เมื่อทุกคนออกจากบ้านไปกันหมดโรสรินก็รู้สึกเหงาแปลกๆ ไม่มีเพื่อน ไม่มีใครอยู่คุยเป็นเพื่อน จะมีก็แต่แม่บ้านซึ่งบางคนก็มองเธอด้วยสายตาแปลกๆ จนเธอต้องหลบสายตาไม่กล้าที่จะพูดอะไรด้วย
“จะทำอะไรคะ” เสียงแม่บ้านวัยกลางคนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงและท่าทางไม่พอใจเท่าไหร่นัก
“โรสว่าจะซักเสื้อผ้าให้พี่ฟาร์ค่ะ”
หญิงสาวหน้าตาใสซื่อตอบแม่บ้านพร้อมรอยยิ้ม เธอมาอยู่บ้านเขาแล้วจะให้เธออยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรเลยก็คงไม่ได้ เธอต้องหาอะไรทำบ้างจะได้ไม่ไร้ประโยชน์จนเกินไป
“ซักเป็นเหรอคะ” แม่บ้านเบ้ปากถามเพราะไม่คิดว่าผู้หญิงหน้าตาสวยๆ ดูท่าเป็นคุณหนูแบบนี้จะทำงานบ้านเป็น
“ซักเป็นค่ะ” หญิงสาวตอบพร้อมรอยยิ้มที่เป็นมิตร ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะทำหน้าไม่เป็นมิตรกับเธอสักเท่าไหร่ก็ตาม
โรสรินถือตะกร้าผ้าไปยังหลังบ้านที่เป็นมุมซักเสื้อผ้าทันที โดยที่มีแม่บ้านคอยยืนมองอยู่ไม่ห่าง คงจะกลัวว่าเธอจะทำอะไรไม่เป็น แต่เรื่องงานบ้านเป็นอะไรที่เธอถนัดมาก เพราะตั้งแต่เสียคุณพ่อไปที่บ้านก็ไม่มีเงินจ้างแม่บ้าน เธอจึงต้องทำหน้าที่ทุกอย่างเองกับมือ รวมถึงซักเสื้อผ้าให้แม่เลี้ยงด้วย
งานบ้านเป็นอะไรที่ทำให้เธอไม่รู้สึกเหงา อย่างน้อยก็ไม่อาศัยบ้านคนอื่นอยู่โดยเปล่าประโยชน์ อะไรที่เธอพอจะทำได้ เธอก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนชายหนุ่ม
“คุณโรสมาทำอะไรคะ”
ป้าสายบัวแม่บ้านที่ทำงานและรับใช้เจ้านายที่บ้านหลังนี้มานานหลายปีเอ่ยถามหญิงสาวที่เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของบ้านหลังนี้ในฐานะภรรยาของเจ้านายอีกคน
“โรสมาซักผ้าให้พี่ฟาร์ค่ะ” โรสรินตอบพร้อมกับชี้ไปยังเครื่องซักผ้าที่กำลังทำงานอยู่
“ไม่ได้นะคะ หน้าที่นี้เป็นหน้าที่ของป้า เดี๋ยวป้าจัดการให้ค่ะ” ป้าสายบัวรีบตอบด้วยความตกใจ
“ไม่เป็นไรค่ะ โรสทำได้” ร่างบางยังคงยืนยันคำตอบเดิมและเธอก็เต็มใจที่จะทำหน้าที่และดูแลชายหนุ่มเป็นอย่างดี
“ไม่ได้ค่ะ” ป้าสายบัวปฏิเสธเสียงแข็ง ถ้าหากปล่อยให้ภรรยาของเจ้านายมาทำงานบ้านแบบนี้ มีหวังแม่บ้านอย่างเธอคงโดนไล่ออกอย่างแน่นอน
“ต่อไปนี้โรสจะเป็นคนซักเสื้อผ้าให้พี่ฟาร์เองค่ะ”
“แต่มันเป็นหน้าที่ของป้านะคะ”
“มีคนซักเสื้อผ้าช่วยก็ดีแล้วหนิ!” เสียงของนิดหน่อยแม่บ้านอีกคนก็พูดแทรกขึ้นมาด้วยท่าทางหมั่นไส้
“ก็ฉันยังไม่อยากตกงานหนิ” ป้าสายบัวตอบเสียงสั่น หากเจ้านายกลับมาเห็นแบบนี้มีหวังเธอคงจะโดนไล่ออกอย่างแน่นอน
“ไม่ตกงานหรอกค่ะ ป้าสายบัวจะได้พักและมีเวลาไปทำงานอื่นด้วย”
