กลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นไปในอากาศทั้งบ้านตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นควันจนทำให้หายใจไม่ออกบ้านหลังนี้เต็มไปด้วยวัตถุไวไฟ มันกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีโดยเฉพาะภาพเขียนที่มีอยู่เป็นกองเปลวเพลิงลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ลูน่าไม่มีเวลาจะมาคิดว่าใครต้องการปลิดชีวิตเธอ รู้แค่ว่าต้องรอด! อย่างน้อยเนลลี่ก็ต้องรอด! เธอจัดการห่อตัวเนลลี่ไว้ด้วยผ้าเช็ดตัวชุบน้ำจนชุ่มลูน่าเจอเชือกอยู่ในห้องจึงคว้ามันมาผูกเข้ากับตัวลูกน้อย “หนูยังจำทักษะการเอาตัวรอดที่คุณลุงมัลคอล์มสอนเมื่อครั้งล่าสุดได้ไหม?”“จำได้ค่ะ” เนลลี่กอดลูน่าไว้ด้วยดวงตาที่เอ่อไปด้วยน้ำสีใส “แต่คุณแม่คะ ถ้าเราไม่ไปด้วยกันหนูขอยอมตายด้วยกันเสียยังดีกว่า หนูไม่อยากรอดไปคนเดียว!”“ฟังแม่นะเนลลี่ แม่จะหาวิธีตามลูกออกไปแน่นอน”ลูน่าสูดลมหายใจลึกรวบรวมสติแล้วกล่าว “ยังมีคนอยู่ข้างนอกนั่น แม่จะหย่อนหนูลงไปจากหน้าต่างตรงนี้ ที่ชั้นสามข้างล่างมีคู่รักสูงอายุอยู่ แม่จะหย่อนหนูลงไปตรงระเบียงห้องนั้น ให้พวกเขาพาหนูเข้าไปข้างใน จากนั้นติดต่อพี่ชายของลูกแล้วโทรหาตำรวจ จำไว้ให้ดีว่าก่อนที่ตำรวจจะมาถึงห้ามไปไหน ให้อยู่แต่ในบ้านของพวกเขา เข้าใจไหม?”ลูน่ากลั
มีเพียงภาพในความฝันเท่านั้นที่ลูน่าจะได้เห็นความห่วงใยและความอ่อนโยนของผู้ชายที่ชื่อโจชัวลูน่ามอบหัวใจให้โจชัวมาเป็นเวลาหลายปี แต่เขาไม่เคยตอบรับความรักจากเธอเลยสักครั้งแต่ถึงอย่างนั้นในความฝันนี้เธอก็สัมผัสได้ถึงความรักและความห่วงใยอย่างที่เธอเคยต้องการ “คุณจะไม่เป็นอะไร”ลูน่าอยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น แต่เธอยังพอหลงเหลือสติพอให้ได้ยินเสียงทุ้มต่ำที่พร่ำบอกประโยคหนึ่งดังก้องอยู่ในหัวซ้ำไปซ้ำมาลูน่ายิ้มอย่างขมขื่น จะดีแค่ไหนหากเธอตกอยู่ในห้วงความฝันนี้ต่อไปโดยไม่ตื่นขึ้นมาอีก...…ลูน่าตื่นขึ้นในเช้าวันถัดมา เธอค่อย ๆ เปิดเปลือกตาอันหนักอึ้งจากการหลับใหลเป็นเวลานาน เมื่อได้สติจมูกก็พลันตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นยาฆ่าเชื้อคิ้วสวยขมวดมุ่นในขณะที่ลืมตาด้วยความยากลำบาก เธอพยายามฝืนตัวเองให้ลืมตาตื่นตอนนี้เธออยู่ในโรงพยาบาลและอยู่ในห้องไอซียูมีอีกคนอยู่ในห้องกับเธอ เป็นผู้ชาย เขาสวมหน้ากากออกซิเจนอยู่และนอนอยู่บนเตียงข้าง ๆ ในตอนนี้ดวงตาลึกล้ำนั่นปิดอยู่เผยให้เห็นคิ้วเรียวคมสวยได้รูปและแพขนตายาวแสงแดดยามเช้าสาดส่องลอดผ่านหน้าต่างตกกระทบใบหน้าเย็นชาแข็งกระด้างให้ดูอ่อนลงโจชั
