Share

ตอนที่ 4.  มนุษย์นก

last update Last Updated: 2024-12-28 00:34:35

แค่คำพูดเรียบๆง่ายแต่อ่อนโยนของพี่ทศ ทำให้ทำนบน้ำตาของสีฝุ่นที่เก็บกักมาตลอดทั้งวันพังทลายลง เธอร้องไห้โฮออกมาอย่างสุดกลั้น สะอึกสะอื้นไม่อาย เมื่ออยู่กับคนที่เธอรู้สึกว่าเปิดใจคุยได้ทุกเรื่องแบบนี้ เป็นอันว่าเข้าใจกันได้โดยไม่ต้องพูด ไม่มีปัญหาขาดจานกระดาษหรือช้อนส้อมพลาสติกอะไรนั่นจริงๆหรอก

            “พี่เป็นห่วง คิดว่าฝุ่นคงรู้สึกแย่แน่ๆ ก็เลย อยากให้มีพื้นที่ลี้ภัยนิดนึงน่ะ” ชายหนุ่มบุคลิกนุ่มนวลพูดพลางยื่นกล่องกระดาษทิชชู่ให้ “ผ้าเช็ดหน้าก็มีนะ ซักสะอาดเรียบร้อย แต่พี่กลัวฝุ่นหาว่าพี่หลุดมาจากยุคบ้านทรายทอง”

            หญิงสาวขำพรืดออกมาอย่างสุดกลั้นจนน้ำมูกไหลออกมาเต็มกระดาษ ชายหนุ่มรุ่นพี่หัวเราะเอ็นดูแล้วก็หยิบกระดาษทิชชู่เพิ่มให้อีก เสียงหัวเราะที่ตามมาหลังจากนั้น ทำให้สีฝุ่นคลายความรู้สึกแย่ๆลงไปได้มากทีเดียว

            “ทีหลัง มีอะไรก็มาหาพี่ได้นะ ไม่ต้องเกรงใจ อย่าคิดว่าเป็นคนอื่น” พี่ทศว่า ขณะกำลังขับรถออกจากหน้าสวนสาธารณะ ใกล้เวลาแล้ว ทั้งคู่ต้องรีบกลับไปเข้างานเลี้ยงให้ทันก่อนที่เจ้านายจะมา

            สีฝุ่นอมยิ้ม ภูเขาลูกโตที่ทับอกอยู่เหมือนถูกทลายลงไปเมื่อครู่ “ขอบคุณค่ะพี่ทศ พี่ทศดีกับฝุ่นมาตลอดเลย จริงๆฝุ่นคิดถึงตอนที่ทำอยู่พัสดุกับพี่บ่อยๆนะคะ พอคนน้อย เรื่องวุ่นวายก็น้อย เหนื่อยกับงานยังดีกว่าเหนื่อยกับความหลากหลายของคน”

            “อื้ม” ชายหนุ่มตอบ “พี่ก็ชอบ...ตอนนั้น แต่สีฝุ่นชอบงานสำนักพิมพ์ใช่ไหม ฝุ่นเขียนบทความเก่งมาก พี่เห็นงานแต่ละชิ้นออกมาดีๆตลอดเลย ถ้าฝุ่นรู้สึกไม่ดีที่ต้องมาทำงานทุกวัน เรารับงานไปฟรีแลนซ์ก็ได้นี่ เจ้านายเขาเห็นฝีมือเราแล้ว เขาไว้ใจมีงานต่อเนื่องแน่นอนไม่ต้องเป็นห่วงเลย บางที การที่เราอยู่ที่ไหนแล้วมีความสุข สบายใจมากกว่า มันอาจจะเป็นคำตอบก็ได้” คำพูดเหล่านั้นล้วนเต็มไปด้วยข้อความแห่งความปรารถนาดี แต่เพราะอะไรก็ไม่รู้ ที่ทำให้หญิงสาวรู้สึกวาบในใจแปลกๆ เธอแอบชำเลืองมองหน้าหนุ่มรุ่นพี่ ในกรอบแว่นตาสีเงินนั้น ดวงตาอบอุ่นมองตอบกลับมาสบตากันอยู่ครู่หนึ่ง เธอเห็นแววประหม่าในนั้น แต่ก็คิดว่าตัวเองอาจคิดมากไปเอง

