แชร์

ตอนที่ 5. ข้ามภพ

ผู้เขียน: นทธี ศศิวิมล
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-28 00:40:03

มองออกไปที่ทิวทัศน์รอบสวนหย่อมได้ในตอนกลางวัน ตอนนี้ด้านนอกมืด แสงไฟจากบันไดตึกสาดส่องสว่างสีขาวนวล ทำให้สีฝุ่นเห็นเงาสะท้อนตัวเองได้ชัดเจนขึ้นไปอีก เออวะ สภาพแบบนี้ไง เขาถึงไม่เคยเหลียวแล ผมหน้าม้าเหมือนเด็กประถม หน้ากลมเหมือนหมู สมอย่างที่เขาว่าจริงๆ

            เสียงจากงานเลี้ยงดังมาจากด้านล่าง หญิงสาวถอนหายใจ รู้สึกอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานาน รู้สึกว่าตัวเองอยู่ไม่ถูกที่ถูกทาง รู้สึกสิ้นหวัง ไร้ค่า ที่ผ่านมาเธอพยายามพิสูจน์ตัวเองด้วยผลงานมาตลอด เธอเฝ้าแต่คิดว่า แม้จะไม่สวย หากเป็นคนดีมีความสามารถ ในที่สุดก็จะเป็นที่ยอมรับจากทุกคนได้ คนอื่นๆจะเห็นคุณค่าของตัวเธอที่ข้างใน มากกว่าแค่ภายนอก แต่เรื่องในวันนี้กลับยืนยันกับเธอว่า มันไม่เคยเป็นอย่างนั้น

            จู่ๆไฟส่องสว่างก็กระตุกวูบดับลงไปครู่หนึ่ง เสียงวี้ดว้ายของสาวๆดังขึ้นมาจากข้างล่าง สีฝุ่นรีบคว้าราวบันไดยึดไว้แน่นในความมืด เมื่อแสงสว่างกลับมา แสงสว่างทำให้ต้องหยีตา สีฝุ่นเบิกตามองภาพที่เห็นตรงหน้า ตะลึงตะลาน กระจกตรงบันไดที่เคยสะท้อนภาพหญิงสาวร่างอวบเศร้าสร้อยเมื่อครู่

            กลับปรากฏภาพหญิงสาวงดงามพิลาศพิไลราวกับออกมาจากภาพเขียน นุ่งผ้านุ่งสีเขียวใบไม้กับผ้าคาดอกเนื้อบางเบาสีกลีบบัว สวมกำไลทองที่ข้อมือ ข้อเท้าและต้นแขน ใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพราราวกับวาด ขนตางอนหนา ผิวเนื้อขาวผุดผ่องสว่างไสว เธอคนนั้นก็กำลังยืนเกาะราวบันได ทำสีหน้าท่าทางตื่นตะลึงค้างนิ่งเหมือนกันกับสีฝุ่นไม่มีผิดเพี้ยน

            “อะ...อะไรกันวะน่ะ” ความตกตะลึงสับสนมีมากเกินกว่าจะไพล่ไปคิดเรื่องผีสางนางไม้ โดยเฉพาะภาพนางตรงหน้างามราวกับนางสวรรค์  กลิ่นหอมอ่อนหวานเหมือนดอกไม้นานาชนิดฟุ้งตลบไปทั่วบริเวณ

            หญิงสาวค่อยขยับตัวยืนตรงและเดินเข้าไปใกล้ นางในกระจกกิริยาอาการเดียวกันก็เดินใกล้เข้ามา ยื่นมือขวามาที่แผ่นกระจกเรียบเงาเย็นเฉียบ ปลายนิ้วสัมผัสเข้าแวบหนึ่ง สีฝุ่นก็รู้สึกเหมือนกระแสไฟฟ้าวิ่งเข้าร่างกาย สะดุ้งจนหงายหลังล้มลงกับพื้น เธอตั้งสติอยู่พักหนึ่ง ภาพหลอน ประสาทหลอน หรืออะไรกันแน่ ทั้งปีกพี่นภที่งอกออกมาตอนจะเข้าลิฟต์ทั้งภาพเมื่อกี้ ไหนจะไฟดูดนั่นอีก คิดไปคิดมาสีฝุ่นเริ่มกลัวจนไม่อยากอยู่ตรงนี้ต่อไปแล้ว จึงรีบวิ่งลงบันไดไปที่ชั้นสองเข้าห้องจัดเลี้ยงทันที

