ขณะที่มึนๆงงๆ ก็ถูกเหวี่ยงมายังสถานที่แห่งหนึ่ง เบื้องหน้ามีไร่กับบ้านหลังเล็กๆ นี่มันไร่ของคุณปู่ แต่เหมือนจะย่อส่วนลงเหลือเพียงประมาณ สามไร่ มีโรงเรือนกับบ้านหลังน้อยๆ ซ่งจื่อหรูเดินสำรวจ
"มีลำธารตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เฮ้อนี่เจ๊ตายกลายเป็นวิญญาณอีกรอบเหรอ Oh my god . ถ้าให้ตายหลายรอบจะให้เกิดใหม่ทำไม นี่เทพชะตา ท่านว่างมากหรือ ข้าไม่ได้เสียใจหรอกก็แค่สงสารแต่เด็กพวกนั้นถ้าตื่นมาแล้วรู้ว่าพี่สาวตัวเองตายไปแล้วจะทำอย่างไร"
"คิดอะไรมั่วซั่วกัน หลานยังไม่ตายสักหน่อย"
"คุณปู่ คุณปู่จริงๆด้วย หนูตายแล้วหรือว่าฝันอยู่กันแน่ คุณปู่ขาหนูคิดถึงคุณปู่มากเลยค่ะ คุณพ่อกับคุณแม่ล่ะคะ พวกท่านอยู่ที่ไหน"
ซ่งจื่อหรูกอดซ่งฮั่นเหลียงแน่น
"เด็กโง่ หลานยังไม่ตาย ที่นี่คือกำไลที่หลานใส่ติดตัวตลอดเวลา นี่เป็นสิ่งที่ปู่สามารถทำเพื่อหลานได้ จำไว้จงใช้มันอย่างมีสติ"
"คุณปู่หมายความว่ายังไงคะ หนูไม่เข้าใจ"
"เดี๋ยวหลานก็รู้เอง เรื่องนี้แม้แต่น้องๆก็เอ่ยไม่ได้ สิ่งที่พวกเขาตามหา มันอยู่กับหลานมาตลอด"
"ใครตามหาอะไรคะ คุณปู่ขาทำไมหนูไม่เข้าใจสักอย่าง"
"ปู่ต้องไปแล้ว หลานรักบางอย่างต้องรอให้ถึงเวลาของมัน"
ซ่งฮั่นเหลียนจากไปแล้วซ่งจื่อหรูพยายามตะโกนแต่คุณปู่ของเธอก็ไม่หันมา เด็กสาวได้แต่นั่งร้องไห้ ผ่านไปเกือบสองชั่วโมงเธอจึงตั้งสติและรับรู้ว่าครั้งนี้คุณปู่จากไปแล้วจริงๆ
ซ่งจื่อหรูเริ่มสำรวจสิ่งที่อยู่ตรงหน้า พบว่า มีแม่ไก่และลูกหมูในโรงเรือนอยู่พอประมาณ มีไข่ที่กำลังฟักอยู่เกือบสามร้อยตัว นี่เป็นสิ่งที่ทำให้เธอต้องขับรถกลับมา เพราะดูแลลาไปดูแลแม่ที่ป่วย ซ่งจื่อหรูในชาติก่อนเป็นห่วงเจ้าไก่น้อยและลูกหมูที่เพิ่งจะเอาลงฟาร์ม สำรวจผลไม้มีประมาณ2ไร่ มีต้นใบชาหลายชนิด อยู่สายพันธ์ละ20ต้น เหลืออีกหนึ่งไร่เป็นที่ดินเปล่า สำรวจต่อในบ้าน มีเครื่องเทศและสมุนไพรพอประมาณ ตำราการวางค่ายกล พิมพ์เขียวแบแปลนก่อสร้างต่างๆ ม้วนอยู่ในตระกร้าหวาย มีตู้หลังนึงกว้างประมาณ1.8เมตรสูง2.5เมตร เปิดดูก็เห็นแผ่นกระดาษมากมาย ในกระดาษวาดแบบบ้านโบราณ โต๊ะ ตู้ เตียง มีกล่องใบเล็กทำจากไม้พยุง วาดลวดลายนกฟีนิกซ์สีทอง ลายเดียวกับที่สักอยู่บนแขนของเธอกับน้องๆเลย ผนังห้องเป็นรูปวาดขนาดใหญ่เท่ากับข้างฝา ดูเหมือนสถานที่ คล้ายพระราชวังโบราณ แต่เหมือนจะอยู่ใต้ดิน มีของหลายอย่างแต่ไม่มีอาหารและเงินเหมือนนิยายที่เคยอ่านสักนิด มีมิติแล้วยังต้องลำบากอีก ต้องเลี้ยงหมูเลี้ยงไก่ ทำไร่ทำสวน เฮ้อมีกับไม่มีต่างกันตรงไหนนะ กล่องใบนั้นไม่ได้ถูกเปิดเพราะมีเสียงดังจากข้างนอกเสียก่อน
ซ่งจื่อหรูรู้ว่าพรุ่งนี้ชาวบ้านจะมาช่วยจึงขุดมันเทศไว้เกือบสองร้อยหัวนางเข้าไปหยิบออกมาให้คนที่มาช่วยตัดต้นไผ่วันนี้
"ท่านลุงท่านอารอก่อนสักครู่เจ้าค่ะสิ่งนี้คือมันเทศ ท่านตาข้าทดลองปลูกเอาไว้ในรั้วบ้านข้าเองก็ทดลองหลายครั้งจนสุดท้ายก็สำเร็จ พวกท่านสามารถต้มหรือนำไปเผากินได้ รับไปเถอะเจ้าค่ะ"
"เอ๋ มันเทศคือสิ่งใดกันเจ้าก้อนดำๆนี้นะหรือ"
"มันกินได้จริงขอรับปู่สาม แถมยังหวานและอร่อยอีกด้วย เวลานี้อาหารหายากยังดีที่ท่านตามีความรู้และสั่งสอนพี่ใหญ่ เดิมทีเกรงว่าคนจะไม่เชื่อถือแต่คนเรายามอดอยากกระทั่งเปลือกไม้ยังกินได้ นับอะไรแค่มันเทศขอรับ"ซ่งจื่อห่าวเอ่ยขึ้น
"นี่คือมันเผา พวกเรากินแล้ว ทุกท่านลองกินดูสิเจ้าคะ"
เมื่อซ่งจื่อเย่วพูดจบทุกคนก็บิชิมคนละนิดละหน่อยหลังจากนำเข้าปากต่างก็ติดใจและรับมันเทศมาคนละสองหัว
"พี่รองพรุ่งนี้ข้าว่าจะบอกท่านปู่ใหญ่ว่าสิ่งนี้กินได้ ชาวบ้านจะได้มีเสบียงเพิ่มอีกหนึ่งอย่าง"
"ก็ดี ชาวบ้านอดอยากนัก น้องสี่หากเจ้าช่วยพวกเขาให้มีกินต่อไปจะมีคนคุ้มครองพวกเจ้าสามพี่น้องมากขึ้น" หลี่หานอยากให้ครอบครัวอารองมีชีวิตที่ดี ที่ผ่านมาเขารู้ว่าสาเหตุที่แท้จริงว่าเพราะอะไรอารองถึงถูกให้แยกบ้าน
