Share

บทที่ 5 จุดไฟเผาตัวเอง

Author: โม่เชียนซาง
“บังอาจ!” ฮองเฮาก้าวมาข้างหน้าพลางมองเยี่ยนเว่ยฉือด้วยสายตาเย็นชา และตะโกนด้วยความโกรธ “เจ้าเป็นใคร? กล้าดีอย่างไรถึงมาตั้งคำถามกับการตัดสินใจของฝ่าบาท!”

ฝ่าบาทเป็นผู้ตัดสินลงโทษซ่างกวนซี และฝ่าบาทก็เป็นผู้ปลดซ่างกวนซีออกจากตำแหน่งองค์รัชทายาทด้วย

การบอกว่าองค์รัชทายาทถูกใส่ความ จะไม่ถือเป็นการตั้งคำถามกับคำตัดสินของฝ่าบาทหรือ?

ดูเผิน ๆ คำพูดของฮองเฮานั้นก็นับว่าไม่ผิดอะไร

แต่เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกว่ามีคำว่า “น้ำท่วมปาก” ถูกเขียนบนพระพักตร์ของฮ่องเต้เอาไว้

ด้วยสถานะปัจจุบันของนาง นางมีโอกาสน้อยมากที่จะได้พูด ดังนั้นนางจึงต้องบอกเรื่องสำคัญก่อนที่ฮองเฮาจะสั่งประหารนาง

เยี่ยนเว่ยฉือจึงตะโกนออกมาอย่างไม่ลังเล “ฝ่าบาททรงพิจารณาเถิดเพคะ องค์รัชทายาททรงป่วยเป็นโรคนกเขาไม่ขัน หม่อมฉันขอทูลถามว่าคนที่นกเขาไม่ขันจะขืนใจสวีเหม่ยเหรินได้อย่างไร? องค์รัชทายาททรงถูกใส่ความเพคะ!”

คำพูดเหล่านั้นเหมือนกับสายฟ้าที่ฟาดลงมากลางใจ

ทุกคนต่างอ้าปากค้างจากความตกใจ!

“จะ...เจ้าพูดเหลวไหลอะไร?” ฮองเฮามองเยี่ยนเว่ยฉือด้วยความตกใจ

เยี่ยนเว่ยฉือตอบอย่างจริงจัง “หม่อมฉันไม่ได้พูดเหลวไหลนะเพคะ ฝ่าบาททรงส่งหม่อมฉันมาเพื่อให้สืบทายาทให้กับองค์รัชทายาท ที่หม่อมฉันทูลไปทั้งหมดนั้นล้วนมาจากสิ่งที่ประสบพบเจอด้วยตัวของหม่อมฉันเอง หากฮองเฮาไม่ทรงเชื่อ ไม่อย่างนั้น… ทรงอยากลองตรวจดูเองไหมเพคะ?”

“เหลวไหล!” ฮองเฮาตำหนิเสียงแข็ง

เยี่ยนเว่ยฉือเบะปากแล้วหันไปมองฮ่องเต้คังอู่ “ฝ่าบาท สิ่งที่หม่อมฉันทูลนั้นเป็นความจริง ฮองเฮาคงจะทรงไม่กล้าตรวจดูเอง เช่นนั้นก็ทรงให้หมอหลวงเป็นคนตรวจดูแทนดีหรือไม่เพคะ?”

“เจ้าตัวก็ตายไปแล้ว ตรวจดูตอนนี้จะมีประโยชน์อะไร?” โอรสที่ฮองเฮาเป็นผู้ประสูติออกมาเองอย่าง องค์ชายรอง ซ่างกวนหลีเหลือบมองไปยังเยี่ยนเว่ยฉือ

เยี่ยนเว่ยฉือโต้กลับ “ตรัสเช่นนั้นไม่ได้นะเพคะ มีคำพูดที่ว่า แม้กายจะสลาย แต่ขอทิ้งความบริสุทธิ์ไว้ให้โลกเชยชม! แม้เองค์รัชทายาทจะสิ้นพระชนม์แล้ว ขอเพียงพิสูจน์ได้ว่าทรงเป็นผู้บริสุทธิ์ เขาก็จะถูกจดจำในฐานะองค์รัชทายาท และถูกฝังตามราชพิธีอันยิ่งใหญ่ ถึงอย่างไรหม่อมฉันก็มีสัมพันธ์กับเขาไปแล้ว ก็ถือว่าหม่อมฉันเป็นพระชายาขององค์รัชทายาทไปด้วยมิใช่หรือเพคะ?”

