“ครับ ไปที่อื่นกัน…” ก่อนที่เฉินเฟิงจะได้เสนอโรงงานอื่นขึ้นมาอีก พลันใบหูก็กระตุกสองสามครั้ง เนื่องจากได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวบางอย่าง ซึ่งคิดว่าคุณหมอเองก็น่าจะได้ยินเช่นกัน
เพล้ง!!
เสียงกระจกแตกดังสนั่นไปทั่วบริเวณ นิโคลัสรีบหันไปมองทางต้นเสียงซึ่งเป็นอาคารขนาดเล็กข้าง ๆ กับโกดังเก็บสินค้า
“ชะ ช่วยด้วย! “ เป็นชายคนหนึ่งในชุดพนักงานของโรงงานแห่งนี้ที่พุ่งตัวออกมาจากอาคารนั้นทางหน้าต่าง ใบหน้ามีร่องรอยหวาดกลัวชัดเจน สายตามองสอดส่องซ้ายขวาทันเห็นชายหนุ่มสองคนอยู่ไม่ไกลและคงไม่ใช่ซอมบี้
“ช่วยด้วย! “ ครั้งนี้เป็นเสียงตะโกน พนักงานโรงงานรีบวิ่งมาทางชายหนุ่มทั้งสองทันที
นิโคลัสเอื้อมมือไปรั้งให้เจ้ากระต่ายมาหลบด้านหลังตน
ยิ่งระยะทางระหว่างพวกเขาใกล้กันมากเท่าไร ใบหน้าที่เคยหวาดกลัวก็เริ่มมีรอยยิ้ม
“ได้โปรดช่วยผมด้วย! “ ทั้งหูสัตว์บนศีรษะและเสื้อผ้าทหาร
รอดแล้ว!
คนพวกนี้ต้องเป็นทีมช่วยเหลือที่ทางการส่งมาแน่ ๆ เขารอดจากเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นแล…
ฉับ!
เสียงโลหะหนักแทงลึกเข้าไปในผิวหนังดังสะท้อนให้มนุษย์ทั้งสามคนได้ยินอย่างชัดเจน โดยเฉพาะชายในชุดพนักงานโรงงาน
ดวงตาที่เคยฉายแววยินดีเบิกค้าง กว่าจะรู้ตัวว่าศีรษะของตนไม่ได้ตั้งอยู่บนบ่าอีกก็คงหลังจากกลายเป็นวิญญาณไปแล้ว
เฉินเฟิงมองภาพนั้นอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา เขาได้ยินเพียงเสียงลมหวีดหวิว รู้ตัวอีกทีชายผู้โชคร้ายคนนั้นก็ไร้ลมหายใจไปต่อหน้าต่อตาโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่…
ในขณะที่เจ้ากระต่ายยังประมวลไม่ทัน สัญชาตญาณสัตว์นักล่าในตัวของแพทย์หนุ่มก็เตือนภัยไม่หยุด มันร้องบอกให้เขาหนีออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด
กรรซ์
เสียงคำรามในลำคอเฉกเช่นเดียวกับซอมบี้ดังขึ้นด้านหลังศพของพนักงานชาย
“เด็ก! “ เฉินเฟิงยกมือปิดปากไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น
ตรงหน้าของพวกเขาคือซอมบี้เด็ก คะเนจากความสูงแล้วคงอายุ 1-2 ขวบเท่านั้น ร่างกายไม่มีบาดแผลจากการถูกทำร้าย ถ้าอย่างนั้นก็คงกลายพันธุ์เป็นซอมบี้ด้วยตนเอง
เสื้อผ้าที่ใส่ยังคงเป็นชุดลายการ์ตูนยอดฮิตสำหรับเด็กที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดสีดำ ดวงตาขึ้นฝ้าขาวซีดจ้องเขม็งมาที่พวกเขาไม่วางตา แต่มือเล็กคู่นั้นก็ยังคงไม่หยุดควักเนื้อจากชายผู้โชคร้ายใส่เข้าปากทำให้ริมฝีปากถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉาน จับจ้องราวกับว่าพวกเขาจะกลายเป็นมื้ออาหารถัดไป
เขารู้ว่ามันมองไม่เห็นแต่คงสัมผัสจากกลิ่นในอากาศได้ว่าพวกเขาอยู่ทิศทางนี้ แม้ว่าจะไม่มีเสียงการเคลื่อนไหวเลยก็ตาม
“ถ้าผมให้สัญญาณแล้วเตรียมวิ่งเลยนะ” นิโคลัสกระซิบบอกคนด้านหลัง
“...” เฉินเฟิงพยักหน้า เขาเองก็รู้สึกไม่ต่างกันว่าซอมบี้ตรงหน้าจัดการไม่ง่ายเหมือนที่ผ่านมา ขนาดชายคนนั้นวิ่งห่างจากโกดังมาตั้งหลายสิบเมตรยังโดนฆ่าโดยที่พวกเขาไม่ทันรู้ตัว
ศพซอมบี้หน้าโกดังก็คงเป็นเจ้าหนูคนนี้ที่กัดกินเป็นอาหารจนวิวัฒนาการมาไกลเกินกว่าที่พวกเขาจะรับมือได้
นิโคลัสค่อย ๆ ก้าวถอยหลังไม่ให้ซอมบี้เด็กรู้ตัว กระต่ายหนุ่มเองก็พยายามก้าวเท้าให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่การกระทำของทั้งสองคนกลับกลายเป็นการระบุตำแหน่งที่ชัดเจนให้กับผู้ล่า
ซอมบี้เด็กผละออกจากอาหารมื้อหลัก จากนั้นก้มตัวลงย่อขาหลังจนติดพื้นแล้วกระโดดสุดแรง
“ชิ!”
