“พ่อคะ... พ่อส่งมันให้นางนะคะ อย่ากำมันแน่นแบบนั้น พ่อ... พ่อคะ...”
น้ำตาของหล่อนไหลรินออกมาด้วยความเวทนาในสภาพของบิดา แต่ท่านกลับไม่ได้แสดงความรู้สึกใดออกมาเลยแม้แต่ความเจ็บปวดบาดแผล
“นา... ผมคิดถึงคุณ... นา...”
พ่อพึมพำคร่ำครวญถึงมารดาผู้ล่วงลับไปแล้วของหล่อน น้ำตาของพ่อค่อยๆ ไหลรินอาบแก้ม
“พ่อจ๋า... พ่อ... พ่ออย่าทำแบบนี้เลยค่ะ อย่าทำร้ายตัวเองเลย แม่มองอยู่บนฟ้า... แม่คงไม่มีความสุขหรอกถ้าเห็นพ่อทำแบบนี้ เชื่อนางนะคะพ่อ...”
พ่อของหล่อนไม่ได้พูดคำใดออกมา ยอมปล่อยเศษแก้วออกจากมือ และก็ยอมให้หล่อนประคองขึ้นไปนั่งบนโซฟา
“พ่อรอนางอยู่ตรงนี้นะจ๊ะ นางไปเอาที่ทำแผลก่อน”
พ่อของหล่อนก็ไม่ได้ตอบเหมือนเดิม นั่งนิ่งราวกับมนุษย์ที่มีแค่ร่างกายแต่ไร้จิตวิญญาณ
หล่อนรีบเดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลที่อยู่ด้านนอก และรีบกลับมาทำแผลให้กับบิดาทันที
ระหว่างที่นั่งทำแผลให้กับท่าน บิดาไม่ได้พูดไม่ได้จาคำใดออกมาเลย หล่อนมองท่านผ่านม่านน้ำตา และก็ตัดสินใจแล้วว่าจะตอบตกลงทำตามความต้องการของเกสรา
“เสร็จแล้วจ้ะพ่อ”
หล่อนพูดกับท่าน แต่ท่านก็ยังทำเหมือนเดิมนั่นก็คือไม่พูดไม่จา นั่งเหม่อลอย
“เดี๋ยวนางไปเอาไม้กวาดมาทำความสะอาดห้องให้นะจ๊ะ”
หล่อนฝืนยิ้มให้กับบิดา และรีบลุกขึ้นไปหยิบไม้กวาดมาทำความสะอาดเศษแก้วที่ตกอยู่เกลื่อนห้องทั้งน้ำตา
ภายในห้องอาหารหรูหราที่ถูกตกแต่งอย่างประณีตสวยงาม อาหารจำนวนมากมายถูกยกมาจัดเรียงเพื่อปรนเปรอให้กับครอบครัวของแคทเธอรีนอิ่มเอมและพึงพอใจ
ลาซาลอสนั่งอยู่หัวโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ ข้างซ้ายของเขาคือแคทเธอรีนภรรยาผู้เป็นที่รัก ส่วนทางด้านขวาคือบุตรชายเพียงคนเดียวที่เขารักสุดหัวใจนั่นก็คือชาร์ลี และถัดจากชาร์ลีไปก็คือไลลา ลูกสาวบุตรธรรม
ไลลาไม่เคยรู้สึกเกร็งยามถูกสายตาของแคทเธอรีนมองแบบนี้มาก่อนเลย หล่อนรู้ดีว่าแม่บุญธรรมของตัวเองทั้งผิดหวังทั้งไม่พอใจกับความสัมพันธ์เกินเลยของหล่อนกับชาร์ลีมากแค่ไหน
“ไลลา เธอรู้แล้วใช่ไหมว่าชาร์ลีกำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงที่เหมาะสมในเร็ววันนี้”
