Ep.5 เบบี๋ขาของพอล
“ถามฉันว่าโสดไหม ฉันคิดนะ”
“อ่อนไหวจังเลยนะคะ”
“ใช่ ไม่เคยได้ยินเหรอ คนของขาดมักอ่อนไหว”
“มะ มะ ไม่เคยค่ะ”
ฉันพูดลิ้นพันกันจนได้ยินชัด จะไม่ให้ตกใจได้ยังไงพี่พอลชอบพูดจาแบบนี้ ชอบพูดทะลึ่ง ฉันคิดถูกหรือเปล่านะที่ไว้ใจคนแปลกหน้าคนนี้ พอฉันปฏิเสธไปแบบนั้น ฉันได้ยินเสียงหัวเราะในลำคออีกด้วย ขี้แกล้งอะ
“เอาเบอร์เธอมา ฉันจะออกไปข้างนอก เดี๋ยวให้คนมาส่งวัตถุดิบให้ ฉันจะโทรบอกเธอให้ลงไปรับของด้านล่าง แล้วนี่… คีย์การ์ดห้องฉัน”
“ค่ะ นี่ค่ะเบอร์ของเกล”
ฉันยื่นโทรศัพท์ให้คนตรงหน้า ในหน้าจอฉันกดเบอร์ของตัวเองไว้แล้วส่งโทรศัพท์ให้พี่พอล เบอร์ฉันถ้ากดบันทึกแล้วมันจะเพิ่มเพื่อนในไลน์ให้ด้วยเลยเพราะฉันผูกไว้กับเบอร์โทรฯ
.
.
เมื่อทั้งสองคนแลกเบอร์โทรศัพท์กันเรียบร้อยแล้ว พอลก็เดินเข้าห้องของตัวเองทันที เขานั่งเอนตัวพิงโซฟาตัวยาวด้วยท่าทางสบายใจ พร้อมกับนั่งผิวปากอย่างอารมณ์ดี มือหนาหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาพร้อมกับรัวนิ้วกดบันทึกชื่อของมิเกลว่า ‘เบบี๋เกล’ เพราะเขาปักธงในใจไว้แล้วว่าอนาคตมิเกลต้องเป็น ‘เบบี๋ขาของพอล’ อย่างแน่นอน
ผ่านไปเกือบชั่วโมงพอลส่งข้อความมาบอกมิเกลไว้ว่า วัตถุดิบทุกอย่างมาถึงแล้ว เมื่อมิเกลลงไปด้านล่าง มีพนักงานผู้หญิงของคอนโดยืนรออยู่เพื่อช่วยถือของต่างๆ ให้มิเกลและไปส่งยังหน้าห้อง เพราะของที่พอลให้คนไปซื้อมาให้ค่อนข้างเยอะมาก มีทั้งอาหารสด อาหารสำเร็จรูป ขนม นม ผลไม้ เมื่อมิเกลจัดของทุกอย่างไว้ในห้องของตัวเองบางส่วนเรียบร้อยแล้ว เธอจึงนำของที่เหลือไปเก็บในห้องของพอล และเริ่มทำอาหารรอทันที
.
.
