หนึ่งคนเฝ้ารอและรักษาคำมั่นสัญญา หนึ่งคนละเลยจนหลงลืม เพราะถูกบังคับให้แต่งงานแค่ผูกพันธะ และมีลูกด้วยกันให้มันจบ ๆ ไป 'เหมือนมือที่สาม แต่จะเรียกอย่างนั้นได้ไงในเมื่อมือที่สามอย่างเขาต้องมานั่งสมเพชตัวเองอยู่แบบนี้' 'แต่งกันรอวันหย่าสิเป็นภาพที่ชัดเจนมากกว่า' 'แค่ให้มันจบ ๆ ไปตามที่พวกผู้ใหญ่ต้องการ' 'ทั้ง ๆ ที่เขามาก่อน แต่ทำไมถึงต้องมาอยู่ในสภาพนี้' นิยายเรื่องนี้เป็นแนวคลุมถุงชน ดรามา รักสามเส้า พระเอกมีคนรักอยู่แล้วแต่ต้องถูกบังคับให้แต่งงาน เพราะฉะนั้นบางฉากบางตอนจะมีการบรรยายถึงการนอกกายและนอกใจ ในส่วนของการนอกกายนั้นจะไม่เขียนบรรยายชัดเจน เพียงแต่ให้เป็นไปตามบริบท ฉากการมีเพศสัมพันธ์ (NC) จะมีระหว่างพระเอกกับนายเอกเท่านั้น
View Moreปฐมบท 1
“อึก...พี่วิน” เด็กน้อยโอเมก้าจ้ำม่ำสภาพนอนคลุกฝุ่นอยู่บนพื้น กำลังเบะปากเตรียมจะปล่อยโฮออกมาเมื่อเห็นพี่ชายวิ่งเข้ามาหาตัวเองหน้าตาตื่น
“ติ!”
“ติเจ็บ...ฮือ ๆ ๆ” พอพี่ชายอัลฟ่าวิ่งมาถึงตัวเท่านั้นแหละ เด็กน้อยโอเมก้าก็ปล่อยโฮร้องไห้ออกมาเสียงดัง
“ติเจ็บตรงไหน...ตรงนี้ใช่มั้ย” ใบหน้าคมโน้มลงจนริมฝีปากใกล้หัวเข่าก่อนจะเป่าลมอุ่นลงบนแผลถลอกเพื่อปลอบโยนน้อง
“พ่วง~ พี่เป่าให้แล้วเดี๋ยวก็หายนะ” น้ำเสียงละมุนของพี่ช่วยปลอบโยนให้น้องพอได้หยุดร้องไห้ มือป้อมพยายามเช็ดน้ำตาให้ตัวเองป้อย ๆ
“พี่พากลับบ้านไปทำแผล” คนพี่คุกเข่าลงหันหลังให้น้องปีนขึ้นมาอยู่ข้างบน สองแขนป้อมโอบรัดคอพี่โดยที่ขาป้อมมีแขนของพี่ล็อกพยุงไว้
จากสวนสาธารณะในหมู่บ้านกว่าจะถึงบ้านหลังใหญ่ท้ายซอยเด็กน้อยโอเมก้าเอาแต่สะอื้นมาตลอดทาง แผ่นหลังของพี่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาน้องแต่นั่นไม่ได้ทำให้ชวินรู้สึกว่าเป็นปัญหาเลยแม้แต่น้อย
“ตาวิน! ตาติ! น้องเป็นอะไรลูก” ธาริณีเห็นสภาพเด็ก ๆ แล้วตกใจรีบเข้าไปคว้าโอเมก้าน้อยออกจากหลังพี่มานั่งบนตักทันที
“น้องหกล้มครับ”
💍❤️💍❤️
เพราะพ่อกับแม่เป็นเพื่อนสนิทกัน สนิทขนาดที่ว่าฝากลูกให้เลี้ยงแทนกันได้ในวันที่ติดงานหรือมีธุระ ชวินกับรติจึงไม่ต่างกับพี่น้องสายเลือดเดียวกันที่ต่างกันคงมีเพียงแค่ความเป็นอัลฟ่าและโอเมก้าเท่านั้น
ชวินทำหน้าที่พี่ชายที่แสนดีใครจะมาแกล้งน้องของเขาไม่ได้ ด้วยความที่รติเป็นโอเมก้าจึงเป็นธรรมดาที่ทั้งเบต้าและอัลฟ่าจะพากันมาแกล้งให้ร้องไห้กลับไปฟ้องคนพี่อยู่เป็นประจำ
