ชมพูแพรนั่งเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อยๆ จนเริ่มง่วง เพราะเมื่อคืนเธอตื่นมาโรงพยาบาลเป็นเพื่อนเขา หญิงสาวมองประตูห้องนอนอย่างชั่งใจ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ที่เธอเพิ่งวางลงบนโต๊ะ แล้วลุกออกจากโซฟา เดินหายเข้าไปในห้อง
หลังจากประชุมเรื่องงบประมาณของแต่ละแผนกอยู่หลายชั่วโมง ชยกรก็กลับมาที่ห้องทำงานด้วยสีหน้าเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาคมมองหาร่างเล็กก่อนจะไปสะดุดตากับกระเป๋าที่วางอยู่บนโต๊ะ จึงเดินไปเปิดประตูห้องนอนแล้วก็พบว่าหญิงสาวกำลังหลับสนิทอยู่บนเตียง
เขาปิดประตูห้องนอนเอาไว้ตามเดิมแล้วกลับมานั่งที่โต๊ะทำงาน แล้วเริ่มเคลียร์งานบนโต๊ะต่อ โดยมีผู้ช่วยส่วนตัวนำแฟ้มเอกสารมาวางไว้ให้บนโต๊ะ
“กลับบ้านกัน จะแวะไปหาอะไรกินก่อนไหม” ชยกรถามหลังปิดคอมพิวเตอร์แล้วลุกออกจากโต๊ะ
“แล้วแต่เลยค่ะ” หญิงสาววางหนังสือในมือลงแล้วขยับตัวลุกขึ้นตามเขา
“จะเอาไปอ่านที่บ้านไหม”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“งั้นก็หาอะไรคั่นไว้ ถ้ามาวันไหนก็ค่อยมาอ่าน”
“ค่ะ พรุ่งนี้หยุดไหมคะ”
“อื้อ หยุด จะไปไหนล่ะ”
“ไปผับกันค่ะ ชวนยัยพินนี่กับการ์ตูนไปด้วย”
“สองสาวนั่นน่ะเหรอ”
“ค่ะ”
“ตามใจ งั้นกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านก่อนแล้วกัน”
ชมพูแพรยิ้มหวานอย่างพอใจที่เขาตามใจเธอ ก่อนจะหยิบกระเป๋าขึ้นมาเตรียมสะพายแต่ก็ถูกเขาแย่งไปสะพายเอง
“แล้วรถอีกคันล่ะคะ”
“จอดเอาไว้นี่แหละ วันไหนชมพูมาพร้อมพี่ก็ค่อยขับกลับไป”
หญิงสาวพยักหน้ารับ ก่อนที่เธอจะเดินตามเขาออกมาจากห้องท่ามกลางสายตาที่มองมาด้วยความอยากรู้
ชยกรพาชมพูแพรลงมาชั้นล่างก่อนเพื่อมาเอาของสอบถามอาการของคนไข้ที่เขาเพิ่งรับเคสเอาไว้ หญิงสาวยืนรออยู่เงียบๆ จนกระทั่งมีคุณหมอสาวสวยเดินเข้ามาทักทาย
“ยังไม่กลับเหรอคะคุณหมอหนึ่ง”
“กำลังจะกลับครับ” เขาตอบหล่อนด้วยน้ำเสียงสุภาพแต่ก็ไว้ตัว
“อ๋อค่ะ วันนี้อารมณ์ไหนคะ พาสาวมาทำงานด้วย” หล่อนพูดทำนองแซวแต่แอบแฝงไว้ด้วยคำถาม
“พอดีลืมแฟ้มเอกสารไว้ที่บ้าน เลยให้แฟนเอามาให้ครับ” ชายหนุ่มกล่าวเปิดเผยตัวชมพูแพรไปในตัว
“ค่ะ งั้นฉันไปก่อนนะคะ”
“ครับผม”