“โห ตู้เย็นใหญ่มาก เอ๊ะ มีสองตู้เลยเหรอ”
ครั้งก่อนที่มิเกลมาห้องของพอล เธอไม่ได้เดินเข้ามาในห้องครัวเลย ก็เลยไม่รู้ว่าห้องครัวของพอลใหญ่มาก มีอุปกรณ์ทำครัวครบครันราวกับว่าพอลทำอาหารทานเอง แต่ความจริงแล้วแม่ของพอลต่างหากที่ชอบซื้อไว้ให้ เวลาท่านมาเยี่ยมท่านจะชอบทำอาหารให้ลูกชายทานเองมากกว่า
พอลมีตู้เย็นแยกสำหรับเก็บ น้ำ ขนม นม และเบียร์ ส่วนใหญ่จะเน้นเบียร์มากกว่า เพราะมันคือสิ่งที่สามารถทำให้เขานอนหลับได้ในทุกคืน ส่วนอีกตู้จะเป็นพวกอาหารสดและอาหารแช่แข็ง เมื่อมิเกลสำรวจจนเข้าใจแล้วว่าพอลมีการแยกประเภทไว้ เธอไม่รีรอจึงเก็บของต่างๆ เข้าตู้เย็นทันที
“ทำอะไรกินดีนะ”
ครืด ~~ ครืด ~~
ในระหว่างที่มิเกลกำลังคิดเมนูอยู่นั้นก็มีเสียงโทรศัพท์แทรกเข้ามา
“ฮัลโหล ยัยแคนดี้”
(เสียงใสเชียวนะเกล ไม่เหมือนคนอกหักเลย)
ก่อนหน้านั้น มิเกลเล่าให้แคนดี้ฟังผ่านๆ ทางข้อความ เนื่องจากแคนดี้เองมีธุระต้องไปจังหวัดสามวัน เป็นช่วงเวลาที่มิเกลพบปัญหาพอดี แคนดี้จึงไม่สามารถช่วยเหลือมิเกลได้ในตอนนั้น ไม่งั้นเธอคงโทรหาให้แคนดี้มารับเธอแล้ว แคนดี้ถือว่าเป็นเพื่อนรักของมิเกลได้เลย สามารถไว้ใจได้ทุกอย่าง ปกติแล้วจะเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันสามคนส่วนอีกคนนั่นก็คือลูกน้ำ แต่พอเจอเรื่องแบบนี้เข้าไป แน่นอนว่าแคนดี้ยืนอยู่ข้างมิเกล เธอพร้อมตัดเพื่อนกับลูกน้ำทันที เพราะสิ่งที่ลูกน้ำทำกับมิเกลมันมากเกินไป ความจริงตอนที่ลูกน้ำขอเข้ามาอยู่ด้วยในกลุ่มเดียวกัน แคนดี้เคยแอบเตือนมิเกลอยู่บ่อยครั้งว่าลูกน้ำไม่น่าไว้ใจ เซ้นส์ของเธอมันบอกแบบนั้นว่านิสัยก็ต่างกับมิเกลและแคนดี้มาก แต่มิเกลมองโลกในแง่ดี จึงบอกแคนดี้ลองคบกันดูก่อน และสุดท้ายสิ่งที่แคนดี้เตือนก็เป็นความจริง แต่มันเกินคาดไปไกลมากก็ตรงที่มาหักหลังมิเกลโดยการมาคบกับแฟนเก่าของมิเกลนั่นเอง
“ก็เสียใจอยู่นะ แต่ไม่มีเวลาให้เสียใจนานหรอก เพราะชีวิตมันต้องเดินต่อไป”
(ชีเริ่ดจ้า ได้ยินแบบนี้ฉันค่อยสบายใจหน่อย คิดว่าแกจะร้องไห้ฟูมฟายซะอีก)
“นั่นสิ ต้องแรกเราก็คิดว่าเราต้องเสียใจมากแน่ๆ”
(ดีแล้วยัยเกล แล้วนี่แกพักที่ไหน ถ้าไม่ได้อยู่กับไอ้พี่โฬมแล้ว แกเป็นไงบ้างลำบากหรือเปล่า)
“สามวันที่ผ่านมาเกิดเรื่องขึ้นเยอะแยะเลย แต่นับว่าเป็นความโชคดีของเรานะ พรุ่งนี้ไปมหาลัยเดี๋ยวเราเล่าให้ฟัง”
(งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะยัยเกล)
“โอเค บ๊ะบายนะแคนดี้”
หลังจากวางสายมิเกลก็คิดเมนูของมื้อเย็นสามเมนูนั่นก็คือ หมูสามชั้นทอดน้ำปลา แกงส้มชะอมไข่ใส่กุ้งและเมนูสุดท้ายคือผัดผักรวมใส่หมูนุ่ม
มิเกลจัดการหมักหมู แกะเปลือกกุ้ง หั่นผักและอื่นๆ ด้วยความคล่องแคล่วและเพลิดเพลิน อย่างที่เคยบอกไว้ว่ายายของเธอขายข้าวแกงส่งเธอเรียน เป็นลูกหลานแม่ค้า แน่นอนว่าการทำอาหารของมิเกลนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แถมยังทำอาหารได้อร่อยอีกด้วย
ในระหว่างที่กำลังหมักหมูอยู่นั้นต้องรอเวลาให้น้ำหมักซึมเข้าสู่เนื้อหมู เธอจึงหุงข้าวรอ แต่ทว่า หม้อหุงข้าวที่อยู่ตรงหน้าเธอมันเป็นรุ่นดิจิตอล ไม่เหมือนเหมือนหุงข้าวแบบที่ใช้ทั่วไป
“ใช้ยังไงเนี่ย”
… “แย่แล้วมิเกลเอ้ย”
พรึบ!
