เหมียวจื่อเผยลืมตาขึ้นอีกครั้ง แน่นอน สถานที่แห่งนี้มิใช่คฤหาสน์หลังงาม หากเป็นรถม้าที่มุ่งหน้าขึ้นเขาที่มีไว้สำหรับการพักผ่อนของเหล่าคุณชายในสกุลโม่ นางมาอยู่ที่นี่ ตามความต้องการของตน หลังจากทั้งขู่ และขอร้องให้ม่อเส้าเฟิง ช่วยเหลือนาง
“คุณหนูเหตุใดถึงไม่ให้ข้า ไปส่งท่านที่คฤหาสน์สกุลโม่”
ม่อเส้าเฟิงเอ่ยถาม หลังจากช่วยเช็ดเนื้อตัวหญิงสาว พร้อมสวมเสื้อผ้า และเขียนคิ้วโก่งให้นางงดงามยิ่งขึ้น
“เกี้ยวของข้าไม่ได้ถูกพาเข้าไปในคฤหาสน์ ตามฤกษ์ที่วางไว้ เจ้ายังคิดว่า หากข้าเดินไปหน้าประตูใหญ่สกุลมู่ และแจ้งพวกเขาว่า ข้าคืออนุสาม คนเฝ้าด้านหน้า หรือแม้แต่คนงานคอยบอกเวลา จะไม่เอาไม้ไล่ตีข้าเหมือนหมูหมาหรอกหรือ ในเมื่อคนที่วางแผนให้ข้าต้องพบเรื่องร้ายแรง คือ อนุเฉิน หากนางรู้ว่าข้ายังมีชีวิตอยู่ ย่อมต้องหาวิธีปิดปากข้าเป็นแน่”
“แล้วคุณหนูต้องการเช่นไร”
“อีกไม่กี่วัน คุณชายทั้งสี่ ต้องเข้าคัดเลือกเจ้าบ้านน้อยคนใหม่ และข้าอยากพบพวกเขาสักเล็กน้อย ก่อนกลับคฤหาสน์หลังงามอย่างสมเกียรติ”
เหมียวจื่อเผยกล่าวเช่นนั้น ด้วยนางรู้เรื่องราวในภายภาคหน้า ว่าจะมีสตรีหนึ่งคนที่ล่วงรู้แผนการลับๆ ของคุณชายทั้งสี่ และจากนั้นนางก็กลายเป็นอนุสุดที่รักของเจ้าบ้านมู่
“คุณหนู... หากทำเช่นนั้น จะไม่ผิดต่อศีลธรรมหรือ”
หญิงสาวยิ้ม และริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงสด เย้ายวนม่อเส้าเฟิงเหลือเกิน
“อนุสามผู้นี้ อยากเป็นคนโปรดของบุรุษแซ่มู่ทุกคน และจากนั้นข้าจะก้าวขึ้นสู่จุดที่สูงสุด สำหรับเจ้า หากยังสนใจในตัวข้า ย่อมมีสักวันที่เราจะได้ถวิลหาความหลังด้วยกันอีก”
ม่อเส้าเฟิงมองเหมียวจื่อเผยอย่างฉงน ก่อนเอ่ยถาม
“แล้วคุณหนู จะปลอดภัยเมื่ออยู่ในตำหนักน้ำพุซีเฉอหรือ”
“เมื่อข้าตัดสินใจใช้ชีวิตเช่นนี้ นอกจากชื่อเสียงอันฉาวโฉ่ และเต็มไปด้วยคำครหา ข้าย่อมไขว่คว้าทุกอย่างได้ตามใจปรารถนาโดยใช้ความงามของตน”
“คุณหนูมั่นใจถึงเพียงนั้น”
“อาเฟิง...สตรี คนหนึ่งยอมแลกศักดิ์ศรีตนถึงเพียงนี้ ก็เพื่อนางจะก้าวสู่บัลลังก์ตั่งทอง นับจากนี้ ข้าจะเป็นนางพญา ที่ชี้นิ้วสั่งผู้อื่นให้นำสิ่งที่ข้าต้องการมากองแทบเท้า”
ม่อเส้าเฟิงอึ้งอยู่สักหน่อย เหมียวจื่อเผยเป็นเพียงสตรี สิ่งที่ดีที่สุดของนางคือความงาม เช่นนี้นางจะก้าวขึ้นไปเป็นสตรีที่ทรงอำนาจได้อย่างไร
“คุณหนูท่านยังมีทางเลือกอื่น และข้ายินดีจะดูแลท่านไปตลอดชีวิต ให้อยู่อย่างสุขสบาย และสงบสุข”
“ข้ายินดีที่ได้พบอาเฟิงคนแรก และยังมีความสุขร่วมกัน... สิ่งนี้ เปลี่ยนความโง่เขลาของข้า ทั้งยังจุดไฟในร่างกายให้ลุกโชน ชีวิตที่เหลือคงไม่อาจเหมือนเดิมอีก ข้าจะไม่เป็นของผู้ใด และไม่มีผู้ใด เป็นเจ้าของสตรีคนนี้!”
