หญิงสาวรู้สึกใจเต้นแรงเธอเห็นว่าชายหนุ่มกำลังจะเดินเข้าไปในโรงแรมแล้วเธอเองกำลังจะก้าวขาเดินตามแต่เธอกลับล้มฟุบลงไปกับพื้นเสียก่อน
“น้ำเมยย...”
อิงฟ้าถึงกับหน้าเสียที่จู่ๆน้ำเมยก็เป็นลมล้มพับอยู่ข้างๆเธอจึงรีบประคองเพื่อนสาวของเธอขึ้นมาเอาไว้อย่างหลวมๆแต่ก็ไม่ได้โวยวายอะไรเพราะกลัวว่าจะเป็นจุดสนใจของคนอื่นและเพื่อนเธอก็จะโดนตำหนิไปด้วยว่าร่างกายไม่พร้อมแล้วยังฝืนมาทำงานเพราะที่นี่ถือเป็นกฎเหล็กข้อห้ามว่าถ้าพนักงานไม่ไหวให้แจ้งหัวหน้าลาได้ทันทีห้ามฝืนทำงานโดยเด็ดขาดเพราะผลงานที่ออกมาก็จะดูป่วยตามคนทำไปด้วย
“ผมว่าพนักงานที่นี่น่าจะรู้กฎกันดีอยู่นะ”
มาคัสมองเพียงหางตาก็รู้ว่ามีคนกำลังล้มลงถึงพนักงานด้านหน้าจะยืนเรียงรายกันอยู่ก็เถอะแต่ด้วยความสูงของระดับสายตาของเขาเองสามารถเห็นได้ทั่วถึงอยู่แล้ว
ชายหนุ่มเดินหันหลังกลับมาทางที่หญิงสาวกำลังเป็นลมพนักงานทุกคนต่างหลีกทางให้กับเขาโดยอัตโนมัติเพราะรับรู้ได้ถึงอาการน้ำนิ่งไหลลึกของเขา
“พาเธอไปที่ห้องพยาบาลเดี๋ยวนี้”
“ค่ะๆ...”
ตอนนี้อิงฟ้าหน้าซีดเป็นไก่ต้มเพราะเห็นว่าตอนนี้ทุกคนมองมาทางเธอและเพื่อนสาวของเธอที่เป็นลมอยู่เป็นตาเดียวอีกทั้งที่หนักไปกว่านั้นท่านประธานหนุ่มกลับไล่ให้เธอพาเพื่อนของเธอไปที่ห้องพยาบาล
เธอเองจำต้องพยุงร่างที่ไร้เรี่ยวแรงของเพื่อนเธอค่อยๆเดินไปที่ห้องพยาบาลคนเดียวอีกต่างหากเธอรู้ว่าถ้าท่านประธานหนุ่มไม่มายืนอยู่ตรงนี้ป่านนี้คนอื่นๆคงจะยื่นมือเข้ามาช่วยเธอแล้วหละ
“เดี๋ยว....ที่นี่ไม่มีผู้ชายกันหรือไง”
ประธานหนุ่มรู้สึกขัดหูขัดตาที่มีเพียงแค่ผู้หญิงคนเดียวเท่านั้นที่ยืนช่วยพยุงหญิงสาวที่เป็นลมอยู่เขาจึงเอ่ยเสียงเข้มเพื่อให้พนักงานผู้ชายที่ยืนก้มหน้ากันอยู่ได้ยินกลายๆก่อนจะเดินเข้าไปอุ้มหญิงสาวที่เป็นลมขึ้นมาแล้วก้าวยาวๆอย่างสง่างามเพื่อพาหญิงสาวเข้าไปนอนที่ห้องพยาบาลที่ทางโรงแรมจัดเอาไว้ให้สำหรับพนักงานทันที
ห้องพยาบาล
“คุณเป็นหัวหน้าเธอใช่ไหม”
มาคัสจ้องมองหญิงสาวที่เขาพึ่งจะวางลงบนเตียงพยาบาลก่อนจะหันมาถามอิงฟ้าที่เดินตามเขาเข้ามาเมื่อดูจากป้ายที่ติดที่เสื้อของทั้งสองก็รู้ว่าเป็นหัวหน้าลูกน้องกัน
ชายหนุ่มหันกลับมาจ้องมองใบหน้าของหญิงสาวที่นอนเป็นลมเพราะว่าเขารู้สึกคุ้นเคยกับใบหน้านี้เหลือเกินแต่นึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอเธอที่ไหน
“ค่ะ”
อิงฟ้ายืนหน้าซีดก้มหน้าเมื่อได้ยินท่านประธานใหญ่ถามเธอขึ้นด้วยความที่กังวลจึงทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำถามของเขา
“ลูกน้องของคุณไม่สบายทำไมถึงไม่ให้เธอได้พักคราวหน้าผมหวังว่าคงไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกนะ”
“ค่ะ..บอส”
มาคัสพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแต่เมื่อมองแววตาของเขาแล้วใครๆก็ดูออกว่าไม่พอใจสักเท่าไรอิงฟ้าเลยทำได้แค่ตอบรับคำของเขาและเดินเข้าไปดูอาการของน้ำเมยพร้อมถือยาดมแกว่งไปมาไว้ใกล้ๆกับจมูกของเพื่อนเธอ
ในใจอิงฟ้าตอนนี้ก็ภาวนาว่าให้อิงฟ้าฟื้นเร็วๆเพราะเธอรู้สึกใจคอไม่ดีเอาเสียเลยที่ทั้งห่วงอาการของเพื่อนเธอทั้งเกร็งที่ท่านประธานใหญ่เอาแต่ยืนจ้องมองเธอและเพื่อนที่นอนเป็นลมอยู่แบบนี้
“อืมมม..อืออ...หมูหยอง....คุณจริงๆด้วยย”
ไม่นานนักน้ำเมยรู้สึกตัวขึ้นมาได้เมื่อเห็นชายหนุ่มร่างสูงที่เธอเฝ้าคิดถึงตลอดเวลายืนอยู่ตรงหน้าเธอจึงลุกพรวดและสวมกอดไปที่เอวของเขาทันทีด้วยความคิดถึง
“คุณ..”
มาคัสรู้สึกตกใจอย่างมากที่จู่ๆหญิงสาวก็ลุกพรวดเข้ามากอดเอวเขาเอาไว้เขาจึงรีบจับตัวหญิงสาวให้ผละออกจากเขาทันทีเมื่อมองที่หน้าเธอพบว่าใบหน้าของหญิงสาวตอนนี้เปื้อนคราบน้ำตาอยู่ด้วยเขารู้สึกแปลกใจกับอาการของเธอไม่น้อยและแปลกใจกับชื่อที่เธอเรียกเขาอีกด้วย
“เฮ้ยยยย....น้ำเมย..ใจเย็นๆนี่ท่านประธาน”
อิงฟ้าจำต้องรวบตัวน้ำเมยมากอดเอาไว้เพราะกลัวว่าท่านประธานใหญ่ของเธอจะโกรธถ้าเป็นเช่นนั้นล่ะก็เธอกับเพื่อนเธอเสี่ยงที่จะตกงานเป็นแน่เธอจึงรีบเรียกสติของเพื่อนสาวของเธอว่าคนตรงหน้าที่กอดอยู่เมื่อครู่คือท่านประธานไม่ใช่นายหมูหยองอะไรนั่น
“ค..คุณ..จำฉันไม่ได้เหรอ”
น้ำเมยรู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจกับอาการของชายหนุ่มที่เปลี่ยนไปและทำท่าดูห่างเหินกับเธอมากอีกทั้งยังผลักเธอออกจากตัวเขาอีก
“พี่มาร์คคะ...ดอกไม้ต้อนรับการกลับมาทำงานค่ะ”
“ขอบคุณครับน้องดาว”
ระหว่างที่เหตุการณ์ในตอนนี้พาทุกคนงงงวยจู่ๆก็มีหญิงสาวเดินเข้ามาเกาะที่แขนของมาคัสพร้อมทั้งยื่นช่อดอกไม้ช่อใหญ่ให้แก่เขาทั้งสองมีท่าทีที่สนิทสนมกันมากจนน้ำเมยที่นั่งอยู่บนเตียงพยาบาลถึงกับอ้าปากค้างพร้อมทั้งมีน้ำตาที่หลั่งไหลพรั่งพรูออกมาเพราะคนที่เธอเฝ้าคิดถึงเฝ้าตามหาเขาไม่ได้สนใจใยดีอะไรกับเธอเลยสักนิด
เธอไม่รู้ว่าเขามาเป็นท่านประธานที่โรงแรมนี้ได้ยังไงแต่เธอเห็นเขาแวบแรกก็จำได้ทันทีว่าเป็นนายหมูหยองชายคนรักของเธอที่หายตัวไปแน่ๆ
“ผมว่าคุณพาลูกน้องคุณไปตรวจที่โรงพยาบาลหน่อยเถอะผมให้คุณทั้งสองคนลา2วัน”
