กิจกรรมอย่างหนึ่งที่เลี่ยงไม่ได้ของเด็กมหาลัยคือการออกค่ายอาสา ครั้งนี้ก็เช่นกันสโมสรนักศึกษาเขาจัดไปออกค่ายอาสาที่แถวจังหวัดแม่ฮ่องสอนซึ่งเขาขอความร่วมมือให้ดาวเดือนมหาวิทยาลัยและรองดาวเดือนไปทำกิจกรรมด้วยเพื่อโปรโมทสถาบันไปด้วย วรงกรณ์ก็ยินดีที่จะไปร่วมกิจกรรมด้วยและที่หนีไม่พ้นก็เป็นเชอร์รี่ที่ไม่จำเป็นต้องมาก็ได้แต่ก็ยังขอที่จะติดตามมาด้วย ส่วนรองทั้งดาวและเดือนอย่างกิ่งก้อยและกิตติภพก็ให้ความร่วมมือเช่นกัน
ก่อนที่จะมากิตติภพได้โทรคุยกับที่บ้านแล้วเพราะเห็นว่าอยู่เขตภาคเหนือใกล้บ้านตัวเอง ซึ่งพ่อเลี้ยงกับแม่เลี้ยงก็ดีใจมากจึงวางแพลนไว้ว่าจะไปเยี่ยมลูกชายที่มาออกค่ายอาสา แต่โดนลูกชายเบรคเสียก่อน
ในวันที่จะต้องเดินทางทุกคนเอาสัมภาระของตัวเองมาไว้ที่รถส่วนของต่างๆ ที่นำไปออกค่ายครั้งนี้ทางคณะเลือกที่จะสร้างห้องน้ำและโรงอาหารให้กับโรงเรียนบนดอย โดยหัวหน้าคณะนักศึกษาได้ติดต่อซื้อวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างในเขตพื้นที่ไว้และให้เขาเอาไปส่งไว้ที่โรงเรียนแล้วเลยไม่จำเป็นตัองขนอะไรมาก นอกจากของใช้ส่วนตัวและของที่รับบริจาคเพิ่มเช่น เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม หนังสือ
เมื่อทำการเช็คชื่อกับรุ่นพี่แล้วกิตติภพก็ขึ้นรถมานั่งตามที่นั่งที่ว่างอยู่ด้านหลัง เพราะเขาต้องการที่จะพักผ่อนเมื่อคืนอ่านหนังสือเสร็จแทนที่จะนอนดันไปท่องติ๊กต๊อกเลยไม่ได้หลับไม่ได้นอน
ครั้งนี้พนัชกรเพื่อนซี้ไม่ได้มาด้วยมีแต่กิ่งก้อยและพี่ๆ ที่เคยเป็นพี่เลี้ยงสมัยประกวด แต่อยู่รถคนละคันกิตติภพเลยขึ้นมาคนเดียวเดี๋ยวหาเพื่อนเอาข้างหน้า พอเขานั่งลงก็เตรียมเอาผ้าคลุมออกมาไว้เผื่ออากาศเย็นจะได้เอาไว้ห่ม เพราะต้องเดินทางไกลเป็นวันกิตติภพจึงหลับตาเพื่อพักเอาแรงก่อน เพียงไม่นานเขาก็รู้สึกถึงการยวบตัวลงของที่นั่งข้างตัว จึงลืมตาขึ้นมองเพื่อนร่วมทางที่ต้องนั่งกันไปยาวๆ ว่าเป็นใคร ก็สบสายตากับสายตาคมของวรงกรณ์ อย่าบอกนะว่าเขาต้องนั่งกับหมอนี่จนถึงแม่ฮ่องสอน น้ำลายบูดแน่เพราะคงไม่ได้คุยกัน
ร่างสูงเดินหาที่นั่งที่ว่างที่จริงก็มีเยอะเพราะคนยังมาไม่ครบ เขาตั้งใจจะเดินมาหลบนอนด้านเบาะหลังแต่ดันมาเจอคนตี๋หล่อเกาหลีนั่งเอนเก้าอี้เอามือกอดอกและหลับตาอยู่จึงเลือกที่จะมานั่งด้วยกันข้างๆ เพราะอยากจะแกล้งอีกคน เขารู้โดยสัญชาตญาณว่าอีกฝ่ายก็ไม่ค่อยชอบตัวเองเหมือนกัน คงเป็นเพราะเขารู้ทันเรื่องที่เจ้าตัวชอบพู่กันมากกว่าเพื่อนแน่เลย ดีล่ะเดี๋ยวเขาจะแกล้งให้เข็ดไม่ชอบเขาใช่ไหม เขาก็ไม่ได้ชอบอีกฝ่ายเช่นกัน
