“ถ้าผมมีลูกมีเมียอยู่แล้ว พ่อกับแม่ยังจะยัดเยียดนุชวราให้กับผมอยู่อีกไหมครับ” หมอหนุ่มถามออกมาอีกครั้งด้วยใบหน้าที่ราบเรียบ จนบิดามารดาไม่สามารถเดาความคิดของเขาออก ซึ่งคนทั้งคู่คิดว่าลูกชายเพียงแค่อยากรู้คำตอบเท่านั้น
“พ่อกับแม่ไม่ใช่คนใจร้าย ที่จะพรากลูกพรากเมียใครหรอกนะ ถ้าหมอมีลูกมีเมียอยู่แล้ว พ่อกับแม่ก็จะไม่บังคับให้ลูกต้องหมั้น หรือแต่งงานกับนุชวราหรอก แต่ลูกชายของแม่โสดไม่มีใคร แล้วทำไมจะแต่งงานกับหนูนุชไม่ได้ หรือว่าลูกชอบไม้ป่าเดียวกัน แม่ไม่ยอมแน่” ผู้เป็นมารดาเริ่มคิดไปต่างๆ นานา เมื่อลูกชายมีท่าทางที่อิดออด ไม่อยากจะแต่งงานกับสาวสวยที่เพอร์เฟกต์อย่างนุชวรา
“ผมไม่มีใครหรอกครับแม่ แต่ขอเวลาอีกสามเดือนได้ไหมครับ ผมไม่เคยขออะไรจากแม่เลย ถ้าหากว่าผมจะต้องหมั้นหรือแต่งงานกับนุชวราจริงๆ ขอให้ผมได้ใช้ชีวิตในแบบของผม เพียงแค่สามเดือนจะได้ไหมครับแม่”
ครั้งแรกที่บิดามารดาได้ยินคำร้องขอจากลูกชายคนเล็ก เพราะตั้งแต่เล็กจนโตเขาอยู่ในโอวาทบุพการีเสมอ ไม่เคยใช้ชีวิตออกนอกลู่นอกทางเลยสักครั้ง คนสูงวัยหันหน้ามาสบตากัน เพื่อขอความเห็นของอีกฝ่ายซึ่งคำตอบที่ได้ อยู่ภายใต้ม่านตานั้นแล้ว
“ตกลง พ่อกับแม่จะให้เวลาหมออีกสามเดือน แค่สามเดือนเท่านั้นนะ อย่าคิดแชเชือนเด็ดขาด”
“ขอบคุณครับแม่ ขอบคุณครับพ่อ” หมอวายุกล่าวขอบคุณบิดามารดาออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก ซึ่งคนทั้งคู่จะเห็นได้ไม่บ่อยนัก สิ่งนั้นทำให้หญิงสูงวัยถึงกับรู้สึกผิดเล็กน้อย ที่กำลังคิดจะจับคู่ให้กับลูกชายคนเล็ก
“ไม่ต้องดีใจขาดนั้นก็ได้มั้งหมอ แค่สามเดือนไม่ใช่สามปีสักหน่อย ยังไงลูกก็ต้องได้แต่งงานกับหนูนุช ชีวิตหลังแต่งงานอาจจะทำให้หมอ ขอบคุณพ่อกับแม่ก็ได้ ที่ทำให้ลูกได้สมรสในครั้งนี้”
“หรือบางที ทุกอย่างมันอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ”
“หมอ!” มารดาถึงกับเอ็ดลูกชายคนเล็กออกมาเสียงดัง แต่ทว่าหมอหนุ่มได้เดินออกไปจากบ้าน ตรงไปยังโรงจอดรถขับพุ่งออกไปเรียบร้อยแล้ว สองสามีภรรยาจึงหันมาสบตากันอีกครั้ง ก่อนส่ายศีรษะให้กับความดื้อดึงของลูกชาย ที่พยายามปฏิเสธการหมั้นหมายมาแล้วหลายครั้งหลายครา จนนุชวราไม่ยอมอีกแล้ว หล่อนจึงให้บิดามารดามาเจรจา เพราะเชื่อว่าหากรอให้หมอวายุเป็นคนเอื้อนเอ่ย เธอคงต้องรอไปทั้งชีวิตอย่างแน่นอน
