“น่าจะไม่เกินสามชั่วโมงครึ่ง ถ้าคุณขิงเหนื่อยก็นอนหลับไปก่อนก็ได้นะครับ” เขาบอกด้วยน้ำเสียงอาทรและเป็นมิตร เธอได้แต่พยักหน้าพร้อมกับยิ้มให้
ในหัวสมองตอนนี้นึกถึงวันที่เธอได้ตกปากรับคำชวนของเขา เพราะวันนั้นที่ห้อง เบรกกลางวันของพนักงานบนชั้นของเธอ มีฮัทแฟนเก่ามานั่งจิบกาแฟอยู่ด้วย ด้วยอารมณ์โมโหและอยากประชดเขาจึงรับคำ ขิงตอบตกลงรับปากเขาไปแบบง่าย ๆ และเธอยิ่งสะใจเมื่อเห็นสายตาของฮัทที่ส่งสายตามายังเธอ
แต่เมื่อมานั่งทบทวนในวันหลังว่าจะปฏิเสธหินอย่างไร เธอก็กลัวเสียคำพูดอีกอย่าง เธอนึกคำพูดที่จะปฏิเสธไม่ออกจริง ๆ เมื่อเห็นหน้าของหินแล้ว
ชายหนุ่มเหลือบมองผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ นึกถึงวันที่ฝนตกหนักเขาขับรถกระป๋อง ร้าย ๆ ออกมาจากออฟฟิศฝนตกหนักทำให้เขาต้องขับรถช้า ๆ เพราะที่ปัดน้ำฝนก็เริ่มจะไปแล้ว เห็นขิงดึงฉุดกระชากลากถูกันกับฮัทที่ป้ายรถเมล์ ก่อนที่ชายหนุ่มจะถูกเธอสะบัด มือไปที่หน้าของเขาอย่างแรงจนหน้าหัน ชายหนุ่มหุนหันกลับไปขึ้นรถของตัวเองที่จอด อยู่แล้วขับพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
ขิงทรุดตัวนั่งที่ป้ายรถเมล์ตัวเปียกโชก ร้องไห้ตัวโยน เขาได้แต่จอดรถมองดูเธออยู่ห่าง ๆ รอจนเธอก้าวขึ้นรถเมล์ เขาจึงได้ออกรถกลับบ้านไป ตั้งแต่วันนั้นเขาก็พยายามเข้ามาพูดคุยกับเธอ และพอเธอพูดถึงวันพักร้อน เขาจึงเอ่ยชวนเธอมาเที่ยวด้วยกัน
เธอทอดสายตามองออกไปที่นอกหน้าต่าง ก่อนจะเอนเบาะหลับตาลง เขาแอบมอง เธอเห็นขนตายาวเป็นแพร การที่เธอแต่งหน้าอ่อน ๆ และทาด้วยลิปกลอสสีบางเบา ก็น่า มองไปอีกอย่าง
ไม่เหมือนพราวพิศที่แต่งตัวแต่งหน้ายั่วยวน เห็นแล้วเข็ดฟันกับสีปากที่แดงแจ๊ดนั้น ทุกคนในที่ทำงานต่างคิดว่าเขาคงได้แอ้มเธอแล้วแน่ ๆ เพราะไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ พราวพิศแทบจะเอาร่างกายมาเกยกับเขาตลอดเวลาที่นั่งใกล้ ๆ และที่พราวพิศหันไปสนใจฮัท เพราะฮัททำท่าสนใจ และชายหนุ่มก็คงสนองตอบด้วย แต่สำหรับหิน พราวพิศเธอไม่ใช่สเปกเพราะมีผู้หญิงแบบนี้เข้ามาในชีวิตของเขามากพออยู่แล้ว