ลูน่าถูกเข็นกลับเข้ามาในห้องไอซียูอีกครั้งห้องไอซียูนี้เต็มไปด้วยหมอ ชายหนุ่มในชุดคลุมของโรงพยาบาลกำลังนอนอยู่บนเตียงด้วยท่าทีอ่อนแรง แววตาของเขาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง“พาเธอมาหาผม!”แม้ว่าน้ำเสียงเขาจะอ่อนแรงแต่กลับหนักแน่นและทรงพลังจนคนได้ยินแทบจะหายใจไม่ออกลูน่าค่อย ๆ ก้าวขาลงจากเตียงโดยมีพยาบาลคอยช่วยประคอง เธอเดินเข้าไปหาอีกคนช้า ๆ “ถามหาฉันเหรอคะ คุณลินช์?” เสียงของลูน่าทำให้โจชัวคิ้วกระตุกเขาหันกลับมามองเธอด้วยแววตาเย็นชาราวกับยอดน้ำแข็งที่เสียดแทงทะลุผู้ที่ได้มอง“เธอคือคนที่พูดกับฉันเมื่อกี้นี้เหรอ?”“ใช่ค่ะ”“ที่พูดแบบนั้นหมายความว่ายังไง?” แววตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธจนไฟแทบปะทุ “รู้หรือไงว่าลูน่า กิบสันอยู่ที่ไหน?”ลูน่ายกมือขึ้นกอดอกพลางมองใบหน้าแสนเย็นชาของชายหนุ่มอย่างไม่ใส่ใจ “ฉันไม่รู้ ก็แค่พูดไปอย่างนั้น คุณจะได้ตื่นเสียที”คิ้วสวยเลิกขึ้นพลางกล่าวต่ออย่างพอใจ “ดูเหมือนจะได้ผลดีเลยทีเดียว”“เธอ…!”โจชัวลงมาจากเตียงทันที เข็มที่ปักอยู่บนร่างของเขาถูกดึงกระชากออกอย่างแรงจนเลือดพุ่งกระฉูดไปทั่ว อุปกรณ์การรักษาที่เชื่อมต่อกับตัวเขาไว้พลันหล่นลงพื้นล้มระ
ลูน่ายิ้มให้พยาบาลสาวเล็กน้อยก่อนจะกลับมาที่เตียงแล้วถูกเข็นออกจากห้องไอซียู“ใช่ค่ะ” เธอถอนหายใจแล้วกล่าวเสริม “ฉันเคยได้ยินมานานแล้วว่าคุณลินช์ยังคงรักอดีตภรรยาของเขาอย่างสุดซึ้ง ตอนแรกคิดว่าไม่จริงเพราะสุดท้ายเขาก็หมั้นกับน้องสาวของภรรยาตัวเองหลังจากที่เธอตายไปไม่นาน นั่นมันเรียกว่ารักอย่างสุดซึ้งเสียที่ไหน ใช่ไหมล่ะคะ? แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า... เขาคงรักอดีตภรรยาจริง ๆ”ลูน่านอนเอนหลังพิงหัวเตียงขณะที่เธอฟังพยาบาลสาวพูด เมื่อได้ยินแล้วเธอก็อดยิ้มเยาะไม่ได้หากให้เธอเดานี่คงเป็นภาพลักษณ์ที่โจชัวต้องการให้ทุกคนเห็นว่าเขายังรักลูน่า กิบสันอยู่เต็มหัวใจ เขาโกหกเรื่องนี้มานานจนหลงอยู่ในคำโกหกนั่นเสียเองอีกทั้งยังไม่อนุญาตให้ใครหน้าไหนพูดถึงหรือทำร้ายลูน่า กิบสันอีกทว่าในตอนนั้นเขาเป็นคนเดียวที่ทำร้ายเธอมากที่สุดลูน่าหลับตาลงแล้วถอนหายใจพลางเงยหน้าขึ้น “ฉันหมดสติไปนานแค่ไหนคะ?”“สองวันค่ะ”“มีใครมาหาฉันไหมคะ?”“มีค่ะ” พยาบาลสาวกล่าวตอบขณะที่เธอสับเปลี่ยนสายน้ำเกลือ “มีเด็กผู้ชายและแม่ทูนหัวของเขามาเยี่ยมคุณ”กล่าวจบเธอก็แย้มยิ้มให้ลูน่า “เด็กน้อยหน้าตาดีทีเดียว ถ้ามีลูกสาวฉันก็
