ตอนที่ 4 ถุงยางเป็นเหตุ
ธารธาราเดินเข้ามาในคอนโดของเวธัสครั้งแรก รู้สึกตื่นตาตื่นใจกับความกว้างขวางและความหรูหราของที่นี่
เสียงฝีเท้าของเธอดังก้องไปทั่วห้อง ทำให้เธอรู้สึกเหมือนอยู่ในบ้านหลังใหญ่ภายในห้องตกแต่งโทนสีเทา
‘เขาก็ดูเหมือนผู้ชายปกติทั่วไปนะเออเกย์นี่นาไม่ใช่กระเทยเสียหน่อยก็แค่ผู้ชายที่รักชายเท่านั้นเอง’
ธารธาราถกเถียงกับตนเองภายในใจ
เธอเริ่มสำรวจห้องอย่างตั้งใจ ตกหลุมรักบรรยากาศทันทีที่เห็นวิวจากหน้าต่างและการตกแต่งที่เรียบหรู แต่เมื่อเดินเข้าไปในห้องนอนของเขา
ความรู้สึกตื่นเต้นกลับกลายเป็นความวิตกกังวล เมื่อเธอเริ่มทำความสะอาดพื้น เธอเผลอไปเตะถังขยะที่อยู่หน้าห้องน้ำโดยไม่ตั้งใจ
ทันใดนั้น ถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วหลายชิ้นก็กลิ้งออกมาจากถังขยะ ดวงตาของธารธาราเบิกกว้างเหมือนจะเป็นลม
"โหนี่อย่าบอกนะถุงเนี่ยมันไปจิ้มรูตูดผู้ชายมาอร๊ายยยอิน้ำรับไม่ได้ค่ะเก็บด่วน"
ความรู้สึกตื่นตระหนกและตกใจพุ่งเข้ามาในใจ
เธอแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ใบหน้าของเธอเริ่มร้อนผ่าว เธอรู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุน
ทุกอย่างรอบตัวเริ่มพร่าเบลอไปหมด ความคิดสับสนวิ่งวนอยู่ในหัว
“โอ้ย ฉันจะบ้าถุงยางเกลื่อนเลย! อิน้ำจะเป็นลม!”
ในขณะที่ธารธารากำลังเก็บถุงขยะอย่างตื่นเต้นเสียงเปิดประตูดังก้องขึ้นในห้อง จนทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงอย่างกะทันหัน
"เธอเป็นใคร? มาทำอะไรในห้องของฉัน?"
เสียงทุ้มเข้มของชายหนุ่มดังขึ้นทำให้ธารธาราที่กำลังทำความสะอาดต้องสะดุ้งสุดตัว หันขวับไปตามเสียงทันที
ใจเธอเต้นระส่ำ ราวกับลมหายใจติดขัดเมื่อเห็นชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า
เขาสูงโปร่ง ผิวขาวสะอาดราวกับผ่านการดูแลอย่างพิถีพิถัน ร่างกายของเขาช่างสมบูรณ์แบบจนแทบไม่น่าเชื่อ
ใบหน้าหล่อเหลาของเขายิ่งตอกย้ำความเป็นจริงที่ดูเกินกว่าความฝัน ดวงตาคมกริบ
จมูกโด่งเป็นสัน และริมฝีปากอมชมพูที่ดูน่าหลงใหลอย่างบอกไม่ถูก
เขาดูดีจนธารธาราอดไม่ได้ที่จะจ้องมองเหมือนถูกสะกด แต่ความประหม่าและความกลัวในใจทำให้เธอต้องรีบหันหน้าหนี
"เอ่อ... คุณท่านให้มาทำความสะอาดค่ะ"
ธารธาราพยายามควบคุมเสียงให้มั่นคง แต่ความตื่นเต้นยังปรากฏชัดเจนในท่าทางและน้ำเสียงของเธอเขายืนนิ่ง สายตาแฝงด้วยความไม่พอใจที่ยากจะปิดบัง
"แล้วคุณแม่ไม่ได้บอกเธอหรือ ว่าฉันสั่งห้ามใครเข้ามาในห้องนอน?"