มาคัสคิดว่าอาการที่หญิงสาวเป็นเมื่อครู่อาจจะเกิดจากอาการเบลอที่เป็นลมก็ได้เขาจึงไม่ถือสาอะไรพร้อมบอกกับอิงฟ้าให้พาน้ำเมยไปหาหมอและให้วันลาเพื่อพักผ่อนจะได้ไม่ต้องมามีอาการสติหลุดทักคนผิดถูกแบบนี้อีก
“แอร๊...แอ้...”เด็กหญิงที่นอนกลิ้งคว่ำกลิ้งหงายอยู่ในเปลสีชมพูส่งเสียงทักทายคนมาใหม่ราวกับอยากที่จะร่วมวงสนธนาด้วย“ว่าไงจ้ะสาวน้อย...อาซื้อชุดสวยมาฝากเพียบเลยนะคะ...เราไปดูชุดสวยกันดีกว่าเนอะ”“แอร๊...อร้า..คิกๆๆ”ดาวลดาอุ้มหลานสาวของเธอออกมาจากเปลเด็กพร้อมไปนั่งที่โซฟาเล่นกันกับหลานสองคนอย่างไม่สนใจใครแล้วในตอนนี้เพราะว่าเธอคิดถึงมาก“น้องดาวท่าทางน่าจะเลี้ยงเด็กเป็นแล้วนะ...นายไม่คิดจะมีลูกบ้างเหรอ”มาคัสเห็นว่าทั้งสองแต่งงานกันมาตั้งนานแล้วก็ก็ไม่ยักจะเห็นมีลูกเสียทีและเขาก็เห็นว่าดาวลดาเองก็มีความพร้อมที่จะเป็นแม่คนมากแล้วด้วย“ใครว่าไม่อยากมีล่ะแต่ยังไม่มามากกว่าฉันเองให้หมอตรวจดูแล้วนะหมอบอกว่าร่างกายของดาวยังอ่อนแอคงต้องรอให้เธอแข็งแรงอีกนิดตอนนี้ชั้นก็พยายามบำรุงเธอทุกอย่างเลย”แดเนียลตอบมาคัสไปด้วยแววตาที่เศร้าหมองแต่เขาก็ยังพยายามฝืนยิ้มเขาเองอยากจะมีลูกใจจะขาดแต่ก็ต้องดูสุขภาพภรรยาของเขาด้วยตอนนี้เขาคิดว่าถ้าภรรยาเขาแข็งแรงเมื่อไรลุกก็คงจะมาเองตอนนี้เขาก็พยายามบำรุงหญิงสาวสุดขีด“จริงสิ...น้องดาวป่วยบ่อยตั้งแต่เด็กๆแล้วยังไงฉันก็เอาใจช่วยนายนะฉันไปอาบน้ำก่อนเชิญนายตามสบาย
“เดี๋ยวพ่อจะดูฤกษ์แต่งที่เร็วที่สุดให้แล้วกันนะเรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วง”“ครับคุณพ่อ”“หืมม...ฤกษ์แต่ง”ดาวลดาถึงกับทำหน้างงที่จู่ๆทั้งสองดูเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเสียอย่างนั้นตอนนี้เธอรู้สึกสับสนไปหมดแล้วอันที่จริงดนัยเองก็รู้สึกโกรธมากในครั้งแรกที่รู้เรื่องแต่พอมองเรื่องราวอย่างที่เขาเคยอาบน้ำร้อนมาก่อนเขาถือว่าชายหนุ่มมีความรับผิดชอบและใจถึงมากเลยทีเดียวที่กล้าเข้ามาพูดต่อหน้าเขาอย่างไม่ยำเกรงและที่เขายอมยกลูกสาวสุดที่รักให้ชายหนุ่มไปง่ายๆไม่ใช่เพราะว่าทั้งคู่เสียกันไปแล้วแต่เป็นเพราะว่าเขามองออกว่าลูกสาวของเขามีความสุขและยิ้มด้วยหัวใจเมื่ออยู่กับชายหนุ่มและเขารู้ดีว่าชายหนุ่มทำเรื่องแบบนี้ไปเพราะความเข้าใจผิดและยอมรับผิดอย่างลูกผู้ชายอีกอย่างเขาก็พร้อมที่จะยกลูกสาวของเขาให้ก็เพราะว่าเขารู้ว่าถ้าลูกสาวของเขาแต่งงานกับชายหนุ่มไปชีวิตของเธอไม่ลำบากแน่นอนเพราะชื่อเสียงของชายหนุ่มในแวดวงธุรกิจถือว่ารู้จักกันดีในฐานะนักธุรกิจหนุ่มที่เก่งและโปรไฟล์ดีอยู่ไม่น้อยคนเป็นพ่อออย่างเขาคงไม่ต้องห่วงอะไรมาก“ร้ายนักนะพี่แดนที่ทำให้พ่อดาวใจอ่อนได้”ดาวลดาอดแซวชายหนุ่มไม่ได้ที่ไม่รู้เข้าไปคุยกับ