นางเอ่ยจบจึงใช้นิ้วเรียวสวยแตะริมฝีปากอวบอิ่มที่ทาฉาดสีแดง ก่อนถูนิ้วไปมา ด้วยกิริยาแสนยั่วยวน
ม่อเส้าเฟิงไม่ชอบใจสักเท่าไหร่ แต่เมื่อเหมียวจื่อเผยประสงค์เป็นสตรี ที่อยู่ในกลุ่มสาวงามที่ถูกคัดตัวมายังตำหนักน้ำพุซีเฉอ เขาก็จำเป็นต้องยอมตามใจนาง
สตรีเหล่านี้ มาจากสำนักนางโลมเลื่องชื่อ เพื่อให้มาปรนนิบัติคุณชายสกุลมู่ ก่อนที่พวกเขาจะไปเข้าพิธีอันสำคัญเพื่อคัดเลือกเจ้าบ้านน้อยคนใหม่แทน มู่ข่ายเฉิง ที่ยามนี้ป่วยเพราะพลัดหลังม้าหลังจากออกไปล่าสัตว์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
เมื่อเข้าไปอยู่ด้านในเรือนดังกล่าว จู่ๆ เหมียวจื่อเผยซึ่งสวมใส่เสื้อผ้าบางเบา ที่แทบปกปิดเรือนร่างไม่มิด ถูกหนุ่มน้อยผู้หนึ่ง ฉุดเอวบางนางไว้ ก่อนพาไปยังเรือนรับรองส่วนตัวของเขา ที่อยู่หลังสวนหิน
ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเหมียวจื่อเผยซึ่งจงใจให้เป็นเช่นนี้
“แม่นาง เหตุใด ถึงดูเหมือนเจ้าไม่ได้เต็มใจ มาที่นี่ เพื่อรับใช้ข้า กับบรรดาพี่ชาย”
มู่อี้เถียนถาม ในหัวเหมียวจื่อเผย คิดแผนการอันแยบยลขึ้นทันที สำหรับหนุ่มน้อยที่ปากพึ่งสิ้นกลิ่นน้ำนม นางจะล่อลวงเขาเช่นไรดีหนอ กระทั่งนึกถึงเรื่องน่าสนุกได้
เหมียวจื่อเผยใช้มือของตนทุบหน้าอกเขาเบาๆ และส่งเสียงอื้ออ้า อย่างตื่นตระหนกอยู่สักหน่อย
“เอ๊ะ...เป็นใบ้หรอกหรือ...”
นางจงใจให้มู่อี้เถียนรับรู้เช่นนั้น และเขาจะต้องทำเรื่องผิดบาปต่อนาง อย่างที่ไม่อาจให้อภัยตัวเอง
เด็กหนุ่มยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ นาง ลมหายใจเขาอุ่นซ่าน และดวงตากลมโตลูกสีดำขลับเต็มไปด้วยความอยากรู้ อยากเห็น
“เจ้าคือสตรีที่พี่สี่ซื้อหามา แล้วเหตุใด ถึงไม่มีป้ายแขวนคอ เหมือนนางอื่นๆ ในเรือนนี้ หรือว่าเป็นสายลับ!?”
เหมียวจื่อเผยแสร้งบีบน้ำตา ริมฝีปากนางสั่นระริก อาการนั้นกึ่งหวาดกลัว กึ่งยวนยั่ว
“ตัวข้าคือคุณชายห้า แห่งสกุลมู่ หากต้องการให้ช่วยเหลือสิ่งใดจงบอก” มู่อี้เถียน เอ่ยด้วยน้ำเสียงผ่อนปรน แต่ดวงตาเขา และการแสดงออก แจ้งชัดว่า ผู้เยาว์วัยมีความกระหายในเรือนร่างอรชร
เหมียวจื่อเผยวางมือที่หน้าอกอวบอิ่ม ก่อนแสดงกิริยาบอกให้เขารู้ว่า เกิดสิ่งผิดปกติในเรือนกายนี้
“โอ้...เป็นสิ่งที่ผิดพลาดโดยแท้ พ่อบ้านคงใช้กำยานราคะ แล้วยังมีสมุนไพรเพิ่มกำหนัดให้เจ้า และคณะนางรำเอวอ่อนได้ดื่มสินะ ถึงได้หน้าแดง และบิดตัวไปมาอย่างน่าสงสาร”
“อ๊ะ... อ๋าส์!”
