หญิงสาวในเครื่องทรงสวยนั่งขัดสมาธิอยู่ที่ถ้ำถึงกับลืมตาขึ้นมา ดวงตาสีแดงฉานของเธอดูดุดันขึ้นเมื่อภาพในนิมิตที่เพ่งมองเห็นว่าพญาเพชรแก้วนั้นได้ยอมเสี่ยงเอาตัวเข้าไปช่วยนรินทร์หรือนรินธราให้พ้นจาดเงื้อมมือของภากรณ์ ทั้งที่มันเป็นกฎห้ามเขาเอาไว้เพื่อไม่ให้คำสาปของตัวเขาเองรุกรามไปมากกว่านี้
“เจ้าพี่ยอมเสี่ยงเพื่อมันเลยหรือ!! รักนางมนุษย์ชั้นต่ำคนนั้นมากเหลือคณาเชียวหรือ!!” เธอแทบจะกรีดร้องออกมาด้วยโทสะ
คีภัทราคิดว่าแม้ดวงจิตนางจะเป็นพญานาคีมาก่อนแต่ตอนนี้แทบจะไม่เหลือบารมีแล้วด้วยซ้ำ จิตนางดับสลายกลายเป็นผุยผง ดวงแก้วมณีก็แตกเป็นเสี่ยงๆ ถึงจะกลับมาก็ไม่ใช่ว่าจะมีบุญญาธิการหรือบุญบารมีเหมือนดังเดิม อีกทั้งนางก็นิสัยไม่เหมือนเช่นเดิม ทั้งมุทะลุ สู่รู้ ขี้สงสัย ชอบเอาชนะไม่ได้มีจิตใจเมตตาเหมือนอดีต แล้วทำไมพญาเพชรแก้วถึงยังไม่ยอมหักใจตัดนางไปเสีย ซ้ำยังคอยตามเป็นห่วงเป็นไยเฝ้าดูแลอยู่
ในขณะที่ทั้งสองนั่งมองหน้ากันอยู่ภายในเทวาลัยด้วยรอยยิ้มนั้นก็ได้ยินเสียงของชาวบ้านที่ดูเหมือนจะกำลังแบกอะไรสักอย่างขึ้นมายังแต่เทวาลัย เรียกสายตาของพชร นรินทร์และแสงศรให้หันไปมองชาวบ้านเหล่านั้น“จับดีๆ ประคองดี” ผู้ใหญ่บ้านเดินขึ้นมาพร้อมกับออกคำสั่งกับชาวบ้านเหล่านั้น พชรขมวดคิ้วแน่นมองรูปปั้นพญานาคดวงตาสีแดงนั้นอย่างเงียบๆ ก่อนที่จะเห็นชาวบ้านอีกสองสามคนเข้ามาเคลียร์พื้นที่ด้านข้างรูปปั้นเจ้าปู่ที่นับถือพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้เป็นเชิงขอขมาชาวบ้านชายอีกคนที่เดินตามคนที่แบกรูปปั้นก็ถือป้ายชื่อของพญานาคองค์ที่ยกขึ้นมาตั้งไว้ข้างๆ คาถาบูชาเจ้าปู่องค์หลักในเทวาลัย ป้ายนั้นมีทั้งชื่อพญาเพชรแก้วและพระนางคีภัทราด้านล่างมีป้ายคาถาบูชาคู่กัน นรินทร์เห็นอย่างนั้นก็รีบลุกออกจากตรงนั้นแล้วหลบทางให้ชาวบ้าน“วางตรงนี้ๆ ข้างๆ กันเลย วางดีๆ ล่ะ” ผู้ใหญ่บ้านชี้นิ้วบอกตำแหน่งให้เหล่าชาวบ้านรับรู้ ก่อนที่พชรจะเอ่ยถามขึ้น“เมื่อวานรูปปั้นมันพังทลายลงไม่ใช่หรือครับ? ทำไม...”“อ๋อ เป็นเรื่องที่ชาวบ้านแปลกใจอยู่เหมือนกัน พอเช้า