            ในงานเลี้ยงขอบคุณซัพพลายเออร์ ก็เหมือนกับงานเลี้ยงบริษัททั่วๆไป ทุกงานในสายตาเธอ สีฝุ่นหามุมเงียบๆนั่งคนเดียว สักพักแตงกวาก็เดินเข้ามาหา ถือจานขนมหวานกับไก่ทอดมาด้วย

            “ไปไหนมาวะฝุ่น นึกว่าชิ่งกลับบ้านไปแล้ว เอ้า กินไก่ดิ ของชอบแกนี่ มุมโน้นมีพิซซ่าด้วย วันนี้เจ้านายเราใจป้ำนะเว้ย ดูโน่น มีบาร์ค็อกเทล แถมมีบาร์เทนเดอร์มาชงเหล้าด้วย” เพื่อนสาวชะโงกหน้ามาพูดกับเธอแข่งกับเสียงเพลงที่ดังอยู่บนเวที

            แตงกวาว่าแล้วก็หันไปสบตา ขยิบตาให้ชายหนุ่มมาดเข้มท่าทางขี้เล่นสองคนที่กำลังชงเหล้าให้สาวๆที่มาออกันเต็มหน้าบาร์  “แก กินไก่รองท้องก่อนเร็ว ฉันอยากกินเหล้าปั่น คิวยาวด้วย”

            สีฝุ่นส่ายหน้า ทั้งที่ท้องกำลังร้องโครกคราก แต่คลิปหมูสาวจอมตะกละคลิกกล่องป็อกกี้เพราะนึกว่าเป็นเมาส์เมื่อตอนเย็นทำให้เธอหวาดกลัวสายตาของคนที่นี่ รู้สึกเหมือนกำลังถูกจ้องมอง เหมือนใครหลายคนกำลังรอดูการแสดงหมูสวาปามขนมอย่างใจจดใจจ่อ

            “เออ งั้น ฉันไปเข้าคิวเหล้าก่อนนะแก” แตงกวาว่าแล้วก็แวบหายไปทางบาร์เหล้า

            หญิงสาวร่างอวบกำลังคิดว่าจะหาทางเลี่ยงงานเลี้ยงกลับบ้านยังไงดี ก็หันไปเห็นพี่ทศนั่งชะเง้อชะแง้ยิ้มหวานมาทางเธอจากโต๊ะด้านหน้า ทำท่าเหมือนจะลุกมาหา แต่พอดีใครคนหนึ่งเรียกให้คุยด้วยจึงนั่งต่อ

            เธอใจหายวูบ โอย โจทย์มีเยอะเหลือเกิน รีบลุกขึ้นเดินเลี่ยงจะไปหาแตงกวา แต่แล้วก็มีชายหนุ่มคนหนึ่ง ยื่นแก้วเครื่องดื่มมาตรงหน้า

            เครื่องดื่มนั้นบรรจุมาในแก้วใสขนาดเล็กบอบบางคล้ายหลอดทดลองวิทยาศาสตร์ ของเหลวในนั้นเป็นสีแดงสดจากด้านล่างไล่โทนไปจนขาวสว่างที่ขอบแก้ว ปั่นเป็นเกล็ดน้ำแข็งเนื้อละเอียด ประดับด้วยดอกไม้เล็กสีน้ำเงินสดสวยแปลกตา

