เตียงมีเป็นหมื่นเตียง ผู้ชายมีเป็นแสนคนแล้วทำไม..ผู้ชายของใหญ่เอวดีคนนั้นถึงเป็นตัวร้ายของเรื่องนี้ได้ล่ะเนี่ย!!
ดูเพิ่มเติม“...ให้ตายสิเจ้าคือความผิดพลาดอันใหญ่หลวงของข้าเลย”
ฉันไม่ค่อยเข้าใจที่แมวส้มเบื้องหน้ากำลังพูดเท่าไหร่นัก..อันที่จริงมันไม่น่าเข้าใจตั้งแต่ที่ฉันพบเจอเจ้าแมวส้มตัวอ้วนนี่พูดได้แล้วไหม.. ถึงแม้ว่าไม่อยากยอมรับแต่ว่า..ดูเหมือนฉันจะตายแล้วละสิ ตอนเด็กๆ ฝันเอาไว้ซะไกลแต่พอโตขึ้นมากลับเป็นได้เพียงแต่พนักงานบริษัทเท่านั้น ฉันทำงานมากกว่าสิบสองชั่วโมงต่อวันเพื่อให้รายได้ที่หามามันเพียงพอต่อรายจ่าย..และแน่นอนว่ามันเหนื่อยมากๆ ไหนใครมันบอกว่าทำงานจนตายไม่มีอยู่จริงไงวะ!! “ดะ..เดี๋ยวก่อนนะ คือว่าฉันแน่ใจว่าตัวเองเสียชีวิตเพราะทำงานหนัก แล้ว..นี่มันคืออะไรกันคะ” แมวอ้วนตัวนั้นยกเท้าหน้าขึ้นมากอดอกเอาไว้ “นี่แม่หนูเคยได้ได้ยินเรื่องของการพาดวงวิญญาณผู้ล่วงลับเดินทางไปยังอีกมิติหนึ่งรึเปล่า?” ฉันชะงักเล็กน้อยก่อนจะเริ่มทำความเข้าใจในคำกล่าวของแมวส้มที่กำลังยืนอยู่เบื้องหน้า.. พุงน้อยๆ นั่นขอจกสักทีได้ไหมนะ “อย่าได้มองข้าด้วยสายตาแบบนั้น..อีกทั้งห้ามเอามือสกปรกของเจ้ามาแตะต้องตัวข้าด้วย!!” ราวกับว่าเจ้าแมวอ้วนตัวนั้นอ่านใจได้เลย “ฉันเคยอ่านนิยายค่ะ..มีการสวมร่างเยอะแยะจะตายไปทั้งในเกมและในนิยาย หรือว่าฉันจะได้ไปสวมร่างเป็นนางร้ายในนิยายกันคะ ว้าว!! น่าตื่นเต้นจังเลยค่ะ!” เจ้าแมวส้มส่ายหน้าเบาๆ “เรื่องการสวมร่างในนิยายน่ะอาจจะใช่แต่ทว่าเจ้าไม่ใช่นางร้ายหรือว่านางเอกเนี่ยนะสิ ข้าขอสารภาพตามตรงว่าข้า..เอาดวงวิญญาณของเจ้ามาเกินน่ะ ปกติจะต้องพามาแค่ผู้เดียวเท่านั้น..แต่เล็บของข้าดันเกี่ยวดวงวิญญาณของเจ้ามาด้วยอย่างไม่ได้ตั้งใจ” “.....” แล้วฉันควรรู้สึกอย่างไรดีที่เล็บแหลมๆของเจ้านี่ดันเผลอเกี่ยวดวงวิญญาณของฉันมาน่ะ “คือว่า..ไหนๆ ก็พาดวงวิญญาณของฉันมาแล้ว ก็ส่งฉันไปเป็นตัวประกอบไม่ได้เหรอคะ” เมื่อมันคือนิยาย เช่นนั้นการไปมองดูความรักที่สุดแสนจะหวานแหววของพระเอกนางเองมันก็น่าสนุกมากๆ เลยไม่ใช่รึไง อีกทั้งฉันเองก็ตายไปแล้ว..ฉันไม่อยากกลับไปทำงานหลังขดหลังแข็งแบบเดิมอีก หากเลือกได้ฉันก็อยากจะใช้ชีวิตของตัวเองบ้าง..