เมื่อคุณหมอสาวท่านนั้นเดินจากไป ชยกรก็แอบส่ายหน้าเบาๆ แล้วหันมาสนใจข้อมูลของคนไข้ต่อ พยาบาลที่ทำหน้าที่ตรงนี้อยู่คอยบอกข้อมูลที่หล่อนสอบถามคนไข้ให้กับเขาอย่างละเอียด เขาพยักหน้ารับแล้วสั่งงานอีกนิดหน่อย ก่อนจะแตะเอวชมพูแพรเบาๆ เป็นเชิงให้เธอเดินไปด้วยกัน
“ใครเหรอคะ คุณหมอคนสวยเมื่อสักครู่”
“หมอแผนกอายุรกรรมน่ะ”
“เขาดูชอบพี่นะ”
“ก็ประมาณนั้น หล่อนชอบแสดงอาการแบบนี้แหละ จนหมอผู้หญิงคนอื่นไม่กล้าเข้าใกล้พี่เพราะเกรงใจหล่อน”
“หืม กันท่าเหรอ”
“คงงั้น”
“น่ากลัวจัง” ชมพูแพรเอ่ยอย่างไม่จริงจัง เธอแค่รู้สึกว่าผู้หญิงแบบนี้น่ากลัว
“ช่างเขาเถอะ อย่ามายุ่งกับชมพูก็พอ”
“แล้วทำไมหมอพยาบาลที่นี่ดูเกรงใจพี่หนึ่งจัง”
“ไม่ตอบได้ไหม”
“ไม่ได้ค่ะ”
“งั้นมาดูเอง”
ชยกรพาชมพูแพรเดินมาตรงบอร์ดแนะนำบุคลากร มันมีรูปกับชื่อของทั้งผู้บริหารและคุณหมอทุกท่านอยู่ สิ่งที่ทำให้หญิงสาวสะดุดตาก็คือนามสกุลของชยกรเหมือนกันกับนามสกุลของผู้ที่อยู่ในประธานใหญ่ของโรงพยาบาล
“คุณพ่อพี่เองจ้ะ”
“พี่หนึ่ง”
“ครับ”
“มีอะไรยังไม่ได้บอกชมพูไหม”
“นอกจากที่คุณพ่อเป็นเจ้าของที่นี่ กับตำแหน่งที่ชมพูเห็นป้ายที่ติดหน้าประตูก็ไม่มีแล้วครับ” ชยกรบอกหญิงสาวหน้าตาเฉย
ชมพูแพรมองเขาด้วยสายตาคาดโทษ ก่อนจะยอมเดินตามเขาไปที่รถโดยไม่พูดกับเขาแม้แต่คำเดียว
เมื่อมาถึงที่รถ หลังจากชยกรเคลื่อนตัวออกจากโรงพยาบาล หญิงสาวก็กดส่งข้อความหาพศินกับปรางค์วลัยเพื่อนัดไปเจอกันที่ผับตอน 3 ทุ่ม
“เอาน่า อย่าเพิ่งโกรธเลย พี่แค่อยากให้คนมองว่าชมพูอยู่กับพี่เพราะฐานะน่ะ” หญิงสาวนั่งหน้าตึงจนกลับมาถึงคอนโด จนชยกรต้องยอมง้อเธอ
“แต่ถ้าชมพูไม่รู้ คนอื่นมองชมพูโง่ค่ะ”
“ขอโทษครับ”
“ชั่งเถอะค่ะ ชมพูไม่ได้อยู่ในสถานะอะไรที่จะไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของพี่ได้”
ชมพูแพรพูดตัดบทหน้าตาเฉยแล้วลงจากรถไปโดยไม่ได้รอเขา เธอรีบกดลิฟต์เพื่อกลับขึ้นห้องและไม่ได้สนใจเขาอีก
หญิงสาวอาบน้ำแต่งตัวเตรียมจะไปผับตามที่นัดกับเพื่อนไว้โดยไม่ได้สนใจเจ้าของผับ แม้ว่าเขาจะเข้ามานอนเล่นอยู่บนเตียงในห้องนอนของเธอก็ตาม
“เดี๋ยวนะ โป๊ไปไหม” ชายหนุ่มทักขึ้น
คนตัวเล็กที่เพิ่งแต่งหน้าเสร็จออกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำแล้วกลับเข้ามาในห้องนอน เธอก้มลงมองชุดตัวเองก่อนจะขมวดคิ้ว
วันนี้ชมพูแพรใส่ชุดเดรสเกาะอกรัดรูปสีดำ เน้นให้เห็นรูปร่างบอบบางแต่มีทรวดทรงของเธอให้น่ามองมากขึ้น
“ก็ไม่นะ คนอื่นก็ใส่กันนี่คะ”
“ก็นั่นคนอื่น แต่นี่ชมพู” เขาเถียงอย่างไม่พอใจ
“อ้าว แล้วทำไมชมพูจะใส่ไม่ได้ นี่มันเนื้อตัวชมพูนะ” หญิงสาวเองก็ไม่ยอมเล่นกัน
“ต้องให้พูดอีกกี่ครั้งล่ะ ก็เราเป็นเมียพี่ไง”
“พูดเต็มปากจัง” หญิงสาวเบะปากด้วยความหมั่นไส้
“หรือไม่จริง” ชายหนุ่มลุกขึ้น ขยับตัวมานั่งตรงขอบเตียง แล้วเอื้อมมือคว้าร่างเล็กให้เดินเข้ามาใกล้
“มอบสถานะนี้ให้เลยเหรอคะ” ชมพูแพรเดินเข้ามายืนตรงกลางหว่างขาเขาที่กางอยู่อย่างว่าง่าย
“ครับ”
“กี่คน”
“คนเดียวครับ”
หญิงสาวทำสีหน้าที่บ่งบอกว่าไม่ได้เชื่อเขาเลยแม้แต่น้อย ก่อนที่ร่างบอบบางจะปลิวลงไปนอนบนเตียงพร้อมกับที่ร่างสูงจะพลิกกลับมาคร่อมเธอเอาไว้ในเสี้ยวนาที
“เปลี่ยนเสื้อผ้าครับ”
“ไม่เปลี่ยนไม่ได้เหรอคะ”
“ไม่ได้ครับ พี่หวง ไม่ชอบให้ใครมองเมียพี่”
“ทำยังไงดีคะ ชมพูชอบแต่งตัวแบบนี้ซะด้วย” หญิงสาวพูดลอยหน้าลอยตาตั้งใจแกล้งเขา
ก่อนที่ร่างเล็กจะสะดุ้งเมื่อข้อมือถูกรวบกดลงกับที่นอน พร้อมกับดวงตาคมที่มองเธออย่างจริงจัง
“งั้นก็ต้องมีของรางวัลที่พี่ยอมให้ใส่ครับ”
“ของรางวัลอ๊ะ.....”
ชมพูแพรอุทานตกใจ เมื่อชยกรโน้มตัวลงแนบชิดแล้วปิดปากเธอด้วยจุมพิตร้อนที่กวาดต้อนเรียวลิ้นเล็กอย่างช่ำชอง
หญิงสาวตกใจจนเผลอดิ้นรนจนเจ็บข้อมือ แต่เมื่อคิดได้ว่ามันไม่น่าจะมีประโยชน์ และเขาจะไม่ทำร้ายเธอก็นิ่งลง
เมื่อเห็นว่าชมพูแพรหายตกใจ ชายหนุ่มก็ถอนริมฝีปากออกแล้วเคลื่อนใบหน้าลงมาที่เนินอกอิ่มที่โผล่พ้นขอบชุดเดรสเกาะอก แนบริมฝีปากลงไปเบาๆ ร่างเล็กสะดุ้งโหยงเมื่อรู้สึกเจ็บจี๊ด
ชมพูแพรนอนนิ่งแบบนั้นอยู่หลายนาที จนเมื่อชยกรพอใจก็ยอมปล่อยข้อมือเล็กแล้วช่วยดึงให้เธอลุกขึ้นนั่ง
“รอยเต็มเลย” หญิงสาวบ่นพึมพำ
“ก็เมียดื้อนี่ครับ ก็ต้องมีรางวัลค่าตามใจกันหน่อย”
เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กบ่นพึมพำไม่เลิก ชายหนุ่มก็ดึงให้หญิงสาวลุกขึ้น พาเธอออกจากห้องนอนไปหยิบกระเป๋าที่หน้าโซฟา แล้วโอบเอวบางออกจากห้องไป
‘แกอยู่ไหนพวกฉันมาถึงแล้ว’
