ตอนที่ 5 แชมเปญเป็นเหตุ1
ความร้อนจากเตาและเสียงน้ำมันที่ดังซู่ซ่าทำให้ธารธาราค่อย ๆ คลายความตึงเครียดลงเล็กน้อย เมื่อมื้ออาหารใกล้จะเสร็จสมบูรณ์
เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังทุ่มเททั้งใจและความสามารถลงในอาหารจานนี้ แม้ว่ามันจะดูเหมือนเรื่องเล็กน้อยสำหรับใครบางคน แต่สำหรับธารธารา
การทำอาหารมื้อนี้คือสิ่งเดียวที่เธอสามารถแสดงออกได้ว่าตัวเองมีค่า
“สเต็กเสร็จแล้วค่ะ”
ธารธาราวางจานสเต็กลงบนโต๊ะอย่างเรียบร้อย ก่อนจะได้ยินเสียงสนทนาระหว่างชายหนุ่มทั้งสอง
“คุณเวธัสครับ วันนี้ผมได้ไวน์มาจากฝรั่งเศส เป็นแชมเปญรสชาติดีมาก”
ชายหนุ่มผู้มาพร้อมกับเวธัสพูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจ ดวงตาของเขาเป็นประกาย
ราวกับกำลังรอคอยให้ค่ำคืนนี้เป็นเวลาที่พิเศษเวธัสยิ้มบาง ๆ ก่อนจะตอบกลับอย่างผ่อนคลาย
“คุณกันเก็บไว้เพื่อมาจิบกับผมเลยใช่ไหมครับ?”
“ต้องใช่อยู่แล้วครับ”
ชายหนุ่มตอบกลับอย่างกระตือรือร้น พร้อมส่งขวดแชมเปญในมือให้เวธัส
เวธัสเหลือบมองธารธาราที่กำลังจัดโต๊ะอยู่ ก่อนจะหันมาสั่งด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ
“น้ำค้างเธอมาเอาไวน์ไปใส่แก้วให้ฉันที”
เวธัสปกติเขาเพิ่งจะได้คุยกับธารธาราเป็นครั้งแรก จึงเรียกชื่อเล่นตามผู้เป็นมารดาของเขาเท่านั้น
แม้ว่าธารธาราจะมาจากสลัม ชีวิตที่ผ่านมาจะเต็มไปด้วยความลำบาก แต่เธอไม่ใช่คนไร้การศึกษา
ความจริงคือเธอได้รับการส่งเสริมจากคุณหญิงให้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังระดับประเทศ สภาพแวดล้อมที่เธออยู่และเพื่อนที่เธอคบหาในรั้วมหาวิทยาลัย
ทำให้เธอได้มีโอกาสสัมผัสกับโลกของผู้คนอีกชนชั้นหนึ่งบ้างโลกที่แชมเปญและไวน์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตสังคม
ธารธารารู้วิธีเทไวน์ให้ถูกต้องตามมารยาทสังคมชั้นสูง ความรู้ที่เธอได้จากการออกงานสังสรรค์เล็ก ๆ กับเพื่อน ๆ ในมหาวิทยาลัยช่วยให้เธอไม่รู้สึกตื่นเต้นมากนักในสถานการณ์นี้ แม้ว่าใจจะยังสั่นเล็กน้อย แต่เธอรวบรวมสมาธิ
จับขวดแชมเปญอย่างมั่นคง ก่อนจะเทไวน์ลงในแก้วทรงสูงของเวธัสอย่างช้า ๆ โดยเริ่มจากการเอียงแก้วเล็กน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้ฟองไวน์ฟูเกินไป
สายตาของเธอจับจ้องไปที่ของเหลวสีอำพันที่ไหลลงในแก้วอย่างนุ่มนวล เธอเทไวน์อย่างบรรจง รักษาอุณหภูมิของไวน์ในมือให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
ราวกับมันเป็นงานศิลปะชิ้นหนึ่ง ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยความมั่นใจที่แฝงอยู่ใต้ความเรียบง่าย