หินไปแอบสืบมาว่าขิงกับฮัททั้งสองคนเป็นแฟนกันตั้งเจ็ดปี คงจะไปถึงขั้นไหนต่อ ไหนกันแล้วแน่ ๆ แต่พอแฟนมาเจอคนที่แปลกใหม่เสียขนาดนั้น คงทนไม่ได้และรสชาติคงจะมันกว่าเห็น ๆ
“เฮ้อ” เขาถอนหายใจออกมานึกสงสารเธอไม่น้อย
“ใกล้จะถึงแล้วนะครับคุณขิง จะเอาอะไรไหมครับ” เขาเอ่ยถามเธอเมื่อแวะเติม น้ำมันก่อนที่จะจอดที่หน้าร้านสะดวกซื้อในปั๊มในเขตปราณบุรี
เธองัวเงียตื่นขึ้นขยี้ตาก่อนจะเอนเบาะขึ้นนั่ง
“ค่ะ เดี๋ยวขิงขอซื้อของสักสองสามอย่างนะคะ” เธอบอกเขาก่อนที่จะก้าวลงจากรถ เขาเห็นเธอเดินเข้าไปในร้านขายยา ก่อนที่เขาจะดับเครื่องยนต์และเดินลงไปเข้าร้าน สะดวกซื้อใกล้ ๆ
“ฉันว่าแกน่าจะซื้อยาคุมฉุกเฉินไปด้วยนะ” เสียงต้องยังก้องกังวานอยู่ในหู “แกจะบ้าเหรอใครจะมาทำอะไรฉัน” เธออุทานออกมาด้วยความตกใจ
“แกอยากจะเป็นเหมือนฉันใช่ไหม นี่ดีนะที่พี่ปั๋งเขารักฉัน และรับผิดชอบ แต่แกไว้ใจไอ้หน้าจืดนั่นเหรอ ผู้ชายนะแกคลำ ๆ ไม่มีหางมันก็จับเสียบทั้งนั้นแหละ” เธอให้เหตุผลเพราะเจอกับตัวเองมาแล้ว
ขิงมองซ้ายมองขวาเมื่อไม่เห็นใครอยู่ข้างหลัง มีเธอและเภสัชกรที่เป็นผู้หญิงอยู่ในร้านเท่านั้นจึงบอกออกไป
“สวัสดีค่ะต้องการยาแบบไหนคะ” เภสัชกรเอ่ยถามลูกค้าสาวเมื่อเห็นเธอผลักประตู เข้ามา
“อยากได้ยาคุมฉุกเฉินน่ะค่ะ” เธอพูดออกไปแล้วหน้าแดงร้อนออกผ่าว นึกอายเภสัชกรหญิงคนนั้นเหมือนกัน เธอไม่พูดอะไรหันไปหยิบยาที่วางอยู่ด้านหลังมาแนะนำวิธีกิน แล้วยังให้เธอซื้อยาคุมแบบยี่สิบแปด เม็ดมาด้วยอีกหนึ่งแผง ขิงรีบจ่ายเงินและหยิบยาใส่ในกระเป๋าสะพายอย่างรวดเร็ว
“ฉันนี้ท่าจะบ้าไปจริง ๆ กันไว้ดีกว่าแก้ที่หลังนะยายขิง เหมือนยายต้องว่าดีกว่าเธอ คุยกับตัวเอง
เธอเข้าไปซื้อของใช้ในร้านสะดวกซื้อ ขิงเห็นหลังหินไว ๆ ว่าเขากำลังเลือกดูและ หยิบถุงยางอนามัยอยู่ เธอจึงแกล้งเลือกของใช้นานมาก และเห็นเขาเลือกซื้อเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์หลายขวดที่วางอยู่บนชั้นด้านหลังพนักงาน เธอรอจนเขาจ่ายเงินเสร็จแล้ว เดินออกไป
“เฮ้ย... ต้องระวังตัวเยอะ ๆ แล้วไอ้ขิงเอ๊ย”