เหมียวจื่อเผยร้อง ด้วยมู่อี้เถียนใช้นิ้วเรียวยาวสวยของเขาแตะเหนือยอดถันนางที่ตั้งชันสู้สายตาเขา
“อาซ้อทำให้ผมไม่มีทางเลือก และคืนนี้จนกว่าผมจะได้สิ่งที่พอใจ ผมถึงจะปล่อยอาซ้อกลับห้องตัวเอง” ซึ่งแน่นอน โจวฟางจื่อ รู้ว่าเรื่องนี้มันต้องเกิดขึ้น นับแต่เธอตั้งใจเปลี่ยนบทในนิยาย เธอต้องไม่เป็นนางเอกเจ้าน้ำตา เลิกแบกภาระจนเต็มหลังไหล่ นิยายเรื่องนี้จะมีแต่นางร้ายสายฟาด ที่ล่าแต้มผู้ชายในเรื่อง พวกเขาต้องอยู่ในกำมืองามๆ ของเธอ เมื่อเป็นเช่นนี้ ย่อมต้องเจ็บตัวบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา “ได้ยินที่ผมพูดไหม ผมจะไม่ปล่อยอาซ้อไปไหน” หญิงสาวไม่ได้ตอบคำด้วยคำพูดใด และน้ำตาที่เอ่อล้นขอบตาก็เป็นไปตามร่างกายที่ถูกแรงกระทำของชายหนุ่ม นิ้วใหญ่ๆ อยู่ในโพรงปากนาง เขากวาดไล้ต้อนลิ้นเรียวสากร้อน และนางส่งเสียงอื้ออ้าประท้วงเล็กๆ ท่าทางนั้นจะว่าทรมานก็ไม่ใช่ หากมันเต็มไปด้วยการแสดงออกถึงความวาบหวามใจ ชวนให้ซ่านสยิว นางยั่วเขา ปั่นหัวเขา นี่คือแผนร้ายๆ ของสตรีที่มาจากโลกอื่น “อ๊ะ... อ๊า... อื้อ...” หวังเสี่ยวเกอ แม้ไม่ใช่คนทึ่ม แต่นี่คือครั้งแรกที่แตะเนื้อต้องตัวสตรีอย่างใกล้ชิด และออกจะทำรุนแรงตามสัญชาติญาณดิบเถื่อน ซึ่งตัวเขาก็แปลกใ
แต่โจวฟางจื่อก็ยังไม่อยากทำให้เด็กหนุ่มใจแตกไปเร็วกว่านั้น แน่นอนเธออยากกินเขา แต่มันต้องหอมหวานและถูกต้อง โดยไม่มีใครมาขัดขวาง อย่างนั้นถึงจะเรียกว่ากลืนได้ทุกหยาดหยดแบบไม่ตะคิดตะขวงใจ ทว่าคนหนุ่มเลือดร้อนไม่เข้าใจ เขาลืมตาขึ้น และพยายามจูบเธอคืน “อยากได้ฉันมากเหรอ” คำถามของเธอ ช่างร้อนแรงเหลือเกิน “มัดจำไง” “เสี่ยวเกอ ฉันไม่ใช่คนดีนัก แต่ถ้าฉันจะเอานายจริงๆ ตอนนั้น รับรองได้ว่านางต้องไม่มีวันลืม แต่ตอนนี้... อดใจไว้ก่อน รอให้ฉันโสด ไร้พันธะ ถ้านายโตพอที่จะรับผิดชอบการกระทำของตนเองได้ ไม่เป็นลูกแหง่ ฉันจะไม่ใช่แค่นอนกับนาย แต่จะเป็นเมีย เป็นแม่ของลูก นายเข้าใจที่บอกไหม” หัวสมองหวังเสี่ยวเกอขาวโพลนไปชั่วขณะ ไฉนเขาจะคิดเรื่องต่างๆ ไปไกลขนาดนั้น “ผมเอ่อ ต้องมีลูกกับอาซ้อ เรื่องนั้น ผมทำได้” “โถ ตอนนี้เอาเป็นว่า เวลาอยู่กันตามลำพัง ขืนยังเรียกฉันว่าอาซ้อ ใครกันจะกล้าจูบ และทำเรื่องที่มันลึกซึ้งกับนาย อีกอย่างเห็นฉันแก่หง่อมขนาดนั้นเลยเหรอ”พอเธอเปิดโอกาส เขาก็สูดลมหายใจลึก แล้วเรียกโจวฟางจื่อ “จื่อจื่อ... ผมเป็นของคุ