            ก็จริง เรื่องงาน เธอเคยคิดบ่อยๆเรื่องทำงานที่บ้าน แต่เหตุผลที่ทำให้มีแรงตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวออกจากบ้านทุกวันมันไม่ใช่เรื่องงาน จะให้ทำยังไงได้ แค่คิดถึงหน้าพี่นภขึ้นมาหัวใจก็พองโตเต็มอก เลือดสูบฉีดอบอุ่นขึ้นมาทันที เออ จริงด้วย แตงกวาบอกว่าพี่นภมีเรื่องอะไรสักอย่างจะประกาศนี่นา หวังว่าคงไม่...

            “ฝุ่นครับ คืนนี้ หลังงานเลี้ยงจบ พี่ขอขับรถไปส่งได้ไหม” จู่ๆพี่ทศก็พูดขึ้นมา น้ำเสียงของเขาประหม่าปนตื่นเต้น ความรู้สึกแปลกๆนี้ทำให้สีฝุ่นรู้สึกใจคอไม่ดีและกลับมาอึดอัดอีกครั้ง เธอพยายามบอกตัวเองว่า คงไม่ใช่อย่างที่คิด แต่เมื่อหันไปมองหน้าชายหนุ่มอ่อนโยนคนที่กำลังขับรถกลับเข้าตึกมันก็ยิ่งตอกย้ำ แก้มของเขาแดงเรื่อ เมื่อจอดรถแล้วหันมาสบตากับเธอในความมืดสลัวของอาคารจอดรถชั้นสอง

            “นะ พี่จะรอ คืนนี้ขอพี่ขับรถไปส่ง พี่มีเรื่องสำคัญอยากบอกฝุ่นมานานแล้ว”

ที่ห้องจัดเลี้ยงชั้นสอง ดูเหมือนพนักงานส่วนใหญ่พากันเตรียมเสื้อผ้าสวยๆหล่อๆมาเปลี่ยนเพื่อเตรียมเข้างาน งานขอบคุณซัพพลายเออร์สำหรับบริษัทนี้ เป็นงานใหญ่รองจากงานปีใหม่ มักจัดขึ้นในช่วงกลางปี สีฝุ่นไม่ค่อยได้ใส่ใจนักเพราะงานนี้ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของส่วนงานเธอ เสื้อผ้าหน้าผมมายังไงก็ไปอย่างงั้น เพราะแต่เดิมก็ไม่ค่อยได้ใส่ใจเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว

            พอรถจอดสนิท สีฝุ่นหันมายิ้มไวๆให้กับชายหนุ่มรุ่นพี่ “ขอบคุณมากนะคะพี่ทศ” เธอว่าแล้วรีบก้าวลงจากรถก่อนที่ฝ่ายตรงข้ามจะพูดอะไรออกมาอีก และวางแผนในใจว่า จะร่วมงานแค่พอให้เจ้านายเห็นหน้าแล้วรีบหลบออกจากงานไม่ให้ใครรู้ หนีกลับบ้านก่อนที่พี่ทศจะพยายามมาพูดอะไรแปลกๆอีก

            สีฝุ่นเดินเข้าตึก กำลังจะเปิดประตูกระจกเข้าไปในงาน แต่ก็เกิดนึกขึ้นได้ว่าเมื่อตอนที่เดินออกมาจากออฟฟิศชั้นสี่ เธอไม่ได้หยิบออกมาทั้งกระเป๋าและวรรณกรรมกากีฉบับหนังสือที่เจ้านายให้มาอ่าน ยังอ่านค้างครึ่งไว้เมื่อช่วงเย็น จึงเดินเลี้ยวไปกดปุ่มลิฟต์ขึ้น

