ขิงพาร่างกายที่บอบช้ำลุกขึ้นนั่งรู้สึกปวดหนึบไปทั้งช่องท้องปวดหน่วง ๆ ที่มดลูก และร่องส่วนกลางระบมไปหมด นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นความรู้สึกมันยังวาบหวามอยู่ในอกบอกไม่ถูกว่า เธอชอบหรือไม่ชอบแต่ ณ ขณะนั้นมันรัญจวนใจจนหยุดไม่ได้ เธอหันไปมองคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ แสงไฟจากห้องน้ำที่เขาเปิดไว้ส่องลอดออกมากระทบกับใบหน้า ของเขา
‘ใบหน้าของเขายิ้มตอนนอนด้วย แหม่...คงจะสุขสมมากสินะ’ เธอนึกหยันเขาในใจ ขิงขยับกายลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำอย่างช้า ๆ รู้สึกเหนียวเหนอะหนะไปทั้งตัว เธอตรงเข้าไปหยิบกระเป๋าสะพาย และน้ำในตู้เย็นก่อนเดินเข้าห้องน้ำไปลงกลอนประตูแน่นหนา
ขิงค้นหายาที่เธอซื้อมาจากร้านขายยา นึกถึงคำพูดของเภสัชกรสาวที่อธิบายวิธีกิน เธอรีบแกะออกมาหนึ่งเม็ดเอาเข้าปากแล้วรีบดื่มน้ำตามทันที เธอหันไปมองตัวเองใน กระจกเต็มตัวที่อยู่ในห้องน้ำ ตามร่างกายของเธอมีรอยแดงเป็นจ้ำ ๆ ทั้งข้างหน้าข้างหลัง ตามลำคอและไม่เว้นแม้แต่ตามซอกขา
นึกถึงปากร้อน ๆ ที่จบเลื้อยไปตามร่างกายของเธอ หญิงสาวรู้สึกปวดหนึบขึ้นมาในช่องท้องทันทีแบบเสียววูบ จึงรีบสะบัดหัวจัดการชำระล้างคราบรักต่าง ๆ ที่อยู่บนเรือน ร่างของเธอ
“บ้า บ้า บ้า ไอ้บ้าหินเนี่ยมันต้องวางยาเราแน่ ๆ เลย”
เธอคิดไปถึงค็อกเทลแก้วแรกที่เขายื่นให้เธอดื่ม แล้วพอเขาเริ่มเล้าโลมเธอ เธอไม่มีแม้แต่คำปฏิเสธกลับร่วมมือกับเขาเป็นอย่างดี
‘คอยดูนะไอ้บ้าหิน’ เธอแค้นเขาอยู่ในใจ
การกำศึกรักมาอย่างหนักเกือบทั้งคืนทำให้เธออ่อนล้ามากจึงรีบแต่งตัว ขิงรื้อผ้าคลุมเตียงของอีกเตียงออกเห็นมีผ้าห่มอยู่ด้านล่าง เธอมองจ้องไปทางชายหนุ่มที่นอนหลับแบบสบายตัวอยู่บนเตียงของเธอ นึกรู้ว่าโดนหินหลอกเสียแล้ว
‘เจ้าเล่ห์จริง ๆ เสียรู้เขาจนได้นะยายขิง เหมือนยายต้องพูดเลยผู้ชายคลำเจอไม่มี หางมันก็จับเราเสียบจริง ๆ’ เธออยากจะเข้าไปขย้ำคอเขานัก แต่ตอนนี้แค่ตาของตัวเองยังจะเอาไม่รอด จึงล้มตัวลงนอนสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มหลับลงไปอย่างง่ายดาย
เขาตื่นขึ้นมาใช้มือคลำหาหญิงสาวที่เขานอนก่ายกอดมาทั้งคืน
‘ไปไหนของเธอนะ’ เขาขยับตัวลุกขึ้นเดินไปเปิดผ้าม่านแสงสว่างส่องวาบจ้าเข้ามาข้างในลูกตาของเขา หินรีบขยับม่านให้ปิดสนิทเหมือนเดิม