เสียงกุกกักๆข้างนอก ซ่งจื่อหรูจึงรีบออกมา เงี่ยหูฟังว่าเสียงอะไร สักพักเสียงนั้นเงียบไป เมื่อไม่มีอะไรก็ล้มตัวลงนอน ช่างเถอะพึ่งผู้อื่นมิสู้พึ่งตนเอง มิติใดเล่าจะเท่าสองมือ หลังจากคิดตกก็หลับไป
"ซื่อจื่อ สองคนนี้เป็นน้องชายของหวังชุ่ยฮัวป้าสะใภ้ใหญ่ของแม่นางซ่งขอรับ จะให้จัดการเช่นไรขอรับ"
"จับไปโยนในป่าบนภูเขา จำไว้อย่าให้ท่านอ๋องรู้"
องครักษ์ทั้งสองคำนับ ก่อนจะหิ้วหวังหมาจื่อกับหวังโก่วจื่อไปยังป่าด้านในของภูเขาชิงลั่ว ฮัวเฟยหรงให้ยิ้มเหี้ยมเกรียม เขาจะปกป้องนางกับน้องๆ ใครกล้าคิดร้ายต้องถามว่าเขายินยอมหรือไม่ องครักษ์ทั้งสองมองหน้ากัน รอยยิ้มนี้เหมือนจะมีคนเดือดร้อน
"จิงอี้สะใภ้ใหญ่บ้านหลี่รู้เรื่องนี้หรือไม่ไปสืบมาด้วย
เมืองกว่าผิงจุดประทัดฉลองที่พระชายาคลอดบุตรจัดงานเลี้ยงถึงสามวันสามคืนกินดื่มไม่อั้น จากเมืองที่ไม่มีใครใส่ใจตอนนี้เพราะพระชายากมาเปลี่ยนแปลงกลายเป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในแคว้น ซ่งจื่อหรูออกเดือนมาได้หนึ่งอาทิตย์แล้วนางอยู่้ดือนถึงสองเดือนครึ่งเชียวตอนนี้กำลังให้นมคู่แฝดอยู่ ในห้องนางมีมิติที่สามารถทำให้น้ำนมตนเองพอเลี้ยงลูกโดยไม่ต้องพึ่งพาแม่นมจินเสี่ยวฮวาประคองท้องเดินมาหา ท่านอากับท่านลุงนี่วันๆไม่ทำงานทำการหรือเมียท้องลูกคนที่สี่แล้วนะ"พระชายา ตำหนักองค์ชายส่งข่าวมาพระยาหลี่กำลังจะคลอด ท่านจะไปหรือไม่""ข้าอยากไปแต่ว่ากลัวท่านอ๋องดุเอา เลยส่งจื่อเย่วให้ไปแทนแล้ว อาสะใภ้จะคลอดเมื่อใดนี่เจ้าคะ""อีกสี่เดือน ข้าพูดกับเจ้าแบบเปิดอกเลยนะหลานสี่ไม่พิธีรีตรอง เจ้าว่าพวกบุรุษนี่เหตุใดถึงหมกมุ่นกันนัก ข้านี่แทบจะไม่ได้หลับได้นอนสักคืน ขนาดท้องแล้วท่านพี่ยังสรรหาท่าทางอะไรมาก็ไม่รู้""คิกๆๆ อาสะใภ้ธรรมดาผัวเมียแหละเจ้าคะ เดี๋ยวอีกสามเดือนท่านปู่กลับมาแล้วข้าจะจัดงานฉลอง พี่ใหญ่ พี่รอง พี่สามก็จะมาเช่นกันเจ้าค่ะ"อืมข้าไปล่ะ ไปฟังก่อนว่านางได้บุตรชายหรือบุตรสาว"เจ้าแฝดหลับไปแล้วซ่งจื่อหรูเ