            ประตูลิฟต์เปิดออก หญิงสาวร่างท้วมก้าวเข้าไปในลิฟต์ และรู้สึกได้ว่ามีอีกสามคนเดินตามเข้ามา เป็นพนักงานในแผนกอื่นที่จะขึ้นไปชั้นสาม

            เมื่อประตูลิฟต์ปิด เธอก็ได้ยินสามคนด้านหลังกระซิบกับ “ใช่ป่ะวะ”

            “ชัวร์ ป็อกกี้กล้วยช็อกโกแลต” แล้วทั้งสามก็หัวเราะกันคิกคัก สีฝุ่นหน้าชา แต่ก็ไม่ได้หันไปมอง

            ลิฟต์กระตุกนิดหนึ่งตรงชั้นสอง ไฟตกวูบ สาวสามคนด้านหลังร้อง อุ๊ย ว้ายกันเบาๆ คนหนึ่งพูดขึ้น “สงสัยลิฟต์หนักอ่ะแก บรรทุกน้ำหนักเกิน” แล้วก็หัวเราะกันคิกคักอีก

            สีฝุ่นหันไปมองช้าๆ ปากสั่น รู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้ ทั้งสามเห็นหน้าสีฝุ่นก็พากันตกใจ หลบตาวูบวาบ

            ลิฟต์เปิดอีกครั้งที่ชั้นสาม สามคนนั้นรีบเดินออกไปจากลิฟต์ สีฝุ่นหันหน้าเข้าด้านใน หลับตา สูดหายใจเข้าแล้วถอนใจยาว เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เธอก็ต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อเห็นภาพในกระจกเงาด้านใน ปรากฏภาพ ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่คิ้วเข้ม ตาคม เปลือยท่อนบน นุ่งโจงกระเบนสีแดงปักดิ้นทองเป็นประกายแวววาว ที่น่าตื่นตะลึงที่สุดคือที่ด้านหลังของเขามีปีกนกสีน้ำตาลอ่อนขนาดใหญ่งอกออกมาจากผิวเนื้อด้วย

            พี่นภเหรอนั่น ! นี่... แค่งานเลี้ยงบริษัท ต้องจัดเต็มขนาดนี้เลยเหรอ เธอคิด หลับตาปี๋ แล้วสะบัดหน้า ลืมตามองกระจกอีกรอบ คราวนี้ชายหนุ่มรุ่นพี่ที่สีฝุ่นแอบชอบมานานในชุดทำงานปกติยืนมองหน้าเธองงๆอยู่ “สีฝุ่น เป็นอะไรหรือเปล่า ไม่สบายเหรอ” เสียงก้องกังวานของพี่นภทำเธอสะดุ้ง

            หญิงสาวรีบส่ายหน้าดิก หายใจไม่ทั่วท้องขึ้นมาทันที ชั่วเวลาแค่ไม่กี่นาทีตั้งแต่ลานจอดรถจนมาถึงนี่ มีสิ่งแปลกๆที่มากระทบความรู้สึกเธอมากจนแปรปรวนไปหมด ทำอะไรไม่ถูกแล้ว 

            “เปล่าคะ ไม่เป็นไร ฝุ่นโอเค”

            ชายหนุ่มพยักหน้า “อืม ดีแล้วละ เข้มแข็งไว้นะ เรื่องคลิปเมื่อบ่าย ไอ้คนทำมันก็เกินไปจริงๆ ไม่รู้จักเห็นใจคนอื่นเขาเสียบ้าง ถ้ารู้ตัวนะ พี่จะเล่นมันให้หนักเลย”

            หญิงสาวอมยิ้ม นึกดีใจที่พี่นภก็แคร์เธอด้วยเธอนึกพลางอยากให้ออฟฟิศอยู่สักชั้น 25 จะได้อยู่ด้วยกันสองคนแบบนี้นานอีกสักหน่อย “ช่างมันเถอะค่ะพี่นภ  เดี๋ยวพรุ่งนี้คนก็ลืม”