“อ๊ะ”
… “พี่พอล!”
“กดตรงนี้”
พอลยืนซ้อนด้านหลังมิเกล หากมีคนมองมาก็จะเข้าใจได้ว่า พอลสวมกอดมิเกลจากทางด้านหลัง แผ่นหลังบางแนบชิดกับอกแกร่งจนมิเกลไม่สามารถขยับตัวได้ เธอยืนตัวเกร็งทั้งตกใจและรู้สึกตื่นเต้นแปลกๆ
พอลไม่ได้เข้ามาเงียบๆ แต่เป็นมิเกลเองต่างหากที่เพลิดเพลินกับการทำอาหารจนไม่ได้ยินเสียงเปิดประตู เขายืนมองอยู่สักพักใหญ่แล้ว มิเกลก็ยังไม่รู้ตัว จนกระทั่งเห็นเธอสับสนกับการใช้หม้อหุงข้าว พอลก็เลยเดินเข้าไปสัมผัสตัวเธอแบบเนียนๆ
หอม กลิ่นตัวมิเกลมันช่างหอมจนเขาอยากยืนแนบชิดอยู่แบบนั้นไปเรื่อยๆ
“ถะ ถอยออกไปก่อนค่ะ”
“ฉันกำลังสอนเธออยู่”
“เสร็จแล้วค่ะ เกลใช้เป็นแล้ว”
“หอม…”
“พี่พอลหอมอะไรคะ เกลยังทำอาหารไม่เสร็จเลยนะ”
“ไม่รู้ แต่หอม…”
หอมของพอลกับหอมของมิเกลมันต่างคนต่างความหมาย มิเกลตัวหอมมาก หอมยันเส้นผมของเธอ พอลได้กลิ่นทีไรรู้สึกผ่อนคลายทุกที
พอลอยู่ช่วยมิเกลทำอาหารจนเสร็จเรียบร้อย และตอนนี้ทั้งสองก็รับประทานอาหารด้วยกันที่โต๊ะทานข้าว
ทั้งสองต่างก็ทานข้าวกันเงียบๆ มีบ้างที่อีกคนเผลอ อีกคนก็แอบมอง แต่คนที่จ้องมองคนตรงหน้านานหน่อยก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจากพอล ใบหน้านิ่งเหมือนคนดุแต่ใจดีแบบนั้นมิเกลเริ่มค่อยๆ ปรับตัวชิน แต่ก็มีบางครั้งที่ตกใจไปบ้างที่พอลชอบถึงเนื้อถึงตัวเธอ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกถึงอันตรายอะไร อย่างที่เคยบอกไว้ เธอไว้ใจเขาโดยไม่มีสาเหตุ ไว้ใจโดยไม่มีเงื่อนไขอะไรทั้งนั้นทั้งที่เพิ่งเจอกันด้วยซ้ำ
“พรุ่งนี้ไปเรียนพร้อมฉัน”
“ไม่เป็นไรค่ะ เกลไปเองได้ค่ะ”
“จะไปเองทำไมในเมื่อฉันก็ต้องไปเรียนอยู่แล้ว”
“ทางผ่านเหรอคะ”
“ฉันเรียนที่เดียวกับเธอ”
“...” ฉันไม่เคยรู้เลย แต่ก็เพราะพี่พอลไม่เคยบอก ว่าไปก็บังเอิญดีนะ
“เธอเรียนคณะอะไร”
“บริหารค่ะ”
“อืม ส่งตารางเรียนของเธอมาให้ฉันด้วย”
“ต้องให้ด้วยเหรอ” มิเกลถามตาใส เธอก็แค่งงว่าทำไมต้องให้ด้วย
“ตอนนี้ถือว่าฉันเป็นผู้ปกครองเธอ”
“...”
