วันแห่ศพคุณไม่ว่าง พอฉันเกิดใหม่แล้วได้ดีคุณกลับคลั่ง

วันแห่ศพคุณไม่ว่าง พอฉันเกิดใหม่แล้วได้ดีคุณกลับคลั่ง

By:  ปลาทองหางเดียวUpdated just now
Language: Thai
goodnovel4goodnovel
Not enough ratings
64Chapters
5views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

หกปีของการแต่งงาน มีเพียงความสัมพันธ์ลึกซึ้งในยามค่ำคืน แต่ไร้ซึ่งความอบอุ่นในยามกลางวัน ชิงอี้รักเขาอย่างสุดซึ้ง และยอมรับมันด้วยความเต็มใจ ลูกสาวแท้ ๆ ถูกห้ามไม่ให้เรียกเขาว่าพ่อ ในขณะที่ลูกชายของรักแรกของเขากลับถูกอุ้มไว้บนตักและสอนให้เรียกพ่อ ทั้งตระกูลปฏิบัติต่อลูกเลี้ยงประดุจทายาทผู้สูงส่ง ส่วนลูกในไส้กลับถูกมองว่าเป็นมลทินที่ไม่อาจเปิดเผยได้ จนกระทั่งเธอและลูกสาวต้องชดใช้ด้วยชีวิต หลังเขาเซ็นเอกสารเผาศพของเธอและลูกด้วยตัวเอง ก็พาลูกชายไปร่วมงานเลี้ยงต้อนรับรักแรกของเขากลับประเทศ เธอถึงได้เข้าใจว่า ความจริงใจไม่อาจแลกมาซึ่งความจริงใจ คนที่ไร้น้ำใจไร้คุณธรรมนั้น แท้จริงแล้วก็ไม่มีหัวใจอยู่เลย เมื่อได้ชีวิตใหม่อีกครั้ง เธอตัดสินใจที่จะทิ้งชีวิตแต่งงานที่เต็มไปด้วยความอัปยศและความเย็นชาให้สิ้นซาก! ชาติก่อน เธอโง่เขลาที่ยอมทิ้งการเรียนมาเป็นแม่บ้าน และทุ่มเททุกอย่างเพื่อครอบครัว ในชาตินี้ เธอยื่นใบหย่าอย่างเด็ดเดี่ยว พาตัวเองและลูกสาวหนีไปจากขุมนรก กลับมาเริ่มต้นเส้นทางอาชีพและหวนคืนสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง! สัปดาห์แรกที่ชิงอี้จากไป โจวเฉาหลี่คิดว่าเธอแค่เรียกร้องความสนใจและหาเรื่องไปวัน ๆ เดือนแรกที่ชิงอี้จากไป โจวเฉาหลี่ไม่ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้เธอไปตามทางของเธอ และวันที่ N ที่ชิงอี้จากไป... เขากลับได้พบเธอในงานประชุมสุดยอดของเหล่าหัวกะทิในวงการ! ชิงอี้มุ่งมั่นกับงาน ส่วนลูกสาวก็ตั้งใจหาพ่อใหม่ให้ตัวเอง ที่แท้ เธอกับลูกสาวก็ไม่ต้องการเขาอีกต่อไปแล้วจริง ๆ! ชายหนุ่มเสียสติไปโดยสิ้นเชิง เขาที่เคยเย็นชาและหยิ่งทระนงมาตลอด กลับไม่สนใจสายตาใคร ๆ ตรงเข้าขวางสองแม่ลูกไว้ แล้วอ้อนวอนว่า “ที่รัก ผมจะคุกเข่าอยู่ตรงนี้ คุณกลับมารักผมอีกครั้งได้ไหม?”

View More

Chapter 1

บทที่ 1

“เสียใจด้วยครับคุณชิง ลูกสาวของคุณเสียชีวิตเมื่อเวลาตีหนึ่งสิบสามนาทีของวันที่สิบห้า กุมภาพันธ์ หลังการช่วยชีวิตล้มเหลว”

ในมือของชิงอี้กำตุ๊กตากระต่ายตัวหนึ่งไว้แน่น ดวงตาจับจ้องไปยังห้องผ่าตัดอย่างเหม่อลอย

เธอเข้าไปส่งลูกสาวเป็นครั้งสุดท้าย

บนเตียงผ่าตัด ชิงอี้กุมมือน้อย ๆ ที่แห้งเหี่ยวของลูกสาวไว้

มันเย็นเฉียบไร้ซึ่งอุณหภูมิ

เธอจัดแต่งเส้นผมให้ลูกสาว

ในหัวของเธอดังก้องไปด้วยเสียงแผ่วเบาของลูกสาวก่อนที่จะถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉิน

“แม่คะ คุณอายังไม่มาอีกเหรอคะ?”

