“จะออกไปไหนเหรอไลลา”
ไลลาจำต้องหยุดก้าวเดิน และหันมาเผชิญหน้ากับเจ้าของเสียงแคลงใจ
“สวัสดีค่ะท่านแม่” หล่อนทักทายแคทเธอรีนด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน
“สวัสดี ว่าแต่จะไปไหนล่ะ”
แคทเธอรีนถามลูกบุญธรรมซ้ำออกมาอีกครั้ง สายตาหรี่แคบจ้องมองอย่างจับผิด
“เอ่อ... พอดีของใช้ในครัวหมดหลายรายการน่ะค่ะ หนูก็เลยจะออกไปซื้อค่ะ”
หล่อนอยู่ที่นี่ในฐานะลูกสาวบุญธรรม และก็ควบตำแหน่งแม่บ้านใหญ่ด้วย ทุกอย่างในบ้านหลังนี้ล้วนแต่อยู่ในอำนาจการปกครองของหล่อนที่รองจากเจ้าของบ้านทั้งสามคน
“ให้คนใช้ไปซื้อสิ ไม่เห็นต้องลำบากออกไปเองเลยนี่”
“พอดีหนูอยากจะซื้อของใช้ส่วนตัวด้วยนะคะ ก็เลยว่าจะออกไปเอง ว่าแต่ท่านแม่อยากได้อะไรไหมคะ หนูจะซื้อมาให้ค่ะ”
“ฉันไม่อยากได้อะไรหรอก ของใช้ยังมีเหลืออยู่มาก”
“เอ่อ แล้วขนมล่ะคะ อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม หนูจะได้ซื้อมาฝากค่ะ”
แคทเธอรีนส่ายหน้าน้อยๆ “ช่วงนี้หมอให้งดของหวานน่ะ ขอบใจเธอก็แล้วกันนะ”
“หนูยินดีทำทุกอย่างให้ท่านแม่ค่ะ”
แคทเธอรีนจ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมโตของลูกสาวบุญธรรม ก่อนจะพูดขึ้น
“สิ่งเดียวที่ฉันต้องการให้เธอทำ และต้องทำให้ได้ด้วยก็คือ เลิกเข้าใกล้ชาร์ลีอีก”
ดวงหน้านวลของไลลาซีดเผือด ก่อนจะก้มหน้าลงมองปลายเท้าของตนเองที่พื้น
แคทเธอรีนเห็นหน้าของลูกสาวบุญธรรมขาวซีดก็อดไม่ได้ที่จะทวงคำตอบ
“ว่าไงล่ะ อย่าเข้าใกล้ชาร์ลีอีก เธอพอจะทำได้ไหม”
“หนู...”
“ทำไม่ได้หรือเปล่าไลลา”
ไลลาจำต้องเงยหน้าขึ้นมองแคทเธอรีน ก่อนจะกลั้นใจตอบโกหกออกมา
“ค่ะ หนูทำได้ค่ะ”
“ดีมาก และฉันก็หวังว่าเธอจะทำได้จริงๆ”
“ค่ะ”
แคทเธอรีนมองลูกสาวบุญธรรมอยู่เสี้ยววินาทีจึงตัดสินใจพูดขึ้นอีก
“ฉันไม่ได้รังเกียจอะไรเธอหรอกนะไลลา แต่เธอก็ต้องรู้ว่าตอนนี้เธออยู่ในฐานะอะไรของตระกูลเฮนเดอร์สัน ความรู้สึกที่เธอมีให้กับชาร์ลีนั้นมันเป็นเรื่องที่ดี แต่มันเป็นความจริงไปไม่ได้ เธอสองคนรักกันไม่ได้ หวังว่าเธอจะเข้าใจที่ฉันพูดนะ”
“หนู... เข้าใจค่ะท่านแม่”
ไลลาช้อนดวงตาที่มีหยาดน้ำใสๆ เอ่อคลอขึ้นมองแคทเธอรีน ก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง
“งั้น... หนูขอตัวออกไปซื้อของก่อนนะคะ”
“ให้คนขับรถไปส่งสิ”
“เอ่อ... ไม่เป็นไรค่ะ หนูสะดวกขับรถเองมากกว่า”
เมื่อแคทเธอรีนพยักหน้าตอบอนุญาต ไลลาก็รีบก้าวเดินออกมาทันที
