Ep.4 เช่าคอนโดเดือนละห้าร้อย
ทั้งสองทานอาหารเรียบร้อย พอลจึงเริ่มขับรถตระเวนหาหอพักให้มิเกล ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกับมหาลัยมากนัก
ครืด ~~ ครืด ~~
โทรศัพท์มือถือของพอลสั่นเนื่องจากว่ามีคนโทรเข้ามา แต่เขากำลังขับรถอยู่จึงเอ่ยบอกคนที่นั่งข้างกายแทน
“รับโทรศัพท์ให้ฉัน”
“เอ่อ ไม่ดีมั้งคะ”
“กดรับสายให้ฉัน”
พอลพูดเสียงเข้มขึ้นอีกครั้งจนคนข้างกายยอมทำตาม
“ค่ะๆ”
เรารู้จักกันไม่ถึงสองวันเองมั้ง พี่พอลทำตัวราวกับว่ารู้จักกับฉันมานาน ทั้งคำพูดและพฤติกรรมต่างๆ มันส่อแววมาก มากจนบางทีฉันไม่กล้าคิดไปเอง เมื่อฉันกดรับสายเรียบร้อยแล้วยื่นไปให้คนที่กำลังขับรถอยู่ แต่พี่พอลเลือกที่จะกดเปิดลำโพงแทนและให้ฉันถือเอาไว้แบบนั้น ถ้างั้นฉันก็ได้ยินหมดน่ะสิ
“ว่าไง”
(ว่าไงอะไรของมึง ขับรถถึงไหนแล้วเนี่ย)
“กูไปไม่ได้ละ มีธุระต้องไปทำ” พี่พอลตอบประโยคนั้นแล้วหันมามองหน้าฉันครู่นึง มองทำไม?
(ธุระอะไรของมึง มึงจะโดดเรียนเหรอ)
“อืม ฝากเรียนเผื่อกูด้วย”
(น้องพิชชี่รอทานข้าวพร้อมมึงอยู่นะ) พิชชี่งั้นเหรอ หรือจะเป็นแฟนของพี่พอล
“ฝากบอกน้องด้วยว่าไม่ต้องรอ แค่นี้นะกูขับรถอยู่”
พอร์ชโทรมาตามพอลเพราะนัดกันไว้ จนเลยเวลาแล้วก็ไม่มาสักที สุดท้ายพอลก็เทเพื่อน แถมยังโดดเรียนอีกต่างหาก ธุระที่เขาบอกพอร์ช ก็หมายถึงการที่เขาต้องพาคนตัวเล็กไปหาหอใหม่นั่นเอง ทั้งที่มิเกลไม่ได้เรียกร้อง แต่พอลเองที่ต้องการแบบนั้น อยู่ๆ ก็อยากบริการทุกระดับประทับใจ ผิดแปลกไปจากนิสัยของเขามาก
พอลหาหอที่อยู่ใกล้มหาลัยให้มิเกล สอบถามหอพักทั้งหมดสามที่ แต่ไม่มีห้องว่างเลย การหาหอพักพร้อมเข้าอยู่มันค่อนข้างหายาก เพราะส่วนใหญ่แล้วก็ต้องแจ้งออกล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งเดือน แต่สุดท้ายก็มีหอว่างอยู่หอหนึ่ง สามารถเข้าอยู่ได้เลยแต่มิเกลปฏิเสธ เนื่องด้วยค่าเช่าในแต่ละเดือนมันแพงเกินตัวมากไปสำหรับคนที่อยู่ตัวคนเดียวอย่างเธอ
“เฮ้อ ทำไมมันหายากจัง”
“มีที่นึง นอนฟรีนะ”
“ที่ไหนคะ”
มิเกลถามด้วยความตื่นเต้น เธอเดาว่าคงเป็นสถานที่สงเคราะห์ช่วยเหลือคนจนคนยากไร้อะไรทำนองนั้น ซึ่งเธอไม่ติดใจนะ อยู่ได้สบายมาก เพราะชีวิตนี้ก็ลำบากมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว
“ใต้ทางด่วน หลังคาแพงซะด้วยเป็นหลักล้าน”
“เกลไม่ตลกนะ เกลเครียด”
“งั้นเธอก็ไปอยู่คอนโดฉัน”
“ยะ อยู่กับพี่งั้นเหรอ”
“ฉันมีห้องว่าง ห้องตรงข้ามฉัน”
“...”
