“พี่เสือใจร้าย... ฮึก”
ร่างบางทรุดตัวนั่งกอดเข่าหลังพิงประตู น้ำตาเม็ดใหญ่รินไหลเปื้อนใบหน้าไม่ขาดสาย เธอเบะริมฝีปากสะอื้นไห้ราวกับเด็กสามขวบที่โดนดุ
ตลอด 6 ปีที่รู้จักกันตั้งแต่รั้วมัธยมปลายมา เสือไม่เคยเมินเธอเลยสักครั้งเดียว ถึงจะปากร้ายแต่เป็นรุ่นพี่ที่ใจดีมาก
นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เธอถูกเขาเมิน รู้สึกแย่จนรับรู้ได้ถึงหัวใจที่ถูกบีบรัดให้ปวดหน่วง หายใจไม่ทั่วท้องแล้วก็ตัวชาวาบไปทั้งร่างเลย
“หมวยจิ๋วออกมาคุยกันก่อน”
“ไม่...”
“เปิดประตูเดี๋ยวนี้เลยส้มหวาน”
เสือทั้งเคาะประตูและตะโกนลอดผ่านเข้ามา แต่ส้มหวานก็ยังนั่งกอดเข่าร้องไห้จนใบหน้าแดงก่ำ ไม่ยอมลุกขึ้นเปิดประตูตามที่เขาสั่ง
“งั้นอยากให้พี่กลับใช่มั้ย ไม่อยากเจอหน้ากันใช่ปะ”
ส้มหวานสะกดจิตให้ใจแข็ง แต่พอเขาพูดว่าจะกลับ ตัวเธอก็ลุกขึ้นจับที่ลูกบิดประตูเตรียมเปิดรอมร่อ
“งั้นพี่กลับก่อนก็แล้วกัน” เสียงของเสือดูโกรธและไม่ได้ล้อเล่น คนตัวเล็กเลยตะโกนผ่านช่องประตูทั้งเสียงสั่นเครือ
“ไม่... ก็พี่ไม่คุยกับเรา ฮึก พี่เมินเราทั้งวันเลย”
“โดนแค่นี้ก็ร้องไห้แล้วเหรอ”
“ฮึก- ฮึก พี่ไม่เคยเมินเรานี่คะ”
ไหล่เล็กสั่นสะท้านตามแรงสะอื้น ม่านตาสั่นไหวมีหยาดน้ำใสคลอหน่วยจนตาพร่าเบลอ
“แล้วเธอไม่รู้สึกแย่เหรอ ถ้ามีใครสักคนเข้าหาเพราะแค่จะประชดคนอื่น” เขาพูดเชิงตัดพ้อปนน้อยอกน้อยใจ
เสือรู้จุดประสงค์ส้มหวานตั้งแต่แรกแล้ว พอถูกปรามาสว่าจืดก็คงอยากจะลบคำสบประมาทให้ได้ ถึงดึงเขาเข้าไปในเกมการเอาคืนของตัวเอง
แต่เคยได้ยินไหม... รู้ว่าหลอกแต่เต็มใจให้หลอกน่ะ เขารู้ทั้งรู้ว่าเธอเข้าหาเพราะอะไร แต่ก็เต็มใจให้จูงจมูกอยู่ดี
“เธอเห็นพี่เป็นตัวอะไรวะส้มหวาน”
“เรา... ขอโทษ”
“เป็นตัวเธอมันก็น่ารักดีอยู่แล้ว เธอจะอยากเป็นคนอื่นไปทำไม พี่ไม่เข้าใจ”
ร่างสูงที่ยืนอยู่ด้านนอกยกมือแตะบานประตู พอบิดลูกบิดดูก็ไม่สบอารมณ์หนัก เมื่อพบว่าเธอล็อคไว้ไม่ให้เขาเข้าไป
“อย่าเป็นแบบนี้ได้มั้ยวะเธอ...” ในน้ำเสียงเขาออกจะติดหงุดหงิดใจ ใจดีเข้าหน่อยก็เลยคิดว่าโกรธไม่เป็นรึไง
หากเธออยากเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น เขาเข้าใจได้มันไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องโกรธหรือน้อยใจ แต่เปลี่ยนเพื่อประชดผู้ชายแบบรุ่นพี่เธอเขาโคตรจะไม่เห็นด้วยเลย
“เราไม่อยากให้ใครมองว่าจืดนี่คะ”
“ก็เลยเปลี่ยนเป็นในแบบที่ไม่ชอบเหรอ”
“เราก็แค่... แค่อยากเปลี่ยนตัวเองดูบ้าง”
เสือลอบถอนหายใจทิ้งเบาๆ เขารู้ว่าส้มหวานมีแผลใจกับคำนี้ รุ่นพี่ที่ชื่อแทนคงจะเสแสร้งทำเป็นแสนดี จนเธอหลงไปให้ใจแต่สุดท้ายกลับหวังเพียงร่างกายจากเธอ
ถ้าเธอจะเสียใจและผิดหวังมันก็ไม่แปลกหรอก แต่ต้องไม่ใช้เขาเป็นเครื่องมือแก้แค้น โดยไม่นึกถึงความรู้สึกกันเลย
“แล้วรู้สึกดีขึ้นมั้ยล่ะ...”