เมื่อก้าวขึ้นมานั่งตามลำพังบนรถคันงาม หลังมือเล็กก็ป้ายน้ำตาบนแก้มนวลจนแห้ง
“หนูเข้าใจสิ่งที่ท่านแม่พูดค่ะ แต่หนูรักพี่ชาร์ลเกินกว่าจะหยุดความสัมพันธ์ลงได้” ดวงตากลมโตของไลลาตอนนี้มีแต่ความมืดลึกที่ยากจะหยั่งถึง
ไม่ช้ารถคันงามก็แล่นออกจากคฤหาสน์หรู และมุ่งหน้าตรงไปยังคาเฟ่ที่ตนเองกับชาร์ลีมักจะนัดเจอกันเป็นประจำทันที
ลาซาลอสกำลังจะเดินออกจากห้องประชุม แต่ก็เหลือบไปเห็นว่าชาร์ลีลืมโทรศัพท์มือถือวางเอาไว้บนโต๊ะไม้กลางห้องประชุมเข้าเสียก่อน เขารีบเดินไปหยิบมาไว้ในมือ ตั้งใจจะเอาไปคืนให้กับลูกชาย แต่ระหว่างนั้นก็มีข้อความเด้งเข้ามาเสียก่อน
เขายกจอโทรศัพท์มือถือขึ้นมอง และไม่ได้ตั้งใจจะเปิดอ่าน แต่ข้อความมันโชว์เตือนที่หน้าปัดก่อนจะดับไป ซึ่งแน่นอนว่าเขาเห็นเข้าพอดี
‘พี่ชาร์ลคะ น้องรออยู่โรงแรมเดิมนะคะ’
ดวงตาของลาซาลอสเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ เขาตัดสินใจนำโทรศัพท์มือถือของลูกชายกลับไปวางไว้บนโต๊ะที่เดิม จากนั้นจึงเดินออกไปจากห้องประชุม
“ท่านพ่อจะกลับแล้วหรือครับ”
ชาร์ลีเอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นบิดาเดินผ่านตอนที่เขากำลังคุยงานอยู่กับเลขาหน้าห้อง
“อืม จะกลับแล้วล่ะ งานที่เหลือลูกก็รีบทำให้เสร็จโดยเร็วล่ะ เพราะเหลืออีกแค่สองวันก็จะถึงวันเลือกเจ้าสาวของลูกแล้ว”
สีหน้าของชาร์ลีเย็นชาขึ้นทันตาเมื่อได้ยินคำเตือนให้ระลึกถึงอนาคตมืดดำที่กำลังจะเกิดขึ้น
“ครับ”
“งั้นพ่อไปล่ะ”
ลาซาลอสเดินหายเข้ามาในลิฟต์ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ข้อความที่เห็นจากโทรศัพท์มือถือของลูกชายที่ส่งมาจากไลลาลูกสาวบุญธรรมมันทำให้เขาไม่สบายใจเลย
เสียงเคาะประตูดังขึ้นสองครั้ง ไลลาที่ตอนนี้มีแต่ผ้าขนหนูห่อกายอยู่เพียงผืนเดียวฉีกยิ้มกว้าง เพราะมั่นใจว่าจะต้องเป็นชาร์ลีอย่างแน่นอน
หล่อนรีบพุ่งตัวไปดึงบานประตูไม้ให้เปิดกว้างออก ก่อนจะชะงักกึกด้วยความตื่นตกใจ เมื่อผู้ชายที่ยืนอยู่หลังบานประตูไม่ใช่ชาร์ลี แต่กลับเป็นพ่อบุญธรรม
“ท่านพ่อ!”
ลาซาลอสมองลูกสาวบุญธรรมที่มีแค่ผ้าขนหนูพันอยู่รอบกายด้วยความไม่พอใจ
“ถ้าท่านแม่ของเธอรู้เข้า คิดว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไลลา”
ไลลาหน้าซีดเผือด น้ำตาไหลพราก และพยายามวิงวอนพ่อบุญธรรมด้วยความตื่นตกใจ
“ท่านพ่อ... หนู... หนูผิดไปแล้ว...”
