บ้านไอริน
เช้าที่สดใสดูเหมือนเป็นวันธรรมดาทั่วๆ ไปของแก้วทิพย์แม่ไอรินเธอก็กวาดบ้านรดน้ำต้นไม้อยู่ที่หน้าบ้านเหมือนเคยในทุกๆ วันเสียงรถขับมาจอดหน้าบ้านแก้วทิพย์เงยหน้ามองเสียงของคุณอุไรสวัสดีทักทายเดินมาพร้อมกับข้าวของที่เต็มมือแก้วทิพย์รีบวางไม้กวาดในมือแล้วเดินไปหาคุณอุไรทันที “อรุณสวัสดิ์จ้ะแก้วทิพย์ คุณกิตติโชจน์สามีฉันบอกบ้านของเธออยู่ที่นี่พอดีฉันแวะมาทำธุระแถวนี้ฉันเลยซื้อของกินมาฝาก” คุณอุไรยิ้มอ่อนพร้อมกับชูมือที่ถือถุงของกินขึ้นมาให้แก้วทิพย์ดู “ไม่เห็นต้องลำบากซื้อมาให้เลยนะคะ ฉันเกรงใจคุณนาย เชิญเข้ามาในบ้านดื่มกาแฟก่อนค่ะ” แก้วทิพย์ตอบรับด้วยน้ำเสียงที่อ่อนน้อมผายมือเชื้อเชิญคุณอุไรเข้าไปในบ้าน “จะเกรงใจทำไมกัน ฉันซื้อมาฝากเธอกับหนูไอรินด้วยความเต็มใจ นี้คงยังไม่ตื่นสินะ” คุณอุไรพูดพลางสายตามองไปที่ชั้นสองของบ้าน “เปล่าหรอกค่ะ…ไอรินไม่ได้กลับมานอนบ้านเมื่อคืนนี้หน้าจะไปนอนที่บ้านเพื่อนเค้าน่ะค่ะ” แก้วทิพย์พูดจบก็มีเสียงรถขับมาจอดหน้าบ้านคงเป็นเพื่อนๆ มาส่งไอรินกันเด็กพวกนี้จริงๆ เลยพากันเที่ยวได้เกือบทุกวันแก้วทิพย์บ่นขึ้น มะขามฟ้าใสและปิ่นเดินเข้ามาหาแก้วทิพย์ที่นั่งดื่มกาแฟกับคุณอุไรอยู่ที่โต๊ะในบ้านแล้วถามว่า “คุณป้าคะ ไอรินตื่นหรือยังคะ” ฟ้าใสถามแบบนี้ก็ทำให้แก้วทิพย์ตกใจเพราะเธอคิดว่าไอรินลูกของเธอนั้นไปนอนบ้านเพื่อนคนใดคนหนึ่งแต่ปรากฏว่าเพื่อนทั้งหมดกลับมาหาไอรินที่บ้านเธอรู้สึกเป็นกังวลใจขึ้นมา “อ้าว…แล้วไอรินไม่ได้ไปนอนที่บ้านพวกหนูกันหรอ” แก้วทิพย์ตอบกลับด้วยท่าทีที่ดูตกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่ฟ้าใสถาม “เปล่านะคะ ไอรินโทรมาหาพวกเราเมื่อคืนแต่พวกหนูไม่ได้ยินสายมันหลุดไปโทรกลับไปก็ปิดเครื่องสงสัยโทรศัพท์ไอรินคงแบตหมดแน่ๆ พวกหนูเลยมาหาตอนเช้ากันแทน” “ทำไงดีละทีนี้ ป้าเป็นห่วงไอริน” เสียงของแก้วทิพย์เริ่มสั่นออกมาเล็กน้อย “เอางี้ เดี๋ยวฉันลองโทรถามเจ้ากรณ์ดูก่อนนะว่ามันไปส่งหนูไอรินที่ไหนกันไอ้ลูกคนนี้ฉันก็กลุ้มใจเหมือนกันเมื่อคืนก็ไม่ได้กลับมานอนบ้านด้วย” คุณอุไรพูดขึ้นพร้อมกับหยิบมือถือกดโทรหาลูกชายด้วยสีหน้ากังวลเช่นกัน…ตื้ด โทรติดแต่ไม่มีคนรับเลยเดี๋ยวลองโทรอีกที คอนโดคุณกรณ์ ไอรินที่นอนไม่หลับสักที เผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้เสียงนาฬิกาไม่ปลุกฉันเลยลืมไปว่ามือถือแบตหมดตื่นมาอีกทีก็เก้าโมงเช้าแล้วแม่เจ้าาา