‘คุณอา’ ที่ลูกสาวเอ่ยถึง คือโจวเฉาหลี่ พ่อผู้ให้กำเนิดของเธอเอง เขาไม่เคยอนุญาตให้ลูกสาวเรียกเขาว่าพ่อ แต่กลับให้ลูกชายของรักแรกเขาเรียกพ่อได้

ความปรารถนาสูงสุดในวันเกิดของจือจือ คือการได้ฉลองกับพ่อ และหวังว่าพ่อจะอนุญาตให้เธอได้เรียกเขาว่าพ่อสักครั้ง

เนื่องจากจือจือมีภูมิคุ้มกันต่ำ เมื่อปีที่แล้วเธอต้องยืนรอโจวเฉาหลี่กลับมากินข้าวท่ามกลางลมหนาวจนเป็นไข้หวัดใหญ่และกลายเป็นโรคปอดบวม ปีนี้อาการของเธอก็ทรุดลงอย่างรวดเร็วจนต้องนอนโรงพยาบาลมาตลอด

และในวันนี้ ซึ่งเป็นวันในฤดูหนาวอันเย็นยะเยือกอีกครั้ง จือจือก็แอบเธอไปยืนรอโจวเฉาหลี่กลับมากินข้าวที่หน้าประตูบ้านอีก

หลังจากที่เธอหมดสติไป ชิงอี้ก็รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที

หมอออกหนังสือแจ้งภาวะวิกฤติ

ชิงอี้ขอร้องให้โจวเฉาหลี่กลับมาฉลองวันเกิดกับลูก

เขารับปากแล้ว

แต่เขาก็ผิดสัญญาอีกครั้ง

เธอกอดร่างเล็ก ๆ ที่ผ่ายผอมของลูกสาวไว้อย่างแผ่วเบา พลางกระซิบว่า “ลูกรัก... ลูกหลุดพ้นแล้วนะ”

ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานจากความเจ็บป่วยอีกต่อไป

ไม่ต้องถูกพ่อเกลียดชัง ไม่ต้องเฝ้ารอคอยความรักจากพ่อที่ไม่มีทางได้รับทุกวันอีกแล้ว

“แม่คะ ทำไมคุณอาไม่ให้หนูเรียกพ่อ แต่พี่ชายเรียกได้ล่ะคะ...”

“แม่คะ เป็นเพราะว่าน้าหร่วนชอบพี่ชาย พ่อถึงได้ชอบเขาใช่ไหมคะ...”

คำถามไร้เดียงสาเหล่านั้นของลูกสาว ราวกับยังคงดังก้องซ้ำไปซ้ำมาอยู่ข้างหูของเธอ

เธอที่อายุยังน้อยไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อถึงไม่ชอบตัวเอง ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงเรียกพ่อไม่ได้ คิดแค่ว่าตัวเองดีไม่เท่าพี่ชาย พ่อถึงได้ไม่รักตัวเอง...

หกปีก่อน เธอเกิดพลาดพลั้งกับโจวเฉาหลี่จนตั้งท้องจือจือ และต้องแต่งงานกันด้วยเหตุนี้

ตอนที่คลอดจือจือ เธอตกเลือดอย่างหนักเพราะคลอดยาก แต่เขากลับไม่เคยใส่ใจไถ่ถาม

เพราะโจวเฉาหลี่กำลังไปเฝ้าหร่วนหนิงถัง รักแรกของเขาที่กำลังคลอดลูกเช่นกัน ใครสำคัญกว่าใคร เห็นได้ชัดในทันที

หลังจากหร่วนหนิงถังคลอดลูกชาย เธอก็ทิ้งลูกไว้ให้โจวเฉาหลี่แล้วเดินทางไปต่างประเทศ หายตัวอย่างไร้ร่องรอย

ส่วนเธอที่รักโจวเฉาหลี่มานานหลายปี เพื่อเอาใจเขา จึงยอมรับลูกที่เกิดจากรักแรกของเขามาเลี้ยงดู และเธอก็เลี้ยงดูเด็กคนนั้นให้โตมาอย่างดีประดุจลูกแท้ ๆ ของตน

เขาไม่ให้จือจือเรียกพ่อ แต่กลับปฏิบัติต่อลูกของรักแรกราวกับของล้ำค่า นี่คือความแตกต่าง...

ตอนที่คลอดยากครั้งนั้น เธอน่าจะเข้าใจได้แล้วว่าหัวใจของผู้ชายก็เหมือนก้อนหิน ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่มีวันอบอุ่นขึ้นมาได้

ทั้ง ๆ ที่จือจือเกิดก่อนในช่วงเช้า แต่เขากลับจะให้ลูกชายของรักแรกเป็นพี่ และมอบสถานะหลานชายคนโตของตระกูลโจวให้เขา

จนกระทั่ง

ใคร ๆ ต่างก็คิดว่าเด็กคนนั้นคือลูกชายของโจวเฉาหลี่

ส่วนจือจือ เป็นแค่ลูกนอกสมรส!

หมอยืนอยู่ด้านหลัง มองแผ่นหลังที่สั่นเทาของเธออย่างหนักใจ “พ่อของเด็กยังไม่มาอีกเหรอครับ?”

ตั้งแต่ที่โจวอวิ๋นชูเข้ารักษาตัวจนถึงตอนนี้ ก็ไม่เคยเห็นเงาของพ่อเด็กเลย

แววตาของชิงอี้เย็นเยียบขึ้น ก่อนจะแค่นหัวเราะ “พ่อของเด็กน่ะเหรอ กำลังพาลูกนอกสมรสของเขาไปต่างประเทศเพื่อพบแม่แท้ ๆ แล้วก็จัดงานวันเกิดให้เขาอยู่”

เป็นแบบนี้ทุกปี

ส่วนเธอก็โง่เง่าเลี้ยงลูกให้คนอื่นมาสี่ปี

เด็กที่เกิดวันเดียวกัน แต่จือจือกลับได้รับเพียงความเย็นชาที่ไม่สิ้นสุด!

หมอชะงักไปครู่หนึ่ง มองผู้หญิงที่น่าสงสารตรงหน้าแล้วไม่รู้จะปลอบโยนอย่างไร

วันแรกที่จือจือจากไป ชิงอี้ก็จัดการเรื่องเอกสารทุกอย่างให้ลูก

เอกสารยืนยันขั้นตอนการเผาศพของเมืองเป่ย จำเป็นต้องมีลายเซ็นของพ่อและแม่

ชิงอี้กลับไปที่วิลล่าอ่าวท่าเรือเพื่อเก็บของของจือจือ

เสียงรถยนต์ดังขึ้นจากชั้นล่าง

“คุณพ่อครับ! คุณพ่อจะทิ้งแม่แล้วไปแต่งงานกับน้าหร่วนเมื่อไหร่ครับ ผมอยากให้น้าหร่วนเป็นแม่ของผม!”

โจวเฉาหลี่พาดเสื้อโค้ตไว้บนแขน ก้มลงไปหยิกแก้มของเด็กชาย “หนานหนาน ลูกเรียกน้าหร่วนว่าแม่ได้เลยนะ”

ชิงอี้ที่อยู่ชั้นบนได้ยินทุกอย่างชัดเจน

หัวใจของเธอเจ็บแปลบจนต้องหลับตาลงแล้วสูดหายใจเข้าลึก ๆ

“ไปให้แม่ของลูกอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ แล้วจะได้ไปงานเลี้ยงต้อนรับน้าหร่วนของลูก”

หนานหนานกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ “เย่!”

แต่แล้ววินาทีต่อมา ใบหน้าเล็ก ๆ ของหนานหนานก็สลดลง “แต่ว่า... ถ้าแม่รู้ แม่จะไม่ให้ผมไปหรือเปล่าครับ? ผมเกลียดแม่ที่สุดเลย แม่ไม่เคยให้ผมกินของข้างนอกเลย!”

โจวเฉาหลี่ลูบหัวของหนานหนานเป็นเชิงให้ท้าย “พ่ออยู่ตรงนี้ทั้งคน เธอไม่กล้าหรอก”

ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้น และสบตากับชิงอี้ที่กำลังเดินลงบันไดมาพอดี

ใบหน้าของเขาเรียบเฉย ก่อนจะเบือนสายตาหนีไปอย่างไม่รู้สึกรู้สา ราวกับมองไม่เห็นเธอ

หนานหนานวิ่งเข้าไปจับมือชิงอี้ “แม่ อาบน้ำให้ผมหน่อย เดี๋ยวผมจะออกไปข้างนอก”

ชิงอี้ชักมือกลับ แล้วเงยหน้ามองโจวเฉาหลี่ “คุณลืมอะไรไปหรือเปล่า?”

โจวเฉาหลี่เหลือบมองเธอชืด ๆ “อะไร?”

หลายปีมานี้ เขาเย็นชามาตลอด ทั้งกับเธอและกับจือจือ

ชิงอี้หัวเราะเยาะตัวเอง

ใช่สิ เขาจะไปจำได้ยังไงว่าจือจือกับหนานหนานเกิดวันเดียวกัน?

วันเกิดของหนานหนาน ทุกปีเขาจะพาไปฉลองกับหร่วนหนิงถังอย่างยิ่งใหญ่

ส่วนจือจือ ในทุก ๆ ปี ทำได้เพียงยืนรอพ่อที่ไม่เคยกลับบ้านท่ามกลางลมหนาว

“ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ”

โจวเฉาหลี่แค่นเสียง “วันนี้ไม่ว่าง”

“ไม่รบกวนเวลาคุณนานหรอก” ชิงอี้พูด “แค่เซ็นเอกสารสองฉบับ”

เธอยื่นแฟ้มเอกสารให้เขา พร้อมกับชี้จุดที่ต้องเซ็นชื่อ

โจวเฉาหลี่ดูรำคาญอย่างเห็นได้ชัด ราวกับว่าการอยู่กับเธอเพิ่มอีกแม้แต่วินาทีเดียวก็ทำให้เขาหงุดหงิด

เขาขมวดคิ้วแล้วตวัดลายเซ็นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะส่งเอกสารคืนให้เธอ

“คืนนี้ฉันกับหนานหนานจะอยู่ข้างนอก ไม่กลับ พรุ่งนี้เช้าให้จือจือไปลาครูให้หนานหนานครึ่งวันด้วย”

ชิงอี้กัดฟันกรอด นิ้วที่กำแฟ้มเอกสารบีบแน่นจนข้อขาวซีด

หากเพียงแต่เขาลองมองดูสักนิด

ก็จะเห็นว่าฉบับหนึ่งคือใบหย่า และอีกฉบับคือเอกสารเผาศพของจือจือ

แม้แต่การเซ็นเอกสารเขายังทำแบบขอไปที

“แล้วก็ บอกจือจือด้วยว่าไม่ต้องโทรมา”