“คุณย่าทวดคะ!”เนลลี่กัดริมฝีปาก เธอจับนิ้วของลูน่าไว้ด้วยมือเล็กของเธอ “หนูบอกไปแล้วนี่คะ ว่าหนูต้องการให้คุณน้าเป็นคนดูแลหนูเท่านั้น! ถ้าคุณย่าทวดจะเป็นอย่างนี้ งั้นหนูไม่ชอบคุณย่าทวดแล้ว!”คุณย่าลินช์ลดความเย็นชาของตนเองลงและฝืนยิ้มออกมา “เนลลี่ ย่าบอกแล้วใช่ไหม หนูเป็นเจ้านาย จะไปทำตัวยึดติดกับคนรับใช้มากไม่ได้นะ”จากนั้นเธอก็มองพ่อบ้านอย่างเย็นชา “พาคุณหนูเจ้าหญิงน้อยออกไปเล่นซะสิ ฉันอยากคุยกับคุณลูน่าตามลำพัง”เนลลี่กัดริมฝีปาก เธอรู้ว่าบทสนทนาคงไม่เป็นประโยชน์อะไรมาก ดังนั้นเธอจึงรีบกอดแขนผอมบางของลูน่าไว้ในทันที“ไม่! หนูจะอยู่กับคุณน้า ใครมาแยกเราออกจากกัน หนูจะเกลียดคนคนนั้นตลอดไป!” สีหน้าของคุณย่าลินช์ดูน่าเกลียดน่ากลัวเมื่อเนลลี่พูดแบบนั้นออกมาโดยไม่ระมัดระวังโจชัวไม่ได้สนิทสนมใกล้ชิดกับผู้หญิงคนไหนมาตลอดหลายปีแล้ว คุณย่าลินช์ไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าตัวเองจะได้มีโอกาสเห็นภาพคนทั้งสี่รุ่นพร้อมหน้าพร้อมตากันในตอนนี้อยู่ดี ๆ เหลนของเธอก็โผล่ออกมาอย่างไม่มีที่มาที่ไป คุณย่าลินช์จึงกลัวว่าจะเสียเธอไป ดังนั้นจึงดูแลเนลลี่ราวกับว่าเธอเป็นไข่ในหินถึงเธอจะยอมเนลลี่มาตลอด แต่
“ฉันแค่ชอบเนลลี่”“แค่ชอบเหรอ?” คุณย่าลินช์กล่าวเสียงต่ำอย่างเย็นชา “คงชอบพ่อมากกว่ามั้ง! ตอนที่ฉันไม่รู้ว่ามีเนลลี่อยู่ ฉันไม่รู้เลยว่าเธอชักจูงเก่งขนาดไหน เธอใช้ความรักและความผูกพันของเนลลี่มาอาศัยอยู่ในบลูเบย์วิลล่าอย่างหน้าไม่อาย เธอปลอบเนลลี่ไปด้วย อ่อยโจชัวไปด้วยน่ะสิ ถึงเธอจะมีหน้าสวย ๆ แต่จิตใจโสมมสิ้นดี!”ลูน่าคิดไว้แล้วว่าคุณย่าลินช์จะต้องพูดอย่างนั้น เธอหัวเราะเบา ๆ “คุณย่าลินช์ การคาดเดาของคุณย่าค่อนข้างมีตรรกะนะคะ แต่น่าเสียดายที่มันผิดหมดเลย”จากนั้นสายตาของลูน่าก็สะดุดเข้ากับสร้อยคอของคุณย่าลินช์ “คุณกิบสันมอบของขวัญให้คุณอีกแล้วเหรอคะ?”สร้อยคอครั้งนี้ก็มาจากชุดเดียวกันกับครั้งก่อน และแน่นอนว่าเป็นของปลอมอย่างไม่ต้องสงสัยคุณย่าลินช์กลอกตาอย่างเย็นชาใส่ลูน่า “ออร่าให้ฉันมา หล่อนตาถึงเรื่องพวกนี้มากกว่าเธอ! และที่สำคัญ ออร่าเป็นน้าแท้ ๆ ของเนลลี่ด้วย! เธอเอาชนะเรื่องนี้ไม่ได้หรอก! ถ้าให้ฉันเลือกระหว่างเธอกับออร่า ฉันก็ต้องเลือกออร่าเป็นหลานสะใภ้โดยไม่ลังเลใจแน่!”จากนั้นคุณย่าลินช์ก็ครางเสียงทุ้มต่ำ “สำหรับเธอ เธอควรรู้จักที่ต่ำที่สูง ที่เธอไปบลูเบย์วิลล่าก็เพื่อจง