น้ำเสียงของเขาเย็นเยียบและแข็งกระด้างขึ้น ธารธารารู้สึกเหมือนคำพูดของเขาเป็นเข็มที่ทิ่มแทงลงในหัวใจ ทำให้ความวิตกกังวลในตัวเธอยิ่งทวีคูณ
เธอไม่แน่ใจว่าควรตอบอย่างไรดี ในหัวว่างเปล่าราวกับถูกตัดขาดจากความคิดทุกอย่าง
เธอยืนตัวแข็งทื่อ ความสับสนและความกลัวก่อตัวขึ้นในจิตใจ
"คือ... หนูแค่..."
เธอพยายามหาคำอธิบาย แต่ถ้อยคำกลับหายลับไปจากปาก ความกังวลถาโถมเข้ามาราวกับกำลังถูกตัดสินว่าทำผิดอย่างร้ายแรง และเธอไม่อาจแก้ตัวได้ทัน
ธารธารารีบมัดถุงขยะปิดปากไว้ย่างรู้งานผู้ไม่ให้มันอุจาดตาไปมากว่านี้
เวธัสมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรำคาญ และยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเขานึกถึงเหตุผลที่เขากลับมาที่คอนโดในวันนี้ เขามีแขกคนสำคัญ
ชายหนุ่มที่เขากำลังจะสานสัมพันธ์ด้วยความสนิทสนม แม้จะยังไม่ได้ตกลงคบหากันอย่างจริงจัง
แต่วันนี้เขาแค่อยากจะใช้เวลาสบายๆ ด้วยการดื่มไวน์กันอย่างผ่อนคลาย
การพบคนแปลกหน้าในห้องนอนของเขาจึงทำให้เขาไม่พอใจอย่างที่สุด
"ออกไป จากห้องฉัน ตอนนี้ "
เสียงของเวธัสเน้นทีละคำอย่างคนระงับโทสะเอาไว้ ธารธาราทำได้เพียงก้มหน้ารับรู้ความอับอายและสับสนยังคงเกาะกุมจิตใจของเธอ ราวกับถูกปกคลุมด้วยความมืดที่หาทางออกไม่เจอ
"อ้าว ทำไมนักศึกษามาอยู่ในห้องคุณได้ล่ะครับ?"
ชายหนุ่มที่มาพร้อมกับเวธัสเอ่ยถามขึ้น เสียงของเขาเรียบง่ายแต่แฝงด้วยความฉงน
ใบหน้าของเขาอ่อนหวานแต่ก็ยังดูคมคาย สูงโปร่งไม่ต่างจากเวธัส
ทั้งคู่ยืนเคียงข้างกัน ราวกับเป็นเงาสะท้อนของกันและกันในบุคลิกที่แตกต่าง
เวธัสหันไปมองคนคุยของเขา ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
"อันนี้เด็กในอุปการะของคุณแม่ครับ ท่านให้เธอมาทำความสะอาดให้ทุกวัน เป็นคนที่ท่านไว้ใจมาก เลยให้เข้ามาทำความสะอาดห้องผมด้วย"
"อ้าวเหรอ งั้นก็ดีเลยสิ เราจะได้มีเด็กเสิร์ฟจำเป็น"
ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมยิ้มบาง ๆ ใบหน้าของเขาดูมีเสน่ห์แปลกตา ก่อนจะหันไปถามธารธารา
"เธอทำอาหารเป็นไหม?"ธารธาราที่ยืนก้มหน้าด้วยความประหม่าและกลัว ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมาตอบคำถามนั้น เมื่อใบหน้าของเธอเผยเต็มที่ เวธัสถึงกับชะงัก
ใจของเขารู้สึกวูบไหวไปชั่วขณะ ภาพของเด็กสาวที่เคยประสบอุบัติเหตุเมื่อสองปีก่อนปรากฏขึ้นในความทรงจำ ใบหน้าที่เคยดูน่ารักใสซื่อ
ตอนนี้กลับแปรเปลี่ยนเป็นความสวยเฉี่ยวราวกับแม่จิ้งจอกผู้เจ้าเล่ห์ ดวงตาที่คมกริบ ริมฝีปากได้รูป และโครงหน้าที่สมบูรณ์แบบราวกับงานศิลปะมีชีวิต