            บาร์เทนเดอร์หนุ่มหน้าคมเข้มหนึ่งในสองคนนั้นยังถือแก้วยื่นค้าง “ไฟน้ำค้างครับ รับไปสิครับ นี่น่าจะเหมาะกับคุณ” เขาอมยิ้ม

            สีฝุ่นมองหน้าเขา สบตาให้แน่ใจว่านี่ไม่ใช่การล้อเลียนจึงเอ่ยตอบอย่างไม่ค่อยไว้ใจ “สารรูปอย่างฉันเนี่ยนะคะ เหมาะกับเครื่องดื่มชื่อไฟน้ำค้าง ไม่ใช่ว่าใครสั่งแล้วทำผิดเลยเอามาให้ฉันแน่นะคะ”

            เขาหัวเราะ “คุณเป็นสาวฮอตนะ ไม่รู้ตัวเองต่างหาก”

            เธอยื่นมือรับแก้วมาแล้วกระดกลงคอรวดเดียวก่อนยื่นแก้วคืนให้อย่างรวดเร็ว ช่างมันเหอะวะ จะล้อเลียน จะแกล้งหรืออะไรกันอีกก็เอาเลย เอาให้สุด กลิ่นเครื่องดื่มหวานหอมคล้ายกลิ่นหอมประหลาดที่เธอได้กลิ่นตอนเห็นภาพหลอนที่บันได ความร้อนผ่าวแผ่ซ่านไปตั้งแต่ลำคอลงไปถึงในท้อง ก่อนวูบวาบทั่วร่าง ทั้งที่เป็นเกล็ดน้ำแข็งเย็นฉ่ำ

            คงเพราะกินเหล้าหวานๆตอนท้องว่างน่ะแหละ เธอคิด และแปลกใจที่หน้าเริ่มตึงๆ พื้นโคลงเคลงไปมา นี่มันเหล้าอะไรกันแน่วะเนี่ย

            รีบกลับดีกว่า เธอคิด หญิงสาวผมหน้าม้ารีบสอดส่ายสายตามองหาเจ้านายใหญ่ เมื่อเจอนั่งอยู่ที่โต๊ะหนึ่งก็หาเรื่องเดินเฉียดๆชำเลืองๆ กะว่าเจ้านายเห็นปรากฏตัวในงานแล้วก็ถือว่ารอดตัว จะได้รีบแวบกลับบ้านได้สักที แต่อารามรีบ บวกกับอาการมึนงง ก็ทำเอาสะดุดเข้ากับขาเก้าอี้เจ้านายจนเซถลาชนเก้าอี้เปล่าอีกตัวล้มลง มือเธอคว้าผ้าปูโต๊ะเลื่อนลงมาทำให้แก้วเบียร์ริมโต๊ะหกลงมาราดกระเป๋า คุณเปี๊ยกหันมาคว้าแขนเธอไว้ทันก่อนลงพื้นพอดี

            “โอ๊ย แม่คนนี้ แขนแทบหัก” เขาว่าแล้วรีบปล่อยเธอเมื่อเห็นเธอทรงตัวยืนได้ตามปกติ แต่คนที่นั่งร่วมโต๊ะก็พากันหัวเราะครืน

            “ขอโทษค่ะ” สีฝุ่นละล่ำละลัก แล้วก็ใจหายวาบอีกรอบเมื่อนึกได้ว่า หนังสือสุดหวงของเจ้านายอยู่ในกระเป๋า เธอรีบเดินห่างออกมาจากโต๊ะ รีบหามุมปลอดคน เปิดดูหนังสือด้านใน เป็นอย่างที่คิด โชคไม่เข้าข้างเธอ เบียร์ซึมเข้าเนื้อผ้าเลอะข้าวของในกระเป๋า รวมถึงหนังสือกากีของเจ้านายด้วย

            “โอย...แย่ละ” หญิงสาวยกหนังสือที่มุมหนึ่งเปียกเบียร์จนชุ่มขึ้นมาดูอย่างสยดสยอง “ตายแน่ทีนี้”