“หรือเธออยากอยู่ห้องเดียวกับฉัน”
“กะ เกลไม่ได้หมายความแบบนั้นค่ะ เกลไม่มีเงินมากพอที่จะจ่ายค่าเช่าคอนโดหรูๆ หรอกนะคะ”
“เธอก็จ่ายฉันมาเดือนละห้าร้อย”
“ห้าร้อย? ไม่มีหรอกนะคะค่าคอนโดเดือนละห้าร้อยบาท”
“จ่ายมาแค่นั้นแหละ ฉันรวยมาก เผื่อเธอไม่รู้”
“ไม่เอาหรอกค่ะ เกลเกรงใจ เกลรบกวนพี่พอลมากเกินไปแล้วด้วยซ้ำ”
“ฉันเป็นเจ้าของคอนโดนั้น อยู่ฟรียังได้เลย แลกกับ…”
“แลกกับอะไรคะ”
“เป็นเด็กของฉันสิ”
“...”
“หึหึ”
“จอดป้ายหน้าให้เกลเลยค่ะ”
“ทำไม? กลัว?”
“แววตาพี่ร้ายกาจมากไม่น่าไว้ใจ ไหนจะคำพูดแบบนั้นอีก”
“ฉันล้อเล่นน่ะยัยกุ้งแห้ง”
“แล้วถ้าเกลตกลงล่ะ”
“ก็ดีลสิครับ”
“นั่นไงไว้ใจไม่ได้จริงๆ ด้วย ไหนบอกล้อเล่นไงคะ”
“ฉันไม่ฝืนใจเด็กกะโปโลหรอกนะ”
น่าแปลกใจที่เราคุยเล่นกันเรื่องนี้แต่ฉันไม่ได้รู้สึกว่ากำลังโดนคุกคาม พี่พอลพูดราวกับชวนคุยเหมือนเรื่องทั่วไป ไหลเป็นปลาไหลเลยนะพ่อคุณ
“คำก็กุ้งแห้ง คำก็เด็กกะโปโล”
ฉันพึมพำเสียงเบา ฉันสวยและน่ารักมากนะ พูดแบบนี้ฉันเสียความมั่นใจไม่น้อยเลย ที่ฉันมั่นใจเพราะเพื่อนรักฉันอีกคนการันตีและชมฉันทุกวัน ว่าสวยอย่างนั้นน่ารักอย่างนี้ ชมจนฉันมีความมั่นใจในตัวเองขึ้นมาบ้าง
… “พี่พอล”
“หืม”
“งั้นเกลรบกวนพี่ไม่เกินสองเดือนนะคะ รอหอพักว่างแล้วเกลจะย้ายออกไปอยู่ที่นั่น”
“อืม”
“ส่วนค่าเช่า เกลขอจ่ายมากกว่าห้าร้อยนะคะ”
“จ่ายห้าร้อยแลกกับการดูแลฉัน เรื่องอาหาร เรื่องเตรียมเสื้อผ้า”
“เราเพิ่งเจอ เพิ่งรู้จักกันเองนะคะ ทำไมพี่พอลไว้ใจให้เกลอยู่ใกล้ตัวขนาด”
“ฉันควรระวังเธองั้นเหรอ”
“...”
“เธอควรจะระวังฉันมากกว่านะ”
“...”