ไลลาช้อนตาขึ้นมองแคทเธอรีนเล็กน้อย ก่อนจะฝืนใจระบายยิ้มหวานออกมา
“ทราบแล้วค่ะท่านแม่”
แคทเธอรีนระบายยิ้มออกมา แต่ดวงตาของหล่อนไม่ได้รู้สึกยิ้มแย้มแม้แต่นิดเดียว
ไลลาตัวสั่นเทา มือไม้เย็นเฉียบ จนชาร์ลีที่นั่งอยู่ข้างกายต้องยื่นมือมาแตะที่ต้นขาเบาๆ เพื่อให้กำลังใจอย่างเงียบๆ
“ฉันหวังว่าเธอจะยินดีกับชาร์ลีด้วยนะไลลา”
“เอ่อ... หนูยินดีกับพี่ชาร์ลเสมอค่ะ”
“ถ้าเธอทำได้อย่างที่พูดมันก็จะดีมาก ไลลา”
แคทเธอรีนละสายตาจากไลลาไปมองหน้าสามีของตนเอง และเอ่ยขึ้นเพื่อหาแนวร่วมสนับสนุน
“จริงไหมคะคุณพี่”
“จริงครับที่รัก”
ลาซาลอสรีบตอบเอาอกเอาใจภรรยาสุดที่รัก ก่อนจะหันมามองหน้าบุตรชาย
“แกน่ะเวลาจะทำอะไรก็หัดคิดให้มันรอบคอบบ้าง อย่าทำผิดให้แม่เขาต้องลำบากใจอีกเข้าใจไหม ชาร์ลี”
“ครับท่านพ่อ”
ชาร์ลีไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากตอบรับออกไปตามที่บิดามารดาต้องการ ซึ่งที่เขาต้องทำแบบนี้ก็เพราะว่า เขาไม่ต้องการทำให้ไลลาเดือดร้อนนั่นเอง
“ดีมาก”
ลาซาลอสกล่าวชมเชยลูกชายหลังจากตักอาหารใส่จานให้ภรรยาอย่างเอาอกเอาใจเสร็จแล้ว
“จำเอาไว้ว่าพี่น้องกัน รักกันไม่ได้ อย่าทำให้พ่อกับแม่ต้องอับอายขายหน้าอีก เธอด้วยไลลา”
“ค่ะ ท่านพ่อ”
ไลลากำช้อนในมือแน่นด้วยความเจ็บร้าวในอก หากกลับไปแก้ไขอดีตได้ หล่อนยอมเป็นเด็กข้างถนนแล้วมาพบรักกับชาร์ลี ดีกว่าการพบรักกับชาร์ลีในสถานะพี่น้องบุญธรรมแบบนี้ เพราะความสัมพันธ์แบบนี้ไม่มีใครเห็นด้วยเลย
“เอ่อ... หนูขอตัวก่อนนะคะ อิ่มแล้วค่ะ”
“น้องเพิ่งกินไปนิดเดียวเองนะ ไลลา”
ชาร์ลีเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วง แต่ก็ต้องหยุดพูดแค่นั้น เมื่อเห็นสายตาดุๆ ของมารดา
“ไปเถอะ แต่ถ้าหิวก็สั่งให้คนใช้ยกไปให้ที่ห้องเลยก็ได้ ฉันไม่ว่าหรอก”
“ขอบคุณค่ะท่านแม่ งั้นหนูขอตัวก่อนค่ะ”
ไลลารีบเดินจากไป ในขณะที่ชาร์ลีห้ามตัวเองไม่ให้หันไปมองหญิงคนรักไม่ได้
“ชาร์ล” เสียงของแคทเธอรีนเข้มและเต็มไปด้วยความตำหนิกลายๆ
“ครับท่านแม่”
“ถ้าลูกยังแสดงท่าทางแบบนี้กับไลลาอีก แม่จะส่งไลลาไปอยู่ที่อื่น”
“ผมกำลังพยายามทำตามที่ท่านแม่ต้องการอยู่ครับ แต่เรื่องความรู้สึกมันต้องใช้เวลา” เขาตัดพ้อมารดา