“ค่าขนม ค่าเทอม อยากได้อะไรก็มาเอากับฉัน”
“ว่าไงนะคะ”
“ฉันหมายความตามที่พูด”
“มะ ไม่เป็นไรค่ะ เกลจะหางานทำหลังเลิกเรียนค่ะ เกลอยากหาเงินด้วยตัวเอง” ฉันว่ามันฟังดูแปลกๆ แบบพี่พอลถ้าจะเชื่ออะไรสักอย่างต้องเอามาหารสิบหารร้อย เชื่อไม่ได้เพราะเขาชอบพูดจาทะลึ่ง และที่ฉันบอกว่าอยากทำงาน เพราะฉันไม่ได้อยากรบกวนพี่พอล ที่ผ่านมาเขาช่วยเหลือฉันมาเยอะมากแล้ว
“ไม่ต้อง”
“...”
“มันกระทบอาหารมื้อเย็นของฉัน”
… “ขาดเหลืออะไรฉันให้เงินเธอเอง”
“เปลี่ยนเป็นยืมได้ไหมคะ แบบนั้นเกลสบายใจกว่า”
“เรื่องมาก”
“เกลอยากทำงานค่ะ มีงานช่วยรุ่นพี่ถ่ายแบบ เป็นงานที่นานๆ จะมีสักครั้ง เกลอยากทำเพราะอยากส่งเงินให้คุณยายค่ะ”
“ดื้อชะมัด”
“ไม่ได้ดื้อค่ะคุณพ่อ” ก็ในเมื่อพี่พอลบอกว่าเป็นผู้ปกครองฉัน งั้นขอเรียกพ่อเลยก็แล้วกัน
“...”
✨✨✨
ตอนพิเศษ1 ปีผ่านไปแน่นอนว่ามิเกลเริ่มทานยาบำรุงครรภ์ตามคำสั่งของคุณแม่เรียบร้อยแล้ว ท่านนับวันถอยหลังรอ คาดหวังว่าลูกชายของตัวเองจะมีน้ำยาพอที่ยิงเป้าทีเดียวได้ผลเลย และสุดท้ายก็เป็นจริง มิเกลท้องตอนเรียนจบพอดี เธออาจจะไม่มีโอกาสได้รับปริญญาพร้อมกับเพื่อนๆ เพราะตอนนั้นคงท้องแก่ ไม่ก็คงคลอดลูกแล้วและอยู่ในช่วงเลี้ยงเจ้าก้อนน้อยเรื่องทั้งหมดนี้ มิเกลได้ปรึกษาและขออนุญาตยายจ๋าก่อนแล้ว ซึ่งยายจ๋าเองก็ดีใจมาก ท่านแล้วแต่เกลจะตัดสินใจเลย ยายจ๋าเชื่อมั่นในตัวหลานสาวสุดที่รักเสมอว่า มิเกลเป็นคนที่ใฝ่ดี เลือกสิ่งที่ดีให้กับตัวเอง การที่มิเกลตัดสินใจเรื่องอะไรสักอย่าง ยายจ๋าเชื่อมั่นเสมอ และในตอนนี้เป็นเรื่องที่มิเกลต้องสร้างครอบครัว ยายจ๋าเคารพการตัดสินใจทุกอย่าง เพราะพอลเป็นคนดี ครอบครัวของพอลก็เป็นคนดี กลับกัน หากคนที่มิเกลเลือกคบเป็นคนที่ไม่ดี เรื่องนี้ยายจะขอยุ่งและห้ามมิเกลแน่นอน“เป็นยังไงบ้างคะพี่พอล” “ไม่ไหวอ่ะเกล พี่เวียนหัว”“พี่พอลนั่งก่อนนะคะ เกลไปทำน้ำส้มคั้นให้ค่ะ”ตอนนี้กลายเป็นว่าคนท้องต้องดูแลว่าที่คุณพ่อแทน มิเกลตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว แต่ยังแข็งแรงคล่องตัวเหมือนเดิม และ
