“เอาล่ะ ทางนี้ก็จะไปสู้บ้างเหมือนกัน” คิวยืดเส้นยืดสายนิดหน่อย จากนั้นก็หยิบคริสตัลซอมบี้สีใสเข้าปาก นี่เป็นเม็ดแรกที่เขาต้องกินเพื่อเพิ่มพลัง“ระวังตัวด้วย” ชายหนวดโค้งมองเพื่อนร่วมเป็นร่วมตายที่อยู่กันมาตั้งแต่วันแรกของวันสิ้นโลกอย่างเป็นห่วง“คุณก็ด้วย บาดเจ็บอยู่ก็อย่าออกไปซ่าข้างนอกบาเรียล่ะ” คิวมองเลยไปยังผ้าพันแผลที่ชายโครงของวิทย์ความจริงวิทย์นั้นเป็นหนึ่งในคนที่ออกไปต่อสู้นอกบาเรีย แต่เพราะมีซอมบี้ที่หลบหนีการโจมตีของสมาชิกคนอื่นแล้วไปกระแทกเข้ากับวิทย์อย่างจังจนชายหนุ่มกระเด็นไปชนกับซากปรักหักพัง ลูกน้องแถวนั้นจึงต้องแบกกลับมาให้หมอวินิจฉัยที่หน่วยพยาบาล ปรากฏว่าซี่โครงหักไปสองท่อน ทำให้ได้แค่คอยออกคำสั่งจากในบาเรีย ห้ามขยับเขยื้อนร่างกายมากเด็ดขาดจริง ๆ หมอประจำหมู่บ้านไล่ให้ไปนอนพักด้วยซ้ำ ดื้อจะออกมาดูการต่อสู้ให้ได้ คุณครูเมตตาก็เลยมอบหน้าที่สั่งการให้ไปทำเสียเลย จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน“รู้สังขารน่า” วิทย์ยกมือปัดไปปัดมาในอากาศ แต่การทำอย่างนั้นก็ทำให้เจ็บร้าวไปถึงจุดที่หักจนใบหน้าบิดเบี้ยวเจ็บแปลบอย่างกะทันหัน“เนี่ยนะ รู้สังขาร” คิวล้อ“จิ๊ รีบ ๆ ไปช่วยพี่โจกับพี่สะใภ้ไป”
“พลังของคุณครูสุดยอดไปเลยครับ” ลูกน้องที่เป็นสมาชิกใหม่รีบเอ่ยประจบหัวหน้าวิทย์เต็มที่ เดิมทีเขาร่อนเร่ไปทั่ว จะไปอยู่ค่ายใหญ่ก็กลัวว่าจะไม่ได้ลืมตาอ้าปาก ให้ไปอยู่ค่ายเล็กก็เกรงว่าหากมีภัยพิบัติก็จะหนักหนาจนรับไม่ไหวสมาพันธ์ผู้รอดชีวิตจึงเป็นตัวเลือกที่เข้าตา ขอแค่ทำงานที่ได้รับมอบหมายมาอย่างดี เชื่อว่าสักวันจะต้องอยู่แนวหน้าของกลุ่มได้แน่นอน อืม… ไม่สิ ขอแค่อยู่ในสายตาของคนตำแหน่งสูง ๆ ก็พอ เวลามีปัญหาเขาจะได้เอ็นดูกันสักนิดแต่พออยู่นานไปก็ทำให้รู้ว่าที่สมาพันธ์แห่งนี้มีเทพสถิตอยู่…ก็ไม่ใช่เทพเทวดาแบบที่เคยเคารพนับถือหรอก แต่เป็นคนเก่งระดับเทพต่างหาก เก่งแบบทำไมคนเหล่านี้ช่างแตกต่างจากคนธรรมดาราวฟ้ากับเหวได้กันนะ ขนาดโลกเป็นแบบนี้แล้วยังมีการแบ่งชนชั้นทางสังคมได้อีกเหรอแต่การที่มีคนเก่งอยู่ก็เป็นการันตีว่าอยู่ที่นี่แล้วจะปลอดภัย สามารถนอนหลับได้เต็มอิ่ม ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังดังนั้นขอแค่ไม่ทำตัวมีปัญหาก็อยู่ที่นี่ได้อย่างสบาย มีกฎเกณฑ์ให้ยึดถือเพียงไม่กี่ข้อโดยเน้นมากที่สุดก็คือห้ามยุ่งกับเด็กในสถานรับเลี้ยง เมื่อทำไปแล้วจะไม่ได้รับโอกาสแก้ตัวใด ๆ ทั้งนั้น มีเพียงความตายสถานเด