“อย่าให้นานนักล่ะ เพราะอีกไม่กี่วันผู้หญิงเพียบพร้อมมากมายก็จะเดินทางมาที่นี่กันแล้ว แม่อยากให้พ่อชาร์ลเตรียมตัวให้ดี เลือกคนที่ด่างพร้อยน้อยที่สุด”
แม่ของเขาระบายยิ้มพึงพอใจ ในขณะที่เขากำลังเต็มไปด้วยความทุกข์ใจแสนสาหัส
ผู้หญิงที่เขาจะเลือกก็คงเป็นได้แค่เมียที่เขาเอาไว้ปกปิดความสัมพันธ์ของเขากับไลลาเท่านั้น เขาไม่มีทางรักผู้หญิงคนไหนอีกแล้วนอกจากไลลา
หลังจากจบอาหารมื้อเช้า เกสราก็เรียกหล่อนมาพบที่เดิม และทวงคำตอบจากหล่อน
“อารอคำตอบของเธออยู่นะ ช้องนาง”
หล่อนยืนนิ่งอยู่เบื้องหน้าของเกสรา สบประสานสายตาไม่หนีหาย ก่อนที่กลีบปากอิ่มสีแดงระเรื่อจะขยับ
“นางตกลงค่ะอาเกส”
รอยยิ้มพึงพอใจระบายบนใบหน้าของเกสรา “เธอตัดสินใจถูกต้องแล้วล่ะ เพราะทางนี้คือทางรอดเดียวของวัฒนาดิลก”
“แต่อาเกสจะต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับนางนะคะ เรื่องของพ่อน่ะค่ะ”
“ไม่ต้องเป็นกังวล ฉันจะส่งตัวพี่ชัชไปบำบัดที่โรงพยาบาลของคนที่ฉันรู้จัก แต่ราคาค่อนข้างสูง ซึ่งฉันก็หวังว่าเธอจะพยายามจนสามารถเอาชนะผู้หญิงทุกคน และก้าวขึ้นไปเป็นภรรยาของมหาเศรษฐีรูปงามอย่างชาร์ลี เฮนเดอร์สันได้นะ”
“ค่ะ นางจะพยายามอย่างสุดความสามารถ”
“ดีมาก”
“เอ่อ... แล้วนางจะต้องทำยังไงต่อจากนี้คะ”
“เราจะบินไปเลแวนต้ากันในวันพรุ่งนี้ พร้อมกับช่างแต่งหน้าช่างทำผมฝีมือเยี่ยม”
ช้องนางรู้สึกประหม่ากับสิ่งที่ได้ยินเหลือเกิน เพราะดูเหมือนเกสราจะคาดหวังกับเรื่องในครั้งนี้มาก
“นางว่า... เราไปกันแค่สองคนก็ได้นะคะ ช่างแต่งหน้ากับช่างทำผม นางว่าไม่จำเป็นหรอกค่ะ”
“ทำไมจะไม่จำเป็น”
เกสราตวัดสายตาตำหนิมองหลานสาว ขณะกวาดมองร่างของช้องนางทั้งตัว
“เธอคิดว่าสวยธรรมชาติมันจะสู้สวยด้วยเครื่องสำอางได้อย่างนั้นเหรอ ไม่มีทางเป็นไปได้ ทำตามที่อาบอกนั่นแหละ เราต้องเตรียมทุกอย่างให้พร้อมที่สุด”
“ค่ะ... อาเกส” หล่อนไม่มีทางเลือกใดนอกจากตอบรับออกไปเท่านั้น
“แล้ววันนี้มีนัดกับใครหรือเปล่าล่ะ”
“นางมีนัดกับเพื่อนตอนบ่ายโมงค่ะ”
“ไปยกเลิกนัดให้หมด”
หล่อนมองเกสราด้วยความแปลกประหลาดใจกับคำสั่งเผด็จการที่ได้รับ
“ทำไมล่ะคะอาเกส”