ชีวิตที่ไม่ต้องคิดถึงเรื่องเงินและรายจ่ายต่างๆ “ในเมื่อข้าไม่สามารถส่งเจ้ากลับไปได้ก็มีแต่ต้องส่งเจ้าข้ามมิติไปเท่านั้น..แน่นอนว่าจากนี้ไปเจ้าจะเป็นคนของที่มิตินั้นโดยสมบูรณ์ เพียงแต่มีข้อห้ามเพียงข้อเดียวเท่านั้น..นั่นคือเจ้าไม่ควรไปแตะต้องหรือว่ายุ่งเกี่ยวกับตัวละครหลัก เพราะหากว่าเนื้อเรื่องเปลี่ยนมันจะยุ่งยากและข้าไม่อยากมานั่งแก้ไขอีก” ฉันพยักหน้าเร็วๆพร้อมกับมองเจ้าแมวส้มตัวนั้นด้วยแววตาเป็นประกาย “ฉันรับปากค่ะ..ว่าจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับตัวละครหลักอย่างแน่นอน ช่วยส่งฉันไปเป็นลูกสาวขุนนางได้ไหมคะ ฉันไม่อยากกังวลเรื่องเงินทอง แล้วก็ขอหน้าตาสวยๆ หน่อยนะคะ เพราะฉันอยากจะใช้ชีวิตรักที่แสนหวาน” ขอมากจังนะแม่หนูคนนี้..แต่ทว่าเขาเองก็มีบางอย่างที่อดสงสัยไม่ได้เลย เขาทำหน้าที่ส่งดวงวิญญาณเช่นนี้มาหลายร้อยปีแต่ไม่เคยทำพลาดถึงขนาดหยิบดวงวิญญาณมาเกินเช่นนี้ได้ หรือว่านี่จะเป็นโชคชะตากันนะ..สิ่งเดียวที่เขาไม่อาจฝืนได้นั่นก็คือกงล้อแห่งโชคชะตาที่กำลังหมุนเวียน.. “เรื่องนั้นเจ้าจะได้ตามที่เจ้าต้องการเลย..ขอให้เจ้ามีความสุขกับชีวิตใหม่ก็แล้วกัน” ฉันระบายยิ้มหวานด้วยความดีใจ ก่อนจะตรงเข้าไปอุ้มเจ้าแมวส้มตัวอ้วนนั้นขึ้นมากอด ฉันทั้งหอมทั้งกอดด้วยความมันเขี้ยว “ขอบคุณนะคะ” “....บอกว่าอย่ามาแตะต้องข้าไง เอามือที่สกปรกของเจ้าออกไปเลย!!” . . ปกติที่คนอื่นสวมร่างทำอะไรเป็นอย่างแรกเหรอคะ..ส่วนฉันไปร่วมงานปาร์ตี้ก่อนเลย! “เจ้ามาช้านะเอโลอีส” นี่คือปาร์ตี้หน้ากากของชนชั้นสูงและจากการอ่านนิยายมามากกว่าหนึ่งร้อยเรื่อง นั่นทำให้ฉันรู้ได้โดยสัญชาตญาณเลยว่าในงานนี้จะต้องมีหนุ่มหล่อมากมายที่รอฉันอยู่แน่ๆ และสตรีที่กำลังส่งหน้ากากขนนกมาให้ฉันคือเลดี้เฟมแห่งเบนัว เพื่อนรักของเอโลอีส การเข้ามาสวมร่างของเอโลอีส เลดี้ในตระกูลเคาน์นั้นทำให้ฉันพอใจมากทีเดียว อาจจะเพราะฐานะของตระกูลอแลงอยู่ในระดับที่ดีมาก แถมใบหน้าของเอโลอีสก็น่ารักในแบบที่ใครเห็นก็ต้องรู้สึกเอ็นดูอย่างแน่นอน “..กว่าข้าจะผ่านด่านท่านพ่อออกมาก็ยากเย็นมากพอสมควรเลยเฟม.." เลดี้แห่งเบนัวหัวเราะเบาๆ “เป็นเรื่องธรรมดา..