จือจือมองไปทางหนานหนานหนานหนานแลบลิ้นใส่เธอ “คนขี้ลอก”เธอดึงสายตากลับมา แล้วสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ไม่สนใจเขา มุ่งหน้าก้าวเท้าขึ้นไปบนเวทีจือจือยืนอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ใช้โปรแกรมง่าย ๆ ที่ช่วงนี้ตนเองได้เรียนกับคุณแม่ ด้วยต้องการจะวาดภาพงานในตอนนี้ออกมาเธอใช้โปรแกรมวาดภาพรูปร่างคร่าว ๆ ของคุณปู่ทวด ระหว่างที่กำลังวาดอยู่นั้น เจ้าตัวก็ยิ่งเปล่งประกายแขกเหรื่อด้านล่างต่างเบิกตากว้าง รู้สึกเหลือเชื่อเด็กขนาดนี้ก็ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์วาดภาพออกมาได้ละเอียดขนาดนี้แล้ว...กระทั่งคุณท่านเองก็มีความชื่นชมแฝงอยู่ในดวงตาหลายส่วนเฉินหลิงยิ่งมีสีหน้าดำคล้ำขึ้นทีละนิด ๆ เธอไปเรียนของพวกนี้มาตั้งแต่เมื่อไร?หร่วนหนิงถังขมวดคิ้วมุ่นยิ่งกว่า เธอจับจ้องทุกอากัปกิริยาของจือจือไม่ละสายตา เธอมองออกว่า เจ้าตัวกำลังควบคุมโปรแกรมเองจริง ๆแต่อายุน้อยขนาดนี้เนี่ยนะ... มันเป็นไปได้ยังไง?เฉินหลิงมีสีหน้าเย็นชา เธอเรียกคนรับใช้มา แล้วกระซิบที่หูของคนรับใช้สองสามคำชิงอี้จ้องมองหน้าจอใหญ่ เธอเองก็ตกใจกับความสามารถในการเรียนรู้ของจือจือเช่นกันลูกสาวมีพรสวรรค์ทางด้านวาดรูป ส่วนความสามารถในการเรีย
หนานหนานรีบกระโดดลงจากตักของคุณท่านทันที “คุณปู่ทวด วันนี้ผมเตรียมการแสดงความสามารถมาให้คุณปู่ทวดดู เพื่อเป็นการอวยพรวันเกิดครบเก้าสิบปีของคุณปู่ทวดด้วยครับ”“อ้อ?” คุณท่านเผยแววตาปลื้มปีติ “ดีมาก มาดูกันซิว่าเหลนของพวกเราจะเตรียมการแสดงอะไรมา?”หนานหนานตอบ “สิ่งที่ผมเตรียมมาก็คืออ่านกลอน ขอให้ชีวิตในวันข้างหน้าของคุณปู่ทวดมีความสุขเหมือนกับบทกลอนและภาพวาดอันสวยงาม”เด็กน้อยพูดเพียงสองสามประโยค ก็เอาใจคุณท่านเสียจนยิ้มกว้างไม่หุบหนานหนานยืนอยู่บนเวทีใหญ่ในโถงงานเลี้ยง คว้าไมค์ไว้ แล้วร่ายกลอนอย่างได้อารมณ์ทุกคนที่ด้านล่างเวทีต่างปรบมือกันเกรียวกราว ทั้งยังพากันเชยชมว่าวันข้างหน้าตระกูลโจวมีผู้สืบทอดแล้ว“ขอบคุณทุก ๆ คนครับ” เมื่อถูกชมเชย ใบหน้าของหนานหนานก็เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและพึงพอใจ“เหลนของปู่ทวดนี่ยอดเยี่ยมจริง ๆ มีมาดอย่างคุณชายตระกูลโจวไม่เบา!” คุณท่านมองหร่วนหนิงถังพลางกล่าวชม “หนิงถังนี่เลี้ยงเด็กได้ดีจริง ๆ หนานหนานอยู่กับหนูแล้วมีพัฒนาการ”ทั้งความหมายโดยนัยและความหมายตรงตัวคือกำลังตำหนิว่าเป็นความผิดของชิงอี้การทุ่มเทแรงกายแรงใจเลี้ยงดูอย่างเต็มที่ของเธอ กลั