“ถ้าดาวเดาไม่ผิดน่าจะเป็นไดอารีของเบลใช่ไหมคะ”ดาวลดาจำได้ว่าเบลลล่าจะชอบเขียนไดอารี่แทบจะทุกวันแถมยังมีหลายๆเล่มที่เป็นสีเดียวกันรูปแบบเดียวกันอีกด้วยเธอเห็นไดอารี่ในมือของชายหนุ่มมันทำให้เธอจำได้ทันทีว่าน่าจะเป็นของเพื่อนสาวเธอ“อืมม.เล่มนี้.เบลเขียนเกี่ยวกับตัวเธอและก็เพื่อนรักของเธอไว้อย่างละเอียดเลยหละ”แดเนียลกระซิบข้างหูของหญิงสาวว่ามันถูกต้องแบบที่เธอคิดและในไดอารี่ของน้องสาวของเขามันก็ทำให้เขาได้รู้เรื่องราวอะไรมากมายที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนอีกด้วย“อืมม..ละเอียด..เลย..เหรอคะ”ดาวลดารู้สึกหน้าร้อนผ่าวถ้าในไดอารี่มันเขียนละเอียดแสดงว่าตอนนี้ชายหนุ่มก็ต้องรู้ความลับของเธอแล้วล่ะสิ“เก่งนะเราปิดพี่ได้ตั้งนาน...แถมของขวัญวันวาเลนไทน์กับวันเกิดที่ส่งมาให้พี่ทุกปีก็เป็นฝีมือเราเองสินะ”แดเนียลเองสงสัยอยู่ตั้งนานว่าใครจะรู้วันเกิดของเขานอกเสียจากคนในครอบครัววันนี้มันทำให้เขารู้แล้วว่าคนที่อยู่เบื้องหลังนั้นเป็นใครเขายอมรับในหัวใจของหญิงสาวจริงๆที่ปกปิดความรู้สึกของตัวเองได้นานอย่างนี้ นี่ถ้าเกิดว่าหญิงสาวยอมบอกความในใจกับเขาตั้งแต่ตอนนั้นป่านี้เขาอาจจะขอเธอแต่งงานไปแล้วก็ได้เพราะว่าในต
“ปล่อยดาวเดี๋ยวนี้พี่แดนดาวจะกลับห้อง”ดาวลดาพยายามที่จะออกไปจากอ้อมกอดของชายหนุ่มเพราะเธอไม่ค่อยชอบสถานการณ์แบบนี้สักเท่าไร“ขอพี่อยู่แบบนี้สักพักได้ไหม...วันนี้พี่ไปจัดการกับคนที่มันทำร้ายเบลมา...พี่เกลียดมัน”แดเนียลรู้สึกโหยหาอ้อมกอดของหญิงสาวอย่างมากตอนนี้เขาอยากเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้เอได้ฟังว่าวันนี้เขาไปเจออะไรมาและเขารู้สึกอย่างไรเขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงอยากที่จะคุยกับเธอแต่ที่เขารู้คือเขารู้สึกสบายใจเมื่อเขาได้กลับมาเห็นใบหน้าหวานๆของเธอรอเขาอยู่ที่บ้านทุกวัน“ดาวจะบอกพี่แดนเป็นครั้งสุดท้ายนะคะ...ว่าการแก้แค้นมันไม่ส่งผลดีต่อฝ่ายใดเลยสักนิด”ดาวลดาถึงกับถอนหายใจในความเจ้าคิดเจ้าแค้นของชายหนุ่มเธอรู้ว่าเขาโกรธที่มีคนทำกับน้องสาวของเขาแบบนั้นอันที่จริงก็ไม่ได้เป็นเพราะคนที่ทำร้ายเบลล่าเพียงฝ่ายเดียวแต่มันรวมกับเบลล่าหาทางออกโดยที่จะจบแบบนี้อีกด้วยที่จริงแล้วเธอเองก็ไม่เห็นด้วยกับความคิดของเบลล่าที่เลือกทางนี้เพราะเธอคิดว่าถ้าหากเพื่อนสาวของเธอยอมสู้อีกสักนิดเธอว่าชีวิตของเพื่อนเธอตอนนี้คงจะมีแต่รอยยิ้มแน่นอนเพราะว่าเพื่อนสาวของเธอมีคนที่รักรออยู่มากขนาดนี้คนที่รักเธอจะทำให้เธอ