ผู้อื่นอาจจะมองว่างานเลี้ยงหน้ากากมันคืองานที่โสมมและอันตรายแต่วางใจได้เลยเอโลอีส เพราะผู้ที่กำลังจะพาเจ้าเข้าไปในงานคือข้าคนนี้ ที่มีประสบการณ์การเข้าร่วมงานเลี้ยงหน้ากากไม่ต่ำกว่าสิบครั้ง สิ่งแรกที่เจ้าต้องรู้นั่นคือเจ้าจะต้องละทิ้งความเป็นเลดี้ของเจ้าออกให้หมด แล้วปล่อยตัวปล่อยใจไปกับแสงสีอันร้อนแรงของงานเลี้ยง” ทำไมฟังดู..น่าตื่นเต้นชะมัดเลย และเมื่อเฟมจับมือของฉันเข้าไปในงานเลี้ยงบรรยากาศของที่นี่ก็แตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง..เสียงเพลงกำลังถูกบรรเลงขึ้นมาเพื่อทำให้บรรยากาศภายในงานครึกครื้น และที่น่าตกใจมากกว่านั้นคือด้านในงานมีหนุ่มสาวที่กำลังจับคู่พูดคุยกันด้วยท่าทีสนิทสนม บางคู่ถึงกับจูบกันตรงนั้นเลย ฉันยกมือขึ้นมาปิดปากด้วยความรู้สึกตกใจเล็กน้อยแต่การกระทำนั้นกลับทำให้เฟมส่งสายตาดุๆ มาหาฉัน “อย่ามองผู้อื่นเช่นนั้นเอโลอีส เพราะที่นี่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวมากทีเดียว..ทุกคนสามารถกระทำทุกสิ่งอย่างได้ตามต้องการ และสิ่งที่เราควรกระทำคือการสนใจเพียงแค่คู่ของตนเองเท่านั้น” เอโลอีสพยักหน้า “แล้วคนที่ไม่มีคู่ต้องทำยังไงล่ะ?” เฟสแสยะยิ้มร้ายๆ ออกมา “ก็ต้องไปอีกห้องหนึ่ง..ที่นี่มีกฎว่าตราบใดที่สตรียังไม่เลือกคู่ เหล่าบุรุษก็ห้ามแสดงตัวเป็นเจ้าของ..หรือหากตกลงกันได้ จะสองบุรุษหนึ่งสตรีหรือว่าจะสองสตรีหนึ่งบุรุษก็ทำได้ทั้งนั้น..” พระเจ้าช่วยนี่มันเหมือนไม่ใช่งานเลี้ยงเลยแฮะ เพราะว่ามันอยู่นอกเหนือจากการจินตนาการนิดหน่อย ที่นี่คงไม่ใช่แค่งานเลี้ยงใสๆ สินะ แต่เป็นงานเลี้ยงที่หากตกลงกันได้ก็จะพากันจับจูงมือเข้าไปในห้องชั้นบน “ข้ายังแปลกใจเลยที่เจ้าอยากมางานเลี้ยงหน้ากาก เพราะปกติเจ้าห่วงชื่อเสียงของตัวเองจะตายไป แต่เอโลอีสชีวิตน่ะมันไม่ได้ยืนยาวหรอกนะ เพราะอย่างนั้นอะไรที่มีความสุขก็ทำไปเถอะ ถ้ามัวลังเลบางทีตัวเจ้าในอนาคตอาจจะเสียใจก็ได้” เธอก็ไม่ได้รู้สึกลังเลอะไรแต่เธออยากจะเจอหนุ่มที่ถูกใจก่อน “ข้าก็ไม่ได้ห่วงชื่อเสียงตัวเองขนาดนั้น อีกทั้ง..จะมีใครอยากมาทำความรู้จักกันข้างั้นเหรอ” เฟมหัวเราะเสียงดังกับคำถามนั้น “เรื่องนั้นเข้าไปในห้องนั้นเจ้าก็จะรู้เอง..