“สมองนายถูกควักหายไปหรือยังไง ลูกผู้ชายมันต้องยิ่งใหญ่ คิดโง่ๆ อยากมาทำงานงกๆ ในครัวแบบผู้หญิง นายไม่อายคนอื่นหรือเสี่ยวเกอ!” หญิงสาวตั้งใจใช้คำแรงๆ เข้าไว้เพื่อเตือนสติเขา อีกทั้งอยากปั่นหัวให้เขาเดือดอีกทางหนึ่ง “ไม่ แล้วทำไมต้องอายคนอื่น อีกอย่างผมไม่ทิ้งอาม๊าและอาซ้อไปอย่างต้าเกอแน่นอน” ได้ยินเด็กหนุ่มเอ่ยอย่างนั้น โจวฟางจื่อก็สะเทือนใจ เธอทนทำงานมานาน ดูแลแม่สามี และหวังเสี่ยวเกอ คิดว่าพอเขาเรียนจบ มีการมีงานทำที่ดีๆ คงรับหน้าที่ดูแลแม่สามีต่อไป ส่วนเธออยากสลัดทิ้งอดีตไปใช้ชีวิตใหม่ เธอจะแยกออกไปอยู่ต่างหาก หาบ้านเช่าเล็กๆ ใช้ชีวิตของตนตามเดิมอย่างก่อนที่จะแต่งงานกับหวังต้าเซียนซี และนั่นคือความคิดเดิมของตัวละคร “ไม่มีใครทิ้งฉันไป ต้าเกออย่างไรต้องกลับมา เขารักฉัน!” โจวฟางจื่อกำลังหลอกตัวเอง และน้ำเสียงเธอจงใจทำให้ดูเหมือนว่ามีความหวังเสียเต็มประดา “หึๆ ๆ เชื่อผมสิ ป่านนี้เขาอาจมีเมียมีลูกอยู่ที่อื่น คงไม่สนใจกลับมาดูดำดีดีอาซ้ออีก คนอย่างต้าเกอ มักใหญ่ใฝ่สูง พอได้ดีก็ลืมทุกคน อีกอย่าง เมื่อก่อนอาซ้อขึ้นชื่อว่า มาจาก...ตรอกนางจ้าง*(แหล่งข
สามปีต่อมา โจวฟางจื่อรู้สึกว่าวันนี้เธอทำงานหนัก ลูกค้าแวะมาซื้อของไม่ขาดสาย กระนั้นกว่าจะได้พักก็เกือบสามทุ่มกว่าๆ ร่างกายอ่อนแรง และปวดขาไปหมด ใจคิดว่าอยากอาบน้ำแล้วงีบพักสักหน่อย ช่วงเช้ามืดต้องไปจ่ายตลาด แต่รู้ว่าน้องชายสามี กำลังอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบ จากจุดนี้เธอมองเห็นไฟในห้องเขา ซึ่งรอดออกมาจากช่องหน้าต่าง ที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของบ้านเปิดเอาไว้ เธอจึงรีบล้างเนื้อล้างตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ หยิบถ้วยข้าวผัดไข่ที่ทำไว้ พร้อมน้ำแกงไก่ตุ๋นที่เหลือในชามใหญ่ เธอต้องการเอาไปให้อีกฝ่ายได้กินเพิ่มพลัง เด็กหนุ่มๆ ใช้พลังงานเยอะ ร่างกายหวังเสี่ยวเกอสูงใหญ่วัยเกินวัย เมื่อยืนแล้วเธอสูงเลยหัวไหล่เขาไปเล็กน้อย แน่นอนโจวฟางจื่อไม่ใช่สตรีร่างเล็ก เธอไม่ผอมแห้ง แต่ไม่ถึงกับอวบอัด ทรวดทรงจัดว่าดี ส่วนเว้าส่วนโค้งยั่วยวนบุรุษได้ไม่ยาก แต่พักหลังเธอระมัดระวังการกิน เนื่องจากชอบของหวาน และของมันๆ เป็นพิเศษ เธอไม่อยากปล่อยเนื้อปล่อยตัว การเป็นคนสวย ย่อมสร้างความน่าสนใจให้ผู้พบเห็น และเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้เธอได้เสมอ สวยมีสมองที่ดี เช่นนี้เธอจึงอยู่รอดในโลกที่ท
