LOGIN“ทำไมออกมาแบบนี้ล่ะคะ” นับดาวรีบหันหน้าหนี ใบหน้าเริ่มร้อนผ่าว ไม่รู้จะชอบโชว์อะไรกันนักหนา
“ก็ใครใช้ให้เธอมากดกริ่งเสียงดังรบกวนกันล่ะยัยโง่”
“พี่จะเลิกด่าว่าฉันโง่สักทีจะได้ไหม” นับดาวหันมาจ้องใบหน้าหล่อแล้วเถียงกลับ จากนั้นก็รีบเบี่ยงสายตาหนีคนที่โป๊อยู่
“แล้วมาทำไมแต่เช้า” ไต้ฝุ่นเอ่ยพลางเดินเข้าไปในห้อง นับดาวรีบเดินตามเข้ามาก็ปิดประตู
“ฉันมีธุระเลยมาเช้าหน่อย จะได้รีบทำแล้วรีบออกไป”
“คนอย่างเธอมีธุระกับเขาด้วยเหรอ”
“ธุระส่วนตัวขอไม่บอกนะคะ” เอ่ยจบเธอก็รีบไปหยิบอุปกรณ์ทำความสะอาด เพราะขี้เกียจจะต่อความยาวสาวความยืดกับคนที่ชอบหาเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน
“ก่อนออกไปกรุณาทำงานให้เสร็จด้วยนะ เพราะวันนี้ฉันต้องการให้เธอทำความสะอาดทั้งหมด ทั้งห้องครัว ห้องน้ำ และห้องนอน”
“อะไรนะ” นับดาวหันมาถามเสียงสูง นี่กะจะหาเรื่องเธอใช่ไหมถึงได้ใช้ให้เธอทำมากขนาดนี้
“จะแหกปากทำไม รีบไปทำงานของเธอซะ ถ้าไม่เสร็จห้ามออกจากห้องไปเด็ดขาด”
นับดาวขมวดคิ้วยืนนิ่งจ้องหน้าอีกฝ่าย เห็นว่าเธอรีบเพราะมีธุระ เขาก็เลยจงใจจะแกล้งแน่ๆ คนอะไรไม่รู้จักโต
“จะจ้องอีกนานไหม นี่ถ้าเป็นปลากัดฉันท้องไปแล้วนะ” ไต้ฝุ่นกระตุกยิ้มโต้กลับ คนอย่างนับดาวก็ทำได้แค่จ้องเท่านั่นแหละ
นับดาวที่ขี้เกียจเถียงก็หันหลังให้แล้วเริ่มทำหน้าที่แม่บ้าน แต่เวลาผ่านไปแล้วครึ่งวัน งานของเธอก็เพิ่งจะเสร็จแค่เช็ดทำความสะอาดห้องครัว ปัดฝุ่นทั่วชั้นล่าง และล้างห้องน้ำ
เสียงเตือนที่ประตูดังขึ้น ไต้ฝุ่นที่ขึ้นไปนั่งเล่นบนห้องตั้งแต่ที่เธอเริ่มปัดกวาดเช็ดถูก็ลงมาเปิดประตู สักพักเขาก็ถือถุงอาหารมาวางไว้บนโต๊ะ
“เอาไปใส่จานให้ด้วย”
นับดาวขมวดคิ้วจ้อง เธอมาเป็นแม่บ้านไม่ได้มาเป็นคนใช้ แล้วเธอก็ทำงานมาตั้งครึ่งค่อนวันข้าวเที่ยงก็ยังไม่ได้กินเหมือนกัน
“มองอะไร ฉันสั่งก็ไปทำสิ”
“ค่ะ” นับดาวถอนหายใจทำตามที่เขาบอก เห็นว่าเธอติดหนี้อยู่ก็ใช้เอาๆ
เธอนำอาหารที่ไต้ฝุ่นสั่งมาแกะใส่จาน พลางคิดในใจว่าคนอะไรกินคนเดียวสั่งมาตั้งเยอะตั้งแยะ จากนั้นหยิบจานอาหารมาวางไว้บนโต๊ะ
“ต้องเอาน้ำมาเสิร์ฟด้วยไหมคะ”
“ถ้าได้ก็ดี” เธอกะจะพูดประชดไม่คิดว่าหนุ่มรุ่นพี่ก็ต้องการแบบนั้นจริงๆ
นับดาวเอาน้ำขวดและแก้วเปล่ามาวางไว้ตรงหน้าของคนที่นั่งรออยู่ด้วยใบหน้าง้ำงอ
