Mag-log in“เห็นที สิ่งที่จะทำให้เจ้าหายจากอาการน่าสงสารก็คือต้องขับความร้อนจากร่างกาย และดื่มด่ำกับความสุขให้มากที่สุด”
มู่อี้เถียนว่าจบจึงมองเหมียวจื่อเผยด้วยความสิเน่หา เขาเป็นหนุ่มน้อยก็จริง และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีสาวใช้ห้องข้างหลายคน แต่ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยังไม่เกิดขึ้นสักครา นั่นเป็นเพราะเขายังไม่ถูกตาต้องใจใคร ทว่าผิดกับเมื่อเห็นเหมียวจื่อเผย นางมีเสน่ห์ลึกลับ ชวนให้เขาอยากสัมผัส และเป็นเจ้าของ
“แต่เจ้าอย่าเพิ่งหวังสูง ข้าจะให้ผู้ใด เห็นขาอ่อนได้ง่ายๆ จนกว่า ข้าจะมั่นใจว่า เจ้าคู่ควรพอ ที่จะปล่อยความอุ่นซ่านเข้าสู่กลีบชื้นแฉะ” เด็กหนุ่มกล่าวอย่างถือตัว จากนั้นจึงเป่าปาก เรียกสาวใช้ และบ่าวชายคนสนิทของตน ที่คอยรับใช้อยู่ใกล้ๆ ในบริเวณนั้น
เมื่อคนแปลกหน้าที่เดินเข้ามาในห้องดังกล่าว ทำให้เหมียวจื่อเผย รู้สึกตื่นเต้น ทั้งคู่ ดูเหมือนเพิ่งพ้นวัยเด็กมาไม่กี่ปี และตื่นกลัวมิน้อย ซึ่งความเยาว์นี้ มันช่างหอมหวานเหลือเกินสำหรับหญิงสาว
“พิษราคะที่อยู่ในร่างกายเจ้า ย่อมต้องรีบขจัดออกให้หมด หาไม่แล้ว อาจมีอันตราย จนทำให้สิ้นลมหายใจ”
ได้ยินเช่นนั้น เหมียวจื่อเผยก็แสร้งอ้าปากกว้าง และดวงตากลมโตเบิกค้าง ราวกับตกใจเหลือเกิน
“แต่ไม่ต้องกังวลสิ่งใด เพราะข้า พึงใจต่อเจ้า ดังนั้นจึงอยากช่วยต่อชีวิต”
เมื่อมู่อี้เถียนเอ่ยจบ สาวใช้กับบ่าวชาย ก็เข้ามาหาเหมียวจื่อเผย ในคราแรกพวกเขาเงอะงะอยู่บ้าง แต่พอมู่อี้เถียนส่งเสียงคำรามอย่างขัดใจ ทุกอย่างเลยเข้าที่เข้าทาง
“อื้อ... อ๊ะ...”
เนื่องจากกำลังแสดงบทบาทสตรีต้องพิษ ทั้งยังเป็นใบ้ เหมียวจื่อเผยที่กำลังถูกจับเปลื้องผ้า จึงทำได้เพียงดิ้นหนี กระทั่งมือของหลางฮั่ว ซึ่งเป็นสาวใช้ลูบไล้หน้าอกเหมียวจื่อเถียน ความสยิวซ่านก็บังเกิดขึ้น
อีกฝ่ายเริ่มนวดเฟ้นเคล้นคลึงหน้าอกเหมียวจื่อเผย พอเห็นว่านางไม่ได้ปฏิเสธ จึงโน้นริมฝีปากมาประกบกัน
“อี้... อ๊า อ๋า...” การถูกผู้หญิงด้วยกันจุมพิตมันชวนให้ขนที่หลังต้นคอลุกชัน ทว่าสาวใช้คนนี้ ลีลาจัดว่าไม่ธรรมดา นางบดริมฝีปากนุ่มๆ กับเหมียวจื่อเผย มือแตะยอดถันของหญิงสาว แตะไม่พอยังออกแรงบดบี้ให้เกิดความซ่านสยิว
ส่วนเจี๋ยชาง บ่าวที่ใบหน้าหวานก็ทำในสิ่งที่ชวนให้หวีดเสียงแหลมสูงเหลือเกิน เขากำลังอมนิ้วเท้าของเหมียวจื่อเผยสลับการดูดเลีย!