พอเห็นว่าเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างเป็นใครกิตติภพก็ทำเป็นไม่สนใจจึงนอนหลับตาต่อโดยที่ไม่ได้เอ่ยปากทักทายเลย คิ้วร่างสูงถึงกับกระตุกที่อีกคนทำเหมือนไม่รู้จักกัน วรงกรณ์จึงหยิบเอาเสื้อคลุมกันหนาวของตัวเองออกมาไว้พร้อมกับปรับเก้าอี้ให้ราบเท่ากับของอีกคนและทำเป็นหลับไปด้วย
พอคณะนักศึกษาเริ่มเดินทางคนที่แกล้งหลับก็หลับจริงๆ ด้วยความที่เมื่อคืนนอนดึกจึงหลับอย่างง่ายดาย วรงกรณ์มองศีรษะมนของอีกคนโยกไปด้านหน้าเวลารถเบรคหรือเคลื่อนตัว ทำเอาเขาเกรงว่าคอจะหักเอา เดือดร้อนพี่ๆ ที่พามาอีก มือหนาเลยเอื้อมมาผลักเอาศีรษะของคนหลับให้เอนมาซบไหล่ตัวเอง แล้วยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปโดยตอนถ่ายเขาหลับตาจัดฉากให้เหมือนโดนถ่าย พอเอารูปมาดู ดูๆ ไปเหมือนเป็นคู่รักหลับซบไหล่กัน เป็นข่าวกับเขาบ้างเป็นไง
พอรถจอดแวะพักคนคุมรถก็ประกาศให้ทุกคนลงไปเข้าห้องน้ำยืดเส้นยืดสายได้ กิตติภพที่หลับมานานก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพอดี เปลือกตากลมค่อยๆลืมขึ้นเพื่อปรับสายตาให้ชินกับแสง พอกรอกตามามองด้านข้างที่เขานึกได้ว่าอีกคนมานั่งอยู่เบาะคู่กันก็เห็นอีกคนยังนั่งอยู่พอมองขึ้นมาเรื่อยถึงรู้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายไปซบพิงไหล่เขาเองจึงรีบเอาตัวออกห่างและกะจะลงไปเข้าห้องน้ำแต่อีกคนยังหลับขวางทางอยู่จะข้ามไปก็กระไรอยู่เลยจำเป็นต้องลองปลุกคนตัวสูงกว่าเผื่ออีกคนอยากไปห้องน้ำบ้าง
“นี่ นี่ นายตื่นก่อนเร็ว” กิตติภพเอามือเรียวเขย่าต้นขาแกร่งของเพื่อทำการปลุก วรงกรณ์ที่ตื่นตั้งแต่รถจอดแต่ทีแรกแล้วทำเป็นหลับตาต่อตอนที่ได้ยินเสียงคราง ฮือ ของร่างบางก่อนที่อีกฝ่ายจะตื่น พอโดนเขย่าที่ต้นขาเขาเลยแกล้งทำเป็นพลิกตัว แล้วหันไปกอดเอวคนปลุกก่อนที่จะซบลงบนซอกคอหอม เล่นเอาคนโดนซบหวาดเสียวจนขนลุก แล้วใช้มือดันวรงกรณ์ออกจากตัวเอง
“นี่นาย ตื่นทำอะไรเนี่ยมีสติหน่อยซิ ตื่นจะลงไปเข้าห้องน้ำไหมถ้าไม่ไปก็หลบให้ด้วยผมจะออกไป” กิตติภพบอกเมื่อเห็นอีกฝ่ายลืมตาแล้ว
“ไปซิ ไปด้วยปวดฉี่จะแย่” วรงกรณ์เลยลุกขึ้นก่อนแล้วหลบไปยืนอยู่ด้านข้างเพื่อให้กิตติภพเดินนำออกไปก่อน ก่อนที่ตัวเองจะเดินตามหลังไป
เมื่อทำธุระเสร็จกิตติภพก็เดินเข้าร้านสะดวกซื้อเพื่อที่จะซื้อขนมและลูกอมหมากฝรั่งเอาไว้อมดับกลิ่นปากหลังจากดตื่นนอนตอนอยู่บนรถ เสร็จแล้วก็เดินขึ้นมาบนรถที่จอดรออยู่ พบว่าวรงกรณ์ยังไม่มา ร่างบางเลยเข้าไปนั่งเบาะตัวเองอย่างสะดวก
“อ่ะ ชาเขียวจะได้สดชื่น” แก้วชาเขียวถูกยื่นมาตรงหน้าของกิตติภพ ร่างบางเลยหันไปมองคนให้ก็เลยทำหน้างงเพราะไม่คิดว่าคนตัวสูงจะเอามาฝากตัวเอง
“รับไปซิ ก็ของนายนั่นแหละซื้อมาฝากไหนๆ ก็ไปยืนต่อแถวแล้ว”
“ขอบคุณก็แล้วกันนะ” กิตติภพกล่าวขอบคุณพร้อมกับยิ้มให้ครั้งแรกทำเอาวรงกรณ์ถึงกับตาพร่ากับรอยยิ้มเมื่อสักครู่ นี่แหละที่เขาบอกว่ายิ้มหยุดโลก มันเป็นแบบนี้นี่เอง พอตั้งสติได้ร่างสูงจึงนั่งลงที่เบาะนั่งของตัวเอง ทำไมมันใจสั่นอย่างนี้วะ โน้ตมึงจะสั่นทำไมนั่นผู้ชายที่จะมาแย่งพู่กันไปจากพี่มึงนะ ร่างสูงทะเลาะกับใจตัวเอง
“อ่ะลูกอมกะหมากฝรั่งไว้เคี้ยวตอนขึ้นเขาเดี๋ยวจะหูอื้อ” วรงกรณ์มองลูกอมในอุ้งมือสะอาดตาที่มีลูกอมกับหมากฝรั่งวางอยู่บนนั้นอย่างละสี่ห้าเม็ดรวมๆ เกือบสิบ ก่อนจะยิ้มขอบคุณและแบมือลงเพื่อที่มือเรียวจะได้วางลูกอมให้ พอเห็นอีกฝ่ายแบมือออกแทนที่จะกำเอาลูกอมในมือของเขากิตติภพเลยจำต้องเปลี่ยนจากหงายเป็นคว่ำมือให้ลูกอมวางบนมือหนาแทน วรงกรณ์เลยถือโอกาสกุมเอามือเรียวที่วางบนมือตัวเองเฉยก่อนที่จะคลายออก
“ขอบคุณมาก รีบกินล่ะเดี๋ยวชาเขียวละลายหมดไม่อร่อยนะ”
นั่งรถมาจนถึงจุดหมายปลายทางที่มาออกค่าย ทุกคนทยอยลงจากรถด้วยความเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวกันทุกคน
“อ้าวสองคนข้างหลังถึงแล้วครับ มัวแต่นอนกอดกัน ลุกได้แล้วลูกก่อนที่อย่างอื่นจะลุกแทน” พี่ๆ ที่อยู่ใกล้ปลุกสองเดือนที่นอนหลับซบกันอยู่ด้านหลังรถ
“เฮ้ย” เสียงร้องตกใจของสองคนดังออกมาพร้อมกันเพราะตื่นมาพร้อมกันต่างคนต่างอยู่ในอ้อมกอดกัน วรงกรณ์รีบผละมือออกแล้วลุกขึ้นเก็บข้าวของออกจากรถ
“เชี่ยแล้วไอ้โน้ต ไปนอนกอดกับผู้ชาย”
วรงกรณ์ด่าตัวเองเบาๆ แล้วเดินจากไป ทิ้งให้อีกคนที่กำลังนั่งอยู่บนเบาะรถได้แต่หน้าชาเพราะเหมือนอีกคนจะรังเกียจไม่ชอบตัวเองเข้าไปอีก
