Ep.3 ใจดีแค่กับเธอ
เช้าวันถัดมา
10.00 น.
พอลตื่นนอนเพราะเสียงนาฬิกาปลุกที่ดังรบกวน วันนี้เขามีเรียนแค่ช่วงบ่ายก็เลยนอนตื่นสายได้ เมื่อสมองประมวลผลเข้าที่เข้าทางแล้ว ร่างหนาจึงลุกจากที่นอนและเปิดประตูห้องเพื่อมองหาใครอีกคน ทว่า… เงียบ
แกร๊ก…
พอลถือวิสาสะเปิดประตูห้องนอนอีกห้องเพื่อดูว่ามิเกลอยู่ในห้องนอนไหม เพราะตอนนี้ภายในห้องของเขามันเงียบเหมือนเขาอยู่คนเดียว และตอนนี้ก็ได้คำตอบแล้วว่าคนตัวเล็กไม่อยู่แล้ว
พอลเหลือบมองไปยังโต๊ะกระจกปลายเตียงก็พบว่ามีกระดาษโน็ตใบเล็กๆ จำนวนหนึ่งใบที่เขียนด้วยลายมือน่ารักเอาไว้ว่า...
‘เกลขอบคุณที่พอลมากๆ นะคะ ขอขอบคุณที่ช่วยเหลือทุกอย่างเลย ไว้มีโอกาสถ้าเราได้เจอกันอีกครั้ง เกลจะขอตอบแทนพี่พอลคืนบ้างนะคะ’
รอยยิ้มร้ายประดับตรงมุมปาก ตอบแทนเขาคืนงั้นเหรอ ได้สิ เขาจะทำให้เธอติดค้างเขาหลายๆ เรื่องเลยคอยดู หาตัวไม่ยากแน่เพราะเรียนอยู่มหาลัยเดียวกัน เมื่อคืนเธอบอกเขาว่าเรียนที่มหาลัยไหน แต่เขาไม่ได้บอกมิเกลว่าเรียนที่เดียวกัน มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรที่จะต้องบอก ซึ่งพอย้อนนึกกลับไป ก่อนหน้านั้นเขาไม่เคยเห็นมิเกลเลยสักครั้ง ปกติหญิงสาวหน้าตาน่ารัก หรือผู้หญิงหน้าตาสวยๆ มักจะต้องมีพวกผู้ชายพูดถึงกันอยู่แล้ว แต่มิเกลน่ารักขนาดนั้นรอดสายตาพวกนั้นไปได้ยังไง แต่ไม่เป็นไร ต่อไปเขาต้องได้เจอมิเกลอีกแน่นอน
พอลอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ใส่เสื้อยืดสีดำด้านในและสวมเสื้อช็อปสีแดงทับ ก่อนหน้านี้ พอร์ชและแอลโทรนัดเขาให้ไปเจอกันที่ร้านหมาล่าหลังมอเพื่อไปทานมื้อเที่ยงด้วยกันก่อนเข้าเรียนในตอนบ่าย ซึ่งเขาก็รับปากแล้วจะไปเจอกันที่นั่น
คนตัวสูงหยิบกุญแจรถสปอร์ตคันหรู แกว่งกุญแจควงนิ้วพร้อมกับผิวปากอย่างอารมณ์ดี และเดินออกจากห้องไป
พอลขับรถออกจากคอนโดได้เพียงไม่นาน ก็ต้องเบรครถกะทันหัน(อีกแล้ว) เขาจอดเทียบฟุตบาทและบีบแตรเรียกคนตัวเล็กที่นั่งทำหน้าตาน่ารักอยู่ที่ป้ายรถเมล์ และที่บอกว่าเบรครถกะทันหันอีกแล้ว เพราะเจอมิเกลทีไรเขาต้องเบรครถกะทันหันทุกที
พอลลดระดับกระจกรถลงและบีบแตรเรียกมิเกลสองครั้ง จนคนที่ยืนแถวหันมามองเป็นสายตาเดียวกัน คนอื่นมองคงจะคิดว่าผัวมาง้อเมียกลับบ้านแน่ๆ เพราะมิเกลมีกระเป๋าเดินทางหนึ่งใบ
“ขึ้นรถ ยัยกุ้งแห้ง”
“...”
