“อ้าว 2 สาวล่ะครับ” ชยกรกลับมาจากสูบบุหรี่ไม่เห็นชมพูแพรก็มีสีหน้าไม่พอใจ
“นู่นค่ะ” ปรางค์วลัยชี้ไปที่เพื่อนสาวทั้งสองคนที่เต้นกันอย่างสนุกสนาน
“ไอ้หมอ” เมฆาที่เพิ่งมาถึงเดินเข้ามาตบบ่าชยกรเป็นการบอกว่าเขามา
“อะไรไอ้หมอ” เขาย้อนเพื่อนพร้อมกับมองไปที่หญิงสาวตัวเล็กตาวาว
“จะมาไม่บอกเพื่อนนะมึง” เมฆาที่มัวแต่คุยไม่ทันได้หันไปมองรอบข้าง
“คำสั่งเมีย” ชยกรบอกเสียงเรียบ
“กูล่ะหมั่นไส้คนหลงเมีย” เมฆาแขวะเพื่อนด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะมองไปที่โซฟาก็เห็นว่าปรางค์วลัยนั่งอยู่ ก็หน้าเหวอไป
“ไง” ปรางค์วลัยทักเมฆาสีหน้าเรียบเฉย
“เฮ้ย ยัยปลาการ์ตูน มาได้ยังไง” เมฆาที่เห็นปรางค์วลัยก็โวยวาย
“ฉันมากับเพื่อนฉันเหอะน่า”
“เดี๋ยวนะ สองคนนี้รู้จักกันเหรอ” ชยกรถามเมื่อได้ยินทั้งสองคนคุยกัน
“พี่ชายข้างบ้านค่ะ แต่ไม่ได้นับถือเป็นพี่ เพราะมันมั่วผู้หญิง” ปรางค์วลัยบอกชยกรแล้วยิ้มให้
“ยัยปากจัด” เมฆาแขวะปรางค์วลัย แต่หญิงสาวก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“อย่าฆ่ากันตายล่ะ เดี๋ยวมา” ชยกรหมุนตัวเดินออกไป ปล่อยให้เมฆากับปรางค์วลัยเถียงกันอยู่แบบนั้น
ทางด้านชมพูแพรกับพศินที่ออกมาเต้นกันอย่างสนุกสนานก็ไม่ได้สนใจว่าใครจะเข้ามาใกล้หรือมีใครมอง เพราะพวกเธอแค่มาเต้นมาสนุกสนานกัน จนเมื่อพศินเห็นชยกรเข้ามาใกล้ก็ขยับออกห่างจากเพื่อนสาวเล็กน้อย ให้เขาเข้ามาแทนที่
“ซนจังนะ” ชายหนุ่มมองเธอตาเขียว
“อ้าว ก็มาเที่ยวมาสนุกนี่คะ จะให้นั่งอยู่เฉยๆ ได้ยังไง” ชมพูแพรเถียงแล้วมองเขาตาหวาน
“ทำไมดื้อจัง”
“ชมพูไม่ดื้อนะ”
“ไม่ดื้อก็กลับโต๊ะ เมฆมาถึงแล้ว”
“ก็ได้ค่ะ” หญิงสาวหน้าเบ้ แต่ก็ยอมเดินกลับโต๊ะตามที่เขาพาเธอไปแต่โดยดี
เมื่อกลับมาถึงที่โต๊ะ ชมพูแพรก็เห็นปรางค์วลัยกับเมฆากำลังเถียงกันหน้าดำหน้าแดง หญิงสาวมองชยกรอย่างไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“สองคนนี้รู้จักกันน่ะ”
“หะ”
หญิงสาวตกใจ แต่ก็ต้องรีบเข้าไปห้ามทัพ เมื่อทั้งสองคนทำท่าจะทะเลาะกันใหญ่โต ปรางค์วลัยยอมสงบลงเมื่อชมพูแพรห้ามเอาไว้ เช่นเดียวกับเมฆาที่ยอมหยุดโวยวายเมื่อเห็นสายตาของชยกร
“เอาล่ะ เกิดอะไรขึ้นเนี่ย” ชมพูแพรถามเมื่อจับทั้งคู่แยกกันได้โดยมีเธอกับชยกรนั่งคั่นกลาง
