บ้านไอริน
หลังจากที่ทุกคนกลับไปแล้วเหลือเพียงแค่ไอรินกับแก้วทิพย์แม่ของเธอเท่านั้นแม่ฉันเงียบไม่พูดกับฉันมาสักพักนึงแล้วแม่คงโกรธฉันจริงๆ “แม่ค่ะ…หนูขอโทษที่ทำตัวเหลวไหลอย่าโกรธหนูเลยนะคะ” ไอรินเดินก้มหน้าเข้าไปจับแขนผู้เป็นแม่พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ “หิวมั้ย กินอะไรมาหรือยัง” แก้วทิพย์ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่ได้แสดงอาการโกรธไอรินเลยแม้แต่น้อย…แต่ฉันสัมผัสได้ถึงท่าทีความเย็นชาของแม่ที่พยายามไม่ถามเรื่องเธอกับคุณกรณ์เลย “แม่ยังโกรธหนูอยู่ใช่ไหม” “ไอรินเราไม่พูดถึงเรื่องนี้กันแล้ว…ผ่านมาแล้วก็ให้มันผ่านไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เดี๋ยวแม่ไปหาอะไรมาให้กิน” เสียงตวาดของผู้เป็นแม่ดังขึ้นหลังได้ยินคำถามของลูกสาวตน “……………” บ้านคุณกิตติโชจน์ “คุณคะ รีบไปปลุกลูกชายคุณให้ไปอาบน้ำแต่งตัวเร็วๆ เข้าวันนี้เราต้องพาเจ้ากรณ์ไปบ้านแก้วทิพย์ขอขมาที่ล่วงเกินหนูไอรินแล้วก็คุยเรื่องหมั้นกันต่อเลย” เสียงหัวเราะ คริคริ ของคุณอุไรดูจะออกนอกหน้าเกินไปดีใจจนเก็บไม่อยู่ “คุณอุไรเก็บอาการหน่อยเดี๋ยวก็แผนแตกกันพอดี” “มันดูออกชัดเลยเหรอคะคุณฉันเก็บอาการสุดๆ แล้วนะ คุณรีบไปตามเจ้ากรณ์เร็ว” คุณอุไรยิ้มกริ่มพลางบอกสามีตนให้รีบตามลูกชายอย่างชอบใจ “ผมให้คนไปตามแล้วเราก็ไปรอที่รถกันดีกว่า” บ้านไอริน เป็นเช้าที่บรรยากาศดีไอรินตื่นมาช่วยแม่รดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้านแม่เธอเริ่มพูดคุยกับเธอเหมือนปกติผิดกับเมื่อวานนี้มากๆ แม่คงเข้าใจเธอแล้วสินะแต่…ฝันร้ายก็มาถึงเมื่อได้ยินเสียงรถมาจอดหน้าบ้านไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นคุณกรณ์ตาลุงปากมากคนนั้นเดินลงรถพร้อมกับคุณกิตติโชจน์และคุณอุไร “อรุณสวัสดิ์แก้วทิพย์ ตื่นเช้ากันจังเลยนะสองแม่ลูกทำไรกันอยู่เหรอ” เสียงคุณอุไรทักทายไอรินกับแม่พร้อมข้าวของที่เต็มมือคุณกรณ์ “ฉันแวะซื้อของที่ตลาดใกล้บ้านแก้วทิพย์มาด้วยตั้งใจจะเอามาฝากคงยังไม่ได้กินข้าวกันแล้วใช่ไหมมีน้ำเต้าหู้กับโจ๊กหมูด้วยนะน่ากินเชียว” “ไม่เห็นต้องลำบากซื้อมาเลยนะคะ ไม่คิดว่าพวกคุณจะมากันแต่เช้าฉันจะได้ทำอาหารไว้รอเกรงใจน่ะค่ะของตั้งเยอะแยะ” “คุณลุงคุณป้าสวัสดีค่ะ แม่งั้นหนูขึ้นห้องก่อนนะ” ไอรินสวัสดีคุณลุงคุณป้าเสร็จรีบหันไปบอกแม่ตนว่าจะขึ้นห้องแล้วเพราะไม่อยากเจอคุณกรณ์แล้วสภาพฉันในตอนนี้คือชุดนอนเน่าๆ ตัวโปรดที่ใส่สบายสุดๆ กับใบหน้าที่ยังไม่ได้ล้างฉันไม่พร้อมเจอใครจริงๆ คงมีแต่ขนส่งเท่านั้นที่รับฉันได้ ฮ่าๆ “จะรีบไปไหนเอาของที่คุณป้าซื้อมาไปแกะใส่จานแล้วยกมาที่โต๊ะให้คุณลุงคุณป้าด้วยนะ” แก้วทิพย์หันมาพูดกับไอริน “เจ้ากรณ์ไปช่วยน้องล้างผลไม้ในครัวสิ แม่กับพ่อจะคุยธุระกับแก้วทิพย์ซะหน่อย” ได้ยินดังนั้นคุณกรณ์จากที่นั่งอยู่ที่โต๊ะก็ลุกเดินตามไอรินเข้าไปในครัวทั้งคู่ไม่ได้พูดคุยกันนัก “แก้วทิพย์ผมรู้เรื่องที่เจ้ากรณ์ทำไม่ดีกับหนูไอรินแล้วนะคุณอุไรบอกผมหมดทุกอย่างแล้วไม่ต้องกังวลไปหรอกผมจะทำให้มันถูกต้องเอง” “ที่เราสองคนพาเจ้ากรณ์มาวันนี้ก็มีสองเรื่อง…เรื่องแรกเราต้องให้เจ้ากรณ์ขอขมาแก้วทิพย์ที่ล่วงเกินหนูไอรินก่อนถึงทั้งคู่จะยินยอมแต่มันก็ไม่ถูกต่อด้วยเรื่องที่สองงานหมั้นเลยแล้วกัน แก้วทิพย์คิดว่ายังไงดีเห็นชอบกับฉันสองคนด้วยไหม” “ฉันขอบคุณที่ท่านเมตตาพวกเราเรื่องมันมาขนาดนี้แล้วฉันก็เห็นด้วยนะคะ แต่งานหมั้นเอาเป็นงานภายในครอบครัวพอนะคะฉันกลัวจะสิ้นเปลืองสินสอดก็แล้วแต่คุณอุไรและคุณกิตติโชจน์จะเมตตาไอรินเลยค่ะฉันไม่เรียกร้องอะไร” “……………” สถานการณ์ห้องครัวตอนนี้ไอรินจัดจานวางอาหารที่คุณอุไรซื้อมาฝากไว้ที่โต๊ะทานข้าวเพี่อที่จะรับประทานพร้อมกันเธอหันไปเห็นคุณกรณ์ที่กำลังจะเอามีดปอกผลไม้มาปอกแอปเปิ้ล “นี่คุณจะทำอะไร” “สับหมูมั้ง…ถามมาได้ฉันก็จะปอกผลไม้สิ” เป็นไงความกวนประสาทของตาลุงนี่ชาติก่อนฉันคงติดค้างตระกูลนายไว้แน่ๆ ชาตินี้เลยต้องมาตามใช้ให้หมดฉันละไม่อยากคิดว่าถ้าแต่งงานกันจะขนาดไหน “ฉันรู้แล้วค่ะว่าจะปอกผลไม้แต่มันยังไม่ได้ล้างคุณจะกินเลยได้ไงกันไปล้างก่อน” “ก็แค่อยากช่วยฉันไม่รู้จะทำอะไรดีเธอทำหมดแล้วหนิ” “งั้นคุณกรณ์วางมีดลงแล้วช่วยยกน้ำเต้าหู้ไปให้คุณลุงคุณป้าและก็แม่ของฉันด้วยค่ะจะขอบคุณมาก” คุณกรณ์วางของในมือลงพลางมองหน้าไอรินพร้อมกับพูดลอยๆ ว่ายัยเด็กคนนี้นี่กล้าใช้ผู้ใหญ่ได้ไงแล้วก็เดินมายกถาดไปเสิร์ฟเองบ่นนะแต่ทำไอรินอมยิ้มเล็กน้อยตลกความกวนของคุณกรณ์ “น้ำเต้าหู้มาแล้วครับ” “มาก็ดีแล้วลูกเตรียมของเสร็จหรือยังไปเรียกน้องมานี้ด้วยสิแม่จะบอกอะไร” คุณกรณ์เดินมาเรียกไอรินในครัวให้ไปหาผู้ใหญ่ที่นั่งกันอยู่โต๊ะหน้าบ้านคุณอุไรหยิบพวงมาลัยดอกมะลิที่แอบซื้อมาจากตลาดยื่นให้คุณกรณ์ “ฉันหามาได้เท่านี้แก้วทิพย์อย่าถือสาเลยนะ” “ไม่เห็นต้องมากพิธีก็ได้นะคะคุณท่าน” “ไม่ได้สิทำผิดต้องขอโทษน่ะถูกแล้วเจ้ากรณ์เข้าไปขอโทษคุณป้าสิลูกหนูไอรินด้วยนะ” คุณกรณ์หยิบพวงมาลัยที่แม่ของตนยื่นให้เดินเข้าไปหาแก้วทิพย์พร้อมกับคุกเข่าลงบนพื้นหญ้าไอรินเมื่อเห็นอย่างนั้นก็เข้าไปคุกเข่าตามคุณกรณ์ด้วย “คุณน้าครับ ผมขอโทษในสิ่งที่ผมทำผิดกับไอรินด้วยนะครับผมไม่ได้นึกถึงผลที่ตามมา” “คุณแม่ค่ะหนูขอโทษ” ไอรินก้มหน้าพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ “แม่ไม่โกรธลูกหรอกนะ คุณกรณ์น้าก็ไม่โกรธแต่ต่อจากนี้น้าฝากไอรินลูกของน้าด้วยนะ น้องยังเด็กอาจจะดื้อบ้างอย่าถือสาน้องเลยนะ” “จะฝากอะไรกันล่ะคะหนูโตแล้วดูแลตัวเองได้” ไอรินพูดขึ้นพลางสายตาหันไปมองหน้าคุณกรณ์อย่างไม่พอใจ คุณอุไรเห็นทีท่าไม่ค่อยดีเลยพูดเข้าประเด็นเรื่องการหมั้นซะดีกว่าจะได้จับเด็กสองคนนี้แต่งเร็วๆ “เรามาคุยเรื่องหมั้นกันต่อเลยดีกว่าว่าเอาฤกษ์งามยามดีหรือว่าฤกษ์สะดวกแก้วทิพย์เห็นว่าอย่างไงดีล่ะ” คุณอุไรยิ้มกริ่มพลางมองคุณกิตติโชจน์อย่างชอบใจ “คุณป้าคะหนูว่า….” “หยุดเลยนะไอรินแม่บอกกี่ครั้งแล้วว่าผู้ใหญ่คุยกันอยู่อย่าพูดแทรก ขอโทษด้วยนะคะคุณท่าน” “ไม่เห็นเป็นไรเลยนิให้หนูไอรินพูดก็ได้ฉันอยากจะฟัง” “หนูว่ารออีกสักปีสองปีดีกว่านะคะหนูยังเด็กอยู่เลย” “เธอเนี่ยนะเด็ก” เสียงหัวเราะเยาะของคุณกรณ์ทำไอรินเกือบจะทนไม่ไหวตานี่ทำหน้าตาท่าทางหน้าหมั่นไส้ใส่ฉันอีกแล้ว “หนูเป็นห่วงแม่ด้วยถ้าต้องแต่งงานไปแล้วใครจะอยู่กับแม่ล่ะคะ เรามีกันแค่สองคน” ไอรินพูดด้วยเสียงน้อยพลางมองผู้เป็นแม่ “โธ่…แม่คุณช่างเป็นเด็กกตัญญูจริงๆ” น้ำเสียงอ่อนโยนของคุณอุไรหันมาพูดกับไอรินอย่างเอ็นดู “ไม่เป็นไรแม่ยังไม่แก่อยู่ได้สบายมากไม่ต้องเป็นห่วง” “ถ้างั้นเอาฤกษ์สะดวกแล้วกันเนอะจะได้สบายใจลุงกับป้า” คุณกิตติโชจน์พูดขึ้น “ฉันว่าก็ดีนะแก้วทิพย์ยิ่งเร็วยิ่งดี อาทิตย์หน้าเลยเป็นไง” ห้ะ…!!!” เสียงตกใจพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายของไอรินกับคุณกรณ์ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้มันเร็วไปจริงๆ ฉันยังไม่ได้ทำใจที่จะต้องใช้ชีวิตอยู่กับตานี้เลยไอรินตัดพ้อในใจถอนหายใจดังเห้อ “ผมว่าเร็วไปหรือเปล่าครับ” “ใช่ค่ะ…หนูก็ว่าเร็วไปนะคะ” “ดูสิเด็กสองคนนี้ไม่ทันไรก็ใจตรงกันซะแล้ว” คริคริ เสียงหัวเราะของคุณลุงกับคุณป้าที่พยายามจับคู่ให้กับเด็กทั้งสองคนดูมีความสุขเสียจริงแต่ฉันนี้สิทุกข์ใจของจริง “ไม่เร็วไปหรอกลูกถ้าไม่อาทิตย์หน้าหรือจะเอาเป็นอีกสองวันข้างหน้าล่ะ” “งั้นเอาเป็นอาทิตย์หน้าแบบเดิมก็ได้ค่ะ” “เอาเป็นว่าทุกคนเห็นชอบกันหมดถ้างั้นไปกินข้าวกันดีกว่าฉันหิวแล้วน่ะสิ” คุณอุไรรีบตัดบทเปลี่ยนเรื่องทันทีเพราะกลัวเด็กสองคนนี้จะหาเหตุผลมาอีก “เชิญคุณท่านที่โต๊ะในบ้านเลยค่ะบ้านเราอาจจะเล็กไปหน่อยนะคะ” แก้วทิพย์พูดด้วยน้ำเสียงเกรงใจเล็กน้อยกลัวว่าคุณอุไรและคุณกิตติโชจน์จะไม่สะดวกสบายเหมือนกับบ้านตนเอง “ฉันว่าไม่เห็นจะเล็กตรงไหนเลยดูอบอุ่นซะมากกว่าใช่มั้ยคะคุณ” คุณอุไรพูดกับสามีพลางสายตามองไปรอบๆบ้าน “ผมก็ว่าร่มรื่นดีนะ บรรยากาศเช้าๆ นี้ก็ดีด้วย” “ขอบคุณคุณท่านที่เอ็นดูเราสองแม่ลูกจริงๆ ฉันไม่รู้จะตอบแทนยังไงหมด” “จะตอบแทนอะไรกันล่ะต่อไปเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะแก้วทิพย์กินข้าวกันเถอะเด็กๆ รออยู่” แก้วทิพย์มองตามหลังคุณท่านแล้วพลางนึกขึ้นในใจคิดถูกมากๆ ที่ไปขอความช่วยเหลือจากคุณกิตติโชจน์ผู้เป็นที่พึ่งพาในยามลำบากภรรยาของเขาคุณอุไรก็ยังใจดีกับฉันอีกแถมยังเอ็นดูไอรินลูกเราอีกด้วยฉันโชคดีจริงๆ ที่ได้พึ่งใบบุญครอบครัวของท่านแก้วทิพย์ปลาบปลื้มในใจ “……………” “มื้อนี้ ฉันมีความสุขมากเลยที่พวกเราจะกลายมาเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่สองแล้วนะที่เราได้กินข้าวพร้อมกัน…ถ้ามีเด็กน้อยมาวิ่งเล่นสักคนสองคนก็คงสุขใจ” คุณอุไรพูดเปิดประเด็นเรื่องหลานมาแบบโต้งๆ เลยทั้งฉันและคุณกรณ์ต่างพากันสำลักข้าวพร้อมกันเลยที่เดียว “คุณก็พูดอะไรไม่เกรงใจเด็กๆ เลยดูสิกินข้าวไม่ลงแล้วมั้ง ฮ่าๆ” คุณกิตติโชจน์พูดเสริมทัพภรรยาของตนรู้ใจภรรยาสุดๆ ความอยากอุ้มหลานมันอยู่ในหัวตลอดเวลา “เห็นมั้ยคะคุณสำลักข้าวยังพร้อมกันใจตรงกันอีกแล้ว ฮ่าๆ” ไอรินเงียบไม่ได้พูดอะไรคุณกรณ์พลางมองมาที่เธอแล้วยิ้มมุมปากยกขึ้นมานึงข้างเธอเลยมองไปแบบเคืองๆ จะปั่นประสาทอะไรฉันอีกไอรินครุ่นคิดในใจ…หลังจากที่ทุกคนต่างพากันอิ่มแล้วเธอกับแม่ก็เดินไปส่งคุณลุงคุณป้าที่รถจอดอยู่หน้าบ้าน “ฉันกลับก่อนนะแก้วทิพย์ ไอรินป้ากลับแล้วนะลูกไม่ต้องห่วงเรื่องงานหมั้นนะป้าจัดการทั้งหมดเอง” “สวัสดีค่ะคุณลุงคุณป้าเดินทางปลอดภัยนะคะ” เสียงอะแฮ่มในลำคอของคุณกรณ์ดังขึ้นแล้วหันมามองหน้าไอรินที่ทักทายแต่พ่อแม่ของเขากลับไม่ทักคุณกรณ์เลย เธอตั้งใจเองแหละที่จะไม่ทักตาลุงกวนประสาทคนนี้ แม่ไอรินก็หันมามองหน้าไอรินเช่นกันว่าให้สวัสดีคุณกรณ์ด้วย เธอเลยยกมือสวัสดีไปแบบเซ็งๆตามที่แม่บอกบ้านคุณกิตติโชจน์“กลับมากันแล้วเหรอลูก” เสียงคุณอุไรเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเด็กทั้งสองเดินเข้าบ้านมาพร้อมกันด้วยใบหน้าที่ดูเบิกบาน“หิวมั้ยหนูรินเลิกงานมาเหนื่อยๆ…มาๆ นั่งที่โต๊ะกับแม่ดื่มน้ำก่อนนะเจ้ากรณ์ก็ด้วย”“คิดว่าแม่จะไม่เรียกผมซะแล้วนะครับเนี่ย”“ดูพูดเข้าสิ…วันนี้กลับบ้านเร็วทำไมไม่พาน้องแวะกินอะไรก่อนเข้าบ้านล่ะตากรณ์ต้องให้แม่บอกอยู่เรื่อยเลย”“รินอยากกลับมาทานข้าวพร้อมคุณแม่กับคุณพ่อค่ะ…อร่อยกว่าทานข้างนอกเยอะเลย” น้ำเสียงออดอ้อนกับท่าทีที่น่าเอ็นดูของไอรินพลางตอบเอาใจคุณอุไรที่นั่งอยู่ข้างๆ“ปากหวานจริงๆ เลยเด็กคนนี้แม่หลงเพราะหนูรินน่ารักแบบนี้ไง ฮ่าๆ” คุณอุไรคลี่ยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจที่ลูกสะใภ้คนโปรดช่างเอาอกเอาใจคนแก่อย่างเขาเก่งซะจริง“ผมก็หลงครับคุณแม่ ฮ่าๆ” เสียงอ่อนเสียงหวานของคุณกรณ์เอ่ยขึ้นตามคุณอุไรแม่ของตนพร้อมพลางยิ้มเล็กยิ้มน้อยหันมองหน้าไอริน“งั้นก็รีบๆ มีหลานให้พ่อกับแม่เร็วๆ เข้าสิ ฮ่าๆ” คุณอุไรพูดขึ้นมาเช่นนี้เด็กๆ ทั้งสองจึงหันมองหน้ากันคุณกรณ์จ้องมองไอรินตาเป็นประกายสองแก้มของเธอก็เริ่มแดงก่ำพลางยิ้มเขินๆ รีบเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อบ่ายเบี่ยงก่อนดีกว่า ฮ่าๆ”“