นรินทร์นิ่งค้างเมื่อได้ยินสิ่งที่หญิงสาวตรงหน้าพูดขึ้น ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยืนกอดอกท่าเดียวกันกับหญิงสาวที่เดินเข้ามาคุยกับเธอ อีกทั้งยังพยายามพูดให้เธอเข้าใจผิดอีกถึงแม้ว่ามันจะได้ผลก็ตาม ในหัวตอนนี้เธอคิดว่าพชรนั้นหลอกเธอและดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้จะพยายามแสดงตัวว่าเป็นเมียของเขา ที่ผ่านมาพชรรีบกลับบ้านทุกเย็นมันเป็นเพราะแบบนี้หรอกหรือ “ก็พูดมาตรงๆเลยสิ ว่าเป็นใครและเป็นอะไรกับคุณพชร” “คุณไม่ทราบจริงๆหรือคะ?” หญิงสาวทำทีตกใจที่ไม่ว่าใครมองดูก็รู้ว่าเธอกำลังแสแสร้ง “จะให้ทราบได้ยังไงล่ะคะ ในเมื่อตัวคุณเองยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าอยู่กับเขาในสถานะอะไร” นรินทร์เอ่ยอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะนั่งลงตรงที่เดิมแล้วเริ่มทานอาหาร พยายามทำตัวนิ่งเฉยแม้ภายในใจจะร้อนรุ่มกับคำพูดของหญิงสาวต
“แต่ว่าอะไรคะ?” นรินทร์ก้มมองตัวเองตามสายตาของพชร ก่อนจะเงยหน้ามองเขาด้วยความสงสัย พชรถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะจ้องมองตรงเสื้อเชิ้ตนั้นแล้วพูดขึ้น“ผมตั้งใจเตรียมไว้...แต่ไม่คิดว่าคุณจะใส่แบบนี้น่ะครับ”“ยังไงล่ะคะไอ้แบบนี้ที่ว่า...”“มัน...ไม่เปิดเผยเกินไปหน่อยหรือครับ? มันคือเสื้อเชิ้ตนะครับไม่ใช่เสื้อคลุม” พชรเอ่ย นรินทร์ได้ยินอย่างนั้นก็ถึงกับยกยิ้มขึ้นมาทันทีก่อนจะถอนหายใจเอามือไขว้หลังมองหน้าเขาด้วยสายตาทะเล้น...เขาน่ารักจัง“นี่คุณหวงเหรอคะ? ฉันว่าฉันไม่ได้แต่งตัวโป๊ขนาดนั้นนะคะ ใครๆเขาก็ใส่กัน...”“ครับ...ผมหวง” พชรยอมรับง่ายๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าไปหาเธอที่ยืนอึ้งกับคำพูดของเขา ไม่คิดว่าเขาจะพูดออกมาตรงๆแบบนี้ ก่อนจะเอนตัวหลบเล็กน้อยเมื่อพชรเดินเข้ามาชิดแทบจะติดกับตัวเธอด้วยสีหน้าสงสัยพชรจัดการใส่สร้อยเส้นนั้นที่ตั้งใจเสกสรรมาเพื่อเธออย่างแนบชิด นรินทร์ถึงกับทำตัวไม่ถูกเมื่อเขาอยู่ใกล้ๆขนาดนี้ รู้สึกถึงลมหายใจที่รดตรงต้นคอระหว่างที่เขาเอียงหน้าใส่สร้อยคอให้ เธอยกม
แสงแดดอ่อนๆยามเช้าเล็ดลอดผ่านม่านบางสีขาวในห้อง หญิงสาวนอนหลับใหลอยู่บนเตียงกว้างภายใต้สายตาคมที่นั่งมองเธออยู่อย่างนั้นพร้อมรอยยิ้มบางๆเปื้อนใบหน้า สายตาที่เต็มไปด้วยความรักลึกซึ้งสุดใจ พลางนึกย้อนไปยังอดีตที่แสนหวานที่เคยมีร่วมกัน แสนนานเหลือเกินสำหรับการรอคอยยิ่งคิดดวงตาคมก็เอ่อคลอหยุดน้ำตาเคลือบดวงตาของเขาไว้...