ใบหน้าเด็กน้อยของมู่อี้เถียนมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เกิดขึ้น เขาชอบภาพดังกล่าว และเสียงครางชายหญิง ก็เป็นสิ่งที่เขาปรารถนาจะได้ยิน
“นางบ่าวโง่ จงเอากลีบของเจ้า ไปถูไถนาง แล้วทำให้มันเกิดเสียงแจ๊ะๆ ๆ กับเสียงบดเบียดเนื้อนิ่มเข้าด้วยกัน เร็วเข้า ข้าอยากได้ยิน!”
เหมียวจื่อเผย คาดไม่ถึงว่า คุณชายห้าที่อายุเพียงเท่านี้จะเป็นคนตัณหากลับที่ชอบเรื่องสัปดน
อึดใจต่อมา หลางฮั่วไม่รอช้ารีบทำตามคำสั่งมู่อี้เถียน และตัวนางได้รับการกระตุ้นจากแรงสิเน่หา อีกทั้งในร่างกายสูดกลิ่นกำยานราคะไปก่อนหน้านี้
กลีบสวาทหลางฮั่วอาจไม่งามเท่าเหมียวจื่อเผย และยังเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ กระนั้นเมื่อนางใช้มันถูไถกับพื้นที่ฉ่ำหวานของเหมียวจื่อเผย พร้อมบดเบียดเนื้อสาวด้วยกัน ความซ่านแสนรัญจวนก็เกิดขึ้น
น้ำเมือกชโลมพื้นที่งาม และสตรีทั้งสองมิอาจอดกลั้นความซ่านสยิวได้ ฝ่ายสาวใช้ครางเสียงดัง นางใช้มือข้างหนึ่งบีบและนวดเฟ้นหน้าอกเหมียวจื่อเผย บีบแรงจนมู่อี้เถียนเกิดอาการหึงหวง
“นังบ่าวชั้นต่ำ หากทำให้แม่นางผู้นี้ บอบช้ำเพียงเล็กน้อย ข้าจะโบยเจ้าให้เนื้อแตก”
เมื่อมู่อี้เถียนตวาด การเล่นสนุกของสองหญิงกับหนึ่งชาย จึงลดความบ้าคลั่งลง
ยามนั้นบ่าวหนุ่มหน้าใส เริ่มซุกไซ้ซอกคอเหมียวจื่อเผย และแท่งหยกเขาถูไถตามส่วนเว้าส่วนโค้งของนาง
“ฟังข้าให้ดี ห้าม...นำท่อนเอ็นเจ้า เข้าไปในส่วนใดของหญิงใบ้ และน้ำหล่อลื่นเจ้า ก็เช็ดเสียด้วย มันไหลเยิ้มจนน่าขยะแขยงแล้ว”
มู่อี้เถียนสั่งเจี๋ยชาง และเขามีอารมณ์เป็นอย่างมาก ความเป็นชายจึงผงาดง้ำ แม้ไม่มีขนาดใหญ่โต แต่มันสมตัว อีกทั้งเขาเกิดความต้องการอยากร่วมรักกับเหมียวจื่อเผย ผิดแต่ว่าเขาไม่อาจทำสิ่งนั้นได้
จากนั้นมู่อี้เถียนก็พาท่อนเนื้อร้อนมาอยู่กึ่งกลางระหว่างสองเต้าอวบอัดของเหมียวจื่อเผย เขาเสือกแทงมันขึ้นลงด้านบนล่าง ดวงตาเรียวสวยส่งประกายความเจ้าชู้ถึงนาง เมื่อพิศแล้วในยามนี้คุณชายห้า กลับไม่หลงเหลือเค้าของเด็กหนุ่ม
ฝ่ายเหมียวจื่อเผยก็อยากเอาใจเขา สองมือนางบีบเต้าอวบๆ เข้าหาท่อนเนื้อสวยที่ปลายหัวหยักเป็นสีชมพูสด เขาช่างหอมหวาน เปี่ยมด้วยความไร้เดียงสา และรักสนุกเหลือเกิน
“อ๊าส์! หญิงใบ้... เจ้าเรียนรู้ศาสตร์เหล่านี้จากที่ใด!”
มู่อี้เถียนชอบใจ เขาเสือกท่อนเนื้อแรงขึ้น และเหมียวจื่อเผยบีบสองเต้าของตนชิดกัน หวังที่จะให้มันรัดขาที่สามของอีกฝ่ายให้เขากระสันอย่างหนักหน่วง
ในขณะนั้น มู่อี้เถียนเต็มไปด้วยแรงตัณหา เขาจึงสั่งให้สาวใช้ กับบ่าวสาวร่วมรักกัน ส่วนเขานำนิ้วเรียวของตนกวาดเข้าไปในปากของเหมียวจื่อเผย
ความเร่าร้อนของทั้งคู่ ผสานเสียงการสับสะโพกของเจี๋ยชางกับกลีบสวาทหลางฮั่ว จึงทำให้ในห้องดังกล่าวเต็มไปกลิ่นอายแห่งราคะ
“เจ้าอยากให้ข้าเชยชมส่วนนั้นด้วยสิ่งใด”
มู่อี้เถียนถาม และกลีบงามอันแฉะชื้นของเหมียวจื่อเผยที่ถูกกระตุ้นจากสาวใช้ก่อนหน้านี้ ดูเหมือนจะพร้อมแล้วเพื่อให้คุณชายห้าสำราญใจ ด้วยลิ้น นิ้วเรียวยาว หรือจะเป็นแท่งหยกที่ยังบริสุทธิ์อยู่
“เอาล่ะ... ข้าจะไม่ส่งท่านไปคุกเมืองหลวง แต่จะตัดสินโทษ และพาตัวไปยังเรือนนอกที่เมืองทางใต้ โดยห้ามไม่ให้ก้าวออกจากรั้วแม้แต่ก้าวเดียวกระทั่งสิ้นลมหายใจ” หยวนจื่อได้ยินคำพูดอันเด็ดขาด นางก็ทรุดฮวบลงไปที่พื้น และความหวังเดียวที่จะช่วยชีวิตนางได้ ย่อมเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตน นางมองไปยังหนันเฉินเทียน และส่งเสียงเรียกเขาอยากน่าสงสาร ทว่าเด็กชายที่ยืนเงียบตั้งแต่ต้น ได้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่โตเกินวัย “ท่านเลี้ยงเสี่ยวเทียนตั้งแต่แบเบาะ นั่นคือสิ่งที่ข้าย่อมตอบแทน แต่การที่ท่าน วางยามารดาผู้ให้กำเนิดข้า และขโมยข้ามานั่น ย่อมมีความผิดสถานหนัก!” หยวนจื่อลนลานสุดขีด ด้วยคาดไม่ถึงว่าตนจะถูกเปิดโปงง่ายๆ และเรื่องทั้งหมด สรุปอย่างรวบรัดได้ว่า นางเป็นหมัน จึงไม่อาจมีบุตร เลยคิดแผนส่งสาวใช้คนสนิทตนไปรับใช้ใต้เท้าหนัน พอรู้ว่าตั้งครรภ์ก็ให้ไปอยู่นอกจวน กระทั่งคลอดจึงนำทารกมาแอบอ้างว่าเป็นลูกของตน ส่วนสาวใช้โชคร้ายผู้นั้น ก็ถูกวางยาพิษพร้อมลบประวัติทั้งหมดทิ้ง ทว่าความลับไฉนจะมีในโลกนี้ และหนันจิ้งโหย่วเป็นผู้สืบรู้ ก่อนนำมาแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมคิดบัญชีนางใน
เถียนลู่ฟางหน้าซีด และตัวสั่น นางมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร อีกทั้งพยายามคิดว่า ด้วยมูลเหตุใดหยวนจื่อ ถึงต้องการให้นางรับโทษสถานหนัก ขบคิดอยู่นานจึงพอกระจ่างใจแล้วว่า หยวนจื่อผู้นี้ต้องการแพะรับบาป สร้างเรื่องคาวโลกีย์ หวังปกปิดสิ่งที่ตนกำลังจะถูกสืบค้นจากทางการ ในข้อหาส่งคนไปฆ่าหนันจิ้งโหย่ว รวมถึงคดีอื่นๆ ที่เคยกระทำไว้มากมาย และเถียนลู่ฟางทราบเรื่องนี้ได้เช่นไร นั่นเป็นเพราะนางได้ยินจากปากของหนันจิ้งโหย่ว รวมถึงสิ่งที่ไป๋รั่วรั่วบอกไว้ “ความจริงเท่านั้นจะทำให้ท่านรอดพ้นจากเรื่องร้ายๆ ครั้งนี้ อีกอย่างคุณชายรอง ก็ปรารถนาครองคู่ท่าน เรื่องนี้คงเข้าใจดีแล้ว” “แต่ข้า แต่งเข้าสกุลหนัน เป็นฮูหยินห้า” “แน่ใจว่าเป็นท่าน มิใช่ พี่สาวต่างมารดา ที่สมควรขึ้นเกี้ยวแต่งเข้าสกุลหนัน” เมือไป๋รั่วรั่วกล่าวเช่นนั้น เถียนลู่ฟางก็พอจะมองหลายสิ่งออกทีละน้อย “อย่างไร ข้าก็มีความผิดโทษฐานหลอกลวงสกุลหนัน เรื่องนี้จะเปลี่ยนแปลงได้เช่นไร” “ฟังข้าให้ดี แม่นางเถียน หนันฮูหยินไม่ได้ต้องการ เอาผิดท่าน แต่นางเพียงแค่จงใจสร้างเรื่องให้ใหญ่โตเข้าไว้ เพื่อข
การยกน้ำชาให้แก่ฮูหยินผู้เฒ่าหนัน ไม่ได้มีเรื่องยุ่งยากอันใด ฝ่ายนั้นคล้ายเบื่อขี้หน้าเถียนลู่ฟางด้วยซ้ำ ถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็ถูกมองในแง่ไม่ดี แสุดท้ายก็ถูกซักไซ้หลายเรื่อง และอันที่จริงเถียนลู่ฟางเกือบออกจากห้องโถงเรือนนกเป็ดน้ำได้อยู่แล้วเชียว หากหยวนจื่อ (หนันฮูหยิน / ฮูหยินหม้าย มารดาของหนันเฉินเทียน) ไม่เอ่ยถามเรื่องยากๆ ขึ้นเสียก่อน “ได้ข่าวว่า ก่อนแต่งเทียนเอ๋อร์ ฮูหยินห้าเป็นสตรีที่ซุกซนคนหนึ่ง ทั้งยังมักก่อปัญหาไม่หยุดหย่อน แม้แต่เย็บปักเสื้อผ้ายังทำไม่คล่อง ส่วนเรื่องอาหาร ก็แย่ไปหมด” เถียนลู่ฟาง ไม่แน่ใจว่าเหตุใด หยวนจื่อถึงหยิบหยกคำพูดนี้ขึ้นมา อีกอย่างนางแต่งเป็นฮูหยินห้าหลอกๆ ก็เท่านั้น กล่าวคือเป็นการแต่งแก้เคล็ด และใช่ว่าจะหลับนอน เป็นสามีภรรยากันจริงๆ กับหนันเฉินเทียนซะเมื่อไหร่ “ข้าไม่เก่งเรื่องที่หนันฮูหยินกล่าวถึง ทว่าด้านอื่น ข้าก็พอชำนาญ ขี่ม้า ยิงธนู ที่สำคัญลิ้นของข้ารับรสชาติได้ดี ตั้งแต่เด็กก็เป็นผู้ชิมอาหารที่ขายในเหลาของสกุลเถียน” “ฮึ เช่นนี้ กล่าวได้ว่าสกุลเถียนย้อมแมว หลอกจวนหนันหรือไม่ สตรีที่ไม่ได้เรื่อง หากให้แต่
หญิงสาวขยับร่างกายบนฟูกหนาหนุ่ม และยามนี้ละอายใจยิ่งนัก เนื้อตัวก็ปวดเมื่อยไปหมด พออยากขยับร่างกาย ก็รู้สึกว่าร้าวไปทั้งร่าง นางตกเป็นของหนันจิ้งโหย่ว...แน่นอน เขาไม่ใช่สามีที่นางแต่งเข้าสกุลหนัน “ท่านย่ำยีข้า หญิงสาวไม่ได้โวยวาย แต่เอ่ยอย่างเจ็บปวด” หนันจิ้งโหย่วมองนาง มองแล้วอมยิ้ม ไม่ได้ยั่วล้อ แต่มองอย่างชัดเจนว่าพึงใจที่ตนได้ร่วมรักกันอย่างสุดเหวี่ยงกับสตรีผู้นี้ “ข้าเคยบอกแล้ว เจ้าเป็นภรรยาข้าเพียงผู้เดียวเท่านั้น ส่วนเสี่ยวเทียน ให้เขาเป็นน้องสามีจึงจะถูกต้องที่สุด มิอย่างนั้น เจ้าคงเป็นสตรีประหลาด ที่อยากให้เด็กน้อย ใช้มือ และลิ้นเล็กๆกับกลีบบุปผาหวานฉ่ำนั่น” ชายหนุ่มกล่าวจบประโยค นางก็ตบใบหน้าเขาไปเต็มแรง “สตรีแซ่เถียน บอกรักผู้อื่นเช่นนี้หรือ” “ทะ ท่านทำให้ข้าอับอาย จากนี้ ข้าจะสู้หน้าผู้อื่นได้อย่างไร” “หมายความถึง!” “ข้าเป็นสะใภ้เล็กคุณชายห้า หากทำเรื่องผิดศีลธรรม มิแคล้วต้องถูกลงโทษสถานหนักหรอกหรือ” “เสี่ยงฟาง หากเจ้าไม่พูด ข้าไม่พูดแล้วใครจะรู้ว่า เราเป็นผัวเมียกัน” หญิงสาวเหลืออดแล้