เช้าของวันใหม่ ฝนสุดามาตามนัด เพราะมันคือวันสำคัญของเธอ เมื่อหมอพราวกนกและทีมแพทย์จะเข้าสู่กระบวนการเก็บไข่ผ่านทางช่องคลอด ก่อนจะทำการเจาะดูดไข่มาเลี้ยงในน้ำยาเลี้ยงไข่ เพื่อเตรียมพร้อมในการปฏิสนธิ ซึ่งนายแพทย์จิรายุได้มาเก็บเสปิร์ม สำหรับการคัดกรองอสุจิตัวที่สมบูรณ์แข็งแรงที่สุดไว้ในห้องปฏิบัติการ แน่นอนเสปิร์มของเขาล้วนแต่สมบูรณ์ ก่อนจะนำมาเติมอาหารเสริม เตรียมพร้อมสำหรับการปฏิสนธิแบบเจาะจงและแม่นยำ จนเกิดเป็นตัวอ่อน พอที่จะทำให้หมอหนุ่มสมหวัง ในสิ่งที่ใจปรารถนาได้ไม่ยาก
“คุณฝนสุดาทำตัวให้สบาย ไม่ต้องเครียดนะคะ” หมอพราวกนกพูดขึ้นหลังจากขั้นตอนการเก็บไข่ ผ่านพ้นไปด้วยดี แต่ฝนสุดากลับมีท่าทีที่กังวลใจ
“ขอบคุณนะคะคุณหมอ พอคิดว่าตัวเองกำลังจะมีลูก สิ่งมีชีวิตเล็กๆ กำลังจะเข้ามามีบทบาทเป็นส่วนหนึ่งในร่างกาย ฝนก็รู้สึกกังวลใจ เพราะกลัวว่าตัวเองนั้น จะทำหน้าที่ของแม่ได้ไม่ดีเท่าที่ควร” ทุกถ้อยคำที่หญิงสาวบรรยายของมานั้น ทำให้แพทย์หญิงทราบทันทีว่าทำไมหมอวายุ ถึงได้ตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเจอ
“อย่ากังวลใจไปเลยนะคะ สัญชาตญาณของความเป็นแม่ มักจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงอย่างพวกเราได้ โดยอัตโนมัติ ผ่านกลไกของสายใยความผูกพัน หมอเชื่อว่าคุณฝนสุดาจะต้องทำหน้าที่นี้ได้ดีไม่แพ้ใคร”
ถ้อยคำของแพทย์หญิงพราวกนก ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดที่ไม่ได้ปรุงแต่งจริตแต่อย่างใด เมื่อเธอมีความปรารถนาดีต่อคนไข้ จึงทำให้ฝนสุดารู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้าง
ซึ่งบทสนทนาระหว่างหมอสาวกับคนไข้ได้อยู่ภายใต้สายตาคมของนายแพทย์จิรายุตลอดเวลา เมื่อเขายอมเสียมารยาทแอบฟังคนทั้งคู่คุยกัน ถึงเรื่องราวที่กำลังจะเกิดในเวลาอันใกล้
“หมอเลือกการทำอิ๊กซี่ให้กับคุณฝนสุดา เพราะอัตราการประสบความสำเร็จสูง ฉะนั้นไม่ต้องกังวลทำครั้งเดียวได้ผลแน่นอนค่ะ”
“ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ”
“ด้วยความยินดีค่ะ”
เมื่อฝนสุดาเดินออกไป ทำให้หมอหนุ่มที่แอบฟังอยู่ รีบตรงเข้ามานั่งที่เก้าอี้แทนฝนสุดาทันที พร้อมกับใบหน้าที่เรียบเฉยเหมือนอย่างเคยแต่แพทย์หญิงพราวกนกก็พอจะทราบได้ ถึงวัตถุประสงค์ของหมอหนุ่ม
“ทุกอย่างเรียบร้อยดีค่ะ คุณหมอคงได้ลูกแฝดสมใจ เพราะไข่ที่ได้เหมือนโชคชะตาจะอำนวย หมอได้ลูกแฝดแน่นอนสบายใจได้”
“ขอบคุณนะครับ ฝากด้วยนะหมอแพรว”
“ด้วยความยินดีค่ะ”
นายแพทย์จิรายุถึงกับหายใจออกมาอย่างโล่งอก ทั้งที่ภายในใจเริ่มที่จะกังวล ถ้าหากเขาต้องหมั้นและแต่งงานกับนุชวรา ลูกและภรรยาของเขาจะอยู่อย่างไร แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฝนสุดา อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นในรูปแบบของสามีภรรยาเหมือนกับคู่อื่นๆ แต่เมื่อเธอคือแม่ของลูกเขาก็นับว่าเธอเป็นภรรยาของเขาแล้วเช่นกัน