“เร็ว รถคันหลังรออยู่”
“ค… ค่ะ”
กึก! เสียงประตูถูกปิดลง พอลลงจากรถและเอากระเป๋าเดินทางเก็บเข้าที่เรียบร้อย จากนั้นก็ก้าวขายาวๆ ขึ้นรถนั่งตำแหน่งคนขับทันที
บรึ้นนน ~~~
พอลขับรถออกตัวแรงจนคนที่นั่งข้างๆ หงายหลังไปชนเบาะดังตึก เธอยังคาดเข็มขัดนิรภัยยังไม่เรียบร้อยเลยก็โดนคนข้างๆ แกล้งซะแล้ว ที่รับรู้ได้ว่าโดนแกล้ง เพราะมิเกลหันหน้าไปมองค้อนคนที่กำลังขับรถ ใบหน้าของพอลมองตรงก็จริงแต่กลับมีรอยยิ้มร้ายประดับมุมปาก
“ขะ ขับระวังๆ หน่อยได้ไหมคะ”
“เหรอ ฉันขับไม่ระวังตรงไหน”
“...” ฉันพูดได้ไหมล่ะว่าทุกตรง ทุกครั้งเลย ครั้งก่อนหน้านั้นก็เหมือนกัน
“มาขับให้ฉันนั่งสิ”
“เกลขับไม่เป็นหรอกค่ะ ว่าแต่ทำไมเกลต้องขับให้พี่นั่งด้วยคะ?”
“ซ้อมไว้”
“...”
“หึ ยัยซื่อบื้อ”
“...” เอะอะก็ยัยกุ้งแห้งบ้างล่ะ ยัยซื่อบื้อบ้างล่ะ ชิ! คนปากร้าย
“เธอจะไปไหน”
“เกลกำลังจะหาหอค่ะ แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี”
“ก็เลยเริ่มจากนั่งทำหน้าเอ๋ออยู่ที่ป้ายรถเมล์สินะ”
“พี่พอล”
“เรียกทำไม”
“ทำไมชอบว่าเกล”
“ฉันพูดความจริงต่างหาก”
“...”
ฉันรู้ตัวนะ ว่าตอนนี้ฉันกำลังทำหน้าบึ้งตึง ฉันเห็นพี่พอลหันมามองแล้วก็ยิ้มมุมปากแบบที่เขาชอบทำ คิดว่าหล่อมากมั้ง แต่ก็ไม่เถียงหรอก หล่อมากจริงๆ ใบหน้านิ่งนัยน์ตาคม ผิวเนียนไร้สิว ขาวกำลังดีไม่มากไปแบบผู้ชายแมนๆ เท่ๆ คนนึง พระเจ้าปั้นใบหน้าหล่อแบบฟ้าประทานมาให้ ก็ต้องยอมรับนั่นแหละว่าพี่พอลหล่อมากจริงๆ
“รีบไหม”
“รีบค่ะ เกลอยากหาหอก่อนที่มันจะค่ำ”
“ไปทานข้าวเป็นเพื่อนหน่อย”
“เกลขอตัวได้ไหมคะ เกลต้องรีบหาหอใหม่จริงๆ ค่ะ”
“เดี๋ยวฉันช่วยหา”
“...”
“ดูสภาพตัวเองยัยกุ้งแห้ง เดินลากกระเป๋าเดินไปเดินมาเหมือนคนเร่ร่อน”
“เอ๊ะ”
“หรือไม่จริง”
… “ถ้าฉันอิ่มแล้ว เดี๋ยวช่วยหาหอใหม่”
“...”