เมื่อคุณย่าลินช์จากไป เนลลี่ก็รีบวิ่งไปที่ห้องพักผู้ป่วยของลูน่า เธอล็อกประตูและฝังตัวเองไว้ในอ้อมแขนของลูน่าพลางร้องไห้อย่างเศร้าโศก“คุณแม่ หนูไม่อยากแยกจากคุณแม่เลยค่ะ อย่ายอมตกลงกับคุณย่าทวดนะคะ หนูจะหาทางให้คุณแม่อยู่ต่อให้ได้!”ลูน่าส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ “อย่าเสียแรงเปล่าเลย”เธอลูบแก้มของเนลลี่เบา ๆ “สุดท้ายลูกก็ต้องโตขึ้นใช่ไหม?”เนลลี่ร้องไห้โดยไม่พูดอะไร“ไม่ต้องห่วง แม่จะไม่ยอมให้ลูกตกอยู่ในอันตราย อีกไม่กี่วันหลังจากนี้พอเรื่องต่าง ๆ เข้ารูปเข้ารอย ลูกจะได้อยู่กับตระกูลลินช์ได้อย่างปลอดภัย ถึงพ่อของลูกจะมีข้อเสียเยอะ แต่เขาก็ทำดีกับลูก คุณย่าทวดของลูกก็เหมือนกัน แม่เห็นนะว่าท่านรักลูกมาก”เนลลี่กัดปากอย่างไม่พอใจ “ท่านไม่ได้รักหนู! ถ้าท่านรัก ทำไมท่านถึงไม่ยอมให้แม่อยู่กับหนู”“เพราะว่าท่านเป็นผู้ใหญ่ เพราะอย่างนั้นท่านเลยมีเรื่องให้เป็นห่วงเยอะ”ที่จริงลูน่าเข้าใจว่าคุณย่าลินช์คิดอย่างไร ยังไงเนลลี่ก็เป็นลูกรักตระกูลลินช์ ถ้าเธอมายึดติดกับสาวใช้เอามาก ๆ เข้า คนในตระกูลลินช์คงไม่มีใครรับได้“หนูไม่สน หนูแค่ไม่ชอบ” เนลลี่เบ้ปากอย่างไม่พอใจ “ถ้าคุณย่าจะกำจัดแม่ คราว
นีลอายุเพียงหกขวบ แต่เขาพูดจาราวกับคนอายุ 26 ปีลูน่าถอนหายใจแผ่วเบาและตอบกลับ ‘แม่ตัดสินใจจะออกจากบลูเบย์วิลล่า หลังจากงานวันเกิดคุณย่าลินช์นะ’‘จะทิ้งเนลลี่ไว้คนเดียวเหรอครับ’‘ใช่’‘งั้นเราต้องจัดการกับออร่า กิบสันก่อน’นีลรีบตอบกลับไปว่า ‘ผมให้แซครวบรวมหลักฐานสำคัญ ถึงคนเลวนั่นจะไม่ทำอะไร แต่ผมจะเอาหลักฐานพวกนี้ไปให้ตำรวจ ออร่าต้องติดคุกอย่างน้อยสองถึงสามปี’ลูน่าถอนหายใจ ลูกชายของเธอเป็นผู้ใหญ่และเข้าใจทุกอย่างมาเสมอ ‘ช่วงสองสามวันนี้ลูกต้องปลอบเนลลี่ เธอไม่อยากให้แม่ไป ในเมื่อลูกเป็นคนแนะนำให้เธอกลับไปหาโจชัว ลูกก็ควรรับผิดชอบเรื่องนี้’นีลเงียบอยู่นานก่อนที่สุดท้ายเขาจะพูดว่าแอนน์กลับบ้านมาแล้วเพื่อยุติบทสนทนาหลังจากผ่านไปนาน โทรศัพท์ของลูน่าก็ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เป็นข้อความจากไนเจล‘แม่ครับ ผมจะจัดการเรื่องเนลลี่เอง ยังไงเธอก็ฟังผมมากที่สุด แม่จัดการเรื่องออร่ากับนีลไปเถอะครับ’ไนเจลแทบจะไม่เคยส่งข้อความหาลูน่าเลย เมื่อเห็นข้อความเธอก็ถอนหายใจออกมา‘ขอบคุณนะ’‘ไม่เป็นไรครับ’ไนเจลถอนหายใจ‘แม่ครับ ผมไม่สนใจหรอกว่าตัวเองจะอยู่ได้อีกกี่ปี แต่ผมเป็นห่วงแม่นะ แล