“เพิ่งถึง กำลังจะเข้าไป แกไปรอแถวหน้าบาร์”
‘เค’
ชมพูแพรเดินนำเข้าไปหาเพื่อนๆ โดยไม่ได้รอชยกร เพราะคิดว่ายังไงชายหนุ่มก็น่าจะขึ้นไปที่ห้องทำงาน ไม่ได้มาอยู่รวมกับพวกเธออยู่แล้ว จนเมื่อมาเจอเพื่อนที่นั่งรออยู่หน้าบาร์ก็เข้าไปหาพร้อมกับทักทายด้วยน้ำเสียงสดใส
“หยุด อย่าเพิ่งพูด ได้ส่องกระจกก่อนออกจากบ้านมาไหมเนี่ย” ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้พูดอะไร ก็ถูกพศินเบรกเอาไว้
“ไม่ต้องส่องก็รู้” ชมพูแพรเบะปากใส่เพื่อน
“ยังไง” ปรางค์วลัยเองก็ชะโงกหน้ามาด้วยความสนใจ
“ก็รอยเนี่ย ได้ก่อนออกมา เหตุผลเพราะใส่ชุดนี้” คนตัวเล็กที่สุดในกลุ่มพูดเสียงงุ้งงิ้งงอแง
“หวงแหละไม่ต้องเดา พี่หมอ.....สวัสดีค่ะ” พศินหันไปทักทายผู้ที่เดินเข้ามาสมทบด้วยท่าทางที่ใส่จริตเต็มที่
“สวัสดีครับ”
“มาเฝ้าผับเหรอคะ”
“เปล่าครับ มาเฝ้าเมีย”
“.....” เกิดเหตุการณ์เดดแอร์ เมื่อทั้งสามสาวทั้งแท้และไม่แท้พากันนิ่งไป
“ดื่มอะไรสั่งกันเลยนะ วันนี้ผมเลี้ยงเอง เดี๋ยวเพื่อนผมตามมาสมทบอีกคนนะ ไปนั่งโต๊ะใหญ่หน่อยไหม” ชยกรยิ้มแล้วชี้ไปยังชุดโซฟาชุดใหญ่สำหรับหลายคน
“ได้เลยค่ะ แล้วแต่เข้ามือเลยค่ะ” พศินร้องวี้ดว้ายชอบใจ
ชมพูแพรเบะปากอย่างหมั่นไส้ ก่อนที่เธอจะโดนคนตัวสูงโอบเอวจนแทบจะปลิวให้เดินตามเขาไปยังชุดโซฟา
“ใครจะตามมาคะ หมอเมฆเหรอ”
“ใช่ มันโทรมาถามตอนจอดรถว่าอยู่ไหน พอบอกว่าอยู่ผับก็บอกจะตามมา”
“สายปาร์ตี้เหรอคะ”
“ประมาณนั้น แต่เห็นแบบนั้นมันโสดนะ เพราะความปากหมาของมันนั่นแหละ”
“แรงค่ะ”
“พูดเรื่องจริง”
เมื่อมาถึงโซฟาชุดใหญ่ ทั้งสี่คนก็ทยอยนั่งลงพร้อมกับที่พนักงานเสิร์ฟเดินเข้ามารับออเดอร์
“ลงบัญชีฉันไว้” ชายหนุ่มสั่งลูกน้องเสียงเรียบนิ่งจนแม้แต่ชมพูแพรยังหันไปมองด้วยความแปลกใจ
หลังจากที่สั่งเครื่องดื่มและอาหารทานเล่นกันเสร็จเรียบร้อย พนักงานก็เดินออกไป พศินนั่งเหล่หนุ่มๆ ตาวาว ปรางค์วลัยถึงกับหัวเราะเพื่อน
“ไม่เคยเห็นพี่หนึ่งเสียงดุแบบนั้น” ชมพูแพรพูดกับเขาด้วยความแปลกใจ
“คนละบริบทไง เป็นหมอก็ต้องอีกแบบไหมล่ะ ถ้าดุ คนไข้ก็จะกลัว การรักษาหรือสอบถามอาการก็จะยาก แต่ถ้าอยู่ในบริบทเจ้านายจะใจดีนุ่มนวลแบบตอนเป็นหมอมากก็ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นลูกน้องจะไม่เกรงใจ” ชยกรอธิบายให้หญิงสาวฟัง พร้อมกับดึงให้หญิงสาวขยับเข้ามานั่งข้างๆ วางแขนพาดบนไหล่บอบบางแสดงความเป็นเจ้าของ