“มองหน้าพี่ทำไมครับ”
คำว่า ‘พี่’ ก็ทำให้ใจฉันเต้นแรงมากพอแล้ว ไหนจะโน้มใบหน้ามาถามใกล้ๆ อีก ตอนนี้รถกำลังติดไฟแดงอยู่พอดี พี่พอลก็เลยโน้มใบหน้ามาใกล้จนฉันรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่เป่ารดแก้ม และในขณะเดียวกัน สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิด พี่พอลเสียหลัก แขนที่เขาค้ำยันที่เบาะไว้มันลื่นจนทำให้เขาเซถลามาใกล้ฉัน ไม่แค่นั้น จมูกโด่งๆ ของเขาฝังลงบนแก้มของฉันทันที แต่ถ้ามันเป็นอุบัติเหตุ มันต้องไม่มีเสียง
ฟอด~~ สิ แต่นี่มันเหมือนเขาจงใจหอมแก้มฉันเลยนะ แถมยังค้างเอาไว้แบบนั้น แต่แทนที่ฉันจะต้องรู้สึกว่าโดนคุกคาม โดนฉวยโอกาส ทว่า ร่างกายกลับไม่ปฎิเสธอะไรเลยสักนิด แถมใจยังเต้นแรงกระหน่ำจนกลัวว่าพี่พอลจะได้ยินอีกต่างหาก และสุดท้ายฉันก็ตัดสินใจดันอกแกร่งเพื่อให้พี่พอลถอยห่างออกไป“โทษที เบาะมันลื่น”
“...”
“แก้มหอมดีนะ”
“พะ พูดอะไร”
“หึ”
ไฟจราจรสีเขียวช่วยชีวิตมิเกลไว้พอดี พอลก็หันไปสนใจการขับรถต่อ เกิดภาวะเงียบงันภายในรถคันหรู มิเกลเกร็งจนเกือบลืมหายใจ มือสองข้างประสานกันไว้จนเหงื่อออก ส่วนพอลเขาไม่ได้เกร็งอะไรนอกใจจากที่เต้นแรงกระหน่ำไม่แพ้กัน
ร้านอาหาร
“อยากกินอะไรก็สั่ง”
“ข้าวไข่เจียวค่ะ”
“แค่นั้น?”
“ค่ะ”
“สั่งอีก กินแค่นั้นมันจะไปอิ่มได้ยังไง”
“เกลเอาแค่อย่างเดียวค่ะ ต้องประหยัดเงินไว้จ่ายค่าหอกับค่าเทอม” จบประโยคของมิเกลพอลถึงกับถอนหายใจหนักๆ เขาไม่ได้อยากจะแชร์ค่าอาหารกับเธอสักหน่อย ค่าข้าวไม่เท่าไหร่เขาจ่ายเอง กินแพงกว่านี้เขาก็จ่ายไหว บางครั้งมิเกลก็ทำตัวน่าหงุดหงิดในสายตาของเขา
“มากับคนรวย อยากกินไรก็สั่งๆ ไปเถอะ ฉันจ่ายเอง”
“...”