“ไม่มีอะไรหรอก” ปรางค์วลัยพูดตัดจบแล้วยกแก้วขึ้นจรดริมฝีปาก
“งั้นจบนะ จะตีกันก็ไปตีกันนอกรอบ” หญิงสาวตัวเล็กสรุปให้
“อือ” ปรางค์วลัยส่งสายตามองเมฆาอย่างคาดโทษ
“เออๆ จบก็จบ กลับบ้านเจอกัน ยัยปากจัด”
“ไอ้หมอเมฆ” ชยกรเรียกเพื่อนเสียงเข้มเมื่อเพื่อนเป็นฝ่ายเริ่มก่อน
“ครับ จบครับ” เมฆายอมเงียบเสียงลงแต่โดยดี
พศินเดินกลับมาที่โต๊ะพร้อมกับหนุ่มหล่อชาวต่างชาติ ก็แปลกใจเมื่อเห็นบรรยากาศบนโต๊ะที่ยังมีกลิ่นมาคุ
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ”
“ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่หิ้วหนุ่มที่ไหนมาเนี่ย” ชมพูแพรถามพศินพลางยิ้มรับผู้มาใหม่
“เพื่อนใหม่จ้ะ รู้จักกันเมื่อกี๊เลย”
“สวัสดีครับ ผมชื่อเบน”
พศินบอกเพื่อนๆ พร้อมกับที่ชายหนุ่มตาน้ำข้าวผู้มาใหม่แนะนำตัวเอง แล้วจับมือกับชยกร เมื่อเขาทั้งคู่รู้จักกันดี
“ยินดีต้อนรับกลับมา” ชยกรยิ้มทักทาย
“ดีใจที่ได้กลับมา” เบนเองก็ยิ้มให้เขาเช่นกัน
“รู้จักกันเหรอคะ” พศินถามทั้งสองคนสีหน้าแปลกใจ
“เพื่อนกันตอนเรียนไฮสคูลครับ” ชยกรบอก คลายความสงสัยของทุกคน
“เออ โลกกลมดีแหะ เดี๋ยวนะ ขอไล่เลียงหน่อย คุณหมอหนึ่งเป็นผัวยัยชมพู ยัยชมพูเป็นเพื่อนฉันกับยัยตูน ฉันบังเอิญรู้จักเบน เบนเป็นเพื่อนหมอหนึ่ง” พศินสรุปงงๆ
“และหมอเมฆเป็นเพื่อนพี่หนึ่ง ที่บังเอิญรู้จักกับยัยตูนด้วย” ชมพูแพรสรุปต่อให้ยิ้มๆ
“แล้วก็รู้จักเบนด้วย เพราะเรียนด้วยกันทั้งสามคนเลย” ชยกรต่อให้จนจบ
“เออ โลกกลมเว่อร์ นั่งด้วยกันไหมคะเบน” พศินมองหน้าทุกคนเหลอหลา ก่อนที่จะชวนเบนให้นั่งร่วมโต๊ะด้วยกัน
“ด้วยความยินดีครับ” เบนนั่งลงข้างเมฆา ส่วนพศินนั่งลงข้างปรางค์วลัย
หลังจากทำความรู้จักกันและพูดคุยกันอยู่จนดึก ชยกรก็ขอตัวพาชมพูแพรกลับก่อน เพราะหญิงสาวเริ่มเมา ก่อนที่จะแยกออกมา
เมื่อกลับมาถึงที่คอนโด ชยกรก็แทบจะหิ้วชมพูแพรขึ้นมาที่ห้อง เพราะหญิงสาวไม่ยอมให้เขาอุ้ม เธอโซเซมาทิ้งตัวนอนบนโซฟา
“ชมพูง่วง อยากนอนแล้ว”
“ไปอาบน้ำก่อน เหม็นเหล้า”
“ทีพี่หนึ่งยังมีกลิ่นบุหรี่เลย”
“พี่ก็อาบน้ำก่อนนอนไง กลิ่นจะได้ไม่ติดที่นอน ไปอาบน้ำเลยคนสวย”
“ไม่ไป ขี้เกียจ”
“ไม่ไปพี่อาบให้เองนะ” ชยกรขู่หญิงสาวเมื่อเห็นว่าเธอไม่ยอมลุกแน่ๆ
“ไม่สน ว้าย.....”