            ประตูลิฟต์เปิดออกนภเดินออกไปที่ออฟฟิศสำนักพิมพ์ สีฝุ่นรีบตามเข้าไป ที่โต๊ะตัวเอง หยิบกระเป๋าสะพาย กุลีกุจอจะเดินออกมาให้ทันพี่นภที่เดินลิ่วกลับไปที่ลิฟต์ก่อนแล้ว

            เธอกำลังจะเอ่ยปากเรียกไว้ แต่ประตูลิฟต์เปิดอีกครั้ง จูน สาวสวยแผนกการตลาดชะโงกหน้าออกมาพอดี “พี่นภ อยู่นี่จริงด้วย จูนก็เดินตามหา”

            สีฝุ่นใจร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อเห็นชายหนุ่มในดวงใจของเธอยิ้มสว่างไสวเต็มหน้า “พี่ลืมของเลยกลับมาเอาที่โต๊ะ จะไปแล้วจ้ะ” ยังอุตส่าห์หันมาเรียกสีฝุ่น “เอ้า สีฝุ่น มาสิ กดลิฟต์รอเนี่ย”

            หญิงสาวร่างอวบที่ใจเหี่ยวฟีบเหลือนิดเดียวยืนนิ่งขาตาย บรรยากาศออร่าสีชมพูเต็มลิฟต์ขนาดนั้นขืนเข้าไปใกล้กว่านี้ใจคงพังยับไปยิ่งกว่านี้อีก “ไม่เป็นไรค่ะพี่ ฝุ่นจะไปเข้าห้องน้ำก่อน ไปกันก่อนเลยค่ะ”

            สีฝุ่นถอนหายใจยาวหลังลิฟต์ปิดลง เธอตัดสินใจเดินลงบันไดแทนลงลิฟต์ กระจกผนังตรงบันไดที่เคยใช้เป็นจุดพักสายตา

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่92 จบบริบูรณ์

    แม่ของเธอยิ้มกว้าง ดวงตาสดชื่น ความสุขแผ่เต็มใบหน้าแม้ร่างกายจะซูบผอมหลังจากต้องเฝ้าไข้เธอมายาวนาน เอ่ยตอบน้ำตาคลอ “ให้อ้วนเป็นช้างแม่ก็เลี้ยงไหว ขอแค่ลูกแม่ปลอดภัย อย่าเป็นอะไรไปอีกก็พอแล้ว” แตงกวาถลามาถึงโรงพยาบาลเพียงเพื่อจะพบว่า โรงพยาบาลห้ามเยี่ยมเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 เธอจึงต้องนั่งอยู่ที่ด้านล่างของโรงพยาบาล แล้ววิดีโอคอลคุยกับเพื่อนรัก “แก สรุปเรื่องตอนนั้นที่แกกลับมาในร่างนางแบบวิกตอเรียซีเคร็ท น่ะ เรื่องจริง ฉันไม่ได้ฝัน ไม่ได้บ้าใช่ไหม” แตงกวาถาม หลังจากเห็นเพื่อนสบายดีแล้ว และกำลังกินเอแคล์รที่เธอซื้อมาฝากผู้ช่วยพยาบาลไปเยี่ยม “อืม แกไม่ได้บ้า แต่เรื่องแบบนี้ เล่าให้ใครฟังก็คงไม่มีใครเชื่อเนอะ ลืมๆไปเหอะ” สีฝุ่นพูดขณะเคี้ยวขนมตุ้ยๆ อาการหลังผ่าตัดเธอดีขึ้นอย่างรวดเร็วหมออนุญาตให้กินอาหารได้ตามปกติ นั่นคือข่าวดีที่สุดของเธอ “จะว่าไป แกเสียดายบ้างไหมวะ ที่ไม่ได้อยู่ในร่างสวยเริ่ดเหมือนนางฟ้าแบบนั้นแล้ว” เพื่อนสาวถามตาเคลิ้มๆ “ฉันยังอยากได้เลยแก สิบล้านค่าหมอผ่าไม่รู้จะพอไหมให้ได้สักครึ่งนั่น” สีฝุ่นตอบแบบไม่ลัง