แพทย์ทหารสบถ ตัดสินใจยกตัวเฉินเฟิงแบกขึ้นบ่าพาวิ่งกลับไปทางเดิมทันที ยังดีที่มันต้องกระโดดเพิ่มอีกสองครั้งจึงจะมาถึงจุดที่พวกเขาเคยยืนอยู่ ทำให้ระยะห่างระหว่างซอมบี้และพวกเขาไกลกันพอสมควร
“มันใกล้เข้ามาแล้ว” เจ้ากระต่ายผงกศีรษะขึ้นมาเป็นตาหลังให้ เห็นซอมบี้ตัวเล็กแต่แรงกระโดดกลับมหาศาล
การวิวัฒนาการน่ากลัวเกินไปแล้ว!!
เฉินเฟิงอยากจะน้ำตาตกในให้กับดวงของตนเองยิ่งนัก เมื่อวานก็เจอซอมบี้วิวัฒนาการ มาวันนี้ก็เจออีก!! อยากจะร้องถามสวรรค์เหลือเกิน
คือไม่อยากให้เขามีชีวิตรอดแล้วใช่หรือไม่?
เสียงฝีเท้ากำลังห่างไกลออกไป ซอมบี้เด็กเริ่มไม่ได้กลิ่นอันหอมหวานของเนื้อหนังแล้ว คิ้วเล็กขมวดเข้าหากัน การกระโดดของมันหยุดชะงัก เฉินเฟิงที่เห็นเช่นนั้นก็เผลอคิดไปว่ามันถอดใจกลับไปหาอาหารเดิมที่ยังกินไม่หมด
รอดแล้วหรือ?
“ทำไมเสียงมันเงียบไป” นิโคลัสยังคงวิ่งไม่หยุด อีกนิดเดียวก็จะถึงประตูทางเข้าของโรงงาน บริเวณนั้นมีซอมบี้อยู่ด้วยจำนวนหนึ่ง ถ้าเขาหลบหลีกให้พ้นแทนการฆ่าทิ้งอาจจะพอทำให้การเคลื่อนไหวของซอมบี้เด็กด้านหลังล่าช้าลงบ้าง แต่อยู่ ๆ เขาก็ไม่ได้ยินเสียงกระโดดของมันอีก
“มันหยุดอยู่กับที่” เฉินเฟิงบอก สายตายังคงไม่ละจากร่างเล็ก ซอมบี้เด็กตนนั้นค่อย ๆ ย่อตัวลงคล้ายกับตอนกระโดด แต่กลับนิ่งอยู่ในท่านั้นนานผิดปกติ
ลางสังหรณ์เขากำลังกู่ร้อง หัวใจเต้นตุบตับด้วยความตระหนก
บางอย่างกำลังมา
กำลังจะมีบางอย่างเกิดขึ้น!
“แต่ผมว่ามันไม่น่าไว้ใจ...”ไม่ทันขาดคำ ร่างของซอมบี้เด็กก็หายไปจากครรลองสายตา แล้วก็มีเสียงของหนักตกกระแทกพื้นดังสนั่นตูม!!จากระยะทางเกือบสองกิโลเมตร เด็กนี่สามารถร่นมาได้เกินครึ่งภายในการกระโดดครั้งเดียวWTF!นี่มันเชี่ยอะไรวะ!ช่วยเหลือทางรอดไว้ให้มนุษยชาติบ้างเถอะ!!“เหวอ!” เฉินเฟิงถึงกับร้องออกมาเสียงดังเมื่อร่างกายของตนกำลังลอยละลิ่วอยู่ในอากาศ เดี๋ยว ๆ ๆ !!! เกิดอะไรขึ้น! คุณหมีกริซลี่เขวี้ยงเขางั้นเหรอ!เคร้ง!เจ้ากระต่ายถูกจับโยนขึ้นมาบนหลังคาของโรงงาน ร่างโปร่งตกกระแทกอย่างแรงเพราะมัวแต่งุนงงกับสถานการณ์จนลืมหาวิธีแลนดิ้ง พอตั้งตัวได้ก็รีบคลานไปดูว่านิโคลัสเป็นอย่างไรบ้างภาพที่เฉินเฟิงเห็นคือแพทย์ทหารหนุ่มหมุนตัววิ่งกลับเข้าไปหาซอมบี้เด็กตนนั้น สองมือกระชับมีดสั้นไว้คนละข้างซอมบี้เด็กหยุดการเคลื่อนไหวกลางคัน เปลี่ยนเป็นพุ่งเข้าใส่หมายจะคว้าเหยื่อของมันไว้ด้วยพละกำลังและแรงส่งจากการกระโดดนิโคลัสรอจังหวะนี้อยู่แล้ว ชายหนุ่มเอี้ยวตัวหลบภายในเสี้ยววิก่อนซอมบี้เด็กจะมาถึงตัว ก่อนใช้เข่ากระแทกกลางร่าง ส่งผลให้มันลอยกลับไปทางโกดังเก็บสินค้าไม่รอให้มันตั้งตัวได้ทัน แพทย์ทหารเก
นิโคลัสปล่อยให้เจ้ากระต่ายอาเจียนอาหารเช้าให้เต็มที่ ส่วนเขาที่เรี่ยวแรงพอจะกลับมาบ้างแล้วก็เดินสำรวจรอบ ๆ ก่อน แม้ว่าบอสประจำโกดังนี้จะถูกเขาจัดการไปแล้ว แต่ก็ไม่แน่ว่าอาจจะมีตัวต่อไปเดินสำรวจวนกลับมาถึงด้านหน้าก็เห็นเฉินเฟิงกำลังพยายามใช้ขวานลากศพออกมากองนอกโกดัง“กำลังทำอะไรน่ะ” แพทย์หนุ่มถาม“ผมอยากเข้าไปดูด้านในว่าพวกอาหารกระป๋องยังมีสภาพดีอยู่หรือเปล่า” เพราะมีศพซอมบี้และคนอยู่เพียงด้านหน้าประตูโกดัง ไม่แน่ว่าตรงส่วนที่เก็บสินค้าอาจจะยังมีสภาพที่ดี“มา