มันจริงของพี่พอลทุกอย่าง ฉันควรระวังเขา แต่เชื่อไหมสัญชาตญาณในความรู้สึกมันบอกว่าฉันสามารถไว้ใจผู้ชายคนนี้ได้ ฉันรู้สึกแบบนั้นจริงๆ แล้วที่ฉันถามคำถามนั้นกับพี่พอลไปก็เพราะว่า ฉันคือคนแปลกหน้าคนนึง เขาช่วยเหลือคนที่เพิ่งเจอกันได้ขนาดนี้เลยงั้นเหรอ แล้วกับคนอื่นๆ เขาทำแบบนี้ด้วยหรือเปล่า
“หึ ฉันแค่ช่วยเหลือเด็กตาดำๆ เธอไม่ต้องคิดอะไรเยอะแยะหรอก”
“ถ้าแบบนั้นโอเคค่ะ เกลจะทำความสะอาดคอนโดให้ด้วย”
“ฉันมีแม่บ้านที่คอยทำให้อยู่แล้ว เธอแค่ตามที่ฉันบอกก็พอ”
“เอางั้นก็ได้ค่ะ ขอบคุณพี่พอลมากนะคะ”
ฉันพนมมือไหว้พี่พอลหนึ่งครั้ง รู้สึกอยากขอบคุณจริงๆ ก็เลยอยากไหว้ แต่ดูเหมือนว่าพี่พอลตกใจที่ฉันไหว้พี่เขา แปลกตรงไหนกันก็พี่พอลอายุกว่าฉันนี่นา
พอลพามิเกลเข้าไปยังห้องที่อยู่ตรงกันข้ามกับห้องของเขา แบบนี้ก็ได้ พอใจแล้ว แค่รู้สึกว่าไม่อยากให้อยู่ห่างจากสายตาไปไหน แถมยังสามารถหาข้ออ้างให้เธอมาเจอเขาบ่อยๆ ได้อีกด้วย
“ทำอาหารเป็นหรือเปล่า”
“ทำเป็นค่ะ เคยช่วยคุณยายขายข้าวแกงก่อนมาอยู่กรุงเทพฯ”
“งั้นก็ดี ขาดเหลืออะไรก็บอก”
ครืด ~~ ครืด ~~
โทรศัพท์ของมิเกลสั่นขึ้น เธอจึงหยิบมือจากในกระเป๋าผ้าใบใหญ่ และชื่อที่ปรากฎบนหน้าจอ ดูยังไงก็รู้ว่าชื่อนั้นเป็นชื่อผู้ชาย พอลยืนจ้องมองตาเขม็ง เขาแอบเดาในใจว่าไอ้คนที่โทรเข้ามาต้องเป็นแฟนเก่าของมิเกล และแน่นอนว่าเดาไม่ผิด เพราะได้ยินเสียงที่มิเกลรับโทรศัพท์และเดินไปทางอื่น เขาก็เลยเสแสร้งแกล้งเดินตามไปนั่งเนียนๆ ที่โซฟาหน้าทีวีซึ่งนั่งข้างๆ มิเกล
“เกลไม่กลับไปค่ะ”
“เกลจะทำงานหาเงินมาคืนพี่โฬมทุกบาททุกสตางค์ไม่ต้องห่วง”
“เรื่องของเกลค่ะ แค่นี้นะคะ”
มิเกลถอนหายใจหนักๆ เกิดอาการหนักใจไม่น้อย เพราะโฬมทวงบุญคุณไม่ว่าจะเป็นค่าเทอมที่เขาเคยจ่ายให้ สองเทอมก็เกือบสองแสน เท่ากับว่าตอนนี้เธอเป็นหนี้และต้องหาเงินมาคืนโฬมเพื่อจะได้หลุดพ้นต่อกันสักที ไม่ใช่ว่ามิเกลไม่เสียใจ ก่อนหน้านั้นที่จะเกิดเรื่องโฬมดีกับมิเกลทุกอย่าง เธอรักและไว้ใจ แต่ไม่คิดเลยคนที่ไว้ใจสุดท้ายร้ายที่สุด และพึงระลึกได้ว่าชีวิตคนต้องเดินต่อไป อย่าจมกับความเสียใจนาน
“มีอะไร”
“คือ...”
“เธอเป็นหนี้ใคร”
“พี่โฬมค่ะ”
“มันคือ?”
