“ทำไมออกมาแบบนี้ล่ะคะ” นับดาวรีบหันหน้าหนี ใบหน้าเริ่มร้อนผ่าว ไม่รู้จะชอบโชว์อะไรกันนักหนา
“ก็ใครใช้ให้เธอมากดกริ่งเสียงดังรบกวนกันล่ะยัยโง่”
“พี่จะเลิกด่าว่าฉันโง่สักทีจะได้ไหม” นับดาวหันมาจ้องใบหน้าหล่อแล้วเถียงกลับ จากนั้นก็รีบเบี่ยงสายตาหนีคนที่โป๊อยู่
“แล้วมาทำไมแต่เช้า” ไต้ฝุ่นเอ่ยพลางเดินเข้าไปในห้อง นับดาวรีบเดินตามเข้ามาก็ปิดประตู
“ฉันมีธุระเลยมาเช้าหน่อย จะได้รีบทำแล้วรีบออกไป”
“คนอย่างเธอมีธุระกับเขาด้วยเหรอ”
“ธุระส่วนตัวขอไม่บอกนะคะ” เอ่ยจบเธอก็รีบไปหยิบอุปกรณ์ทำความสะอาด เพราะขี้เกียจจะต่อความยาวสาวความยืดกับคนที่ชอบหาเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน
“ก่อนออกไปกรุณาทำงานให้เสร็จด้วยนะ เพราะวันนี้ฉันต้องการให้เธอทำความสะอาดทั้งหมด ทั้งห้องครัว ห้องน้ำ และห้องนอน”
“อะไรนะ” นับดาวหันมาถามเสียงสูง นี่กะจะหาเรื่องเธอใช่ไหมถึงได้ใช้ให้เธอทำมากขนาดนี้
“จะแหกปากทำไม รีบไปทำงานของเธอซะ ถ้าไม่เสร็จห้ามออกจากห้องไปเด็ดขาด”
นับดาวขมวดคิ้วยืนนิ่งจ้องหน้าอีกฝ่าย เห็นว่าเธอรีบเพราะมีธุระ เขาก็เลยจงใจจะแกล้งแน่ๆ คนอะไรไม่รู้จักโต
“จะจ้องอีกนานไหม นี่ถ้าเป็นปลากัดฉันท้องไปแล้วนะ” ไต้ฝุ่นกระตุกยิ้มโต้กลับ คนอย่างนับดาวก็ทำได้แค่จ้องเท่านั่นแหละ
นับดาวที่ขี้เกียจเถียงก็หันหลังให้แล้วเริ่มทำหน้าที่แม่บ้าน แต่เวลาผ่านไปแล้วครึ่งวัน งานของเธอก็เพิ่งจะเสร็จแค่เช็ดทำความสะอาดห้องครัว ปัดฝุ่นทั่วชั้นล่าง และล้างห้องน้ำ
เสียงเตือนที่ประตูดังขึ้น ไต้ฝุ่นที่ขึ้นไปนั่งเล่นบนห้องตั้งแต่ที่เธอเริ่มปัดกวาดเช็ดถูก็ลงมาเปิดประตู สักพักเขาก็ถือถุงอาหารมาวางไว้บนโต๊ะ
“เอาไปใส่จานให้ด้วย”
นับดาวขมวดคิ้วจ้อง เธอมาเป็นแม่บ้านไม่ได้มาเป็นคนใช้ แล้วเธอก็ทำงานมาตั้งครึ่งค่อนวันข้าวเที่ยงก็ยังไม่ได้กินเหมือนกัน
“มองอะไร ฉันสั่งก็ไปทำสิ”
“ค่ะ” นับดาวถอนหายใจทำตามที่เขาบอก เห็นว่าเธอติดหนี้อยู่ก็ใช้เอาๆ
เธอนำอาหารที่ไต้ฝุ่นสั่งมาแกะใส่จาน พลางคิดในใจว่าคนอะไรกินคนเดียวสั่งมาตั้งเยอะตั้งแยะ จากนั้นหยิบจานอาหารมาวางไว้บนโต๊ะ
“ต้องเอาน้ำมาเสิร์ฟด้วยไหมคะ”
“ถ้าได้ก็ดี” เธอกะจะพูดประชดไม่คิดว่าหนุ่มรุ่นพี่ก็ต้องการแบบนั้นจริงๆ
นับดาวเอาน้ำขวดและแก้วเปล่ามาวางไว้ตรงหน้าของคนที่นั่งรออยู่ด้วยใบหน้าง้ำงอ