ซ่งจื่อหรูเดินไม่ไหวแล้ว นางใกล้คลอดเต็มที ตอนนี้องค์ชายห้าผู้น่าสงสารกำลังนั่งอยู่มีหลี่ถิงถิงกอดเขาไว้แน่นก่อนหน้านางแพ้ท้องอาการคือเหม็นขี้หน้าเขา แต่พอเขาไม่อยู่ก็ร้องไห้หามาตอนนี้แพ้ท้องอีกแบบต้องเห็นเขาตลอดเวลา นั่งกอดแขนเขาแน่นดมแต่กลิ่นกายเขา หากไม่อยู่ต้องถอดเสื้อตัวที่เคยใส่ทิ้งไว้ให้ไม่งั้นเอาแต่งอแง เฮ้อ ไอ้ลูกคนนี้คลอดมาเมื่อไหร่จะส่งไปให้เสด็จแม่เลี้ยง ขนาดยังไม่คลอดยังทำเขาปวดหัวขนาดนี้เลย"อาหรู ไม่ถึงเดือนก็คลอดแล้ว เราจะได้เห็นหน้าผลงานของข้ากับเจ้าสักที อุตส่าห์อดหลับอดนอน บางวันก็เลยมื้อข้าวมาขยันปั้นพวกเขาเนี่ย""ท่านอ๋อง ตรัสอะไรของพระองค์ ไม่ทรงเห็นหรือเพคะว่ามีคนอื่น"จ้าวเฟยหรงไม่วนใจกระชับอ้อกอดที่ตอนนี้ท้องนางใหญ่มากแล้วแต่เขาก็โอบมันจนได้"เสด็จพี่ข้าคิดว่า จะส่งเจ้าตัวยุ่งนี่ไปให้เสด็จแม่เลี้ยง งอแงเหลือทนตั้งแต่ยังไม่คลอดเลย"จ้าเทียนหยางลูบท้องหลี่ถิงถิงแล้วแสร้งบ่นเจ้าตัวเล็ก ปรากฏว่าเขาถูกถีบเบาๆจนทุกคนหัวเราะตำหนักเหลียนฮวาที่ตอนนี้กำลังวุ่นวาย ซ่งจื่อหรูเจ็บท้องมากว่าหนึ่งชั่วยามแล้วยังไม่คลอด จ้าวเฟยหรงก็จะเข้าไปหาเมียที่นอนร้องท่าเดียว จนเซียวอว
หลี่ถิงถิงครรภ์ใหญ่แล้วนางตั้งครรภ์ได้หกเดือนส่วนซ่งจื่อหรูอีกไม่กี่วันก็คลอดแล้ว ซ่งจื่อหรูกำลังคำนวณค่าแรงคนงานหลี่ซ่งเต๋อนำตั๋วเงินมาให้หลานสาวกำลังกลับบ้าน เห็นจินเสี่ยวฮวาพูดคุยอยู่กับชาวตะวันตกที่มาแลกเปลี่ยนสินค้า โดยมีล่ามที่ซ่งจื่อหรูสอนคอยแปลให้หากว่าไอ้ฝรั่งผมทองไม่เอ่ยชมว่านางสวยเป็นสตรีที่งดงาม และถามว่านางมีคู่ครองหรือยัง คงไม่ทำให้ประมุขหอโกรธจนอุ้มเมียมาลงโทษอยู่จนตอนนี้ยังไม่เลิกหรอก"อร๊ายท่านอา เบาหน่อย ข้าจะไม่ไหวแล้วนะอร๊าย โอ๊ยท่านโกรธอะไรมา ข้าเสียวจะตายแล้วอื้อ" จินเสี่ยวฮวาประท้วง"ไอ้หัวทองผิวเผือกนั่นเกี้ยวเมียข้าไม่โมโหได้หรือ เสี่ยวฮวาจ๋าคนดีตั้งแต่เจ้าคลอดลูกมายิ่งสวยวันสวยคืนดูสิ ตรงนี้ก็อวบอิ่ม ตรงนี้ก็เต็มมือแน่นไปหมดหืม