ชิงอี้แค่นหัวเราะ

จือจือคงไม่โทรไปอีกแล้ว

และเธอก็จะไม่โทรไปอีกเช่นกัน

โจวเฉาหลี่มองท่าทีที่ผิดปกติไปของเธอ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ

เมื่อเห็นว่าใกล้จะถึงเวลาแล้ว ทางฝั่งหร่วนหนิงถังก็โทรมาถามว่าพวกเขาจะไปถึงเมื่อไหร่

หนานหนานยังไม่ได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก็เดินตามโจวเฉาหลี่ออกไป “คืนนี้จะให้คุณแม่คนใหม่อาบน้ำให้แล้วกัน”

ชายหนุ่มขานรับอย่างตามใจ

“ได้สิ”

ชิงอี้ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม มองแผ่นหลังของทั้งคู่ที่เดินจากไปเนิ่นนาน

เธอรวบรวมข้าวของทุกอย่างในบ้านที่เกี่ยวข้องกับเธอและจือจือออกมาเผาทิ้งทั้งหมด

จากนั้นก็เดินทางไปที่ฌาปนสถานเพื่อเผาศพของจือจือ

เมื่อได้รับเถ้ากระดูก

น้ำตาของชิงอี้ก็ไหลรินออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

“จือจือ รอแม่นะ อีกไม่นานแม่จะรีบตามไปอยู่เป็นเพื่อนลูก...”

อีกด้านหนึ่ง

โจวเฉาหลี่พาหนานหนานไปร่วมงานเลี้ยงต้อนรับการกลับประเทศของหร่วนหนิงถัง

ทั้งสามคนดูชื่นมื่นสนิทสนมราวกับเป็นครอบครัวเดียวกัน ทุกคนต่างชื่นชมว่าพวกเขาเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ และกล่าวหาว่าชิงอี้หน้าด้านยึดตำแหน่งคุณนายโจว ทำลายครอบครัวของพวกเขา

ในตอนนั้นเอง มีคนคนหนึ่งรีบแหวกฝูงชนเข้ามาหาโจวเฉาหลี่

“คุณโจวครับ ภรรยาและลูกสาวของคุณได้ทำพิธีเผาในวันนี้ ขอเชิญคุณไปรับเถ้ากระดูกที่ฌาปนสถานด้วยครับ”

โจวเฉาหลี่ไม่แม้แต่จะขมวดคิ้ว กลับพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เธอโตป่านนี้แล้ว คิดจะเล่นบทหึงหวงนี้ไปอีกนานแค่ไหน?”

“แต่ว่า คุณเป็นคนเซ็นเอกสารเผาศพด้วยตัวเองนะครับ แถมยังเซ็นใบหย่าด้วย...”

หัวใจของชายหนุ่มพลันหยุดเต้นไปชั่วขณะ “คุณว่าอะไรนะ”

โจวเฉาหลี่รีบขับรถไปยังฌาปนสถานทันที เขาไปถึงทันได้เห็นร่างของภรรยาและลูกสาวถูกผลักเข้าไปในเตาเผา

เพียงแค่ภาพนั้นภาพเดียว หัวใจของเขาก็ราวกับถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ

เจ้าหน้าที่ฌาปนสถานเห็นเพียงชายคนนั้นล้มลงไปกองกับพื้นดัง ‘ตุ้บ’...
Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
64 Chapters
บทที่ 1
“เสียใจด้วยครับคุณชิง ลูกสาวของคุณเสียชีวิตเมื่อเวลาตีหนึ่งสิบสามนาทีของวันที่สิบห้า กุมภาพันธ์ หลังการช่วยชีวิตล้มเหลว”ในมือของชิงอี้กำตุ๊กตากระต่ายตัวหนึ่งไว้แน่น ดวงตาจับจ้องไปยังห้องผ่าตัดอย่างเหม่อลอยเธอเข้าไปส่งลูกสาวเป็นครั้งสุดท้ายบนเตียงผ่าตัด ชิงอี้กุมมือน้อย ๆ ที่แห้งเหี่ยวของลูกสาวไว้มันเย็นเฉียบไร้ซึ่งอุณหภูมิเธอจัดแต่งเส้นผมให้ลูกสาวในหัวของเธอดังก้องไปด้วยเสียงแผ่วเบาของลูกสาวก่อนที่จะถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉิน“แม่คะ คุณอายังไม่มาอีกเหรอคะ?”‘คุณอา’ ที่ลูกสาวเอ่ยถึง คือโจวเฉาหลี่ พ่อผู้ให้กำเนิดของเธอเอง เขาไม่เคยอนุญาตให้ลูกสาวเรียกเขาว่าพ่อ แต่กลับให้ลูกชายของรักแรกเขาเรียกพ่อได้ความปรารถนาสูงสุดในวันเกิดของจือจือ คือการได้ฉลองกับพ่อ และหวังว่าพ่อจะอนุญาตให้เธอได้เรียกเขาว่าพ่อสักครั้งเนื่องจากจือจือมีภูมิคุ้มกันต่ำ เมื่อปีที่แล้วเธอต้องยืนรอโจวเฉาหลี่กลับมากินข้าวท่ามกลางลมหนาวจนเป็นไข้หวัดใหญ่และกลายเป็นโรคปอดบวม ปีนี้อาการของเธอก็ทรุดลงอย่างรวดเร็วจนต้องนอนโรงพยาบาลมาตลอดและในวันนี้ ซึ่งเป็นวันในฤดูหนาวอันเย็นยะเยือกอีกครั้ง จือจือก็แอบเธอไปยืนรอโ
Read more
บทที่ 2
“เพียะ...”มีของนุ่มนิ่มตกลงมาที่ข้างเท้าก้อนหนึ่ง ปลุกชิงอี้ที่กำลังเหม่อลอยให้ตื่นขึ้นเธอก้มลงมองอย่างงุนงง มันคือเค้กฟองดองสีฟ้า“คุณแม่ ผมบอกแล้วไงว่าไม่เอาเค้กวันเกิดที่แม่ทำ!” เสียงบ่นอย่างไม่พอใจของหนานหนานดังเข้ามาในหู เขาเงยหน้ามองชิงอี้ “ทั้งน่าเกลียดทั้งไม่อร่อย แม่ไม่เข้าใจที่ผมพูดเหรอ?”นี่เธอ...ชิงอี้สูดลมหายใจเย็นเยียบเธอกลับมาแล้ว?!เธอกลับมาแล้วจริง ๆ!กลับมาในงานวันเกิดของหนานหนานเมื่อหนึ่งปีก่อนหนานหนานยังคงพร่ำบ่นไม่หยุด “ผมจะกินเค้กที่น้าหร่วนทำ!”“แม่คะ จือจือว่าเค้กที่แม่ทำอร่อยมากเลยค่ะ หนานหนานไม่กิน จือจือกินคนเดียวก็ได้”เมื่อได้ยินเสียงนุ่มนวลของลูกสาวอีกครั้ง ชิงอี้ก็ก้มลงมองใบหน้าที่ยังเด็กและซูบผอมของลูกสาว น้ำตาบดบังสายตาของเธอเธอย่อตัวลง ประคองใบหน้าเล็ก ๆ ของลูกสาวเบา ๆ สัมผัสที่อบอุ่นและสมจริงทำให้เธอเชื่อว่า เธอกลับมาแล้วจริง ๆชาตินี้ เธอจะไม่ยอมให้ลูกสาวต้องเจ็บปวดอีกแม้แต่น้อย!จือจือมองไปที่หนานหนาน “พี่จะพูดกับแม่แบบนี้ไม่ได้นะ ไม่กลัวว่าต่อไปแม่จะไม่ทำเค้กให้พี่กินเหรอ?”“เธอกินเองเถอะ ฉันไม่ต้องการหรอก” หนานหนานพูดต่ออย่างไ
Read more
บทที่ 3
ตอนกลางคืน งานเลี้ยงวันเกิดได้จบลงหนานหนานยังคงกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขอยู่บนรถ เพราะว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก คืนนี้คุณแม่ไม่อยู่ และไม่มีใครคอยควบคุมเขา เขาจึงสามารถกินอะไรก็ได้ที่อยากกินในงานเลี้ยงวันเกิดแถมยังมีน้าหนิงถังคอยเอาใจเขาอีก ดีกว่าคุณแม่ตั้งเยอะแยะหลังจากที่รถมายบัคจอดลงตรงหน้าวิลล่าหนานหนานทำบุ้ยปาก จูงมือของโจวเฉาหลี่ลงจากรถอย่างไม่ค่อยเต็มใจนักทุกครั้งที่เขาออกไปเล่นข้างนอกเสร็จแล้ว ก็จะไม่อยากกลับบ้าน เพราะคุณแม่อยู่แต่น้าหนิงถังบอกว่า