“ยอมออกมาแล้วเหรอวะไอ้หมาลอบกัด”เมื่อแม็คคาเอลเห็นแดเนียลเดินออกมาจากห้องได้เขาก็ส่งเสียงด่าทอชายหนนุ่มอย่างเสียงดังเพราะตอนนี้เขาโมโหสุดขีดที่เสียรู้ให้กับแดเนียลจนได้“ฉันไม่ใช่หมา...และฉันก็ไม่เคยทำร้ายใครก่อน...เพราะแกคนเดียวที่ทำให้น้องสาวฉันต้องตาย”แดเนียลตอบกลับอันธพาลตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นเพราะเขาไม่อยากให้เขาเกิดอาการโมโหขึ้นมาเพราะเขาอาจจะพลั้งมือฆ่าคนได้เขาไม่อยากให้มือของเขาต้องแปดเปื้อนเลือดคนสกปรกอย่างแม็คคาเอล“น้องแกมันอยากโง่มาให้ฉันข่มขืนเองทำไมล่ะ”แม็คคาเอลเองยังไม่หยุดที่จะพูดยั่วโมโหอีกฝ่ายเพราะเรื่องนี้ทำให้เขานึกสะใจอยู่ไม่น้อยที่กระตุกต่อมของแดเนียลได้เขาเกลียดแดเนียลที่ทั้งเด่นและดีกว่าเขาไปเสียทุกอย่างแถมตอนนี้เขายิ่งเกลียดเพิ่มขึ้นไปอีกเพราะแดเนียลทำให้เขาหมดตัวเหมือนหมาจนตรอก“หึ้ยยย...ไอ้สารเลว”ปลั้กกแดเนียลถึงขนาดฟิลขาดเมื่อแม็คคาเอลพูดถึงความเลวระยำที่ทำไว้กับน้องสาวของเขาชายหนุ่มพุ่งเข้าไปปล่อยหมัดใส่หน้าฝ่ายตรงข้ามอย่างหนักหน่วงและไม่มีความปราณีปลั้กก“ดีนะที่ฉลาดแล้วโง่อยู่ตั้งนาน”แม็คคาเอลเองก็ต่อยแดเนียลสวนกลับเหมือนกันแล้วก็ยังไม่พ้
“แต่ว่า...”น้ำเมยรู้ว่าเรื่องที่ชายหนุ่มพูดถึงมันคือเรื่องอะไรและเธอก็ไม่คิดจะต่อต้านเขาอีกด้วยแต่เรื่องที่เธอต้องยกมาค้านเขาก็คือตอนนี้เธอยังมีลูกน้อยอยู่ในท้องถ้าเกิดว่าเธอจะยอมตามใจชายหนุ่มมันจะเป็นผลกระทบอะไรต่อลูกในท้องหรือเปล่าเท่านั้นเอง“ไม่เป็นไรถ้าคุณกังวลเรื่องนั้นผมศึกษามาแล้วมันไม่มีผลต่อลูกของเราแน่นอน”มาคัสรู้ว่าสิ่งที่หญิงสาวจะพูดคืออะไรเขาจึงแย่งเธอพูดก่อนเพราะว่าเขารู้วิธีการดีว่าต้องเซฟอย่างไรเพราะเขาพอจะปรึกษาหมอมาบ้างและเขาก็อ่านสาระความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มาเยอะแล้ว“อื้มมมม”มาคัสเห็นว่าหญิงสาวส่งยิ้มให้เขาเป็นการอนุญาตแล้วชายหนุ่มจึงไม่รีรอเขาจู่โจมไปที่ริมฝีปากของเธออย่างหิวโหยจูบที่ดูดดื่มของเขาปลุกอารมณ์ของหญิงสาวได้ดียิ่งนักจูบนี้เองที่เขาโหยหามานานวันนี้เขาได้ครอบครองมันอีกครั้งตอนนี้ในหัวใจของเขามันมีความสุขจนแทบจะล้นทะลักออกมาแล้ว“อือ...อืมมมม”มือหนาของเขาค่อยๆสอดแรกเข้าไปบีบสองเต้างามของหญิงสาวที่อวบอิ่มและมีน้ำมีนวลเพราะว่ากำลังจะเป็นแม่คนมันช่างเต็มไม้เต็มมือของเขายิ่งนักชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะเลื่อนริมฝีปากมาขบเม้มดูดคลึงสองเต้างามสลับกันไปมาจนเรี