โรสรินยังคงยืนยันคำตอบเดิม ถ้าหากอะไรที่ทำแล้วเป็นการดูแลฟาร์ริกซ์เธอก็พร้อมที่จะทำ เพียงเพราะเธออยากจะทำหน้าที่ภรรยาให้ออกมาดีที่สุด ถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะไม่ชอบและไม่เต็มใจที่จะให้โรสรินทำหน้าที่นี้ก็ตาม
“ป้าจะไม่โดนไล่ออกเหรอคะ” ป้าสายบัวถามต่อไม่หยุด ถ้าหากโดนไล่ออกขึ้นมามีหวังได้หางานใหม่ทำยากแน่ๆ ยิ่งสมัยนี้แล้วงานแม่บ้านก็ยิ่งหายาก
“ไม่หรอกค่ะ” ใบหน้าสวยตอบพร้อมรอยยิ้มสดใส
“ใครอยากทำก็ปล่อยให้ทำไป!” นิดหน่อยเชิดหน้าตอบ
“แต่มันเป็นหน้าที่ของฉัน” ป้าสายบัวกลัวตกงาน อายุก็เยอะแล้วกลัวจะไปหางานใหม่ลำบาก
“เดี๋ยวฉันจะเป็นพยานให้ว่ามีคนอยากทำ!” พูดจบนิดหน่อยก็ลากสายบัวให้เดินตามเข้าไปในบ้านทันที
ร่างบางมองตามหลังก่อนจะส่ายหน้าไปมาด้วยความไม่เข้าใจแม่บ้านอีกคนที่ดูจะไม่ชอบเธอเลยสักนิด แต่เธอก็ไม่ได้ติดตรงไหนหากใครจะชอบหรือไม่ชอบก็ไม่เป็นไร
โรสรินทำหน้าที่ซักผ้า ตากผ้าจนเสร็จเรียบร้อย แต่กว่าจะเสร็จก็เกือบบ่ายโมง เหลือแค่รอให้เสื้อผ้าแห้งก็จะได้มาเก็บและรีดให้เรียบร้อย
ทำงานบ้านมาเหนื่อยๆ ก็รู้สึกหิวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ร่างบางเดินตรงเข้าไปในห้องครัวเงียบๆ เพื่อที่จะหาอะไรทาน โดยที่เธอไม่อยากจะรบกวนใครให้มาลำบากเพราะเธอ
หญิงสาวทำข้าวไข่เจียวเมนูง่ายๆ ทานไปก่อน เพราะไม่ว่าจะเมนูไหนทานแล้วก็อิ่มเหมือนกัน ไม่จำเป็นที่จะต้องไปทำอะไรให้ยุ่งยากเลย
พอทานข้าวเสร็จก็ไปเก็บผ้าและรีดผ้าให้เรียบร้อยตามหน้าที่ แต่กว่าจะทำเสร็จก็ถึงเวลาเลิกงานของฟาร์ริกซ์พอดี
“ทำอะไร” ร่างสูงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบและท่าทางเย็นชาไร้อารมณ์
“โรสพึ่งจะรีดชุดทำงานให้พี่ฟาร์เสร็จค่ะ” ร่างบางก้มหน้าตอบเสียงเบาด้วยความเกรงใจ
“ใครบอกให้เธอทำ” น้ำเสียงและคำถามที่ออกจากปากของชายหนุ่มทำเอาหญิงสาวถึงกับทำตัวไม่ถูก
“โรสแค่อยากทำอะไรที่เป็นประโยชน์บ้างค่ะ” หญิงสาวยังคงใจดีสู้เสือ ไม่ว่าเธอจะเจอกับสถานการณ์ไหนเธอก็ต้องยิ้มสู้ เผื่อว่ารอยยิ้มของเธอจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น
“คงจะว่างมากสินะ” ใบหน้าหล่อแสยะยิ้มที่มุมปาก เพราะคิดว่าเธอคงจะแกล้งทำดีเอาหน้า
“พี่ฟาร์กลับมาเหนื่อยๆ นั่งพักดื่มน้ำเย็นๆ ก่อนนะคะจะได้สดชื่น” โรสรินเปลี่ยนเรื่องก่อนจะเดินไปในครัวเพื่อที่จะหาน้ำเย็นๆ มาให้ชายหนุ่มได้ดื่ม เผื่อว่าจะทำให้เขารู้สึกดีและอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง
ร่างบางเดินถือถาดที่มีแก้วน้ำเย็นๆ อยู่ด้านใน แต่พอออกมาก็ต้องพบกับความว่างเปล่าเมื่อฟาร์ริกซ์ไม่ได้นั่งรอเธอเลยสักนิด
เฮ้อ!
หญิงสาวถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยล้า ทั้งๆ ที่เธอทำดีทุกอย่างแต่เขากลับไม่เห็นค่าในสิ่งที่เธอทำเลยสักนิด
โรสรินพยายามใจเย็นและบอกตัวเองให้ทำดีต่อไป ถึงแม้ว่าทุกอย่างที่เธอทำจะไม่ถูกใจเขาเลยสักอย่าง แต่เธอก็หวังว่าสักวันเขาจะมองเห็นสิ่งดีๆ ที่เธอตั้งใจทำให้
..
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ
ตอนเย็นของวันหลังจากที่พาลูกๆ เที่ยวสวนสัตว์ตั้งแต่เช้าจนถึงบ่าย เด็กๆ ก็เริ่มที่จะหมดแรงกันแล้ว เนื่องจากใช้พลังงานกันไปเยอะ ทั้งพูดคุยกันไม่หยุดแถมยังชวนกันวิ่งไปดูสัตว์โดยที่ไม่กลัวอะไรกันเลยสักนิด“สนุกกันไหมครับ?”ฟาร์ริกซ์ถามลูกๆ พร้อมรอยยิ้มเมื่อเห็นเด็กๆ มีความสุขและสนุกสนานเป็นพิเศษถึงแม้อากาศจะร้อนแค่ไหน แต่ก็สู้แดดกันทั้งวันไม่บ่นว่าเหนื่อยเลยสักคำ“กลับบ้านกันค่ะ” โรสรินที่เห็นลูกๆ หมดแรงจึงชวนกลับบ้านทันที เพราะถ้าขืนอยู่นานกว่านี้มีหวังคงจะกลับถึงบ้านมืดค่ำกันพอดี“ครับ / ค่ะ” เด็กๆ ตอบรับพร้อมกันอย่างว่าง่ายสงสัยคงจะหมดแรงกันแล้วจริงๆโรสรินพาลูกๆ ขึ้นรถและนั่งประจำที่ของตัวเอง เพื่อที่จะพาลูกๆ กลับบ้าน ซึ่งน่าจะถึงบ้านตอนเย็นพอดีฟาร์ริกซ์ทำหน้าที่ขับรถเช่นเคยพอขับรถออกจากสวนสัตว์มาได้ไม่ไกลเท่าไหร่ เด็กๆ ก็นอนหลับกันตามระเบียบกว่าจะมาถึงบ้านก็เกือบจะสองทุ่ม เพราะช่วงเย็นรถติดมากทำให้ใช้เวลานานกว่าปกติ เมื่อถึงบ้านเด็กๆ ก็ตื่นนอน แถมยังรีบไปคุยให้ทุกคนในบ้านฟังว่าที่สวนสัตว์มีตัวอะไรบ้าง“ไปทานข้าวกันครับ” เมื่อขึ้นมาบนบ้านฟาร์ริกซ์ก็รีบถามขึ้นมาก่อนที่โรสรินจะเข้าห้
เช้าวันต่อมาวันนี้เป็นอีกวันที่น้องเฟิร์สกับน้องไฟท์ตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวที่จะไปเที่ยว เรียกได้ว่าเด็กๆ ดีใจและตื่นเต้นจนแทบจะนอนไม่หลับตลอดทั้งคืนถึงแม้ว่าการไปเที่ยวสวนสัตว์วันนี้จะไม่ใช่ครั้งแรกของน้องเฟิร์ส แต่น้องเฟิร์สก็ตื่นเต้นมากกว่าทุกครั้ง เพราะวันนี้จะมีน้องชายไปเที่ยวสวนสัตว์ด้วยกัน แถมยังมีคุณพ่อคุณแม่ไปด้วยกันอีกส่วนน้องไฟท์ก็ตื่นเต้นไม่น้อยเพราะเป็นการไปเที่ยวสวนสัตว์ครั้งแรกในชีวิต แถมพี่สาวก็คอยเล่าให้ฟังอยู่ตลอดพอวันนี้จะได้ไปเที่ยวสวนสัตว์จริงๆ ก็ยิ่งทำให้รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก“ทำไมคุณพ่อกับคุณแม่ยังไม่ลงมาอีกนะ” น้องเฟิร์สพูดขึ้นหลังจากที่มานั่งรออยู่ที่ห้องรับแขกได้ไม่นาน“สงสัยคุณแม่จะยังแต่งตัวไม่เสร็จแน่เลยครับ” น้องไฟท์รีบพูดขึ้นมาอีกเสียง“นั่งรออะไรกันอยู่ครับ?” ฟาร์ริกซ์เดินลงมาเห็นลูกๆ นั่งพูดคุยกันอยู่จึงเอ่ยถาม“นั่งรอคุณพ่อกับคุณแม่อยู่ค่ะ” ลูกสาวคนสวยตอบคุณพ่อ“แล้วคุณแม่อยู่ไหนครับ?” น้องไฟท์รีบถามถึงคุณแม่ทันทีเมื่อไม่เห็นแม่ลงมาพร้อมกับคุณพ่อ“คุณแม่กำลังจะลงมาครับ” ฟาร์ริกซ์ตอบลูกชายพร้อมรอยยิ้ม“งั้นเราไปรอคุณแม่ที่รถดีไหมครับ” น้อ