“เพราะว่าเธอจะต้องเข้าคอร์สขัดผิว”
หล่อนก้มลงมองผิวของตัวเอง และพยายามโต้แย้งออกไป “แต่นางก็ขัดเนื้อขัดตัวทุกวันตอนอาบน้ำนะคะ ไม่น่าจะมีขี้ไคลอะไรหรอกค่ะอาเกส”
“ถึงเธอจะผิวสวยอยู่แล้ว แต่อาต้องการให้มันเนียนนุ่มเหมือนกับหยาดน้ำนม ดังนั้นทำตามที่อาสั่งเถอะ เพื่อความสำเร็จของวัฒนาดิลก”
หล่อนยืนอึ้งไป รู้สึกอึดอัดกับสิ่งที่กำลังเผชิญหน้าเหลือเกิน แต่ก็รู้ดีว่าไม่มีทางปฏิเสธได้ นอกจากตอบรับ
“ค่ะ อาเกส”
“ดีมาก เดี๋ยวสิบโมงคนของร้านสปาจะมาถึง เธอเตรียมตัวให้พร้อมล่ะ”
“ค่ะ”
“แล้วให้ความร่วมมือด้วยล่ะ เพราะอาลงทุนด้วยเงินทั้งหมดของตัวเองเลย”
หล่อนจำต้องฝืนระบายยิ้มออกมา “ค่ะ อาเกส นางจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีค่ะ”
เกสราถอนใจออกมาด้วยความผ่อนคลายเมื่อได้ยินคำตอบของหลานสาว
“หลังจากขัดเนื้อขัดตัวเสร็จแล้ว ก็รีบไปจัดกระเป๋าเดินทาง เราจะบินพรุ่งนี้”
“แล้วเรื่องที่โรงเรียนของนางล่ะคะ”
“เธอสอบเสร็จแล้วนี่ คงไม่จำเป็นต้องไปโรงเรียนอีก แต่เพื่อความสบายใจของเธอ อาจะโทรไปแจ้งที่โรงเรียนให้ก็แล้วกัน”
หล่อนทำได้แค่ลอบถอนใจออกมาเบาๆ จากนั้นก็ขออนุญาตปลีกตัวเดินจากมา
ช้องนางที่ยืนทอดสายตามองออกไปยังสวนสวยผ่านระเบียงห้องนอนสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อถูกอ้อมแขนอบอุ่นที่แสนคุ้นเคยสวมกอดเข้ามาทางด้านหลัง“อุ้ยยย คุณชาร์ล...”คนตัวโตที่เพิ่งกลับจากทำงานระดมจูบซอกคอระหง “คิดถึงจังเลยครับที่รัก...”“แหม เราเพิ่งห่างกันแค่แปดชั่วโมงเองนะคะ”“แค่ชั่วโมงเดียว ผมก็จะขาดใจตายอยู่แล้วล่ะ”ร่างของหล่อนถูกจับให้หมุนกลับมาเผชิญหน้ากับสามีสุดหล่อ เขาโน้มหน้าลงมาจูบหน้าผากแผ่วเบา ก่อนจะเลื่อนเลยลงมาจูบปากอิ่ม สาวน้อยเผยอปากรับจูบตอบ“แอบไปกินน้ำผึ้งมาหรือเปล่าเนี่ย ทำไมปากหวานจัง”“คุณชาร์ลน่ะ...”หล่อนระบายยิ้มเอียงอาย สองพวงแก้มแดงระเรื่อ หัวใจพองฟูคับแน่นอก ตั้งแต่กลับมาเลแวนต้าอีกครั้ง ชีวิตของหล่อนก็เปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียวชาร์ลีรักษาคำมั่นสัญญาที่ให้เอาไว้กับหล่อนตอนที่ตามไปง้อที่เมืองไทยเป็นอย่างดี เขาปฎิบัติตัวกับหล่อนด้วยความรัก