“ฟะ แฟนเก่าเกลค่ะ” เ
มื่อมิเกลพูดชื่อนี้ พอลเกิดอาการไม่พอใจทันที สีหน้าบึ้งตึงที่เก็บซ่อนไม่มิด แววตาเรียบนิ่งแบบนั้น ดูก็รู้ว่าไม่สบอารมณ์
“เตรียมมื้อเย็นที่ห้องฉัน”
พี่พอลพูดแค่นั้นก็เดินหุนหันไปทันที ฉันงงนะ เมื่อกี้ยังคุยดีๆ กันอยู่เลย พี่เขาเป็นอะไรไป แต่ฉันมีคำถามคำถามหนึ่งที่อยากถามให้หายสงสัย ฉันจึงรีบวิ่งตามพี่พอลไปทันที
“พี่พอล เกลมีเรื่องจะถามค่ะ”
“...”
“เอ่อคือ…”
“จะถามอะไรก็ถามอย่าลีลา”
“เอ่อ เกลจะถามว่า พี่พอลมีแฟนหรือเปล่าคะ”
“ฉันโสด”
“...”
“โสดมากด้วย”
“...”
โอเคโสดก็โสด ทำไมต้องโสดมากด้วย ที่ฉันถามแบบนั้นเป็นเพราะว่าการที่ฉันมาอยู่ที่นี่ มารบกวนพี่พอลแบบนี้ ไม่มีแฟนคนไหนใจกว้างพอที่ยังยอมรับได้หรอกนะ ฉันถามเพราะกลัวว่าจะโดนแฟนของพี่พอลตบน่ะสิ ว่าแต่แล้วผู้หญิงคนนั้นที่ชื่อพิชชี่ล่ะ คนที่รอพี่พอลไปทานข้าวด้วย หรือพี่พอลจะโกหกฉัน ฉันไม่อยากมีปัญหากับใครนะ ไม่พร้อมจริงๆ ฉันเป็นแค่เด็กจนๆ คนนึงที่มาตามความฝัน อยากเรียนที่กรุงเทพฯ อยากเอาใบปริญญาไปฝากยายตามที่ตั้งใจไว้ก็เท่านั้น ชีวิตฉันขอแค่นี้จริงๆ
✨✨✨ตอนพิเศษ1 ปีผ่านไปแน่นอนว่ามิเกลเริ่มทานยาบำรุงครรภ์ตามคำสั่งของคุณแม่เรียบร้อยแล้ว ท่านนับวันถอยหลังรอ คาดหวังว่าลูกชายของตัวเองจะมีน้ำยาพอที่ยิงเป้าทีเดียวได้ผลเลย และสุดท้ายก็เป็นจริง มิเกลท้องตอนเรียนจบพอดี เธออาจจะไม่มีโอกาสได้รับปริญญาพร้อมกับเพื่อนๆ เพราะตอนนั้นคงท้องแก่ ไม่ก็คงคลอดลูกแล้วและอยู่ในช่วงเลี้ยงเจ้าก้อนน้อยเรื่องทั้งหมดนี้ มิเกลได้ปรึกษาและขออนุญาตยายจ๋าก่อนแล้ว ซึ่งยายจ๋าเองก็ดีใจมาก ท่านแล้วแต่เกลจะตัดสินใจเลย ยายจ๋าเชื่อมั่นในตัวหลานสาวสุดที่รักเสมอว่า มิเกลเป็นคนที่ใฝ่ดี เลือกสิ่งที่ดีให้กับตัวเอง การที่มิเกลตัดสินใจเรื่องอะไรสักอย่าง ยายจ๋าเชื่อมั่นเสมอ และในตอนนี้เป็นเรื่องที่มิเกลต้องสร้างครอบครัว ยายจ๋าเคารพการตัดสินใจทุกอย่าง เพราะพอลเป็นคนดี ครอบครัวของพอลก็เป็นคนดี กลับกัน หากคนที่มิเกลเลือกคบเป็นคนที่ไม่ดี เรื่องนี้ยายจะขอยุ่งและห้ามมิเกลแน่นอน“เป็นยังไงบ้างคะพี่พอล” “ไม่ไหวอ่ะเกล พี่เวียนหัว”“พี่พอลนั่งก่อนนะคะ เกลไปทำน้ำส้มคั้นให้ค่ะ”ตอนนี้กลายเป็นว่าคนท้องต้องดูแลว่าที่คุณพ่อแทน มิเกลตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว แต่ยังแข็งแรงคล่องตัวเหมือนเดิม และ