พอทุกคนลงจากรถบัสก็ต้องขึ้นรถกระบะหรือที่เรียกว่ารถขนหมูที่ชาวบ้านเอามารับ ทยอยกันขึ้นไปบนดอยหลายต่อหลายเที่ยวจนครบทุกคนซึ่งก็เป็นเวลามืดพอดี เลยไม่ได้ทำอะไรมากนอกจากเก็บข้าวของตัวเองและหาที่หลับที่นอนซึ่งเขาให้ผู้หญิงกับผู้ชายนอนแยกกันคนและหลังของอาคารเรียนเล็กๆ กิตติภพก็เดินรวมกลุ่มไปกับเพื่อนๆ ผู้ชาย
“บอม สวัสดีเราเชนนะอยู่เภสัช วันที่ประกวดเดือนเราเจอบอมแต่ไม่มีเวลาคุยด้วย ดีใจจังที่ได้เจอบอมที่นี่อีก” หนุ่มหล่อหน้าตาดี นามว่าศิริโรจน์หรือเชน เดือนคณะเภสัช เข้ามาทักทายกิตติภพอย่างยิ้มแย้มอัธยาศัยดี
“หวัดดีเชน ยินดีที่ได้รู้จักนะ ถึงว่าหน้าคุ้นๆ เรามาก็ไม่ได้รู้จักใครเลย นอกจากคนในคณะสองสามคน ดีจังมีเพื่อนใหม่เพิ่มมาคนหนึ่ง” กิตติภพพูดไปยิ้มไปด้วยความรู้สึกดีใจจริงๆ ส่วนอีกคนที่นั่งเบาะข้างกันมาไม่นับว่ารู้จักกันเพราะไม่ได้คุยอะไรกันเลย
“ไปหาที่นอนกันเถอะบอม ป่ะ งั้นบอมนอนใกล้ๆ เราไหม จะได้คุยกันต่อ” เชนหนุ่มหล่อเสนอ
“เอาดิ เพราะเราก็ไม่รู้จะนอนกับใครเหมือนกันพวกที่มาก็มีแต่ผู้หญิงกับพวกพี่เคที่”
เมื่อตกลงกันแล้วทั้งคู่ก็เดินไปเลือกมุมที่จะนอน ทุกสิ่งทุกอย่างอยูในสายตาของวรงกรณ์ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรแค่คิดว่าอีกคนใจง่ายไปกับคนนั้นทีคนโน้นทีดูแล้วคงจะเป็นคนเจ้าชู้อยู่พอควร ยิ่งอย่างนี้ยิ่งไม่ควรอยู่ใกล้พู่กันของเฮียเนม
การออกค่ายวันแรกหมดไปกับการเดินทาง พอเช้าอีกวันหัวหน้านักศึกษาก็พาทุกคนออกมาพบผู้นำชุมชนและได้ชี้แจงรายละเอียดวัตถุประสงค์ของการออกค่าย จากนั้นก็แบ่งหน้าที่กันตามที่ถนัดและได้รับมอบหมาย ซึ่งของกิตติภพออกไปหน่วยแพทย์กับรุ่นพี่และคณะเภสัชฯและทันตะฯถึงแม้จะยังตรวจโรคไม่เป็นแต่ก็ยังพอรู้จักยาอยู่บ้างและเผื่อหยิบจับอะไรช่วยเขาได้ถ้ามาอีกครั้งคงได้ช่วยเหลือคนอื่นได้มากกว่านี้
ส่วนวรงกรณ์อยู่ในส่วนก่อสร้างที่ผู้ชายส่วนใหญ่ต้องอยู่เพื่อใช้แรงงานในการทำห้องน้ำและโรงอาหารให้กับโรงเรียนเพื่อเป็นประโยชน์กับเด็กนักเรียนต่อไป ส่วนพวกผู้หญิงก็จะช่วยกันหุงหาอาหารและหยิบจับของที่ไม่หนักส่งให้พวกผู้ชาย ตอนช่วงกลางวันที่นี่จะร้อนมากพอทำกันไปได้สักพักก็ต้องพักกันเพราะแดดร้อนเปรี้ยง วรงกรณ์ลงมาพักข้างล่างเพื่อให้คลายร้อน
“โน้ตคะ น้ำเย็นค่ะ”