ต้องเคารพทุกผลงานทุกอย่างของคุณแม่ เขาต้องเชื่อฟังคำพูดของน้าหนิงถัง ครั้งหน้าถึงจะได้เล่นอะไรที่สนุกกว่านี้อีกเยอะ ๆคุณพ่อก็บอกว่าถ้าไม่เชื่อฟัง ครั้งหน้าจะไม่พาเขาไปเล่นกับน้าหนิงถังอีก ในที่สุดเขาจึงต้องกลับมาอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก“คุณพ่อครับ พรุ่งนี้ผมยังอยากเล่นกับน้าหนิงถังอีก อย่าให้น้าหนิงถังไปต่างประเทศเลยได้ไหมครับ? แบบนี้ต่อไปคุณแม่ก็จะไม่มาวุ่นวายกับผมแล้ว”โจวเฉาหลี่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ฟังไม่ออกว่ารู้สึกอย่างไร “อีกไม่นานเธอก็จะไปต่างประเทศสักพัก แล้วพอกลับมาก็จะไม่ไปไหนแล้ว จะอยู่เป็นเพ
Read more
บทที่ 4
โจวเฉาหลี่ได้ฟัง ก็ไม่ได้ขมวดคิ้วแม้แต่น้อย “รู้แล้ว”ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้ใส่ใจอารมณ์และความโกรธของชิงอี้เลยป้าจางก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เมื่อก่อนก็เคยมีเรื่องอาละวาดแบบนี้ แต่สุดท้ายคุณนายก็เป็นฝ่ายกลับมาเอาใจคุณผู้ชายเสมอส่วนหนานหนานที่ไม่ได้แช่น้ำนมอุ่นที่พอใจ ในที่สุดก็เป็นเพราะหร่วนหนิงถังมาคอยปลอบ บอกว่าวันมะรืนซึ่งเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์จะพาเขาไปดูงานนิทรรศการวิทยาการป้องกันประเทศด้านการบินและอวกาศ เขาถึงได้สงบลงเมื่อก่อนคุณแม่ไม่เคยอนุญาตให้เขาไปในที่สูง ๆ เลย แม้แต่สวนสนุกก็ไม่เคยพาไปเขารู้สึกว่าคุณแม่ก็แค่คนจน ไม่มีเงินเท่าน้าหนิงถังไม่อย่างนั้นคงไม่ให้ปากการาคาถูกเป็นของขวัญวันเกิด เค้กก็เป็นเค้กหน้าตาขี้เหร่ที่ทำเองแต่พอน้าหนิงถังลงมือ ก็พาเขาไปดูเครื่องบินและเครื่องบินรบของจริงเลย!เช้าตรู่วันรุ่งขึ้นหนานหนานตื่นนอนแล้วกระโดดโลดเต้นไปกินอาหารเช้าอาหารเช้าวันนี้คือโจ๊กทะเล เมื่อคืนเขาตั้งใจบอกให้ป้าจางทำให้เป็นพิเศษ ตอนที่คุณแม่อยู่ ไม่เคยให้เขากินอาหารทะเลเลย มีแต่จะคอยควบคุมเขาตอนนี้เขาอยากกินอะไรก็ได้กิน!ชิงอี้ตื่นแต่เช้า เตรียมอาหารที่มีประโยชน์ให้จือจือ
Read more
บทที่ 5
“ต่อไปนี้เรื่องของโจวอวิ๋นเหย่ กรุณาติดต่อพ่อของเขานะคะ” น้ำเสียงของชิงอี้สงบนิ่ง “ฉันไม่ใช่แม่ของเขา”คุณครูขมวดคิ้วแน่น คิดว่าเป็นเรื่องสามีภรรยาทะเลาะกัน พอโกรธขึ้นมาก็เลยไม่อยากจะสนใจลูกแล้ว“คุณแม่ของโจวอวิ๋นเหย่คะ ตอนนี้อาการของเด็กน่าเป็นห่วง ไม่ใช่เวลามางอนกันนะคะ รีบมาที่นี่โดยเร็วที่สุดเถอะค่ะ”“เดี๋ยวฉันจะส่งเบอร์โทรศัพท์ของพ่อเด็กไปให้นะคะ” เธอพูดจบก็วางสายไปทันทีจากนั้น เธอก็รีบส่งต่อเบอร์โทรศัพท์ของโจวเฉาหลี่ไปให้คุณครูทันทีตอนที่ลู่จินอันเห็นชิงอี้รับโทรศัพท์ เขาก็ลุกขึ้นหลบไปแล้วชิงอี้เงยหน้าขึ้นมองลู่จินอัน เขากำลังยืนมองทิวทัศน์ด้านล่างอยู่ที่หน้าต่างซึ่งอยู่ไม่ไกลนักเธอก้าวเท้าเดินเข้าไป “วันนี้ขอบคุณรุ่นพี่นะคะ”“คุยโทรศัพท์เสร็จแล้วเหรอ?”ชิงอี้พยักหน้าลู่จินอันมองเธออย่างจริงจัง “ชิงอี้ ยินดีต้อนรับกลับมานะ”เธอยิ้มจาง ๆ “งั้นรุ่นพี่ก็ช่วยภาวนาให้เรซูเม่ของฉันผ่านด้วยแล้วกัน”ข้อกำหนดของสถาบันห้าหนึ่งหนึ่งนั้นสูงมาก เธอห่างหายจากวงการนี้ไปนานมากแล้ว เรซูเม่ของเธออาจจะไม่ผ่านก็ได้ลู่จินอันพูดอยากล้อ “ถ้าไม่ผ่านจริง ๆ เดี๋ยวฉันรับเธอเข้ามาเป็นผู้ช
Read more