‘โอ๊ย... สายป้านนี้แล้วหรือ’ เขารีบสาวเท้ายาว ๆ เข้าห้องน้ำรีบชำระร่างกายรู้สึกสดชื่นมากขึ้น หินเดินออกมาจากห้องน้ำ เมื่อก้าวพ้นพาทิชันที่เขาเอามาวางตั้งกั้นไว้ เขาก็สะดุดตากับร่างบางที่นอนอยู่อีกเตียงหนึ่ง
‘โธ่ นึกว่าหายไปไหน’ เขายิ้มกว้างออกมา สาวเท้าเข้าไปนั่งแล้วนอนตะแคงลงใกล้ ๆ เท้าคางมองเธอและเอื้อมมือเขี่ยไรผมที่ระลงมาปิดใบหน้าของหญิงสาว ก่อนจะหอมไปที่แก้มเบา ๆ ชายหนุ่มเพิ่งอาบน้ำโกนหนวดมาใหม่ ๆ
เธอตื่นขึ้นมาเพราะมีอะไรเย็น ๆ มาสัมผัสที่ใบหน้า ขิงลืมตาขึ้นเห็นเขานอนยิ้มอยู่ข้าง ๆ นึกชิงชังเขานัก แต่ทำไมใจมันเต้นไม่เป็นจังหวะ ริมฝีปากเขาอยู่ใกล้แค่นี้ เธอขยับตัวออกห่างจากเขาทันทีเพราะในใจตอนนี้มันสั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก หัวใจเต้นแรงหน้าเริ่มแดงร้อนผ่าว ๆ เมื่อเห็นเขาจ้องมาแบบนี้เธอช้ากว่าเขาแน่นอน เขาตะครุบเธอด้วยสองแขนแทรกตัวเข้าไปในผ้าห่มผ้าเช็ดตัวหลุดลุ่ย หินนอนเบียดร่างเปลือยเปล่าทับร่างกายของเธอ
“ทำไมครับ” หินถาม แต่ขิงไม่ตอบ
“เมื่อคืนเอ่อ... เรายัง กันอยู่เลย” เขาใช้มือจับปลายคางเธอไม่ให้หันหน้าหนีเขายิ้มหวานให้แก่เธอ ดูท่าทางหินมีความสุขอย่างมากเธอพยายามขยับตัว เขาก็ยิ่งกอดรัดแน่น
“คุณหิน ปล่อยขิงก่อนค่ะ มันอึดอัด หายใจไม่ออก” เธอพูดพร้อมผ่อนลมหายใจออกมา
“ให้ผมจูบสวัสดีตอนเช้าก่อนนะ” พูดจบเขาก็ประกบริมฝีปากลงมาทันที เขาดูดริมฝีปากเธอและขบเบา ๆ
“คุณขิงรู้ไหม คุณน่ะหวานไปทั้งตัวเลยนะครับ” เขาพูดคำหวานกระซิบข้างหูของเธอ
“คนบ้า! ใครเขาเต็มใจกัน” เธอพูดออกมาน้ำเสียงประชดประชัน เบี่ยงหน้าหลบจุมพิตที่เขากำลังจะจูบลงมาอีกครั้ง ริมฝีปากร้อนจึงเปลี่ยนเป้าหมายเป็นติ่งหูและซอกคอของเธอแทน เธอใช้สองมือยันหน้าอกของเขาสุดแรงเกิด แต่ร่างกายของเขาไม่ขยับเขยื้อนสักนิดเดียว
“คุณขิงจ๋า เก็บแรงไว้ครางดีกว่านะครับ” เขากระซิบที่ข้างหูเธอ
“อือ... คุณหินพอก่อนได้ไหมคะ” เสียงเธอครางออกมาด้วยความสยิว
เมื่อเขาเล้าโลมดูดเลียไปที่ยอดชมพู ‘เฮ้ยมันดูจะมากไปแล้วนะไอ้บ้าหิน’ เธอคิดด่า เขาในใจแต่ไม่กล้าออกเสียงมา
“ทำไมครับ” ปากเขาก็พูดแต่ก็ยังไม่หยุดเล้าโลมเธอ มือล้วงลูบไล้เข้าไปในชุดนอนของเธอ
“อื้อ” เสียงเธอครางประท้วงเมื่อเขาสอดนิ้วเข้าไปในช่องรักที่มันไม่ภักดีต่อเจ้าของเอาเสียเลย ปล่อยน้ำหวานไหลเยิ้มซึมออกมาจนชุ่มนิ้ว เขาผละออกจากริมฝีปากเพื่อปล่อยให้เธอครางได้เต็มที่
“อ๊าย... อุย! ขิงเจ็บนะคะ” เธอบอกเขาครางเสียงกระเส่า