น้ำเย็นใส่ในแก้วถูกยื่นให้ตรงหน้าเดือนมหาวิทยาลัยคนหล่อ จากดาวคณะเดียวกันอย่างเชอร์รี่ เธอพยายามที่จะเข้ามาอยู่สองต่อสองกับวรกรณ์แต่ก็ไม่ค่อยมีโอกาสเพราะรุ่นพี่สาวสองเรียกเธอไปช่วยทำโน่นนั่นนี่ตลอด
“ขอบคุณมากนะเชอร์รี่” วรงกรณ์ยื่นมือไปรับแก้วน้ำจากหญิงสาวเอามาดื่มเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเสียกำลังใจ ส่วนคนเอาน้ำมาเสิร์ฟก็เอาพัดมาพัดไล่ความร้อนให้อย่างเอาใจยิ้มแก้มปริที่เห็นหนุ่มหล่อที่ตัวเองเล็งไว้รับไมตรีจากตัวเอง
“เดี๋ยว ทุกคนพักทานข้าวก่อนนะคะ เจ๊แนนนี่แม่ครัวคนเก่งของเราทำกับข้าวเสร็จพอดี มาเร็วหนุ่มๆสาวๆล้างไม้ล้างมือมาทานข้าวกันครับ” เสียงภูเบศ หัวหน้าคณะที่มาออกค่ายเรียกทุกคนพักจากกิจกรรมที่ทำอยู่ให้มากินข้าว ทุกคนเลยต้องหยุดกิจกรรมแล้วเดินไปตักข้าวและกับใส่จานตัวเองไปนั่งกินตามอัธยาศัย
“แล้วนี่หน่วยแพทย์ยังไม่กลับมากันอีกเหรอ เดี๋ยวแม่ครัวเตรียมกับข้าวไว้เผื่อหน่วยแพทย์ด้วยนะเผื่อกลับมาหิวจะได้พากันกิน” เสียงพี่ภูเบศหันไปสั่งพี่อเนกหรือเจ๊แนนนี่ต่อ
จริงซิตั้งแต่เช้ามาเขาก็ยังไม่เห็นหน้าใสๆของกิตติภพเลย นึกออกแล้วว่าวันนี้เหมือนขาดอะไรไป ที่แท้ก็ยังไม่ได้กวนอารมณ์อีกคนนี่เอง วรงกรณ์เดินถือจานข้าวเข้ามานั่งกับเป้เพื่อนชายในคณะและกลุ่มพี่ๆ ผู้ชายคณะอื่นที่นั่งคุยกันอยู่
“โน้ตคะ ขอเชอร์รี่นั่งทานด้วยคนนะคะ เชอร์รี่ไม่รู้จักใครเลยค่ะ” เชอร์รี่เดินมาหากลุ่มของชายหนุ่ม แล้วนั่งลงพื้นที่ที่เหลือเพียงนิดเดียวข้างๆวรงกรณ์จนร่างสูงต้องขยับออกเพื่อให้อีกฝ่ายได้นั่งดีๆ
“น้องเชอร์รี่มานั่งข้างๆพี่เมฆก็ได้นะครับ ตรงที่โน้ตนั่งมันมีที่นิดเดียวจะได้ไม่เบียดกัน”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่เมฆ เชอร์รี่อยากอยู่ใกล้ๆโน้ต”
“โห้ น้องเชอร์รี่ออกตัวแรงอ่ะระวังอกหักหน้าแตกนะคะ” เจ๊จีจี้สาวสองที่เคยเป็นพี่เลี้ยงตอนประกวดแซว เพราะนางไม่ชอบเชอร์รี่เป็นทุนเดิมและรู้สึกว่าฝ่ายชายก็ไม่ได้คิดอะไรกับฝ่ายหญิงมากเกินคำว่าเพื่อน
“อุ้ยต๊าย ตาย หน่วยแพทย์กลับมาแล้ว น้องบอมลูกชายเจ๊หิวหรือยังเนี่ยแดดก็ร้อน น่าสงสารจังเลยดูซิผิวขาวๆแดงหมดเลย”