“โอ๊ย คุณหมอขา ยัยชมพูไม่หายหรอกค่ะ ไม่น่าจะมีใครกล้ามาเต๊าะด้วย รอยเต็มคอตัวหน้าอกขนาดนั้น” พศินที่หันมาชมเครื่องดื่มเห็นอาการของชยกรก็แซวด้วยความขำขัน
“ไม่ได้สิครับ มีเมียดื้อก็ต้องคอยคุมหน่อย” ชายหนุ่มเพียงคนเดียวในโต๊ะตอบเสียงนุ่ม
พศินทำท่าทางหมั่นไส้เมื่อเห็นชมพูแพรเบะปาก ปรางค์วลัยนั่งดื่มเงียบก่อนจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำ
“คุณ.....”
“พินนี่ค่ะ”
“ครับ คุณพินนี่ ผมฝากเมียสักครู่นะ ขอไปสูบบุหรี่หน่อย” ชยกรบอกพศินที่กำลังมองหนุ่มๆ ก่อนจะลุกออกจากโซฟา
“เชิญเลยค่ะ” พศินพยักหน้ารับ
พ้นหลังชยกรไป ชมพูแพรกับพศินมองหน้ากันแล้วยิ้ม ก่อนที่จะพากันออกไปเต้นเมื่อทางสะดวก ชมพูแพรเป็นผู้หญิงรูปร่างบอบบางแต่ไม่ผอมแห้ง เธอมีทรวดทรงที่สวยงามและผิวที่ขาวจนอมชมพู มารดาของเธอถึงได้ตั้งชื่อว่าชมพูตามสีผิวของเธอ
ปรางค์วลัยกลับมาที่โต๊ะก็ไม่เจอใครอยู่แล้ว เธอมองไปรอบๆ ก็เห็นเพื่อนเต้นกันอยู่ไม่ไกล ตอนแรกตั้งใจจะออกไปเต้นด้วย แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่แล้วกลัวของหาย จึงตัดสินใจอยู่นั่งเฝ้าของแล้วดื่มไปเรื่อยๆ
คนตัวเล็กถูกอุ้มมาวางที่พื้นใต้ฝักบัว มือหนาเปิดน้ำให้ไหลลงมาชำระล้างคราบเหงื่อไคล มือใหญ่ลูบไล้เรือนกายบอบบาง ปลายนิ้วเขี่ยปลายยอดดอกบัวตูมอวบเล่นจนมันเป็นไต“พอแล้วค่ะ หมดแรงแล้วนะคะ” เจ้าของร่างบางจับมือหนาของสามี พึมพำพูดเบาๆ ตาใกล้จะปิดลงเต็มทีชยกรก้มลงอ้าปากงับปลายยอดสีชมพูสวยเบาๆ ลิ้นหนาไล้วนรอบๆ มือบีบเคล้นดอกบัวตูมอวบใหญ่ล้นมือรุนแรงจนเป็นรอยมืออีกข้างที่ว่างอยู่เคลื่อนลงไปที่ช่องทางชื้นแฉะ สอดลึกเข้าไปข้างในทีเดียว 2 นิ้ว ทำให้สายธารขาวขุ่นที่ยังค้างอยู่ข้างในไหลออกมาตามเรียวขาสวย“อื้ออออ” ร่างบางหงายเอนศีรษะ หลับตาครางเสียงแผ่ว“อีกสักรอบนะคะ” ฝ่ามืออบอุ่นเอื้อมปิดน้ำ ช้อนอุ้มร่างเล็กขึ้นพิงหลังกับผนัง แขนแกร่งช้อนใต้ขาเรียว พร้อมกับดันแก่นกายร้อนเข้าไปทีเดียวสุดลำในท่าอุ้มแตง“อ๊ายยยย” ชมพูแพรหวีดร้องเสียงดัง แขนคล้องคอหนาช่วยพยุงตัวเองใบหน้าหล่อเหลาโน้มตัวก้มหน้าไปแนบจุมพิตเร่าร้อน ลิ้นหนาสำรวจโพรงปากนุ่มจนทั่ว กระหวัดเกี่ยวลิ้นเล็กปลุกเร้าอารมณ์ สะโพกสอบขยับโยกเบาๆหญิงสาวร้องครางในลำคอ ท่านี้ลำเนื้อของเขาเข้าไปลึก จนเธอเสียววูบวาบไปทั้งตัว ในช่องท้องแน่นจนอึดอัด“รว