น่าหมั่นไส้มาก ฉันเผลอเบะปากอย่างไม่รู้ตัว แต่พี่พอลเห็นน่ะสิ เขาจ้องฉันตาเขม็งเลย ฉันก็เลยหลบสายตาเขาโดยการก้มหน้าจ้องมองเมนูที่จะสั่งเพิ่ม เกือบไปแล้วยัยมิเกลเอ้ย ฉันสั่งอาหารเพิ่มไปอีกสามสี่อย่าง มากับคนรวยใช่ไหม ได้สิ มิเกลจัดให้ ฉันจะกินให้ท้องแตกไปเลย
อาหารที่สั่งมาครบแล้ว แต่พนักงานสาวยังคงยืนรออะไรสักอย่างทั้งความเป็นจริงแล้ว หากเสิร์ฟอาหารเสร็จเรียบร้อยไม่ต้องยืนรอใกล้ๆ ขนาดนั้นแล้วก็ได้ จนมิเกลรู้สึกได้จึงหันไปมองก็พบว่าพนักงานสาวคนนั้นกำลังยืนมองพอลและและยิ้มหวานรอเพียงแค่พอลหันกลับไปเธอก็จะฉีกยิ้มกว้างให้ทันที และเมื่อพอลมองตามสายตามิเกลไปจนได้สบตากับพนักงานสาวคนนั้น เพียงแค่เสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้นเขาก็ละสายตากลับมามองมิเกลอีกครั้ง ไม่ทันได้มองว่าพนักงานสาวคนนั้นกำลังส่งยิ้มหวานให้ เขาไม่ได้สนใจ
“ลูกค้ากำลังทานข้าว จะยืนเสียมารยาทอยู่ทำไม”
ประโยคหักหน้าที่มิเกลไม่คาดคิดว่าพอลจะตอบกลับไปแบบนั้น
“ขะ ขอโทษค่ะ เอ่อ เผื่อว่าลูกค้าต้องการอะไรเพิ่มเติม”
พอลไม่ได้พูดอะไรกลับไป เขาทำเพียงสะบัดมือไล่หนึ่งครั้งราวกับรำคาญ เขาว่าเขารู้จุดประสงค์ที่พนักงานคนนั้นต้องการ ร้านนี้เขาไม่ได้มาครั้งแรก เขามาทานกับเพื่อนบ่อยครั้ง เขารู้ดีว่าการบริการของร้านนี้เป็นแบบไหน ก็คงจะมีแต่พนักงานคนนี้ที่ปฏิบัติแตกต่างออกไป
“พี่พอล พูดแบบนั้นเลยเหรอ แรงมากนะ”
“หรือไม่จริง”
“แต่เขาเป็นผู้หญิงนะ รักษาน้ำใจหน่อยก็ได้นี่นา”
“ไม่จำเป็น”
“...”
“ฉันใจดีแค่กับเธอ”
✨✨✨
Ep.5 เบบี๋ขาของพอล“ถามฉันว่าโสดไหม ฉันคิดนะ”“อ่อนไหวจังเลยนะคะ”“ใช่ ไม่เคยได้ยินเหรอ คนของขาดมักอ่อนไหว”“มะ มะ ไม่เคยค่ะ”ฉันพูดลิ้นพันกันจนได้ยินชัด จะไม่ให้ตกใจได้ยังไงพี่พอลชอบพูดจาแบบนี้ ชอบพูดทะลึ่ง ฉันคิดถูกหรือเปล่านะที่ไว้ใจคนแปลกหน้าคนนี้ พอฉันปฏิเสธไปแบบนั้น ฉันได้ยินเสียงหัวเราะในลำคออีกด้วย ขี้แกล้งอะ“เอาเบอร์เธอมา ฉันจะออกไปข้างนอก เดี๋ยวให้คนมาส่งวัตถุดิบให้ ฉันจะโทรบอกเธอให้ลงไปรับของด้านล่าง แล้วนี่… คีย์การ์ดห้องฉัน”“ค่ะ นี่ค่ะเบอร์ของเกล”ฉันยื่นโทรศัพท์ให้คนตรงหน้า ในหน้าจอฉันกดเบอร์ของตัวเองไว้แล้วส่งโทรศัพท์ให้พี่พอล เบอร์ฉันถ้ากดบันทึกแล้วมันจะเพิ่มเพื่อนในไลน์ให้ด้วยเลยเพราะฉันผูกไว้กับเบอร์โทรฯ..