“เฮ้ยยยยย”วรงกรณ์ที่อาบน้ำเสร็จกำลังจะหันมาเช็ดตัวก็พบเจ้าของห้องยืนทำหน้ายักษ์ไม่พอใจอยู่“ไอ้บ้า ไอ้ลามกจะหันมาทำไม ทำไมไม่รู้จักแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อน”“เมาจนเพี้ยนรึไง ใครเค้าอาบน้ำแล้วไม่ถอดเสื้อผ้ากัน อยากจะดูก็บอกดีๆ จะเอาให้ดู ไม่เห็นต้องมาแอบดู พอโดนจับได้แล้วทำเป็นโมโหโวยวายกลบเกลื่อน”กิตติภพถึงกับโมโหที่โดนว่าเพี้ยนแล้วก็ขี้ตู่หาว่าแอบมองอีก จึงถลาเข้าไปทุบคนที่ยืนเปลือยอยู่ในห้องน้ำ แต่ด้วยฤทธิ์น้ำเมาเลยทำให้อาการที่ยังเวียนหัวทรงตัวไม่อยู่จนเกือบล้ม แขนแข็งแรงของวรงกรณ์คว้าไปช้อนเอาคนที่เสียหลักจะล้มให้ทรงตัวขึ้นยืน ก่อนที่จะหัวเราะในลำคอ“อยากอาบน้ำก็ไม่บอก มาเดี๋ยวอาบให้ก็ได้” แขนแกร่งดึงเอาอีกคนมาไปในโซนอาบน้ำก่อนที่จะเปิดเรนชาวเวอร์แล้วกดเอาครีมอาบน้ำมาถูไปทั่วตัวคนเมา“นี่ ปล่อย ไม่อาบปล่อยยยย อย่าถู อ๊าาา อย่าลูบ อึมมมมม ปล่อยยยย กู อึมมม ”จากที่ตั้งหน้าตั้งตาถูครีมอาบน้ำไปทั่วตัวขาวของกิตติิภพ พอได้ยินเสียงครางของคนโดนถู ไหนจะกางเกงในสีขาวที่เปียกน้ำตอนนี้บางมากจนเห็นเจ้าหนูน้อยที่ตอนแรกนอนสงบนิ่งอยูในนั้นเริ่มผงกหัวขึ้น ทำเอาตัวตนที่ตื่นง่ายๆของ วรงกรณ์ลุกฮือ
“นี่บอมวันนี้บอมต้องไปกินเลี้ยงสายตระกูลกับวันเกิดของพี่เคที่ไหม” พนัชกรถามเพื่อนหลังจากที่เพิ่งเรียนคาบสุดท้ายของวันเสร็จ “ใช่ พู่กันก็ต้องไปเหมือนกันไม่ใช่เหรอ เพราะพี่ดาวก็ไปเลี้ยงตระกูลรวมกับพี่เคที่เหมือนกัน” “ใช่ไง งั้นพู่กันไม่เอารถไปดีกว่าจะได้ดื่มให้เต็มที่ขากลับขอคุณปู่นอนคอนโดบอมนะ ให้พู่กันนอนด้วยนะ” “ได้เลยไม่มีปัญหา คุณปู่อาทิตย์จะยอมหรือเปล่า ไหนจะเป็นข่าวซุบซิบในเพจอีก เดี๋ยวมีคนเข้าใจผิดบอมไม่รู้ด้วยนะบอกไว้ก่อน” “ปู่น่ะยอมอยู่แล้วไม่่มีปัญหา นี่ใคร พู่กันหลานรัก ส่วนเรื่องคนเข้าใจผิดน่ะพู่กันตั้งใจให้เข้าใจผิดเองแหละ เป็นข่าวกับบอมดีจะตายไม่เสียหาย” “พู่กันเดี๋ยวเมา พอแล้วกินเยอะแล้วนะ” กิตติภพท้วงเพื่อนเพราะอีกฝ่ายเริ่มเมาแล้วพู่กันคงเครียดช่วงนี้เพราะบอกว่าจะอยู่ห่างๆจากพี่เนมทำตัวกินเหล้ายังกับคนอกหัก ส่วนเขาก็เริ่มเวียนหัวแล้วเหมือนกันคิดว่าอีกไม่นานน่าจะเมาแล้วเหมือนกัน แล้วเมากันสองคนใครจะดูแลใคร “ก็มันอร่อยนี่ บอมบอมชิมดูซิมอร่อยนะ” แก้วไวน์ถูกยื่นมาให้กิตติภพ แต่เขาส่ายหน้าปฏิเสธไม่รับไว้พลางผลักออกจากหน้าตัวเอง ถึงมันจะอร่อยแต่ฤทธ