“เธอรู้อยู่เต็มอกว่าสิ่งที่ทำอยู่มันไม่ดี และก็รู้ว่าพ่อกับแม่ไม่ต้องการให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก แต่เธอก็ยังทำ”
“ท่านพ่อ... หนูขอโทษ...”
ไลลาหวาดกลัวเหลือเกิน เพราะหากแคทเธอรีนทราบเรื่องนี้เข้า หล่อนจะต้องถูกทำโทษหนักแน่นอน ดังนั้นหล่อนจึงต้องคุกเข่าลงกับพื้น และวิงวอนพ่อบุญธรรมที่ใจดีกว่าให้สำเร็จ
“มันก็แค่จะเป็นครั้งสุดท้ายของหนูกับพี่ชาร์ล... หนูไม่ได้มีเจตนาจะรั้งพี่ชาร์ลเอาไว้เลยค่ะ ท่านพ่อเชื่อหนูนะคะ”
เมื่อลาซาลอสยังคงนิ่งเงียบ ไลลาจึงต้องบีบน้ำตาสร้างความน่าสงสารให้มากขึ้น
“ท่านพ่อ... ได้โปรดให้โอกาสหนูอีกครั้งนะคะ หนูสาบานค่ะ... สาบานว่าจะไม่ทำเรื่องแบบนี้อีก หนู... หนูจะอยู่ให้ห่างจากพี่ชาร์ลค่ะ นะคะได้โปรดเชื่อหนูอีกสักครั้ง”
ลาซาลอสดึงขาของตัวเองออกจากอ้อมแขนของลูกสาวบุญธรรม และขยับออกห่าง พร้อมกับเมินหน้าหนีสภาพล่อแหลมของไลลาไปมองที่อื่นแทน
“แล้วฉันจะเชื่อคำพูดของเธอได้ยังไงกัน ในเมื่อเธอก็รับปากฉันกับแคทเอาไว้ว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก แต่เธอก็ทำมัน”
“หนู... สาบานค่ะ ถ้าหนูทำแบบนี้อีก หนูยินดีให้ท่านแม่ลงโทษหนูค่ะ”
“แน่ใจนะที่พูดน่ะ”
“หนูแน่ใจค่ะ”
หล่อนย้ำคำพูดออกไป ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองจะทำได้อย่างที่พูดออกไปหรือเปล่า
“งั้นครั้งนี้... ท่านพ่ออย่าบอกท่านแม่นะคะ หนูขอร้องล่ะ”
“ได้ ครั้งนี้ฉันจะไม่บอกให้แคทรู้เรื่องนี้ แต่ถ้ามีครั้งหน้า แคทคงจะจับเธอโยนออกไปจากเลแวนต้าอย่างแน่นอน”
ไลลาหยัดกายลุกขึ้นยืน ก่อนจะตอบรับอย่างไม่มีทางเลือก “ค่ะ ท่านพ่อ... “
“ไปแต่งตัวให้เรียบร้อย และกลับบ้านซะ”
“ค่ะ”
ไลลามองร่างของลาซาลอสที่เดินหายไปด้วยความเสียใจระคนแคลงใจ
ช้องนางที่ยืนทอดสายตามองออกไปยังสวนสวยผ่านระเบียงห้องนอนสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อถูกอ้อมแขนอบอุ่นที่แสนคุ้นเคยสวมกอดเข้ามาทางด้านหลัง“อุ้ยยย คุณชาร์ล...”คนตัวโตที่เพิ่งกลับจากทำงานระดมจูบซอกคอระหง “คิดถึงจังเลยครับที่รัก...”