“ออกัสล่ะคะ” ชมพูแพรเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่เธอออกมาจากห้องน้ำ แล้วเจอสามีนั่งอยู่ในห้อง“หลับไปแล้วค่ะ” ชยกรบอกภรรยาสาวก่อนจะลุกไปโอบเอวบางเอาไว้หลวมๆหลังจากคลอดออกัสได้ไม่นาน รูปร่างของชมพูแพรก็เข้าที่อย่างรวดเร็ว อาจจะเพราะเธอดูแลลูกชายด้วยตัวเอง มีพี่เลี้ยงคอยช่วยหยิบจับบ้างเล็กน้อย กับนอนเป็นเพื่อนหนูน้อยยามค่ำคืนเท่านั้น“ชมพู ออกัส 3 ขวบแล้วนะ” มือหนาหมุนร่างคนตัวเล็กให้หันหน้ามาหาเขา ก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงอ้อนๆ“ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”“พี่ว่ามีน้องให้ออกัสได้แล้วมั้งคะ ออกัสจะได้มีเพื่อนไง”“แต่ออกัสยังเด็กอยู่เลย ถ้ามีน้องให้ออกัส ชมพูก็ต้องแบ่งเวลาให้น้อง ชมพูกลัวออกัสจะน้อยใจค่ะ”“ไม่หรอก พี่ว่าชมพูคิดมากไปนะ”“แต่.....”“ไม่แต่แล้วครับ ออกัสอยากมีน้องแล้วนะ”ชยกรช้อนอุ้มร่างบางที่สัดส่วนเต็มล้นขึ้นเดินตรงไปที่เตียง วางหญิงสาวลงเบาๆ ก่อนจะกระตุกกระโปรงชุดนอนตัวบางขึ้นเล็กน้อย ปลายนิ้วเกี่ยวแพนตี้ตัวจิ๋วออกอย่างรวดเร็ว“พี่หนึ่ง” เสียงหวานใสเอ่ยเรียกตั้งใจจะปรามสามี แต่ขาเรียวแยกออกจากกัน“ว่ายังไงคะ” ชยกรซุกใบหน้าลงดอมดมดอกไม้งามตรงหน้าอย่างหลงใหลลิ้นหนาร้อนผ่าวไล้เลียเกสรสีสวย
พยาบาลหลายคนที่เห็นภาพตรงหน้าต่างปิดปากด้วยความปลื้ม พวกเขาไม่ได้คิดว่าหญิงสาวคนนี้คือภรรยาของชยกร บุตรชายเพียงคนเดียวของเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้เมื่อถึงเวลาเข้าห้องคลอด หลังจากที่ทำการบล็อกหลังเรียบร้อย ชยกรก็ถูกตามเข้ามาในห้องคลอด เขามีอาการตื่นเต้นเมื่อเห็นภรรยาสาวกำลังนอนรอคลอดอยู่บนเตียงร่างสูงเดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้ตรงเหนือศีรษะภรรยาสาวที่พยาบาลจัดเตรียมเอาไว้ให้ มือข้างที่ไม่ได้ติดที่วัดหัวใจกับที่วัดความดันสอดประสานจับมือใหญ่เอาไว้แน่น