เธอรู้สึกถึงสายตาของชายหนุ่มทั้งสองที่จับจ้องอยู่ แต่กลับไม่รู้สึกหวั่นไหวมากเท่าที่คิด
“เสร็จแล้วค่ะ”
ธารธาราเอ่ยด้วยเสียงที่สงบ นำไวน์ไปวางตรงหน้าเวธัสพร้อมกับชายหนุ่มอีกคน ความภูมิใจเล็ก ๆ
ที่ได้แสดงความสามารถของตัวเองเกิดขึ้นในใจเธอ แม้จะเป็นหน้าที่ที่ดูเรียบง่าย แต่เธอก็รู้ว่า ทุกอย่างในสถานการณ์นี้มีความสำคัญ
ด้านเวธัสที่นั่งเงียบมาตลอดก็อดรู้สึกทึ่งไม่ได้ สายตาเขาจับจ้องที่ธารธาราขณะเธอเทไวน์ลงในแก้วอย่างพิถีพิถัน การเคลื่อนไหวของเธอเป็นธรรมชาติและมั่นคง
ราวกับเคยทำเช่นนี้มานับครั้งไม่ถ้วน ไม่เพียงแค่เธอทำอาหารได้อย่างยอดเยี่ยมจนเกินความคาดหมายแล้ว แต่ยังเข้าใจวิธีการรินไวน์อย่างประณีต
ซึ่งเป็นรายละเอียดที่คนทั่วไปไม่ให้ความสำคัญนัก เวธัสอดคิดไม่ได้ว่าเด็กสาวที่คุณแม่อุปการะไว้คนนี้มีอะไรซ่อนอยู่มากกว่าที่เขาคิด
เธอไม่ใช่แค่เด็กที่ดูอ่อนด้อยจากสลัม แต่กลับฉายแววของความเฉลียวฉลาดและความรู้รอบตัวที่น่าทึ่ง
เขามองไปที่เธอด้วยความสนใจที่เพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว คำพูดของชายหนุ่มที่มาด้วยกันลอยมาในหัวเบา ๆ
“เด็กในอุปการะของคุณแม่คุณเมธัสคนนี้ฉลาดไม่เบาเลยนะครับ”
เวธัสยิ้มรับ พลางจิบไวน์ที่ธารธารารินให้อย่างผ่อนคลาย ขณะที่ธารธาราถอยออกมายืนห่าง ๆ ด้วยความสงบนิ่ง
แม้ว่าภายในใจของเธอจะยังเต็มไปด้วยความกังวลและความไม่แน่ใจในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้
ในขณะที่ธารธารายืนครุ่นคิดถึงแผนการที่คุณหญิงภาวิณีวางไว้ เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นขัดจังหวะความคิดของเธอ
“ฮัลโหลครับ”
“คุณแม่หมดสติหรอครับ เดี๋ยวผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลยครับ”น้ำเสียงของชายหนุ่มคนนั้นเปลี่ยนเป็นร้อนรน เขารีบเก็บของอย่างรวดเร็ว แล้วหันมาทางเวธัส
“คุณเวครับ เดี๋ยวผมต้องขอตัวก่อนนะครับ พอดีมีเรื่องด่วนจริง ๆ”“เอ่อ ไม่เป็นไรครับ”
เวธัสพยักหน้ารับอย่างไม่รีบร้อนเขาตอบกลับเรียบ ๆ ก่อนจะเห็นชายหนุ่มคนนั้นเดินออกจากห้องไป
ทันทีที่บรรยากาศในห้องเหลือเพียงพวกเขาสองคน ธารธาราจึงเอ่ยขึ้นเสียงแผ่ว
“ให้น้ำเก็บเลยไหมคะ?”เวธัสเลื่อนสายตามองมาที่เธอ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบแต่แฝงด้วยน้ำหนัก
“ฉันยังไม่ได้กินอะไรเลย เธอรินไวน์แล้วมานั่งกินเป็นเพื่อนฉันสิ”ธารธาราอึ้งไปเล็กน้อยกับคำสั่งที่ไม่คาดคิด สายตาของเธอเหลือบไปมองแก้วไวน์ตรงหน้าเขาอย่างลังเล
“เอ่อ จะดีหรอคะ?”เธอถามออกไปอย่างไม่มั่นใจ
ดวงตาของเวธัสจับจ้องมาที่เธอด้วยความจริงจัง เขาพูดต่อโดยไม่เปลี่ยนน้ำเสียง