ชมพูแพรไม่สนอะไรทั้งนั้น เธอทำท่าจะหลับอย่างเดียว แต่ก็ต้องร้องวี้ดแล้วลืมตาขึ้นมามอง เมื่อเธอถูกเขาอุ้มตัวลอยแล้วเดินตรงไปที่ห้องน้ำ
“แน่ใจนะว่าจะไม่อาบเอง”
“อาบเองก็ได้ค่ะ”
หญิงสาวเป็นฝ่ายยอมแพ้ เมื่อเขาวางเธอที่พื้นใต้ฝักบัว ก่อนจะรูดซิบชุดเดรสที่ด้านหลังให้เธอให้จนถึงเอว มือเล็กจับชุดด้านหน้าเอาไว้ไม่ให้มันหลุด
“อาบน้ำให้เรียบร้อย เดี๋ยวพี่เอาผ้าเช็ดตัวกับชุดนอนมาแขวนไว้ให้หน้าประตู ถ้าพี่กลับมาแล้วยังอาบไม่เสร็จ พี่จะเข้ามาอาบให้เอง” ชายหนุ่มบอกเสียงเข้มก่อนจะออกจากห้องน้ำไปท่ามกลางความโล่งใจของชมพูแพร
ชยกรกลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องของตนเอง แต่ก็ยังไม่วายเปิดประตูระเบียงออกไปสูบบุหรี่ก่อน จนเมื่อเขากลับเข้ามาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ก็ตั้งใจจะหยิบโทรศัพท์เพื่อไปนอนที่ห้องชมพูแพร แต่ก็เปลี่ยนใจแล้ววางโทรศัพท์ไว้ตามเดิมแล้วเดินออกไปมือเปล่า โดยเอาผ้ามาขวางประตูเอาไว้ไม่ให้มันปิด
เมื่อเขาเข้ามาในห้องหญิงสาวก็ตรงเข้าไปที่ห้องนอน เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กอยู่ในชุดนอนภายใต้ผ้าห่มก็อมยิ้ม ก้าวเท้าเข้าไปยืนข้างเตียงแล้วตวัดผ้าห่มออก
“ไปนอนห้องนู้น”
“ไม่ไปค่ะ” หญิงสาวปฏิเสธแบบไม่ต้องคิด
“ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธครับ”
เขาหยิบรีโมทมากดปิดแอร์แล้ววางลง อ้อมแขนแข็งแรงช้อนอุ้มร่างเล็กลอยขึ้น แล้วให้แขนดันสวิตช์ไฟให้ปิดลง ก่อนจะเดินออกจากห้องไปโดยไม่ลืมปิดไฟด้านนอกให้เรียบร้อย
หลังจากพาหญิงสาวเข้ามาในห้องของตัวเองก็เดินตรงเข้าไปวางร่างเล็กในห้องนอน ชมพูแพรนั่งตัวเกร็งจนเขารู้สึกได้
“ไม่ต้องกลัว ไม่ทำอะไรหรอก เราแค่เริ่มไม่เหมือนคนอื่น แต่เราเริ่มไปแล้ว มันถอยไม่ได้ แล้วพี่ก็จะไม่ถอย” รอยยิ้มอบอุ่นถูกส่งให้หญิงสาว เมื่อเธอมองเขาตาไม่กะพริบ
“พามาทำไมคะ”
“แค่อยากอยู่ด้วยครับ สงสัยเราจะได้ตกลงกันใหม่นะ”
“ตกลงอะไรคะ”