จนเมื่อหมอเข้ามาและทำการทดสอบว่ายาออกฤทธิ์เรียบร้อยแล้ว จึงเริ่มทำการผ่าคลอด“เป็นยังไงบ้างคะ”“คลื่นไส้ค่ะ”“อดทนอีกนิดเดียวนะ”“ค่ะ”ชมพูแพรเริ่มหน้าซีดเมื่ออยู่ๆ เธอก็มีอาการเวียนหัวรุนแรงและเริ่มหายใจไม่ออก“พี่หนึ่ง ชมพูหายใจไม่ออก”“แป๊บนะ คุณพยาบาลครับ คุณแม่หายใจไม่ออกครับ”“สักครู่นะคะ” พยาบาลหันไปมองหน้าจอแสดงผลของเครื่องต่างๆ ที่ติดตามตัวหญิงสาว ก่อนจะหยิบหน้ากากออกซิเจนมาและใส่ให้เธอ“คุณแม่ใส่หน้ากากออกซิเจนหน่อยนะคะ”หญิงสาวพยักหน้าและหลับตาลง เธอรับรู้แค่เพียงว่ามือของสามีกำลังบีบมือเธออยู่ ข้างใบหูของเธอมีเสียงกระซิบให้กำลังใจไ
เช้าวันต่อมา ชมพูแพรตื่นมาพร้อมกับอาการปวดเมื่อยตัวจากการรับศึกหนัก ยามที่เธอยังไม่ได้ตั้งครรภ์ก็ไม่ได้อ่อนเพลียขนาดนี้ อีกวันเธอยังสามารถลุกไปทำงานไหว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะอ่อนล้าไปหมด“ตื่นแล้วเหรอคะ”“.....” ดวงตากลมโตมองค้อนสามีด้วยความหมั่นไส้ เพราะเขาเล่นงานจนเธอแทบจะหลับคาอกเขาด้วยซ้ำ“อย่าเพิ่งงอนพี่เลยนะคะ กินข้าวเช้าบำรุงตัวเล็กก่อนค่อยงอนต่อนะ”“มันน่างอนนานๆนะคะ”“เอาน่า มาฮันนีมูนนะคะ จะขาดได้ยังไง”“ก็เกินไปค่ะ”“พี่ไม่ได้มีเวลาพาชมพูไปเที่ยวบ่อยนี่คะ สงสารพี่เถอะนะ”“ไม่ค่ะ”“ใจร้ายจัง เอาล่ะ ลุกมากินข้าวก่อนค่อยงอนต่อนะคะคนสวย”หญิงสาวถอนหายใจกับความมึนของสามี แต่ก็ยอมลงจากเตียงแล้วไปกินข้าวเช้าตามที่เขาบอกแต่โดยดี โดยมีสามีหนุ่มใส่เสื้อผ้าให้เธอหลังจากที่ก้าวเท้ามายืนชยกรพาหญิงสาวลงมากินข้าวที่ชั้นล่าง นั่งดื่มกาแฟเป็นเพื่อนเธอจนกระทั่งกินข้าวเสร็จ จึงเก็บล้างจานแล้วพากันออกไปเดินเล่นสองหนุ่มสาวเดินไปริมชายหาด ที่ที่เขาและเธอคิดว่ามันสวยที่สุด ท้องฟ้าเป็นสีคราม สวยงามอย่างที่หาได้น้อยครั้งจากในเมืองมือใหญ่จับจูงมือเล็กเดินเคียงข้างกัน ชยกรกับชมพูแพรยิ้มให้กันด้
วงแขนเรียวคว้าคอหนาเอาไว้แน่น เมื่อร่างเธอถูกอุ้มขึ้นโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว ชยกรก้าวเท้าออกจากอ่างอาบน้ำมายืนหน้ากระจกบานใหญ่ตรงบริเวณพื้นที่อาบน้ำใต้ฝักบัวที่ส่องเห็นทั้งตัวภายในห้องน้ำ โดยที่ลำกายยังฝังอยู่ในช่องทางคับแน่นชมพูแพรหวีดเสียงแหลมเมื่อยามที่สามีก้าวเดิน