แม้ว่าจะโตจนเข้ามหาวิทยาลัยแล้วทั้งสองก็ยังเป็นพี่น้องที่ตัวติดกันแทบจะตลอดเวลาจนใครต่อใครคิดว่าทั้งสองเป็นแฟนกัน เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่อัลฟ่ากับโอเมก้าจะเป็นพี่น้องกัน
“พี่วินจะอยู่ดูแลติแบบนี้ตลอดไปมั้ย”
“ก็ต้องตลอดไปสิ”
“แต่ถ้าพี่วินมีแฟนพี่วินก็จะทิ้งติ”
“พี่จะมีได้ไงพี่ก็อยู่กับติตลอด”
“พี่วินสัญญานะว่าจะไม่ทิ้งติ”
“อื้ม...สัญญา”
“พอเราเรียนจบแล้วเราแต่งงานกันนะ” อยู่ ๆ ชวินก็พูดขึ้นมาพร้อมกับสบตาน้องเพื่อรอคำตอบ
“มาขอกันดื้อ ๆ แบบนี้ได้ไง มีอะไรมาจองติไว้ก่อนมั้ยล่ะ” โอเมก้าตัวแสบยื่นหน้าทะเล้นใส่พี่ชาย
“...” พี่ชายอัลฟ่ายืนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะมองไปรอบ ๆ ตัวแล้วเดินตรงไปยังกอหญ้าริมทางก้มลงดึงต้นหญ้าที่มีดอกสีขาวเล็ก ๆ ขึ้นมาต้นหนึ่ง จับม้วน ๆ พัน ๆ กันจนเป็นวงกลมเล็ก ๆ น่ารักเหมือนแหวนดอกหญ้าที่เขาชอบเก็บจากสวนหย่อมมาถักเล่นกันเป็นประจำ
“เอามือมา” ไม่พูดเปล่าแต่คว้ามือเรียวของน้องมาไว้ตรงหน้าก่อนจะค่อย ๆ สวมแหวนดอกหญ้าใส่นิ้วนางข้างซ้ายของน้อง
“พี่จองแล้วนะ”
“พี่วิน” ใบหน้าของรติจากขาวเนียนตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อร้อนผ่าวพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงจนแทบไม่เป็นจังหวะ
💍❤️💍❤️
“ติไปกับพี่นะ”
“ติเหลืออีกตั้งสองปีกว่าจะจบ”
“ก็โอนหน่วยกิต หรือไปลงเรียนใหม่เลยก็ได้”
“พี่วินเอาแต่ใจ”
“ก็พี่เป็นห่วง”
“ติโตแล้วนะ”
“นั่นแหละ อยากให้ไปด้วย”
“พี่วินแค่สองปีเองนะ พี่วินจบโทที่โน่นก็พอดีกับติจบตรีที่นี่ไง”
“ติจะรอพี่วินอยู่ที่นี่ สัญญาว่าจะรอพี่วินคนเดียว”
“หรือติมีคนอื่น”
“พี่วิน! ติก็อยู่กับพี่วินตลอดนะ”
แล้วก็ต้องมาจบตรงที่ทะเลาะกันใหญ่โต รติคิดว่าเรื่องไม่เป็นเรื่องตัวเขาเองทุกวันนี้แทบจะไม่มีเพื่อนอยู่แต่กับพี่ชายอัลฟ่า แล้วจะมาหาว่าเขามีคนอื่นได้ไง
ชวินเองพอเห็นน้องโกรธแทนที่จะรู้สึกผิดที่ตัวเองเป็นคนหาเรื่องแต่กลับยิ่งคิดว่าสิ่งที่เขาคิดเป็นเรื่องจริง น้องไม่เคยเป็นแบบนี้กับเขามาก่อนอยู่ ๆ มาเป็นแบบนี้ใครกันจะไว้ใจ
ทะเลาะกันจากเรื่องไม่เป็นเรื่องจนกลายเป็นความห่างเหินเฉยชาต่อกันจนพวกผู้ใหญ่อดเป็นห่วงไม่ได้