“เจ้าเป็นคุณหนูตระกูลใดกัน? หน้าด้านหน้าทนไร้ยางอายเสียจริง ใครก็ได้ ลากนางออกไปซะ!” ฮองเฮาออกคำสั่งทันที พยายามยับยั้งเยี่ยนเว่ยฉือที่ยังคงพล่ามไม่หยุด

เยี่ยนเว่ยฉือรีบถอยหลังไปสองสามก้าว เพื่อขยายระยะห่างระหว่างนางกับฮองเฮาให้มากขึ้น แล้วพูดต่อ “ฮองเฮาโปรดทรงอย่าเบี่ยงประเด็นเลยเพคะ หม่อมฉันไม่ได้ไร้ยางอาย ฮองเฮาเองก็ทรงทราบกฎเกณฑ์ดี ในเมื่อมีการตรวจพบข้อสงสัยที่สำคัญ ก็ควรต้องมีการพิจารณาคดีใหม่อีกครั้งไม่ใช่หรือเพคะ? ฝ่าบาท ว่าอย่างไรหรือเพคะ”

พระเนตรของฮ่องเต้คังอู่ไม่เคยละสายตาจากใบหน้าของซ่างกวนซี จนกระทั่งเขาได้ยินคำว่า “พิจารณาคดีใหม่” พระองค์ถึงได้ตรัสด้วยน้ำเสียงสะอื้นออกมาว่า “ใช่แล้ว! คดีนี้จะถูกส่งกลับไปยังศาลต้าหลี่…”

“ฝ่าบาท คนก็ตายไปแล้ว ยังจำเป็นอยู่อีกหรือเพคะ? อีกอย่าง วันนั้นทุกคนก็เห็นกับตาว่าอดีตองค์รัชทายาทถือมีดอย่างเหี้ยมโหด อีกทั้งสองมือเปื้อนเลือดเต็มไปหมด ทุกคนเห็นเต็มสองตา จะผิดพลาดได้อย่างไรกันเพคะ?” ฮองเฮาพยายามขัดขวางอย่างสุดกำลัง

“นี่! รับนะเพคะ!” คำพูดที่จู่ ๆ ก็โพล่งขึ้นของเยี่ยนเว่ยฉือก็ทำให้ทุกคนตะลึง

ขณะนั้น ถุงเงินใบหนึ่งก็ถูกโยนไปทางฮองเฮา พระนางทรงเอื้อมมือออกไปรับโดยไม่รู้ตัว และแล้วถุงเงินก็ตกไปอยู่ในมือของพระนาง

“เจ้าบังอาจมาก กล้าดีอย่างไรมาทำร้ายข้า?” ฮองเฮาทำหน้าน่าเหลือเชื่อ

เยี่ยนเว่ยฉือแค่นเสียงเบา ๆ “ฮองเฮาเพคะ ถุงเงินของหม่อมฉันอยู่ในมือของพระองค์แล้ว พระองค์เป็นหัวขโมยที่ขโมยถุงเงินของหม่อมฉันไปหรือไม่เพคะ?”

องค์ชายรองซ่างกวนหลีพูดด้วยความโกรธ “เจ้าพูดเหลวไหลอะไร เห็นกันอยู่ชัด ๆ ว่าเจ้าเป็นคนโยนถุงเงินให้เสด็จแม่ของข้า”

“โอ้ มีเหตุผลดีเพคะ ในเมื่อหม่อมฉันสามารถโยนถุงเงินให้ฮองเฮาได้ แล้วฆาตกรตัวจริงจะนำมีดสังหารใส่มือขององค์รัชทายาทไม่ได้หรือเพคะ? ทุกท่านเห็นเพียงแต่ฉากหลังจากเกิดเหตุเท่านั้น มีใครที่เห็นเหตุการณ์ ณ ตอนนั้นบ้างไหมเพคะ? มีใครเห็นหรือไม่ว่าองค์รัชทายาททรงกวัดแกว่งมีดสังหารคน?” คำพูดของเยี่ยนเว่ยฉือทำเอาทุกคนพูดไม่ออก