มันเสียววูบจนเธอแหงนหน้ากัดปาก จิกเล็บลงบนท่อนแขนแน่น“ลองดูสิคะ สวยนะ ภาพที่มันกำลังอยู่ข้างใน” ดวงตากลมโตปรือขึ้นมองภาพในกระจกเป็นภาพที่ผู้หญิงคนหนึ่งโดนอุ้มกระเตงจากทางด้านหลัง ขาอ้าออกกว้างมีแขนสอดรับใต้ข้อพับขา โดยมีแท่งเนื้ออวบใหญ่สอดใส่คาอยู่ในร่างกาย กลีบดอกไม้คลี่ออกจากกันตามขนาดของลำเนื้อแข็งขึง ใบหน้าหวานแดงก่ำ ปรือตากัดปาก ราวกับเจนจัดเรื่องบนเตียง“ให้ตายเถอะ ยั่วเก่งจัง” เสียงนุ่มนวลครางกระเส่ากับภาพตรงหน้าเขาถอดถอนตัวเองออก ขยับร่างบางวางลงยืนกับพื้น จับสะโพกกลมให้แอ่นลอยขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะจับท่อนเนื้อลำใหญ่จ่อไปที่ปากทางคับแคบ หญิงสาวครางในลำคอ ก่อนจะร้องวี้ดออกมา เมื่อเขากดกระแทกท่อนเนื้อเข้าไปทีเดียวมิดลำ“อ๊ายยย เบาหน่อยค่ะ มันจุก”ร่างสูงย่อขาลง แอ่นสะโพกสอบในท่างัดขึ้นให้ปลายหัวหยักครูดกับข้างใน
หลายเดือนผ่านไป หลังจากที่เสร็จสิ้นพิธีหมั้นและงานเลี้ยงฉลองแต่งงาน บ้านที่ชมพูแพรกับชยกรปลูกเอาไว้ก็เสร็จพอดี ทั้งสองคนย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านใหม่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลมากนัก ส่วนชมพูแพรก็ลาออกจากงานตามที่สามีและครอบครัวร้องขอหญิงสาวตามเขาไปโรงพยาบาลเกือบทุกวัน ส่วนใหญ่ก็ไปช่วยจัดการเรื่องเอกสารรวมถึงแปลงานจากหนังสือวิจัยที่อยู่ในงานที่ต้องทำของเขาด้วยชมพูแพรเป็นผู้หญิงรูปร่างบาง หน้าท้องของเธอจึงยังไม่นูนออกถึงแม้ว่าเธอจะตั้งครรภ์ได้ 16 สัปดาห์แล้วก็ตาม ยามที่เธอออกไปข้างนอกจะไม่มีใครมองออกเลยว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ หญิงสาวจึงต้องติดเข็มกลัดเอาไว้เพื่อความปลอดภัย“ไปไหนคะ” ชมพูแพรถามเขาหลังจากที่รถยนต์คันหรูเคลื่อนออกมาจากลานจอดรถของโรงพยาบาล แต่ไม่ได้ตรงกลับบ้านเหมือนดังเช่นทุกวัน“ไปฮันนีมูนค่ะ” เขาบอกเธอพร้อมกับยิ้มอบอุ่น“หืม พี่หนึ่งทำงานเกือบทุกวัน จะไปทำไมคะ น่าจะพักเหนื่อย”“ไม่ได้สิคะ พี่ก็อยากพาเมียพี่ไปเที่ยวบ้าง อยู่แต่บ้านกับโรงพยาบาล เดี๋ยวจะพาลเบื่อพี่เสียก่อน”“.....”“ล้อเล่นจ้ะ พี่เห็นชมพูไม่ได้ไปไหนนานแล้ว เลยจะพาไปเที่ยว”“ค่ะ” คนตัวเล็กพยักหน้ารับ ก่อนจะปรับเบ