  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่91 อวสานกากี

    ข้าจะรักษาเจ้าให้ได้กากี เจ้าอย่าเพิ่งหมดหวัง ข้าจะไม่ยอมแพ้ ข้ารักเจ้า ข้ารักลูกของเรา เจ้าห้ามตาย ข้าจะรักษาเจ้ากากี ได้ยินข้าไหม เจ้าต้องรอดให้ได้” กากีคลี่ยิ้ม คำรักนั้นอ่อนหวานนัก ช่างอบอุ่นและจริงใจยิ่ง เป็นความรู้สึกอิ่มเอิบเบิกบานคล้ายมีดอกไม้ทิพย์กลีบบอบบางกลิ่นหอมละมุนบานสะพรั่งอยู่ในอกตน นางคลี่ยิ้มก่อนเอ่ยประโยคสุดท้าย “ข้าก็รักเจ้า กาฬปักษี ข้ารักเจ้า” หลังจากนั้นร่างกายคล้ายถูกฉีกเป็นเสี่ยงๆ นางกระตุกเฮือก ไขว่คว้าเอามือหนานุ่มแสนอบอุ่นนั้นมาแนบที่ใบหน้าก่อนที่หยาดน้ำตาสุดท้ายจะไหลรินลงบนมือนั้น เป็นความอบอุ่นสุดท้ายก่อนชีพนางจะดับลง ฝ่ายนาฏกุเวร แบกดวงใจอันปวดร้าวเดินทางกลับพาราณสี ทุกข์โทมนัสด้วยความสิ้นหวัง กากี แม่งามเอ๋ย ยอดดวงใจพี่ นางในดวงใจที่เฝ้าถนอมรักไว้ใจดวงใจมาตั้งแต่ยังเล็ก ไม่ว่าจะทำอย่างไรนางก็ไม่ยอมรับรัก แม้หักหาญราญเอากายนางเป็นเมีย ปรนนิบัตินางด้วยกามวิเศษ แม้หมายจะเชิดชูให้นางเป็นถึงมเหสีเอก นางก็กลับไม่สนใจ ซ้ำรังเกียจอย่างที่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเคยรังเกียจ กล้ากระทั่งทำให้ตนเองพิการอัปลักษณ์เพื่อคนไร้

  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่90 วิหคเทวะ บุตรนางสกุณี

    บรรดาเหล่าพลธนูทั้งนั้นที่มาด้วย เห็นกระจะตาแล้วว่ากากีกำลังท้องแก่จึงเกิดความเวทนา ต่างลังเลไม่กล้ายิง แต่เมื่อถูกสั่งซ้ำโดยหัวหน้านายกอง จึงได้แต่ฝืนยิงอย่างไม่เต็มใจนักกาฬปักษีด้วยความที่หูตาไว ได้ยินเสียงธนูแหวกอากาศก็รีบโอบกากีหลบซุกกับอกตน หันหลังรับลูกธนูแทนนางไปทุกดอก ธนูแต่ละดอกถูกยิงมาโดยไม่เต็มใจ จึงเข้าเป้าอย่างไม่แม่นยำนัก ถูกแขนขาเอาบ้าง ตกลงพื้นบ้าง ทว่าดอกหนึ่งปักทะลุเข้าที่แผ่นหลังตรงอกหมอกาฬปักษีจนเจ็บปลาบ จุกแน่นหายใจไม่เข้า ทรุดลงนั่งกับพื้นกากีกรีดร้อง ร่ำเรียกชื่อชายคนรักสะอึกสะอื้น พยายามคิดหาหนทางรักษากาฬปักษี แต่ก็คิดไม่ออก ได้แต่กอดร่างชายคนรักที่ใกล้จะหมดสติร้องไห้อยู่อย่างนั้น เคราะห์กรรมซ้ำซัด ครรภ์แก่นั้นถึงกำหนดคลอด พิษครรภ์ต่างสายพันธุ์ทำให้ธาตุไฟปั่นป่วนทั่วร่างกายของกากี แสบร้อนไปสิ้นทั้งภายในภายนอก ปวดหัวแทบจะระเบิดเป็นเสี่ยงๆ ลมหายใจร้อนผ่าว ดวงตาขาวเริ่มมีเส้นเลือดแตกหลายเป็นสีแดงฉาน หัวใจของนางอยู่ที่การช่วยคนรักเท่านั้น นางจึงฝืนร่างกาย วิ่งกลับขึ้นไปบนบ้าน คว้ามีดได้ ก็กลับลงมาใช้กำลังที่เหลือ ดันลูกธนูให้ทะลุออก แล้วตัด