เมื่อทั้งสองคนแลกเบอร์โทรศัพท์กันเรียบร้อยแล้ว พอลก็เดินเข้าห้องของตัวเองทันที เขานั่งเอนตัวพิงโซฟาตัวยาวด้วยท่าทางสบายใจ พร้อมกับนั่งผิวปากอย่างอารมณ์ดี มือหนาหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาพร้อมกับรัวนิ้วกดบันทึกชื่อของมิเกลว่า ‘เบบี๋เกล’ เพราะเขาปักธงในใจไว้แล้วว่าอนาคตมิเกลต้องเป็น ‘เบบี๋ขาของพอล’ อย่างแน่นอนผ่านไปเกือบชั่วโมงพอลส่งข้อความมาบอกมิเกลไว้ว่า วัตถ
Ep.4 เช่าคอนโดเดือนละห้าร้อยทั้งสองทานอาหารเรียบร้อย พอลจึงเริ่มขับรถตระเวนหาหอพักให้มิเกล ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกับมหาลัยมากนักครืด ~~ ครืด ~~ โทรศัพท์มือถือของพอลสั่นเนื่องจากว่ามีคนโทรเข้ามา แต่เขากำลังขับรถอยู่จึงเอ่ยบอกคนที่นั่งข้างกายแทน“รับโทรศัพท์ให้ฉัน”“เอ่อ ไม่ดีมั้งคะ”“กดรับสายให้ฉัน”พอลพูดเสียงเข้มขึ้นอีกครั้งจนคนข้างกายยอมทำตาม“ค่ะๆ”เรารู้จักกันไม่ถึงสองวันเองมั้ง พี่พอลทำตัวราวกับว่ารู้จักกับฉันมานาน ทั้งคำพูดและพฤติกรรมต่างๆ มันส่อแววมาก มากจนบางทีฉันไม่กล้าคิดไปเอง เมื่อฉันกดรับสายเรียบร้อยแล้วยื่นไปให้คนที่กำลังขับรถอยู่ แต่พี่พอลเลือกที่จะกดเปิดลำโพงแทนและให้ฉันถือเอาไว้แบบนั้น ถ้างั้นฉันก็ได้ยินหมดน่ะสิ“ว่าไง”(ว่าไงอะไรของมึง ขับรถถึงไหนแล้วเนี่ย)“กูไปไม่ได้ละ มีธุระต้องไปทำ” พี่พอลตอบประโยคนั้นแล้วหันมามองหน้าฉันครู่นึง มองทำไม?(ธุระอะไรของมึง มึงจะโดดเรียนเหรอ)“อืม ฝากเรียนเผื่อกูด้วย”(น้องพิชชี่รอทานข้าวพร้อมมึงอยู่นะ) พิชชี่งั้นเหรอ หรือจะเป็นแฟนของพี่พอล“ฝากบอกน้องด้วยว่าไม่ต้องรอ แค่นี้นะกูขับรถอยู่”พอร์ชโทรมาตามพอลเพราะนัดกันไว้ จนเลยเวลาแล้วก
Ep.3 ใจดีแค่กับเธอเช้าวันถัดมา10.00 น.พอลตื่นนอนเพราะเสียงนาฬิกาปลุกที่ดังรบกวน วันนี้เขามีเรียนแค่ช่วงบ่ายก็เลยนอนตื่นสายได้ เมื่อสมองประมวลผลเข้าที่เข้าทางแล้ว ร่างหนาจึงลุกจากที่นอนและเปิดประตูห้องเพื่อมองหาใครอีกคน ทว่า… เงียบแกร๊ก… พอลถือวิสาสะเปิดประตูห้องนอนอีกห้องเพื่อดูว่ามิเกลอยู่ในห้องนอนไหม เพราะตอนนี้ภายในห้องของเขามันเงียบเหมือนเขาอยู่คนเดียว และตอนนี้ก็ได้คำตอบแล้วว่าคนตัวเล็กไม่อยู่แล้วพอลเหลือบมองไปยังโต๊ะกระจกปลายเตียงก็พบว่ามีกระดาษโน็ตใบเล็กๆ จำนวนหนึ่งใบที่เขียนด้วยลายมือน่ารักเอาไว้ว่า...