“มีความสุขไหมจ๊ะคนสวย” เขาลุกขึ้นยืนใช้แขนรั้งตัวเธอให้ลุกขึ้นด้วย ขิงที่หอบเหนื่อยอย่างแรงขาสั่นแทบยืนไม่ไหวต้องโอบรัดตัวพี่หินไว้ยึดเหนี่ยว เขาก้มลงไปหา ความหวานที่ริมฝีปากอวบอุ่นนั้นอีกครั้งอย่างไม่รู้จักเบื่อ เธอจูบตอบเขาแบบเร้าใจสมใจ คนตัวสูงที่เร้าอารมณ์ปรารถนาให้สาวเจ้ากระเจิดกระเจิง“พี่คิดถึงขิงทุกคืนเลย คิดถึงริมฝีปากอุ่น ๆ นี้ด้วย” เขายกมือแตะริมฝีปากของเธอส่งสายตาเว้าวอน อีกมือจับมือของภรรยาสาวให้ลงไปกุมกล่องดวงใจที่ตอนนี้กำลังหาทาง ระบายของออกมันตึงมันแน่นอัดอยู่ข้างในจนบวมเป่งเห็นเส้นเลือดปูดพองเธอสบตาเขารู้ได้ว่าพี่หินต้องการอะไรหญิงสาวทรุดตัวนั่งลงคุกเข่าอยู่เบื้องหน้า มือหนึ่งลูบไล้หยอกล้อกับกล่องดวงใจ อีกมือจับกำรูดเอาไว้แน่น แค่นี้คนที่ไม่ได้นอนกับเมียเกือบเดือนแทบดิ้นตาย เสียงซี้ดซ้าดลอดไรฟันออกมาไม่ขาดปากจนต้องทรุดนั่งลงที่ขอบอ่าง ขิงยกหน้าขึ้นไปยิ้มให้แบบยวนใจส่งปลายลิ้นแตะเบา ๆ ตัวพี่หินแทบกระเด้ง สวนขึ้นทันทีตอนเธออ้างับปลายเนื้อแข็งตัน ๆ นั้น“อือ” ยิ่งครางประท้วงตอนที่เขากระแทกลำใหญ่อัดเข้ามาแทบชนคอหอย สองมือพี่หินลูบปลอบโยนทั้งสองแก้มที่ตอนนี้ตอบเข้าดูดจ๊วบ
“จะไหวหรือคะนายแม่” ขิงถามด้วยความเป็นห่วง“เออน่ะ ถ้าไม่ไหวยังไงแม่จะโทรไปตาม” เธอพูดก่อนจะส่งเสียงหัวเราะขึ้นอีกครั้ง นายแม่ลองเอาหลานไปนอนด้วยทีไรต้องเอามาส่งแม่ขิงทุกที“งั้นเราสองคนไปก่อนนะครับ เพราะว่าจะพาขิงไปร้านทำผมด้วยกลัวสวยน้อยกว่าแฟนของเพื่อนคนอื่น ๆ” ปากบอกแม่แต่สายตาก็จ้องสบภรรยาสาวตลอดขิงรีบเข้าไปอุ้มเจ้าตัวเล็กก่อนจะหอมแก้มเด็กน้อยไปหลายที“อย่าดื้ออย่าซนกับคุณย่าคุณยายนะครับ” ขิงสั่งลูกชายเด็กน้อยทำตาปริบ ๆ ไม่เข้าใจหรอก แต่ก็หัวเราะเอิ้กอ้ากตอนแม่หอมไปที่พุง“ม้วนเอ้ย... ม้วน เอาปาปูนไปเดินเล่นก่อนไป เดี๋ยวเห็นแม่เดินหายไปลับตาจะร้องเอาเปล่า ๆ” นายแม่เรียกม้วนที่ทำงานอยู่ใกล้ ๆ เธอรีบวางมือจากกองผ้าก่อนจะมารับปาปูนไปจากมือของขิง“จะห้าโมงแล้ว” หินมองนาฬิกาที่ข้อมือใช้ฝ่ามือแตะข้อศอกให้ลุกขึ้นตาม พอพ้นออกมาจากตรงนั้น“พี่หินต้องทำเวลา คิดถึงเมียอยากเอากับเมียใจจะขาด” เขากระซิบข้างหูของเธอ ขิงเงยหน้าขึ้นมองเขาทำหน้าแดง“อะไรก็ไม่รู้ พี่หินเนี่ย” เธอค้อนเขาทุบเอาเบา ๆ ที่หัวไหล่ พี่หินรีบจับมือขิงเอาไว้ก่อนจะพาเดินไปขึ้นรถ ตอนนี้เขาทำทางให้รถวิ่งเข้าไปถึงบ้านพักได้และ
สิบเอ็ดเดือนต่อมา“ไหน ไหน ไหย มาหายายสิลูก” ป้าใหญ่มาถึงก็ตรงดิ่งเข้าหาเจ้าตัวเล็กที่กำลังจ้ำม่ำเต็มไม้เต็มมือ เด็กน้อยยิ้มให้คลานอย่างเร็วเข้าไปหา ขิงมองตามลูกชายส่ายหน้าน้อย ๆ ก่อนจะยกมือไหว้ป้าของเธอ“ใครเรียกไปหมดเลยค่ะป้า หน้าเป็นมาก ๆ เจ้าเด็กคนนี้รู้ว่าจะมีคนอุ้มหรือพาไปเดินเล่นไปกับเขาทันที ดูท่าทางเจ้าชู้แต่เด็กเลยค่ะ” ขิงเล่าพลางหัวเราะ อยู่ที่นี่เธอก็ไม่เหนื่อยเท่าไรเพราะมีคนเยอะกว่าที่กรุงเทพฯ ได้ช่วยกันเลี้ยงกลายเป็นว่าหนุ่มน้อยปาปูนเข้าคนได้ง่ายเหลือเกิน“สงสัยได้เชื้อพ่อมาหรือเปล่าเนี่ย” ป้าใหญ่แซวคนตัวโตที่ไปรับเธอจากสนามบิน แล้วนั่งรถมาด้วยกันจากกรุงเทพฯขิงกับปาปูนมาอยู่ที่ปราณบุรีกับคุณย่าลิ้นจี่เพราะทนเสียงรบเร้าทุก ๆ วันของคุณย่าไม่ไหว แล้วยิ่งตอนนี้ปาปูนกำลังน่ารักน่าชังสุด ๆ สองแม่ลูกมาอยู่ที่นี่ได้เกือบเดือนหนึ่งแล้วหินกะว่าจะหยุดงานสักสิบวัน ป้าใหญ่ประจวบเหมาะอยากมาเยี่ยมทั้งสองคนจึงบินมาจากเชียงใหม่ ให้หินไปรับที่สนามบินแล้ววิ่งรถตรงดิ่งยาวมาปราณบุรีกันเลย“เป็นยังไง เหนื่อยกันไหมเธอ” ลิ้นจี่เดินมาจากหลังบ้านเพราะได้ยินเสียงรถวิ่งเข้ามาจึงออกมาดูเอ่ยทักเพื่
“เต็มที่แล้วค่ะ” เธอพูดแค่นั้นก่อนจะก้าวไว ๆ เปิดประตูเรียกคุณหมอที่รออยู่แล้วให้เข้ามาทำคลอด“คุณพ่อคะ เตรียมกล้องได้เลยนะคะ” พยาบาลคนเดิมหันมาบอกให้หินที่ยังนิ่งยืนดูทีมพยาบาลและแพทย์ที่กำลังช่วยขิงทำการเบ่งคลอดเขากระวีกระวาดหยิบกล้องขึ้นมา มือไม้สั่นกดเปิดและเริ่มถ่าย คุณหมอช่วยนับการหายใจและสั่งงานพยาบาลไปด้วย ยิ่งตอนนี้เบ่งคลอดจนหน้าแดง“อ้าว เด็กโผล่แล้วนะครับ” แพทย์ผู้ทำการคลอดบอกออกมา พยาบาลช่วยลุ้นอยู่ใกล้ ๆ ส่งผ้ารองรับเด็กให้คุณหมอ ก่อนจะช่วยกันเบ่งและคุณหมอจับเด็กดึงออกมา“ผู้ชายนะครับ” คุณหมอเปล่งเสียงบอกคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ว่าได้ลูกชาย หินถลาเข้ามาดูหน้าลูกและจับภาพตอนที่คุณหมอยื่นเด็กน้อยให้กับพยาบาลที่รอรับอยู่ พยาบาลอีกคนส่งอุปกรณ์ในการตัดสายสะดือให้“คุณหินจะตัดสายสะดือให้ลูกชายไหมครับ” เสียงคุณหมอผู้ทำคลอดหันไปถามคุณพ่อมือใหม่ที่มีหน้าตื่นเต้นออกมาอย่างเห็นได้ชัดหินรับกรรไกรจากมือคุณหมอด้วยอาการสั่นเทา ก่อนจะตัดไปยังสายสะดือของลูก เสียงเขาถอนหายใจออกมาดัง ๆ เหมือนโล่งอก ยิ้มออกมาทั้งน้ำตา“สิบเอ็ดนาฬิกาสิบเก้านาทีค่ะ” พยาบาลที่จ้องนาฬิกาอยู่ส่งเสียงบอกเวลาคลอด ทุกค