Ep.39 โอบกอดด้วยรักข่าวซุบซิบหนาหูในมหาวิทยาลัยที่พอลและมิเกลกลับมาคืนดีกัน แน่นอนว่าการกลับมาคบกันในครั้งนี้ พอลคลั่งรักมิเกลมาก มากจนใครก็อิจฉาตาร้อน หล่อกร้าวใจแบบพอลเป็นผู้ชายในฝันของผู้หญิงหลายคน มิเกลมักจะโดนพอลแสดงความรักใส่บ่อยครั้งทั้งต่อหน้าเพื่อนเขาเอง เขาก็ไม่อาย ก็คนมันคลั่งรักจะให้ทำยังไง พอลไม่อยากเสียดายวันเวลาอีกต่อไปแล้ว รักกันก็แค่แสดงออกต่อกัน เชื่อใจกัน ความเชื่อใจนี่แหละสำคัญที่สุด เขาเจอมาเองกับตัวจนเกือบจะเสียคนที่เขาเองรักมากไป โชคดียังมีบุญเก่าเหลืออยู่บ้างให้ตาสว่างทันเวลา “พี่พอลใกล้เรียนจบแล้ว เกลเหงาแน่เลย”“ให้พี่เรียนเป็นเพื่อนไหม เพื่อนพี่ก็เรียนรอเมียพวกมันอยู่นะ”“ไม่ต้องหรอกค่ะ เกลรู้ว่าความฝันของพี่พอลคืออะไร ฉะนั้นพี่ทำตามความฝันได้เลย”“พี่ห่วงเกลนะ ถ้าเกิดมีใครมาหาเรื่องอีกล่ะ” ก็เพราะว่าพริ้งค์และลูกน้ำยังคงพูดจาเหน็บมิเกลอยู่บ้าง บ้างก็หาเรื่องเดินชนแรงๆ แต่เรื่องนี้ไม่เคยถึงมือมิเกล แคนดี้จัดการตลอด“พี่พอลปล่อยให้เกลได้สู้คนบ้างนะคะ ความจริงเกลก็ไม่ได้กลัวใครเลยด้วยซ้ำ”“ถ้าพูดดีๆ กันไม่ได้ ก็ใช้กำลังซะ เดี๋ยวพี่มาจัดการให้เอง”“แบบที่พี่พ
Ep.38 ฉลองความสุขสมาชิกทั้งหมดต่างก็นั่งดื่มและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน บรรดาสาวๆ ก็เริ่มตาหวาน พูดจายานคาง แม้กระทั่งตอนที่นั่งอยู่ก็นั่งทรงตัวแบบปกติไม่ได้ นั่งเอนตัวไปเอนตัวมาจนแฟนหนุ่มข้างกายต้องคองประคองไว้ในระหว่างนั้น พอลมีความรู้สึกว่ากำลังถูกใครสักคนจ้องมองอยู่ จึงหันไปมองตามความรู้สึก จึงเห็นโต๊ะข้างๆ ที่อยู่ไม่ไกลมาก ‘พริ้งค์’ ที่นั่งจ้องมองเขาและมิเกลด้วยแววตาอิจฉาอย่างเห็นได้ชัด ส่วนคนข้างๆ ก็เป็นลูกน้ำที่ควงผู้ชายคนใหม่มาด้วย ลูกน้ำเลิกรากับโฬมตั้งแต่ที่รู้ว่าโฬมวางแผนหลอกล่อมิเกล จนรู้เพิ่มเติมว่าทางบ้านของโฬมมีปัญหาเรื่องการเงิน