“ไปเอาจานมาอีกใบ แล้วเอาช้อนส้อมมาด้วย”
แม้จะไม่อยากทำตามคำสั่ง แต่เธอก็ต้องหันหลังเดินไปหยิบตามที่เขาบอก เพราะถ้ายิ่งต่อปากต่อคำเธอคงจะไม่ได้กลับออกไปง่ายๆ
“นั่งสิ” ไต้ฝุ่นส่งสายตามองเก้าอี้ว่างที่อยู่ตรงข้ามกับที่เขานั่ง
“จะให้ฉันมานั่งเฝ้าพี่กินข้าวเนี่ยนะ ไม่เอาหรอก งานฉันยังไม่เสร็จ และฉันก็มีธุระที่ต้องไปทำ” นับดาวเอ่ยจบก็หันหลังให้เพื่อจะได้เร่งมือกับงานที่เหลือต่อ
“นั่งลง” ไต้ฝุ่นรีบลุกขึ้นยื่นแล้วควาข้อมือของเธอเอาไว้ คนที่ถูกเหนี่ยวรั้งก็หันมาขมวดคิ้วใส่ เขาจึงพูดต่อ “กินข้าว”
นับดาวยืนนิ่งราวกับไม่เชื่อหู กระตุกยิ้มที่ริมฝีปากเล็กน้อย
“นึกว่าจะปล่อยให้หิว”
“เห็นฉันเป็นคนไร้น้ำใจขนาดนั้นเลยรึไง ค่าข้าวแค่ไม่กี่บาทฉันมีปัญญาจ่าย”
“รู้ค่ะว่ารวยมาก”
ไต้ฝุ่นจัดการแบ่งข้าวในจานของตัวเองออกครึ่งหนึ่งใส่จานที่นับดาวเอามา เพราะเธอเทข้าวที่สั่งมาไว้ในจานของเขาทั้งหมด แล้วยื่นให้กับเธอ
ข้าวมื้อแรกที่ทั้งสองคนกินด้วยกันก็ทำให้บรรยากาศเริ่มกระอักกระอ่วนเล็กน้อยเพราะทั้งคู่ไม่มีใครปริปากพูดคุยกันเลย
สำหรับนับดาวถือเป็นเรื่องแปลกใหม่ที่ต้องมานั่งกินข้าวกันด้ายกันสองต่อสอง แถมยังอยู่ในห้องของผู้ชายอีกต่างหาก และไต้ฝุ่นเองก็ไม่ต่างกัน ปกติเวลาจะควงสาวก็มักจะพาไปร้านเหล้าไม่ก็คอนโด ไม่เคยมานั่งกินข้าวกับใครเป็นจริงเป็นจังแบบนี้แม้แต่ครั้งเดียว
“กินแบบนี้ถึงว่าไม่เห็นจะโต” เสียงบ่นพึมพำดังขึ้นจากปากของคนที่นั่งตรงข้าม พร้อมกับสายตาที่จ้องมองที่จานอาหารสลับกับใบหน้าของเธอ
“กินแบบนี้แล้วมันทำไมคะ” เธอก็แค่รู้สึกอึดอัดขึ้นมานิดๆ จึงทำให้กินข้าวไม่ค่อยลง
“อาหารที่ฉันสั่งมามาแต่ของดีๆ ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นกินมันให้หมด” ทุกอย่างที่สั่งมาล้วนมาจากเจ้าดังและราคาก็ค่อนข้างแพง
“คนเผด็จการ”
“ฉันได้ยิน”
“อ่อ นึกว่าหูหนวก” นับดาวทำปากมุบมิบเสียงเบา จากนั้นก็ก้มหน้ากินข้าวต่อ
แต่จะว่าไปอาหารทุกอย่างก็อร่อยมาก พอได้รับคำสั่งว่าต้องกินให้หมด บวกกับความหิวที่สูญเสียพลังงานไปเยอะก็ทำให้เธอลืมอายแล้วตั้งหน้าตั้งตากินข้าว จะได้มีแรงทำงานต่อ
“ธุระสำคัญของเธอคืออะไร”
“จำเป็นต้องบอกด้วยเหรอคะ”
“งั้นหนี้ของเธอคงต้องยืดระยะเวลาออกไป”