ของขวัญ?ชิงอี้รู้สึกเพียงว่ามันเป็นการเย้ยหยันเมื่อชาติก่อน เธอตั้งใจเตรียมภาพภูมิทัศน์หมื่นลี้ไว้เป็นพิเศษมันเป็นของสะสมชั้นสูงที่แม่ตั้งอยู่ในบ้าน คุณท่านไม่แม้จะชายตามอง กลับสงสัยเพียงว่ามันเป็นของปลอมตอนนี้ ต่อให้เธอเอาไปเผา ก็จะไม่มีทางเอามามอบให้หร่วนหนิงถังมอบของขวัญให้ชิ้นใหญ่ คนไหนมอบของขวัญให้ต่อจากเธอ คนนั้นก็จะด้อยกว่าทันทีเฉินหลิงแสดงออกอย่างชัดเจนว่าตั้งใจกลั่นแกล้งแทบอยากจะกวาดเธอออกไป ณ ที่นั้นเลยทีเดียวชิงอี้มองเฉินหลิงด้วยสายตาราบเรียบ “วันเกิดครั้งสำคัญของคุณปู่ทั้งที ยังจะมาไล่บี้คนอื่นเรื่องของขวัญอีกเหรอ?”สีหน้าของเฉินหลิงแข็งข้างไปทันที“ในฐานะที่เธอเป็นหลานสะใภ้ หรือว่าไม่ควรมอบของขวัญให้?”ชิงอี้ยิ้มด้วยสีหน้าเรียบเฉย กล่าวอย่างรู้จักวางตัวว่า “ตอนนี้รู้แล้วเหรอว่าฉันเป็นหลานสะใภ้? คนไม่รู้จะคิดว่าเป็นคนอื่นเอาได้”เฉินหลิงหรี่ตาตอนนี้ขยับปากอย่างคล่องแคล่วเหลือเกินเธอเองก็ยิ้มเช่นกัน “เธอไม่ได้เตรียมมาก็ไม่ได้เตรียมสิ ฉันก็ไม่ได้จะว่าอะไรเธอสักหน่อย คุณท่านเองก็ไม่ได้ขาดแคลนของขวัญส่วนนั้นของเธอด้วย”โจวเสวี่ยยิ้มเล็กน้อยแล้วเอ่ยปาก “
เพิ่งพูดจบ โจวเฉาหลี่ก็เดินผ่านข้างกายเธอไปพอดีชายหนุ่มมองเธอเพียงเล็กน้อย ดวงตาของเขาเย็นเยียบราวกับน้ำค้างแข็งไม่รู้ว่าเพราะเขาได้ยินคำพูดนั้นของเธอหรือเปล่าหนานหนานมองชิงอี้กับจือจือ แค่นเสียงเฮอะออกมาเบา ๆ “ไม่ใช่ว่าจะไม่กลับมาหรอกเหรอ? แต่ตอนนี้ก็มาแล้วนี่”ชิงอี้มองโจวเฉาหลี่ด้วยสีหน้าเย็นชา เธอไม่เข้าใจเลย ในเมื่อเขาเลือกจะมากับหร่วนหนิงถังแล้วถ้าอย่างนั้นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ จะเรียกเธอกลับมาทำไม? ต้องการให้เธออับอายงั้นเหรอ?เธอมาเผยโฉมแล้ว ตัวละครหลักของงานในตอนนี้คือหร่วนหนิงถังกับโจวเฉาหลี่เธอกำลังคิดจะพาจือจือออกไปจากที่นี่ทว่าคุณท่านโจวกลับเรียกพวกเขาไว้เสียก่อน“ชิงอี้ พวกเธอไปนั่งตรงนั้นไป” คุณท่านชี้ไปทางที่นั่งด้านข้าง เป็นที่นั่งชั้นรองคุณท่านจัดให้หร่วนหนิงถังกับโจวเฉาหลี่นั่งที่นั่งหลัก หนานหนานเองก็นั่งอยู่ข้าง ๆ พวกเขาความตั้งใจของคุณท่านนั้นชัดเจนมากทีเดียว ตั้งแต่ที่เธอเข้าตระกูลโจวมา คุณท่านก็ไม่ได้ต้อนรับเธอเท่าไรนักเฉินหลิงเห็นชิงอี้ไม่ขยับเขยื้อน ก็รีบเอ่ยปากทันที “เร็วเข้าสิ ต้องรอให้คนไปเชิญด้วยตัวเองหรือไง?”โจวเฉาหลี่มองเธอด้วย