เอาใจใส่ และทำหน้าที่ของสามีที่ดีอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แถมคำว่ารักจากปากของเขาก็ยังกระซิบพร่ำบอกข้างหูทุกค่ำคืนหล่อนมีความสุข... จนไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่กำลังได้รับอยู่มันคือความจริง“คิดถึงผมไหม...” เขาก้มหน้าหล่อๆ ล
บนเตียงนอนของหล่อนยุ่งเหยิงยับเยิน เมื่อสองร่างเปลือยเปล่ากำลังคลุกเคล้าโรมรันกันอย่างดุเดือด กายสาวบิดเร่าๆ เมื่อถูกชาร์ลีปลุกเร้าจนร้อนราวกับเปลวเพลิงเขาจูบ เขาดูดปาก ล้วงลิ้นร้อนๆ เข้ามาหา รัดรึงลิ้นเล็กอย่างหื่นกระหาย ส่วนฝ่ามือก็ลูบไล้บีบเคล้นเต้านมหนักหน่วง กายสาวดิ้นเร่าๆ ด้วยความเสียดเสียวทรมาน เสี้ยวสติหนึ่งพยายามจะต่อต้าน แต่ก็ถูกปัดเป่าจนจางหาย ตอนนี้ในหัวของหล่อนมีแต่ความว่างเปล่า“อา... อ๊า...”หล่อนหยัดหน้าอกอวบขึ้นสูงตอบรับนิ้วยาวที่กำลังบี้บดอยู่กับปลายถัน เขาเอาทั้งสองมือดึงยอดทรวงเอาไว้ สนุกสนานกับการเห็นมันค่อยๆ แข็งเป็นไตสู้นิ้วมือ“อา... อา... คุณชาร์ลขา... อ๊า...”รอยยิ้มพึงพอใจระบายเต็มใบหน้าหล่อเหลา ยิ่งเห็นหล่อนดิ้นพล่านด้วยความกระสัน เขาก็ยิ่งเพิ่มน้ำหนักนิ้วและฝ่ามือที่คุกคามเต้าอวบยิ่งขึ้น“ได้โปรด... คุณชาร์ลขา... อา...” หล่อนวิงวอนเขาทั้งทางร่างกายและสายตา“รู้ไหม... เธอเป็นผู้หญิงที่น่าเสพสุขด้วยเหลือเกิน ช้องนาง...”หล่อนไม่เข้าใจความหมายของเขานัก เพราะตอนนี้สมองว่างเปล่า สิ่งเดียวที่รับรู้ได้ก็คือสัมผัสสวาทจากผู้ชายบนร่างเท่านั้น“ได้โปรด... นางร้อน..
“พ่อรอนางนานไหม...” หางเสียงของหล่อนจางหายวับไปทันตา เมื่อสายตามองเห็นว่าบิดาไม่ได้อยู่ตามลำพัง แต่กำลังนั่งคุยอยู่กับชาร์ลีอย่างออกรสออกชาติหล่อนหน้าซีดเผือด รู้สึกเหมือนกับว่าพื้นดินใต้ฝ่าเท้ากำลังจะเคลื่อนตัวออกจากกัน“พ่อคะ อย่าไปคุยกับเขาค่ะ”“อ้าว ทำไมพูดถึงสามีตัวเองแบบนี้ล่ะนาง”คำถามของบิดา ทำให้ดวงตากลมโตเบิกกว้าง หล่อนจ้องมองชาร์ลีที่นั่งกอดอกยิ้มร่าด้วยความไม่พอใจเขาไม่ควรดึงพ่อของหล่อนเข้ามาเกี่ยวข้อง และที่สำคัญ เขาควรจะกลับไปเลแวนต้าได้แล้ว“คุณชาร์ลไม่ใช่สามีของนางหรอกค่ะพ่อ เราเป็นแค่...”