ฮ่องเต้คังอู่ที่ทรงนิ่งเงียบมานานตรัสขึ้นทันที “ถูกต้อง! คดีนี้มีข้อสงสัยมากมาย ข้าจะสั่งให้มีการพิจารณาคดีใหม่!”

“ฝ่าบาท...” ฮองเฮาต้องการจะห้ามปราม แต่หมอหลวงชิงพูดแทรกขึ้นมาก่อน “ขอแสดงความเสียพระทัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท องค์รัชทายาททรง… สิ้นพระชนม์แล้วพ่ะย่ะค่ะ!”

ทันทีที่สิ้นประโยค ฮองเฮาและองค์ชายรองซ่างกวนหลีก็กระหยิ่มยิ้มย่อง

พระพักตร์ของฮ่องเต้คังอู่ซีดลงทันที อีกทั้งยังทรงแทบจะยืนไม่ไหว

“ตรวจดู! ตรวจสอบซะ! แม้ชูจิ่งจะตายแล้ว แต่ข้าก็จะคืนความบริสุทธิ์ให้เขา! ใคกล้าพูดอีกแม้แต่คำเดียว ข้าจะให้มันผู้นั้นมีจุดจบเหมือนชูจิ่ง!”

ฮองเฮากับองค์ชายรองมองหน้ากัน และทั้งคู่ก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก

เยี่ยนเว่ยฉือคิดในใจ “คิดแล้วไม่มีผิด ต้องได้เผชิญกับความสูญเสียของจริงเท่านั้นถึงจะได้รู้ความหมายของคำว่าเสียใจ แล้วถึงจะยอมเทหมดหน้าตักเพื่อชดเชย หึ!”

ขณะที่เยี่ยนเว่ยฉือกำลังปลื้มปีติที่แผนของนางผ่านไปได้ด้วยดี และกำลังจะก้าวสู่ความสำเร็จ ฮองเฮาก็กล่าวอย่างเหี้ยมโหดว่า “คดีนี้สามารถส่งกลับไปพิจารณาคดีใหม่ได้ แต่นางคนชั่วช้าปากไม่มีหูรูดไม่รู้กาลเทศะผู้นี้จะต้องถูกประหารชีวิต นำตัวออกไปโบยให้ตายซะ!”

โอ๊ย! หาเหาใส่หัวตัวเองเสียแล้ว!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 430 รินชาขอขมา

    ซ่างกวนซีเห็นดังนั้นก็ยื่นมือไปหานาง "เต๋อซ่วนกงกงอุตส่าห์มาทั้ง ๆ ที่ฝนตก มิเช่นนั้นข้าคงมิให้เจ้าต้องลำบากมาด้วยตนเอง"พูดอีกอย่างก็คือ วันนี้ที่ให้เกียรติก็เพราะเห็นแก่ฝ่าบาท ไม่ใช่ฮองเฮา และยิ่งไม่ใช่เพื่อองค์หญิงเหวินหลิงเยี่ยนเว่ยฉือยิ้มให้องค์หญิงเหวินหลิง จากนั้นก็เดินไปข้างหน้า วางมือของตนเองบนมือของซ่างกวนซี แล้วนั่งลงด้วยกันจากนั้นเยี่ยนเว่ยฉือก็เอ่ยว่า "เอาล่ะ ข้ามาแล้ว องค์หญิงมีอะไรอยากทำอยากพูดก็รีบทำรีบพูดเถิด ตอนนี้ข้ายังอารมณ์ดีอยู่!"องค์หญิงเหวินหลิงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธนางเป็นแก้วตาดวงใจของฝ่าบาทและฮองเฮา เสด็จพี่ทุกคนต่างก็รักใคร่เอ็นดูนาง ไม่เคยต้องลำบากเช่นนี้มาก่อนแต่ใครจะรู้ว่าเยี่ยนเว่ยฉือทำอะไรกับนาง สำนักหมอหลวงทั้งสำนักก็ยังจนปัญญานางคันคะเยอจนแทบจะทนไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางคืน แทบจะข่มตานอนไม่หลับสตรีให้ความสำคัญกับรูปร่างหน้าตามากที่สุด นางไม่กล้าเกาแรง ๆ กลัวผิวหนังจะถลอก ได้แต่อดทนไว้ช่วงหลายวันที่ผ่านมา นอกจากกินยานอนหลับแล้วก็แทบจะไม่ได้นอนเลยเมื่อนึกถึงความทุกข์ทรมานที่ตนเองได้รับ องค์หญิงเหวินหลิงก็ข่มความไม่พอใจ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 429 ขอโทษถึงที่