ผมช่วย”“คุณโอเคแล้วเหรอ” หมายถึงสภาพร่างกาย“แค่เหนื่อยนิดหน่อย” นิโคลัสยักไหล่ ไม่ยี่หระกับอาการอยากนอนแผ่ร่างกายบนพื้นของตน คนที่อาเจียนไปแล้วรอบหนึ่งต่างหากที่น่าเป็นห่วงกว่าหมีกระต่ายช่วยกันขนย้ายศพออกจากประตูทางเข้า แต่ไม่ได้นำออกไปทั้งหมด แค่พอมีทางให้พวกเขาเข้าไปด้านในก็พอเฉินเฟิงต้องพยายามอย่างมากที่จะไม่อาเจียนทุกครั้งที่เห็นเนื้อเน่าพวกนั้นมีหนอนแมลงชอนไช หรือแม้แต่เครื่องในที่กองอยู่บนพื้นทำไมไม่กินให้หมดเนี่ยเจ้าซอมบี้เด็ก! กินอย่างนี้ตอนเป็นคนแม่ไม่ตีหรือไง กินทิ้งกินขว้างลำบากคนเก็บกวาดนะรู้ไหม!!หรือเด็กนั่นจะช
เจ้ากระต่ายมัวแต่เงยหน้ามองป้ายรายการบนชั้นวางสินค้าจนลืมดูว่าตรงทางเท้านั้นมีกองหินสีขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียววางกองเอาไว้อยู่ จนกระทั่งเท้าไปเตะโดนจนมันกลิ้งกระจายไปคนละทิศส่งเสียงแกรก ๆ ดังสะท้อนไปมาอะไร…?ชายหนุ่มนั่งลงมองสิ่งที่อยู่บนพื้น นิ้วเรียวหยิบเม็ดหนึ่งขึ้นมาดูลักษณะเป็นก้อนกลม ๆ สีใสเหมือนลูกแก้ว แต่มีขนาดเล็กเท่าเมล็ดถั่วเขียว“อะไร” นิโคลัสเห็นอีกคนนั่งยอง ๆ ดูบางอย่างอยู่จึงเข้ามาสมทบ“ผมเจอนี่ครับ” ยื่นลูกแก้วปริศนาให้อีกฝ่ายดู “มันกองรวมกันอยู่ตรงนี้ ผมมัวแต่เดินดูของบนชั้นเลยไม่ทันสังเกต รู้ตัวอีกทีก็เตะมันกระจาย”“...” นิโคลัสเพ่งมองครู่หนึ่งก็ไม่เห็นอะไรผิดปกติ “ของพนักงานในโรงงานหรือเปล่า”“ไม่รู้สิครับ แต่ไม่น่าใช่นะ เอามากองไว้ตรงนี้เกะกะรถโฟล์คลิฟต์กันพอดี แต่กลิ่นมันไม่ดีเลยนะครับ” เฉินเฟิงย่นจมูก แค่ถือไว้ก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าเหมือนซากศพด้านนอกเลย!!!กลิ่นเหม็นเหมือนซากศพด้านนอก!นิโคลัสเองก็เหมือนจะฉุกใจคิดบางอย่างขึ้นมาได้ รีบผลุนผลันออกไปด้านหน้าโกดัง เจ้ากระต่ายวิ่งตามไป รู้ว่าชายหนุ่มกำลังจะทำอะไรชายหนุ่มวิ่งมาถึงศพของซอมบี้เด็กตัวที่เขาเพิ่งฆ่าไป มันยัง
“อย่าให้ขาชิด ไม่อย่างนั้นสมดุลของร่างกายจะเสีย” กลับเข้าสู่บทบาทลูกศิษย์อาจารย์อีกครั้ง“ผมคิดว่าอาจจะต้องมองหาอาวุธใหม่ในอนาคตแล้วล่ะ” ใช้ขวานนี่ไม่ถนัดมือเลย ทั้งยาวแล้วก็เทอะทะ “มีดสั้นอย่างคุณก็พกพาง่ายดี” จะหมุนเปลี่ยนมุมก็ง่าย ดีเท่าไรที่กำลังเขามีมากกว่าเดิม ไม่อย่างนั้นแค่เหวี่ยงขวานสองสามครั้งก็หอบแล้ว“งั้นผมให้คุณลองใช้ดู” นิโคลัสโยนมีดสั้นของตนให้ ประจวบเหมาะกับซอมบี้ตัวที่เฉินเฟิงติดพันอยู่ถูกฟันคอขาดพอดี เจ้ากระต่ายโยนขวานไปด้านข้างแล้วคว้ามีดที่ลอยอยู่กลางอากาศน้ำหนักที่เบาหวิวและด้ามมีดที่พอดีมือทำให้เจ้ากระต่ายรู้สึกพอใจลึก ๆ‘เหมาะมือเลย ในตัวตลาดของจังหวัดจะมีร้านพวกนี้ขายบ้างหรือเปล่านะ คงต้องหาเวลาเข้าเมืองดูสักครั้ง’ไม่ใช่แค่อาหารเพียงอย่างเดียว เจ้ากระต่ายมีความคิดว่าจะลงจากเขาเพื่อเข้าเมืองไปเสี่ยงดวง เสื้อผ้าเองก็เป็นปัจจัยสำคัญรองลงมาจากอาหาร เสื้อผ้าที่สวมอยู่นี่คือตัวที่ใส่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนหนีตายออกจากบ้านหลังเดิม อีกอย่างบ้านเขามีผู้หญิงอาศัยอยู่ เชื่อว่าดาริณีจำเป็นต้องใช้ผ้าอนามัยแน่นอน ถ้าไปหามาสักสองสามแพ็กคงพออยู่ได้หลายเดือน แล้วถ้าโชคดีอาจได้อ