โจวฟางจื่อเชื่อฟังโดยง่าย เธอลงไปในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ ย่อตัวลงแล้วเริ่มใช้ลิ้นเลียปลายหัวหยักของชายหนุ่ม ปลายลิ้นเล็กๆ สีชมพู แหย่เข้าไปที่ปลายหัวหยักตรงรูที่มีน้ำใสๆ ซึมเออ เธอเคอะเขินก็จริง แต่ดูเหมือนจะชอบที่ได้บริการเขาด้วย พอไล้เลียจนชอบใจ เขาก็ให้เธออ้าปากกว้างๆ แล้วครอบริมฝีปากลงไปจมมิดลำ จากนั้นมือใหญ่จับศีรษะหญิงสาวโยกเข้าโยกออก ด้วยความเสียวซ่านจับใจ “อาจื่อ เธอมันยอดเยี่ยมสมราคาที่อั๊วซื้อมาจริงๆ” เขาว่าและครางอย่างมีความสุข ส่วนโจงฟางจื่อได้แต่ทำตามที่ใจเขาต้องการ ขณะเดียวกันคนที่แอบดูอยู่ใจเตลิดไปไกล ร่างกายร้อนรุ่ม พี่ชายเขาเป็นพวกมากตัณหา ส่วนพี่สะใภ้คือคนที่ต้องรองรับอารมณ์หื่นโหดอย่างไม่อาจต่อต้าน ถึงอย่างนั้นหวังเสี่ยวเกอก็ชอบใจ เขาเห็นว่าเธอไม่ขัดขืน ทั้งตัวสั่นนิดๆ ผิวเนื้อขาวๆ เป็นรอยแดงระเรื่อ เขาก็อยากมีโอกาสปลดปล่อยความสุขเช่นนั้นกับโจวฟางจื่อบ้าง และจากห้องน้ำใหญ่ ทั้งคู่ล้างเนื้อล้างตัว แล้วกลับเข้าห้อง แต่แทนที่จะเตรียมตัวไปทำงาน หวังต้าเซียนซี ที่ยังมีอารมณ์อยู่ก็กระชากเสื้อผ้าโจวฟางจื่อออก แล้วจับเธอให้คว่ำห
แอคเค่อสาวฮอตปรอทแตกชื่อดัง ทะลุมิติมาอยู่ในนิยายเรื่อง ‘ตำนานรักหม้ายสาวหัวใจแกร่ง’ ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยรับบท โจวฟางจื่อ ซึ่งสามีหายสาบสูญ ทิ้งให้เธอดูแลแม่ของเขาซึ่งป่วยเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น เขามีน้องรองที่เอาแต่ใจใช้ชีวิตเหลวแหลก และช็อคยิ่งกว่าก็คือ อาตี๋เล็กสุดหล่อล่ำคลั่งรักเธอ และวันนี้ เธอพอแล้วสำหรับความเฮงซวย ที่ต้องเล่นบทนางเอกเจ้าน้ำตา จากนี้เธอจะเปลี่ยนบทและชีวิตอย่างคุ้มค่า พร้อมบริหารความสวยหมวยเอ็กซ์ให้ซู่ซ่า แบบที่โลกนี้ต้องจำ ฮึ ก็แค่ขึ้นควบขี่มังกรสองลำ ถ้าเพิ่มเป็นสามสี่ห้าลำอวบๆ เมื่อไหร่ ค่อยกล่าวหาเธอร่านสวาท แบบนั้นถึงจะยอมรับแต่โดยดี ตัวละครในเรื่องสะใภ้ใหญ่บ้านหวัง โจวฟางจื่อ อายุ 25 ตัวเอกของเรื่อง (ชื่อเดิมลู่หราน แอคเค่อสาวพราวเสน่ห์)หวังต้าเซียนซี (ต้าเกอ) สามีที่หายตัวไปอย่างเงียบๆหวังเจ๋อหยวน นักแสดงสมบท น้องรองบ้านหวังหวังเสี่ยวเกอ ไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับใครในบ้านซ่งถิง แม่สามีป่วยความจำหลงๆ ลืมๆไป๋อี้ถง เด็กสาวข้างบ้าน ถงถง (ชื่อเล่น)เมิ่งเหยา มารดาถงถง*************************ทั้งที