    ความจริงแล้วซ่างกวนซีไม่ได้พูดโกหก เมื่อคืนหลังจากทั้งสองคนนอนหลับไปแล้ว เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกไม่สบายตัวเพราะสวมเสื้อตัวนอก จึงดึงทึ้งเสื้อผ้าของตัวเองตลอดเวลาท่านอนของนางก็ไม่ดี พลิกตัวไปมาในขณะที่ซ่างกวนซีใช้ชีวิตอยู่ในสนามรบมานาน ทำให้เขาเป็นคนนอนไวดังนั้นเยี่ยนเว่ยฉือจึงทำให้เขาไม่ได้นอนหลับตลอดทั้งคืนด้วยความจนใจ ซ่างกวนซีจึงลุกขึ้นมาช่วยเยี่ยนเว่ยฉือถอดเสื้อตัวนอกออก แล้วรอจนกระทั่งนางหลับสนิท จึงได้นอนพักไปครู่หนึ่งเขาไม่ได้นอนหลับสบาย คิดว่าเยี่ยนเว่ยฉือก็คงจะนอนไม่หลับเช่นกันดังนั้นก่อนจะไปประชุมราชสำนักในวันนี้ ซ่างกวนซีจึงสั่งบ่าวรับใช้ไม่ให้ไปรบกวนการพักผ่อนเยี่ยนเว่ยฉือจากนั้นเขาก็บ่นออกมาลอย ๆ ว่า "ถูกเด็กคนนั้นทำให้วุ่นวายไปครึ่งค่อนคืน" บ่าวรับใช้ได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจผิดไปคิดว่าพระชายาของพวกเขา ถูกองค์รัชทายาททำให้วุ่นวายไปครึ่งค่อนคืนจึงเป็นที่มาของบทสนทนาเมื่อครู่นี้เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกว่าซ่างกวนซีพูดจาไม่ระวังปาก ช่างเหลวไหลสิ้นดี!เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้ทำอะไรเลย พูดราวกับว่านางเคยชินเสียแล้ว น่ารังเกียจ!ดังนั้นเมื่อเยี่ยนเว่ยฉือลุกขึ้นออกจากห้อง

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 428 ช่างหวานล้ำ! ใช้ชีวิตร่วมกัน