เรื่องทั้งหมดเป็นเช่นนั้น แล้วไฉนเขาถึง เป็นบุรุษชั่วช้าล่วงเกินเถียนลู่ฟาง อย่างผิดศีลธรรมเรื่องนี้คงต้องย้อนกลับไปเมื่อสามปีก่อน ด้วยเถียนลู่ฟางไปพบเห็นเรื่องที่ไม่ควรยุ่งเกี่ยวเข้าโดยบังเอิญ และนางยังเอาตัวเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยยามนั้นเถียนลู่ฟาง เป็นแม่นางน้อยที่ชอบวางยา และใช้อาวุธลับต่างๆ ซึ่งนางบังเอิญซัดใส่ร่างของหนันจิ้งโหย่ว ในระหว่างทางที่เขาหลบหนีผู้ปองร้าย ด้วยเข้าใจผิดว่าเขาคือคนที่วางยานางที่โรงเตี้ยม ทั้งที่ความจริงผู้ที่ลงมือกระทำชั่วต่อเถียนลู่ฟางคือโจวถิงกับเถียนหลิงหลิง ด้วยต้องการให้นางเสียชีวิต และไม่อาจกลับคืนสกุลเถียน ฝ่ายหนันจิ้งโหย่วก็ใช้เหตุการณ์ดังกล่าว สร้างเรื่องว่าตน ได้จากโลกนี้ไปแล้ว !ฝ่ายเถียนลู่ฟาง ทำร้ายเขาไม่พอ ยังไล่ล่าเขา ราวกับเห็นเป็นศัตรู เนื่องจากฝ่ายนั้นขโมยยาตำรับลับของนางไป และซัดจนหมดขวด ด้วยเข้าใจว่าคือ สมุนไพรต้านพิษร้ายในร่างกาย และยังมั่นใจว่าเถียนลู่ฟางคือนางมารน้อยที่ถูกส่งตัวมาเล่นงานเขา สุดท้ายทั้งคู่จึงพลัดตกเขาด้วยกันเรื่องราวต่อจากนั้น จึงค่อนข้างร้อนแรง มากด้วยเสน่หา เพราะฝ่ายหนึ่งแม้บาดเจ็บหนัก แต่หนุ่มแน่น ส่วนเถียนลู่ฟางเ
“ความสุขอันใด? แล้วข้าไปร่วมเตียงกับคนชั่วตั้งแต่เมื่อใด!” “ฮ่าๆ ๆ ก็เมื่อร่างกาย เจ้าต้องพิษ ว่านราคะของหนันฮูหยิน ข้าจำต้องยื่นมือเข้าช่วย จากนั้น สิ่งที่ควรเข้าไปอยู่ข้างใน จะได้ทำให้เราเข้ากันอย่างไม่มีอะไรขวางกั้น!” เขากล่าวสิ่งชวนฉงน แน่นอนบุรุษที่นางแต่งงานด้วยไม่ได้เติบใหญ่เป็นชายฉกรรจ์เพียงแค่ชั่วข้ามคืน ด้วยเป็นนางที่หลงกลคนเจ้าเล่ห์ บัดซบ มารดาคนสกุลหนันเถอะ! และขอให้ฟ้าดินลงโทษ คนผู้นี้ล่วงเกิน ข่มเหงนางเกินไปแล้ว “นะ นั่น!” ดวงตากลมโตจ้องไปที่กลางลำตัวบุรุษผู้นี้ ดวงตาเขาพราวระยับทีเดียว “ทักทาย มันสักหน่อยเป็นอย่างไร สองคืนก่อน เจ้าทั้งใช้ ลิ้น มือ แล้วยังดูดดื่มน้ำขาวข้น ผู้เป็นพี่ชายสามีเช่นข้า ไปตั้งหลายรอบ” “เหลวไหล ข้าไม่ใช่สตรีร่านราคะ ถึงจะทำเรื่องไร้จรรยา!” สมองของเถียนลู่ฟางขาวโพลนชั่วขณะ ยากนักที่นางจับต้นชนปลายได้ในยามนี้ ด้วยถูกว่านราคะกล่อมประสาท และยังหลงใหลต่อบุรุษตรงหน้า ริมฝีปากบางยกยิ้มมุมปาก ขับให้ใบหน้านั้นหล่อเหลาทั้งคมคายยิ่ง แต่เขากลับเป็นคนไร้ยางอายที่นางไม่อ