“ติไม่ไปส่งพี่วินเหรอลูก” รมย์ฤดีนั่งลงข้าง ๆ ลูกชายที่ยังอยู่ในชุดนอนทั้งที่เกือบได้เวลาที่พี่ชายต้องเดินทาง
“ไปทำไม พี่วินไม่ได้อยากให้ติไปซักหน่อย”
“เป็นเดือนแล้วนะยังไม่หายงอนกันอีกเหรอ” คนเป็นแม่อดเป็นห่วงไม่ได้สองคนพี่น้องปกติงอนกันแป๊บ ๆ ห่างกันไม่ทันพ้นคืนก็ต้องกลับมาคืนดีกัน
“ก็พี่วินเค้าไม่ยอมคุยกับติ”
“เฮ้อ...งั้นแม่กับพ่อไปก่อนนะ” แม่ได้แต่ถอนหายใจส่ายหน้า
“งอนน้องนานไปมั้ยลูก” ธาริณีก็อดเป็นห่วงลูกชายไม่ได้
ใครจะไปคิดว่าการจากกันครั้งนี้ได้แปรเปลี่ยนให้ทั้งสองกลายเป็นคนแปลกหน้าของกันและกัน
💍❤️💍❤️
“ผมไม่แต่งนะแม่”
“วินต้องช่วยน้อง”
“เราก็ควบรวมโรงแรมโดยที่ไม่ต้องแต่งสิครับ”
“ถ้าทำอย่างนั้นมันเป็นเหตุผลส่วนตัวเกินไป บอร์ดบริหารเค้าไม่โอเค วินเองก็รู้นี่ลูก”
“แต่ผมมีปรานต์อยู่แล้ว”
“ตั้งแต่กลับมาเป็นปีแล้วเค้าช่วยอะไรเราบ้าง จะมาเป็นสะใภ้แต่ไม่เคยมาไหว้พ่อแม่สักครั้ง งานก็ไม่ช่วยแถมทำตัววีไอพี” นึกถึงโอเมก้าหน้าเฉี่ยวคนรักของลูกแล้วธาริณีอดที่จะแดกดันไม่ได้
“...” พอเจอแม่ร่ายมายืดยาวถึงคนรักเขาเองได้กลืนน้ำลายไม่รู้ว่าจะหาเหตุผลอะไรมาแก้ตัวแทน
“ตัววินเองก็เหมือนกันถ้ามั่นใจในความรักของตัวเองทำไมไม่พาเข้าบ้านมาสักทีล่ะ”
“ก็วินยังไม่พร้อม” ลูกชายอัลฟ่าตอบเสียงอ่อย
“ยังไม่พร้อมหรือไม่มั่นใจ เอาง่าย ๆ เลยนะวิน วินลองเสนอให้เค้ามาช่วยงานวินดูสิ”
“...” เหมือนโดนแม่จี้ใจดำไม่ใช่ว่าเขาไม่ชวนแต่ชวนแล้ว ปรานต์ไม่ยอมทำพอคุยกันเรื่องนี้ก็รังแต่จะทะเลาะกันสุดท้ายเจอลูกอ้อนเอาใจของคนรักเขาก็ต้องเป็นคนแพ้ทุกที
“ไม่รู้ล่ะ ยังไงวินก็ต้องแต่งกับน้อง” ธาริณียื่นคำขาดให้เจ้าลูกชายตัวดี
“ถ้าแกไม่แต่งก็อย่าหวังว่ามรดกและหุ้นทั้งหมดของโรงแรมจะเป็นของแก” หลังจากที่ทนฟังแม่ลูกเถียงกันอยู่นานวริศตัดบทขึ้นด้วยเสียงแข็งกร้าว
💍❤️💍❤️
“พี่วิน” รติกำลังง่วนอยู่กับงานเอกสารตรงหน้าต้องแปลกใจเมื่อพี่ชายอัลฟ่าที่ไม่ได้เจอกันนานมายืนอยู่ตรงหน้า ก่อนจะนั่งลงอย่างถือวิสาสะ
“เอาเรื่องงานมาอ้างหรือแค่อยากได้ชั้นเป็นสามีกันแน่” น้ำเสียงและสายตาเหยียดหยามไม่หลงเหลือความเป็นพี่ชายที่แสนดีแม้แต่นิดเดียว ไหนจะกลิ่นฟีโรโมนที่ตั้งใจปล่อยออกมากดข่มกันอีก
“แล้วแต่คุณวินจะคิดก็แล้วกัน” ในเมื่อมาแบบนี้แล้วคงไม่จำเป็นต้องรักษาสัมพันธ์ที่ดีที่เคยมีมา