“ก็ตกลงว่าเราจะสลับกันอยู่ ดีไหม บางวันนอนห้องชมพู บางวันนอนห้องพี่ แล้วก็ชมพูย้ายไปอยู่ในห้องนอนใหญ่ได้แล้ว ห้องเล็กทำเป็นห้องแต่งตัวน่าจะดีกว่า”
“.....” ชมพูแพรมองเขานิ่ง
“เอาตามนี้นะ พี่ออกไปปิดไฟข้างนอกก่อน”
ชยกรพูดจบก็ลุกออกไปปิดไฟด้านนอก ก่อนจะกลับเข้ามาในห้องนอน เปิดโคมไฟบนหัวเตียง ปิดไฟดวงใหญ่ แล้วถึงขึ้นไปบนเตียงนอน
ชมพูแพรยังนั่งมองเขานิ่ง จนชายหนุ่มต้องรวบตัวเธอเข้ามาใกล้ แล้วยกหญิงสาวขึ้นมานั่งคร่อมบนตัก ส่วนตัวเขาก็หยิบหมอนมาซ้อนกันแล้วเอนกายพิงหัวเตียง
“.....อะไรคะ”
“ก็เห็นมองจ้องขนาดนั้น มีอะไรจะถามล่ะ”
“ไม่มีค่ะ”
“แน่ใจนะ”
“.....”
“พี่ไม่เคยพาใครมาที่นี่ ที่บ้านด้วย พี่เป็นคนรักสันโดษ รักความเป็นส่วนตัว ถ้าจะถามว่ามีเรื่องผู้หญิงไหม ก็มีเหมือนผู้ชายทั่วไป แต่จะกินเป็นครั้งคราวแล้วจบ ไม่เคยต่อ ไม่เคยทำความรู้จัก ไม่มีคืนที่ 2 ไม่เคยมาคอยตามใคร”
“แล้วทำไมถึงมาตามชมพู”
“ชมพูอาจจะไม่รู้ตัว แต่คืนนั้น พี่เป็นคนเข้าหาชมพูก่อน”
“.....” หญิงสาวขมวดคิ้ว มองสบตาเขาด้วยความไม่เข้าใจ
“ที่ชมพูหันมาชนพี่ ก็เพราะพี่เดินเข้าไปหาชมพู และห้องนั้นก็ไม่เคยมีใครได้ขึ้นไป ชมพูเป็นคนแรก เพราะห้องนั้นเป็นห้องนอนของพี่”
“ไม่เข้าใจ”
“ก็พูดง่ายๆ คือเป็นความตั้งใจของพี่ ทุกอย่าง ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”
“ขี้โกงนี่”
“เปล่านะ แต่ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้มาแบบนี้ไง”
“นั่นแหละ เรียกขี้โกง ทำไมไม่ทำความรู้จักดีๆ”
“ไม่เอา เสียเวลา ข้ามขั้นเลย เอาก่อน ค่อยมาทำความรู้จักทีหลังก็ได้”
“.....แล้วถ้าพี่ไม่ใช่คนแรกของชมพูล่ะ”
“ก็ไม่เห็นเป็นอะไร แค่เป็นชมพูก็พอ”
“ขี้โกงสุดๆ”
“เปล่านะ”
“แล้วถ้าวันนั้นชมพูไม่ได้ไปโรงพยาบาล พี่ก็ไม่เจอชมพูอีกครั้งอยู่ดี”
“ใครว่าล่ะ ตั้งใจจะเปิดกล้องวงจรปิดแล้วให้ลูกน้องไปสืบหาตัวอยู่แล้ว สำหรับพี่มันไม่ยากหรอก ถ้าหากจะตามหา”
“ขี้โกง”
“ยอมรับก็ได้ว่าโกง แต่ถ้าไม่โกงก็ไม่ได้ชมพูมาอยู่ตรงนี้นะ”
“.....”