“งั้นเราต้องแยกกันตรงนี้ใช่หรือเปล่า” โจเซฟเอ่ยทำลายความเงียบ เลือกคุยกับสมาชิกชั่วคราวแทน“ครับ” เจ้ากระต่ายพยักหน้า “จริงสิ ก่อนกลับผมขอฝากสิ่งนี้ไว้ให้พวกคุณนำกลับไปตรวจสอบด้วยสิครับ ซอมบี้ที่พวกเราเจอในโรงงานปลากระป๋องสะสมมันไว้ มันอยู่ในสมองของซอมบี้ที่มีการวิวัฒนาการขึ้นมาหนึ่งระดับ” เฉินเฟิงนำลูกแก้วสีใสออกมายื่นให้โจเซฟ ส่วนลูกแก้วสีเหลืองที่ได้มาจากซอมบี้เด็กอยู่กับคุณหมอหมี“อะไรเนี่ย” โจเซฟรับมาดู แต่ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็เหมือนลูกแก้วที่อยู่ในกระป๋องสีสเปรย์ ตอนเป็นเด็กเขาเคยใช้หินทุบกระป๋องเพื่อนำลูกแก้วออกมาเล่นกับเพื่อน“เห็นว่าพวกคุณมีนักวิจัยก็เลยอยากให้ลองเอาไปตรวจสอบดูน่ะครับ เผื่อว่าจะมีประโยชน์ในอนาคต” แต่เขาก็แอบเก็บส่วนหนึ่งไว้ในกระเป๋าของตัวเองด้วยเหมือนกัน“ไอ้นี่อะนะอยู่ในสมองซอมบี้” หงส์ทำหน้ารับไม่ได้“กลิ่นเหม็นน่าดู” ตุ่นย่นจมูก ซึ่งในจุดนี้เขาก็เห็นด้วย ถ้าต้องนำมาใช้คงต้องถูกล้างด้วยน้ำลอยดอกไม้กันเลยทีเดียว“น่าสนใจนะครับ ถ้าเป็นในนิยาย ของพวกนี้มักใช้เพิ่มพลังหรือไม่ก็เพิ่มระดับให้กับมนุษย์ที่กลายพันธุ์” ทีโอเสริม“ใช่ไหมครับ ผมกับคุณนิคก็คิดถึงข้อนี้เหมื
“โห กลิ่นเหม็นกว่าที่คิดเยอะเลย กองซากตรงนี้คือน่าขยะแขยงมาก” หงส์ยกมือปิดจมูก ตอนที่เฉินเฟิงเล่าก็จินตนาการไว้บ้าง พอได้เห็นของจริงกลับเกินกว่าที่คิดไว้ไปไกลโข ไปทำภารกิจมากี่ที่ก็ไม่เคยเจอที่ไหนสาหัสเท่ากับที่นี่เลย“นี่คือซอมบี้เด็กตนนั้นสินะ” โจเซฟยืนพิจารณาศพซอมบี้ เป็นเด็กอายุประมาณหนึ่งถึงสองขวบจริง ๆ ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นลูกของพนักงานที่ตามติดพ่อแม่มาอยู่เวรก็เป็นได้ ชายหนุ่มมองร่องรอยการต่อสู้ก็พอรู้ว่านิโคลัสคงทุ่มสุดตัว ไม่น่าเชื่อว่าพื้นคอนกรีตที่แตกละเอียดตรงนี้จะเป็นฝีมือของซอมบี้ที่ส่วนสูงเท่าเข่าของเขาน่ากลัวเกินไปแล้ว…“หัวหน้า!” หงส์ร้องเตือน อยู่ ๆ ขนหลังคอก็ลุกชันจนหญิงสาวสะดุ้ง ร้องเรียกโจเซฟดังลั่น “มีบางอย่างกำลังมา!!”“เสียงรถ” ตุ่นเองก็ได้ยินเสียงรถยนต์จากทางหน้านิคมในเขตนี้เช่นกัน ทหารที่รับภารกิจนี้เหมือนกันหรือคนจากฐานอื่น?เฉินเฟิงนิ่งฟัง เขาเป็นคนสุดท้ายที่รู้ตัวว่ากำลังมีคนมา ดูเหมือนระยะการได้ยินของเขาจะยังพัฒนาไม่เท่ากับตุ่น ไม่รู้ว่าทหารหนุ่มได้ยินไกลแค่ไหน“เอาไงดี” ทีโอ“กำลังมุ่งตรงมาทางนี้” ตุ่นช่วยบอกทิศทางเพื่อให้หัวหน้าตัดสินใจอีกแรง“ซ่อนตัวก่อน”
“ว่าไง ตุ่นเพื่อนรัก” เอที่สัมผัสได้ว่าเพื่อนเป็นเพื่อนตายของเขาอยู่บริเวณนี้ก็ร้องทักเสียงดัง ไม่ยี่หระต่อซอมบี้ที่เริ่มเดินโขยกเขยกเข้ามาเพราะเสียงของตนส่วนลูกทีมอีกสิบชีวิตก็พากันหัวเราะครื้นเครงอย่างเห็นเป็นเรื่องสนุก“ออกไปเหม็นหน้ามันก่อนแล้วกัน” โจเซฟถอนหายใจเสียงดัง ซ่อนตัวต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ แต่ก็ไม่ได้ออกห่างจากโกดังมากนัก เผื่อมีเหตุไม่คาดฝันจะได้หนีไปตามแผนเดิมที่คิดไว้ “ทีโอ อย่าลืมปิดล็อกโกดังนี้ด้วยนะ” ก่อนจะหันไปสั่งลูกทีม ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับ ใช้มือข้างหนึ่งสัมผัสกับส่วนที่เป็นโลหะของโกดังฉับพลันตัวน็อตที่เคยหมุนอยู่ในเกลียวก็ดันตัวออกแล้วโค้งงอจนล็อกมุมประตูไว้อย่างแน่นหนา“คุณหลบออกไปเถอะ” นิโคลัสกระซิบเตือน