“อะไรกันคะ” เธอถามบุรุษพยาบาล “เป็นลมหน้ามืดเลยต้องเข็นมาส่งครับ” เขาทำหน้ายิ้ม ๆ บอกขิง“ไม่เป็นอะไรมากหรอก พี่จะกลับบ้านหมอบอกว่าถ้าไม่ดีขึ้น ให้กลับมาเติมน้ำเกลือ พรุ่งนี้” หินบอกออกมาสีหน้าเรื่อย ๆ“เดี๋ยวเชิญญาติจ่ายเงินทางด้านนี้ครับ” บุรุษพยาบาลผายมือให้ขิงเดินตามไปที่เคาน์เตอร์ฝ่ายการเงินที่อยู่ใกล้ ๆ“มะม่วง คุณปั๋งไม่ได้กินของผมหมดนะครับ” เขายังมีแรงทวงของกินนึกเปรี้ยวปากมาอีกตงิด ๆ มองปั๋งด้วยตาขวาง“โธ่คุณหิน ผมกินไปคำเดียวคายออกแทบไม่ทันมะม่วงอะไรเปรี้ยวสาด” ปังลาก เสียงต้องตีแขนเขาดังเพี้ยะ“ก็มันจริงนี่น่า กินเข้าไปได้ยังไง” ทั้งยังทำสีหน้าท่าทางแบบเปรี้ยวสุด ๆ“กลับกันได้แล้วค่ะ เผื่อคนเปื่อยต้องการพักผ่อนค่ะ” ขิงหยอกเป็นสามีเน้นคำว่า เปื่อย... แทนคำว่าป่วย“ผมจะแพ้ท้องอีกนานไหมครับ” หินส่ายหน้าเบา ๆ ด้วยความอ่อนใจตอนนี้ยกมือปิดปากทำท่าจะอ้วกออกมาอีก“นอนที่นี่ไม่ดีกว่าเหรอคะ” ขิงบอกออกมาด้วยความเป็นห่วง“ไม่เอา จะกลับบ้านอยากนอนกอดเมีย นอนที่นี่ก็ไม่ได้นอนกอดขิงอะดิ” ยังไม่วายออดอ้อนเมีย“พี่หินเนี่ย อายเพื่อน ๆ มั่ง” ขิงออกอาการเขิน“ไม่เป็นไร พี่เริ่มจะชิน” ปั๋งแซว
“ครับค่อยยังชั่วได้มะม่วงเข้าไป” เขาหน้ามีสีเลือดขึ้นมาบ้าง เดินก้าวขยับคล้องแขนขิงเข้าไปในโรงพยาบาล โชคดีโรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้เปิดบริการทุกแผนกจนถึงสี่ทุ่มครึ่ง“เดี๋ยวนี้โรงพยาบาลเข้าบริการเอาใจคนทำงานนะ” ต้องเอ่ยชม“เอกชนนี่คะ เงินทั้งนั้น” ขิงตอบทำท่านับธนบัตรพนักงานต้อนรับลงทะเบียนแล้วพาทั้งสามคนไปยังฝ่ายสูตินรีแพทย์นั่งไม่นานก็ถึงคิวตรวจ“แล้วพี่หินต้องตรวจที่นี่ด้วยหรือต้อง” ขิงทำหน้าสงสัยถามเพื่อนเพราะต้องเธอเป็นคนจัดการทุกอย่าง“เออน่ะ เดี๋ยวรู้เอง” ต้องยกยิ้มให้ทั้งสองคนนั่งได้สักพักพยาบาลก็พาขิงไปตรวจตามขั้นตอน เมื่อรออีกสักครู่ก็เรียกให้เข้าพบแพทย์ ต้องดันหลังพี่หินที่นั่งหน้าตรงยังมึนหัวอยู่นิด ๆ เข้าไปกับขิงด้วย“สรุปคุณสุกฤษตาท้องนะครับ” ขิงกับหินมองหน้าคุณหมอก่อนจะหันมามองกัน พี่หินเฮขึ้นมาทันที“ท้องแสดงว่าผมจะมีลูกหรือครับ” เขาถามคุณหมอออกไปน้ำเสียงตื่นเต้นเอามาก ๆ“ครับ ท้องครับ” หมอหัวเราะขันในท่าทางของเขาที่แสดงออกมาเขากระโดดตัวโยน จนขิงต้องลุกขึ้นดึงกระตุกแขนเขาเอาไว้“เก็บความดีใจเอาไว้ก่อนครับ วันนี้คุณพ่อคุณแม่อยากเห็นหน้าลูกหรือยัง” คุณหมอทำเสียงหลอกล่อหินเ