หญิงสาวเบะปากอย่างหมั่นไส้ ชยกรเห็นก็โอบแผ่นหลังบาง โน้มให้เธอเอนตัวเข้ามาใกล้ ชมพูแพรรีบท้าวมือกับหัวเตียงเอาไว้
“ชมพูบอกว่าจำอะไรไม่ได้ใช่ไหม คืนนั้น”
“.....จำไม่ได้ค่ะ เมามากไปหน่อย” หญิงสาวยอมรับตามตรง
“แล้วเช้าวันนั้นเป็นยังไงบ้าง”
“ยับเยินค่ะ ระบมไปทั้งตัว โชคดีที่เข้างาน 9 โมง เลยหาซื้อยากินได้ทัน”
“ทบทวนความจำหน่อยไหม” ชายหนุ่มยิ้มกรุ้มกริ่ม
“รอยยังไม่จางเลยค่ะ ทั้งตัวเลยนะคะ”
“ก็ทำทั้งตัว มันก็ต้องมีรอยทั้งตัวสิ ตรงนั้นก็มีรอยนะ”
“.....” ใบหน้าหวานขึ้นสีเมื่อเขาพูดหน้าตาเฉย ใช่.....ตรงนั้นของเธอมีรอยดูดอยู่จริงๆ
“โรคจิต ใครเขาไปดูดตรงนั้นกันล่ะคะ”
“ดูดได้ทุกที่แหละ แล้วก็ดูดชมพูทุกที่แล้วด้วย ร่างกายของชมพูไม่เป็นความลับสำหรับพี่ กินมาทั้งตัวแล้ว”
ชมพูแพรพูดไม่ออก วันนั้นเธอเมาจนจำอะไรไม่ได้จริงๆ แล้วหลังจากที่เจอกันชยกรก็สุภาพกับเธอมาก เลยไม่ได้คิดว่าเขาจะพูดตรงแบบนี้
“ผู้ชายมันก็มีมุมที่ดิบเถื่อนเหมือนกันหมดแหละ คนสวย”
พูดจบฝ่ามือหนาก็จับที่ต้นคอระหง ล็อกให้หญิงสาวขยับหนีไม่ได้ ก่อนที่เขาจะขยับนั่งตัวตรง แนบริมฝีปากลงบนลำคอขาวด้วยความรวดเร็วจนเธอไม่ทันได้ตั้งตัว
คนตัวเล็กถูกอุ้มมาวางที่พื้นใต้ฝักบัว มือหนาเปิดน้ำให้ไหลลงมาชำระล้างคราบเหงื่อไคล มือใหญ่ลูบไล้เรือนกายบอบบาง ปลายนิ้วเขี่ยปลายยอดดอกบัวตูมอวบเล่นจนมันเป็นไต“พอแล้วค่ะ หมดแรงแล้วนะคะ” เจ้าของร่างบางจับมือหนาของสามี พึมพำพูดเบาๆ ตาใกล้จะปิดลงเต็มทีชยกรก้มลงอ้าปากงับปลายยอดสีชมพูสวยเบาๆ ลิ้นหนาไล้วนรอบๆ มือบีบเคล้นดอกบัวตูมอวบใหญ่ล้นมือรุนแรงจนเป็นรอยมืออีกข้างที่ว่างอยู่เคลื่อนลงไปที่ช่องทางชื้นแฉะ สอดลึกเข้าไปข้างในทีเดียว 2 นิ้ว ทำให้สายธารขาวขุ่นที่ยังค้างอยู่ข้างในไหลออกมาตามเรียวขาสวย“อื้ออออ” ร่างบางหงายเอนศีรษะ หลับตาครางเสียงแผ่ว“อีกสักรอบนะคะ” ฝ่ามืออบอุ่นเอื้อมปิดน้ำ ช้อนอุ้มร่างเล็กขึ้นพิงหลังกับผนัง แขนแกร่งช้อนใต้ขาเรียว พร้อมกับดันแก่นกายร้อนเข้าไปทีเดียวสุดลำในท่าอุ้มแตง“อ๊ายยยย” ชมพูแพรหวีดร้องเสียงดัง แขนคล้องคอหนาช่วยพยุงตัวเองใบหน้าหล่อเหลาโน้มตัวก้มหน้าไปแนบจุมพิตเร่าร้อน ลิ้นหนาสำรวจโพรงปากนุ่มจนทั่ว กระหวัดเกี่ยวลิ้นเล็กปลุกเร้าอารมณ์ สะโพกสอบขยับโยกเบาๆหญิงสาวร้องครางในลำคอ ท่านี้ลำเนื้อของเขาเข้าไปลึก จนเธอเสียววูบวาบไปทั้งตัว ในช่องท้องแน่นจนอึดอัด“รว
“ออกัสล่ะคะ” ชมพูแพรเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่เธอออกมาจากห้องน้ำ แล้วเจอสามีนั่งอยู่ในห้อง“หลับไปแล้วค่ะ” ชยกรบอกภรรยาสาวก่อนจะลุกไปโอบเอวบางเอาไว้หลวมๆหลังจากคลอดออกัสได้ไม่นาน รูปร่างของชมพูแพรก็เข้าที่อย่างรวดเร็ว อาจจะเพราะเธอดูแลลูกชายด้วยตัวเอง มีพี่เลี้ยงคอยช่วยหยิบจับบ้างเล็กน้อย กับนอนเป็นเพื่อนหนูน้อยยามค่ำคืนเท่านั้น“ชมพู ออกัส 3 ขวบแล้วนะ” มือหนาหมุนร่างคนตัวเล็กให้หันหน้ามาหาเขา ก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงอ้อนๆ“ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”“พี่ว่ามีน้องให้ออกัสได้แล้วมั้งคะ ออกัสจะได้มีเพื่อนไง”“แต่ออกัสยังเด็กอยู่เลย ถ้ามีน้องให้ออกัส ชมพูก็ต้องแบ่งเวลาให้น้อง ชมพูกลัวออกัสจะน้อยใจค่ะ”“ไม่หรอก พี่ว่าชมพูคิดมากไปนะ”“แต่.....”“ไม่แต่แล้วครับ ออกัสอยากมีน้องแล้วนะ”ชยกรช้อนอุ้มร่างบางที่สัดส่วนเต็มล้นขึ้นเดินตรงไปที่เตียง วางหญิงสาวลงเบาๆ ก่อนจะกระตุกกระโปรงชุดนอนตัวบางขึ้นเล็กน้อย ปลายนิ้วเกี่ยวแพนตี้ตัวจิ๋วออกอย่างรวดเร็ว“พี่หนึ่ง” เสียงหวานใสเอ่ยเรียกตั้งใจจะปรามสามี แต่ขาเรียวแยกออกจากกัน“ว่ายังไงคะ” ชยกรซุกใบหน้าลงดอมดมดอกไม้งามตรงหน้าอย่างหลงใหลลิ้นหนาร้อนผ่าวไล้เลียเกสรสีสวย
พยาบาลหลายคนที่เห็นภาพตรงหน้าต่างปิดปากด้วยความปลื้ม พวกเขาไม่ได้คิดว่าหญิงสาวคนนี้คือภรรยาของชยกร บุตรชายเพียงคนเดียวของเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้เมื่อถึงเวลาเข้าห้องคลอด หลังจากที่ทำการบล็อกหลังเรียบร้อย ชยกรก็ถูกตามเข้ามาในห้องคลอด เขามีอาการตื่นเต้นเมื่อเห็นภรรยาสาวกำลังนอนรอคลอดอยู่บนเตียงร่างสูงเดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้ตรงเหนือศีรษะภรรยาสาวที่พยาบาลจัดเตรียมเอาไว้ให้ มือข้างที่ไม่ได้ติดที่วัดหัวใจกับที่วัดความดันสอดประสานจับมือใหญ่เอาไว้แน่น จนเมื่อหมอเข้ามาและทำการทดสอบว่ายาออกฤทธิ์เรียบร้อยแล้ว