“แหม เราเพิ่งห่างกันแค่แปดชั่วโมงเองนะคะ”“แค่ชั่วโมงเดียว ผมก็จะขาดใจตายอยู่แล้วล่ะ”ร่างของหล่อนถูกจับให้หมุนกลับมาเผชิญหน้ากับสามีสุดหล่อ เขาโน้มหน้าลงมาจูบหน้าผากแผ่วเบา ก่อนจะเลื่อนเลยลงมาจูบปากอิ่ม สาวน้อยเผยอปากรับจูบตอบ“แอบไปกินน้ำผึ้งมาหรือเปล่าเนี่ย ทำไมปากหวานจัง”“คุณชาร์ลน่ะ...”หล่อนระบายยิ้มเอียงอาย สองพวงแก้มแดงระเรื่อ หัวใจพองฟูคับแน่นอก ตั้งแต่กลับมาเลแวนต้าอีกครั้ง ชีวิตของหล่อนก็เปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียวชาร์ลีรักษาคำมั่นสัญญาที่ให้เอาไว้กับหล่อนตอนที่ตามไปง้อที่เมืองไทยเป็นอย่างดี เขาปฎิบัติตัวกับหล่อนด้วยความรัก เอาใจใส่ และทำหน้าที่ของสามีที่ดีอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แถมคำว่ารักจากปากของเขาก็ยังกระซิบพร่ำบอกข้างหูทุกค่ำคืนหล่อนมีความสุข... จนไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่กำลังได้รับอยู่มันคือความจริง“คิดถึงผมไหม...” เขาก้มหน้าหล่อๆ ล
บนเตียงนอนของหล่อนยุ่งเหยิงยับเยิน เมื่อสองร่างเปลือยเปล่ากำลังคลุกเคล้าโรมรันกันอย่างดุเดือด กายสาวบิดเร่าๆ เมื่อถูกชาร์ลีปลุกเร้าจนร้อนราวกับเปลวเพลิงเขาจูบ เขาดูดปาก ล้วงลิ้นร้อนๆ เข้ามาหา รัดรึงลิ้นเล็กอย่างหื่นกระหาย ส่วนฝ่ามือก็ลูบไล้บีบเคล้นเต้านมหนักหน่วง กายสาวดิ้นเร่าๆ ด้วยความเสียดเสียวทรมาน เสี้ยวสติหนึ่งพยายามจะต่อต้าน แต่ก็ถูกปัดเป่าจนจางหาย ตอนนี้ในหัวของหล่อนมีแต่ความว่างเปล่า“อา... อ๊า...”หล่อนหยัดหน้าอกอวบขึ้นสูงตอบรับนิ้วยาวที่กำลังบี้บดอยู่กับปลายถัน เขาเอาทั้งสองมือดึงยอดทรวงเอาไว้ สนุกสนานกับการเห็นมันค่อยๆ แข็งเป็นไตสู้นิ้วมือ“อา... อา... คุณชาร์ลขา... อ๊า...”รอยยิ้มพึงพอใจระบายเต็มใบหน้าหล่อเหลา ยิ่งเห็นหล่อนดิ้นพล่านด้วยความกระสัน เขาก็ยิ่งเพิ่มน้ำหนักนิ้วและฝ่ามือที่คุกคามเต้าอวบยิ่งขึ้น“ได้โปรด... คุณชาร์ลขา... อา...” หล่อนวิงวอนเขาทั้งทางร่างกายและสายตา“รู้ไหม... เธอเป็นผู้หญิงที่น่าเสพสุขด้วยเหลือเกิน ช้องนาง...”หล่อนไม่เข้าใจความหมายของเขานัก เพราะตอนนี้สมองว่างเปล่า สิ่งเดียวที่รับรู้ได้ก็คือสัมผัสสวาทจากผู้ชายบนร่างเท่านั้น“ได้โปรด... นางร้อน..