“ไปเอาจานมาอีกใบ แล้วเอาช้อนส้อมมาด้วย”
แม้จะไม่อยากทำตามคำสั่ง แต่เธอก็ต้องหันหลังเดินไปหยิบตามที่เขาบอก เพราะถ้ายิ่งต่อปากต่อคำเธอคงจะไม่ได้กลับออกไปง่ายๆ
“นั่งสิ” ไต้ฝุ่นส่งสายตามองเก้าอี้ว่างที่อยู่ตรงข้ามกับที่เขานั่ง
“จะให้ฉันมานั่งเฝ้าพี่กินข้าวเนี่ยนะ ไม่เอาหรอก งานฉันยังไม่เสร็จ และฉันก็มีธุระที่ต้องไปทำ” นับดาวเอ่ยจบก็หันหลังให้เพื่อจะได้เร่งมือกับงานที่เหลือต่อ
“นั่งลง” ไต้ฝุ่นรีบลุกขึ้นยื่นแล้วควาข้อมือของเธอเอาไว้ คนที่ถูกเหนี่ยวรั้งก็หันมาขมวดคิ้วใส่ เขาจึงพูดต่อ “กินข้าว”
นับดาวยืนนิ่งราวกับไม่เชื่อหู กระตุกยิ้มที่ริมฝีปากเล็กน้อย
“นึกว่าจะปล่อยให้หิว”
“เห็นฉันเป็นคนไร้น้ำใจขนาดนั้นเลยรึไง ค่าข้าวแค่ไม่กี่บาทฉันมีปัญญาจ่าย”
“รู้ค่ะว่ารวยมาก”
ไต้ฝุ่นจัดการแบ่งข้าวในจานของตัวเองออกครึ่งหนึ่งใส่จานที่นับดาวเอามา เพราะเธอเทข้าวที่สั่งมาไว้ในจานของเขาทั้งหมด แล้วยื่นให้กับเธอ
ข้าวมื้อแรกที่ทั้งสองคนกินด้วยกันก็ทำให้บรรยากาศเริ่มกระอักกระอ่วนเล็กน้อยเพราะทั้งคู่ไม่มีใครปริปากพูดคุยกันเลย
สำหรับนับดาวถือเป็นเรื่องแปลกใหม่ที่ต้องมานั่งกินข้าวกันด้ายกันสองต่อสอง แถมยังอยู่ในห้องของผู้ชายอีกต่างหาก และไต้ฝุ่นเองก็ไม่ต่างกัน ปกติเวลาจะควงสาวก็มักจะพาไปร้านเหล้าไม่ก็คอนโด ไม่เคยมานั่งกินข้าวกับใครเป็นจริงเป็นจังแบบนี้แม้แต่ครั้งเดียว
“กินแบบนี้ถึงว่าไม่เห็นจะโต” เสียงบ่นพึมพำดังขึ้นจากปากของคนที่นั่งตรงข้าม พร้อมกับสายตาที่จ้องมองที่จานอาหารสลับกับใบหน้าของเธอ
“กินแบบนี้แล้วมันทำไมคะ” เธอก็แค่รู้สึกอึดอัดขึ้นมานิดๆ จึงทำให้กินข้าวไม่ค่อยลง
“อาหารที่ฉันสั่งมามาแต่ของดีๆ ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นกินมันให้หมด” ทุกอย่างที่สั่งมาล้วนมาจากเจ้าดังและราคาก็ค่อนข้างแพง
“คนเผด็จการ”
“ฉันได้ยิน”
“อ่อ นึกว่าหูหนวก” นับดาวทำปากมุบมิบเสียงเบา จากนั้นก็ก้มหน้ากินข้าวต่อ
แต่จะว่าไปอาหารทุกอย่างก็อร่อยมาก พอได้รับคำสั่งว่าต้องกินให้หมด บวกกับความหิวที่สูญเสียพลังงานไปเยอะก็ทำให้เธอลืมอายแล้วตั้งหน้าตั้งตากินข้าว จะได้มีแรงทำงานต่อ
“ธุระสำคัญของเธอคืออะไร”
“จำเป็นต้องบอกด้วยเหรอคะ”
“งั้นหนี้ของเธอคงต้องยืดระยะเวลาออกไป”