Ep.39 โอบกอดด้วยรักข่าวซุบซิบหนาหูในมหาวิทยาลัยที่พอลและมิเกลกลับมาคืนดีกัน แน่นอนว่าการกลับมาคบกันในครั้งนี้ พอลคลั่งรักมิเกลมาก มากจนใครก็อิจฉาตาร้อน หล่อกร้าวใจแบบพอลเป็นผู้ชายในฝันของผู้หญิงหลายคน มิเกลมักจะโดนพอลแสดงความรักใส่บ่อยครั้งทั้งต่อหน้าเพื่อนเขาเอง เขาก็ไม่อาย ก็คนมันคลั่งรักจะให้ทำยังไง พอลไม่อยากเสียดายวันเวลาอีกต่อไปแล้ว รักกันก็แค่แสดงออกต่อกัน เชื่อใจกัน ความเชื่อใจนี่แหละสำคัญที่สุด เขาเจอมาเองกับตัวจนเกือบจะเสียคนที่เขาเองรักมากไป โชคดียังมีบุญเก่าเหลืออยู่บ้างให้ตาสว่างทันเวลา “พี่พอลใกล้เรียนจบแล้ว เกลเหงาแน่เลย”“ให้พี่เรียนเป็นเพื่อนไหม เพื่อนพี่ก็เรียนรอเมียพวกมันอยู่นะ”“ไม่ต้องหรอกค่ะ เกลรู้ว่าความฝันของพี่พอลคืออะไร ฉะนั้นพี่ทำตามความฝันได้เลย”“พี่ห่วงเกลนะ ถ้าเกิดมีใครมาหาเรื่องอีกล่ะ” ก็เพราะว่าพริ้งค์และลูกน้ำยังคงพูดจาเหน็บมิเกลอยู่บ้าง บ้างก็หาเรื่องเดินชนแรงๆ แต่เรื่องนี้ไม่เคยถึงมือมิเกล แคนดี้จัดการตลอด“พี่พอลปล่อยให้เกลได้สู้คนบ้างนะคะ ความจริงเกลก็ไม่ได้กลัวใครเลยด้วยซ้ำ”“ถ้าพูดดีๆ กันไม่ได้ ก็ใช้กำลังซะ เดี๋ยวพี่มาจัดการให้เอง”“แบบที่พี่พ
Ep.38 ฉลองความสุขสมาชิกทั้งหมดต่างก็นั่งดื่มและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน บรรดาสาวๆ ก็เริ่มตาหวาน พูดจายานคาง แม้กระทั่งตอนที่นั่งอยู่ก็นั่งทรงตัวแบบปกติไม่ได้ นั่งเอนตัวไปเอนตัวมาจนแฟนหนุ่มข้างกายต้องคองประคองไว้ในระหว่างนั้น พอลมีความรู้สึกว่ากำลังถูกใครสักคนจ้องมองอยู่ จึงหันไปมองตามความรู้สึก จึงเห็นโต๊ะข้างๆ ที่อยู่ไม่ไกลมาก ‘พริ้งค์’ ที่นั่งจ้องมองเขาและมิเกลด้วยแววตาอิจฉาอย่างเห็นได้ชัด ส่วนคนข้างๆ ก็เป็นลูกน้ำที่ควงผู้ชายคนใหม่มาด้วย ลูกน้ำเลิกรากับโฬมตั้งแต่ที่รู้ว่าโฬมวางแผนหลอกล่อมิเกล จนรู้เพิ่มเติมว่าทางบ้านของโฬมมีปัญหาเรื่องการเงิน ลูกน้ำจึงเลือกที่จะทิ้งโฬมไปคบคนใหม่ “พี่พอลมองอะไรคะ”มิเกลถามแต่ก็มองตามสายตาของพอลไป