หากเป็นผู้ชายทั่วไป คงรู้สึกถูกดึงดูดไม่ใช่น้อย แต่สำหรับเวธัส ความรู้สึกนั้นแทบจะเลือนลางไป เพราะเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับผู้หญิงเลย
"เป็นค่ะ"
ธารธาราตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบกว่าที่ผ่านมา แม้ภายในใจยังคงสั่นไหวอยู่"งั้นดีเลย"
ชายหนุ่มยิ้มรับ
"ทำอาหารให้พวกเราหน่อยสิ แล้วก็เสิร์ฟไวน์ด้วย"
คำสั่งนี้ฟังดูง่าย แต่สำหรับธารธารา ทุกคำพูด ทุกสายตาที่จับจ้องทำให้เธอรู้สึกถึงความกดดันที่แผ่ซ่านเข้ามา เธอรับรู้ได้ว่าแม้เธอจะเป็นเพียง "เด็กในอุปการะ"
แต่การอยู่ท่ามกลางคนสองคนนี้มันเต็มไปด้วยความแตกต่างทางสถานะและโลกที่เธอไม่เคยเข้าถึง
ธารธาราสวมผ้ากันเปื้อนที่แขวนอยู่ในคอนโดนี้ด้วยท่าทีเรียบง่าย แต่ในใจของเธอกลับเต็มไปด้วยความกดดันและตื่นเต้น เธอก้มหน้าลง
มือสั่นเล็กน้อยขณะผูกเชือกด้านหลัง ก่อนจะตั้งสมาธิลงกับการทำอาหาร ความคิดย้อนกลับไปถึงช่วงเวลาที่เธอยังอยู่บ้านกับพ่อเลี้ยงและแม่
ทุกมื้อที่บ้าน เธอเป็นคนทำอาหารทั้งหมดด้วยตัวเอง อาจจะเป็นเพราะในบ้านนั้นไม่มีใครใส่ใจเรื่องเหล่านี้เท่าเธอ
เธอจึงค่อย ๆ ฝึกฝนและพัฒนาฝีมือจนกลายเป็นงานที่เธอชำนาญ
วันนี้ธารธารามองวัตถุดิบในตู้เย็นของเวธัส วัตถุดิบที่ดูหรูหราเกินกว่าที่เธอคุ้นเคย แต่กลับทำให้เธอคิดถึงเมนูที่เธอเคยเรียนรู้ด้วยตัวเองสเต็กเนื้อ
ในวันหนึ่งที่เธออยากลิ้มรสอาหารจานนี้ แต่ไม่มีโอกาสออกไปทานนอกบ้าน เธอจึงต้องหาวิธีทำเองจากอินเทอร์เน็ตและหนังสือสูตรอาหาร
ฝึกฝนครั้งแล้วครั้งเล่าจนในที่สุดก็ทำออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ธารธาราเลือกทำสเต็กเนื้อในวันนี้ เพราะเห็นว่ามีวัตถุดิบครบครัน เธอหยิบเนื้อออกมาจากตู้เย็น จับมันด้วยความระมัดระวังและเตรียมปรุงรส
ความรู้สึกของเธอในตอนนี้ไม่เพียงแค่เป็นความตื่นเต้นกับการทำอาหารให้คนแปลกหน้า แต่มันเป็นความรู้สึกที่ปนเปกันระหว่างความกดดันและความภูมิใจ
เธอรู้ดีว่าชายหนุ่มทั้งสองเป็นคนที่อยู่ในสังคมอีกระดับหนึ่ง และการทำอาหารในวันนี้สำหรับเธอเป็นเสมือนการทดสอบความสามารถที่เธอพยายามฝึกฝนมาอย่างดี
เสียงเนื้อที่กระทบกับกระทะร้อนดังขึ้น เมื่อเธอเริ่มย่างสเต็ก กลิ่นหอมของเนื้อที่กำลังสุกส่งกลิ่นอบอวลไปทั่วห้องครัว
