[ไม่นะ เจ้าหญิงของฉันบาดเจ็บ! เธอคงจะเจ็บปวดมาก][อะมีเลียดูขาวซีดมาก! ชาร์มินคงอยากแก้แค้นอะมีเลียที่พยายามจะเปิดเผยคำโกหกของเธอ! ไร้ยางอาย!][รอแถลงข่าวไม่ไหวแล้ว! เรามาดูกันว่าชาร์มินจะแก้ต่างให้ตัวเองยังไง ถ้าถูกแฉแบบนี้]เพราะทวิตเตอร์เต็มไปด้วยความคิดเห็นเช่นนี้ นักข่าวบางคนจึงไปสัมภาษณ์ทิฟฟานี่และอะมีเลีย“แม้ว่าชาร์มินจะทุบตีฉันจนตายก็ตาม ฉันก็ยังจะยืนหยัดเพื่อความยุติธรรม” อะมีเลียพูดกับกล้อง “และฉันจะทำให้งานแถลงข่าวเกิดขึ้น!”ในทางกลับกัน ทิฟฟานี่ที่กำลังรักษาอาการบาดแผลของเธอก็พึมพำขึ้น “ฉันไม่มีอะไรจะพูด ไม่เป็นไรเลยที่เธอตีฉัน ฉันแค่อยากช่วยให้เธอกลับมาสู่เส้นทางแห่งความชอบธรรมอีกครั้ง ได้โปรด ทุกคนช่วยฉันโน้มน้าวเธอได้ไหมคะ?” เธอพูดพร้อมแสร้งปาดน้ำตา ซึ่งทำให้หลายคนเห็นอกเห็นใจเธอทุกคนต่างรอคอยการแถลงข่าวอย่างใจจดใจจ่อ ช่วงเวลาแห่งการเปิดเผยความจริงจากคำพูดโกหกของเธอ พวกเขาต่างตั้งตารอภาพวินาทีที่ชาร์มินจะถูกไล่ออกจากแวดวงนางแบบเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนตอนนี้ก็เป็นเวลาบ่ายสามโมงแล้ว...ที่ชั้น 1 ของโรงแรมเคลซีย์นอกจากปาปารัสซี่จำนวนมหาศาลแล้ว เหล่าอินฟลูเอน
ขณะเดียวกันที่คฤหาสน์เบลีย์... แอนโทนี่ คริส และไนอัลรวมตัวกันหน้าโทรทัศน์ขนาดใหญ่ ทุกสายตาจับจ้องไปที่ข่าวด่วน งานแถลงที่กำลังถ่ายทอดสดอยู่ “เตรียมตัวให้พร้อม” แอนโทนี่สั่ง คริสถือรีโมตคอนโทรลสีเข้มอยู่ในมือ รีโมทที่มีไว้สำหรับโดรนของเขาที่ผูกติดอยู่กับตัวทำลายสัญญาณที่แรงที่สุด และเขาพร้อมที่จะกดปุ่มนั้นหากมีการเปิดเผยสิ่งที่ทำลายชื่อเสียงของชาร์มินในงานแถลงข่าว ด้วยการกดปุ่มนั้น ตึกของโรงแรมเคลซีย์ รวมถึงผู้คนในห้องประชุมจะถูกขัดจังหวะสัญญาณด้วยของพวกเขา และปิดการใช้งานถ่ายทอดสดของงานแถลง ‘ฮึ่ม! พวกคุณทั้งหมดต้องการทำลายชื่อเสียงของแม่ด้วยการเผยแพร่ข่าวปลอมด้วยเหรอ? ไม่มีทางซะหรอก!’ ในทางกลับกัน ไนอัลถือรายชื่อไว้ในมือของเขา มันเป็นรายชื่อที่ระบุชื่อของผู้ที่เข้าร่วมงานแถลงข่าว รวมถึงปาปารัสซี่ ผู้มีอิทธิพล และผู้สัญจรไปมา หากมีการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องในระหว่างการแถลงข่าว บริษัทเบลีย์จะเข้าไปปิดปากบริษัทที่ว่าจ้างพวกเขาเพื่อห้ามไม่ให้เอาข่าวออกไปจากห้องประชุม ‘ฮึ่ม! จะทำลายพี่สะใภ้ของฉันเหรอ? ยากหน่อยนะ!’ ทุกคนต่างจับจ้องไปที่หน้าจออีกครั้ง ดวงตาทั้งสามเบิกกว้างโด