“ทำไมเป็นคนแบบนี้ล่ะ ก็ไหนเราตกลงกันแล้วไงคะว่าถ้าฉันมาทำงานให้พี่ห้าปี หนี้ของเราก็จบลง” นับดาวเริ่มมีสีหน้าง้ำงอส่งเสียงประท้วง ในเมื่อคุยกันเรื่องระยะเวลาแล้ว แต่ทำไมเขาถึงชอบเอาเรื่องหนี้สินมาขู่เธออยู่เรื่อย
“จะบอกดีๆ หรือว่า…”
“บอกก็ได้ค่ะ ฉันจะไปหาหอพัก” นับดาวจำใจต้องบอกออกไป และที่จริงมันก็ไม่ใช่ความลับอะไร เธอแค่คิดว่าไม่จำเป็นต้องบอกเรื่องส่วนตัวกับคนที่ไม่ได้สนิทกัน
“ทำไมต้องหาหอพัก พ่อแม่เธออยู่ที่นี่ไม่ใช่เหรอ”
“พวกเรากำลังจะขายบ้าน พ่อกับแม่จะย้ายไปอยู่เชียงใหม่ ฉันเลยต้องหาหอพักอยู่แทน” เธอเล่าออกไปก็รู้สึกเศร้าใจขึ้นมาจนเผลอแสดงออกทางสีหน้าให้อีกฝ่ายได้เห็น
“หรือว่าเป็นเพราะพ่อของเธอ” เขาคาดเดาว่าคงเป็นเพราะเรื่องหนี้พนันอย่างแน่นอน
“หึ พี่นี่เดาเก่งนะคะ น่าจะไปเป็นหมอดู” นับดาวแค่นหัวเราะกลบเกลื่อนความเศร้าที่กำลังก่อตัวขึ้น
เธอจะมาแสดงอาการน้อยใจในโชคชะตาต่อหน้าคนอื่นแบบนี้ไม่ได้ ต่อไปเธอต้องพึ่งพาตัวเอง เธอจะต้องเข้มแข็งแล้วผ่านมันไปให้ได้
“เรื่องหอฉันจะจัดการให้เอง ถือซะว่าเป็นสวัสดิการให้ลูกหนี้ก็แล้วกัน อย่างน้อยที่เธอต้องมาทำงานก็เพราะพ่อของเธอ ไม่ใช่เพราะตัวเธอเป็นคนสร้าง” ไต้ฝุ่นรู้สึกเห็นใจ ไหน ๆ ก็ช่วยแล้ว ก็ช่วยเธออีกสักเรื่องก็แล้วกัน
“ไม่เอาดีกว่าค่ะ ฉันหาเองได้ ฉันไม่อยากติดหนี้บุญคุณใคร” เธอรีบปฏิเสธทันที แค่หนี้ห้าล้านก็ยังทำงานชดใช้ให้ไม่หมด นี่ยังจะมาหาหอพักให้ เดี๋ยวก็จะมาทวงบุญคุณกันทีหลังอีก
“ฉันไม่ได้ขอความเห็น ล้างจานเสร็จแล้วก็เตรียมตัวไปได้ละ ฉันจะเป็นคนไปส่ง” ไต้ฝุ่นยืนยันเสียงแข็ง
นับดาวขมวดคิ้วให้กับคนเอาแต่ใจและชอบออกคำสั่ง เธอแอบบ่นในใจว่าไม่ได้ร้องขอความเห็นใจหรือขอให้เขาช่วยเสียหน่อย ทำมาเป็นเสียงแข็งและบังคับให้ทำตามใจอยู่ได้ สงสัยคงจะโดนตามใจมาตั้งแต่เด็กเลยถูกขัดใจไม่ได้จะลงแดงตาย
นับดาวนำเสื้อผ้าออกจากกระเป๋าแล้วนำไปแขวนในตู้เสื้อผ้า คอนโดแห่งนี้เพิ่งจะสร้างแล้วเสร็จใหม่ๆ แล้วเปิดให้บริการได้ไม่นาน จะว่าเธอโชคดีมากเลยก็ว่าได้ที่ได้ห้องใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครเข้าพัก แต่ขนาดห้องมันดูจะใหญ่เกินไปสำหรับหญิงสาวตัวคนเดียวไปหน่อยวันนี้นับดาวขอลาหยุดกับหนุ่มรุ่นพี่จะได้ไม่ต้องไปทำความสะอาดที่เพนท์เฮาส์ของเขา เธอใช้เวลาตลอดช่วงบ่ายทำความสะอาดห้องพักใหม่ แม้ว่ามันจะสะอาดแทบจะไม่มีฝุ่นเกาะเลยก็ตาม