  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่89 นาฏกุเวรตามราวี

    ตอนนั้นเป็นเวลาเย็นย่ำ พระอาทิตย์กำลังทอแสงสุดท้าย พระเจ้านาฏกุเวรก็มาถึงอาศรมของหมอเทวดากาฬปักษี กำลังพลต่างโอบล้อมอยู่ห่างๆ ส่วนตัวคนธรรพ์ลงจากหลังม้าเดินเข้าไปคนเดียว กากีและกาฬปักษีได้ยินเสียงม้ามาแต่ไกล แต่ไม่ได้เอะใจว่าอาจเป็นผู้ที่นำอันตรายมาให้เข้าใจว่าเป็นผู้ทุกข์จะมาขอความช่วยเหลือรักษาโรค จึงไม่ได้หนีไปทางไหนได้แต่เตรียมหยูกยาอยู่ที่ชานหน้าบ้าน นาฏกุเวรเมื่อเห็นร่างตะคุ่มๆสวมชุดดำอยู่คู่กัน ร่างอรชรนั้น ต้องเป็นกากีไม่ผิดแน่ หัวใจแทบกระดอนออกมาจากอกด้วยความตื่นเต้น “กากี พี่มาแล้ว” นาฏกุเวรร้องเรียกเสียงสั่น กากีที่โพกผ้าคลุมหัวปิดใบหน้าอยู่ครึ่งหนึ่งเย็นวาบจากท้ายทอยไปถึงเท้า เพราะจำได้ดีว่านั่นคือเสียงใคร นางเงยหน้าขึ้นมองด้วยใจหวาดหวั่น กาฬปักษีเงยหน้าขึ้นดูด้วยดวงตาข้างที่ได้มาจากกากี เมื่อเห็นบุรุษรูปกายงามราวเทพบุตรลงมาจากสวรรค์ เสียงไพเราะอ่อนหวาน และเครื่องทรงทองอร่ามสว่างไสวไปหมดทั้งตัวก็นึกรู้ได้ทันที “พระเจ้านาฏกุเวรหรือนั่น” เขารำพึงพลางรีบดึงตัวกากีให้ถอยไปอยู่ด้านหลังตน พระเจ้านาฏกุเวรตวาด

  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่88 ฟ้าฝนเป็นใจ2

    แม้แต่ตัวนางกากีเองก็พลอยตื่นเต้นไปด้วยดั่งว่านี่เป็นประสบการณ์ทางเพศครั้งแรกของตน ตื่นใจ อ่อนหวาน หวั่นไหว ยิ่งเมื่อทั้งสองเริ่มช่วยกันเคลื่อนกายไหวโยก ขยับส่ายสับสะโพก เสือกท่อนเอ็นขนาดเขื่องเคลื่อนเข้า ออกในกายนาง แต่ละครั้งที่ดึงออกแทบถ่ายถอน ก่อนเหวี่ยงสับกระชับ เผียะลงมา ทำเอานางผวาใจแทบหยุดเต้น ปากแนบปาก นมแนบนม ท้องแนบท้อง ในอาณาเขตถ้ำทอง เสียงผิวเนื้อเปียกแฉะด้วยน้ำหล่อลื่นกระทบกันดั่งคนปรบมือถี่กระชั้น สองมือหนานุ่มเกาะยึดสะโพกอรชรไว้แน่น โถมร่างเข้าไปในกายนางครั้งแล้วครั้งเล่า ปทุมถันขาวปลั่งสว่างไสวเคลื่อนไหวกระเพื่อมเป็นจังหวะยิ่งเร้ากำหนัดให้พุ่งสูง เหงื่อกาฬไหลพลั่งดั่งจะขาดใจ หยาดเหงื่อร้อนฉ่าไหลหยดลงบนท้องน้อยของนางแน่งน้อยกากีที่กำลังผวาเฮือกฮุบความสุข วินาทีถัดจากนั้น หมอหนุ่มกาฬปักษีก็พาตนไปถึงที่สุดแห่งกาม คำรามครางในลำคอเสียงแหบพร่า ปล่อยน้ำรักขุ่นข้นเหนียวลื่นพุ่งเท้าเต็มท้องน้อยแม่โฉมงามร่างอรชรที่นอนระทวยอยู่เบื้องล่างตน ด้วยสัญชาตญาณประหลาดของสตรี กากีรู้สึกว่า การร่วมเสพสังวาสกับหมอกาฬปักษี หนุ่มน่ารักใจดีคนนี้ เป็นมากกว่า

  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่87 ฟ้าฝนเป็นใจ1

    นหนึ่งขณะฝนตกหนัก แม่งามกากีวิ่งออกไปเก็บกระจาดสมุนไพรที่ตากแห้งไว้ หมอหนุ่มกาฬปักษีก็แสร้งรีบตามออกไปบ้าง แสร้งลื่นล้มจนเสื้อผ้าเลอะเทอะดินโคลนและเปียกปอนน่าสงสาร กากีเห็นดังนั้นก็ตกใจ รีบวิ่งเข้าไปประคองขึ้น “จะวิ่งออกมาทำไมกัน สมุนไพรพวกนี้จะมีค่าเทียบเท่าเจ้าหรือก็หาไม่ มารีบเข้าอาศรมเถิด ข้าจะช่วยผลัดผ้าและเช็ดตัวให้” เป็นครั้งแรกตั้งแต่เข้ามาในหนังสือเล่มนี้ และเป็นครั้งแรกในชีวิตของสีฝุ่นเองด้วย ที่เป็นฝ่ายเปลื้องผ้าบุรุษ การที่ชายหนุ่มท่วงทีผึ่งผายสมส่วนยืนตระหง่านนิ่งอยู่ โดยที่เขาไม่อาจมองเห็นนางได้ กลับกลายเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น กากีค่อยๆเปลื้องผ้าโพกหัวและเสื้อสีดำสนิทดั่งขนนกกาออก ในแสงสว่างยามฝนตกพร่างพราวด้านนอก แสงตกกระทบนุ่มนวลมองเห็นรายละเอียดของผิวเนียนเรียบสวยสีน้ำผึ้ง ใต้เสื้อผ้าเหล่านี้ซ่อนปิดกล้ามเนื้อหน้าอกและต้นแขนเป็นลอนกล้ามกำยำชวนสัมผัส กลิ่นผิวเนื้อบุรุษโชยหอมคล้ายกลิ่นผ้าห่มตากแดดผสมกลิ่นไอน้ำ นางกายหอมพินิจดูอย่างพินิจพิจารณาโดยไม่ต้องกังวลสายตาของเขา ความรู้สึกอ่อนไหวทางกามารมณ์เริ่มบ่มขึ้น นางได้แต่กัดปากตนเองไว้ด้วยค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status