ฝนสุดาเดินทางกลับมาที่บ้าน พร้อมกับคำถามมากมายที่เกิดขึ้นภายในใจ เมื่อหญิงสาวกำลังคิดว่าเธอได้ทำอะไรลงไป การตัดสินใจที่ถ้วนถี่คิดแล้วคิดอีก จนในที่สุดข้อสรุปที่ได้ กำลังจะทำให้เธอกลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวไปโดยปริยาย
“ทำไมต้องคิดมากด้วยนะ การมีลูกมันคือของขวัญที่ล้ำค่า เราแค่เลี้ยงเขาให้ดีที่สุด เงินเก็บก็พอมีอยู่บ้าง ลูกโตพอเข้าโรงเรียนค่อยหางานใหม่ทำก็ได้นี่นา”
เมื่อหญิงสาวคิดได้ดังนั้นเธอจึงเผยรอยยิ้มออกมา เพื่อรอรับการฝังตัวอ่อนเข้ามาในโพรงมดลูก ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
Rrrr!! เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้น ทำให้หญิงสาวคว้ามากดรับ เมื่อสายเรียกเข้าคือเพื่อนรักอย่างมิรา คงโทรมาถามไถ่เรื่องที่เธอนั้น ไปเก็บไข่ในวันนี้
“ถ้าผมมีลูกมีเมียอยู่แล้ว พ่อกับแม่ยังจะยัดเยียดนุชวราให้กับผมอยู่อีกไหมครับ” หมอหนุ่มถามออกมาอีกครั้งด้วยใบหน้าที่ราบเรียบ จนบิดามารดาไม่สามารถเดาความคิดของเขาออก ซึ่งคนทั้งคู่คิดว่าลูกชายเพียงแค่อยากรู้คำตอบเท่านั้น “พ่อกับแม่ไม่ใช่คนใจร้าย ที่จะพรากลูกพรากเมียใครหรอกนะ ถ้าหมอมีลูกมีเมียอยู่แล้ว พ่อกับแม่ก็จะไม่บังคับให้ลูกต้องหมั้น หรือแต่งงานกับนุชวราหรอก แต่ลูกชายของแม่โสดไม่มีใคร แล้วทำไมจะแต่งงานกับหนูนุชไม่ได้ หรือว่าลูกชอบไม้ป่าเดียวกัน แม่ไม่ยอมแน่” ผู้เป็นมารดาเริ่มคิดไปต่างๆ นานา เมื่อลูกชายมีท่าทางที่อิดออด ไม่อยากจะแต่งงานกับสาวสวยที่เพอร์เฟกต์อย่างนุชวรา “ผมไม่มีใครหรอกครับแม่ แต่ขอเวลาอีกสามเดือนได้ไหมครับ ผมไม่เคยขออะไรจากแม่เลย ถ้าหากว่าผมจะต้องหมั้นหรือแต่งงานกับนุชวราจริงๆ ขอให้ผมได้ใช้ชีวิตในแบบของผม เพียงแค่สามเดือนจะได้ไหมครับแม่”
“เอวาขอร้องได้ไหมคะ ระหว่างที่เราคบกันและคุณยังการันตีในความสัมพันธ์ของเราให้ใครต่อใครได้ทราบ ก็ให้เกียรติเอวาบ้างหน่อยเถอะค่ะ” หญิงสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้า เมื่อเธอนั้นได้กลายเป็นเพียงแค่แฟนในนาม แต่เรื่องบนเตียงกลับเล่นจริงไม่ใช้สแตนด์อิน “รอให้หมอวายุหมั้นและแต่งงานกับนุชวราเมื่อไหร่ ผมจะปล่อยคุณไปให้เป็นอิสระ” เขาช่างเป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัว แม้ว่าเงื่อนไขและผลประโยชน์ที่เอวาได้รับนั้น จะเป็นเงินก้อนใหญ่ แต่หญิงสาวก็ปรารถนาอยากใช้ชีวิตร่วมกับนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงมากกว่า “คุณพายุ ตลอดเวลาที่ผ่านมาหลายปีคุณไม่คิดที่จะมีใจให้เอวาบ้างเลยหรือไง” คราวนี้หญิงสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่พัดพ้อ เมื่อเขาให้ความสำคัญในตำแหน่งแฟน เพียงแค่ต้องการให้หล่อนเป็นไม้กันหมาให้เขาเท่านั้น แม้แต่บิดามารดาของชายหนุ่ม ก็ไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อนเนื่องจากเขาเป็นลูกชายคนโต จึงถูกเลี้ยงดูตามใจมาตั้งแต่เด็ก ในขณะที่หมอวายุนั้นถูกบังคับ ให้ทำตามความประสงค์ของบุพการี ทั้งการเรียนและเรื่องของหัวใน ท้ายที่สุดเขาต้องเรียนแพทย์ ทั้งที่
ผับใจกลางเมือง มิรากำลังนั่งดื่มอยู่กับเบส สายตาของเธอได้เหลือบไปเห็นหญิงสาว ที่มีรูปร่างคุ้นตา แต่ไม่แน่ใจว่าจะใช่ขวัญดาวหรือเปล่า เนื่องจากโต๊ะโซนวีไอพี ซึ่งถัดออกไปจากเธอพอสมควร หญิงสาวกำลังนั่งดื่มอยู่กับคาสโนว่าตัวพ่ออย่างพายุ นักธุรกิจหนุ่มที่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน แต่เขายังคงเป็นคุณชายเจ้าสำราญไม่เลิกรา“ถ้าผมจะกลับมาคบกับคุณอีกจะได้ไหม มิรา” น้ำเสียงของกัปตันหนุ่มฟังดูน่าหลงใหล แต่มิรากลับรู้สึกไม่ไหว ถ้าหากเธอจะต้องมานั่งร้องไห้ เมื่อเขาบอกเลิก และที่เธอยอมออกมาดื่มเป็นเพื่อนแฟนเก่าก็แค่ต้องการปลอบโยน ที่เขานั้นได้เสียบิดาไป ในขณะที่แฟนใหม่ขอยุติความสัมพันธ์ ซึ่งมิราไม่มีวันจะกลับไปเป็นแฟนกับเขาอีกเป็นเด็ดขาด “เป็นเพื่อนกันมันก็ดีอยู่แล้ว อย่าพยายามทำให้ทุกอย่างกลับมาที่เดิม เมื่อใจสองดวงได้เปลี่ยนไปแล้ว มิราจะยังคงเป็นเพื่อนที่ดีให้กับเบสเสมอนะ” คำพูดของอดีตคนรัก ทำให้กัปตันหนุ่มซาบซึ้งใจ เขาไม่น่าทิ้งเธอไปทั้งที่คบกันมาเป็นสิบปี
ดวงตาคู่สวยค่อยๆ ปรือลงอย่างช้าๆ เมื่อเธอกำลังจินตนาการว่าตัวเองนั้น กำลังเป็นนางเอกในซีรี่ย์ ที่มีหมอหนุ่มหน้าตาดี เป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยทำให้เธอตั้งครรภ์ ก่อนที่หญิงสาวจะไม่มีมดลูก “คุณ... คุณฝนสุดา หลับอีกแล้วเหรอ” เสียงทุ้มของหมอหนุ่มที่ดังข้างใบหูของเธอ จนสามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ทำให้หญิงสาวรู้สึกตัวตื่นจากภวังค์ “เอ่อ... ขะ ขอโทษค่ะ” ฝนสุดารีบดีดตัวลุกขึ้นยืน พร้อมกับใบหน้าที่เหลอหลา ก่อนจะกล่าวขอโทษเขาออกมาด้วยคำพูดที่ติดอ่าง พร้อมกับรีบก้มหน้าลงต่ำ เพื่อหลบสายตาคมของหมอหนุ่ม เมื่อเธอเดาความรู้สึกของเขาไม่ออก การวางสีหน้าที่เรียบเฉยตลอดเวลา พร้อมกับเก๊กท่าวางมาดเข้ม บวกกับบุคลิกของหมอหนุ่มดูหล่อเท่สมาร์ต แต่ทว่าบางทีก็ดูลึกลับจนน่าค้นหา ส่งผลให้หัวใจดวงน้อยของฝนสุดาอดที่จะหวั่นไหว ให้กับหมอวายุไม่ได้ “ผมเพิ่งบอกคุณไปไม่กี่นาที จะลุกจะเดินต้องระวัง ไม่อย่างนั้นคุณมีสิทธิ์แท้งแน่ ถ้าย้ายตั