“พ่อรอนางนานไหม...” หางเสียงของหล่อนจางหายวับไปทันตา เมื่อสายตามองเห็นว่าบิดาไม่ได้อยู่ตามลำพัง แต่กำลังนั่งคุยอยู่กับชาร์ลีอย่างออกรสออกชาติหล่อนหน้าซีดเผือด รู้สึกเหมือนกับว่าพื้นดินใต้ฝ่าเท้ากำลังจะเคลื่อนตัวออกจากกัน“พ่อคะ อย่าไปคุยกับเขาค่ะ”“อ้าว ทำไมพูดถึงสามีตัวเองแบบนี้ล่ะนาง”คำถามของบิดา ทำให้ดวงตากลมโตเบิกกว้าง หล่อนจ้องมองชาร์ลีที่นั่งกอดอกยิ้มร่าด้วยความไม่พอใจเขาไม่ควรดึงพ่อของหล่อนเข้ามาเกี่ยวข้อง และที่สำคัญ เขาควรจะกลับไปเลแวนต้าได้แล้ว“คุณชาร์ลไม่ใช่สามีของนางหรอกค่ะพ่อ เราเป็นแค่...”ชาร์ลีไม่คิดจะรอให้หล่อนพูดจบ เขาลุกขึ้น และเดินเข้ามารั้งร่างสาวเข้าสู่อ้อมกอดอย่างรวดเร็ว ซึ่งมันเกิดขึ้นเร็วมากจนหล่อนต่อต้านไม่ทันร่างสาวถลาเข้าสู่อ้อมแขนอบอุ่นไม่ต่างจากลูกนกโผเข้าสู่อ้อมอกของมารดาเลย“ฉันรู้หรอกว่าทำให้เธอเข้าใจผิด แต่ก็อธิบายไปแล้วนี่ว่าฉันมีแต่เธอคนเดียว ไม่มีใครทั้งนั้น ทำไมยังไม่เลิกงอนอีกล่ะ”แล้วเขาก็ก้มลงจูบกระหม่อมของหล่อน โดยที่หล่อนทำได้แค่ยืนตัวแข็งทื่อ“ก็อย่างที่ผมเล่าให้คุณพ่อฟังนั่นแหละครับ ตอนแรกผมไม่ได้ตั้งใจจะรักลูกสาวของคุณพ่อหรอกครับ แต่พ
“อ้าว คุณชาร์ลี มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะเนี่ย”เกสราได้ยินเสียงเอะอะโวยวายก็ออกมาดู แล้วก็เห็นชาร์ลียืนอยู่กลางห้องโถงของบ้าน สีหน้ากำลังบูดบึ้งได้ทีเลยทีเดียว“สักพักแล้วล่ะครับ”“แล้วนี่ช้องนางไปไหนล่ะคะ หรือว่าไปยกน้ำมาให้คะ”ชายหนุ่มกระแทกลมหายใจออกมาแรงๆ ด้วยความหงุดหงิด ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะต้องวิ่งตามหลังผู้หญิงคนไหน แต่ช้องนางทำให้เขาเป็นบ้า“วิ่งหนีผมไปแล้วครับ”“ตายจริง ปกติช้องนางเป็นเด็กมีเหตุผลนี่นา ไม่น่าทำตัวงี่เง่าแบบนี้นะคะ”“เธอทำครับ ทำทุกอย่างที่ผู้หญิงงี่เง่าเจ้าน้ำตาคนหนึ่งจะทำได้เลยทีเดียว และผมก็บ้ามากที่อดทนง้อได้นานถึงขนาดนี้”เกสราอมยิ้ม ก่อนจะเชื้อเชิญให้ชาร์ลีนั่งลงบนโซฟา “ค่อยๆ พูดค่อยๆ จากันนะคะ ช้องนางน่ะ เป็นเด็กจิตใจดี และมีเหตุผลเสมอค่ะ ถ้าบอกให้เธอเข้าใจ ฉันว่าเธอจะอ่อนลงค่ะ”“แต่ผมก็บอกไปแล้วว่าผมมาตามกลับเลแวนต้า แต่เธอก็ยังงี่เง่าไม่ยอมท่าเดียว”“งั้นคุณชาร์ลีก็ไม่ต้องไปใส่ใจอะไรช้องนางแล้วล่ะค่ะ ก็หย่าๆ กันไปเลยตามที่เธอต้องการเถอะค่ะ”“ผมจะทำอย่างนั้นได้ยังไงกันล่ะครับ”เกสราจ้องหน้าของชายหนุ่มสูงศักดิ์ มองอย่างรอคอยคำตอบ และก็เ