แต่ขอเตือนเอาไว้ก่อนเลยว่า อย่ายุ่งกับชายหน้ากากสีดำเด็ดขาด!”อา..ถ้อยคำที่อีกฝ่ายกล่าวออกมานั้นมันช่างเย็นชาและไร้เยื่อไยสิ้นดี จะว่าไปแล้วนั่นคือแกรนด์ดยุคอองดรีไม่ใช่หรือ..ชายผู้ร่ำรวยที่สุดในจักรวรรดิ ตัวร้ายของนิยายเรื่องนี้ และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้นางเอกของเรื่องต้องพบเจอกับความยากลำบากแกรนด์ดยุคผู้ไม่เคยมีความรักให้ใคร..เขาเองก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับนางเอกของเรื่องด้วย ในความรู้สึกของท่านแกรนด์ดยุคมีเพียงความรู้สึกอยากเอาชนะพระเอกของเรื่องนี้เท่านั้นเองหมอนี่เป็นตัวร้ายที่ธงดำปี๋แบบสุดๆ เลย..อยากได้เพราะแค่อยากเอาชนะ ไม่ได้รัก..นั่นนางเอกนะโว้ยไม่ใช่สิ่งของที่แค่อยากครอบครองเอาไว้ก็แย่งมาน่ะในตัวนิยายบรรยายเอาไว้ถึงความหล่อเหลาของท่านแกรนด์ดยุคได้อย่างชัดเจน จุดเด่นของเขานั้นคือดวงตาที่มีสองสี..ที่เหมือนสุนัขไซบีเรียอะไรแบบนั้น คุณนักเขียนบรรยายเอาไว้ว่านั่นคือจุดด่างพร้อยที่กลับกลายมาเป็นจุดเด่นบนใบหน้า เพราะมันทำให้เขาดูลึกลับและน่าค้นหาเอโลอีสถอนหายใจเบาๆ คนแบบนั้นเธอไม่ควรไปยุ่งด้วยเลย จากนี้เธอต้องระวังให้มากหากเจอคนที่มีดวงตาคนละสีจะต้องหลีกหนีให้ไกลไปเลย!“ทำไมกันคะ..ทั้งๆ ที่ข้ารักท่านมากมายขนาดนี้แท้ๆ แต่ท่านกลับเหยียบย่ำความรั
เอโลอีสปรายสายตาไปจ้องมองใบหน้าของท่านลูเซียน ดูเหมือนว่าเขาจะอายุมากกว่าเธอหลายปีมากทีเดียว เพราะการแสดงออกของเขามันดูอบอุ่นเป็นผู้ใหญ่“วันนี้ข้าช่างโชคดียิ่งนักที่ตัดสินใจกลับมาที่นี่อีกครั้ง เพราะว่ามันทำให้ข้าได้พบเจอกับเลดี้..”เธอหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วยกแก้วสุราขึ้นมาดื่ม ในระหว่างที่เอโลอีสกำลังดื่มสุราในแก้วนั้น สายตาของลูตินก็จับจ้องอยู่ที่ริมฝีปากของเธอที่กำลังเผยอออก..ช่างเป็นสตรีที่สามารถทำให้จุดเดือดของเขามันต่ำลงอย่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ“ข้าเองก็เช่นกันค่ะ แต่ว่านี่ดึกมาแล้วเพราะอย่างนั้นในวันนี้ข้าคงจะต้องขอตัวกลับก่อน..”