“เธอคิดว่าเธอเป็นใครมีสิทธิ์อะไรมาบังคับชั้น ไม่มีปัญญาหาใครมาแต่งงานด้วยแล้วหรือไง”
“ดูจากอาการคุณแล้วติคิดว่าติมีสิทธิ์เยอะอยู่นะครับ ไม่อย่างนั้นคุณคงไม่มาดิ้นอยู่ตรงนี้” แม้จะโดนกดข่มจนแทบหายใจไม่ออกแต่รติพยายามควบคุมตัวเองเก็บอาการพร้อมกับคำพูดตอบกลับไปอย่างเย้ยหยัน ยิ่งทำให้คนพี่โกรธจนปล่อยฟีโรโมนออกมารุนแรงกว่าเดิม
“ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้ว...” รติใช้หางตามองไปยังประตู
“เชิญครับ”
“...” ตั้งใจจะมาเจรจาเรื่องงานแต่ง แต่พอเจอรติที่เฉยชากลับทำให้ชวินหงุดหงิดเสียจนคุมตัวเองไม่ได้ แล้วก็ต้องยอมเดินออกจากห้องไปด้วยความเกรี้ยวกราด
คนพี่เดินออกจากห้องไปแล้ว เหลือเพียงโอเมก้าที่มองตามแผ่นหลังกว้างด้วยแววตาที่หม่นหมองไม่มีความแข็งกร้าวเหลือแม้แต่น้อย
💍❤️💍❤️
ตอนที่ 3 ผูกพันธะ=เริ่มผูกพันภายในห้องนอนที่มืดสนิทร่างบางยังคงนอนขดตัวคุดคู้ด้วยสภาพร่างกายที่อิดโรย หลังจากที่โดนสามีอัลฟ่ากัดคอผูกพันธะแล้ว รติก็โดนทิ้งให้นอนซมอยู่คนเดียวโดยที่สามีอัลฟ่าออกจากห้องไปทันทีอย่างไม่มีเยื่อใยหลังจากนอนหลับไปหนึ่งวันเต็ม ๆ รติจึงพอมีแรงที่จะลุกขึ้นมาดูแลตัวเอง สิ่งแรกที่ต้องทำคงไม่พ้นอาบน้ำชำระล้างคราบกามที่ติดอยู่ทั่วตัว รติสำรวจร่างกายตัวเองหน้ากระจกบานใหญ่มองดูร่องรอยที่ถูกสามีอัลฟ่ากระทำไว้ รวมถึงรอยพันธะที่ยังคงเป็นรอยแผลสดให้ได้เจ็บแปลบ แม้ร่างกายจะเจ็บปวดระบมแต่สายตาของรติไม่มีความรู้สึกเช่นเดียวกับร่างกาย เขาได้แต่พยายามกลืนก้อนความเจ็บปวดนั้นให้ย้อนกลับเข้าไปข้างในด้วยสายตาที่เด็ดเดี่ยวแทน‘แค่ให้มันจบ ๆ ไปตามที่พวกผู้ใหญ่ต้องการ’//////////“นอนกับเมียมาแล้วมานอนหมดแรงกับปรานต์เนี่ยนะ” โอเมก้านัยน์ตาเฉี่ยวอดที่จะประชดคนรักไม่ได้“อย่าพูดมากน่า” อัลฟ่าหนุ่มนอนหลับตาเหยียดตัวพูดออกมาด้วยความรำคาญ“ผมก็แค่ทำให้มันจบ ๆ ไปตามที่พ่อกับแม่ต้องการ”“แน่ใจ? ว่าจะจบ” น้ำเสียงเย้ยหยันพร้อมกับเสียงหัวเราะในลำคอ“ตอนนี้บอกให้จบ ไม่ใช่ว่าสุดท้ายปรานต์กลาย
ตอนที่ 2 ให้มันจบ ๆ ไป 🔥คืนที่สองของการแต่งงานของสามีภรรยาป้ายแดงต่างมีความกระอักกระอ่วนไม่แพ้กัน ต่างฝ่ายต่างนอนหันหลังให้กัน แต่ดูเหมือนว่าชวินจะออกอาการมากกว่าเอาแต่นอนกระสับกระส่ายดิ้นไปดิ้นมา กลิ่นฟีโรโมนแปรปรวนเดี๋ยวเข้มเดี๋ยวจางจนโอเมก้าอย่างรติเริ่มอึดอัดหายใจไม่ออก“เธอจะไปไหน” ชวินถามขึ้นเมื่ออยู่ ๆ รติก็ลุกขึ้น“ไปนอนอีกห้องนึงครับ คุณจะได้นอนสบาย”พูดจบโอเมก้าร่างบางก็ออกจากห้องไปทันที โดยมีสายตาของสามีอัลฟ่ามองตามอย่างเอาเรื่อง แต่ชวินก็ทำได้เพียงแค่มองตาม ทว่าเขาเองก็เพิ่งรู้สึกตัวว่าตัวเองปล่อยฟีโรโมนในระดับที่ทำให้ภรรยาโอเมก้ารู้สึกไม่สบายได้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกผิดขนาดต้องตามโอเมก้าออกไปเพื่อดูอาการรติสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะพ่นออกมาแล้วก็ทำซ้ำแบบเดิมอีกสองสามครั้งจนรู้สึกว่าออกซิเจนกลับมาเต็มปอดอีกครั้ง เขาจึงล้มตัวลงนอนแผ่กลางที่นอนนุ่ม นอนคิดถึงสิ่งที่คุยกันในวันนี้ที่พ่อกับแม่อยากให้พวกเขามีหลานให้และผูกพันธะกันเสียให้เรียบร้อย รติได้แต่นอนคิดวนไปวนมา การผูกพันธะไม่ต่างกับการผูกมัดตัวเอง สำหรับโอเมก้าอย่างเขาแล้วย่อมมีปัญหาในการใช้ชีวิตในอนาคตแน่นอน เพราะม
ตอนที่ 1 แต่งงานธุรกิจรติในชุดสูทสีขาวนั่งทิ้งตัวลงบนเตียงที่เต็มไปด้วยกลีบกุหลาบอย่างเงียบงัน สายตาทอดมองไปยังร่างสูงใหญ่ของอัลฟ่าหนุ่มในชุดสูทแบบเดียวกันกำลังยืนส่งสายตากดต่ำเหยียดหยามมองมาที่เขา กลิ่นฟีโรโมนไวน์ขาวคละคลุ้งรอบห้องเพื่อกดข่มโอเมก้าร่างบางที่พยายามเก็บอาการและความรู้สึกบนใบหน้าหวานแต่ไร้ซึ่งอารมณ์“คงไม่ร้องไห้ไปฟ้องพ่อกับแม่หรอกนะ” คำพูดทิ้งท้ายของอัลฟ่าหนุ่มก่อนจะหุนหันออกจากห้องหอไปอย่างไม่ไยดี“...” รติได้แต่นั่งเม้มริมฝีปากบางข่มอารมณ์มองตามแผ่นหลังกว้าง มือจิกกำผ้าปูที่นอนแน่นอย่างกับว่าจะให้มันขาดคามือรติพยายามสะกดอารมณ์ตัวเองไม่ให้มีน้ำตาไหลออกมาแม้เพียงหยดเดียว ทั้งที่นัยน์ตาแดงก่ำอยากจะระบายออกมาเต็มที โอเมก้าร่างบางพยายามสลัดความคิดฟุ้งซ่านในหัวออกด้วยการปล่อยร่างกายเปลือยเปล่าไปกับการนวดคลึงของมวลน้ำวนในอ่างจากุซซี ปล่อยตัวปล่อยใจให้ล่องลอยไปอย่างไร้จุดหมายเขากับชวินถูกจับหมั้นหมายกันไว้ตั้งแต่เด็ก ๆ แต่เหมือนเป็นเพียงคำพูดไม่จริงจังนักจากผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย จนกระทั่งธุรกิจโรงแรมของทางบ้านรติเริ่มมีปัญหาขาดทุน จึงทำให้งานแต่งงานของทั้งสองถูกเนรมิตขึ้นในเ