หลังจากนี้เขาพอจะเดาความคิดของหัวหน้าตนเองได้ จึงอยากให้ชายหนุ่มหนีไปอยู่ในที่ปลอดภัย“แล้วพวกคุณ…”“ตรงนี้พวกเราจัดการได้ คุณไปเถอะ” คุณหมอประจำกลุ่มยืนยันเฉินเฟิงมีสีหน้าลังเล สุดท้ายก็ยอมเดินไปทางบ่อบำบัดน้ำเสียเพื่อให้หลุดไปยังป่าอ้อยด้านหลังนิโคลัสมองส่งจนกระทั่งไม่เห็นแผ่นหลังของชายหนุ่มแล้ว จากนั้นค่อยออกมารวมตัวกับเพื่อนร่วมทีม“งานยากเลยล่ะ” เจ
แล้วมาทำไมก็น่าจะรู้ว่าที่ห้องเหลือเขาแค่คนเดียว‘ผมมาหาพี่นั่นแหละ’ เสียงทุ้มหวานที่แมทชอบอวยนักหนาพูดกับเขา ริมฝีปากอิ่มประดับรอยยิ้มบางเบา‘มีธุระอะไร’ นิโคลัสหันไปประจันหน้า ไม่ยอมเปิดประตูห้องให้เข้าไปด้านในโดยง่าย ยืนคุยมันหน้าประตูนี่แหละ เผื่อใครผ่านไปผ่านมาจะได้ไม่เอาไปฟ้องรูมเมตว่าเขากับแฟนมันอยู่ด้วยกันสองต่อสอง‘พี่จะไม่ให้ผมเข้าห้องหน่อยเหรอ’ ไอซ์เงยหน้าจ้องตาคนตัวสูงกว่า ใช้สายตาออดอ้อนอย่างที่ชอบใช้ประจำกับพวกเหยื่อตัวน้อย ๆ ที่ผ่านมา ต่างก็ตรงที่กับชายหนุ่มคนนี้เขาจริงจัง ไม่คิดว่าการหาคู่นอนเป็นทหารแลกเปลี่ยนจะทำให้เขาได้มาพบกับคนที่สามารถกระตุกหัวใจของเขาได้...อยากได้...อยากให้ครอบครอง‘พูดธุระออกมา’ นิโคลัสกดเสียงต่ำให้รู้ว่าไม่พอใจมากเพราะเริ่มเดาบางสิ่งบางอย่างได้‘ผมชอบพี่’ ไอซ์สารภาพออกมาเสียงเบา ข้างแก้มปรากฏสีแดงระเรื่อ‘เหรอ’ ชายหนุ่มตอบรับเสียงเรียบ ไม่ได้มีท่าทีดีอกดีใจหรือรังเกียจ แค่รับรู้ไว้‘ถ้าผมเลิกกับพี่แมท ผมขอคบกับพี่ได้ไหมครับ’‘แต่ผมไม่ได้ชอบคุณ ไม่ต้องมาวุ่นวายกับผมอีกนะ’ นิโคลัสพูดจบก็เปิดประตูห้องแล้วปิดล็อก ทำราวกับว่าคำสารภาพรักนั้นเป็นเพ
หนึ่งชั่วโมงต่อมาทุกคนก็ไปรวมกันที่มินิมาร์ตอีกครั้ง หงส์กลับมาพร้อมกับคริสตัลซอมบี้สีใสจำนวน 12 เม็ด พวกมันถูกล้างทำความสะอาดมาเป็นอย่างดีแล้ว“แถวนี้ไม่ค่อยมีคนผ่านมาเลยเหรอเนี่ย” การที่มีคริสตัลเกิดขึ้นในสมองของซอมบี้ได้นั้น หมายความว่าเจ้าพวกนี้ไม่ใช่ซอมบี้ที่เพิ่งเกิดในเร็ว ๆ นี้“คนน่าจะไปกระจุกตัวอยู่ในเมืองกันหมดแล้วล่ะค่ะ” หงส์ให้ความเห็นอาหารเย็นวันนี้เป็นปลากระป๋องกับแครกเกอร์ที่เฉินเฟิงใช้มันฝรั่งบดผสมรวมกับแป้งแล้วนำไปอบ ใช้เป็นอาหารฉุกเฉินยามออกเดินทางเพราะมีน้ำหนักน้อยและไม่ต้องยุ่งยากกับการประกอบอาหารนอกบ้านสำหรับทหารที่ผ่านความเป็นความตายมานับครั้งไม่ถ้วน พวกเขากินกันไปเรื่อย ๆ อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ มีเพียงดาริณีและพิมพาที่ต้องพยายามกินให้มากหน่อย แม้รสชาติจะแปลกแปร่งเพราะไม่เคยกินแครกเกอร์กับปลากระป๋องมาก่อน ก็ต้องฝืนกินเข้าไปอีกหลายคำ วันนี้ใช้พลังไปเยอะต้องชดเชยสภาพความเป็นอยู่หลังออกจากเซฟโซนนั้นต้องรัดกุมทุกด้าน พวกเธอขอติดตามมาด้วยจะต้องอดทนและเรียนรู้ที่จะยอมรับและผ่านมันไปให้ได้ในสักวันหนึ่ง“กินน้ำให้พอดีนะคะ” หงส์แนะนำ “เกิดปวดห้องน้ำตอนกลางคืนจะลำบาก”“ถ้