‘เกลขอบคุณที่พอลมากๆ นะคะ ขอขอบคุณที่ช่วยเหลือทุกอย่างเลย ไว้มีโอกาสถ้าเราได้เจอกันอีกครั้ง เกลจะขอตอบแทนพี่พอลคืนบ้างนะคะ’รอยยิ้มร้ายประดับตรงมุมปาก ตอบแทนเขาคืนงั้นเหรอ ได้สิ เขาจะทำให้เธอติดค้างเขาหลายๆ เรื่องเลยคอยดู หาตัวไม่ยากแน่เพราะเรียนอยู่มหาลัยเดียวกัน เมื่อคืนเธอบอกเขาว่าเรียนที่มหาลัยไหน แต่เขาไม่ได้บอกมิเกลว่าเรียนที่เดียวกัน มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรที่จะต้องบอก ซึ่งพอย้อนนึกกลับไป ก่อนหน้านั้นเขาไม่เคยเห็นมิเกลเลยสักครั้ง ปกติหญิงสาวหน้าตาน่ารัก หรือผู้หญิง
EP.2 ไว้ใจคนแปลกหน้า“เกลไม่ไป พี่พอลจอดนะ” มิเกลพูดด้วยเสียงสั่นจนได้ยินชัด ฟังดูก็รู้ว่าเธอกลัว“ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกหน่า หยุดพูดได้แล้ว”ฉันพยายามจะเปิดประตูรถ แต่ไม่รู้มันอยู่ตรงไหนและเปิดยังไงเพราะเขาล็อกไว้ เด็กบ้านนอกจนๆ แบบฉันไม่เคยนั่งรถสปอร์ตคันหรู ฉันก็ได้แต่เคาะๆ ตามกระจกรถ จนกระทั่งอีกคนรู้สึกรำคาญ“อยู่นิ่งๆ ฉันไม่ทำอะไรเด็กกะโปโลอย่างเธอหรอก หุ่นก็กุ้งแห้ง แล้วดูสภาพตัวเองตอนนี้สิ เหมือนลูกหมาหูลู่ตกน้ำ”“...”กรี๊ดดด ฉันกรี๊ดในใจ แบบนี้เขาเรียกว่าตัวเล็กน่ารักต่างหากล่ะไอ้พี่พอลคนหน้านิ่ง ไม่คิดเลยว่าพอพูดออกมาแล้วจะปากร้ายขนาดนี้คอนโดพอลเพียงไม่นานก็ถึงคอนโดของพอล ด้วยความที่เขาขับรถเร็วเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่พอเหลือบมองคนข้างกายนั่งหนาวจนตัวสั่นเหมือนลูกนกขนาดนั้น เขาจึงเหยียบคันเร่งขับรถเร็วกว่าเดิมเพื่อไปถึงปลายทางให้เร็วขึ้น นั่นก็คือคอนโดเขาเอง“ลงสิ จะนั่งรออะไร”“เอ่อ พี่พอลรับปากเกลมาก่อนได้ไหมคะว่าเกลเชื่อใจพี่ได้”“เธอระแวงกับคนที่มีน้ำใจช่วยเหลือเธอเนี่ยนะ”“แล้ว ระ ระแวงไม่ได้เหรอคะ”“บอกแล้วไง หุ่นอย่างกับกุ้งแห้ง”“นะ นี่”“ทำไมเหรอครับ หรือจะเถียง”เธอ