ลูกน้ำจึงเลือกที่จะทิ้งโฬมไปคบคนใหม่ “พี่พอลมองอะไรคะ”มิเกลถามแต่ก็มองตามสายตาของพอลไป จนกระทั่งได้สบตากับสายตาอิจฉาริษยาที่มองมายังมิเกล“โอ๊ะ นางมองเกลจนตาลุกเป็นไฟเลยค่ะ”“ยังไง”“โด่ว ตาร้อนไงพี่พอล อิจฉาตาร้อนง่ะ ไม่เข้าใจวัยรุ่นเลย”“เมาแล้วพูดมากนะ ระวังจะโดนพี่สั่งสอน”“คิก~ น่ากลัวจังเลยนะคะ เกลกลัวจนตัวสั่น”“กลับเลยไหม จะได้ตัวสั่นอย่างที่พูด”“เฮ้ยๆ สองคนนี้ซุบซิบอะไรกันสองคน คุยกับคนอื่นบ้าง”… “อย่าเพิ่งกลับนะเว้ย ยังสนุกกันอยู่
Ep.37 โลกทั้งใบของมิเกลหอพักแอนนาแมนชั่นวันนี้พอลชวนมิเกลมาลาป้าแอนนาเพื่อจะกลับไปอยู่กับเขาตามเดิม พร้อมทั้งเตรียมลูกน้องสามคนช่วยกันขนย้ายเสื้อผ้าและสิ่งของทุกอย่างให้มิเกล พอลตั้งใจจะซื้อทุกอย่างให้ใหม่ทั้งหมด จะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการขนย้าย แต่ความประหยัดของมิเกลที่ยื่นคำขาดกับพอลว่า… หัดใช้เงินให้เป็นประโยชน์บ้างนะ เงินมันมีค่ามาก พอลถึงกับอึ้ง นี่เมียตัวน้อยกล้าสอนเขาแบบนี้แล้วเหรอ แต่นี่แหละคือธรรมชาติของมิเกล เป็นคนประหยัดและขยันมาก ไม่เคยหวังรวยทางลัดด้วยซ้ำ ทั้งที่เขาเองก็สามารถเปย์ได้ทุกอย่าง อยากได้อะไรแค่ชี้นิ้วบอก แต่มิเกลไม่เคยทำแบบนั้น พอลไม่กล้าซื้ออะไรเป็นการเซอร์ไพรส์อีกแล้วเพราะมิเกลเคยดุเขาว่าใช้เงินเปลือง ทำอะไรไม่เคยปรึกษา ก็ได้แต่ก้มหน้ารับฟังในสิ่งที่เมียดุ แต่ลึกๆ ก็รู้สึกภูมิใจในตัวมิเกลมาก ยายจ๋าของเธอเลี้ยงหลานมาได้เป็นอย่างดีและเติบโตมาอย่างมีคุณภาพจริงๆ นี่แหละแม่ของลูกที่เขาต้องการ ไม่ต้องบ้านรวย ไม่ต้องลูกคุณหนู เขาชอบที่มิเกลแบบนี้ นับตั้งแต่วันแรกที่เจอกันวันคืนฝนพรำ“ป้าแอน เกลลานะคะ ขอบคุณทุกการช่วยเหลือตลอดเวลาที่ผ่านมา เกลจะไม่ลืมบุญคุณเลยค่ะ”
Ep.36 อุ๋งอุ๋งของมิเกล“เกลขอตัวกลับก่อนนะคะ”“พี่ไม่ให้กลับ กลับทำไม ใครอนุญาต”“อย่ามาขึ้นเสียงใส่เกลนะ”“ก็พี่บอกแล้วไง ว่าจะไม่ให้เกลห่างจากพี่อีกแล้ว”พอลพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูอ่อนโยนขึ้น คำพูดก่อนหน้านั้นเขาเผลอลืมตัว ด้วยความที่ไม่ทันตั้งตัวแล้วมิเกลมาบอกว่าจะกลับ เขาจึงเผลอพูดจาด้วยน้ำเสียงที่ไม่น่าฟังเท่าไหร่นัก แต่เมื่อรู้ว่าตัวเองนั้นมีความผิดติดตัวอยู่ ก็ต้องยอมคนตัวเล็กไปก่อน คืนนี้ค่อยกำราบก็ยังไม่สาย“เกลไม่มีชุดใส่ค่ะ เกลไม่ได้เอาอะไรมาเลย”“มีแค่ตัวกับหัวใจก็เพียงพอแล้วครับ”“น้ำเน่า”“กลับมาครั้งนี้ ปากแซ่บดีนะ”“ก็ไม่ได้แซ่บแค่ปากนะคะ”ให้ตายเถอะ ฉันเผลอพูดอะไรออกไป ความจริงฉันไม่ได้หมายความอย่างที่พี่พอลกำลังเข้าใจนะ มันเหมือนเป็นการเปิดทางให้พี่พอลคิดในทางทะลึ่ง เพราะแววตามันฟ้องจนรู้ว่าพี่พอลกำลังคิดอะไรอยู่ แววตาที่มองมาแบบนั้น ค่อยๆ สะกดฉันให้ลุ่มหลงเขา นี่มันท่าไม้ตายของพี่พอลชัดๆ“อื้มมม นั่นสินะ”… “งั้นก็ต้องพิสูจน์”“ว๊าย” ไม่รอช้าพี่พอลอุ้มฉันพาดบ่าแล้วไปยังห้องนอนที่คุ้นเคยทันที… “พี่พอล หยุดเดี๋ยวนี้นะ เกลบอกแล้วไงคะว่ารอไปก่อน”“เกลพูดอะไรนะ พี่ไม่ค่
Ep.35 ขอบคุณและขอโทษ“สวัสดีค่ะ อุ๋งอุ๋งของมิเกล”“...”“เบบี๋กลับมาให้ง้อ และกลับมาให้อุ๋งอุ๋งรักค่ะ”พรึบ!มิเกลโดนกระชากข้อมือให้เข้ามาในห้อง หลังจากที่ปิดประตูจนสนิท พอลไม่รอช้าโผเข้ากอดคนตัวเล็กทันที เขารู้สึกเหมือนหยาดฝนที่ชุ่มฉ่ำตกกระทบหัวใจที่แห้งแล้ง หัวใจเต็มอิ่มไปด้วยความอิ่มเอิบและรู้สึกหัวใจมันพองโตมิเกลโอบกอดแผ่นหลังแน่นไม่ต่างกัน ความรัก ความคิดถึง ความโหยมันไม่เคยลดลงเลยสักนิด ยิ่งนานวัน ก็ยิ่งรัก ยิ่งคิดถึง ยิ่งโหยหา แต่ในขณะเดียวมันก็เจ็บและทรมานใจ วันนี้ทั้งสองต่างก็ได้รับคนที่เป็นดั่งหัวใจของตัวเองกลับคืน แม้ไม่มีคำพูดที่น่าฟังมากมาย แต่การกระทำทุกอย่างมันชัดเจนเป็นร้อยเท่ากลิ่นคนรักที่คุ้นเคย กลิ่นกายที่อบอุ่น แค่สูดดมก็ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและหายเหนื่อยได้อย่างมหัศจรรย์ ร่างกายทั้งสองคนกอดกันอย่างแนบชิด กอดที่เหมือนผ้าห่มนุ่มคลุมกายให้หายหนาวเย็น กอดที่รู้สึกปลอดภัย อ้อมกอดนี้เท่านั้นที่ต่างก็ต้องการกันและกัน“เบบี๋ พี่ขอโทษ”“ไม่ต้องขอโทษเกลหรอกนะ เกลเองต่างหากที่ต้องขอบคุณพี่พอลที่ช่วยเหลือเกลมาตลอด”“...” พี่พอลทำหน้าตาสงสัย เขาคงยังไม่รู้ว่าฉันรู้ความจริงทุกอ