ตอนที่ 25เมื่อได้รับคำตอบที่รอคอย เวธัสรู้สึกเหมือนได้รับชีวิตใหม่ เขาตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ให้โอกาสนี้หลุดมือไปเขาพิสูจน์ให้ธารธาราเห็นถึงความจริงใจอีกครั้งด้วยการค่อย ๆ สร้างความสัมพันธ์ขึ้นใหม่อย่างไม่รีบร้อนพวกเขาเริ่มต้นจากการพูดคุยกันแบบเพื่อน แลกเปลี่ยนเรื่องราวและความสนใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวันในทุกวัน เวธัสพยายามทำให้ธารธารารู้สึกว่าเธอมีค่าเสมอ และทุกครั้งที่เธอเล่าเรื่องที่ทำให้เธอยิ้มหรือหัวเราะเขาจะตั้งใจฟังและยิ้มตาม เขาอยากให้เธอได้รู้ว่าความสุขของเธอนั้นสำคัญกับเขามากแค่ไหนมีครั้งหนึ่งที่ธารธาราต้องเดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อถ่ายละคร เวธัสตัดสินใจขับรถไปหาที่กองถ่ายพร้อมกับของฝากเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เขารู้ว่าเธอชอบธารธาราทั้งประหลาดใจและปลื้มใจ เธออดไม่ได้ที่จะกล่าวขอบคุณเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่ไม่เคยใช้กับเขามานาน“จริงๆ พี่เวไม่ต้องลำบากขนาดนี้ก็ได้นะคะ”เธอบอกเขาอย่างจริงใจ“ไม่เลยพี่เต็มใจ”เขายิ้มบาง ๆ พลางมองเธอด้วยสายตาที่ลึกซึ้งธารธารายิ้มกลับ ดวงตาของเธอเริ่มเผยความอบอุ่นที่เคยถูกเก็บซ่อนไว้ เวธัสรับรู้ได้ว่ากำแพงของเธอค่อย ๆ พังทลายลงทีละนิดแต่เขาก็ไ
ตอนที่ 24หลังจากวันนั้น เวธัสไม่รอช้า เขาทุ่มเททุกวิถีทางในการพิสูจน์ให้ธารธาราเห็นว่าเขาจริงจังและพร้อมจะเปลี่ยนแปลงเขาแสดงออกผ่านการกระทำแทนคำพูด ไม่ว่าจะเป็นการแสดงความห่วงใยเล็กๆ น้อยๆ ที่คอยอยู่ข้างเธอเสมอโดยไม่ล้ำเส้นหรือการเฝ้ารอเธอหลังเลิกกองถ่ายในยามดึก แค่เพื่อให้แน่ใจว่าเธอจะกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยบางวันเขาส่งอาหารและกาแฟที่เธอชอบไปที่กองถ่าย โดยไม่เคยปรากฏตัวหรือพูดถึงความพยายามเหล่านี้ให้ใครรู้เพราะเขาไม่ต้องการให้ธารธารารู้สึกอึดอัด เวธัสรู้ดีว่าการแสดงความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุด อาจไม่ใช่การพร่ำบอก แต่คือการทำให้เธอรู้สึกได้ถึงความตั้งใจนั้นอย่างแท้จริงในวันหนึ่งที่ฝนตกหนัก เขามารอรับเธอที่กองถ่ายโดยที่ธารธาราไม่รู้มาก่อน เธอเดินออกจากกองพร้อมร่มเล็กๆ ที่ไม่อาจป้องกันสายฝนได้ทั้งหมดเวธัสจึงเดินเข้ามากางร่มใหญ่ของเขาเหนือหัวเธอ เธอสะดุ้งเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นว่าเป็นเขา เธอเพียงขยับถอยห่างเล็กน้อย แล้วเอ่ยเสียงเรียบๆ ว่า“ไม่จำเป็นต้องมาทำแบบนี้ก็ได้ค่ะ ”เวธัสพยักหน้าเข้าใจ“พี่รู้ครับ แต่พี่แค่อยากให้น้ำรู้ว่าพี่พร้อมจะอยู่ข้างๆ น้ำ…ในทุกสภาพอากาศ ไม่ว่าฝนจะตกหนักแค่