นี่คงเป็นการจากลาที่น่าเสียดายมากทีเดียว“พรุ่งนี้เลดี้จะมาที่นี่อีกไหมครับ”เอโลอีสครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนที่เธอจะตอบเขาด้วยรอยยิ้มที่แสนยินดี“หากการมาที่นี่ทำให้ข้าได้พบเจอท่านลูเซียน แน่นอนว่าข้าจะมาที่นี่อีกแน่นอนค่ะ”ลูตินเอื้อมมือไปจับมือของเอโลอิสเอาไว้ เรานั่งอยู่ตรงข้ามกัน..นั่นจึงทำให้เขาโน้มใบหน้าลงไปจุมพิตที่ด้านหลังฝ่ามือของเธออย่างช้าๆ“เช่นนั้นข้าจะรอคอยการพบกันครั้งต่อไปของเรานะครับ”อา..ความหล่อของเขามันกระแทกตาจนตาแทบบอด อีกทั้งในยามนี้
บุรุษเบื้องหน้ากำลังจ้องมองหน้าเธอด้วยแววตาที่เรียบเฉย เขาดูเย็นชาและเข้าถึงยากมากพอสมควร..แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอไม่สามารถหันมองไปทางอื่นได้..คือเสียงหัวใจของตัวเองที่มันกำลังเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง“เช่นนั้นข้าขอยืนตากลมตรงนี้สักครู่จะเป็นการรบกวนเลดี้ไหมครับ”ถึงแม้ว่าใบหน้าของเธอนั้นจะอยู่ภายใต้หน้ากากขนนก แต่ทว่าลูตินยังสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนถึงเรือนแก้มที่กำลังขึ้นเป็นสีกุหลาบ..นี่คือสถานการณ์ที่เขาชินชาซะแล้วละสิ สตรีมากมายต่างมีท่าทีที่ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นักเมื่อพวกนางกำลังยืนอยู่ต่อหน้าเขาเขินอายและประหม่า..อีกเดี๋ยวดวงตาคู่นั้นคงจะต้องมองเขาด้วยความหลงใหลอย่างแน่นอน“ด้วยความยินดีค่ะ”เอโลอีสก้มหน้าลงเล็กน้อยพร้อมกับขยับไปยืนอยู่ข้างๆ ระเบียง“พึ่งมาที่นี่ครั้งแรกอย่างนั้นสินะครับ เลดี้ดูประหม่ามากๆ เลย”เธอส่งยิ้มจางๆ ให้เขา“ค่ะ ข้ามาที่นี่เพราะมีเพื่อนแนะนำมา อีกทั้งข้าได้ยินถึงชื่อของงานเลี้ยงหน้ากากที่แสนจะน่าตื่นเต้นมาตั้งนานแล้ว”สิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอสบายใจได้เลย คือเหล่าตัวเอกของเรื่องนี้ไม่มีวันมาที่นี่อย่างแน่นอน ทั้งนางเอก นางร้ายและพระเอกของเรื่อ