ภายในห้องนอนที่ตกแต่งเอาไว้ในสไตล์นอร์ดิก แลดูโล่ง โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก แต่ดูอบอุ่นเรียบหรูดูแพง ซึ่งมีโทนขาว เทาเป็นหลัก ทั้งผ้าปูและเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ตกแต่งภายใน ผนังของห้องใช้สีพาสเทลอ่อนๆ บ่งบอกให้รู้ถึงรสนิยมของคนอาศัยที่มีใบหน้าเคร่งขรึมอยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญหมอวายุเป็นคนที่ชอบความเงียบสงบ แต่คนรอบข้างมักจะนำพาความวุ่นวาย เข้ามาภายในชีวิตของเขาไม่หยุดหย่อน โดยเฉพาะเรื่องการหมั้นระหว่างเขากับนุชวรา คนตัวเล็กที่นอนอยู่บนเตียงขนาดคิงไซซ์ ค่อยๆ พลิกกายบิดตัวหาวออกมา เมื่อเธอรู้สึกสบายตัวที่นอนอยู่บนเตียงนุ่ม บวกกับที่นอนไม่หลับมาทั้งคืน เนื่องจากตื่นเต้นกับการมาตามนัด เพื่อรับฟังรายละเอียดในขั้นตอนของการทำร่างกายให้พร้อม สำหรับการตั้งครรภ์ นั่นจึงทำให้หญิงสาวหลับยาวไปหลายชั่วโมง "อืม..." ฝนสุดาครางออกมาจากในลำคอ พร้อมกับบิดขี้เกียจอย่างอ้อยอิ่ง เมื่อเธอไม่อยากลุกออกจากเตียงนุ่มนี่เลยสักนิด จากนั้นหญิงสาวจึงค่อยๆ พลิกกายกลับมานอนหงาย เธอปรือตาขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะพบว่าเพดานของห้องนอน แปลกไปจากที่คุ้นเคย แน่นอนเพราะนี่มันไม
หลายวันผ่านไป หลังจากที่นายแพทย์หนุ่มหนุ่มพยายามเลื่อนนัดนุชวรามาหลายครั้ง ในวันนี้เธอจึงจำเป็นที่จะต้องบุกไปหาเขาที่โรงพยาบาล จนทำให้หมอหนุ่มจำใจต้องออกมารับประทานมื้อเย็นกับหญิงสาวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าเขานั้นจะรู้สึกอึดอัดกับการที่ต้องออกไปรับประทานมื้อเย็น ภายใต้แสงเทียน หล่อนคงอยากสร้างความประทับใจให้กับเดตแรกระหว่างเธอกับหมอวายุ "พี่หมอค่ะ ทำไมต้องทำหน้าเหมือนกับว่า กำลังลำบากใจที่ออกมาทานข้าวกับนุช" นุชวราพูดออกมาด้วยน้ำเสียงน้อยใจ เมื่อหล่อนพยายามเข้าใกล้ แต่หมอวายุกลับมีท่าทีถอยห่างออกไป ทั้งที่เขาก็ไม่มีใครทำไมไม่รับปากตกลงหมั้นกับเธอสักที "พอดีว่าช่วงนี้ผมมีเรื่องเครียดนิดหน่อย การเป็นหมอต้องอยู่ภายใต้แรงกดดัน ซึ่งคนไข้ได้ฝากชีวิตไว้กับแพทย์ที่รักษา ผมจึงอยากทุ่มเทชีวิตนี้ให้กับวงการแพทย์ ถ้านุชเจอใครที่ถูกใจ ก็รีบคว้าเอาไว้อย่าฝากความหวังไว้ที่ผมเลยนะครับ" ใบหน้าอันหล่อเหลาของหมอหนุ่ม ดูเรียบเฉยไร้วี่แววของการมีใจ บางครั้งนุชวราก็อยากเอ่ย