“ใจร้อนอะไรครับเนี่ย” เฉินเฟิงตำหนิ“ใครใช้ให้เลียเจ้านี่ล่ะ” เขาไม่ของขึ้นจนลากคนรักไปทำกิจกรรมบนเตียงให้ถึงที่สุดก็นับว่าอดทนมากแล้ว มีอย่างที่ไหนยกมือข้างที่เลอะน้ำกามของเขาขึ้นดม หรี่ตาสีแดงลงคล้ายครุ่นคิดแล้วใช้ลิ้นสีแดงสดเลียเบา ๆ เป็นใครจะไปทนไหวเล่นเอาสติขาดผึงเลยทีเดียวซึ่งเจ้ากระต่ายน่าตีก้นก็ไม่ได้สำนึก ยกมือข้างที่ว่าขึ้นมาให้อยู่ในระดับสายตา เพราะเมื่อกี้เผลอใช้มือข้างนี้ผลักอกคนรัก จึงมีบางส่วนที่ถูกเช็ดออกไปแล้ว“ก็ผมสงสัยนี่…” เฉินเฟิงคิดถึงการกระทำของตนเองเมื่อครู่ก็หน้าร้อนผ่าว แค่จินตนาการก็รู้สึกว่ามันต้องอีโรติกมากแน่ แต่จะให้ถอยก็ดูไม่เป็นตัวเขาสักเท่าไร “เลยอยากลองชิมว่ารสชาติเป็นยังไง” ช้อนดวงตากลมโตสีทับทิมเป็นประกายออดอ้อนคุณหมอหมีตัวโตที่ยังคงคร่อมอยู่ด้านบน“...” นี่กำลังพยายามแก้ตัวหรือยั่วเขาอยู่กันแน่ หือ “ที่รักทำแบบนี้พี่ของขึ้นอีกแล้วเห็นไหม” นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนก้มมองกลางกายของตนที่กลับมาแข็งตัวอีกครั้ง“ไม่เห็นเป็นไรนี่ครับ เป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติอยู่แล้ว” เฉินเฟิงยิ้มตอบพร้อมกับกระถดตัวลงไปอยู่ในระดับเดียวกับอาวุธของคุณหมอ“...”“เดี๋ยวผมปลอบให้มั
เฉินเฟิงนอนโรงพยาบาลเป็นคืนที่ห้าแล้วหลังจากฟื้นขึ้นมา เขายังคงกินนอนอยู่ที่นี่เพราะต้องทำกายภาพบำบัดให้ร่างกายกลับมาใช้งานได้ดังเดิมเมื่อเห็นว่าเจ้ากระต่ายปลอดภัยหายห่วง คนอื่น ๆ จึงเริ่มออกไปทำภารกิจกันถี่ขึ้น แม้แต่ทีโอเองก็ไม่ได้มานอนเฝ้าที่ห้องอีกแล้ว ภายในห้องจึงเหลือแค่ชายหนุ่มผมขาวและคนรักผู้มีใบหูหมีสีน้ำตาล กับคุณสิงหาที่จะแวะเวียนมาตรวจอาการทุกเช้าวันนี้ก็เช่นกัน หลังจากทำกายภาพในตอนเช้าเสร็จ แพทย์เจ้าของคนไข้ดันบอกว่าตอนนี้สภาพร่างกายของเขาดีขึ้นมาแล้ว หากจะทำกิจกรรมเข้าจังหวะกับคนรักก็ไม่มีปัญหามีสิครับหมอ!!เพราะเขากับนิโคลัสไม่เคยเกินเลยถึงขั้นนั้น ที่ผ่านมาก็มีแค่กอดกับจูบ ส่วนเรื่องเมคเลิฟอะไรนั่นตัดไปได้เลย ถ้าไม่ใช่นิโคลัสนอนเป็นผัก ก็มีภารกิจโหดหินรออยู่ พอรอดตายมาได้ก็กลายเป็นเขาที่นอนติดเตียงต่อ จะเอาเวลาไหนไปจู๋จี๋กันถามหน่อยไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยคิด แต่สถานการณ์มันไม่เอื้ออำนวยให้คิดต่างหาก แม้จะไม่รู้ว่าระหว่างเขากับคนรักจะดำเนินขั้นสุดท้ายของการเมคเลิฟแล้วจะเป็นยังไง แต่ถ้าค่อยเป็นค่อยไปโดยเริ่มจากบทรักสุดเบสิกได้ละก็… บอกเลยเขาสู้ตาย‘พี่นิค’ เจ้ากระต่ายมองค
ขนาดที่ค่ายพันธมิตรยังมีคนที่มีหูสัตว์เกลื่อนกลาด เรียกได้ว่ามีประชากรที่เป็นทั้งมนุษย์ธรรมดาและมนุษย์กลายพันธุ์อย่างละครึ่งเลยล่ะ ส่วนผู้มีพลังพิเศษไม่ว่าที่ไหนก็ยังมีจำนวนน้อยนิดเหมือนกันหมด“งั้นผมขอไปกักตัวที่บ้านก่อนนะ” การกักตัวกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดไปแล้ว เมื่อไหร่ที่ออกไปด้านนอกจะต้องกักตัวเป็นเวลา 3 วัน ป้องกันไม่ให้นำเชื้อที่ติดตัวมาไปแพร่ใส่คนอื่นทั้งทางตรงและทางอ้อม“ครับผม” กลุ่มหน้าประตูสองคนเดินไปส่งเฉินเฟิงและนิโคลัสที่บ้าน ถ้าเกิดชายหนุ่มกลายเป็นซอมบี้ระหว่างทางก่อนถึงบ้านขึ้นมาคงเป็นเรื่องใหญ่ปังหลังประตูรั้วบ้านและประตูหน้าบ้านถูกปิด เฉินเฟิงก็มองสภาพบ้านที่ยังคงสะอาดสะอ้านไม่มีร่องรอยของคราบฝุ่นเป็นไปได้ยังไง?หรือว่าในตอนที่พวกเขาไม่อยู่มีคนเข้ามาอาศัย?“อ้อ พวกผมลืมบอกไป กลุ่มแม่บ้านเขาช่วยกันผลัดเปลี่ยนมาทำความสะอาดบ้านให้นะครับ พวกป้า ๆ เขาอยากตอบแทนเรื่องเสบียงสำรองที่ให้มา” เป็นกรที่ตะโกนมาจากนอกบ้านช่วยไขข้อข้องใจให้เจ้ากระต่ายพอดิบพอดี เกือบได้ระเบิดโทสะแล้วไหมล่ะ“ฝากขอบคุณด้วยนะ” เฉินเฟิงตะโกนกลับไป“ครับผม!” และได้รับการตะโกน