บทที่ 6
หร่วนหนิงถังหัวเราะออกมา “งั้นก็ต้องเป็นภรรยาของพ่อเธอสิ ถึงจะเป็นแม่ของเธอได้”“อยากให้พ่อเธอแต่งงานกับน้าไหมล่ะ?”หนานหนาน “เดี๋ยวผมจะให้พ่อหย่ากับแม่ แล้วให้น้ามาเป็นแม่ของผม!”ชิงอี้ได้ฟังก็แอบหัวเราะเยาะอยู่ในใจหนานหนานไม่รู้ว่า หร่วนหนิงถังก็คือแม่แท้ ๆ ของเขา เพียงแต่ตอนนั้นทิ้งเขาไว้ให้โจวเฉาหลี่เท่านั้นเองต้องยอมรับว่าผู้หญิงอย่างหร่วนหนิงถังคนนี้มีเล่ห์เหลี่ยม มีชั้นเชิง ทั้งรักษากิจการงานเรียนของตัวเองไว้ได้ และยังรั้งผู้ชายที่ตัวเองต้องการไว้ได้อีกด้วย“ผมก็นึกว่าคุณจะไม่มาโรงพยาบาลจริง ๆ ซะอีก”ด้านหลัง มีเสียงห่างเหินของชายคนหนึ่งดังขึ้น ฟังดูมีแววเย้ยหยันอยู่บ้างชิงอี้หันกลับไป ก็เห็นโจวเฉาหลี่ในชุดสูทสีดำ สง่างามและสูงส่งเหมือนเช่นเคยหากเป็นเมื่อก่อน เธอคงจะดีใจจนต้องเข้าไปเอาอกเอาใจเป็นแน่แต่ตอนนี้ เธอกลับขมวดคิ้วแน่นอย่างรุนแรงเมื่อได้เห็นเขาถ้าไม่ใช่เพราะเขาเมินเฉยต่อลูกสาวมาเป็นเวลานาน ชาติที่แล้วลูกสาวจะไปรอเขาในคืนที่หิมะตกได้อย่างไร จนกระทั่งลูกสาวเสียชีวิตด้วยโรคปอดบวมเพราะไข้สูง!วันนี้ที่โรงเรียนอนุบาล เขาก็ทิ้งลูกสาวที่ไข้สูงแล้วพาหนานหนานจา
Read more
บทที่ 7
เสียงอันเย็นชาของชายหนุ่มดังเข้ามาในหู ช่างเสียดแทงแก้วหูเป็นพิเศษชิงอี้หันกลับไป ก็สบเข้ากับดวงตาสีดำสนิทคู่นั้นของเขา เย็นชาและเฉยเมย แทบจะไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใด ๆเขายังคงเป็นเหมือนเดิม ไม่แยกแยะผิดชอบชั่วดี คิดว่าเธอและลูกสาวเป็นฝ่ายผิด และเข้าข้างหร่วนหนิงถังกับหนานหนานอย่างไม่มีเงื่อนไขโจวเฉาหลี่ไม่รอให้ชิงอี้ได้เอ่ยปากพูดอะไร สายตาก็มองตรงไปยังหร่วนหนิงถัง น้ำเสียงที่แข็งกระด้างอ่อนลงเล็กน้อย “เข้าไปกินข้าวเช้ากันเถอะ”เขาไม่แม้แต่จะมองจือจือสักแวบเดียว ก้าวเท้าตามพวกเขาเข้าไปในห้องผู้ป่วยโดยตรง แล้วปิดประตูห้องลงชิงอี้มองดูประตูห้องผู้ป่วยที่ถูกปิดลง กำหมัดแน่นจนเล็บแทบจะจิกเข้าไปในเนื้อเมื่อเผชิญกับท่าทีที่เย็นชาของโจวเฉาหลี่ แววตาของเธอก็ยิ่งเย็นชาลงไปอีกหลายส่วนเธอทนอยู่กับท่าทีเมินเฉยแบบนี้มาหลายปีได้อย่างไรกัน?คิดดูแล้วก็น่าขันถ้าหากเธอไม่ดึงดันที่จะได้รับการตอบสนองจากโจวเฉาหลี่ พาลูกสาวจากไปให้เร็วกว่านี้สักหน่อย บางทีชาติที่แล้ว ลูกสาวก็คงจะไม่ต้องพบกับโศกนาฏกรรมเช่นนั้น“คุณแม่คะ ตอนนี้หนูรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว วันนี้เราออกจากโรงพยาบาลกันเถอะค่ะ”ชิงอี้ก
Read more
บทที่ 8
หร่วนหนิงถังยังไม่ทันจะตั้งตัวชิงอี้ก็หันหลังกลับเข้าลิฟต์จากไปทันทีเธออยากจะพูดอะไรก็ไม่มีโอกาสได้พูด ได้แต่มองไปทางโจวเฉาหลี่ “เหล่าโจว ภรรยาของพี่นี่ดุดันจริง ๆ พี่รับมือไหวเหรอ? มิน่าล่ะหนานหนานถึงได้กลัวเธอ”“ดูเหมือนเธอจะโกรธนิดหน่อยนะ พี่ไม่ไปง้อหน่อยเหรอ?”โจวเฉาหลี่ละสายตาอย่างเรียบเฉย น้ำเสียงสงบนิ่ง “เดี๋ยวเธอสงบสติอารมณ์ได้แล้วก็ดีขึ้นเองนั่นแหละ”หร่วนหนิงถังยกมุมปากขึ้น ยิ้มจาง ๆ “พี่นี่ไม่กลัวภรรยาหนีไปจริง ๆ เลยนะ”ตกกลางคืนโจวเฉาหลี่กลับมาถึงบ้าน ในบ้านมืดสนิท ไม่ได้เปิดไฟหนานหนานไม่อยู่บ้าน ป้าจางไม่ต้องคอยรับใช้ ก็เลยว่างและเข้านอนแต่หัวค่ำตามปกติเขาเปิดไฟ ภายในห้องที่กว้างใหญ่ดูว่างเปล่าและเย็นเยียบเป็นพิเศษโจวเฉาหลี่เดินขึ้นไปชั้นบนตลอดทาง เข้าไปในห้องนอนใหญ่ ก็ว่างเปล่าเช่นกันนาน ๆ ครั้งเขาถึงจะกลับมาบ้านหลังนี้ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้สนใจว่าชิงอี้จะกลับมาหรือไม่ ตอนที่หันหลังกลับไปอาบน้ำในห้องน้ำ ก็เดินผ่านโต๊ะเครื่องแป้งของชิงอี้ไปโดยไม่มองแม้แต่แวบเดียวถ้าหากมองสักแวบหนึ่งก็จะเห็นเอกสารฉบับหนึ่งวางอยู่อย่างเงียบ ๆ บนนั้นสุดสัปดาห์งานนิทร