เมื่อเขาเลี้ยวรถเข้าไปในซอยที่ค่อนข้างเปลี่ยวและดูเหมือนจะมีบ้านอยู่ไม่กี่หลัง ปากทางเขียนว่า “ปากน้ำปราณ” เธอได้แต่นั่งนิ่ง ๆ ไม่กล้าถามอะไรเขาขับรถเข้าไปลึก พอดูก่อนจะเลี้ยวเข้าซอยแคบ ๆ ที่ไม่ได้ลาดยาง และจอดอยู่ที่ประตูรั้ว ที่เธอเห็นกำแพง ยาวสุดลูกหูลูกตา เขากดแตรไปสามสี่ครั้ง ก่อนที่จะมีชายวัยกลางคนออกมาเปิดประตูให้
“บ้านคุณหินหรือคะ” เธอหันไปถามเขา เพราะแค่รั้วก็ดูมีเงินมีฐานะมาก ไหนจะรถ ที่เขาขับมารับเธอวันนี้อีก และเขาจะแต่งตัวโทรม ๆ เชย ๆ ไปทำไมกันนะ
“ครับ” เขาขับรถเข้าไปจอดในที่จอดรถ ชายวัยกลางคนรีบเดินเข้ามาหา เห็นหินยก มือไหว้ก่อนจะสั่งให้ยกกระเป๋าทั้งหมดเข้าไปไว้ในบ้าน มันมืดมากแล้วและไฟที่ส่องสว่าง อยู่ก็ไม่พอให้เห็นรายละเอียดต่าง ๆ ของตัวบ้านมากนัก แต่มีบ้านที่ปลูกติด ๆ กันเหมือน เป็นห้อง มีทางเดินเชื่อมกันอยู่หกหลัง ดูคล้ายรีสอร์ต ต้นไม้ที่ถูกตัดตกแต่งตามทางที่เขา นำเธอเดินไป ถ้าดูตอนกลางวันน่าจะสวยมาก แต่ตอนนี้มันดูน่ากลัวไปสักหน่อย
“มีความสุขไหมจ๊ะคนสวย” เขาลุกขึ้นยืนใช้แขนรั้งตัวเธอให้ลุกขึ้นด้วย ขิงที่หอบเหนื่อยอย่างแรงขาสั่นแทบยืนไม่ไหวต้องโอบรัดตัวพี่หินไว้ยึดเหนี่ยว เขาก้มลงไปหา ความหวานที่ริมฝีปากอวบอุ่นนั้นอีกครั้งอย่างไม่รู้จักเบื่อ เธอจูบตอบเขาแบบเร้าใจสมใจ คนตัวสูงที่เร้าอารมณ์ปรารถนาให้สาวเจ้ากระเจิดกระเจิง“พี่คิดถึงขิงทุกคืนเลย คิดถึงริมฝีปากอุ่น ๆ นี้ด้วย” เขายกมือแตะริมฝีปากของเธอส่งสายตาเว้าวอน อีกมือจับมือของภรรยาสาวให้ลงไปกุมกล่องดวงใจที่ตอนนี้กำลังหาทาง ระบายของออกมันตึงมันแน่นอัดอยู่ข้างในจนบวมเป่งเห็นเส้นเลือดปูดพองเธอสบตาเขารู้ได้ว่าพี่หินต้องการอะไรหญิงสาวทรุดตัวนั่งลงคุกเข่าอยู่เบื้องหน้า มือหนึ่งลูบไล้หยอกล้อกับกล่องดวงใจ อีกมือจับกำรูดเอาไว้แน่น แค่นี้คนที่ไม่ได้นอนกับเมียเกือบเดือนแทบดิ้นตาย เสียงซี้ดซ้าดลอดไรฟันออกมาไม่ขาดปากจนต้องทรุดนั่งลงที่ขอบอ่าง ขิงยกหน้าขึ้นไปยิ้มให้แบบยวนใจส่งปลายลิ้นแตะเบา ๆ ตัวพี่หินแทบกระเด้ง สวนขึ้นทันทีตอนเธออ้างับปลายเนื้อแข็งตัน ๆ นั้น“อือ” ยิ่งครางประท้วงตอนที่เขากระแทกลำใหญ่อัดเข้ามาแทบชนคอหอย สองมือพี่หินลูบปลอบโยนทั้งสองแก้มที่ตอนนี้ตอบเข้าดูดจ๊วบ