หลังจากร้องไห้มาตลอดทางจนคนขับรถแท็กซี่ต้องหยิบกระดาษทิชชูยื่นมาให้ซับน้ำตา หล่อนก็ก้าวลงจากรถด้วยความอ่อนแรงหลังจากจ่ายค่าโดยสารเสร็จแล้ว“คุณชาร์ลยังต้องการอะไรจากนางอีก... แค่นี้นางยังเจ็บไม่พอหรือไง...”หลังมือเล็กยกขึ้นป้ายน้ำตาออกจากแก้มนวลหลายครั้งเพราะต้องการให้มันแห้งเหือด หล่อนไม่ต้องการให้คนในบ้านเห็นความอ่อนแอของตนเองช้องนางกำลังจะก้าวเท้าเข้าไปในบ้าน แต่แล้วเสียงแตรรถยนต์ก็แผดเสียงดังลั่น หล่อนสะดุ้งตกใจจนต้องหันกลับไปมอง และก็เห็นชาร์ลีก้าวลงมาจากรถคนนั้นหล่อนช็อกค้าง สองขาอ่อนเปลี้ยจนก้าวหนีไปไหนไม่ได้ หล่อนเห็นเขาหยิบเงินหลายใบยื่นให้กับมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ขับนำหน้ามา ก่อนจะย่างสามขุมเข้ามาหาหล่อนหนีสิ...หล่อนสั่งตัวเอง แต่ขาไม่ยอมขยับ จนกระทั่งเขาก้าวเข้ามาหยุดตรงหน้า กลิ่นอายอันตรายของเขาโชยฟุ้งเข้ามาในจมูก หน้างามซีดเผือดไร้สีเลือด“คุณชาร์ล...”เขาโน้มหน้าต่ำลงมาหา และกระซิบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาที่ข้างใบหูของหล่อน“เธอหนีฉันไม่พ้นหรอก ช้องนาง”หล่อนตัวสั่นเทา หัวใจก็สั่นสะท้าน ก่อนจะช้อนตาขึ้นมองคนใจร้าย มองอย่างอยากรู้ว่าเขาจะทำร้ายกันไม่พอหรือไง ถึงไม่สนใจตอบค
“พอนางมีรายได้แล้ว นางจะ... ผ่อนใช้หนี้คุณชาร์ลค่ะ”“ฉันไม่ได้ต้องการเงินขี้ปะติ๋วของเธอหรอก เพราะกว่าเธอจะใช้หนี้สินที่อาของเธอเอาจากท่านแม่ของฉันครบ ฉันก็ขึ้นไปนอนเล่นบนสวรรค์ไม่รู้กี่ปีแล้วมั้ง” เขาประชดประชันด้วยน้ำเสียงดุกระด้างน่าหวาดกลัว“งั้นนางจะหัดซื้อลอตเตอรี่ก็แล้วกันค่ะ”คนที่ขับรถอยู่หันขวับมามองด้วยความแปลกใจ “ทำไมต้องซื้อลอตเตอรี่ด้วย ชอบเสี่ยงโชคด้วยหรือเธอน่ะ”“เปล่าค่ะ นางไม่ได้ชอบเสี่ยงโชค แต่นางต้องการถูกรางวัลที่หนึ่ง เพื่อที่จะได้มีเงินไปใช้หนี้คุณชาร์ลไงคะ”นี่เขาหัวเราะทำไมกันนะ หล่อนพูดอะไรผิดไปอย่างนั้นเหรอหล่อนช้อนตาขึ้นมองเขา ก็พบว่าเขาหัวเราะจนหน้าดำหน้าแดงเลยทีเดียว ก่อนจะละสายตาจากท้องถนนมามองหล่อน“ทำไมเธอละโมบแบบนี้ล่ะ เธอถูกรางวัลที่หนึ่งมาแล้วครั้งหนึ่ง ควรจะให้คนอื่นเขาบ้าง อย่าใจแคบนักเลย”“นางไม่เคยซื้อลอตเตอรี่มาก่อนเลยในชีวิต แล้วนางจะถูกรางวัลที่หนึ่งได้ยังไงกันคะ”“ก็ฉันไงล่ะ ลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งของเธอ”เขาอมยิ้มแพรวพราว และเมื่อเห็นเครื่องหมายคำถามบนใบหน้าของหล่อนจึงอธิบายต่อ“การที่เธอได้ฉันเป็นสามีก็ไม่ต่างจากการถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หน