            แต่ทันใดนั้น เสียงเพลงหยุดลง ทุกคนหันไปบนเวที เธอเห็นคุณเปี๊ยกเดินขึ้นไปบนเวทีกับพี่นภกล่าวขอบคุณเพื่อนพนักงานและซัพพลายเออร์ รู้สึกเหมือนหูดับไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะได้ยินชัดเต็มสองหูว่า วันนี้มีข่าวดีของลูกน้องคนโปรดฝ่ายสำนักพิมพ์กับฝ่ายการตลาด นั่นคือ นภกับจูนจะแต่งงานกันในสิ้นปีนี้

            สีฝุ่นเหมือนถูกตบหน้าแรงๆติดกันหลายครั้งจนทุกอย่างพร่าเลือน เบลอไปหมด ในอกในใจว่างโหวง หญิงสาวรีบมองหาประตูออกจากห้องจัดเลี้ยง โผเข้าไปหา แล้วรีบเลี่ยงไปหาอากาศบริสุทธิ์ที่ระเบียงลานจอดรถ เธอหายใจเข้าออกถี่หอบเหนื่อย น่าจะทั้งด้วยฤทธิ์เหล้าและข่าวร้าย รู้สึกเหมือนสะอื้นในอก อยากจะร้องไห้แต่น้ำตาก็ไม่ไหล สมน้ำหน้าตัวเองนัก ไม่รู้จักเจียม มิน่าเมื่อกี้ถึงเห็นภาพหลอนเป็นมนุษย์นก คนมันกำลังจะนกนี่เอง!

            แล้วเธอก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น “ฝุ่น ฝุ่น เป็นอะไรหรือเปล่า”

            พี่ทศวิ่งตามออกมา และประคองแขนไว้เมื่อเห็นเธอเริ่มเซ “ดื่มมากไปเหรอ ไหวไหมเนี่ย”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่92 จบบริบูรณ์

    แม่ของเธอยิ้มกว้าง ดวงตาสดชื่น ความสุขแผ่เต็มใบหน้าแม้ร่างกายจะซูบผอมหลังจากต้องเฝ้าไข้เธอมายาวนาน เอ่ยตอบน้ำตาคลอ “ให้อ้วนเป็นช้างแม่ก็เลี้ยงไหว ขอแค่ลูกแม่ปลอดภัย อย่าเป็นอะไรไปอีกก็พอแล้ว” แตงกวาถลามาถึงโรงพยาบาลเพียงเพื่อจะพบว่า โรงพยาบาลห้ามเยี่ยมเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 เธอจึงต้องนั่งอยู่ที่ด้านล่างของโรงพยาบาล แล้ววิดีโอคอลคุยกับเพื่อนรัก “แก สรุปเรื่องตอนนั้นที่แกกลับมาในร่างนางแบบวิกตอเรียซีเคร็ท น่ะ เรื่องจริง ฉันไม่ได้ฝัน ไม่ได้บ้าใช่ไหม” แตงกวาถาม หลังจากเห็นเพื่อนสบายดีแล้ว และกำลังกินเอแคล์รที่เธอซื้อมาฝากผู้ช่วยพยาบาลไปเยี่ยม “อืม แกไม่ได้บ้า แต่เรื่องแบบนี้ เล่าให้ใครฟังก็คงไม่มีใครเชื่อเนอะ ลืมๆไปเหอะ” สีฝุ่นพูดขณะเคี้ยวขนมตุ้ยๆ อาการหลังผ่าตัดเธอดีขึ้นอย่างรวดเร็วหมออนุญาตให้กินอาหารได้ตามปกติ นั่นคือข่าวดีที่สุดของเธอ “จะว่าไป แกเสียดายบ้างไหมวะ ที่ไม่ได้อยู่ในร่างสวยเริ่ดเหมือนนางฟ้าแบบนั้นแล้ว” เพื่อนสาวถามตาเคลิ้มๆ “ฉันยังอยากได้เลยแก สิบล้านค่าหมอผ่าไม่รู้จะพอไหมให้ได้สักครึ่งนั่น” สีฝุ่นตอบแบบไม่ลัง