“จะไหวหรือคะนายแม่” ขิงถามด้วยความเป็นห่วง“เออน่ะ ถ้าไม่ไหวยังไงแม่จะโทรไปตาม” เธอพูดก่อนจะส่งเสียงหัวเราะขึ้นอีกครั้ง นายแม่ลองเอาหลานไปนอนด้วยทีไรต้องเอามาส่งแม่ขิงทุกที“งั้นเราสองคนไปก่อนนะครับ เพราะว่าจะพาขิงไปร้านทำผมด้วยกลัวสวยน้อยกว่าแฟนของเพื่อนคนอื่น ๆ” ปากบอกแม่แต่สายตาก็จ้องสบภรรยาสาวตลอดขิงรีบเข้าไปอุ้มเจ้าตัวเล็กก่อนจะหอมแก้มเด็กน้อยไปหลายที“อย่าดื้ออย่าซนกับคุณย่าคุณยายนะครับ” ขิงสั่งลูกชายเด็กน้อยทำตาปริบ ๆ ไม่เข้าใจหรอก แต่ก็หัวเราะเอิ้กอ้ากตอนแม่หอมไปที่พุง“ม้วนเอ้ย... ม้วน เอาปาปูนไปเดินเล่นก่อนไป เดี๋ยวเห็นแม่เดินหายไปลับตาจะร้องเอาเปล่า ๆ” นายแม่เรียกม้วนที่ทำงานอยู่ใกล้ ๆ เธอรีบวางมือจากกองผ้าก่อนจะมารับปาปูนไปจากมือของขิง“จะห้าโมงแล้ว” หินมองนาฬิกาที่ข้อมือใช้ฝ่ามือแตะข้อศอกให้ลุกขึ้นตาม พอพ้นออกมาจากตรงนั้น“พี่หินต้องทำเวลา คิดถึงเมียอยากเอากับเมียใจจะขาด” เขากระซิบข้างหูของเธอ ขิงเงยหน้าขึ้นมองเขาทำหน้าแดง“อะไรก็ไม่รู้ พี่หินเนี่ย” เธอค้อนเขาทุบเอาเบา ๆ ที่หัวไหล่ พี่หินรีบจับมือขิงเอาไว้ก่อนจะพาเดินไปขึ้นรถ ตอนนี้เขาทำทางให้รถวิ่งเข้าไปถึงบ้านพักได้และ
สิบเอ็ดเดือนต่อมา“ไหน ไหน ไหย มาหายายสิลูก” ป้าใหญ่มาถึงก็ตรงดิ่งเข้าหาเจ้าตัวเล็กที่กำลังจ้ำม่ำเต็มไม้เต็มมือ เด็กน้อยยิ้มให้คลานอย่างเร็วเข้าไปหา ขิงมองตามลูกชายส่ายหน้าน้อย ๆ ก่อนจะยกมือไหว้ป้าของเธอ“ใครเรียกไปหมดเลยค่ะป้า หน้าเป็นมาก ๆ เจ้าเด็กคนนี้รู้ว่าจะมีคนอุ้มหรือพาไปเดินเล่นไปกับเขาทันที ดูท่าทางเจ้าชู้แต่เด็กเลยค่ะ” ขิงเล่าพลางหัวเราะ อยู่ที่นี่เธอก็ไม่เหนื่อยเท่าไรเพราะมีคนเยอะกว่าที่กรุงเทพฯ ได้ช่วยกันเลี้ยงกลายเป็นว่าหนุ่มน้อยปาปูนเข้าคนได้ง่ายเหลือเกิน“สงสัยได้เชื้อพ่อมาหรือเปล่าเนี่ย” ป้าใหญ่แซวคนตัวโตที่ไปรับเธอจากสนามบิน