ชาร์ลีไม่คิดจะรอให้หล่อนพูดจบ เขาลุกขึ้น และเดินเข้ามารั้งร่างสาวเข้าสู่อ้อมกอดอย่างรวดเร็ว ซึ่งมันเกิดขึ้นเร็วมากจนหล่อนต่อต้านไม่ทันร่างสาวถลาเข้าสู่อ้อมแขนอบอุ่นไม่ต่างจากลูกนกโผเข้าสู่อ้อมอกของมารดาเลย“ฉันรู้หรอกว่าทำให้เธอเข้าใจผิด แต่ก็อธิบายไปแล้วนี่ว่าฉันมีแต่เธอคนเดียว ไม่มีใครทั้งนั้น ทำไมยังไม่เลิกงอนอีกล่ะ”แล้วเขาก็ก้มลงจูบกระหม่อมของหล่อน โดยที่หล่อนทำได้แค่ยืนตัวแข็งทื่อ“ก็อย่างที่ผมเล่าให้คุณพ่อฟังนั่นแหละครับ ตอนแรกผมไม่ได้ตั้งใจจะรักลูกสาวของคุณพ่อหรอกครับ แต่พ
“อ้าว คุณชาร์ลี มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะเนี่ย”เกสราได้ยินเสียงเอะอะโวยวายก็ออกมาดู แล้วก็เห็นชาร์ลียืนอยู่กลางห้องโถงของบ้าน สีหน้ากำลังบูดบึ้งได้ทีเลยทีเดียว“สักพักแล้วล่ะครับ”“แล้วนี่ช้องนางไปไหนล่ะคะ หรือว่าไปยกน้ำมาให้คะ”ชายหนุ่มกระแทกลมหายใจออกมาแรงๆ ด้วยความหงุดหงิด ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะต้องวิ่งตามหลังผู้หญิงคนไหน แต่ช้องนางทำให้เขาเป็นบ้า“วิ่งหนีผมไปแล้วครับ”“ตายจริง ปกติช้องนางเป็นเด็กมีเหตุผลนี่นา ไม่น่าทำตัวงี่เง่าแบบนี้นะคะ”“เธอทำครับ ทำทุกอย่างที่ผู้หญิงงี่เง่าเจ้าน้ำตาคนหนึ่งจะทำได้เลยทีเดียว และผมก็บ้ามากที่อดทนง้อได้นานถึงขนาดนี้”เกสราอมยิ้ม ก่อนจะเชื้อเชิญให้ชาร์ลีนั่งลงบนโซฟา “ค่อยๆ พูดค่อยๆ จากันนะคะ ช้องนางน่ะ เป็นเด็กจิตใจดี และมีเหตุผลเสมอค่ะ ถ้าบอกให้เธอเข้าใจ ฉันว่าเธอจะอ่อนลงค่ะ”“แต่ผมก็บอกไปแล้วว่าผมมาตามกลับเลแวนต้า แต่เธอก็ยังงี่เง่าไม่ยอมท่าเดียว”“งั้นคุณชาร์ลีก็ไม่ต้องไปใส่ใจอะไรช้องนางแล้วล่ะค่ะ ก็หย่าๆ กันไปเลยตามที่เธอต้องการเถอะค่ะ”“ผมจะทำอย่างนั้นได้ยังไงกันล่ะครับ”เกสราจ้องหน้าของชายหนุ่มสูงศักดิ์ มองอย่างรอคอยคำตอบ และก็เ
หลังจากร้องไห้มาตลอดทางจนคนขับรถแท็กซี่ต้องหยิบกระดาษทิชชูยื่นมาให้ซับน้ำตา หล่อนก็ก้าวลงจากรถด้วยความอ่อนแรงหลังจากจ่ายค่าโดยสารเสร็จแล้ว“คุณชาร์ลยังต้องการอะไรจากนางอีก... แค่นี้นางยังเจ็บไม่พอหรือไง...”