  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่91 อวสานกากี

    ข้าจะรักษาเจ้าให้ได้กากี เจ้าอย่าเพิ่งหมดหวัง ข้าจะไม่ยอมแพ้ ข้ารักเจ้า ข้ารักลูกของเรา เจ้าห้ามตาย ข้าจะรักษาเจ้ากากี ได้ยินข้าไหม เจ้าต้องรอดให้ได้” กากีคลี่ยิ้ม คำรักนั้นอ่อนหวานนัก ช่างอบอุ่นและจริงใจยิ่ง เป็นความรู้สึกอิ่มเอิบเบิกบานคล้ายมีดอกไม้ทิพย์กลีบบอบบางกลิ่นหอมละมุนบานสะพรั่งอยู่ในอกตน นางคลี่ยิ้มก่อนเอ่ยประโยคสุดท้าย “ข้าก็รักเจ้า กาฬปักษี ข้ารักเจ้า” หลังจากนั้นร่างกายคล้ายถูกฉีกเป็นเสี่ยงๆ นางกระตุกเฮือก ไขว่คว้าเอามือหนานุ่มแสนอบอุ่นนั้นมาแนบที่ใบหน้าก่อนที่หยาดน้ำตาสุดท้ายจะไหลรินลงบนมือนั้น เป็นความอบอุ่นสุดท้ายก่อนชีพนางจะดับลง ฝ่ายนาฏกุเวร แบกดวงใจอันปวดร้าวเดินทางกลับพาราณสี ทุกข์โทมนัสด้วยความสิ้นหวัง กากี แม่งามเอ๋ย ยอดดวงใจพี่ นางในดวงใจที่เฝ้าถนอมรักไว้ใจดวงใจมาตั้งแต่ยังเล็ก ไม่ว่าจะทำอย่างไรนางก็ไม่ยอมรับรัก แม้หักหาญราญเอากายนางเป็นเมีย ปรนนิบัตินางด้วยกามวิเศษ แม้หมายจะเชิดชูให้นางเป็นถึงมเหสีเอก นางก็กลับไม่สนใจ ซ้ำรังเกียจอย่างที่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเคยรังเกียจ กล้ากระทั่งทำให้ตนเองพิการอัปลักษณ์เพื่อคนไร้

  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่90 วิหคเทวะ บุตรนางสกุณี

    บรรดาเหล่าพลธนูทั้งนั้นที่มาด้วย เห็นกระจะตาแล้วว่ากากีกำลังท้องแก่จึงเกิดความเวทนา ต่างลังเลไม่กล้ายิง แต่เมื่อถูกสั่งซ้ำโดยหัวหน้านายกอง จึงได้แต่ฝืนยิงอย่างไม่เต็มใจนักกาฬปักษีด้วยความที่หูตาไว ได้ยินเสียงธนูแหวกอากาศก็รีบโอบกากีหลบซุกกับอกตน หันหลังรับลูกธนูแทนนางไปทุกดอก ธนูแต่ละดอกถูกยิงมาโดยไม่เต็มใจ จึงเข้าเป้าอย่างไม่แม่นยำนัก ถูกแขนขาเอาบ้าง ตกลงพื้นบ้าง ทว่าดอกหนึ่งปักทะลุเข้าที่แผ่นหลังตรงอกหมอกาฬปักษีจนเจ็บปลาบ จุกแน่นหายใจไม่เข้า ทรุดลงนั่งกับพื้นกากีกรีดร้อง ร่ำเรียกชื่อชายคนรักสะอึกสะอื้น พยายามคิดหาหนทางรักษากาฬปักษี แต่ก็คิดไม่ออก ได้แต่กอดร่างชายคนรักที่ใกล้จะหมดสติร้องไห้อยู่อย่างนั้น เคราะห์กรรมซ้ำซัด ครรภ์แก่นั้นถึงกำหนดคลอด พิษครรภ์ต่างสายพันธุ์ทำให้ธาตุไฟปั่นป่วนทั่วร่างกายของกากี แสบร้อนไปสิ้นทั้งภายในภายนอก ปวดหัวแทบจะระเบิดเป็นเสี่ยงๆ ลมหายใจร้อนผ่าว ดวงตาขาวเริ่มมีเส้นเลือดแตกหลายเป็นสีแดงฉาน หัวใจของนางอยู่ที่การช่วยคนรักเท่านั้น นางจึงฝืนร่างกาย วิ่งกลับขึ้นไปบนบ้าน คว้ามีดได้ ก็กลับลงมาใช้กำลังที่เหลือ ดันลูกธนูให้ทะลุออก แล้วตัด