EP.1 คืนฝนพรำ“ไอ้พอล ขับช้าๆ หน่อยดิวะ”พอลและพอร์ชกำลังกลับจากแทงสนุกเกอร์ด้วยกัน และตอนนี้ฝนกำลังตกหนักและถนนก็คงลื่น พอร์ชที่นั่งตัวเกร็งอยู่ข้างเบาะคนขับรถจึงเอ่ยบอกให้พอลขับรถช้าลงหน่อย พอลขับรถทีไรตีนผีทุกทีเลย“มึงอย่าปอดแหก เชื่อมือกู”เอี๊ยดดดดดด…. ไม่ทันขาดคำ รถสปอร์ตสองที่นั่งคันหรูเบรคกะทันหันจนล้อรถลื่นสะบัด“เบรคหาพ่องมึงเหรอไอ้พอล หน้ากูทิ่มแล้วเนี่ย”“ไอ้พอร์ช มึงไปเอาไม้เบสบอลท้ายรถแล้วรีบตามกูมา”พอลเบรครถกะทันหันเพราะเมื่อครู่นี้เขาได้สบตากับเด็กสาวที่หันหน้ามองออกมานอกถนน เธอกำลังดึงกระเป๋าเดินทางยื้อกันไปยื้อกันมากับผู้ชายสามคนที่ดูยังไงก็ท่าทางไม่ปกติ และมองแค่นั้นก็ดูออกว่าเธอกำลังจะโดนรังแก และชุดที่ใส่อยู่นั้น… เสื้อนักศึกษาสีขาวที่เปียกปอนไปด้วยน้ำฝนมันแนบเนื้อซะขนาดนั้น.... เห็นไปถึงไหนต่อไหนและเมื่อพอร์ชมองตามพอลไป จึงเดาสถานการณ์ข้างหน้าได้ทันที พอลมีไม้เบสบอล ส่วนพอร์ชมีสนับมือ เมื่อพร้อมแล้วพอร์ชก็รีบวิ่งตรงไปหาพอลทันทีพรึบ!“คะ คุณ ช่วยหนูด้วยค่ะ”แค่เด็กสาวคนนั้นพูดแทนตัวเองว่าหนู อยู่ๆ ก็รู้สึกอยากปกป้อง อยากดูแล อยากให้เป็นของเขาซะเหลือเกิน ‘ได้ค
เรื่องย่อ เธอ... ที่เพิ่งโดนแฟนตัวเองนอกใจ เขาไล่เธออย่างไม่แยแส แถมยังดูถูกเธอสาระพัดอย่าง ถึงไม่ไล่ เธอก็ต้องไปอยู่ดี ไม่มีใครรับได้หรอกที่โดนแฟนตัวเองนอกใจในค่ำคืนฝนตก สาวเด็กวัย 20 ปี กับใจพังๆ เธอกำลังวิ่งหนีผู้ชายขี้เมาสามคนที่กำลังจะพยายามล่วงเกินเธอ ในความโชคร้ายยังมีความโชคดีหลงเหลืออยู่บ้าง หนุ่มวิศวะหน้าหล่อแต่ดูนิ่ง ตัวจริงจะพูดได้หรือเปล่านะ เพราะดูนิ่งมาก เขามาช่วยเธอให้รอดพ้นจากอันตรายในตอนนั้น“ปล่อยผู้หญิง” โอเคเขาพูดได้ นึกว่าเขาเป็นหุ่นยนต์รักแรกพบ...ได้เกิดขึ้นกับพอล เขาจึงตั้งใจวางแผนทำทุกอย่างให้ได้เธอคนนั้นมาครอบครอง และเมื่อได้เธอมาครอบครอง ทุกอย่างเหมือนจะดี แต่ก็..."เห็นฉันเป็นไอ้หน้าโง่สินะ ถึงได้หยามกันขนาดนี้"แต่เมื่อเวลาผ่านไป เมื่อความจริงทุกอย่างปรากฎ ทำให้เขาได้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว เรื่องนี้คนที่เจ็บปวดที่สุดมันไม่ใช่ 'เขา' แต่เป็น 'เธอ' ต่างหากที่ทนแบกรับความเจ็บปวดทั้งหมดนี้เอาไว้เอง"ให้โอกาสผู้ชายหน้าโง่คนนี้สักครั้งได้ไหม"⭐__________⭐เรื่องราวมันจะเป็นยังไงต่อไป ทำไมมิเกลถึงตัดสินใจทำแบบนั้นและทำไมพอลถึงยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ เช่นกัน มาลุ้นนะคะ