูกต้อง!” อคิราห์ยิ้มหยันใส่พี่ชาย ก่อนหันมามองหวานกับหญิงสาว “เพราะผมไม่ได้ทำเพื่อมัน ผมก็แค่มาช่วยเมียผมเท่านั้น”“ไอ้!”อคินทนไม่ไหวจะเข้ามากระทืบน้องชายฝาแฝดให้หยุดปากเสีย แต่หญิงสาวเข้าขวางกลางไว้ พร้อมร้องห้ามเสียงหลง ก่อนพี่น้องจะตีกันจนตาย “อย่านะคะ พอซะที พวกคุณเป็นพี่น้องกันนะคะ”“ไม่ใช่!” ทั้งคู่พูดพร้อมกัน สายตาจับจ้องกันเหมือนจะฆ่ากันให้ตายไปข้าง“ผมไม่มีทางนับไอ้ฆาตกรเป็นน้องแน่”“ใครกันแน่วะ ฆาตกร ตกใจล่ะสิที่เห็นฉันยังไม่ตาย”อคินกัดกรามแน่น “แกรอดมาได้ยังไง”“ถามพ่อแกดิ”“ไอ้!”“ใช่ พ่อช่วยมันไว้เอง”
“เราจะลืมทุกอย่าง แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน ต่อไปนี้ ผมจะไม่ปล่อยให้คุณอยู่ห่างจากสายตาอีกแล้ว เข้าใจนะ”มันเหมือนเป็นคำสั่ง มากกว่าคำสัญญา...หัวใจของเธอชาชืดไปหมด เมื่อคิดว่าอคิราห์ตายไปแล้ว ตายไปอย่างโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลอันเงียบเหงาและเวิ้งว้าง“ฉันหลับไปกี่ชั่วโมงคะ”“คุณหลับไปสองวัน”สองวัน...จากตอนที่เขาถูกลากออกไปจากโฮมเสตย์ เพื่อนำไปขึ้นเรือแล้วนำไปทิ้งกลางทะเล หากเขาตายไปแล้ว และมีคนพบศพของเขา ก็คงจะมีข่าวออกมาบ้าง แต่ถ้าไม่มีคนพบศพของเขา เรื่องราวของเขาก็คงจะหายไปตลอดกาล“ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉันไว้” ปากบอกขอบคุณ แต่ใจนั้นแสนโกรธ โกรธจนไม่อยากเห็นหน้าเขาอีกแล้ว “ไม่เอาสิ ผมต้องช่วยคุณอยู่แล้ว ผมรักคุณนะ”เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขายังทำหน้าสบายใจเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ หนำซ้ำยังคิดจะแต่งงานโดยไม่รู้สึกผิด“ฉันมีเรื่องอยากถามคุณ”“ผมไม่อยากรื้อฟื้น” เขารู้ดีว่าเธออยากรู้เรื่องอะไร “ทุกอย่างมันจบแล้ว...คุณพักผ่อนซะนะ”เขาจุมพิตบนหน้าผากเธออีกครั้งด้วยความรัก เธอหลับตาลงแล้วแสร้งทำเป็นนอนหลับไปเสีย เพราะอยากให้เขาวางใจว่าเธอนั้นเชื่อฟังเขาเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาเธอรอจนอค
“ใจเย็นๆนะคะ ทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว มันจบแล้ว ตอนนี้คุณอยู่กับฉัน ต่อไปนี้ ฉันจะปกป้องคุณเอง”เขาเลื่อนมือขึ้นกุมมือเธอไว้ “ทำไม สงสารผมเหรอ”“เปล่านะคะ แต่ฉันรู้สึกว่ามันเป็นโชคชะตาของฉัน”“แต่คุณเป็นของมัน”เขาย้ำให้เธอรู้ถึงสถานะของตัวเอง“มีคนเคยเตือนฉัน...ว่าการเป็นคนรักของเขา อาจทำให้ชีวิตเกิดหายนะได้...คนที่โทรหาฉันเมื่อไม่นานมานี้”“ใช่ ผมเป็นคนโทรเอง”“คุณวางแผนจะจับตัวฉันตั้งแต่อยู่ในคุกเหรอคะ”“คุณรู้เรื่องผมได้ไง”“ฉันจำคุณได้ ฉันเคยฉีดวัคซีนให้คุณมาครั้งหนึ่ง คุณคงจำฉันไม่ได้”“ใครบอกว่าจำไม่ได้ ผมจำคุณได้ จำรายละเอียดบนใบหน้าของคุณได้ จำรอยยิ้มคุณได้ จำกลิ่นของคุณได้ขึ้นใจเลยล่ะ แถมผมยังฝันถึงคุณตั้งหลายครั้ง”“อย่าบอกนะว่าฝันลามก”“ชัวร์”เขาหันกลับมาเผชิญหน้ากับเธอ ก้มจูบปากเธออย่างเต็มรัก ก่อนจะผละออกแล้วมองเธอด้วยความหลงใหล“พอผมรู้ว่าคุณคือคู่หมั้นของมัน...ผมไม่แปลกใจเลยสักนิด รู้มั้ย ถ้าผมเป็นมัน ผมก็จะเอาคุณเหมือนกัน”“พูดอะไรของคุณ”“ผมจะทำยังไงกับคุณดี”ขาดคำนั้น ประตูถูกถีบอย่างแรง แล้วชายฉกรรจ์ประมาณสามคนก็กรูเข้ามาในห้องแล้วตรงมาจับตัวเขาเอาไว้ ก่อนที่อคินจะโผ
“คุณได้มาจากเด็กผู้หญิงที่อุ้มหมาใช่มั้ย”เขาจ้องหน้าเธอนิ่ง แล้วดวงตาของเขาก็ลุกวาวด้วยความตกใจ หัวใจเต้นรัวแทบคลั่ง เมื่อคิดว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่ตรงหน้าเขานี่เอง มนุษย์เพียงคนเดียวในโลกใบนี้ที่เขาไม่เคยลืมแม้สักวินาทีอคิราห์น้ำตาไหลพรากทันที หัวใจแทบแตกสลายเมื่อคิดว่าตนเองได้ทำอะไรลงไป“ผม...ผม...ผมสมควรตาย ผมสมควรตาย!!!”เขากำลังจะคุ้มคลั่งในวินาทีนั้น แต่เพราะเธอประกบปากจูบเขาเสียก่อน จึงทำให้เขาอารมณ์ของเขาสงบลงได้ ความหวาดกลัวก็มลายหายสิ้น“อืม...” รสจูบอันดูดดื่ม ดึงทั้งคู่เข้าสู่โลกแสนหวานที่มีเพียงสองเราเท่านั้น“อูวว...อคิราห์”“นางฟ้า...นางฟ้าของผม” “โอว...” ทั้งคู่ร่วมรักกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันเต็มไปด้วยความหวาน ค่ำคืนที่ฝนยังคงกระหน่ำลงมาไม่ขาดสาย บทสวาทขับเคลื่อนไปอย่างนุ่มนวลอ่อนโยนอย่างไม่รู้จักเบื่อ...“อูวส์...” ทั้งคู่จูบแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม นัวเนียสอดใส่กระแทกกระทั้นกันจนน้ำใคร่นองเกลื่อนเต็มที่นอน แล้วก็กกกอดกันแนบแน่นใต้ผ้าห่มผืนหนา จ้องตากันนิ่งงันอย่างมีความหมายและลึกซึ้ง “คุณคือเด็กผู้ชายคนนั้น”“คุณคือนางฟ้าของผม...ผมเกือบทำ...เรื่องที่บ