“แล้วเธอโฟโต้ชอปรูปนั้นด้วยเหรอ? นั่นเป็นเรื่องหลอกลวงด้วยหรือเปล่า?” ปาปารัสซี่บางคนถึงกับทำหน้าบึ้งใส่อะมีเลีย ในขณะที่บางคนก็ตั้งคำถามซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อได้ยินอย่างนั้น อะมีเลียก็พยายามควบคุมอาการตกใจของตัวเองและตะโกนว่า “ฉันไม่ได้โฟโต้ชอปรูป มันเป็นเรื่องจริง! และที่ฉันไปหาเจ้าชายเกรย์ก็เพื่อไปขอร้องให้เขาช่วยคลี่คลายสถานการณ์!”“จะต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างเจ้าชายเกรย์และชาร์มิน ไม่อย่างนั้นเขาจะช่วยเธอทำไม? เขายังให้แหวนเพชรหลายกะรัตกับเธออีกด้วย!” ถ้าชื่อเสียงของอะมีเลียถูกทำลาย เธอก็จะลากชาร์มินลงเหวไปกับเธอด้วย อย่างที่เธอคาดไว้ ปาปารัสซี่เริ่มตั้งคำถามกับไซม่อน “เจ้าชายเกรย์ ความสัมพันธ์ของคุณกับชาร์มินเป็นอย่างไรคะ? ทำไมคุณถึงให้แหวนเพชรกับเธอล่ะ?” “คุณรู้จักชาร์มินได้อย่างไรคะ? วันนี้คุณมาที่นี่เพื่อปกป้องชาร์มินใช่ไหมคะ?” ไซม่อนยังคงดูสงบนิ่งและใจเย็น แม้ว่าเขาจะถูกตั้งคำถามอย่างไม่หยุดหย่อน “ครับ” เขาพูดด้วยท่าทีนิ่ง ๆ “ผมมาที่นี่เพื่อปกป้องชาร์มิน และผมจะบอกพวกคุณว่าทำไม! เพราะชาร์มินเป็นบอสใหญ่ของผม!” อะไรนะ? ชาร์มิน?! เธอเป็นเบอสใหญ่ของเขา?! เข
ผู้เข้าร่วมงานแถลงกลับตกตะลึงเมื่อเหตุการณ์พลิกผัน และนั่นรวมถึงอะมีเลียด้วย มัน… เป็นไปได้ยังไง? ชาร์มินเป็นลูกบุญธรรมไม่ใช่เหรอ? แล้วเธอเป็นกลายเป็นผู้บริหารของอาณาจักรเกรย์ ไดมอนด์ได้อย่างไร! ได้อย่างไร?! อะมีเลียเกือบทุ่มตัวเองใส่ไซม่อนด้วยความโกรธ เธอเดินไปหาเขา จับแขนเสื้อเขาและตะโกนออกมาอย่างสิ้นหวัง “ฉันไม่เชื่อคุณ! เธอจะเป็นบอสได้ยังไง? เธอเป็นผู้บริหารของคุณได้ยังไง? ทั้งหมดนี้มันดูแปลกไปหมด! ถึงเธอจะไม่ได้นอนกับคุณ แต่เธอก็ต้องนอนกับพ่อของคุณใช่ไหม? ใช่ ต้องเป็นแบบนั้นแน่ ๆ! เธอเป็นแม่เลี้ยงของคุณใช่ไหม? พ่อของคุณเลยให้หุ้นทั้งหมดของเขากับเธองั้นเหรอ?” “พอแล้ว! เลิกใส่ร้ายผมเสียที แล้วตอนนี้คุณยังกล้าใส่ร้ายพ่อที่แก่ชราของผมด้วยเหรอ?” ไซม่อนปัดมือของเธอออกด้วยความรังเกียจ เขาจ้องมองเธอด้วยดวงตาสีฟ้าอันเยือกเย็นของเขา “ชาร์มินเป็นบอสของผมได้อย่างไรน่ะเหรอ? ทั้งหมดก็เป็นเพราะคุณไง!” “ห้าปีที่แล้ว ตอนที่ชาร์มินถูกส่งไปแอฟริกา คุณติดสินบนสาวใช้ให้พาเธอขึ้นไปบนเนินเขาแล้วผลักเธอลงมาจากที่สูง เธอบังเอิญไปเจอเหมืองเพชรขนาดใหญ่ที่ด้านล่างของเนินเขา และมีเพชรอย่างน้อยสามพ