“มันเป็นคำสั่งของฉัน”เสียงที่แฝงด้วยอำนาจนั้นทำให้ธารธาราไม่มีทางเลือก เธอรู้ดีว่าการขัดคำสั่งของเวธัสอาจนำมาซึ่งความไม่พอใจ ในขณะที่หัวใจเธอเต้นรัว
ตอนที่ 25เมื่อได้รับคำตอบที่รอคอย เวธัสรู้สึกเหมือนได้รับชีวิตใหม่ เขาตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ให้โอกาสนี้หลุดมือไปเขาพิสูจน์ให้ธารธาราเห็นถึงความจริงใจอีกครั้งด้วยการค่อย ๆ สร้างความสัมพันธ์ขึ้นใหม่อย่างไม่รีบร้อนพวกเขาเริ่มต้นจากการพูดคุยกันแบบเพื่อน แลกเปลี่ยนเรื่องราวและความสนใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวันในทุกวัน เวธัสพยายามทำให้ธารธารารู้สึกว่าเธอมีค่าเสมอ และทุกครั้งที่เธอเล่าเรื่องที่ทำให้เธอยิ้มหรือหัวเราะเขาจะตั้งใจฟังและยิ้มตาม เขาอยากให้เธอได้รู้ว่าความสุขของเธอนั้นสำคัญกับเขามากแค่ไหนมีครั้งหนึ่งที่ธารธาราต้องเดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อถ่ายละคร เวธัสตัดสินใจขับรถไปหาที่กองถ่ายพร้อมกับของฝากเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เขารู้ว่าเธอชอบธารธาราทั้งประหลาดใจและปลื้มใจ เธออดไม่ได้ที่จะกล่าวขอบคุณเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่ไม่เคยใช้กับเขามานาน“จริงๆ พี่เวไม่ต้องลำบากขนาดนี้ก็ได้นะคะ”เธอบอกเขาอย่างจริงใจ“ไม่เลยพี่เต็มใจ”เขายิ้มบาง ๆ พลางมองเธอด้วยสายตาที่ลึกซึ้งธารธารายิ้มกลับ ดวงตาของเธอเริ่มเผยความอบอุ่นที่เคยถูกเก็บซ่อนไว้ เวธัสรับรู้ได้ว่ากำแพงของเธอค่อย ๆ พังทลายลงทีละนิดแต่เขาก็ไ
ตอนที่ 24หลังจากวันนั้น เวธัสไม่รอช้า เขาทุ่มเททุกวิถีทางในการพิสูจน์ให้ธารธาราเห็นว่าเขาจริงจังและพร้อมจะเปลี่ยนแปลงเขาแสดงออกผ่านการกระทำแทนคำพูด ไม่ว่าจะเป็นการแสดงความห่วงใยเล็กๆ น้อยๆ ที่คอยอยู่ข้างเธอเสมอโดยไม่ล้ำเส้นหรือการเฝ้ารอเธอหลังเลิกกองถ่ายในยามดึก แค่เพื่อให้แน่ใจว่าเธอจะกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยบางวันเขาส่งอาหารและกาแฟที่เธอชอบไปที่กองถ่าย โดยไม่เคยปรากฏตัวหรือพูดถึงความพยายามเหล่านี้ให้ใครรู้เพราะเขาไม่ต้องการให้ธารธารารู้สึกอึดอัด เวธัสรู้ดีว่าการแสดงความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุด อาจไม่ใช่การพร่ำบอก แต่คือการทำให้เธอรู้สึกได้ถึงความตั้งใจนั้นอย่างแท้จริงในวันหนึ่งที่ฝนตกหนัก เขามารอรับเธอที่กองถ่ายโดยที่ธารธาราไม่รู้มาก่อน เธอเดินออกจากกองพร้อมร่มเล็กๆ ที่ไม่อาจป้องกันสายฝนได้ทั้งหมดเวธัสจึงเดินเข้ามากางร่มใหญ่ของเขาเหนือหัวเธอ เธอสะดุ้งเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นว่าเป็นเขา เธอเพียงขยับถอยห่างเล็กน้อย แล้วเอ่ยเสียงเรียบๆ ว่า“ไม่จำเป็นต้องมาทำแบบนี้ก็ได้ค่ะ ”เวธัสพยักหน้าเข้าใจ“พี่รู้ครับ แต่พี่แค่อยากให้น้ำรู้ว่าพี่พร้อมจะอยู่ข้างๆ น้ำ…ในทุกสภาพอากาศ ไม่ว่าฝนจะตกหนักแค่