หลังมือเล็กยกขึ้นป้ายน้ำตาออกจากแก้มนวลหลายครั้งเพราะต้องการให้มันแห้งเหือด หล่อนไม่ต้องการให้คนในบ้านเห็นความอ่อนแอของตนเองช้องนางกำลังจะก้าวเท้าเข้าไปในบ้าน แต่แล้วเสียงแตรรถยนต์ก็แผดเสียงดังลั่น หล่อนสะดุ้งตกใจจนต้องหันกลับไปมอง และก็เห็นชาร์ลีก้าวลงมาจากรถคนนั้นหล่อนช็อกค้าง สองขาอ่อนเปลี้ยจนก้าวหนีไปไหนไม่ได้ หล่อนเห็นเขาหยิบเงินหลายใบยื่นให้กับมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ขับนำหน้ามา ก่อนจะย่างสามขุมเข้ามาหาหล่อนหนีสิ...หล่อนสั่งตัวเอง แต่ขาไม่ยอมขยับ จนกระทั่งเขาก้าวเข้ามาหยุดตรงหน้า กลิ่นอายอันตรายของเขาโชยฟุ้งเข้ามาในจมูก หน้างามซีดเผือดไร้สีเลือด“คุณชาร์ล...”เขาโน้มหน้าต่ำลงมาหา และกระซิบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาที่ข้างใบหูของหล่อน“เธอหนีฉันไม่พ้นหรอก ช้องนาง”หล่อนตัวสั่นเทา หัวใจก็สั่นสะท้าน ก่อนจะช้อนตาขึ้นมองคนใจร้าย มองอย่างอยากรู้ว่าเขาจะทำร้ายกันไม่พอหรือไง ถึงไม่สนใจตอบค
“พอนางมีรายได้แล้ว นางจะ... ผ่อนใช้หนี้คุณชาร์ลค่ะ”“ฉันไม่ได้ต้องการเงินขี้ปะติ๋วของเธอหรอก เพราะกว่าเธอจะใช้หนี้สินที่อาของเธอเอาจากท่านแม่ของฉันครบ ฉันก็ขึ้นไปนอนเล่นบนสวรรค์ไม่รู้กี่ปีแล้วมั้ง” เขาประชดประชันด้วยน้ำเสียงดุกระด้างน่าหวาดกลัว“งั้นนางจะหัดซื้อลอตเตอรี่ก็แล้วกันค่ะ”คนที่ขับรถอยู่หันขวับมามองด้วยความแปลกใจ “ทำไมต้องซื้อลอตเตอรี่ด้วย ชอบเสี่ยงโชคด้วยหรือเธอน่ะ”“เปล่าค่ะ นางไม่ได้ชอบเสี่ยงโชค แต่นางต้องการถูกรางวัลที่หนึ่ง เพื่อที่จะได้มีเงินไปใช้หนี้คุณชาร์ลไงคะ”นี่เขาหัวเราะทำไมกันนะ หล่อนพูดอะไรผิดไปอย่างนั้นเหรอหล่อนช้อนตาขึ้นมองเขา ก็พบว่าเขาหัวเราะจนหน้าดำหน้าแดงเลยทีเดียว ก่อนจะละสายตาจากท้องถนนมามองหล่อน“ทำไมเธอละโมบแบบนี้ล่ะ เธอถูกรางวัลที่หนึ่งมาแล้วครั้งหนึ่ง ควรจะให้คนอื่นเขาบ้าง อย่าใจแคบนักเลย”“นางไม่เคยซื้อลอตเตอรี่มาก่อนเลยในชีวิต แล้วนางจะถูกรางวัลที่หนึ่งได้ยังไงกันคะ”“ก็ฉันไงล่ะ ลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งของเธอ”เขาอมยิ้มแพรวพราว และเมื่อเห็นเครื่องหมายคำถามบนใบหน้าของหล่อนจึงอธิบายต่อ“การที่เธอได้ฉันเป็นสามีก็ไม่ต่างจากการถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หน