แล้วนั่งรถมาด้วยกันจากกรุงเทพฯขิงกับปาปูนมาอยู่ที่ปราณบุรีกับคุณย่าลิ้นจี่เพราะทนเสียงรบเร้าทุก ๆ วันของคุณย่าไม่ไหว แล้วยิ่งตอนนี้ปาปูนกำลังน่ารักน่าชังสุด ๆ สองแม่ลูกมาอยู่ที่นี่ได้เกือบเดือนหนึ่งแล้วหินกะว่าจะหยุดงานสักสิบวัน ป้าใหญ่ประจวบเหมาะอยากมาเยี่ยมทั้งสองคนจึงบินมาจากเชียงใหม่ ให้หินไปรับที่สนามบินแล้ววิ่งรถตรงดิ่งยาวมาปราณบุรีกันเลย“เป็นยังไง เหนื่อยกันไหมเธอ” ลิ้นจี่เดินมาจากหลังบ้านเพราะได้ยินเสียงรถวิ่งเข้ามาจึงออกมาดูเอ่ยทักเพื่
“เต็มที่แล้วค่ะ” เธอพูดแค่นั้นก่อนจะก้าวไว ๆ เปิดประตูเรียกคุณหมอที่รออยู่แล้วให้เข้ามาทำคลอด“คุณพ่อคะ เตรียมกล้องได้เลยนะคะ” พยาบาลคนเดิมหันมาบอกให้หินที่ยังนิ่งยืนดูทีมพยาบาลและแพทย์ที่กำลังช่วยขิงทำการเบ่งคลอดเขากระวีกระวาดหยิบกล้องขึ้นมา มือไม้สั่นกดเปิดและเริ่มถ่าย คุณหมอช่วยนับการหายใจและสั่งงานพยาบาลไปด้วย ยิ่งตอนนี้เบ่งคลอดจนหน้าแดง“อ้าว เด็กโผล่แล้วนะครับ” แพทย์ผู้ทำการคลอดบอกออกมา พยาบาลช่วยลุ้นอยู่ใกล้ ๆ ส่งผ้ารองรับเด็กให้คุณหมอ ก่อนจะช่วยกันเบ่งและคุณหมอจับเด็กดึงออกมา“ผู้ชายนะครับ” คุณหมอเปล่งเสียงบอกคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ว่าได้ลูกชาย หินถลาเข้ามาดูหน้าลูกและจับภาพตอนที่คุณหมอยื่นเด็กน้อยให้กับพยาบาลที่รอรับอยู่ พยาบาลอีกคนส่งอุปกรณ์ในการตัดสายสะดือให้“คุณหินจะตัดสายสะดือให้ลูกชายไหมครับ” เสียงคุณหมอผู้ทำคลอดหันไปถามคุณพ่อมือใหม่ที่มีหน้าตื่นเต้นออกมาอย่างเห็นได้ชัดหินรับกรรไกรจากมือคุณหมอด้วยอาการสั่นเทา ก่อนจะตัดไปยังสายสะดือของลูก เสียงเขาถอนหายใจออกมาดัง ๆ เหมือนโล่งอก ยิ้มออกมาทั้งน้ำตา“สิบเอ็ดนาฬิกาสิบเก้านาทีค่ะ” พยาบาลที่จ้องนาฬิกาอยู่ส่งเสียงบอกเวลาคลอด ทุกค
“อะไรกันคะ” เธอถามบุรุษพยาบาล “เป็นลมหน้ามืดเลยต้องเข็นมาส่งครับ” เขาทำหน้ายิ้ม ๆ บอกขิง“ไม่เป็นอะไรมากหรอก พี่จะกลับบ้านหมอบอกว่าถ้าไม่ดีขึ้น ให้กลับมาเติมน้ำเกลือ พรุ่งนี้” หินบอกออกมาสีหน้าเรื่อย ๆ“เดี๋ยวเชิญญาติจ่ายเงินทางด้านนี้ครับ” บุรุษพยาบาลผายมือให้ขิงเดินตามไปที่เคาน์เตอร์ฝ่ายการเงินที่อยู่ใกล้ ๆ“มะม่วง คุณปั๋งไม่ได้กินของผมหมดนะครับ” เขายังมีแรงทวงของกินนึกเปรี้ยวปากมาอีกตงิด ๆ มองปั๋งด้วยตาขวาง“โธ่คุณหิน ผมกินไปคำเดียวคายออกแทบไม่ทันมะม่วงอะไรเปรี้ยวสาด” ปังลาก เสียงต้องตีแขนเขาดังเพี้ยะ“ก็มันจริงนี่น่า กินเข้าไปได้ยังไง” ทั้งยังทำสีหน้าท่าทางแบบเปรี้ยวสุด ๆ“กลับกันได้แล้วค่ะ เผื่อคนเปื่อยต้องการพักผ่อนค่ะ” ขิงหยอกเป็นสามีเน้นคำว่า เปื่อย... แทนคำว่าป่วย“ผมจะแพ้ท้องอีกนานไหมครับ” หินส่ายหน้าเบา ๆ ด้วยความอ่อนใจตอนนี้ยกมือปิดปากทำท่าจะอ้วกออกมาอีก“นอนที่นี่ไม่ดีกว่าเหรอคะ” ขิงบอกออกมาด้วยความเป็นห่วง“ไม่เอา จะกลับบ้านอยากนอนกอดเมีย นอนที่นี่ก็ไม่ได้นอนกอดขิงอะดิ” ยังไม่วายออดอ้อนเมีย“พี่หินเนี่ย อายเพื่อน ๆ มั่ง” ขิงออกอาการเขิน“ไม่เป็นไร พี่เริ่มจะชิน” ปั๋งแซว
“ครับค่อยยังชั่วได้มะม่วงเข้าไป” เขาหน้ามีสีเลือดขึ้นมาบ้าง เดินก้าวขยับคล้องแขนขิงเข้าไปในโรงพยาบาล โชคดีโรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้เปิดบริการทุกแผนกจนถึงสี่ทุ่มครึ่ง“เดี๋ยวนี้โรงพยาบาลเข้าบริการเอาใจคนทำงานนะ” ต้องเอ่ยชม“เอกชนนี่คะ เงินทั้งนั้น” ขิงตอบทำท่านับธนบัตรพนักงานต้อนรับลงทะเบียนแล้วพาทั้งสามคนไปยังฝ่ายสูตินรีแพทย์นั่งไม่นานก็ถึงคิวตรวจ“แล้วพี่หินต้องตรวจที่นี่ด้วยหรือต้อง” ขิงทำหน้าสงสัยถามเพื่อนเพราะต้องเธอเป็นคนจัดการทุกอย่าง“เออน่ะ เดี๋ยวรู้เอง” ต้องยกยิ้มให้ทั้งสองคนนั่งได้สักพักพยาบาลก็พาขิงไปตรวจตามขั้นตอน เมื่อรออีกสักครู่ก็เรียกให้เข้าพบแพทย์ ต้องดันหลังพี่หินที่นั่งหน้าตรงยังมึนหัวอยู่นิด ๆ เข้าไปกับขิงด้วย“สรุปคุณสุกฤษตาท้องนะครับ” ขิงกับหินมองหน้าคุณหมอก่อนจะหันมามองกัน พี่หินเฮขึ้นมาทันที“ท้องแสดงว่าผมจะมีลูกหรือครับ” เขาถามคุณหมอออกไปน้ำเสียงตื่นเต้นเอามาก ๆ“ครับ ท้องครับ” หมอหัวเราะขันในท่าทางของเขาที่แสดงออกมาเขากระโดดตัวโยน จนขิงต้องลุกขึ้นดึงกระตุกแขนเขาเอาไว้“เก็บความดีใจเอาไว้ก่อนครับ วันนี้คุณพ่อคุณแม่อยากเห็นหน้าลูกหรือยัง” คุณหมอทำเสียงหลอกล่อหินเ