ไหนคนที่มันบอกจะไปส่งฉันทำไมยังไม่ตื่นมาปลุกฉันอีก ไอรินลุกจากโซฟาแล้วเดินไปหยุดอยู่หน้าประตูห้องคุณกรณ์ ไอรินยกมือขึ้นมาเคาะประตูสามทีพร้อมกับเรียกคุณกรณ์ด้วย “คุณกรณ์คะ…คุณกรณ์” สงสัยคงเบาไปเลยเพิ่มแรงในการเคาะประตูอีกครั้ง ทั้งเคาะทั้งเรียกก็ไม่ตอบรับแม้แต่คำเดียว ไอรินลองบิดกลอนประตูดูก็ไม่ได้ล็อคนี่นาเลยถือวิสาสะเข้าไปซะเลย เห้อ ไอรินถอนหายใจเพราะการที่เธอเคาะประตูเรียกให้คุณกรณ์ตื่นดูจะไม่เป็นผลกับการนอนอันแสนสบายของเขาเลยจริงๆ “นี่คุณตื่นได้แล้วมันสายแล้วจะนอนไปถึงไหน” ไอรินพูดพร้อมกับเอามือทั้งสองข้างดึงผ้าห่มออกจากตัวคุณกรณ์ออก “อื้ม รู้แล้วหล่ะน้าต้องบ่นทำไมกันแต่เช้า” คุณกรณ์ลุกขึ้นนั่งอยู่ขอบเตียงมือขวาขยี้ตาตัวเองพร้อมกับน้ำเสียงงัวเงียที่ตื่นจากการนอนอันแสนสุขของเขา “มันเช้าอะไรของคุณดูนาฬิกาหน่อยมั้ยป่านนี้แล้วแม่ฉันคงตื่นแล้วล่ะ ทำไงดี” ไอรินพูดด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรน “นี่แม่หนูกลัวอะไรไม่เข้าเรื่องทำกับว่าไม่เคยนอนค้างกับผู้ชายอย่างนั้นหล่ะ” คุณกรณ์พลางมองไอรินด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ยิ้มกริ่มอย่างมีพิรุธ “นี่ปากเหรอคะที่พูดฉันไม่เคยนอนกับคนแปลกหน้าแบบคุณซะหน่อย ถ้าบ่นเสร็จแล้วก็ช่วยไปแต่งตัวสักทีจะได้ไปส่งฉัน” “ไปรอฉันข้างนอกเดี๋ยวฉันตามไป” ณ บ้านไอริน "คุณกรณ์รับสายมั้ยคะ" แก้วทิพย์ถามคุณอุไรด้วยความกังวล ใจคอไม่ดีคิดไปต่างๆ นาๆ “ไม่รับสายเลยทำไงกันดี” “หรือว่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับสองคนนั้นกันคะ” ฟ้าใสพูดขึ้นอย่างดัง “มึง…พูดอะไรระวังหน่อยคุณป้าเขาใจเสียหมดแล้ว” ปิ่นพูดติฟ้าใส “หนูขอโทษค่ะ หนูแค่เป็นห่วงไอรินมากไป” บรรยากาศเริ่มตึงเครียดทุกคนต่างพากันคิดไปไกลว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับไอรินและคุณกรณ์ไหม จู่ๆ ก็มีรถขับมาจอดชิดติดหน้าบ้าน ไอรินเห็นเข้ากับรถของฟ้าใสที่จอดอยู่ก่อนแล้วจึงพลางขึ้น "นี่มันรถเพื่อนฉันมาจอดหน้าบ้านฉันได้ไง" เธอเอ่ยแล้วหันไปมองในบ้านก็เห็นแม่ของเธอกับคุณอุไรและก็เพื่อนๆ ทั้งสามคนของเธอจ้องมองมาที่รถคุณกรณ์ที่ฉันนั่งอยู่ด้วย “นี่มันรถเจ้ากรณ์ลูกชายฉันนี่นา…ทำไมพึ่งมาส่งหนูไอรินเอาป่านนี้นะ” คุณอุไรพูดขึ้นที่สงสัยไว้กับสามีของตนนั้นคงไม่ผิดเป็นแน่ทั้งสองต้องชอบกันแหงๆ เลยโอกาสที่จะได้อุ้มหลานมาถึงแล้ว “ทำไงดีคุณ ทำไมแม่คุณถึงมาอยู่ที่บ้านฉัน” ไอรินหันไปถามคุณกรณ์ที่นั่งข้างๆ “ฉันก็มาพร้อมเธอจะไปรู้ได้ไงล่ะ” “นี่ช่วยกันคิดก่อนได้ไหมจะเอาไงดีคุณจะลงมาพร้อมกับฉันหรือจะขับออกไปเลย” คุณกรณ์ได้ยินดังนั้นก็เปิดประตูรถลงมาพร้อมกับไอรินแล้วเดินไปหาพวกเขาที่นั่งจ้องมองมาหาเธอกับคุณกรณ์อย่างไม่วางสายตาไปทางอื่นเลย ไอรินรู้สึกร้อนรนเพราะยังไม่ได้คิดคำตอบเลย ถ้าแม่ถามจะตอบว่ายังไงดีคุณป้าอีกโอ้ยยย เธอครุ่นคิดในใจ “สวัสดีครับคุณน้า ขอโทษนะครับที่พึ่งมาส่งน้อง” “พอดีคุณกรณ์ง่วงหนูกลัวเค้าจะหลับในเลยให้นอนก่อน” ไอรินช่วยพูดแก้ต่างให้คุณกรณ์ “แล้วไปนอนกันที่ไหน” คุณอุไรพูดขึ้นพลางมองด้วยความสงสัย “เออคือว่า คอนโดผมเองแม่” ทุกคนได้ยินคำตอบคุณกรณ์แล้วก็ถึงกับพูดไม่ออกเลยที่เดียวนี้ลูกสองคนไปนอนด้วยกันมาอย่างนั้นหรือเข้าทางคุณอุไรเลยจริงๆ เล่นใหญ่ทำเป็นไม่พอใจลูกชายตัวเองฉลาดสุดๆ “นี่ลูกทำแบบนี้ได้ไงหนูไอรินเขามีแม่นะ ทำแบบนี้ไม่ถูกเลยจริงๆ” เสียงตะคอกของคุณอุไรพูดใส่คุณกรณ์ “คุณป้าคะ หนูกับคุณกรณ์ไม่ได้นอนบนเตียงเดียวกันนะคะต่างคนต่างนอนค่ะทุกคน” “เธอนะเงียบไปเลยฉันว่าแล้วมันแปลกๆ” มะขามพูดขึ้นพลางสายตามองไปที่ไอรินและคุณกรณ์ทำเอาทุกคนเกิดความสงสัยไปตามๆ กัน “แปลกอะไรของมึงว่ะ” “ก็คืนนั้นที่เราไปเที่ยวกันอะ คนนี้แหละคนขับรถบ้านมึงที่กูบอกว่าหล่อไง” “มันยังไงกันลูกเล่าให้ป้าฟังหน่อย” คุณอุไรเอ่ยถาม “ผู้ชายคนนี้คือคนเดียวกันที่ไปส่งไอรินกลับบ้านน่ะค่ะ” “แต่ว่าคืนนั้นลูกไม่ได้กลับมานอนบ้านหนิไอริน” สถานการณ์ตึงเครียดแม่ฉันพูดเหมือนน้ำเสียงโกรธๆ ฉันยังไงก็ไม่รู้คงต้องยอมจำนนแล้วจริงๆ คุณป้าก็ดูจะไม่ค่อยพอใจคุณกรณ์สักเท่าไหร่ที่ทุกคนคิดว่าเราสองคนคบกันแล้วไม่เข้าตามตรอกออกตามประตู “เอายังงี้ดีไหมแก้วทิพย์ให้เด็กสองคนนี้ขอขมาเราก่อนแล้วเดี๋ยวฉันจะกลับไปบอกสามีฉันว่าเรื่องราวมันเป็นยังไงเดี๋ยวฉันจะพาเจ้ากรณ์มาขอหมั้นหนูไอรินอย่างเป็นทางการ” “ห้ะ มันชักจะไปกันใหญ่แล้วนะครับทุกคน ผมกับไอรินไม่มีความสัมพันธ์แบบที่ทุกคนคิดกันหรอกนะครับ” “จริงตามที่คุณกรณ์บอกทุกอย่างเลยค่ะ เราไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ” “เรื่องเมื่อคืนที่ผ่านมาป้ายังพอเข้าใจนะแต่เรื่องที่เพื่อนหนูบอกก่อนหน้านี้มันจะบังเอิญจริงๆ ไหมป้าว่าแม่หนูคงคิดเหมือนป้านะ ใช่ไหมแก้วทิพย์” คุณอุไรพูดขึ้นพลางสายตาหันไปถามแก้วทิพย์ “คือว่าหนู…” “เงียบไปเลยไอริน ผู้ใหญ่เค้าคุยกันอย่าพูดแทรก” แก้วทิพย์หันมาดุไอรินให้เงียบแล้วฟังอยู่เฉยๆ ฉันคิดว่าเรื่องนี้มันจะไปกันใหญ่แล้วฉันไม่อยากหมั้นกับตาลุงกวนประสาทคนนี้เลยจริงๆ “ฉันก็แล้วแต่คุณอุไรเลยค่ะ ถ้ามันเป็นทางออกที่ดีที่สุดฉันก็ยินดี” แก้วทิพย์ตอบคุณอุไรด้วยน้ำเสียงที่ดูผิดหวังกับลูกสาวของตน บ้านคุณกิตติโชจน์ คุณอุไรแกล้งบ่นเจ้ากรณ์ลูกชายดื้อด้านของตนมาตลอดทางกลับบ้านจนคุณกรณ์หูชากันเลยทีเดียว “แม่ครับ…นี่แม่จะว่าผมจนถึงบ้านเลยใช่มั้ยครับ” “ก็ใช่นะสิ นี่ลูกไปทำแบบนี้กับน้องได้ยังไงเค้ามีพ่อมีแม่นะ” “ทำอะไรครับแม่ ผมยังไม่ได้ทำอะไรไอรินเลย” “แม่ไม่ได้หมายถึงเรื่องเมื่อคืน แม่หมายถึงเรื่องที่เพื่อนของหนูไอรินบอกต่างหาก ฟังยังไงมันก็แก้ตัวไม่ขึ้นแล้วรีบจอดรถแล้วตามแม่เข้าบ้านมาเร็วๆ จะได้คุยพร้อมกันกับพ่อทีเดียวให้รู้เรื่องไปเลย” คุณอุไรลงจากรถด้วยความร้อนใจต้องรีบเอาเรื่องนี้ไปบอกสามีของตนแทบจะเก็บอาการดีใจไว้ไม่อยู่ตื่นเต้นจนกลัวเจ้ากรณ์จับได้ว่าไม่ได้โกรธจริงตีบทแตกเก่งจริงๆ เลยเรา อุไรนึกในใจ “นี่คุณรู้มั้ยคะ ฉันไปเจอเรื่องอะไรดีๆ มาคราวนี้สมหวังเราสองคนแล้วล่ะ” “เรื่องอะไรเหรอคุณ” ขณะที่คุณอุไรกำลังจะเล่าเรื่องที่ตนได้รู้มาบอกให้กับคุณกิตติโชจน์สามีของตัวเองฟังอยู่นั้นเจ้ากรณ์ก็เดินเข้ามาหาคุณอุไรพอดี “แม่จะคุยอะไรกับผมอีกครับ…ผมจะขึ้นไปอาบน้ำก่อน” “แกไม่ต้องรีบไปไหนทั้งนั้นเลยไอ้ลูกคนนี้มาคุยกับแม่ก่อน” คุณอุไรเริ่มแผนการแสดงละครไม่พอใจลูกชายของตน “มีอะไรกันเหรอคุณ” คุณกิตติโชจน์พลางมองด้วยความสงสัย “ก็ลูกชายตัวดีของคุณนะสิทำฉันขายหน้า…นี่ฉันไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว” “แม่ก็เอาไว้ที่เดิมแหละครับจะเอาไว้ไหนได้ล่ะ” “นี่เจ้ากรณ์เถียงแม่เหรอเอาใหญ่แล้วนะ…คุณดูลูกชายคุณสิคะยอกย้อนเก่งเสียจริงนี่ยังไม่สำนึกผิดอีก” “แล้วมันเรื่องอะไรกันล่ะบอกผมสักที” “เมื่อคืนนี้ลูกชายคุณไม่ได้ไปส่งหนูไอรินน่ะสิ พากันไปนอนที่คอนโดเรื่องนี้แก้วทิพย์ก็รู้แล้วด้วยคงปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้นะคะคุณลูกสาวเค้าทั้งคนต้องรับผิดชอบให้ถึงที่สุด” คุณอุไรพลางยกมือขึ้นมาจับที่ศีรษะตนเองทำท่าทางหน่ายใจ “กรณ์ลูกทำแบบนั้นจริงเหรอ” “มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันครับพ่อไม่ใช่อย่างที่แม่เล่าเลยสักนิด” “น้อยไปน่ะสิ…ยังมีอีกเรื่องนะคะคุณ” “แต่แม่ครับนี่มันสมัยไหนแล้วเขาไม่มีการจับคลุมถุงชนกันแล้วนะครับ…ผมก็ไม่ได้บังคับไอรินซะหน่อย” "คุณพระ " เสียงอุทานของคุณอุไรดังลั่นเมื่อได้ยินสิ่งที่คุณกรณ์พูดออกมาทำเอาทั้งคู่ตั้งรับไม่ทันเลยทีเดียวมันตกใจและรู้สึกดีใจในเวลาเดียวกันเพราะสิ่งที่คุณอุไรกับสามีคิดไว้ระหว่างเจ้ากรณ์และหนูไอรินต้องมีความสัมพันธ์อย่างว่ากันแน่ๆ แล้วก็จริงดังหวังแต่ต้องทำเป็นโมโหเล่นใหญ่สไตล์คุณอุไรไว้ก่อน “ตายละ…นี่ลูกพูดออกมาได้ไงไม่เป็นลูกผู้ชายเอาซะเลย คุณสอนลูกชายคุณแบบนี้เหรอคะคุณกิตติโชจน์” คุณอุไรพลางบ่นลูกชายตนเองแล้วหันไปว่าสามีของตนด้วย “ลูกไปทำกับน้องแบบนี้ได้ไง ไอรินเป็นลูกของรุ่นน้องที่สนิทกับพ่อนะถ้าพ่อตายไปแล้วจะไปบอกกับพิชิตมันยังไงที่ลูกชายทำเรื่องแบบนี้พ่อผิดหวังในตัวแกมาก” คุณอุไรที่ว่าเล่นใหญ่ไฟกระพริบแล้วก็ยังแพ้ให้กับคุณกิตติโชจน์สามีของตนที่เล่นใหญ่เกินตนหลายเท่าเป็นเพราะความอยากอุ้มหลานกันล้วนๆ “มันไปกันใหญ่แล้วนะครับผมก็โตพอเรื่องแบบนี้มันธรรมชาติครับพ่อแม่ ไอรินก็ไม่ใช่เด็กแล้วทำกับว่าผมไปพรากผู้เยาว์อย่างนั้นแหละ” “นี่ลูกจะไม่รับผิดชอบน้องเลยเหรอ แม่ไม่ยอมนะต้องไปหมั้นให้ถูกต้องกับสิ่งที่ทำไว้แก้วทิพย์เองก็รู้เรื่องแล้วด้วย” “พ่อก็เห็นด้วยกับที่แม่พูดนะต้องหมั้นถึงจะถูก” “คุยธุระจบแล้วก็ขึ้นห้องของแกซะแล้วไปสำนึกผิดด้วยล่ะ” สิ้นเสียงคุณอุไรคุณกรณ์ก็เดินขึ้นบันไดไปแต่โดยดีเมื่อทั้งคู่เห็นหลังของเจ้ากรณ์เดินพ้นแล้วก็พากันหัวเราะชอบใจมีความสุขทำอย่างว่าจะได้เห็นหน้าหลานวันนี้พรุ่งนี้กันเลยเสียจริงบ้านคุณกิตติโชจน์“กลับมากันแล้วเหรอลูก” เสียงคุณอุไรเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเด็กทั้งสองเดินเข้าบ้านมาพร้อมกันด้วยใบหน้าที่ดูเบิกบาน“หิวมั้ยหนูรินเลิกงานมาเหนื่อยๆ…มาๆ นั่งที่โต๊ะกับแม่ดื่มน้ำก่อนนะเจ้ากรณ์ก็ด้วย”“คิดว่าแม่จะไม่เรียกผมซะแล้วนะครับเนี่ย”“ดูพูดเข้าสิ…วันนี้กลับบ้านเร็วทำไมไม่พาน้องแวะกินอะไรก่อนเข้าบ้านล่ะตากรณ์ต้องให้แม่บอกอยู่เรื่อยเลย”“รินอยากกลับมาทานข้าวพร้อมคุณแม่กับคุณพ่อค่ะ…อร่อยกว่าทานข้างนอกเยอะเลย” น้ำเสียงออดอ้อนกับท่าทีที่น่าเอ็นดูของไอรินพลางตอบเอาใจคุณอุไรที่นั่งอยู่ข้างๆ“ปากหวานจริงๆ เลยเด็กคนนี้แม่หลงเพราะหนูรินน่ารักแบบนี้ไง ฮ่าๆ” คุณอุไรคลี่ยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจที่ลูกสะใภ้คนโปรดช่างเอาอกเอาใจคนแก่อย่างเขาเก่งซะจริง“ผมก็หลงครับคุณแม่ ฮ่าๆ” เสียงอ่อนเสียงหวานของคุณกรณ์เอ่ยขึ้นตามคุณอุไรแม่ของตนพร้อมพลางยิ้มเล็กยิ้มน้อยหันมองหน้าไอริน“งั้นก็รีบๆ มีหลานให้พ่อกับแม่เร็วๆ เข้าสิ ฮ่าๆ” คุณอุไรพูดขึ้นมาเช่นนี้เด็กๆ ทั้งสองจึงหันมองหน้ากันคุณกรณ์จ้องมองไอรินตาเป็นประกายสองแก้มของเธอก็เริ่มแดงก่ำพลางยิ้มเขินๆ รีบเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อบ่ายเบี่ยงก่อนดีกว่า ฮ่าๆ”“
ห้องทำงานคุณกรณ์เขาเดินมาแอบอยู่ข้างหลังประตูเพื่อรอจังหวะที่ไอรินเดินเข้ามาในห้องจะได้แกล้งแมวน้อยของเขาให้ตกใจเล่นและสิ่งที่คาดไว้ก็มาถึงเธอผลักประตูเข้ามาคุณกรณ์เห็นแค่ด้านหลังเธอจากนั้นจึงโผเข้าไปกอดจนอีกฝ่ายเกือบเสียหลักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าไม่ได้มีแค่ไอรินที่เดินเข้ามาแต่ยังมีเลขาของเขาอีกคนที่กำลังยืนจ้องมองดูการกระทำของพวกเขาชนิดที่เรียกได้ว่าอ้าปากค้างสตั้นกันไปเลยสามวิตกตะลึงกับสิ่งที่เห็นอั้มอึ้งจนพูดไม่ออกทำตัวไม่ถูกอยู่ตรงหน้าประตูเพราะเห็นทั้งคู่กอดกันเข้าอย่างจังเต็มสองตา“เอ่อออ…ขอโทษค่ะคือดิฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้นเลยนะคะ” เสียงตกใจของเลขาสาวเอ่ยพร้อมยกแฟ้มเอกสารในมือขึ้นมาปิดบังใบหน้าของตนเองทันที“เห็นอะไรกันคะ? ไม่ได้มีอะไรกันสักหน่อย” ไอรินเอ่ยพร้อมกับท่าทางที่เลิ่กลั่กคุณกรณ์เห็นอย่างนั้นก็แอบขำเธอเบาๆ ในความลนลานของเธอ“ก็อย่างที่เห็นนั้นแหละผมไม่รู้จะอธิบายยังไงดีมีคนไม่อยากให้บอกคนอื่น” น้ำเสียงจอมทะเล้นของคุณกรณ์เอ่ยอีกทั้งยังขยับก้มหน้าลงมาใกล้ๆ กับใบหน้าของร่างเล็กที่ยืนอยู่ตรงหน้าเค้าพร้อมกับยกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจหนำซ้ำยังใช้มือทั้งสองข้างของเขาดึ