ในตอนนี้เธอก็กลับมาสู่อ้อมอกของเขานรินทร์เขยิบตัวอย่างงัวเงียก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาเด่นชัดในดวงตาสวย เธอยิ้มออกมาอย่างมีความสุข พลางจ้องมองใบหน้าหล่อเหลานั้นอย่างไม่อยากเชื่อ...ทุกอย่างมันเหมือนกับความฝัน “ตื่นแล้วหรือครับ” พชรพูดพร้อมเอื้อมมือไปปัดผมที่ปรกหน้าของหญิงสาวที่นอนมองหน้าเขาอยู่ ก่อนจะลูบศีรษะของเธอเบาๆ นรินทร์เอียงศีรษะรับสัมผัสนั้นอย่างเต็มใจราวกับลูกแมวน้อยเชื่องๆตัวหนึ่ง “สรุปเราสองคน...คบกันแล้วนะครับ&rdqu
อีกแค่นิดเดียวริมฝีปากของทั้งคู่ก็จะแนบชิดลิ้มรสหวาน เพียงแต่นรินทร์นั้นกลับชะงักงันยกมือขึ้นดันอกแกร่งของเขาออกเบาๆ เบือนหน้าหนีเล็กน้อยด้วยความเขินอาย พชรนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะมองจ้องเธอด้วยรอยยิ้มหวาน สายตาคมรอให้เธอพูดออกมาถึงการปฏิเสธเมื่อครู่ “เอ่อ...คือว่า...เราทำแบบนี้จะดีหรือคะ?” “หืม?” “คุณพชรเองก็ไม่ใช่คนหน้าตาไม่ดี ใครๆเห็นต่างก็ต้องหลงรักคุณแน่ คุณมีสิทธิ์เลือกนะคะ...คิดดีแล้วเหรอคะที่จะ...ทำแบบนี้กับฉัน...” นรินทร์พูดอ้อมไปอ้อมมา แต่พชรก็พอจะรู้ถึงความหมายที่เธอพูดถึง เขารู้ดีว่าภายในใจของเธอนั้นหวาดกลัวสิ่งไหน “ผมไ
“คุณก็น่าจะรู้ว่าทำไมนายท่านถึงอยากให้คุณพักที่นี่ ยังไงผมก็ขอตัวก่อนนะครับ” แสงศรพูดพร้อมรอยยิ้มบางๆ ก่อนจะเดินจากไปทิ้งให้นรินทร์ยืนนิ่งอึ้งอยู่หน้าห้อง ก่อนจะหันมองยังห้องของพชรแล้วรีบแล้วห้องตัวปิดประตูทันทีเธอเอามือทาบอกซ้ายที่กำลังเต้นรัว เพราะความคิดที่ว่าเขาจะเข้ามาหาเธอกลางดึกอย่างนั้นหรือ การขอให้เธอค้างที่บ้านนั้นมันก็ป้าหมายชัดเจนไม่ใช่เหรอนั่นคือสิ่งที่นรินทร์คิด เธอคิดไปพลางใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาเสียอย่างนั้น ก่อนที่ยกมือขึ้นจับที่ใบหน้าของตัวเองและสะบัดหน้าไปมาเพื่อไล่ความคิดของตัวเองออกไปพชรที่นั่งขัดสมาธิอยู่อีกห้องหนึ่งค่อยๆลืมตาขึ้นกึ่งยิ้มกึ่งหัวเราะเมื่อเขาได้ยินเสียงในความคิดของนรินทร์ชัดเจน การเปลี่ยนไปของเธอทำให้เขารู้สึกสนใจไม่น้อย สายตาคมเพ่งมองไปยังห้องตรงข้ามได้ทะลุปรุโปร่งแม้จะมีกำแพงหนากั้นก็ตาม ภาพที่นรินทร์กำลังเดินวนไปวนมาพลางจับใบหน้าตัวเองนั้นทำให้เขามองมันอย่างเพลิดเพลินและอมยิ้มกับปฏิกิริยาของเธอ“พี่อยากกอดน้องเหลือเกินนรินธรา...” พูดจบเขาก็หลับตาลงอีกครั้ง...นรินทร์ที่จัดก