มันมีทั้งความเร็วและพละกำลังที่เหนือกว่ามนุษย์หลายขุม หากไม่ใช่ว่ามีการเตรียมพร้อมที่ดี ป่านนี้หมู่บ้านริมธารอาจเหลือแค่ชื่อสำหรับนิโคลัสแล้วการบุกของซอมบี้ระดับสองทั้งยังเป็นซอมบี้มนุษย์นกกลายพันธุ์ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเคร่งเครียดมากนัก อาจจะรำคาญที่พวกมันสามารถใช้ปีกบินหลบการโจมตีได้ทั้งหมดนี้ต้องยกความดีความชอบให้ทุกคนที่เตรียมสนามรบไว้ก่อนล่วงหน้า ทำให้ซอมบี้ไม่สามารถดึงพลังออกมาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มแต้มต่อโอกาสชนะของมนุษย์ได้เป็นอย่างดีอีกทั้งในกลุ่มมีทั้งเฉินเฟิง นิโคลัส และทีโอที่มีพลังอยู่ในระดับสอง ทั้งสามคนสามารถใช้พลังติดต่อกันได้เป็นระยะเวลานานและมีทักษะการต่อสู้ที่เหนือกว่า การที่ต้องสู้กับซอมบี้ที่มีฝีมือด้อยกว่าหรือทัดเทียมกันจึงไม่ได้สร้างภาระให้ร่างกายนักตั้งแต่เริ่มต่อสู้มาพวกเขาเพิ่งจะกินคริสตัลซอมบี้เม็ดแรกไปเท่านั้นเอง ยังเหลือโควตาอีก 1 เม็ด เรื่องพลังจึงวางใจได้ว่าไม่หมดแน่นอนยิ่งได้มังคุดมาช่วยปกป้องเฉินเฟิง นิโคลัสก็ทุ่มสมาธิไปกับการกำจัดซอมบี้ได้มากขึ้น ต่างจากตอนที่สู้กับมนุษย์แมวลิบลับที่เขาต้องสู้ไปทั้งยังเป็นห่วงที่ทิ้งเจ้ากระต่ายให้สู้
ทั้งพิมพา ปอนด์ พลอยใส และพลายวารีถูกพาไปอยู่ในห้องใต้ดินสำหรับหลบภัย ฟากหงส์กับตุ่นคอยใช้พลังขับไล่ไม่ให้อะไรเข้ามาสร้างความเสียหายภายในที่อยู่อาศัยแร็กคูนยักษ์ได้ยินเสียงการปะทะกันข้างล่างก็เป็นกังวลถึงเจ้านายหูกระต่ายที่บอกว่าจะอยู่ที่หมู่บ้าน ท่าทางกระสับกระส่ายของมันกับสถานการณ์ที่ไม่ตึงเครียดมากนักบนบ้านทำให้หงส์ชั่งใจครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจอนุญาตให้เจ้าตัวโตลงไปช่วยเฉินเฟิงได้ทางฝั่งพวกเขายังรับมือได้ จำนวนคนที่อยู่บนภูเขาทำให้พวกมันไม่ได้สนใจมากนัก พวกที่บุกมาจึงมีไม่เยอะนัก แม้จะต่อสู้ลำบากไปนิดเพราะยังไม่มีใครเลื่อนไปถึงระดับสอง แต่ก็ยังสู้แบบสองรุมหนึ่งไหวจบงานนี้คงได้เลื่อนเป็นระดับสักทีนะ บุกมาแค่ 2-3 ตัวเธอก็เหนื่อยจะแย่ ขืนมามากกว่านี้คงหมดพลังก่อน“ตัวอะไรเนี่ย!” เป็นชาวบ้านที่ตื่นตกใจจนเกือบพลาดท่าให้กับซอมบี้ ร้อนถึงทีโอต้องเร่งให้ความช่วยเหลือเป็นการด่วน“เป็นสัตว์เลี้ยงของพี่เฟิงครับ ทุกคนไม่ต้องกลัวนะ เจ้าตัวนี้เป็นมิตร” พร้อมกับอธิบายไปในตัว“สุดยอด…” ตั้งแต่วันสิ้นโลกมาจนถึงปัจจุบัน สัตว์กลายพันธุ์ที่พวกเขาพบเจอก็มีแต่หนูตัวใหญ่ที่เข้ามาขโมยเสบียงเมื่อหลายเดื