ตอนที่ 23หลังจากได้สติ เวธัสรู้ว่าเขาไม่อาจปล่อยให้ธารธาราหายไปจากชีวิตโดยที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยเขาตัดสินใจที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อขอโทษและแก้ไขสิ่งที่เคยพลาดไป เขาใช้เวลารวบรวมความกล้าและความคิดที่ชัดเจนก่อนจะเริ่มต้นการเดินทางเพื่อแก้ไขความสัมพันธ์ครั้งนี้อย่างจริงจังเขาเริ่มจากการหาข้อมูลจากเพื่อนร่วมงานและคนใกล้ชิดของธารธารา พยายามที่จะค้นหาเบาะแสว่าสถานที่ถ่ายละครของเธออยู่ที่ไหนจนในที่สุด เขาได้รู้ว่าวันถ่ายละครของธารธาราจะมีขึ้นอีกครั้งในอีกไม่กี่วันวันนั้นเขาไปถึงกองถ่ายแต่เช้า ในใจของเขาเต็มไปด้วยความกังวลและคำถามว่าเธอจะยอมฟังเขาหรือไม่ เวธัสรอจนธารธารามาถึงดวงตาของเขามองตามเธอทันทีที่เธอก้าวลงจากรถ ด้วยความรู้สึกที่อัดแน่นจนแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เมื่อเธอหันมาเห็นเขา ธารธาราชะงักไปชั่วขณะ ใบหน้าของเธอฉายแววประหลาดใจ แต่ทันทีที่เห็นเวธัส เธอกลับเบือนสายตาเดินผ่านเขาไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น“น้ำ...รอสักครู่ได้ไหม?”เขาเรียกเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แฝงไปด้วยความรู้สึกที่ขอโอกาสธารธาราหันมามองเขานิ่งๆ รอยยิ้มอ่อนที่เคยมีให้เขาได้หายไปจากใบหน้าเหลือเพียงความเยือกเย็น“มีอ
ตอนที่ 22 จากคนมีเหตุผลกลายเป็นคนงี่เง่าเวลาผ่านไปนับเดือนตั้งแต่ธารธาราเดินออกจากชีวิตของเวธัส เขาพยายามจะติดต่อเธอทุกทาง ทั้งโทรศัพท์ ข้อความ หรือแม้แต่การส่งอีเมลแต่ไม่ว่าเขาจะพยายามอย่างไร ธารธาราก็บล็อกทุกช่องทางจนหมด ราวกับว่าเธอได้หายไปจากโลกของเขาอย่างสิ้นเชิงในช่วงแรก เวธัสยังทำเป็นไม่ใส่ใจ พยายามบอกตัวเองว่านี่คือสิ่งที่เขาต้องการ ธารธาราจะได้ไม่ต้องมารู้สึกผิดหรือติดอยู่กับความสัมพันธ์ที่เขาเองก็ไม่แน่ใจแต่ในขณะที่วันเวลาค่อยๆ ผ่านไป เขากลับพบว่าความเงียบงันนั้นเริ่มกลืนกินหัวใจของเขา เขารู้สึกว่างเปล่าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน การไม่มีธารธาราอยู่ข้างๆทำให้ชีวิตของเขาดูหม่นหมอง และการงานที่เคยเป็นที่พึ่งพิงทางจิตใจสำหรับเขาก็ไม่อาจเติมเต็มช่องว่างในใจนั้นได้อีกต่อไปทุกคืน เขาไม่อาจข่มตาหลับได้ หันไปมองข้างกายที่ว่างเปล่า ห้องที่เคยมีร่องรอยของเธอเต็มไปหมดกลับเงียบสงบและว่างเปล่าเขาเริ่มรู้สึกว่าการใช้ชีวิตที่ไม่มีธารธาราอยู่ข้างๆ กลายเป็นเรื่องที่แทบทนไม่ได้ และเขาก็ไม่รู้จะทำอย่างไรกับความรู้สึกนี้ จนในที่สุด วันหนึ่งเขาจึงตัดสินใจไปหาคนที่เขาคิดว่าคงจะเข้าใจมากที่ส