ตอนที่ 23หลังจากได้สติ เวธัสรู้ว่าเขาไม่อาจปล่อยให้ธารธาราหายไปจากชีวิตโดยที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยเขาตัดสินใจที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อขอโทษและแก้ไขสิ่งที่เคยพลาดไป เขาใช้เวลารวบรวมความกล้าและความคิดที่ชัดเจนก่อนจะเริ่มต้นการเดินทางเพื่อแก้ไขความสัมพันธ์ครั้งนี้อย่างจริงจังเขาเริ่มจากการหาข้อมูลจากเพื่อนร่วมงานและคนใกล้ชิดของธารธารา พยายามที่จะค้นหาเบาะแสว่าสถานที่ถ่ายละครของเธออยู่ที่ไหนจนในที่สุด เขาได้รู้ว่าวันถ่ายละครของธารธาราจะมีขึ้นอีกครั้งในอีกไม่กี่วันวันนั้นเขาไปถึงกองถ่ายแต่เช้า ในใจของเขาเต็มไปด้วยความกังวลและคำถามว่าเธอจะยอมฟังเขาหรือไม่ เวธัสรอจนธารธารามาถึงดวงตาของเขามองตามเธอทันทีที่เธอก้าวลงจากรถ ด้วยความรู้สึกที่อัดแน่นจนแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เมื่อเธอหันมาเห็นเขา ธารธาราชะงักไปชั่วขณะ ใบหน้าของเธอฉายแววประหลาดใจ แต่ทันทีที่เห็นเวธัส เธอกลับเบือนสายตาเดินผ่านเขาไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น“น้ำ...รอสักครู่ได้ไหม?”เขาเรียกเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แฝงไปด้วยความรู้สึกที่ขอโอกาสธารธาราหันมามองเขานิ่งๆ รอยยิ้มอ่อนที่เคยมีให้เขาได้หายไปจากใบหน้าเหลือเพียงความเยือกเย็น“มีอ
ตอนที่ 22 จากคนมีเหตุผลกลายเป็นคนงี่เง่าเวลาผ่านไปนับเดือนตั้งแต่ธารธาราเดินออกจากชีวิตของเวธัส เขาพยายามจะติดต่อเธอทุกทาง ทั้งโทรศัพท์ ข้อความ หรือแม้แต่การส่งอีเมลแต่ไม่ว่าเขาจะพยายามอย่างไร ธารธาราก็บล็อกทุกช่องทางจนหมด ราวกับว่าเธอได้หายไปจากโลกของเขาอย่างสิ้นเชิงในช่วงแรก เวธัสยังทำเป็นไม่ใส่ใจ พยายามบอกตัวเองว่านี่คือสิ่งที่เขาต้องการ ธารธาราจะได้ไม่ต้องมารู้สึกผิดหรือติดอยู่กับความสัมพันธ์ที่เขาเองก็ไม่แน่ใจแต่ในขณะที่วันเวลาค่อยๆ ผ่านไป เขากลับพบว่าความเงียบงันนั้นเริ่มกลืนกินหัวใจของเขา เขารู้สึกว่างเปล่าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน การไม่มีธารธาราอยู่ข้างๆทำให้ชีวิตของเขาดูหม่นหมอง และการงานที่เคยเป็นที่พึ่งพิงทางจิตใจสำหรับเขาก็ไม่อาจเติมเต็มช่องว่างในใจนั้นได้อีกต่อไปทุกคืน เขาไม่อาจข่มตาหลับได้ หันไปมองข้างกายที่ว่างเปล่า ห้องที่เคยมีร่องรอยของเธอเต็มไปหมดกลับเงียบสงบและว่างเปล่าเขาเริ่มรู้สึกว่าการใช้ชีวิตที่ไม่มีธารธาราอยู่ข้างๆ กลายเป็นเรื่องที่แทบทนไม่ได้ และเขาก็ไม่รู้จะทำอย่างไรกับความรู้สึกนี้ จนในที่สุด วันหนึ่งเขาจึงตัดสินใจไปหาคนที่เขาคิดว่าคงจะเข้าใจมากที่ส