ลงมาถึงตีนเขาเฉินเฟิงก็แยกกับกลุ่มของโจเซฟ ชายหนุ่มยืนมองแก๊งจักรยานพากันปั่นเรียงแถวออกไปยังถนนเส้นใหญ่ที่เชื่อมติดกับทางเข้าหมู่บ้าน ยังดีที่บริเวณนี้ไม่มีซอมบี้เพ่นพ่านเพราะถูกกำจัดไปเยอะ อีกทั้งยังอยู่ห่างจากตัวเมืองที่มีประชากรมากก็ได้แต่หวังว่าพวกเขาจะปลอดภัยกลับมาอย่างสวัสดิภาพไม่สิต้องกลับมาปลอดภัยอย่างแน่นอน!“เอาไปกี่กล่องดี” นิโคลัสยกกล่องยาสมุนไพรออกมาจากหลังรถ“เอาไปสัก 3 กล่องก่อนก็แล้วกันครับ” ถือไปเยอะเดี๋ยวจะเด่นสะดุดตาเกินไป“โอเค” คุณหมอหมีพยักหน้าเข้าใจ ถือติดมือไปน้อยก็ดูไม่สมกับค่าครู แต่ถ้าเอาไปไปเยอะก็อาจทำให้บางคนเกิดความคิดไม่ดีขึ้นมาได้สมุนไพรแห้งเหล่านี้พวกเขาขนกลับมารวมแล้วมีมากกว่า 10 กล่อง นำขึ้นไปเก็บไว้บนภูเขาแล้ว 10 กล่อง ที่อยู่ตรงนี้จึงเป็นส่วนที่กันเอาไว้แบ่งปันให้คนในหมู่บ้านด้านล่างตั้งแต่ต้น แต่จะทยอยให้ทีละไม่มากไม่ให้ผิดสังเกต“ไม่รู้กลับหมู่บ้านครั้งนี้จะได้เจอกับป้ากิ่งแก้วอีกหรือเปล่านะครับ” เฉินเฟิงเอ่ยกลั้วหัวเราะ พวกเขาเจอกันทีไรมีแต่เรื่องชวนปวดหัวทุกทีถ้าให้เขาพูดแบบเห็นแก่ตัวหน่อยเขาอยากจะบอกเหลือเกินว่าถ้าหมู่บ้านนี้ขาดกิ่งแก้ว
“จักรยานมีทั้งหมด 5 คัน คนที่จะออกไปสำรวจก็คือ พี่ดา พี่พิม ตุ่น หงส์ และหัวหน้า ถูกต้องไหมคะ” หงส์ทวน พอดาริณียกมือขอไปด้วย โจเซฟก็ไม่รีรอรีบออกตัวว่าจะไปด้วยเช่นกันทันทีแหม… ไม่ค่อยออกนอกหน้าเลยนะหัวหน้า“อะไร… ก็แค่เห็นว่ายังมีจักรยานอยู่อีกหลายคัน” คนร้อนตัวรีบพูด“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ” หงส์หันไปหัวเราะคิกคัก ล้อเลียนคู่คนคุยที่หน้าแดงซ่านไปหมดแล้ว“แม่หน้าแดงมากเลย” ขนาดเด็กชายดลยังอดแซวแม่ตัวเองไม่ได้ตกลงเรื่องจำนวนคนกันเสร็จสรรพ ก็ออกไปจัดเตรียมแพ็กกระเป๋าบ้านใครบ้านมัน เฉินเฟิงเองก็เตรียมเก็บของเช่นกัน เพราะเขากับคนรักมีแพลนจะลงไปนอนที่บ้านของตนในหมู่บ้าน และถือโอกาสสอบถามหมอยาสมุนไพรว่าจะสามารถสอนความรู้ให้ตนได้หรือไม่หรือถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้นิโคลัสได้เรียนด้วย“เดี๋ยวนะครับ จะไปกันหมดวันนี้เลยเหรอ” ทีโอคิดว่าจะออกเดินทางในอีกวันหรือสองวันข้างหน้า ใครจะไปคิดว่าพอตัดสินใจเสร็จปุ๊บก็เก็บของปั๊บ“จะช้าอยู่ทำไมล่ะ ขืนมัวแต่โอ้เอ้คงมีคนอื่นตัดหน้าไปก่อน” หงส์“ตามใจ” ทีโอถอนหายใจ ดูท่าเย็นนี้คงต้องให้เด็ก ๆ กินปลากระป๋องแล้วล่ะ “ระวังตัวกันด้วยนะครับ”“คราวนี้ไม่ประมาทอีกแน่”