จึงเริ่มทำการผ่าคลอด“เป็นยังไงบ้างคะ”“คลื่นไส้ค่ะ”“อดทนอีกนิดเดียวนะ”“ค่ะ”ชมพูแพรเริ่มหน้าซีดเมื่ออยู่ๆ เธอก็มีอาการเวียนหัวรุนแรงและเริ่มหายใจไม่ออก“พี่หนึ่ง ชมพูหายใจไม่ออก”“แป๊บนะ คุณพยาบาลครับ คุณแม่หายใจไม่ออกครับ”“สักครู่นะคะ” พยาบาลหันไปมองหน้าจอแสดงผลของเครื่องต่างๆ ที่ติดตามตัวหญิงสาว ก่อนจะหยิบหน้ากากออกซิเจนมาและใส่ให้เธอ“คุณแม่ใส่หน้ากากออกซิเจนหน่อยนะคะ”หญิงสาวพยักหน้าและหลับตาลง เธอรับรู้แค่เพียงว่ามือของสามีกำลังบีบมือเธออยู่ ข้างใบหูของเธอมีเสียงกระซิบให้กำลังใจไ
เช้าวันต่อมา ชมพูแพรตื่นมาพร้อมกับอาการปวดเมื่อยตัวจากการรับศึกหนัก ยามที่เธอยังไม่ได้ตั้งครรภ์ก็ไม่ได้อ่อนเพลียขนาดนี้ อีกวันเธอยังสามารถลุกไปทำงานไหว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะอ่อนล้าไปหมด“ตื่นแล้วเหรอคะ”“.....” ดวงตากลมโตมองค้อนสามีด้วยความหมั่นไส้ เพราะเขาเล่นงานจนเธอแทบจะหลับคาอกเขาด้วยซ้ำ“อย่าเพิ่งงอนพี่เลยนะคะ กินข้าวเช้าบำรุงตัวเล็กก่อนค่อยงอนต่อนะ”“มันน่างอนนานๆนะคะ”“เอาน่า มาฮันนีมูนนะคะ จะขาดได้ยังไง”“ก็เกินไปค่ะ”“พี่ไม่ได้มีเวลาพาชมพูไปเที่ยวบ่อยนี่คะ สงสารพี่เถอะนะ”“ไม่ค่ะ”“ใจร้ายจัง เอาล่ะ ลุกมากินข้าวก่อนค่อยงอนต่อนะคะคนสวย”หญิงสาวถอนหายใจกับความมึนของสามี แต่ก็ยอมลงจากเตียงแล้วไปกินข้าวเช้าตามที่เขาบอกแต่โดยดี โดยมีสามีหนุ่มใส่เสื้อผ้าให้เธอหลังจากที่ก้าวเท้ามายืนชยกรพาหญิงสาวลงมากินข้าวที่ชั้นล่าง นั่งดื่มกาแฟเป็นเพื่อนเธอจนกระทั่งกินข้าวเสร็จ จึงเก็บล้างจานแล้วพากันออกไปเดินเล่นสองหนุ่มสาวเดินไปริมชายหาด ที่ที่เขาและเธอคิดว่ามันสวยที่สุด ท้องฟ้าเป็นสีคราม สวยงามอย่างที่หาได้น้อยครั้งจากในเมืองมือใหญ่จับจูงมือเล็กเดินเคียงข้างกัน ชยกรกับชมพูแพรยิ้มให้กันด้
วงแขนเรียวคว้าคอหนาเอาไว้แน่น เมื่อร่างเธอถูกอุ้มขึ้นโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว ชยกรก้าวเท้าออกจากอ่างอาบน้ำมายืนหน้ากระจกบานใหญ่ตรงบริเวณพื้นที่อาบน้ำใต้ฝักบัวที่ส่องเห็นทั้งตัวภายในห้องน้ำ โดยที่ลำกายยังฝังอยู่ในช่องทางคับแน่นชมพูแพรหวีดเสียงแหลมเมื่อยามที่สามีก้าวเดิน มันเสียววูบจนเธอแหงนหน้ากัดปาก