ห้าเดือนต่อมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาโรสรินใช้ชีวิตเป็นอย่างดีและมีความสุข นอกจากชีวิตของเธอจะมีลูกๆ ที่น่ารักแล้วเธอยังมีสามีที่รักและเอาใจใส่เธอมากเป็นพิเศษอีกด้วยไม่ว่าเธอจะไปไหนจะทำอะไรก็จะมีฟาร์ริกซ์คอยช่วยเหลือเธออยู่ตลอด เขาทำทุกอย่างได้ตามที่พูดเอาไว้ทุกอย่าง ซึ่งก็ทำให้เธอเห็นแล้วว่าเขาเป็นคนดีขึ้นมากแล้วจริงๆส่วนเรื่องผู้หญิงไม่ว่าจะเป็นคนเก่าหรือคนใหม่ก็ไม่มีเรื่องนี้เข้ามาให้โรสรินได้ปวดหัวหรือปวดใจอีก ซึ่งตอนแรกเธอก็สงสัยในความสัมพันธ์ของฟาร์ริกซ์กับอิงรักที่เป็นพี่เลี้ยงของน้องเฟิร์สแต่เธอก็เกิดความสงสัยไม่นานเธอก็ได้รู้ความจริงในทันทีว่าระหว่างฟาร์ริกซ์กับอิงรักเป็นเพียงแค่เจ้านายกับลูกจ้างกันเท่านั้น ทั้งสองไม่มีอะไรเกินเลยไปกว่าคำว่าเจ้านายกับลูกจ้างเลยสักนิดซึ่งโรสรินก็คิดว่าอีกไม่นานอิงรักคงจะได้เปลี่ยนสถานะจากพี่เลี้ยงมาเป็นคุณป้าของเด็กๆ แทน เพราะดูๆ แล้วฟินนิคซ์จะมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับอิงรัก ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ทุกคนในบ้านก็คิดว่าเป็นเรื่องดีและทั้งสองคนก็ดูเหมาะสมกันมาก“ทำอะไรอยู่ครับ?” ฟาร์ริกซ์เดินเข้าไปสวมกอดภรรยาที่นั่งอยู่โต๊ะทำงานด้วยใจ
หนึ่งเดือนต่อมาระยะเวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนที่น้องเฟิร์สกับน้องไฟท์ได้อยู่ด้วยกัน แต่ก็ทำให้เด็กทั้งสองคนรู้จักและสนิทกันมากขึ้นได้ภายในระยะเวลาไม่นานน้องเฟิร์สก็เป็นพี่สาวที่แสนดีคอยแบ่งของเล่นให้น้องชายถึงแม้ว่าของเล่นจะมีแต่ของเล่นผู้หญิงก็ตาม ส่วนน้องไฟท์ก็เป็นน้องที่น่ารักคอยเล่นกับพี่สาวได้ทุกอย่าง ไม่ว่าพี่สาวจะชวนเล่นอะไรน้องชายก็จะเล่นด้วยทุกอย่าง เพราะแบบนี้จึงทำให้ความสัมพันธ์ของสองพี่น้องรักใคร่กันและอยู่ด้วยกันแบบมีความสุขมากขึ้นโรสรินก็มีความสุขมากขึ้นที่ได้เห็นลูกสาวและลูกชายอยู่ด้วยกันในทุกวัน แต่อีกไม่นานบ้านหลังใหญ่ก็คงจะเงียบมากขึ้นเพราะเด็กๆ ทั้งสองจะต้องไปโรงเรียนกันแล้วโดยที่ฟาร์ริกซ์จัดการเรื่องสมัครเรียนให้ลูกๆ ที่โรงเรียนเอกชนชื่อดังที่อยู่ใกล้บ้าน ส่วนค่าเทอมก็คงไม่ต้องพูดถึงเพราะคุณพ่อเลือกโรงเรียนที่ดีที่สุดให้กับลูกๆ อยู่แล้ว ถึงแม้ว่าโรสรินจะไม่เห็นด้วยแต่เธอก็ต้องยอมเพื่อชีวิตที่ดีของลูก หากลูกๆ ได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี เธอก็เชื่อว่าจะทำให้คุณภาพชีวิตของลูกๆ ดีขึ้นไปด้วย“คุณพ่อกับคุณแม่จะไปทำงานแล้วเหรอคะ?” น้องเฟิร์สถามขึ้นมาก่อนใครเมื่อเห็นคุณพ่อกั
หลังจากที่น้องไฟท์เล่นบ้านบอลเสร็จโรสรินก็พาลูกชายกลับห้องพักทันที ในใจก็ว้าวุ่นคิดหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับชีวิต แต่ตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าเธอจะไม่มีทางให้เลือกเยอะสักเท่าไหร่ สุดท้ายแล้วคนเป็นแม่ก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อลูกเสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานถึงสามปีแต่ความรู้สึกเจ็บปวดในใจของโรสรินก็ยังคงฝังลึกอยู่ในใจไม่มีวันจางหาย หลายครั้งที่เธอคิดว่าตัวเองจะกลับไปใช้ชีวิตในบ้านสามีอีกครั้ง เธอก็จะคิดถึงความเจ็บปวดที่เธอเคยรู้สึก หากครั้งนี้เธอจะต้องเจ็บปวดแบบเดิมอีกความรู้สึกของเธอก็ไม่ต่างอะไรจากการตายทั้งเป็นแต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไงโรสรินก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อลูกอยู่ดี เพราะเธอจะไม่มีวันยอมให้ลูกของเธอทั้งสองคนอยู่คนละที่หรือต่างคนต่างอยู่เด็ดขาด ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่น้องกันก็ต้องถูกเลี้ยงดูและเติบโตมาด้วยกันถึงจะถูก“เพื่อลูกท่องไว้สิโรส” หญิงสาวมองหน้าลูกชายและพูดกับตัวเองเสียงเบาเพื่อให้กำลังใจตัวเอง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นทุกอย่างที่เธอทำก็เพื่อลูกทั้งนั้นยิ่งรอเวลาทุกอย่างก็จะยิ่งช้าและทำให้เธอเสียเวลาเปล่า เธอต้องตัดสินใจและสู้ให้ถึงที่สุด เธอเชื่อว่าทางเลือกนี้คงจะเป็นทางเ
หลังจากวันนั้นไม่นานโรสรินก็ได้เข้ามาทำงานอยู่ที่โรงแรมของภูมิพัฒน์ที่อยู่สาขาใกล้ๆ กับบ้านของน้องเฟิร์ส ซึ่งเธอก็ได้ไปหาน้องเฟิร์สที่บ้านอยู่บ้าง แต่น้องเฟิร์สก็ยังรู้สึกกล้าๆ กลัวๆ กับเธออยู่บ้างในตอนที่น้องเฟิร์สได้เจอโรสรินครั้งแรกก็ทำเอาคนเป็นแม่แทบน้ำตาไหล แต่เธอก็ต้องอดทนและกลั้นเอาไว้ก่อนเพื่อที่จะไม่ให้น้องเฟิร์สเห็นน้ำตาของเธอ ถึงน้องเฟิร์สจะยังไม่คุ้นชินกับเธอแต่เธอก็จะหาเวลาไปหาน้องเฟิร์สที่บ้านอยู่บ่อยๆ เพราะเธอเชื่อว่าการเจอหน้าและการพูดคุยกันทุกวันจะทำให้น้องเฟิร์สสนิทกับเธอมากขึ้นอย่างแน่นอนซึ่งตอนนี้โรสรินก็ต้องใจเย็นและรอเวลาที่น้องเฟิร์สจะปรับตัวให้เข้ากับเธอและยอมรับว่าเธอเป็นแม่จริงๆ ให้ได้ก่อน“วันนี้คุณแม่ไม่ไปทำงานเหรอครับ?” เด็กชายวัยสองขวบเศษๆ เอ่ยถามคุณแม่“วันนี้วันหยุดครับ” โรสรินตอบลูกชายพร้อมรอยยิ้ม“น้องไฟท์อยากไปเที่ยวครับ”เด็กชายตัวน้อยรีบบอกความต้องการของตัวเองทันที ถ้าเป็นตอนที่อยู่ภูเก็ตวันหยุดคุณแม่จะชอบพาลูกชายไปนั่งเล่นที่ชายหาดและพาเล่นน้ำทะเล แต่ก็นานๆ คุณแม่ถึงจะมีวันหยุด“ไปเที่ยวเหรอครับ?” ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่โรสรินก็ลืมนึกถึงเรื่องนี