    ซ่างกวนซีไม่เคยฝากความหวังไว้กับผู้อื่นการต่อสู้เพียงลำพังมาหลายปี ทำให้เขาเคยชินกับการแบกรับทุกสิ่งทุกอย่างไว้ด้วยตัวเองแต่ตอนนี้เมื่อเห็นเยี่ยนเว่ยฉือที่ทั้งโกรธแค้นและมุ่งมั่น เขาก็รู้สึกว่าบางเรื่อง ควรจะเรียนรู้ที่จะแบ่งปันเรื่องน่ายินดีเมื่อพูดออกไป สองคนร่วมยินดีปรีดาเรื่องเศร้าเมื่อพูดออกไป ทั้งสองก็สามารถร่วมแบ่งปันความทุกข์ทำให้ความหวานยิ่งหวานขึ้น ทำให้ความขมลดลงครึ่งหนึ่งซ่างกวนซีลุกขึ้นนั่ง โอบกอดเยี่ยนเว่ยฉือ เขาวางคางไว้บนหูของนาง พูดอย่างอ่อนโยน "ได้ เจ้าช่วยข้า พวกเราจะร่วมกัน ล้างมลทินให้เสด็จแม่ ร่วมกันตามหาน้องสาว"เยี่ยนเว่ยฉือโอบกอดซ่างกวนซีตอบ แล้วพูดต่อ "พวกเราจะร่วมกันถอนพิษให้ท่าน ร่วมกันฉลองวันเกิดอีกหลาย ๆ ปี ร่วมกันกินบะหมี่อายุยืนอีกหลาย ๆ ชาม ใช้ชีวิต…ร่วมกัน"ใช้ชีวิต… ร่วมกัน?ตึกตัก!ตึกตัก!ตึกตัก!ซ่างกวนซีรู้สึกเพียงว่าหัวใจของตนเต้นรัว ความรู้สึกซาบซึ้งใจที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน กำลังโอบกอดหัวใจที่เคยเย็นชาของเขาทำให้หัวใจทั้งดวงของเขาร้อนรุ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะคำพูดของเยี่ยนเว่ยฉือที่แท้เมื่อใช้ชีวิตร่วมกัน... สามารถทำเรื่องต่าง

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 427 นี่ไม่ใช่ความผิดของท่าน

    "เป็นนางที่ช่วยพวกท่านไว้หรือ?" เยี่ยนเว่ยฉือถามต่อซ่างกวนซีส่ายหน้าเล็กน้อย "นางเป็นคนดีมาก นางมัดน้องสาวของข้าไว้แนบอก แบกลูกสาวตัวน้อยของนางไว้บนหลัง แล้วก็จูงมือข้า พยายามหลบหนี แต่นางเป็นเพียงสตรี ทั้งยังต้องดูแลเด็กถึงสามคน จะวิ่งหนีไปได้ไกลสักแค่ไหน? แม้ว่าพวกเราจะพยายามอย่างสุดกำลังแล้ว ก็ยังถูกพวกมือสังหารไล่ตามทัน มือสังหารถือหน้าไม้ ดูท่าทางจะไม่ปล่อยให้ใครรอดชีวิต นางส่งน้องสาวคืนให้ข้า ให้ข้าอุ้มนางแล้ววิ่งไปข้างหน้าโดยไม่ต้องหันกลับมามอง ส่วนนางก็พาลูกสาวตัวน้อยของนาง ถ่วงเวลาพวกมือสังหาร""แต่พวกมือสังหารเห็นได้ชัดว่ามุ่งเป้ามาที่ข้า พวกเขาถูกฮูหยินผู้นั้นรั้งตัวไว้ ไม่สามารถไล่ตามมาได้ จึงยิงหน้าไม้มาที่ข้า ลูกธนูดอกแรกยิงพลาด ไม่ได้คร่าชีวิตข้า เพียงแต่เฉี่ยวแขนของข้าไป เมื่อเห็นว่าลูกธนูดอกที่สองกำลังจะพุ่งเข้าใส่หน้าอก ฮูหยินผู้นั้นก็รีบวิ่งเข้ามา โอบกอดข้าแล้วกลิ้งลงไปจากเนินเขาด้วยกัน หลบการโจมตีที่ถึงชีวิตได้""แล้วอย่างไรต่อ? พวกท่านหนีรอดมาได้หรือไม่? ทุกคนยังมีชีวิตอยู่หรือไม่?" เยี่ยนเว่ยฉือถามด้วยความเป็นห่วงซ่างกวนซีส่ายหน้าเล็กน้อย "หลังจากกลิ้งลงมาจา

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 426 เหตุการณ์สะเทือนขวัญที่ศาลาไป๋หยาง