  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่89 นาฏกุเวรตามราวี

    ตอนนั้นเป็นเวลาเย็นย่ำ พระอาทิตย์กำลังทอแสงสุดท้าย พระเจ้านาฏกุเวรก็มาถึงอาศรมของหมอเทวดากาฬปักษี กำลังพลต่างโอบล้อมอยู่ห่างๆ ส่วนตัวคนธรรพ์ลงจากหลังม้าเดินเข้าไปคนเดียว กากีและกาฬปักษีได้ยินเสียงม้ามาแต่ไกล แต่ไม่ได้เอะใจว่าอาจเป็นผู้ที่นำอันตรายมาให้เข้าใจว่าเป็นผู้ทุกข์จะมาขอความช่วยเหลือรักษาโรค จึงไม่ได้หนีไปทางไหนได้แต่เตรียมหยูกยาอยู่ที่ชานหน้าบ้าน นาฏกุเวรเมื่อเห็นร่างตะคุ่มๆสวมชุดดำอยู่คู่กัน ร่างอรชรนั้น ต้องเป็นกากีไม่ผิดแน่ หัวใจแทบกระดอนออกมาจากอกด้วยความตื่นเต้น “กากี พี่มาแล้ว” นาฏกุเวรร้องเรียกเสียงสั่น กากีที่โพกผ้าคลุมหัวปิดใบหน้าอยู่ครึ่งหนึ่งเย็นวาบจากท้ายทอยไปถึงเท้า เพราะจำได้ดีว่านั่นคือเสียงใคร นางเงยหน้าขึ้นมองด้วยใจหวาดหวั่น กาฬปักษีเงยหน้าขึ้นดูด้วยดวงตาข้างที่ได้มาจากกากี เมื่อเห็นบุรุษรูปกายงามราวเทพบุตรลงมาจากสวรรค์ เสียงไพเราะอ่อนหวาน และเครื่องทรงทองอร่ามสว่างไสวไปหมดทั้งตัวก็นึกรู้ได้ทันที “พระเจ้านาฏกุเวรหรือนั่น” เขารำพึงพลางรีบดึงตัวกากีให้ถอยไปอยู่ด้านหลังตน พระเจ้านาฏกุเวรตวาด