อ่าห์รักเจ้าจริงๆเมียจ๋า"ตอนนี้เขาขึ้นเป็นประมุขหอเหลียนฮวาแทนท่านอารองหลี่ไหลฝูแล้ว หลานสาวเขาสร้างเรือสำราญอะไรสักอย่างให้ล่องไปเรื่อยๆ ท่านอาวางมือจากยุทธภพออกท่องเที่ยวกับท่านพ่อจะกลับในอีกหกเดือน หลี่ไค่ซุนกำลังถูกฝึกให้พร้อมอนาคตหลี่ไค่ซุนนั่งมองสตรีที่กำลังวาดภาพอยู่ตรงหน้า เขาลุกไปหยิบพู่กันออกก่อนจะช้อนนางขึ้นแล้ววางบนเตีย
ตั้งแต่วันที่หลี่ถิงถิงยอมตามใจเขาจากนั้นจ้าวเทียนหยางก็อยู่แต่ในห้องไม่ยอมปล่อยคนรักออกมา จนมีเรื่องให้ต้องไปทำก็อิดออดจนถูกหลี่ถิงถิงต้องดุจริงจัง จะถึงวันแต่งงานแล้วอีกครึ่งเดือนหลี่ถิงถิงอยู่ๆก็เกิดเกลียดขี้หน้าคนตัวโตขึ้นมาดื้อๆ"อย่ามาใกล้หม่อมฉันนะเพคะ หม่อมฉันเหม็นขี้หน้าพระองค์""คนดี ข้าทำอะไรผิดกันถิงถิงคนงามอย่าทำแบบนี้สิ มีอะไรบอกมาเถอะ""ไม่มี ไม่รู้อยู่ๆหม่อมฉันก็ไม่อยากอยู่พระองค์ เหม็นขี้หน้าจะตายอยู่แล้วฮือๆๆๆ องค์ชายหม่อมฉันรักองค์ชายนะเพคะแต่อย่ามาใกล้ได้ไหมฮือๆๆ"จ้าวเทียนหยางอ่อนใจ เมียอยู่ๆก็เกลียดขี้หน้าเขาไม่มีสาเหตุวันนี้ทุกคนมากินข้าวร่วมกันที่ตำหนักเหลียนฮวา อาหารมากมายถูกยกขึ้นโต๊ะแต่ซ่งจื่อหรูกับหลี่ถิงถิงเกิดไม่อยากกิน พอเห็นหน้าจ้าวเทียนหยางยิ่งเกิดอยากอาเจียนจนต้องอุ้มกลับห้อง"น้องห้าเป็นอะไรไป อาจารย์รบกวนท่านตรวจนางสักหน่อยเถอะ "ซ่งจื่อหรูให้ไห่มิ่งหยวนไปดูหลี่ถิงถิงที่ตอนนี้เอาแต่ร้องไห้ นางบอกรักจ้าวเทียนหยางแต่ไม่อยากเจอหน้าเขาตกลงนี่มันอะไร เสียงร้องไห้หาคนรักสักพักก็อาเจียนไล่เขาออกมากซ่งจื่อหรูจะลุกไปดูน้องสาวก็หน้ามืดจนจ้าวเฟยหรงต้องมาประค
หลี่อาไช่พาจ้าวเฟยเซียนหัดขี่ม้า ไม่นานนางก็เริ่มขี่คล่องขึ้น พระอาทิตย์ใกล้ตกแล้วแสงสีแดงงดงามกระทบใบหน้านวล หลี่อาไช่กระชบอ้อมแขนคนตรงหน้า ค่อยๆควบม้าๆช้าๆพาคนรักเขากลับบ้าน"เซียนเซียน ขอพี่หอมสักทีได้ไหม เจ้าน่ารักจนพี่อดใจไม่ไหวนะ""แค่ครั้งเดียวนะ เดี๋ยวเสด็จพ่อกับเสด็จพี่รู้เข้าเอาท่านตายแน่"หลี่อาไช่ก้อมลงหอมแก้มนางจากนั้นก็กดคางลงบนศรีษะจ้าวเฟยเซียนพามาส่งที่ตำหลักก่อนเข้าประตูยังแอบหอมนางอีกสองครั้ง