ตอนที่ 21พายุหึงเมื่อธารธารากลับมาถึงคอนโด ภายในห้องมืดสลัว เธอสังเกตเห็นเวธัสนั่งเงียบอยู่ตรงริมระเบียงตำแหน่งโปรดของเขาเขาเหม่อมองออกไปในความมืดพลางสูบบุหรี่อย่างเงียบงัน ควันจางลอยอ้อยอิ่งในอากาศเส้นสายควันบางเบาที่สะท้อนแสงไฟจากถนนเบื้องล่างดูราวกับโอบล้อมใบหน้าของเขาไว้อย่างหม่นหมองเวธัสเป็นคนที่ไม่สูบบุหรี่บ่อยนัก การที่เขาถือบุหรี่อยู่เช่นนี้บ่งบอกได้ชัดว่าในใจของเขากำลังมีเรื่องให้ขบคิดหนักหน่วงธารธาราเพียงแค่ยืนมองอยู่ครู่หนึ่ง ความสงสัยผุดขึ้นในใจ แต่เธอไม่กล้าถาม ไม่อยากรบกวนความเงียบงันของเขา เธอจึงทำเพียงเดินผ่านไปเงียบๆ หวังว่าเขาจะได้ใช้เวลาตามลำพังหญิงสาวก้าวเข้าไปในห้องของตัวเอง เปิดไฟสลัวๆ และปลดปล่อยลมหายใจยาว ความเหนื่อยล้าจากการทำงานทั้งวันกดทับเธอจนรู้สึกเหมือนแทบหมดแรงจิตใจที่ว้าวุ่นเกี่ยวกับงานสัมภาษณ์ที่เพิ่งผ่านมาก็ยังไม่จางหาย เธอเดินเข้าไปชำระร่างกายโดยไม่รู้เลยว่าเรื่องที่เวธัสนั่งขบคิดและเครียดถึงที่สุดนั้น ไม่ใช่เรื่องใดอื่น นอกจากเรื่องของเธอเองในความเงียบ เวธัสเหม่อมองควันบุหรี่ที่ค่อยๆ ลอยจางขึ้นสู่ท้องฟ้ายามค่ำคืน เขารู้ดีว่าธารธาราไม่ได้ตั้
ตอนที่ 20 พายุหึง"น้ำค้าง!"เสียงเรียกของออย ผู้จัดการสาววัยสามสิบปลายๆ ดังขึ้นในความวุ่นวายของกองถ่าย ท่ามกลางเสียงทีมงานขนย้ายอุปกรณ์และจัดฉาก ทุกคนในวงการนี้รู้จักเธอในนาม "น้ำค้าง" แต่คนที่บ้านเรียกเธอว่า "น้ำ" เพียงสั้นๆ ฟังดูเรียบง่ายและอบอุ่น"คะ พี่ออย"น้ำค้างรับคำพร้อมรอยยิ้ม เธอเดินเข้ามาหาผู้จัดการที่ยืนกอดอก มองเธอด้วยสายตาแฝงความขี้เล่น“อิจฉาจัง ได้ประกบคู่กับพระเอกหล่อขนาดนี้”ออยพูดพลางยิ้มมุมปากน้ำค้างหัวเราะน้อยๆ และพยักหน้าอย่างเห็นด้วย“จริงค่ะพี่ หล่อมาก”ออยชะงักไปเล็กน้อยเหมือนไม่คาดคิดคำตอบจากเธอ ก่อนหรี่ตามองด้วยท่าทีจับผิด “เอ้า เห็นด้วยง่ายๆ นึกว่าจะตอบกลับมาแบบ ‘ก็งั้นๆ’ ตามที่ชอบพูดซะอีก”น้ำค้างหัวเราะคิก พลางส่ายหน้าราวกับเอ็นดู“แหม พอเขาหล่อ ก็บอกว่าหล่อสิคะพี่ จะให้พูดก็งั้นๆ ทั้งที่เห็นเต็มตาได้ไง”คำพูดของเธอแฝงด้วยความจริงใจและความตรงไปตรงมา ออยได้ยินแล้วยิ่งยิ้มกว้าง ก่อนจะส่ายหน้าอย่างอดเอ็นดูไม่ได้ คำตอบของน้ำค้างช่างซื่อตรงและน่ารักเหมือนเจ้าตัวช่วงเวลาสัมภาษณ์เต็มไปด้วยแสงแฟลชจากกล้องและเสียงฮือฮาของผู้สื่อข่าว น้ำค้างนั่งอยู่ข้างพระเอกหนุ