    เยี่ยนเว่ยฉือรู้ว่า เรื่องเลวร้ายจะต้องเกิดขึ้นระหว่างทางกลับเมืองหลวงเป็นแน่แต่มันเกี่ยวอะไรกับความตะกละ?นางรออย่างใจเย็นให้ซ่างกวนซีพูดต่อไป“เสด็จแม่ทรงทราบว่า ในวังหน้าวังหลัง มีคนมากมายที่ไม่ต้องการให้พวกเราแม่ลูกมีที่ยืน ต่างก็หาวิธีที่จะกำจัดพวกเราให้พ้นทาง เพื่อจะได้เข้ามายึดครองตำแหน่งของเรา ดังนั้นตอนที่ไป พวกเราจึงปิดบังกำหนดการเดินทางตลอดทาง เดินทางทั้งวันทั้งคืน มิได้เปิดโอกาสให้ใครลงมือได้เลย แต่ระหว่างทางกลับ ก็บังเอิญเจอกับเทศกาลตวนอู่ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของข้า”ซ่างกวนซีถอนหายใจ จับมือเยี่ยนเว่ยฉือแน่นขึ้นเขาพูดต่อ “ในวันคล้ายวันเกิดทุกปี เสด็จแม่จะผูกด้ายมงคลให้ข้าด้วยพระองค์เอง และต้มบะหมี่อายุยืนให้ข้าหนึ่งชาม แม้ว่าเสด็จพ่อจะจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้ข้าอย่างยิ่งใหญ่ มีขุนนางมาร่วมงานกันมากมาย แต่สิ่งที่ข้าชอบที่สุด ก็คือบะหมี่อายุยืนที่เสด็จแม่ทำด้วยพระองค์เอง ก็เพราะบะหมี่อายุยืนชามนี้นี่เอง ที่ทำให้พวกเราแม่ลูกต้องแยกจากกันตลอดกาล”จากคำบรรยายของซ่างกวนซีขบวนเสด็จของฮองเฮากลับวังหลวง ใช้เวลาเดินทางสองวันหนึ่งคืนในช่วงเย็นของวันตวนอู่ พวกเขาเดินทางมา

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 425 ซ่างกวนซีเผยความในใจ

    ซ่างกวนซีคาดไม่ถึงเลยว่าเยี่ยนเว่ยฉือจะถามคำถามเช่นนี้ออกมาชั่วขณะหนึ่งสมองของเขาแทบจะหยุดทำงานเด็กคนนี้...ช่างทำให้คนไปไม่เป็นเก่งเสียจริงการยั่วเย้าคนโดยไม่แสดงออก นับว่าเป็นเสน่ห์ที่สะกดหัวใจที่สุดกระมัง?ซ่างกวนซีอยากจะพูดต่อ แต่เมื่อเห็นปิ่นหางหงส์ ก็พลันตระหนักถึงภาระหน้าที่บนบ่าและวันตายที่ไม่อาจรู้ได้เขาไม่อยากดึงเยี่ยนเว่ยฉือเข้ามาในวังวนนี้แต่ก็ไม่อยากผลักไสนางออกไปโดยง่ายช่างเถอะ ทนอีกหน่อยแล้วกันบางทีพรุ่งนี้เขาอาจจะหามัจฉาทองคำจิ่วหยางเจอก็ได้?ซ่างกวนซีจับมือเยี่ยนเว่ยฉือขึ้นมา แล้วเอ่ยว่า “เว่ยฉือ ข้าติดค้างคำขอโทษเจ้า”“ขอโทษ?” เยี่ยนเว่ยฉืองุนงงซ่างกวนซีพยักหน้า “วันเทศกาลตวนอู่ ข้าไม่ควรจะทำอาหารที่เจ้าอุตส่าห์เตรียมอย่างตั้งใจพัง ข้าผิดเอง”ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง เยี่ยนเว่ยฉือยิ้ม “ฝ่าบาทไม่ได้ชดเชยให้ข้าในวันรุ่งขึ้นแล้วหรือ ข้าไม่ได้ใส่ใจแล้ว”ซ่างกวนซีดึงนางลงไปนอนด้วยกัน โอบกอดนางเบา ๆ แล้วกล่าวต่อ “ที่ข้าไม่กินอะไรในวันตวนอู่ ก็เพราะว่าเมื่อสิบหกปีก่อน เป็นเพราะความตะกละของข้าเอง ทำให้เสด็จแม่ของข้าต้องสิ้นพระชนม์ และทำให้น้องสาวที่เพิ่งเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status