อุ้มนางลงจากหลังม้าแต่ไม่ยอมให้เท้าถึงพื้น เขาอุ้มพาจ้าวเฟยเซียนมาส่งถึงตำหนักใน จ้าวเฟยหรงคิ้วกระตุก ไอ้เด็กนี่มันเกินไปไหมน้องสาวข้าสิบสองเองนะ"หม่อมฉันทูลลานะพะย่ะค่ะ พอดียังไม่ได้ไปคาราวะท่านแม่เลย พี่สี่ข้าไปก่อนนะขอรับ"หลี่อาไช่ไปแล้วแต่มีคนหน้าตึงอยู่ตรงนี้จนซ่งจื่อหรูหัวเราะเขา"คิกๆ ท่านอ๋องทีนี้เขาใจหัวอกท่านปู่กับท่านอาหม่อมฉันหรือยังเพคะ ทรงหวงน้องสาวเป็นด้วยหรือ อื้อ"จ้าวเฟยหรงไม่ปล่อยให้เมียสาวล้อเลียน เขาช้อนอุ้มพานางเข้าห้องลงโทษที่หัวเราะเยาะ"อื้อ ท่านอ๋องหม่อมฉันไม่ไหวแล้ว อร๊าย นับวันยิ่งโลดโผนนะเพคะ อึ๊ยสะ เสียว ท่านอ๋อง""บอกแล้วไงจะสอนให้ ตั้งใจเรียนนะเ
อาชาสีดำทะมึนน่าเกรงขามกำลังควบมาทางหน้าหมู่บ้าน ด้านหลังมีอีกสองคนตามมาด้วย เมื่อมาถึงหน้าหมู่บ้านสกุลหลี่ก็ลงจากม้า ทหารคนสนิทรับสายจูงไป เด็กน้อยวัยสองขวบเดินเตาะแตะๆมาหากางแขนให้อุ้ม"เสี่ยวเว่ยเด็กดี ตัวสูงขึ้นแล้วมาให้พี่อุ้มหน่อย" อู๋กังเดินตามบุตรชายมาหลี่อาไช่เห็นเขาจึงทักทาย"ท่านพ่อ ท่านแม่อยู่ก็เดือนหรือขอรับ"อู๋กังพยักหน้า เขาแต่งงานกับไป๋ลู่มีบุตรชายหนึ่งคนและเพิ่งจะได้บุตรสาวอีกหนึ่งคน หลี่อาไช่ตอนนี้อายุสิบหกแล้วฝีมือเก่งกาจจนได้เป็นแม่ทัพตะวันออกควบคุมเจ็ดมณฑล"อาไช่ คนสกุลหวังเหล่านั้นฝีมืลูกหรือเปล่า หากจบได้ก็จบเถอะมารดาเจ้านางอยู่สงบสุขแล้ว"อู๋กังรักเขาเสมือนบุตรตนเอง ไม่อยากให้เขาเคียดแค้นเรื่องในอดีต จนทำลายอนาคต หลี่อาไช่ถอนหายใจ"เดิมทีก็ไม่อยากจะยุ่ง แต่ใครจะรู้ว่าสองผัวเมียนั้นเคยขายท่านแม่ของข้าไม่พอ ยังคิดจะขายน้องสาวคนเล็ก อาเล็กนางอายุเท่ากับข้า ท่านปู่ท่านย่าจากไปลุงใหญ่เปรียบเหมือนบิดา จัดการทุกอย่างให้แต่งงานไปก็ยังดีแต่นี่จะให้ไปเป็นอนุเศรษฐี ข้าไม่สั่งสอนคงไม่ได้ขอรับท่านพ่อ""แล้วทำเช่นไร อย่าให้มารดาเจ้ารู้เล่า""ข้าส่งบ้านใหญ่ไปชายแดนเนรเทศทั้ง