Read more
บทที่ 9
เฉินเซิ่งจ้องมองชิงอี้ด้วยสายตาดูแคลน “ไม่รู้จริง ๆ ว่าจะมาวุ่นวายอะไรที่นี่ มาเรียกร้องความสนใจต่อหน้านายหรือไง?”สายตาของโจวเฉาหลี่กวาดมองชิงอี้อย่างเรียบเฉย โดยไม่ได้พูดอะไรเมื่อเทียบกับหร่วนหนิงถังที่เป็นที่สนใจของทุกคนแล้ว ถึงแม้ชิงอี้จะมีหน้าตาสะสวยน่าทึ่ง แต่ก็เป็นแค่คนไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง เมื่อไปยืนอยู่ข้าง ๆ หร่วนหนิงถังที่เปล่งประกายเจิดจ้า ก็ยิ่งทำให้เธอดูด้อยค่าลงไปอีก“ฉันพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมนายถึงไม่ชอบกลับบ้าน ถ้าฉันเป็นนาย ฉันก็คงคิดว่าหนิงถังดีกว่า การศึกษาก็ดี ความสามารถก็สูง ตัวเองก็โดดเด่นแถมยังขยันพัฒนาตัวเอง ทุกอย่างล้วนเหนือกว่าชิงอี้ทั้งนั้น”“เธอทำเป็นแค่ผลาญเงินของนายอยู่ที่บ้าน ไม่ทำอะไรเลยสักอย่าง”เฉินเซิ่งเป็นคนในแวดวงเดียวกับโจวเฉาหลี่ ตั้งแต่ที่ทั้งสองแต่งงานกัน เขาก็ดูถูกชิงอี้มาจากก้นบึ้งของหัวใจผู้หญิงที่ใช้เล่ห์เหลี่ยมปีนขึ้นเตียงผู้ชาย จะดีได้สักแค่ไหนกันเชียว?ตอนนี้พอเห็นเธอหน้าด้านหน้าทนตามมาถึงที่นี่ ก็ยิ่งรู้สึกว่าไร้สาระสิ้นดี“นั่นเธอยังจะยืนดูสัมภาษณ์อะไรอีก? ฟังรู้เรื่องหรือไง? คนไม่รู้คงนึกว่าเธอจะเข้าวงการการบินกับเขาด้วยนะนั
Read more
บทที่ 10
กลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวบนร่างของโจวเฉาหลี่ทำให้จือจือตัวหดลง เธอเม้มปากเล็ก ๆ แล้วเปลี่ยนคำพูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้ “ขอบคุณค่ะคุณอา...”ขอบตาของเธอร้อนผ่าว รู้สึกน้อยใจเป็นอย่างมากแต่เธอก็กัดริมฝีปาก ดื้อรั้นไม่ยอมให้น้ำตาไหลออกมาเธอยังนึกว่า... พ่อจะยอมรับเธอแล้วเสียอีกชิงอี้ตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่ ตอนที่จือจือล้มไปในทิศทางตรงกันข้ามกับเธอ เธออยากจะเข้าไปรับในทันที แต่ระยะทางมันไกลเกินไปโชคดีที่ลูกสาวไม่เป็นอะไรเธอรับจือจือมาจากอ้อมแขนของโจวเฉาหลี่ แล้วปลอบโยนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ตกใจใช่ไหม? เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”จือจือส่ายหน้าเงียบ ๆแค่เพียงเอ่ยปาก เธอก็รู้สึกว่าตัวเองจะร้องไห้ออกมาแล้วหนานหนานยืนมองอยู่ข้าง ๆ ในใจรู้สึกไม่สบอารมณ์อยู่บ้างเมื่อก่อนแม่ก็เคยกอดเขาแบบนี้ ทั้งยังอ่อนโยนมากด้วยแม่ไม่ได้กลับบ้านมานานมากแล้ว และก็ไม่ได้กอดเขามานานมากแล้วเช่นกันลึก ๆ ในใจเขาก็แอบคิดถึงแม่อีกอย่างเมื่อกี้แม่บอกว่าเขาไม่มีแม่ เขาก็รู้สึกเสียใจนิดหน่อยแต่พอคิดดูอีกที แค่ไม่มีแม่ ก็ยังมีคุณน้าหนิงถังอยู่เป็นเพื่อน พอคิดแบบนี้แล้วก็รู้สึกว่าไม่ขาดทุนยังไงซะแม่ก็ไม่มีทา
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status