จนกระทั่งได้สบตากับสายตาอิจฉาริษยาที่มองมายังมิเกล“โอ๊ะ นางมองเกลจนตาลุกเป็นไฟเลยค่ะ”“ยังไง”“โด่ว ตาร้อนไงพี่พอล อิจฉาตาร้อนง่ะ ไม่เข้าใจวัยรุ่นเลย”“เมาแล้วพูดมากนะ ระวังจะโดนพี่สั่งสอน”“คิก~ น่ากลัวจังเลยนะคะ เกลกลัวจนตัวสั่น”“กลับเลยไหม จะได้ตัวสั่นอย่างที่พูด”“เฮ้ยๆ สองคนนี้ซุบซิบอะไรกันสองคน คุยกับคนอื่นบ้าง”… “อย่าเพิ่งกลับนะเว้ย ยังสนุกกันอยู่
Ep.37 โลกทั้งใบของมิเกลหอพักแอนนาแมนชั่นวันนี้พอลชวนมิเกลมาลาป้าแอนนาเพื่อจะกลับไปอยู่กับเขาตามเดิม พร้อมทั้งเตรียมลูกน้องสามคนช่วยกันขนย้ายเสื้อผ้าและสิ่งของทุกอย่างให้มิเกล พอลตั้งใจจะซื้อทุกอย่างให้ใหม่ทั้งหมด จะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการขนย้าย แต่ความประหยัดของมิเกลที่ยื่นคำขาดกับพอลว่า… หัดใช้เงินให้เป็นประโยชน์บ้างนะ เงินมันมีค่ามาก พอลถึงกับอึ้ง นี่เมียตัวน้อยกล้าสอนเขาแบบนี้แล้วเหรอ แต่นี่แหละคือธรรมชาติของมิเกล เป็นคนประหยัดและขยันมาก ไม่เคยหวังรวยทางลัดด้วยซ้ำ ทั้งที่เขาเองก็สามารถเปย์ได้ทุกอย่าง อยากได้อะไรแค่ชี้นิ้วบอก แต่มิเกลไม่เคยทำแบบนั้น พอลไม่กล้าซื้ออะไรเป็นการเซอร์ไพรส์อีกแล้วเพราะมิเกลเคยดุเขาว่าใช้เงินเปลือง ทำอะไรไม่เคยปรึกษา ก็ได้แต่ก้มหน้ารับฟังในสิ่งที่เมียดุ แต่ลึกๆ ก็รู้สึกภูมิใจในตัวมิเกลมาก ยายจ๋าของเธอเลี้ยงหลานมาได้เป็นอย่างดีและเติบโตมาอย่างมีคุณภาพจริงๆ นี่แหละแม่ของลูกที่เขาต้องการ ไม่ต้องบ้านรวย ไม่ต้องลูกคุณหนู เขาชอบที่มิเกลแบบนี้ นับตั้งแต่วันแรกที่เจอกันวันคืนฝนพรำ“ป้าแอน เกลลานะคะ ขอบคุณทุกการช่วยเหลือตลอดเวลาที่ผ่านมา เกลจะไม่ลืมบุญคุณเลยค่ะ”
Ep.36 อุ๋งอุ๋งของมิเกล“เกลขอตัวกลับก่อนนะคะ”“พี่ไม่ให้กลับ กลับทำไม ใครอนุญาต”“อย่ามาขึ้นเสียงใส่เกลนะ”“ก็พี่บอกแล้วไง ว่าจะไม่ให้เกลห่างจากพี่อีกแล้ว”พอลพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูอ่อนโยนขึ้น คำพูดก่อนหน้านั้นเขาเผลอลืมตัว ด้วยความที่ไม่ทันตั้งตัวแล้วมิเกลมาบอกว่าจะกลับ เขาจึงเผลอพูดจาด้วยน้ำเสียงที่ไม่น่าฟังเท่าไหร่นัก