จิกเล็บลงบนท่อนแขนแน่น“ลองดูสิคะ สวยนะ ภาพที่มันกำลังอยู่ข้างใน” ดวงตากลมโตปรือขึ้นมองภาพในกระจกเป็นภาพที่ผู้หญิงคนหนึ่งโดนอุ้มกระเตงจากทางด้านหลัง ขาอ้าออกกว้างมีแขนสอดรับใต้ข้อพับขา โดยมีแท่งเนื้ออวบใหญ่สอดใส่คาอยู่ในร่างกาย กลีบดอกไม้คลี่ออกจากกันตามขนาดของลำเนื้อแข็งขึง ใบหน้าหวานแดงก่ำ ปรือตากัดปาก ราวกับเจนจัดเรื่องบนเตียง“ให้ตายเถอะ ยั่วเก่งจัง” เสียงนุ่มนวลครางกระเส่ากับภาพตรงหน้าเขาถอดถอนตัวเองออก ขยับร่างบางวางลงยืนกับพื้น จับสะโพกกลมให้แอ่นลอยขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะจับท่อนเนื้อลำใหญ่จ่อไปที่ปากทางคับแคบ หญิงสาวครางในลำคอ ก่อนจะร้องวี้ดออกมา เมื่อเขากดกระแทกท่อนเนื้อเข้าไปทีเดียวมิดลำ“อ๊ายยย เบาหน่อยค่ะ มันจุก”ร่างสูงย่อขาลง แอ่นสะโพกสอบในท่างัดขึ้นให้ปลายหัวหยักครูดกับข้างใน
หลายเดือนผ่านไป หลังจากที่เสร็จสิ้นพิธีหมั้นและงานเลี้ยงฉลองแต่งงาน บ้านที่ชมพูแพรกับชยกรปลูกเอาไว้ก็เสร็จพอดี ทั้งสองคนย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านใหม่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลมากนัก ส่วนชมพูแพรก็ลาออกจากงานตามที่สามีและครอบครัวร้องขอหญิงสาวตามเขาไปโรงพยาบาลเกือบทุกวัน ส่วนใหญ่ก็ไปช่วยจัดการเรื่องเอกสารรวมถึงแปลงานจากหนังสือวิจัยที่อยู่ในงานที่ต้องทำของเขาด้วยชมพูแพรเป็นผู้หญิงรูปร่างบาง หน้าท้องของเธอจึงยังไม่นูนออกถึงแม้ว่าเธอจะตั้งครรภ์ได้ 16 สัปดาห์แล้วก็ตาม ยามที่เธอออกไปข้างนอกจะไม่มีใครมองออกเลยว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ หญิงสาวจึงต้องติดเข็มกลัดเอาไว้เพื่อความปลอดภัย“ไปไหนคะ” ชมพูแพรถามเขาหลังจากที่รถยนต์คันหรูเคลื่อนออกมาจากลานจอดรถของโรงพยาบาล แต่ไม่ได้ตรงกลับบ้านเหมือนดังเช่นทุกวัน“ไปฮันนีมูนค่ะ” เขาบอกเธอพร้อมกับยิ้มอบอุ่น“หืม พี่หนึ่งทำงานเกือบทุกวัน จะไปทำไมคะ น่าจะพักเหนื่อย”“ไม่ได้สิคะ พี่ก็อยากพาเมียพี่ไปเที่ยวบ้าง อยู่แต่บ้านกับโรงพยาบาล เดี๋ยวจะพาลเบื่อพี่เสียก่อน”“.....”“ล้อเล่นจ้ะ พี่เห็นชมพูไม่ได้ไปไหนนานแล้ว เลยจะพาไปเที่ยว”“ค่ะ” คนตัวเล็กพยักหน้ารับ ก่อนจะปรับเบ