แต่เข้าพักวันแรกอย่างไรก็ต้องปัดกวาดเช็ดถูเธอทำความสะอาดห้องจนถึงบ่ายแก่ๆ ก็นอนพักที่โซฟาเปิดโทรทัศน์ให้มีเสียงคนคุยกันเพื่อคลายเหงา มือก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเข้าแชทเพื่อคุยกับเพื่อนสาว**********Nubdao : คิดถึงแกจังKhongkhwan : เพิ่งจะเจอกันเมื่อวันศุกร์เองนะNubdao : อยู่บ้านเหรอKhongkhwan : ฉันออกมาเที่ยวกับพี่เขตน่ะNubdao : อ๋อ งั้นเที่ยวให้สนุกนะ ฉันไม่กวนละ**********ของขวัญเป็นเพื่อนสนิทของเธอ และเขตก็เป็นพี่ชายของของขวัญ บ้านนี้พี่น้องรักใคร่กลมเกลียวกันดี ชอบพากันไปเที่ยวนอกบ้านอยู่บ่อยๆ และที่เธอแชทหาเพื่อนก็เพราะอยู่ ๆ ก็รู้สึกเหงาขึ้นมาเลยอยากจะหาเพื่อนคุยนับด
เธอนำจานไปล้างเสร็จแล้ว ทั้งสองคนก็พากันเดินทางออกจากเพนท์เฮาส์ ไต้ฝุ่นพาเธอหาหอพักที่อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย เพื่อที่นับดาวจะได้เดินทางได้สะดวก และรถหรูก็เคลื่อนเข้าไปจอดที่โรงจอดรถบริเวณด้านข้างของตึกสูง“นั่งบื่ออยู่ได้ ลงรถดิครับ” คงไม่ได้รอให้เขาเป็นคนไปเปิดประตูให้หรอกนะ“แต่นี่มันไม่ใช่หอพักนี่คะ” ไม่รู้ว่าเธอพูดไม่เข้าใจหรือว่าเขาฟังไม่รู้เรื่องกันแน่ เธอต้องการหาหอที่พอพักอาศัยอยู่ได้ ไม่ใช่คอนโดมิเนียมที่มีการเก็บค่าเช่าแพงๆ แบบนี้“ฉันบอกให้ลงก็ลงไปสิ พูดมากอยู่ได้” เอ่ยจบเขาก็เปิดประตูลงไปรออยู่ด้านหน้าตัวรถ นับดาวก็รีบออกจากรถลงแล้วตามกันเข้าไปด้านใน“ผมขอดูห้องว่างหน่อยครับ” ไต้ฝุ่นเอ่ยกับคนที่นั่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์“เชิญทางนี้ครับ”ทั้งสองคนเดินตามชายคนดังกล่าวขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นหกของคอนโดมิเนียม ซึ่งคอนโดแห่งนี้มีด้วยกันทั้งหมดสิบชั้น และชายคนดังกล่าวก็เปิดห้องที่ว่างอยู่ให้คนทั้งสองเข้าไปดูพื้นที่ใช้สอยด้านในในห้องโล่งกว้างได้จัดแบ่งโซนอย่างชัดเจน ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น ห้องครัวพร้อมเคาน์เตอร์ทำอาหาร และมีระเบียงสำหรับตากผ้าหรือออกไปนั่งเล่นรับลม ของใช้และเฟอร์