  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่88 ฟ้าฝนเป็นใจ2

    แม้แต่ตัวนางกากีเองก็พลอยตื่นเต้นไปด้วยดั่งว่านี่เป็นประสบการณ์ทางเพศครั้งแรกของตน ตื่นใจ อ่อนหวาน หวั่นไหว ยิ่งเมื่อทั้งสองเริ่มช่วยกันเคลื่อนกายไหวโยก ขยับส่ายสับสะโพก เสือกท่อนเอ็นขนาดเขื่องเคลื่อนเข้า ออกในกายนาง แต่ละครั้งที่ดึงออกแทบถ่ายถอน ก่อนเหวี่ยงสับกระชับ เผียะลงมา ทำเอานางผวาใจแทบหยุดเต้น ปากแนบปาก นมแนบนม ท้องแนบท้อง ในอาณาเขตถ้ำทอง เสียงผิวเนื้อเปียกแฉะด้วยน้ำหล่อลื่นกระทบกันดั่งคนปรบมือถี่กระชั้น สองมือหนานุ่มเกาะยึดสะโพกอรชรไว้แน่น โถมร่างเข้าไปในกายนางครั้งแล้วครั้งเล่า ปทุมถันขาวปลั่งสว่างไสวเคลื่อนไหวกระเพื่อมเป็นจังหวะยิ่งเร้ากำหนัดให้พุ่งสูง เหงื่อกาฬไหลพลั่งดั่งจะขาดใจ หยาดเหงื่อร้อนฉ่าไหลหยดลงบนท้องน้อยของนางแน่งน้อยกากีที่กำลังผวาเฮือกฮุบความสุข วินาทีถัดจากนั้น หมอหนุ่มกาฬปักษีก็พาตนไปถึงที่สุดแห่งกาม คำรามครางในลำคอเสียงแหบพร่า ปล่อยน้ำรักขุ่นข้นเหนียวลื่นพุ่งเท้าเต็มท้องน้อยแม่โฉมงามร่างอรชรที่นอนระทวยอยู่เบื้องล่างตน ด้วยสัญชาตญาณประหลาดของสตรี กากีรู้สึกว่า การร่วมเสพสังวาสกับหมอกาฬปักษี หนุ่มน่ารักใจดีคนนี้ เป็นมากกว่า

  • ลิขิตปรารถนากากีข้ามภพ   ตอนที่87 ฟ้าฝนเป็นใจ1

    นหนึ่งขณะฝนตกหนัก แม่งามกากีวิ่งออกไปเก็บกระจาดสมุนไพรที่ตากแห้งไว้ หมอหนุ่มกาฬปักษีก็แสร้งรีบตามออกไปบ้าง แสร้งลื่นล้มจนเสื้อผ้าเลอะเทอะดินโคลนและเปียกปอนน่าสงสาร กากีเห็นดังนั้นก็ตกใจ รีบวิ่งเข้าไปประคองขึ้น “จะวิ่งออกมาทำไมกัน สมุนไพรพวกนี้จะมีค่าเทียบเท่าเจ้าหรือก็หาไม่ มารีบเข้าอาศรมเถิด ข้าจะช่วยผลัดผ้าและเช็ดตัวให้” เป็นครั้งแรกตั้งแต่เข้ามาในหนังสือเล่มนี้ และเป็นครั้งแรกในชีวิตของสีฝุ่นเองด้วย ที่เป็นฝ่ายเปลื้องผ้าบุรุษ การที่ชายหนุ่มท่วงทีผึ่งผายสมส่วนยืนตระหง่านนิ่งอยู่ โดยที่เขาไม่อาจมองเห็นนางได้ กลับกลายเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น กากีค่อยๆเปลื้องผ้าโพกหัวและเสื้อสีดำสนิทดั่งขนนกกาออก ในแสงสว่างยามฝนตกพร่างพราวด้านนอก แสงตกกระทบนุ่มนวลมองเห็นรายละเอียดของผิวเนียนเรียบสวยสีน้ำผึ้ง ใต้เสื้อผ้าเหล่านี้ซ่อนปิดกล้ามเนื้อหน้าอกและต้นแขนเป็นลอนกล้ามกำยำชวนสัมผัส กลิ่นผิวเนื้อบุรุษโชยหอมคล้ายกลิ่นผ้าห่มตากแดดผสมกลิ่นไอน้ำ นางกายหอมพินิจดูอย่างพินิจพิจารณาโดยไม่ต้องกังวลสายตาของเขา ความรู้สึกอ่อนไหวทางกามารมณ์เริ่มบ่มขึ้น นางได้แต่กัดปากตนเองไว้ด้วยค

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status