หลังจากจบการออกค่ายอาสากิตติภพก็กลับมาใช้ชีวิตปกติ ตอนเช้าตั้งใจเรียน ไปไหนมาไหนก็ไปกับพู่กันเพื่อนสนิท เมื่อก่อนเคยคิดไปเองว่าเขานั้นรักพู่กันเพื่อนสนิทแต่พออีกฝ่ายบอกรักพี่เนมคนเดียวตัวเองก็ไม่รู้สึกเจ็บกลับอยากให้เพื่อนสมหวังในความรัก แต่ในใจเขากลับมีอีกคนที่เคยมากวนอารมณ์ให้นึกถึงตลอดเวลาว่าง หลังจากที่กลับมาจากค่ายอาสาก็ไม่เคยเจอกันอีกเลย ตอนหลังเลิกเรียนเขาก็ขับรถกลับคอนโดที่อยู่ใกล้ๆมหาวิทยาลัยบางวันก็อ่านหนังสือ บางวันเบื่อก็เล่นเกมส์ และก็มี เชน ศิริโรจน์ หนุ่มเภสัชที่เข้ามาหาที่คณะบ่อยๆ บางทีก็ทักมาทางไลน์แต่ก็ไม่ทุกวัน กับเชนเขาก็ไม่ได้คิดถึงไม่ได้ตื่นเต้นเวลาอยู่ใกล้เหมือนใครบางคน แล้วจะยังไงแล้ววะเราหรือเราจะชอบผู้ชายจริงๆกิตติภพคิดในใจ “นี่บอมคิดอะไรอยู่เห็นนั่งเม่อนานแล้ว” พนัชกรถามเพื่อนสนิทที่เห็นนั่งเอามือเท้าคางท่านี้นานแล้ว ขนาดถามก็นิ่งไปใช่จะได้คำตอบ “บอมบอม ได้ยินเราไหม” ไม่ใช่แค่เรียกอย่างเดียว พนัชกรยังจับแขนข้างที่กิตติภพเอาเท้าคางไว้ดึงออกจนอีกคนที่โดนแกล้งเสียหลักเกือบคางกระแทกกับโต๊ะ “พู่กัน อ่ะ แกล้งเราทำไม ขี้แกล้งนะเดี๋ยวนี้ ดีนะที่หน้าห
“อุ้ยต๊าย ตาย หน่วยแพทย์กลับมาแล้ว น้องบอมลูกชายเจ๊หิวหรือยังเนี่ยแดดก็ร้อน น่าสงสารจังเลยดูซิผิวขาวๆ แดงหมดเลย” เสียงของเจ๊แนนนี่หัวหน้าแม่ครัวดังขึ้นด้วยความดีใจที่เพื่อนๆ หน่วยแพทย์ที่ไปออกหน่วยในหมู่บ้านเดินทางกลับมา จะได้ทานข้าวพร้อมกันเสียที พอได้ยินชื่อของคนที่เขายังไม่ได้เห็นหน้าตั้งแต่เช้าวรงกรณ์ก็เงยหน้าขึ้นมองพอดี ก็เห็นเดือนเภสัชยื่นแก้วน้ำเย็นให้คนที่โดนแดดจนหน้าแดง ทำให้เขานึกหงุดหงิดเล็กน้อยอีกคนก็เหลือเกินอ่อยมากยิ้มหวานให้เจ้าของแก้วน้ำจนหวานหยด สรุปว่ามาออกค่อยนี่ตกผู้ชายไปกี่คนแล้วก็ไม่รู้พอมาถึงกลุ่มของกิตติภพนำโดยพี่เคที่ก็พากันไปตักเอาข้าวมาราดกับแกงและผัดผักทานเป็นกับข้าวง่ายที่กิตติภพไม่เคยได้กินแต่ก็คิดว่ามันอร่อยมาก การมาออกค่ายครั้งนี้เขารู้สึกดีมากที่ได้มีโอกาสช่วยเหลือคนอื่นที่มีโอกาสน้อยกว่าตนเอง พอทานข้าวเสร็จพักให้หายเหนื่อย แดดไม่จัดแล้วพวกผู้ชายก็พากันเริ่มก่อสร้างกันอีกวันนี้การทำงานเป็นไปด้วยความรวดเร็วแม้ตอนแรกจะขลุกขลักเพราะต่างคนต่างไม่เคยทำงานร่วมกันมาก่อน แต่พอทำไปสักพักเริ่มรู้ใจกันเข้าขากันแล้วงานก็เริ่มเร็วขึ้นในที่สุดวันแรกก็สร้างห้องน้ำช