ตอนที่ 21พายุหึงเมื่อธารธารากลับมาถึงคอนโด ภายในห้องมืดสลัว เธอสังเกตเห็นเวธัสนั่งเงียบอยู่ตรงริมระเบียงตำแหน่งโปรดของเขาเขาเหม่อมองออกไปในความมืดพลางสูบบุหรี่อย่างเงียบงัน ควันจางลอยอ้อยอิ่งในอากาศเส้นสายควันบางเบาที่สะท้อนแสงไฟจากถนนเบื้องล่างดูราวกับโอบล้อมใบหน้าของเขาไว้อย่างหม่นหมองเวธัสเป็นคนที่ไม่สูบบุหรี่บ่อยนัก การที่เขาถือบุหรี่อยู่เช่นนี้บ่งบอกได้ชัดว่าในใจของเขากำลังมีเรื่องให้ขบคิดหนักหน่วงธารธาราเพียงแค่ยืนมองอยู่ครู่หนึ่ง ความสงสัยผุดขึ้นในใจ แต่เธอไม่กล้าถาม ไม่อยากรบกวนความเงียบงันของเขา เธอจึงทำเพียงเดินผ่านไปเงียบๆ หวังว่าเขาจะได้ใช้เวลาตามลำพังหญิงสาวก้าวเข้าไปในห้องของตัวเอง เปิดไฟสลัวๆ และปลดปล่อยลมหายใจยาว ความเหนื่อยล้าจากการทำงานทั้งวันกดทับเธอจนรู้สึกเหมือนแทบหมดแรงจิตใจที่ว้าวุ่นเกี่ยวกับงานสัมภาษณ์ที่เพิ่งผ่านมาก็ยังไม่จางหาย เธอเดินเข้าไปชำระร่างกายโดยไม่รู้เลยว่าเรื่องที่เวธัสนั่งขบคิดและเครียดถึงที่สุดนั้น ไม่ใช่เรื่องใดอื่น นอกจากเรื่องของเธอเองในความเงียบ เวธัสเหม่อมองควันบุหรี่ที่ค่อยๆ ลอยจางขึ้นสู่ท้องฟ้ายามค่ำคืน เขารู้ดีว่าธารธาราไม่ได้ตั้
ตอนที่ 20 พายุหึง"น้ำค้าง!"เสียงเรียกของออย ผู้จัดการสาววัยสามสิบปลายๆ ดังขึ้นในความวุ่นวายของกองถ่าย ท่ามกลางเสียงทีมงานขนย้ายอุปกรณ์และจัดฉาก ทุกคนในวงการนี้รู้จักเธอในนาม "น้ำค้าง" แต่คนที่บ้านเรียกเธอว่า "น้ำ" เพียงสั้นๆ ฟังดูเรียบง่ายและอบอุ่น"คะ พี่ออย"น้ำค้างรับคำพร้อมรอยยิ้ม เธอเดินเข้ามาหาผู้จัดการที่ยืนกอดอก มองเธอด้วยสายตาแฝงความขี้เล่น“อิจฉาจัง ได้ประกบคู่กับพระเอกหล่อขนาดนี้”ออยพูดพลางยิ้มมุมปากน้ำค้างหัวเราะน้อยๆ และพยักหน้าอย่างเห็นด้วย“จริงค่ะพี่ หล่อมาก”ออยชะงักไปเล็กน้อยเหมือนไม่คาดคิดคำตอบจากเธอ ก่อนหรี่ตามองด้วยท่าทีจับผิด “เอ้า เห็นด้วยง่ายๆ นึกว่าจะตอบกลับมาแบบ ‘ก็งั้นๆ’ ตามที่ชอบพูดซะอีก”น้ำค้างหัวเราะคิก พลางส่ายหน้าราวกับเอ็นดู“แหม พอเขาหล่อ ก็บอกว่าหล่อสิคะพี่ จะให้พูดก็งั้นๆ ทั้งที่เห็นเต็มตาได้ไง”คำพูดของเธอแฝงด้วยความจริงใจและความตรงไปตรงมา ออยได้ยินแล้วยิ่งยิ้มกว้าง ก่อนจะส่ายหน้าอย่างอดเอ็นดูไม่ได้ คำตอบของน้ำค้างช่างซื่อตรงและน่ารักเหมือนเจ้าตัวช่วงเวลาสัมภาษณ์เต็มไปด้วยแสงแฟลชจากกล้องและเสียงฮือฮาของผู้สื่อข่าว น้ำค้างนั่งอยู่ข้างพระเอกหนุ