“ทำไมออกมาแบบนี้ล่ะคะ” นับดาวรีบหันหน้าหนี ใบหน้าเริ่มร้อนผ่าว ไม่รู้จะชอบโชว์อะไรกันนักหนา“ก็ใครใช้ให้เธอมากดกริ่งเสียงดังรบกวนกันล่ะยัยโง่”“พี่จะเลิกด่าว่าฉันโง่สักทีจะได้ไหม” นับดาวหันมาจ้องใบหน้าหล่อแล้วเถียงกลับ จากนั้นก็รีบเบี่ยงสายตาหนีคนที่โป๊อยู่“แล้วมาทำไมแต่เช้า” ไต้ฝุ่นเอ่ยพลางเดินเข้าไปในห้อง นับดาวรีบเดินตามเข้ามาก็ปิดประตู“ฉันมีธุระเลยมาเช้าหน่อย จะได้รีบทำแล้วรีบออกไป”“คนอย่างเธอมีธุระกับเขาด้วยเหรอ”“ธุระส่วนตัวขอไม่บอกนะคะ” เอ่ยจบเธอก็รีบไปหยิบอุปกรณ์ทำความสะอาด เพราะขี้เกียจจะต่อความยาวสาวความยืดกับคนที่ชอบหาเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน“ก่อนออกไปกรุณาทำงานให้เสร็จด้วยนะ เพราะวันนี้ฉันต้องการให้เธอทำความสะอาดทั้งหมด ทั้งห้องครัว ห้องน้ำ และห้องนอน”“อะไรนะ” นับดาวหันมาถามเสียงสูง นี่กะจะหาเรื่องเธอใช่ไหมถึงได้ใช้ให้เธอทำมากขนาดนี้“จะแหกปากทำไม รีบไปทำงานของเธอซะ ถ้าไม่เสร็จห้ามออกจากห้องไปเด็ดขาด”นับดาวขมวดคิ้วยืนนิ่งจ้องหน้าอีกฝ่าย เห็นว่าเธอรีบเพราะมีธุระ เขาก็เลยจงใจจะแกล้งแน่ๆ คนอะไรไม่รู้จักโต“จะจ้องอีกนานไหม นี่ถ้าเป็นปลากัดฉันท้องไปแล้วนะ” ไต้ฝุ่นกระตุกยิ้มโ
“จะแหกปากให้ได้อะไรขึ้นมา”“พี่บอกว่าอยู่คนเดียว งั้นก็แปลว่าตอนนี้ในบ้านมีแค่เราสองคน” นับดาวรู้สึกหวั่นๆ ใจ เขาคงไม่คิดอะไรมิดีมิร้ายกับเธอใช่ไหม“อืม คงไม่ได้คิดว่าฉันจะจับเธอปล้ำหรอกนะ”“มันก็ไม่แน่นี่คะ เกิดพี่หน้ามืดตามัวขึ้นมา ฉันจะเอาอะไรไปสู้” เอาตามตรงเธอก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้ยอมช่วยเธอ แล้วยังให้มาเป็นแม่บ้านให้เขาอีก“ฉันไม่ได้พิสวาศเธอขนาดนั้น รีบๆ ทำงานของเธอซะไป”ไต้ฝุ่นเอ่ยปากไล่ให้สาวรุ่นน้อง ไม่รู้ว่าคิดบ้าอะไร ผู้หญิงปากกล้าที่เอาแต่เถียงอย่างเธอไม่อยู่ในสายตาของเขาเลยสักนิด และที่ให้มาทำงานใช้หนี้ก็แค่ต้องการจะแกล้งใช้งานเธอให้คุ้มกับเงินที่เสียไป ไม่อย่างนั้นอย่ามาเรียกเขาว่าไต้ฝุ่น“จะให้ทำทั้งหมดนี่เลยเหรอคะ” นับดาวมองไปรอบๆ ห้องที่มีพื้นที่กว้างขวาง ถ้าจะให้ทำทั้งหมดนี่แล้วมันจะเสร็จกี่โมง“อืม”“แต่มันก็สะอาดอยู่แล้วนะคะ”“เธอเป็นแค่ลูกหนี้ ฉันสั่งให้ทำอะไรก็ทำๆ ไปเถอะ อย่าลืมนะว่า…”ไต้ฝุ่นพูดยังไม่ได้ทันจบ นับดาวก็รีบน้อมรับคำสั่ง เพราะรู้ดีว่าประโยคถัดจากนั้นก็คงจะเป็นการลำเลิกบุญคุณอย่างแน่นอน“ก็ได้ค่ะ แล้วไม้กวาดกับไม้ถูพื้นอยู่ที่ไหนคะ”เจ้าของห้องชี้