กิจกรรมอย่างหนึ่งที่เลี่ยงไม่ได้ของเด็กมหาลัยคือการออกค่ายอาสา ครั้งนี้ก็เช่นกันสโมสรนักศึกษาเขาจัดไปออกค่ายอาสาที่แถวจังหวัดแม่ฮ่องสอนซึ่งเขาขอความร่วมมือให้ดาวเดือนมหาวิทยาลัยและรองดาวเดือนไปทำกิจกรรมด้วยเพื่อโปรโมทสถาบันไปด้วย วรงกรณ์ก็ยินดีที่จะไปร่วมกิจกรรมด้วยและที่หนีไม่พ้นก็เป็นเชอร์รี่ที่ไม่จำเป็นต้องมาก็ได้แต่ก็ยังขอที่จะติดตามมาด้วย ส่วนรองทั้งดาวและเดือนอย่างกิ่งก้อยและกิตติภพก็ให้ความร่วมมือเช่นกันก่อนที่จะมากิตติภพได้โทรคุยกับที่บ้านแล้วเพราะเห็นว่าอยู่เขตภาคเหนือใกล้บ้านตัวเอง ซึ่งพ่อเลี้ยงกับแม่เลี้ยงก็ดีใจมากจึงวางแพลนไว้ว่าจะไปเยี่ยมลูกชายที่มาออกค่ายอาสา แต่โดนลูกชายเบรคเสียก่อนในวันที่จะต้องเดินทางทุกคนเอาสัมภาระของตัวเองมาไว้ที่รถส่วนของต่างๆ ที่นำไปออกค่ายครั้งนี้ทางคณะเลือกที่จะสร้างห้องน้ำและโรงอาหารให้กับโรงเรียนบนดอย โดยหัวหน้าคณะนักศึกษาได้ติดต่อซื้อวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างในเขตพื้นที่ไว้และให้เขาเอาไปส่งไว้ที่โรงเรียนแล้วเลยไม่จำเป็นตัองขนอะไรมาก นอกจากของใช้ส่วนตัวและของที่รับบริจาคเพิ่มเช่น เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม หนังสือเมื่อทำการเช็คชื่อกับรุ่นพี่แล้วกิต
หลังวันประกวดผ่านพ้นไป ทั้งดาวเดือนของทุกคณะที่ขึ้นประกวดก็เป็นที่รู้จักและจับตามองมากขึ้นไม่ว่าจะขยับไปทำกิจกรรมไหนๆ อย่างของวรงกรณ์ก็มีแต่สาวๆ และหนุ่มร่างบางสายรับทั้งหลายเข้าหาเข้ามาอยากสานสัมพันธ์มากมาย แต่คนที่เป็นข่าวด้วยบ่อยสุดคงหนีไม่พ้นดาวคณะคู่กันอย่างเชอร์รี่เพราะถือว่าเรียนด้วยกันและได้ใกล้ชิดหนุ่มหล่อมากกว่าใครๆ รวมถึงข่าวที่เกิดขึ้นส่วนมากเชอร์รี่เป็นคนส่งข่าวเองทั้งนั้นเพื่อที่จะสกัดดาวรุ่งคู่แข่งทั้งหลาย ซึ่งวรงกรณ์ก็รู้ดีแต่ไม่ได้ว่าอะไรเพื่อนถือว่าเอาไว้เป็นไม้กันหมาก็ยังดี เพราะเค้าก็ยังไม่ได้คิดจะรักใครคบใครสักคนทางด้านกิตติภพก็มีข่าวทั้งกับสาวๆโดยเฉพาะกิ่งก้อยดาวคณะคู่กัน แต่ทุกคนหารู้ไม่ก่ิงก้อยนั่นไม่ได้ชอบผู้หญิงถึงแม้เธอจะหน้าหวานเหมือนนางในวรรณคดี แต่ใจจริงเธอกลับชอบผู้หญิงด้วยกันและตอนนี้กำลังตามจีบดาวมหาลัยอยู่ และคนที่กิตติภพเป็นข่าวด้วยบ่อยที่สุดคือเพื่อนสนิทของเขาอย่างพนัชกรทำเอาแม่ยกสายวายลงเรือลำนี้กันค่อนข้างมากกว่าเป็นข่าวกับกิ่งก้อยทั้งได้แรงเชียร์จากเพจคิ้วท์บอยลงข่าวเกือบทุกวัน คนที่ตามข่าวบ่อยๆก็เป็นใครไม่ได้นอกจากเนย วราภรณ์ เจ้าแม่สายวาย แต่ค