ณ ร้านเช่าชุดแห่งหนึ่งสามสาว มะขาม ฟ้าใสและปิ่น ช่วยกันเลือกชุดอย่างตื่นเต้นจับตัวนั้นมาใส่ตัวนี้อยู่ไม่หยุดลองแล้วลองอีกอยู่ตรงหน้ากระจกบานใหญ่ไอรินจากที่ดูตื่นเต้นดีใจช่วยพวกเธอเลือกชุดมาสักพักแล้วแต่เมื่อได้เห็นท่าทีของพวกนางก็ถึงกับขอตัวนั่งพักที่โซฟาก่อนเพราะศึกนี้คงอีกนานเจ้าสาวอย่างเธอแค่ลองชุดเดียวก็เหนื่อยจะแย่แล้วผิดกับเพื่อนๆ ของเธอซะจริงไม่มีทีท่าจะเหนื่อยกันบ้างเลยหรือไงไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหนอารมณ์เหมือนกับตอนผู้หญิงแต่งหน้าแล้วอย่ามาเร่งเลย ฮ่าๆ“พวกแกว่าฉันใส่ชุดนี้เป็นไง…สวยมั้ย” เสียงมะขามเอ่ย“สวยมึงเอาชุดนี้เลย” เสียงยัยปิ่นพลางตอบพร้อมชูชุดในมือทั้งสองข้างให้เพื่อนๆ ได้ช่วยเลือก“มึงว่าชุดไหนสวยกว่ากันระหว่างปาดไหล่หรือเกาะอกดี”“กูว่ามึงเอาเกาะอกเลยสวยแซ่บสีฟ้าเข้ากับน้ำทะเล ฮ่าๆ”“พวกเราจะเริ่ดเกินเจ้าสาวไม่ได้นะ ฮ่าๆ” ฟ้าใสเอ่ยหัวเราะ“นั้นสิ…ลืมคิดเบาๆ นะพวกมึง ฮ่าๆ”“มึงก็พูดได้สิมะขามมึงได้ผู้แล้วแถมเป็นผู้ใหญ่อบอุ่นที่เอาใจเก่งอีกต่างหาก อิจสุดๆ ไม่รู้แหละกูขอจัดเต็มไว้ก่อน” ว่าแล้วฟ้าใสก็เดินไปเลือกชุดที่ราวเสื้อผ้าเลือกแล้วเลือกอีกเอาจนถูกใจ“เต็มที่
เช้าวันรุ่งขึ้น ณ ร้านเช่าชุดแต่งงานเสียงรถแล่นมาจอดยังบริเวณหน้าร้านเช่าชุดทั้งคู่เดินลงจากรถมาด้วยใบหน้าที่ดูสดใสพลางส่งยิ้มให้กันและกันอย่างมีความสุขร่างเล็กหยุดเดินแหงนดูหุ่นที่สวมใส่ชุดเจ้าสาวผ่านกระจกใสบานใหญ่ที่ตั้งโชว์อยู่ภายในร้านเป็นชุดเดรสสีขาวปาดไหล่ผ้าซีทรูกระโปรงยาวปักด้วยไข่มุกนับร้อยเม็ดสวยสะกดตาจนต้องหยุดมองแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยว่าเธอจะมีวันที่ได้ใส่ชุดเจ้าสาวกับเขาเหมือนกันดีใจจนพูดไม่ออก ไอรินพลางมองอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่คุณกรณ์จะรีบจูงมือเธอเดินเข้าร้านไปด้วยความตื่นเต้น“ยินดีต้อนรับค่ะ” เสียงพนักงานบริการสาวในร้านเอ่ยพร้อมพยักหน้ารับอย่างนอบน้อม“คุณกรณ์ใช่ไหมคะ…เชิญด้านนี้ได้เลยค่ะ” พนักงานสาวเดินนำพวกเขาทั้งคู่มายังห้องลองชุด VIP พร้อมกับนำชุดที่ทางร้านมีทั้งหมดหลากหลายสไตล์มาให้พวกเขาได้เลือกไม่ว่าจะเป็นชุดไทย ชุดจีนยกน้ำชา ชุดพิธีการต่างๆ เยอะจนเลือกไม่ถูกกันเลยที่เดียว“เดี๋ยวนะคะ…จะให้ลองทั้งหมดนี้เลยเหรอ” เสียงไอรินหันไปถามคุณกรณ์ที่ตอนนี้เขาก็ได้แต่ยืนงงเช่นกันว่าทำไมมันถึงเยอะขนาดนี้“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน” เขาพลางตอบเธอด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะสิ้นหวัง
ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตู“เดี๋ยวรินทำธุระเสร็จจะรีบลงไปนะคะ” เธอพลางตอบคนหน้าประตูเพราะคิดว่าคงเป็นป้าแม่บ้านที่คุณอุไรให้มาตามเธอลงไปทานข้าวซึ่งก็ไม่มีเสียงป้าแม่บ้านตอบกลับมามีแต่เสียงเคาะประตูอยู่ไม่หยุดมิหนำซ้ำยังเคาะเร่งเป็นจังหวะอีกด้วย จนเธอต้องเดินไปเปิดประตูทั้งที่ยังใส่ชุดคลุมอาบน้ำสีขาวพร้อมกับปล่อยผมยาวที่เปียกชุ่ม“เล่นเป็นเด็กไปได้” ไอรินพูดพึมพำให้กับการกระทำที่ดูเหมือนเด็กเช่นนี้ทำเอาเธอก็อดอมยิ้มไม่ได้โตแค่ตัวอย่างที่คุณอุไรว่าไว้ไม่มีผิด ฮ่าๆ เธอพอจะเดาได้แล้วล่ะว่าเป็นใครที่ชอบแกล้งเธอในบ้านหลังนี้เห็นทีคงมีแค่คุณกรณ์คู่หมั้นของเธอสินะ ไอรินเพียงแค่หมุนลูกบิด ทันทีที่เสียงดัง แกร๊ก คุณกรณ์ก็รีบผลักประตูเข้ามาในห้องเธออย่างรวดเร็วอีกทั้งยังโผกอดไอรินจากด้านหลังอีกด้วยกลิ่นหอมสบู่อ่อนๆ จากตัวเธอทำเอาจมูกโด่งของคนพี่เริ่มทำงานคลอเคลียไปที่ข้างหูของเธอทีละนิด~“ทำไมไม่รีบไปอาบน้ำที่ห้องตัวเองล่ะคะ…คุณพ่อคุณแม่รอทานข้าวอยู่น้าา” น้ำเสียงอ่อนหวานเอ่ยถาม“พี่คิดถึงรินไม่เห็นหน้าแล้วใจจะขาด”“เวอร์อีกแล้วนะคะเนี่ย…ปล่อยรินได้แล้วค่ะ”“อยากนอนกอดทุกคืนเลย…แล้วทำไมไม่เก็บของ
เสียงโทรศัพท์ดัง“มีอะไรอีกวะไอ้ยุ!!!” เสียงเข้มของคุณกรณ์พลางขึ้นเมื่อกดรับสายอีกครั้ง“กูลืมบอกมึง…ว่าตอนนี้ครีมไปหามึงที่หัวหินแล้ว”“มึงว่าไงนะ!!!…แล้วมึงไม่รีบบอกกูให้เร็วกว่านี้วะ” เสียงตกใจเอ่ย“ก็กูลืมมมไงเพื่อน…กูกดโทรหามึงแล้วแต่สายมึงไม่ว่าง”“แม่กูโทรมาเทศน์กูซะยาว…แล้วใครบอกครีมวะว่ากูกลับมาที่นี้อีกไอ้เคนเหรอ!!! อย่าบอกนะว่าเป็นมึง”“เฮ้ยๆ มึงอย่ามาโทษกูครั้งนี้ไม่ใช่กูโว้ย!!! ไอ้เคนก็ไม่หน้าใช่ป่านนี้มันคงไปม่อสาวอยู่ไหนสักที่ไม่มาสนใจเรื่องของมึงหรอก…แต่ว่าเรื่องแค่นี้สืบดูคงไม่ยากเกินกำลังครีมหลอกว่ะ”“เออ งั้นแค่นี้กูรีบไปดูรินก่อนเดี๋ยวบังเอิญเจอกันกูจบเห่แน่”“เออๆ กูเอาใจช่วยมึงวะเพื่อน” เสียงปลายสายกดวางคุณกรณ์วางโทรศัพท์ลงบนเตียงนอนแล้วรีบเปิดประตูห้องพักหยิบรองเท้ามาใส่ผิดๆ ถูกๆ ใส่ยากใส่เย็นไม่ทันใจขว้างมันทิ้งซะเลยรีบร้อนจนต้องเดินเท้าเปล่าออกมาจากห้องพัก เขามุ่งตรงมายังชายหาดด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลนกวาดสายตามองหาแฟนเด็กของเขาไปทั่วหาดเห็นไอรินกำลังเดินกลับเข้ามาพอดีจึงรีบเดินดุ่มๆ ไปหาเธอ“ทำไมตื่นแล้วไม่ปลุกพี่มาเดินเล่นด้วยกันล่ะเดินคนเดียวจะสนุกได้ไง” ทันทีท