แต่เมื่อรู้ว่าตัวเองนั้นมีความผิดติดตัวอยู่ ก็ต้องยอมคนตัวเล็กไปก่อน คืนนี้ค่อยกำราบก็ยังไม่สาย“เกลไม่มีชุดใส่ค่ะ เกลไม่ได้เอาอะไรมาเลย”“มีแค่ตัวกับหัวใจก็เพียงพอแล้วครับ”“น้ำเน่า”“กลับมาครั้งนี้ ปากแซ่บดีนะ”“ก็ไม่ได้แซ่บแค่ปากนะคะ”ให้ตายเถอะ ฉันเผลอพูดอะไรออกไป ความจริงฉันไม่ได้หมายความอย่างที่พี่พอลกำลังเข้าใจนะ มันเหมือนเป็นการเปิดทางให้พี่พอลคิดในทางทะลึ่ง เพราะแววตามันฟ้องจนรู้ว่าพี่พอลกำลังคิดอะไรอยู่ แววตาที่มองมาแบบนั้น ค่อยๆ สะกดฉันให้ลุ่มหลงเขา นี่มันท่าไม้ตายของพี่พอลชัดๆ“อื้มมม นั่นสินะ”… “งั้นก็ต้องพิสูจน์”“ว๊าย” ไม่รอช้าพี่พอลอุ้มฉันพาดบ่าแล้วไปยังห้องนอนที่คุ้นเคยทันที… “พี่พอล หยุดเดี๋ยวนี้นะ เกลบอกแล้วไงคะว่ารอไปก่อน”“เกลพูดอะไรนะ พี่ไม่ค่
Ep.35 ขอบคุณและขอโทษ“สวัสดีค่ะ อุ๋งอุ๋งของมิเกล”“...”“เบบี๋กลับมาให้ง้อ และกลับมาให้อุ๋งอุ๋งรักค่ะ”พรึบ!มิเกลโดนกระชากข้อมือให้เข้ามาในห้อง หลังจากที่ปิดประตูจนสนิท พอลไม่รอช้าโผเข้ากอดคนตัวเล็กทันที เขารู้สึกเหมือนหยาดฝนที่ชุ่มฉ่ำตกกระทบหัวใจที่แห้งแล้ง หัวใจเต็มอิ่มไปด้วยความอิ่มเอิบและรู้สึกหัวใจมันพองโตมิเกลโอบกอดแผ่นหลังแน่นไม่ต่างกัน ความรัก ความคิดถึง ความโหยมันไม่เคยลดลงเลยสักนิด ยิ่งนานวัน ก็ยิ่งรัก ยิ่งคิดถึง ยิ่งโหยหา แต่ในขณะเดียวมันก็เจ็บและทรมานใจ วันนี้ทั้งสองต่างก็ได้รับคนที่เป็นดั่งหัวใจของตัวเองกลับคืน แม้ไม่มีคำพูดที่น่าฟังมากมาย แต่การกระทำทุกอย่างมันชัดเจนเป็นร้อยเท่ากลิ่นคนรักที่คุ้นเคย กลิ่นกายที่อบอุ่น แค่สูดดมก็ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและหายเหนื่อยได้อย่างมหัศจรรย์ ร่างกายทั้งสองคนกอดกันอย่างแนบชิด กอดที่เหมือนผ้าห่มนุ่มคลุมกายให้หายหนาวเย็น กอดที่รู้สึกปลอดภัย อ้อมกอดนี้เท่านั้นที่ต่างก็ต้องการกันและกัน“เบบี๋ พี่ขอโทษ”“ไม่ต้องขอโทษเกลหรอกนะ เกลเองต่างหากที่ต้องขอบคุณพี่พอลที่ช่วยเหลือเกลมาตลอด”“...” พี่พอลทำหน้าตาสงสัย เขาคงยังไม่รู้ว่าฉันรู้ความจริงทุกอ