ไม่รู้ว่าโจวเฉาหลี่มานานเท่าไรแล้วเมื่อกี้ที่หร่วนหนิงถังพูดถึง ‘รอยสักพี่น้อง’ นั่น เขาก็น่าจะได้ยินแล้วทว่าเขากลับกวาดสายตามองมาอย่างเย็นชา มองเพียงสองวินาทีเท่านั้นก็ละสายตาไปไม่ได้มีความตั้งใจจะอธิบายอะไรทั้งนั้นเหมือนกับยอมรับกลาย ๆยังเหมือนชาติก่อนไม่มีผิด เขาไม่เคยสนใจศักดิ์ศรีกับความรู้สึกของเธอที่มีฐานะคุณนายโจวเลย เมินเฉยโดยสิ้นเชิง!ชิงอี้เม้มปากอย่างเงียบเชียบ โชคดี โชคดีที่ชาตินี้เธอไม่สนใจอีกแล้วเธอไม่ได้พูดอะไร เบี่ยงตัวเล็กน้อยด้วยจะออกไปทว่าโจวเฉาหลี่กลับเข้ามาขวางด้วยไม่ยอมชายหนุ่มจับจ้องกี่เพ้าในมือเธอด้วยสายตาเรียบเฉย “ทำไมไม่เปลี่ยนชุด รอให้ผมไปช่วยคุณงั้นเหรอ?”ชิงอี้ไม่อยากเสียเวลาอยู่ที่นี่ต่ออีก “เปลี่ยนแล้ว พอดีตัวมาก เอาชุดนี้แหละ”โจวเฉาหลี่เลื่อนสายตาออกไปมองหร่วนหนิงถังที่อยู่ข้างกัน เขาส่งยิ้มให้เธอ “ชอบไหม? ไม่ชอบก็ลองเปลี่ยนดู”กับหร่วนหนิงถังนั้น เขามักจะมอบใบหน้ายิ้มแย้มให้ตลอด มีความอดทนให้ไม่มีวันหมดชิงอี้หัวเราะเยาะ เหลือบตามองโจวเฉาหลี่ “อย่าลืมเรื่องที่คุณรับปากไว้แล้วกัน”เรื่องแบบนี้ ให้มีแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวต่อไปเธอไม
ไว้เข้าร่วมงานเลี้ยงเสร็จสิ้นแล้ว เธอเอาของตกทอดของคุณยายกลับมาได้ก็พอโจวเฉาหลี่ไม่ได้พูดอะไร ส่งสายตาสำรวจไปยังสไตล์เสื้อผ้าที่ละลานตาไปหมด แล้วเลือกชุดกี่เพ้าใกล้ ๆ มือมาชุดหนึ่ง แล้วโยนไปให้เธอ “ลองดู”กี่เพ้านั้นสวยสง่า ทำให้ดูบุคลิกดีชิงอี้หลุบตามอง ไม่สนใจคำพูดของเขาเลยสักนิดเดียวเธอปฏิเสธอย่างเย็นชา “ไม่ละ ใส่ถุงมาเลยก็พอ”จะสวยหรือไม่สวย เธอไม่สนใจทั้งนั้น“ชิงอี้” ดวงตาดำขลับของโจวเฉาหลี่จ้องมองเธอเขม็ง “นี่คุณกำลังงอนอะไรอยู่?”ความอดทนของเขามีขีดจำกัดยิ่งความอดทนที่มีให้ชิงอี้ยิ่งเป็นศูนย์เธอมองโจวเฉาหลี่ “ของที่ฉันต้องการล่ะ?”โจวเฉาหลี่ “อากัปกิริยาแบบนี้ของคุณนี่ ต้องการของนั่นจริง ๆ ใช่ไหม?”ชิงอี้สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ กดความโกรธเกรี้ยวของตัวเองไว้ต่อไปถ้าไม่ต้องทำเพื่อของที่ต้องการแล้วละก็ ตอนนี้เธอคงไม่รองรับอารมณ์แบบนี้หรอกชิงอี้คว้ากี่เพ้าในมือเขาแล้วไปที่ห้องลองเสื้อ......ภายในห้องลองชุดเสียงของพนักงานขายที่ห้องข้าง ๆ ดังไม่เบา“ว้าย! คุณนายโจว คุณใส่ชุดนี้เหมาะกับรูปร่างมากจริง ๆ ค่ะ”ตอนนี้ พนักงานเปล่งเสียงออกมาด้วยความตกตะลึงหร่วนหนิง