“ทำไมเป็นคนแบบนี้ล่ะ ก็ไหนเราตกลงกันแล้วไงคะว่าถ้าฉันมาทำงานให้พี่ห้าปี หนี้ของเราก็จบลง” นับดาวเริ่มมีสีหน้าง้ำงอส่งเสียงประท้วง ในเมื่อคุยกันเรื่องระยะเวลาแล้ว แต่ทำไมเขาถึงชอบเอาเรื่องหนี้สินมาขู่เธออยู่เรื่อย
“จะบอกดีๆ หรือว่า…”
“บอกก็ได้ค่ะ ฉันจะไปหาหอพัก” นับดาวจำใจต้องบอกออกไป และที่จริงมันก็ไม่ใช่ความลับอะไร เธอแค่คิดว่าไม่จำเป็นต้องบอกเรื่องส่วนตัวกับคนที่ไม่ได้สนิทกัน
“ทำไมต้องหาหอพัก พ่อแม่เธออยู่ที่นี่ไม่ใช่เหรอ”
“พวกเรากำลังจะขายบ้าน พ่อกับแม่จะย้ายไปอยู่เชียงใหม่ ฉันเลยต้องหาหอพักอยู่แทน” เธอเล่าออกไปก็รู้สึกเศร้าใจขึ้นมาจนเผลอแสดงออกทางสีหน้าให้อีกฝ่ายได้เห็น
“หรือว่าเป็นเพราะพ่อของเธอ” เขาคาดเดาว่าคงเป็นเพราะเรื่องหนี้พนันอย่างแน่นอน
“หึ พี่นี่เดาเก่งนะคะ น่าจะไปเป็นหมอดู” นับดาวแค่นหัวเราะกลบเกลื่อนความเศร้าที่กำลังก่อตัวขึ้น
เธอจะมาแสดงอาการน้อยใจในโชคชะตาต่อหน้าคนอื่นแบบนี้ไม่ได้ ต่อไปเธอต้องพึ่งพาตัวเอง เธอจะต้องเข้มแข็งแล้วผ่านมันไปให้ได้
“เรื่องหอฉันจะจัดการให้เอง ถือซะว่าเป็นสวัสดิการให้ลูกหนี้ก็แล้วกัน อย่างน้อยที่เธอต้องมาทำงานก็เพราะพ่อของเธอ ไม่ใช่เพราะตัวเธอเป็นคนสร้าง” ไต้ฝุ่นรู้สึกเห็นใจ ไหน ๆ ก็ช่วยแล้ว ก็ช่วยเธออีกสักเรื่องก็แล้วกัน
“ไม่เอาดีกว่าค่ะ ฉันหาเองได้ ฉันไม่อยากติดหนี้บุญคุณใคร” เธอรีบปฏิเสธทันที แค่หนี้ห้าล้านก็ยังทำงานชดใช้ให้ไม่หมด นี่ยังจะมาหาหอพักให้ เดี๋ยวก็จะมาทวงบุญคุณกันทีหลังอีก
“ฉันไม่ได้ขอความเห็น ล้างจานเสร็จแล้วก็เตรียมตัวไปได้ละ ฉันจะเป็นคนไปส่ง” ไต้ฝุ่นยืนยันเสียงแข็ง
นับดาวขมวดคิ้วให้กับคนเอาแต่ใจและชอบออกคำสั่ง เธอแอบบ่นในใจว่าไม่ได้ร้องขอความเห็นใจหรือขอให้เขาช่วยเสียหน่อย ทำมาเป็นเสียงแข็งและบังคับให้ทำตามใจอยู่ได้ สงสัยคงจะโดนตามใจมาตั้งแต่เด็กเลยถูกขัดใจไม่ได้จะลงแดงตาย
นับดาวพยายามคิดว่าตลอดหลายวันที่ผ่านมาคงไม่ใช่ไต้ฝุ่นที่มาเหมาชานมไข่มุกที่ร้านอย่างแน่นอน แต่ลูกค้ารายเดิมก็ยังคงกลับมาซื้ออย่างต่อเนื่องติดต่อกันทุกวันจนเธอมาอยู่บ้านได้สองอาทิตย์ นับดาวจึงอดไม่ได้ตัดสินใจไปดักดูที่สาขาที่เขาไปอุดหนุน และแล้วก็เจอตัวสักที“พี่ไต้ฝุ่น” เธอเอ่ยเรียกชื่อของเขาด้วยความประหลาดใจ ไม่คิดว่าจะเป็นแฟนหนุ่มของเธอจริงๆไต้ฝุ่นยกมือขึ้นลูบท้ายทอยอย่างเก้อเขิน