พรึ่บแกรก แกรก แกรกเฉินเฟิงพาตัวเองไปยังสนามรบที่ได้จัดเตรียมไว้ นั่นก็คือพื้นที่โล่งหน้าหมู่บ้าน พวกเขาสร้างทั้งป้อมสำหรับการซุ่มยิง ต้นไม้สูงใหญ่ที่จะเป็นอุปสรรคสำหรับการบินของพวกมันอดีตผู้ช่วยเชฟนำกิ่งต้นก้ามปูปักลงดิน จากนั้นก็เร่งให้มันเจริญเติบโตด้วยวิธีชำกิ่งแบบฮาร์ดคอร์ เมื่อเสียพลังไปเกือบ 1 ใน 5 ก็ได้ต้นก้ามปูขนาดใหญ่พอ ๆ กับต้นที่เคยต่อสู้บนภูเขาปางช้างพนาไพร“เอานี่ไปกิน!” อดีตผู้ช่วยเชฟใช้ประโยชน์จากกิ่งก้านสาขาที่มีมากมายของต้นก้ามปูคอยหวดพวกมนุษย์นกซอมบี้ให้ร่วงตกลงมาบ้านพื้น คนที่คอยอยู่ด้านล่างจะได้จัดการได้ง่ายขึ้นตูม!“ร่วงลงมาให้หมด!" เฉินเฟิงคิดว่าตนเองกำลังถือไม้ช็อตยุง เห็นผ่านหน้าไม่ได้ต้องหวดสักทีให้มีเสียงเปรี๊ยะ ๆ แค่ในสถานการณ์นี้เปลี่ยนเป็นหวดให้ลงไปนอนวัดดิน “อย่ามาบินผ่านหน้าฉัน!!” ทั้งยังใช้ความโกรธที่มีต่อองค์กร SW เป็นแรงขับเคลื่อนไปแล้วเกือบ 30 เปอร์เซ็นต์ และไม่มีใครคิดจะห้ามด้วยผู้มีพลังพฤกษาไล่หวดซอมบี้บนฟ้าร่วงตกลงมาตัวแล้วตัวเล่า เมื่อตั้งท่าจะบินขึ้นไปบนฟ้าใหม่ก็ต้องพบว่ารอบด้านมีแต่ต้นไม้ดักล้อมอยู่บนอากาศ ทำให้บินไปไหนไม่ได้ไกล แต่การอยู
“พวกเด็กกับผู้หญิงที่สู้ไม่ได้ให้ไปหลบที่หลุมหลบภัย ส่วนพวกผู้ชายที่ไม่มีพลังให้หลบอยู่แต่ในป้อม ห้ามออกมาเด็ดขาด ให้การสนับสนุนด้วยการยิงลูกดอกเท่านั้น” คุณยายร้านขายของชำถือไม้เท้าสั่งเสียงเข้ม“พวกคนที่มีพลังก็อย่าคิดว่าตัวเองเจ๋งนักล่ะ ตอนนี้พลังพิเศษมันเลื่อนไปถึงระดับสองแล้ว” คุณยายไม่อยากพูดตัดกำลังใจ แต่ชีวิตนี้มีแค่ชีวิตเดียว หากรักชีวิตก็ต้องห้ามประมาท“พวกเราไม่รู้วันและเวลาแน่ชัดว่าซอมบี้จะบุกมาเมื่อไหร่ ยังไงก็ขอให้เตรียมพร้อมกันตลอดเวลานะครับ” เฉินเฟิงกำชับหลังการประชุมด่วนสิ้นสุดลง ชาวบ้านจำนวนหนึ่งรีบแยกตัวไปต่อเติมกำแพงให้แข็งแรงมากขึ้น บางส่วนก็หาที่สร้างนั่งร้านสำหรับสอดส่องจากที่สูงเฉินเฟิงเห็นนั่งร้านของชาวบ้านก็ปิ๊งไอเดีย ใช้พลังเร่งการเจริญเติบโตต้นไม้ จากนั้นก็ให้ทีโอใช้เหล็กสร้างห้องเล็ก ๆ ไว้บนนั้น จะได้เป็นจุดซุ่มยิงสำหรับคนที่ไม่มีพลังแต่อยากสนับสนุนการต่อสู้“อะไรกัน อาเฟิงก็มีพลังพิเศษเหมือนกันเหรอ” ทุกคนล้วนรู้ว่าเด็กหนุ่มมีพลังและกลายพันธุ์เป็นสัตว์อะไรบางอย่าง แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่เคยมีใครรู้ว่าเป็นพลังอะไร“เอ๊ะ พลังปลูกต้นไม้แบบนี้… หรือว่าจะเป็นเร