ห้องทำงานคุณกรณ์เขาเดินมาแอบอยู่ข้างหลังประตูเพื่อรอจังหวะที่ไอรินเดินเข้ามาในห้องจะได้แกล้งแมวน้อยของเขาให้ตกใจเล่นและสิ่งที่คาดไว้ก็มาถึงเธอผลักประตูเข้ามาคุณกรณ์เห็นแค่ด้านหลังเธอจากนั้นจึงโผเข้าไปกอดจนอีกฝ่ายเกือบเสียหลักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าไม่ได้มีแค่ไอรินที่เดินเข้ามาแต่ยังมีเลขาของเขาอีกคนที่กำลังยืนจ้องมองดูการกระทำของพวกเขาชนิดที่เรียกได้ว่าอ้าปากค้างสตั้นกันไปเลยสามวิตกตะลึงกับสิ่งที่เห็นอั้มอึ้งจนพูดไม่ออกทำตัวไม่ถูกอยู่ตรงหน้าประตูเพราะเห็นทั้งคู่กอดกันเข้าอย่างจังเต็มสองตา“เอ่อออ…ขอโทษค่ะคือดิฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้นเลยนะคะ” เสียงตกใจของเลขาสาวเอ่ยพร้อมยกแฟ้มเอกสารในมือขึ้นมาปิดบังใบหน้าของตนเองทันที“เห็นอะไรกันคะ? ไม่ได้มีอะไรกันสักหน่อย” ไอรินเอ่ยพร้อมกับท่าทางที่เลิ่กลั่กคุณกรณ์เห็นอย่างนั้นก็แอบขำเธอเบาๆ ในความลนลานของเธอ“ก็อย่างที่เห็นนั้นแหละผมไม่รู้จะอธิบายยังไงดีมีคนไม่อยากให้บอกคนอื่น” น้ำเสียงจอมทะเล้นของคุณกรณ์เอ่ยอีกทั้งยังขยับก้มหน้าลงมาใกล้ๆ กับใบหน้าของร่างเล็กที่ยืนอยู่ตรงหน้าเค้าพร้อมกับยกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจหนำซ้ำยังใช้มือทั้งสองข้างของเขาดึ
ณ ร้านเช่าชุดแห่งหนึ่งสามสาว มะขาม ฟ้าใสและปิ่น ช่วยกันเลือกชุดอย่างตื่นเต้นจับตัวนั้นมาใส่ตัวนี้อยู่ไม่หยุดลองแล้วลองอีกอยู่ตรงหน้ากระจกบานใหญ่ไอรินจากที่ดูตื่นเต้นดีใจช่วยพวกเธอเลือกชุดมาสักพักแล้วแต่เมื่อได้เห็นท่าทีของพวกนางก็ถึงกับขอตัวนั่งพักที่โซฟาก่อนเพราะศึกนี้คงอีกนานเจ้าสาวอย่างเธอแค่ลองชุดเดียวก็เหนื่อยจะแย่แล้วผิดกับเพื่อนๆ ของเธอซะจริงไม่มีทีท่าจะเหนื่อยกันบ้างเลยหรือไงไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหนอารมณ์เหมือนกับตอนผู้หญิงแต่งหน้าแล้วอย่ามาเร่งเลย ฮ่าๆ“พวกแกว่าฉันใส่ชุดนี้เป็นไง…สวยมั้ย” เสียงมะขามเอ่ย“สวยมึงเอาชุดนี้เลย” เสียงยัยปิ่นพลางตอบพร้อมชูชุดในมือทั้งสองข้างให้เพื่อนๆ ได้ช่วยเลือก“มึงว่าชุดไหนสวยกว่ากันระหว่างปาดไหล่หรือเกาะอกดี”“กูว่ามึงเอาเกาะอกเลยสวยแซ่บสีฟ้าเข้ากับน้ำทะเล ฮ่าๆ”“พวกเราจะเริ่ดเกินเจ้าสาวไม่ได้นะ ฮ่าๆ” ฟ้าใสเอ่ยหัวเราะ“นั้นสิ…ลืมคิดเบาๆ นะพวกมึง ฮ่าๆ”“มึงก็พูดได้สิมะขามมึงได้ผู้แล้วแถมเป็นผู้ใหญ่อบอุ่นที่เอาใจเก่งอีกต่างหาก อิจสุดๆ ไม่รู้แหละกูขอจัดเต็มไว้ก่อน” ว่าแล้วฟ้าใสก็เดินไปเลือกชุดที่ราวเสื้อผ้าเลือกแล้วเลือกอีกเอาจนถูกใจ“เต็มที่
เช้าวันรุ่งขึ้น ณ ร้านเช่าชุดแต่งงานเสียงรถแล่นมาจอดยังบริเวณหน้าร้านเช่าชุดทั้งคู่เดินลงจากรถมาด้วยใบหน้าที่ดูสดใสพลางส่งยิ้มให้กันและกันอย่างมีความสุขร่างเล็กหยุดเดินแหงนดูหุ่นที่สวมใส่ชุดเจ้าสาวผ่านกระจกใสบานใหญ่ที่ตั้งโชว์อยู่ภายในร้านเป็นชุดเดรสสีขาวปาดไหล่ผ้าซีทรูกระโปรงยาวปักด้วยไข่มุกนับร้อยเม็ดสวยสะกดตาจนต้องหยุดมองแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยว่าเธอจะมีวันที่ได้ใส่ชุดเจ้าสาวกับเขาเหมือนกันดีใจจนพูดไม่ออก ไอรินพลางมองอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่คุณกรณ์จะรีบจูงมือเธอเดินเข้าร้านไปด้วยความตื่นเต้น“ยินดีต้อนรับค่ะ” เสียงพนักงานบริการสาวในร้านเอ่ยพร้อมพยักหน้ารับอย่างนอบน้อม“คุณกรณ์ใช่ไหมคะ…เชิญด้านนี้ได้เลยค่ะ” พนักงานสาวเดินนำพวกเขาทั้งคู่มายังห้องลองชุด VIP พร้อมกับนำชุดที่ทางร้านมีทั้งหมดหลากหลายสไตล์มาให้พวกเขาได้เลือกไม่ว่าจะเป็นชุดไทย ชุดจีนยกน้ำชา ชุดพิธีการต่างๆ เยอะจนเลือกไม่ถูกกันเลยที่เดียว“เดี๋ยวนะคะ…จะให้ลองทั้งหมดนี้เลยเหรอ” เสียงไอรินหันไปถามคุณกรณ์ที่ตอนนี้เขาก็ได้แต่ยืนงงเช่นกันว่าทำไมมันถึงเยอะขนาดนี้“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน” เขาพลางตอบเธอด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะสิ้นหวัง
ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตู“เดี๋ยวรินทำธุระเสร็จจะรีบลงไปนะคะ” เธอพลางตอบคนหน้าประตูเพราะคิดว่าคงเป็นป้าแม่บ้านที่คุณอุไรให้มาตามเธอลงไปทานข้าวซึ่งก็ไม่มีเสียงป้าแม่บ้านตอบกลับมามีแต่เสียงเคาะประตูอยู่ไม่หยุดมิหนำซ้ำยังเคาะเร่งเป็นจังหวะอีกด้วย จนเธอต้องเดินไปเปิดประตูทั้งที่ยังใส่ชุดคลุมอาบน้ำสีขาวพร้อมกับปล่อยผมยาวที่เปียกชุ่ม“เล่นเป็นเด็กไปได้” ไอรินพูดพึมพำให้กับการกระทำที่ดูเหมือนเด็กเช่นนี้ทำเอาเธอก็อดอมยิ้มไม่ได้โตแค่ตัวอย่างที่คุณอุไรว่าไว้ไม่มีผิด ฮ่าๆ เธอพอจะเดาได้แล้วล่ะว่าเป็นใครที่ชอบแกล้งเธอในบ้านหลังนี้เห็นทีคงมีแค่คุณกรณ์คู่หมั้นของเธอสินะ ไอรินเพียงแค่หมุนลูกบิด ทันทีที่เสียงดัง แกร๊ก คุณกรณ์ก็รีบผลักประตูเข้ามาในห้องเธออย่างรวดเร็วอีกทั้งยังโผกอดไอรินจากด้านหลังอีกด้วยกลิ่นหอมสบู่อ่อนๆ จากตัวเธอทำเอาจมูกโด่งของคนพี่เริ่มทำงานคลอเคลียไปที่ข้างหูของเธอทีละนิด~“ทำไมไม่รีบไปอาบน้ำที่ห้องตัวเองล่ะคะ…คุณพ่อคุณแม่รอทานข้าวอยู่น้าา” น้ำเสียงอ่อนหวานเอ่ยถาม“พี่คิดถึงรินไม่เห็นหน้าแล้วใจจะขาด”“เวอร์อีกแล้วนะคะเนี่ย…ปล่อยรินได้แล้วค่ะ”“อยากนอนกอดทุกคืนเลย…แล้วทำไมไม่เก็บของ
เสียงโทรศัพท์ดัง“มีอะไรอีกวะไอ้ยุ!!!” เสียงเข้มของคุณกรณ์พลางขึ้นเมื่อกดรับสายอีกครั้ง“กูลืมบอกมึง…ว่าตอนนี้ครีมไปหามึงที่หัวหินแล้ว”“มึงว่าไงนะ!!!…แล้วมึงไม่รีบบอกกูให้เร็วกว่านี้วะ” เสียงตกใจเอ่ย“ก็กูลืมมมไงเพื่อน…กูกดโทรหามึงแล้วแต่สายมึงไม่ว่าง”“แม่กูโทรมาเทศน์กูซะยาว…แล้วใครบอกครีมวะว่ากูกลับมาที่นี้อีกไอ้เคนเหรอ!!! อย่าบอกนะว่าเป็นมึง”“เฮ้ยๆ มึงอย่ามาโทษกูครั้งนี้ไม่ใช่กูโว้ย!!! ไอ้เคนก็ไม่หน้าใช่ป่านนี้มันคงไปม่อสาวอยู่ไหนสักที่ไม่มาสนใจเรื่องของมึงหรอก…แต่ว่าเรื่องแค่นี้สืบดูคงไม่ยากเกินกำลังครีมหลอกว่ะ”“เออ งั้นแค่นี้กูรีบไปดูรินก่อนเดี๋ยวบังเอิญเจอกันกูจบเห่แน่”“เออๆ กูเอาใจช่วยมึงวะเพื่อน” เสียงปลายสายกดวางคุณกรณ์วางโทรศัพท์ลงบนเตียงนอนแล้วรีบเปิดประตูห้องพักหยิบรองเท้ามาใส่ผิดๆ ถูกๆ ใส่ยากใส่เย็นไม่ทันใจขว้างมันทิ้งซะเลยรีบร้อนจนต้องเดินเท้าเปล่าออกมาจากห้องพัก เขามุ่งตรงมายังชายหาดด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลนกวาดสายตามองหาแฟนเด็กของเขาไปทั่วหาดเห็นไอรินกำลังเดินกลับเข้ามาพอดีจึงรีบเดินดุ่มๆ ไปหาเธอ“ทำไมตื่นแล้วไม่ปลุกพี่มาเดินเล่นด้วยกันล่ะเดินคนเดียวจะสนุกได้ไง” ทันทีท