โดนจับได้แบบนี้ก็ไม่รู้ว่าจะหลบหลีกไปทางไหน“มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ”“พี่มาซื้อน้ำน่ะครับ”“รู้ค่ะว่ามาซื้อน้ำ แล้วทำไมต้องมาซื้อทุกวัน ซื้อไปให้ใคร แล้วมาอยู่ที่เชียงใหม่ตั้งแต่เมื่อไหร่”นับดาวยิ่งคำถามรัวๆ ด้วยความอยากรู้ หรือที่เขาบอกว่าไปนอนที่ร้านเฮียเคน เขากำลังโกหก แท้ที่จริงแล้วไต้ฝุ่นอยู่ที่เชียงใหม่มาโดยตลอดนับตั้งแต่วันที่มาส่งเธอ“ให้พี่ตอบคำถามไหนก่อนดี”“ตอบมาให้หมดเลยค่ะ” เอ่ยจบเธอก็คว้าข้อมือของแฟนหนุ่มเพื่อพาไปคุยกันที่ด้านหลังร้านไต้ฝุ่นดึงแฟนสาวเข้ามาสวมกอดแล้วค่อยๆ ตอบทีละคำถามที่เธออยากรู้ และนั้นก็ทำให้นับดาวถึงกับหลุดยิ้มออกมากับความใจดีของเขาที่อยากจะช่วยอุดหนุนเพื่อเพิ่มรายได้ให้ก
หลังจากเสร็จกิจกรรมรัก ทั้งสองคนก็พากันไปอาบน้ำ และขึ้นมานอนกอดกันบนเตียง“พ่อกับแม่พี่มีเชื้อสายจีนเหรอคะ” นับดาวได้ยินทั้งพี่ทั้งน้องพากันเรียกป๊าและม๊าจึงเกิดความสงสัย“อือ พ่อของพี่เป็นคนจีน แต่พอได้แต่งงานกับแม่ก็พากันย้ายมาอยู่ที่ไทย”“งั้นพวกพี่ก็เป็นลูกครึ่งสิคะ ถึงว่าหล่อทั้งพี่ทั้งน้องเลย” นับดาวเอ่ยปากชมลูกชายทั้งสองคนของบ้าน“ชมพี่ได้คนเดียวครับ คนอื่นห้ามชม” ไต้ฝุ่นก้มลงมองใบหน้าหวาน แล้วส่งสายตามองค้อนให้แฟนสาว“คนอะไรหึงแม้กระทั่งพี่ชายตัวเอง” นับดาวกระตุกยิ้มชอบใจ“กับใครก็ไม่ได้ทั้งนั้น”“ก็ได้ค่ะ นับดาวจะชมแค่พี่คนเดียว โอเคไหมคะ” นับดาวจำต้องยอมอ่อนข้อให้กับคนขี้น้อยใจ แล้วเลื่อนปลายจมูกไปกดหอมที่แก้มของเขาเพื่อให้แฟนหนุ่มหายงอน“โอเคมากเลยครับ” ไต้ฝุ่นยิ้มรับก็กดหอมแก้มทั้งสองข้างของหญิงสาวสลับกันไปมาอยู่หลายครั้ง จนนับดาวส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ“พอแล้วค่ะ แก้มช้ำหมดแล้ว”“รู้ไหมว่าตัวหอมมาก พี่อยากหอมทั้งคืนเลย”“ทำอย่างกับไม่เคยหอมกันอย่างนั้นแหละ”“ก็ต้องหอมเอาไว้หลายๆ ฟอดหน่อย อีกสองวันก็จะกลับเชียงใหม่แล้ว พี่คงคิดถึงจนนอนไม่หลับ”และแล้วก็มาถึงวันที่เธอต้องก
นับดาวเก็บเสื้อผ้าเตรียมตัวกลับเชียงใหม่ แต่ก่อนจะเดินทางก็ต้องไปนอนค้างที่บ้านของแฟนหนุ่มตามที่ได้รับปากเขาไว้ ซึ่งไต้ฝุ่นก็เลือกที่จะกลับบ้านในช่วงเย็นของวันที่สอบเสร็จไต้ฝุ่นใช้ความเร็วในการขับรถกลับบ้านที่หกสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะมืออีกข้างหนึ่งได้จับมือของแฟนสาวไปตลอดทางเพื่อมอบความอบอุ่นและกำลังใจ เขาเห็นนับดาวนั่งนิ่งไม่พูดไม่จาจึงคิดว่าเธอคงจะรู้สึกประหม่ากับการไปเจอครอบครัวของเขาเป็นครั้งแรก“ไม่ต้องกลัวนะ พ่อกับแม่พี่เป็นคนใจดีมาก” ไต้ฝุ่นเอ่ยปลอบขวัญแฟนสาว“ค่ะ” นับดาวคลี่ยิ้มน้อยๆ ส่งไปให้รถหรูได้เคลื่อนตัวเข้าไปจอดที่โรงจอดรถของคฤหาสน์หลังใหญ่ที่มีรถหรูจอดเรียงรายนับสิบคัน ใจของนับดาวก็เต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่ทำใจมาแล้ว แต่พอมาถึงมันก็รู้สึกตื่นเต้นปนกับความกลัวอยู่ดี เธอนั่งนิ่งอยู่ในรถเพื่อทำใจจนไต้ฝุ่นเดินมาเปิดประตูพร้อมทั้งถอดเข็มขัดนิรภัยให้ แล้วจับมือเธอก้าวลงจากรถพอปิดประตูรถได้ เขาก็โอบที่เอวของเธอแล้วดันหญิงสาวถอยหลังจนแผ่นหลังแนบชิดกับประตูรถ“จะทำอะไรคะ”“ให้กำลังใจเมียไงครับ” เอ่ยจบก็ก้มลงจูบที่ริมฝีปากของเธอแผ่วเบาหนึ่งครั้ง“ทำใจให้สบาย คิดว่าที
เช้าวันจันทร์ทั้งคู่พากันไปแวะกินโจ๊กที่หน้าปากทางเข้าคอนโดก่อนจะเดินทางไปเรียน พอลงจากรถไต้ฝุ่นก็รีบเดินเข้าไปหาหญิงสาวแล้วจับมือของเธออย่างเปิดเผยเพื่อเดินไปส่งถึงหน้าตึกคณะตลอดทางที่เดินไปด้วยกันก็มีสายตาหลายคู่จ้องมองมาทางพวกเขา ผู้หญิงบางกลุ่มก็พูดคุยกันราวกับเสียดายที่ชายหนุ่มมีแฟนแล้ว และบางส่วนก็รู้สึกยินดีที่ทั้งคู่คบกันสักที เพราะเห็นไต้ฝุ่นมาคอยเดินตามนับดาวอยู่นานและช่วงเย็นเขาก็มารับเธอที่หน้าตึกคณะเพื่อพาไปยังชมรมฟุตบอล นับดาวรู้สึกประหม่าเล็กน้อยที่จู่ ๆ เขาก็พามาโดยที่ไม่ได้บอกกันไว้ล่วงหน้า“พากันจับมือมาแล้วโว้ย” เสียงของเสือดังขึ้นเป็นคนแรก“แม่งสวยว่ะ ถึงว่ามันจะเป็นจะตายตอนที่โดนเมียทิ้ง” แบดซ์เอ่ยปากชมเมียเพื่อน และพูดถึงคราวที่ไต้ฝุ่นเสียศูนย์เพราะเฮิร์ตหนัก“นี่น้องนับดาวเหรอวะ สวยกว่าที่คิดไว้เยอะเลย” โจหันไปถามเพื่อนๆ“ไอ้ไต้ฝุ่นมันคงไม่พาใครมาที่ชมรมแบบนี้หรอก ถ้าไม่ใช่น้องนับดาว” ภูเขาเอ่ยตบท้าย ก่อนที่คนที่ถูกเอ่ยถึงจะมายืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขา“มึงพาใครมาวะ” แม้ทุกคนจะเดาออกอยู่แล้ว แต่เสือก็แสร้งถามออกไปเพื่อให้ไต้ฝุ่นเป็นคนแนะนำเอง“นี่นับดาว เมียของกู
เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ปาไปเกือบตีหนึ่ง และดีที่วันนี้เป็นเสาร์ทั้งคู่จึงพากันนอนตื่นสายได้ แต่ก็ใช่ว่าตื่นแล้วจะได้ลุกขึ้นไปหาอะไรกิน เพราะเขารบเร่าด้วยน้ำเสียงออดอ้อนจะอาบน้ำด้วยกันท่าเดียว“นะครับ ขออาบด้วยนะ”“ไม่เอา เมื่อคืนก็อาบด้วยกันแล้วไง” นับดาวรู้ว่าจุดประสงค์ของเขาว่าคืออะไร จึงได้ปฏิเสธเพราะทันทีที่เธอตอบตกลงยอมคืนดีเมื่อวานเย็น เขาก็แทบไม่ปล่อยให้เธอได้พัก ไม่รู้ว่าไปหิวโหยมาจากไหน ทั้งริมฝีปากอวบอิ่ม ก้อนกลมสองเต้าอวบ และทุกสัดส่วนบนเรือนร่างรวมไปถึงน้องสาวของเธอก็โดนเขาจับกินหมด“นั่นมันเมื่อคืน แต่ตอนนี้อยากอาบกันด้วยอีก” เขาเอ่ยพลางกระชับตัวหญิงสาวเข้าไปสวมกอดแล้วกดจูบที่แผ่นหลังขาวเนียนไร้เสื้อผ้าปกคลุม แก่นกายขนาดใหญ่แข็งชูชันจนเธอรู้สึกได้ว่ามันจ่ออยู่ที่ก้นงามงอน“คนลามก”“เธอก็ชอบไม่ใช่เหรอ ครางชื่อพี่ทั้งคืนเลย” ไต้ฝุ่นเอ่ยแซวพลางขบเม้มที่ติ่งหูของนับดาว พ่นลมหายใจหื่นกระหายเป่ารดที่ข้างแก้มอมชมพูจนขนกายของหญิงสาวลุกซู่เขาเลื่อนใบหน้ามาซุกไซ้ซอกคอ จากนั้นก็พลิกตัวเธอขึ้นไปนั่งคร่อมอยู่ด้านบน นับดาวใช้มือทั้งสองข้างเท้ากับพื้นที่นอน กระตุกยิ้มอย่างรู้ทันคนเจ้าเ
วันนี้ของขวัญก็ได้กลับไปนอนที่คอนโดของตัวเองแล้ว ยอมรับว่าตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาไต้ฝุ่นทำให้เธอได้เห็นถึงความพยายามว่าเขาอยากง้อเธอมากแค่ไหน เขายอมทำทุกอย่างให้โดยที่เธอไม่ต้องร้องขอ เธอคิดว่าเขาอาจจะเข้ากับเพื่อนรักของเธอไม่ได้เพราะเป็นคนถือตัวและพูดน้อยเวลาอยู่กับคนอื่น แต่เปล่าเลย สองคนนั้นเข้ากันได้ดีกว่าที่คิด และทุกๆ เย็นเขาก็มารอรับเธอกลับคอนโดไม่เว้นว่างเลยแม้แต่วันเดียว“พี่ช่วยถือกระเป๋านะ”“ค่ะ”ไต้ฝุ่นยื่นมือออกไปรับกระเป๋าแล้วนำไปสะพายไว้ที่แขนและเดินเคียงข้างกันไปขึ้นรถ พอไปถึงคอนโดนับดาวก็ขอกระเป๋าคืนเพื่อจะหยิบคีย์การ์ดไปเปิดประตู“ขอเข้าไปได้ไหม” ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คงจะแทรกตัวเข้าไปแล้ว แต่เดี๋ยวนี้ต้องทำตัวดีหน่อยนับดาวยืนนิ่งราวกับกำลังชั่งใจอยู่ชั่วครู่ก็ตอบกลับไป“ค่ะ”ชายหนุ่มยกยิ้มอย่างพึงพอใจกับคำตอบที่ได้รับแล้วรีบเดินเข้าไปในห้อง วันนี้นับดาวดูมีน้ำเสียงที่อ่อนลง ทำให้เขาแอบเข้าข้างตัวเองว่าเธอคงยอมใจอ่อนแล้วนับดาวเอากระเป๋าวางไว้ที่โต๊ะหน้าโซฟา แล้วเดินไปหยิบน้ำในตู้เย็นมาเทใส่แก้วยกขึ้นดื่ม ไต้ฝุ่นที่เดินตามหลังก็ถือวิสาสะกอดเธอจากทางด้านหลัง ส่วนคนที่โ