ผู้ใช้ทวิตเตอร์หลายคนโพสต์ข้อความเช่นนี้ : [ฉันผิดที่ตัดสินคุณผิดไป โปรดยอมรับคำขอโทษของฉันด้วยนะคะ!] [บอสจอร์แดน คุณกำลังมองหาน้องสาวอยู่หรือเปล่า? ฉันอยากเป็นน้องสาวของคุณ!] [ฉันเป็นแม่เลี้ยงของคุณได้นะ] [ฉันไม่จำเป็นต้องเป็นญาติของคุณก็ได้ค่ะ แต่ฉันจะทำให้คุณประทับใจและติดตามคุณไปทุกที่ คุณไม่ต้องจ่ายฉันเป็นเงินก็ได้ แค่โยนเพชรที่ไม่ใช้แล้วมาให้ฉันก็พอ] … ชาร์มินนอนแผ่บนโซฟาของเธออย่างเฉื่อยชา ลักษณะดูเหมือนไม่กังวลใจอะไรขณะอ่านข่าวเศรษฐกิจการเงินในหนังสือพิมพ์ โค้กขวดใหญ่วางอยู่บนโต๊ะกาแฟตรงหน้าเธอ พร้อมกับหลอดที่ต่อยาวมาถึงปากของเธอ “ทุกคนต่างยกย่องคุณบนทวิตเตอร์ โดยหวังว่าคุณจะเขียนถึงพวกเขาสักสองสามคำ” เอริคพูดต่อ “คุณอยากจะโพสต์อะไรไหม?” “ทวิตเตอร์? โอ้ ใช่” ชาร์มินจิบโค้กเป็นเวลานาน ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโพสต์ข้อความ เอริคเปิดเข้ามาในบัญชีของเธอด้วยความอยากรู้อยากเห็น ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นแข็งทื่อเมื่ออ่านประโยคหนึ่งสั้น ๆ ง่าย ๆ บนโพสต์ของชาร์มิน : [จูเลียน คาเบล กินอึหรือยัง?] ‘กินอึหรือยัง...’ แทนที่จะใช้โอกาสนี้เพื่อผูกมิตรกับผู้สน
ลิลลี่เป็นผู้หญิงที่พูดจานุ่มนวล เธอพร้อมที่จะปกป้องอะมีเลียและยังคงขอความเมตตาต่อลูกสาวของเธอในขณะที่เธอพูดว่า “คุณพ่อคะ ฉันรู้ว่าอะมีเลียทำผิดพลาดครั้งใหญ่ แต่นี่ไม่ใช่ความผิดทั้งหมดของเธอ เราดูแลชาร์มินมาตั้งหลายปี เราไม่สมควรได้รับอะไรตอบแทนบ้างเหรอคะ? เธอมีเหมืองเพชรขนาดใหญ่แบบนั้น ถึงเธอจะไม่ต้องการมอบมันให้กับเรา แต่อย่างน้อยเธอก็ควรบอกเราเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ใช่เหรอคะ?” “จริงครับพ่อ เธอเป็นคนเนรคุณ ก็เหมือนกับคำโบราณที่ว่า ‘เมื่อดื่มน้ำให้ระลึกถึงคนที่ขุดบ่อน้ำ’ ชาร์มินไม่เพียงแต่ลืมเกี่ยวกับคนที่ขุดบ่อน้ำเท่านั้น แต่เธอยังพยายามจะฆ่าคนคนนั้นด้วย!” ฟีลิกซ์ จอร์แดน คุณชายรองของตระกูลจอร์แดนหรือพ่อของอะมีเลียโพล่งขึ้น จากนั้น ห้องนั้นก็เต็มไปด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์ชาร์มินในทันที ทิฟฟานี่ไม่พลาดที่จะแสร้งทำเป็นใจดีและพูดออกมาว่า “ไม่จริง! เราจะตำหนิชาร์มินที่เธอไม่บอกเราได้ยังไงคะ? ก็เธอไม่ชอบพวกเรานี่น่า แต่เธอคงจะบอกคุณปู่ไปแล้ว” “คุณปู่ทำดีกับเธอมาโดยตลอด และเธอก็เคารพคุณปู่มาก เธอคงไม่ปิดบังเรื่องนี้กับคุณปู่หรอก” ทิฟฟานี่พูดขึ้น ขณะเทชาให้เดรกแล้วถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโ
ทิฟฟานี่พอใจเมื่อเห็นท่าทีของคุณปู่เปลี่ยนไป แต่เธอจำเป็นต้องรักษาหน้าตาของเธอไว้ “อะมีเลียหยุดพูดแบบนั้น ฉันเชื่อว่าชาร์มินไม่ได้ตั้งใจ เธอคงยุ่งอยู่กับการดูแลธุรกิจเหมืองเพชรและลืมโทรหาคุณปู่ คุณปู่อย่าโกรธเธอเลยนะคะ” เมื่อได้ยินคำพูดของทิฟฟานี่ ใบหน้าของทุกคนก็เคร่งขรึมขึ้น ยุ่งเหรอ? เธอก็แค่เนรคุณ! แม้แต่ท่าทางของเดรกก็ยังดูผิดหวังมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน ชาร์มินชอบการแสดงออกระหว่างอะมีเลียและทิฟฟานี่ เธอมองดูพวกเขาด้วยท่าทางขบขันราวกับว่าเธอเป็นราชินีที่ได้รับความบันเทิง “เธอสองคนพอได้หรือยัง?” เธอเงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่ใส่ใจ ยกยิ้มและเริ่มพูดว่า “ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ฉันพยายามติดต่อคุณปู่เป็นร้อยครั้ง แต่สายก็ไม่ว่างอยู่เสมอ ฉันส่งของขวัญมาให้ปู่ทั้งหมดสิบชิ้น แต่ไม่มีของขวัญชั้นไหนส่งถึงเขาเลย ฉันพยายามส่งอีเมลหาเขา แต่อีเมลทุกฉบับกลับถูกแฮ็กเกอร์บล็อกเอาไว้ เธอยังกล้าถามฉันอีกเหรอว่าทำไมฉันถึงไม่ติดต่อคุณปู่?” ชาร์มินพูดด้วยความอัดอั้นตันใจ จากนั้นเธอก็หยิบกระดาษกองหนึ่งออกมาแล้วโยนให้อะมีเลียกับทิฟฟานี่ เอกสารพัดกระจายกลางอากาศ และทุกคนก็มองขึ้นไปเพื่อดูหลักฐานขอ
แค่เพียงครั้งเดียว เสื้อผ้าของอะมีเลียก็ฉีกขาดออกจากกัน เผยให้เห็นเลือดสีสดที่ไหลออกมาจากผิวขาวเนียนของเธอ ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยวไปด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว แต่เธอไม่ยอมแพ้ “ไม่ใช่ฉัน! ไม่ใช่ความผิดฉัน! ชาร์มินใส่ร้ายฉัน!” ฮอบสันส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ อะมีเลียหัวแข็งเกินไป เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเฆี่ยนตีเธอต่อไป ฟุ้บ! ฟุ้บ! ฟุ้บ! ท้ายที่สุด เนื้อของอะมีเลียก็ฉีกออกและหลังของเธอก็เต็มไปด้วยเลือด เธอเริ่มทนบาดแผลไม่ไหว และพูดประโยคสุดท้ายออกมา “ไม่ใช่… ไม่ใช่ฉันจริง ๆ” จากนั้นเธอก็สลบไปทันที เดรกออกคำสั่งด้วยความโกรธ “มาเอาคนโกหกออกไปให้พ้นสายตาฉันเดี๋ยวนี้ และฉันขอสั่งไม่ให้เธอออกไปนอกคฤหาสน์อีกเป็นเวลาสามเดือน!” สามเดือน? อะมีเลียถูกกักบริเวณเป็นเวลาสามเดือน? “คุณพ่อคะ เธอเป็นนางแบบแนวหน้า! ถ้าเธอไม่ออกจากบ้าน ความนิยมของเธอก็จะหายไป…!” ลิลลี่เรียกร้องพร้อมกับเข้าไปประคองอะมีเลียไว้ “เธอคิดว่าอะมีเลียจะอยู่ในแวดวงนางแบบหลังจากที่ทำตัวโง่เขลาต่อหน้าสาธารณชนได้อย่างนั้นเหรอ?” เดรกเยาะเย้ย “ลาออกจากวงการนางแบบและหางานทำในบริษัทซะ! ถ้าเธอไม่ฟังฉัน เธอก็อย่าเรียกตัวเองว่าเป