ปฐมบท 2ใบหน้าคมเข้มของชวินตอนนี้มีแต่ความเคร่งเครียดคิ้วขมวดแทบจะผูกกันเป็นปม ทั้งที่ร่างกายกำลังแช่อยู่ในน้ำอุ่นอีกทั้งมีมือเรียวที่คอยนวดคลึงลูบไล้ให้ผ่อนคลายทั่วทั้งร่างกาย“แล้วปรานต์ก็กลายเป็นเมียน้อยของคุณ” ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าของโอเมก้าตอนนี้เศร้าไม่ต่างกัน“อย่าพูดอย่างนั้นสิปรานต์”“หรือไม่จริง”“แล้วคุณจะให้ผมทำยังไง”“...” พอเจอคำถามที่จนมุมแบบนี้ปรานต์เองก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน“หรือผมไม่ต้องแคร์มรดก หุ้นของผมในโรงแรมก็มีไม่น้อยแล้วปรานต์ก็มาช่วยผมทำงานแบบนี้ดีมั้ย” แววตาคมเข้มเป็นประกายขึ้นเพราะจริง ๆ แล้วชวินเองก็มีหุ้นอยู่ในโรงแรมไม่น้อย ส่วนเรื่องของมรดกมันเป็นเรื่องของอนาคตอยู่แล้ว“ไม่เอาหรอก ปรานต์ไม่มีประสบการณ์” โอเมก้ารีบปฏิเสธอย่างไม่ลังเล“ของแบบนี้มันฝึกกันได้ พอปรานต์เก่งแล้วเราจะได้สร้างโรงแรมเล็ก ๆ ของตัวเอง ปรานต์จะได้ดูแลแทนผมเต็มที่”“ไม่ไหวหรอก” โอเมก้าหน้างอฮึดฮัดเอาแต่ใจ“แล้วคุณจะให้ผมทำยังไง”“งั้นคุณก็แต่งงานไปก่อน ใครมันจะทนอยู่ได้ถ้าแต่งโดยไม่มีความรักเดี๋ยวทางฝั่งนั้นก็คงขอหย่าเองถ้าคุณไม่สนใจไม่ใส่ใจ” ปรานต์ตอบกลับมาง่าย ๆ เสียอย่างนั้น ทำให้ชวิ
ปฐมบท 1“อึก...พี่วิน” เด็กน้อยโอเมก้าจ้ำม่ำสภาพนอนคลุกฝุ่นอยู่บนพื้น กำลังเบะปากเตรียมจะปล่อยโฮออกมาเมื่อเห็นพี่ชายวิ่งเข้ามาหาตัวเองหน้าตาตื่น“ติ!”“ติเจ็บ...ฮือ ๆ ๆ” พอพี่ชายอัลฟ่าวิ่งมาถึงตัวเท่านั้นแหละ เด็กน้อยโอเมก้าก็ปล่อยโฮร้องไห้ออกมาเสียงดัง“ติเจ็บตรงไหน...ตรงนี้ใช่มั้ย” ใบหน้าคมโน้มลงจนริมฝีปากใกล้หัวเข่าก่อนจะเป่าลมอุ่นลงบนแผลถลอกเพื่อปลอบโยนน้อง“พ่วง~ พี่เป่าให้แล้วเดี๋ยวก็หายนะ” น้ำเสียงละมุนของพี่ช่วยปลอบโยนให้น้องพอได้หยุดร้องไห้ มือป้อมพยายามเช็ดน้ำตาให้ตัวเองป้อย ๆ“พี่พากลับบ้านไปทำแผล” คนพี่คุกเข่าลงหันหลังให้น้องปีนขึ้นมาอยู่ข้างบน สองแขนป้อมโอบรัดคอพี่โดยที่ขาป้อมมีแขนของพี่ล็อกพยุงไว้จากสวนสาธารณะในหมู่บ้านกว่าจะถึงบ้านหลังใหญ่ท้ายซอยเด็กน้อยโอเมก้าเอาแต่สะอื้นมาตลอดทาง แผ่นหลังของพี่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาน้องแต่นั่นไม่ได้ทำให้ชวินรู้สึกว่าเป็นปัญหาเลยแม้แต่น้อย“ตาวิน! ตาติ! น้องเป็นอะไรลูก” ธาริณีเห็นสภาพเด็ก ๆ แล้วตกใจรีบเข้าไปคว้าโอเมก้าน้อยออกจากหลังพี่มานั่งบนตักทันที“น้องหกล้มครับ”💍❤️💍❤️เพราะพ่อกับแม่เป็นเพื่อนสนิทกัน สนิทขนาดที่ว่าฝากลูกให้เลี้ยง
Comments