ในงานเลี้ยงแห่งนี้ถึงแม้ว่าจะมีผู้คนมากมายที่เข้าร่วมงาน แต่ทว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้เอโลอีสอดสนใจไม่ได้คือ มีเพียงหน้ากากแค่สี่สีเท่านั้นที่ผู้เข้าร่วมงานเลี้ยง เลือกที่จะสวมใส่สีขาวสีแดงสีน้ำเงินและสีดำ“หน้ากากแต่ละสีก็บ่งบอกได้ถึงตัวตนของผู้ที่สวมใส่ สีขาวคือพึ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรก สีแดงคือมาที่นี่บ่อยและยังโสด สีม่วงคือมีคู่นัดหมายเอาไว้แล้ว ส่วนสีดำคือผู้คนที่มาที่นี่เพื่อต้องการคู่นอน..และพวกเขาคือลูกค้าวีไอพีของที่นี่ ส่วนใหญ่จะเป็นขุนนางที่ต้องการความสัมพันธ์แบบแค่คืนเดียวแล้วแยกทาง..อย่าไปยุ่งกับพวกหน้ากากสีดำเชียวหากเจ้ายังไม่มีจิตใจที่แข็งแกร่งพอ เพราะพวกเขาจะทำให้เจ้าเกิดความลุ่มหลงจนแทบบ้าอย่างแน่นอน”เลดี้เฟมกำลังอธิบายเพื่อให้เพื่อนตัวน้อยของเธอได้เข้าใจ“อา..ข้าเข้าใจแล้ว และจะพยายามหลีกเลี่ยงบุรุษที่สวมหน้ากากสีดำก็แล้วกัน”“หากจะเลือกก็เลือกชายหนุ่มที่สวมหน้ากากสีขาวหรือไม่ก็สวมหน้ากากสีแดงก็แล้วกัน อย่างน้อยพวกเขาก็นับได้ว่าเป็นเป็นพวกที่ไม่ได้ช่ำชองกับเรื่องการล่อลวงมากเท่าไหร่นัก”เอโลอีสพยักหน้า เพราะพึ่งเคยมาที่นี่ครั้งแรกเธอจึงต้องทำตามคำแนะนำของสหายอย่างเคร่
“...ให้ตายสิเจ้าคือความผิดพลาดอันใหญ่หลวงของข้าเลย”ฉันไม่ค่อยเข้าใจที่แมวส้มเบื้องหน้ากำลังพูดเท่าไหร่นัก..อันที่จริงมันไม่น่าเข้าใจตั้งแต่ที่ฉันพบเจอเจ้าแมวส้มตัวอ้วนนี่พูดได้แล้วไหม..ถึงแม้ว่าไม่อยากยอมรับแต่ว่า..ดูเหมือนฉันจะตายแล้วละสิ ตอนเด็กๆ ฝันเอาไว้ซะไกลแต่พอโตขึ้นมากลับเป็นได้เพียงแต่พนักงานบริษัทเท่านั้น ฉันทำงานมากกว่าสิบสองชั่วโมงต่อวันเพื่อให้รายได้ที่หามามันเพียงพอต่อรายจ่าย..และแน่นอนว่ามันเหนื่อยมากๆไหนใครมันบอกว่าทำงานจนตายไม่มีอยู่จริงไงวะ!!“ดะ..เดี๋ยวก่อนนะ คือว่าฉันแน่ใจว่าตัวเองเสียชีวิตเพราะทำงานหนัก แล้ว..นี่มันคืออะไรกันคะ”แมวอ้วนตัวนั้นยกเท้าหน้าขึ้นมากอดอกเอาไว้“นี่แม่หนูเคยได้ได้ยินเรื่องของการพาดวงวิญญาณผู้ล่วงลับเดินทางไปยังอีกมิติหนึ่งรึเปล่า?”ฉันชะงักเล็กน้อยก่อนจะเริ่มทำความเข้าใจในคำกล่าวของแมวส้มที่กำลังยืนอยู่เบื้องหน้า..พุงน้อยๆ นั่นขอจกสักทีได้ไหมนะ“อย่าได้มองข้าด้วยสายตาแบบนั้น..อีกทั้งห้ามเอามือสกปรกของเจ้ามาแตะต้องตัวข้าด้วย!!”ราวกับว่าเจ้าแมวอ้วนตัวนั้นอ่านใจได้เลย“ฉันเคยอ่านนิยายค่ะ..มีการสวมร่างเยอะแยะจะตายไปทั้งในเกมและในนิยาย หร
ความคิดเห็น