“ก็ดีนะ” นิโคลัสพยักหน้าเห็นด้วย“แต่น้ำมันรถที่มีจะไม่พอให้เราตะลอนหาของได้ตามใจชอบน่ะสิ” โจเซฟส่ายหน้าเห็นต่าง พวกเขาไม่มีถังน้ำมันสำรองกักตุนไว้ในปริมาณมาก ดังนั้นจึงค่อนข้างเป็นกังวลหากต้องนำรถออกไปตระเวนหาของอย่างไม่รู้ทิศทาง“ขี่จักรยานไปไง” หงส์เสนอ“ไหวหรือ?” โจเซฟไม่ได้มีเจตนาดูถูก แต่ขี่จักรยานไปในสถานการณ์ที่ไม่ปกติแบบนี้ค่อนข้างเสี่ยงเอาการ ไหนจะอากาศประเทศ T ที่ไม่ค่อยปกตินัก บางวันก็ร้อนจนอยากจะนั่งแช่น้ำทั้งวัน บางวันก็ฝนตกหวิดจะเกิดโรคระบาดจากน้ำอีกรอบ“ถ้ารู้เส้นทางเข้าเมืองก็ไม่น่าจะยากไม่ใช่เหรอคะ” อีกอย่างจักรยานที่เอามาก็เป็นจักรยานเสือภูเขา มีไว้สำหรับเร่งความเร็วอยู่แล้วถ้าเจอซอมบี้ก็แค่ใช้พลังสู้กับมัน“ถ้าไม่ออกไปหาของตอนนี้ อีกหน่อยก็ไม่เหลืออะไรให้หาแล้วล่ะค่ะ” พอมนุษย์ที่เคยเอาแต่หวาดกลัวเริ่มปรับตัวได้ พวกเขาจะสามารถเรียกความกล้าและออกไปผจญอันตรายเหมือนกับเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเธอเชื่อว่าอย่างนั้นไม่มีใครเอาแต่สั่นกลัวอยู่แต่ในบ้านได้หรอก“ถ้าอย่างนั้นพิมขอไปด้วยได้ไหมคะ” หญิงสาวยกมือ“แม่!” พลอยใสตกใจตาโต “ถ้าแม่ไปพลอยก็จะไปด้วย” เด็กสาวรีบยกมือตาม ก่อนจะ
“อร่อย! อร่อยมาก!!” เขาไม่เคยกินอาหารรสชาติแบบนี้มาก่อนเลย“อร่อยก็ดีแล้วครับ ปะ พวกเรายกไปที่โต๊ะเลยดีกว่า” เห็นคนรักไม่บาดเจ็บในปากก็โล่งอก ยิ้มกว้างให้กับเมนูอาหารในวันนี้ ดีที่ตอนนั้นหลังจากได้ชิมต้มหมูชะมวงของเชฟในครัวเขาก็ไปค้นหาสูตรอาหารชนิดนี้ในอินเทอร์เน็ตต่อ ทำพลาดอยู่ 4-5 จานก็ได้รสชาติคล้ายคลึงที่สุดเท่าที่จะทำได้อืม… เขาก็เก่งเหมือนกันนะเนี่ย //ยืดหลังอาหารทยอยเสิร์ฟขึ้นโต๊ะ ภาพบรรยากาศแสนสุขก็กลับมาอีกครั้ง เด็ก ๆ ตักแกงกินกับข้าวคำโต ผู้ใหญ่พูดคุยกันเรื่องสัพเพเหระ นั่งปรึกษากันว่าพรุ่งนี้จะทำอะไร มีตรงไหนต้องปรับปรุง พอของคาวหมดก็ต่อด้วยเมนูผลไม้ล้างปาก เป็นส้มโอที่ถูกบิเนื้อออกเป็นเส้น ๆ แล้วนำไปคลุกเคล้ากับน้ำตาลและน้ำปลา ได้รสชาติหวานเค็มตัดกับความเปรี้ยวอมหวานของส้มโอเมื่อไม่เหลืออาหารให้จัดการอีก ตุ่น หงส์ และทีโอก็อาสานำภาชนะทุกชิ้นไปล้างโดยมีเด็กซน 3 คนออกตัวว่าอยากไปช่วยล้างด้วย ไม่รู้ว่าไปช่วยหรือไปป่วนกันแน่ฟากมังคุดก็นั่งเลียปากเลียมือ นอนตีพุงอย่างสุขใจ มันเพิ่งเคยกินอาหารที่ชายหนุ่มทำแบบเต็มที่ เครื่องแน่น ๆ เน้น ๆ แบบนี้เป็นครั้งแรกอร่อยมาก… อร่อยจนไ
อีกสาเหตุหนึ่งที่เฉินเฟิงเลือกเมนูนี้ขึ้นมาก็เพราะตอนอยู่ในค่ายเขาได้ไปแลกบางสิ่งบางอย่างมาจากตลาดนัดในค่ายพันธมิตร ราคาของมันเรียกได้ว่าแพงหูฉี่ กระปุกหนึ่งราคา 8 แต้ม กว่าจะต่อรองมาได้ก็เปลืองน้ำลายไปเยอะ แต่พอแม่ค้าเห็นว่าโจเซฟยืนอยู่ด้านหลังกลุ่มก็ลดราคาให้อย่างเร็วเหลือเพียง 6 แต้ม สมกับเป็นเทพเดินดินของคนในค่ายพันธมิตรจริง ๆซึ่งเจ้าสิ่งนั้นก็คือ… กะปิและน้ำมันพืชนั่นเอง!ผู้คนส่วนมากในค่ายไม่นิยมทำอาหารกินเองเพราะใช้แต้มคะแนนไปแลกอาหารที่โรงอาหารได้หลากหลายกว่าเฉินเฟิงแทบจะใช้แต้มคะแนนที่มีทั้งหมดแลกมันมาให้ได้มากที่สุด มีน้ำปลากับซีอิ๊วหวานอีกอย่างที่ขาดไม่ได้เลย พอเห็นว่าตรงไหนมีวางขายก็อยากจะซื้อมาให้หมดเชฟใหญ่ประจำบ้านตระเตรียมวัตถุดิบประกอบอาหาร มองข้าวของบนโต๊ะที่มีครบอย่างที่อาหารจานหนึ่งควรจะเป็นด้วยสีหน้าอิ่มเอิบอา… มีเครื่องปรุงพร้อมนี่มันสวรรค์ชัด ๆอิ่มเอมกับบรรยากาศเครื่องปรุงและวัตถุดิบรอบตัวเรียบร้อยแล้วก็เริ่มจากทำเครื่องแกงก่อนเป็นอันดับแรก โดยคนที่รับหน้าที่นี้คือเฉินเฟิง ส่วนสองสาวจะนั่งฉีกใบชะมวงและหั่นเนื้อตะโขงแดดเดียว ก่อนจะนำไปล้างน้ำเพื่อล้างความเค็ม