“ไปเป็นแม่บ้านเนี่ยนะ” นับดาวถามราวกับหูฝาด มันมัดมือชกกันชัดๆ“นอกจากโง่แล้วยังหูตึงอีกนะ” ไต้ฝุ่นขมวดคิ้วจ้อง นับว่าเธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขามีแต่เสียอารมณ์ ทั้งโง่ ทั้งฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้โง่ แล้วทำไมฉันจะต้องไปเป็นแม่บ้าน ฉันทำงานอย่างอื่นใช้หนี้ก็ได้นี่” งานมีตั้งเยอะตั้งแยะ เธอไม่อยากจะอยู่ใกล้คนอันธพาลปากเสียที่ชอบหาเรื่องผู้หญิง“ถ้าฉลาดมากก็บอกฉันมาสิ ว่านักศึกษาปีสองอย่างเธอ จะไปทำงานอะไรที่มันได้เงินเดือนเยอะๆ นอกจากขายตัว ไม่ก็เป็นเด็กเสี่ย”“แล้วไปเป็นแม่บ้านให้พี่มันได้เงินเยอะตรงไหน” งานมันก็เหมือนๆ กันทั้งนั้น อย่างน้อยก็คงจะได้แค่รายวันขั้นต่ำ“ฉันจ้างเธอปีละล้านไปทำงานให้ฉันห้าปี แล้วหนี้ทุกอย่างถือว่าจบ” ข้อเสนอดีขนาดนี้ถ้าไม่รับไว้ก็โง่เต็มทีละ“ปีละล้าน” นับดาวเบิกตาโพลงเอ่ยขึ้นเสียงดังอย่างไม่เชื่อหู จะใจป้ำเกินไปหน่อยไหมที่กล้าจ้างเธอไปทำความสะอาดบ้านด้วยค่าจ้างปีละล้าน“หัดแคะขี้หูซะบ้างนะ เธอฟังไม่ผิดหรอก ฉันจ้างปีละล้านแถมจะให้เงินเดือนเธอใช้อีกเดือนละหมื่น แต่ถ้าไม่ยอม…”“ทำค่ะ ทำ” ไต้ฝุ่นยังไม่ทันได้พูดจบ นับดาวก็รีบตอบตกลงทันที
“หึ ฟังไม่ผิดหรอก พ่อของเธอเป็นหนี้พวกเราอยู่ห้าล้าน นี่ยังไม่รวมดอกเบี้ยเลยนะ” ผู้จัดการบ่อนแค่นหัวเราะแล้วเอ่ยขึ้น“พ่อนะพ่อ เงินตั้งห้าล้านหนูจะไปหามาจากไหนคะ”แม้ว่าครอบครัวของเธอจะมีธุรกิจแฟรนไชส์อยู่หลายสาขา แต่กำไรที่ได้พ่อก็เอามาถลุงกับบ่อนพนันหมด ดีที่ยังคิดได้เหลือไว้ให้เธอกับแม่เอาไว้ใช้จ่ายอยู่บ้าง แต่เป็นหนี้มากขนาดนี้ ขายธุรกิจที่มีทั้งหมดก็คงจะไม่พอชดใช้ แถมยังจะทำให้แม่ของเธอลำบากไปด้วย“ฉันช่วยเธอเอง” ไต้ฝุ่นที่ได้แต่ยืนฟังก็เสนอตัวเข้าช่วยเหลือ จากนั้นก็หันไปบอกกับผู้จัดการบ่อน “พรุ่งนี้ฉันจะให้คนเอาเงินห้าล้านมาให้”“ครับ”“ขอบใจนายมากนะที่ช่วย นายเป็นแฟนของลูกสาวฉันเหรอ” พ่อของหญิงสาวยกยิ้มเอ่ยถามอย่างโล่งใจ อยู่ ๆ ก็มีคนมาประเคนเงินก้อนโตใช้หนี้ให้แบบนี้ก็สบายตัวไปเลย“ไม่ใช่นะคะพ่อ เขาเป็นแค่รุ่นพี่ค่ะ” นับดาวรีบปฏิเสธ เธอก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้ยอมเอาเงินห้าล้านมาช่วยใช้หนี้ให้แบบนี้ แต่ในขณะเดียวกันความคิดของเธอก็บอกแค่พาพ่อออกไปจากที่นี่ก่อน แล้วค่อยหาโอกาสคุยเรื่องคืนเงินกันทีหลัง“ผมใช้หนี้ให้แล้วต่อไปไม่ต้องเข้ามาเล่นแล้วนะครับ ผมขอบัตรคืนด้วย” ไต้ฝุ่นยื่นม