“พี่ไม่เข้าใจเราหรอก”
“ก็ถึงถามว่ารู้สึกดีมั้ย แต่งหน้าแล้วแต่งตัวแบบที่ไอ้เวรนั่นมันชอบ แล้วเคยถามใจตัวเองหรือยังว่าอยากเป็นจริงๆ มั้ย”
ส้มหวานฟังแล้วก็ปล่อยโฮ ยกมือเช็ดน้ำตาป้อยๆ ใหญ่เลย
แค่โดนเมินก็ใจเจ็บจนปวดชาอยู่แล้ว แต่นี่โดนอีกฝ่ายดุซ้ำบ่อน้ำตามันก็แตกหนักกว่าเก่า เธอยกมือขึ้นขยี้ดวงตาจนรู้สึกปวดหัวกับการร้องไห้หนัก
เธอรู้ว่าเขาเป็นห่วง แต่ตอนนี้มันอ่อนไหวเกินไป โดนดุแค่นิดหน่อยน้ำตาก็พร้อมใจไหลทะลักราวกับเขื่อนแตกแล้ว
“แต่เรา ฮึก... เราไม่ชอบตัวเองแบบนี้”
“เธอไม่ชอบตัวเองที่เป็นแบบนี้ หรือไม่ชอบเพราะมีคนมาบอกว่าไม่ชอบกันแน่ ไหนตอบพี่หน่อยดิหมวยจิ๋ว”
เสือเป็นคนปากร้ายที่ใจดีมาตลอด...
เขาเคยเป็นแค่เพื่อนพี่ชายเธอ และตัวเธอก็เป็นแค่น้องสาวเพื่อนเขา แต่วันนี้ที่มันถลำลึกมากเกินไป ความรู้สึกลึกๆ ในใจของส้มหวานก็เริ่มจะเปลี่ยนไปเช่นกัน
“เป็นตัวเธอเองก็ดีอยู่แล้ว...”
“.....”
“ใครไม่ชอบแต่พี่ชอบ”
คำว่าชอบดังกระแทกโสตประสาท ส้มหวานยืนนิ่งคล้ายสติหลุดลอย แต่หัวใจอุ่นวาบเหมือนมีประกายลูกไฟวิ่งผ่าน
“ถ้าไม่ออกมาคุย งั้นพี่กลับก่อนก็แล้วกัน” เสือตัดพ้อที่หน้าประตู เมื่อเห็นว่าคนด้านในไม่มีวี่แววจะเปิดประตูให้เขา
“พี่เสือชอบ... ชะ- ชอบเราเหรอ”
ส้มหวานกลอกตาไปมาอย่างใช้ความคิด สองจิตสองใจว่าจะเอายังไงกับเหตุการณ์นี้
แต่พอไม่ได้ยินเสียงเขาที่หน้าประตู แค่เสี้ยววินาทีเธอก็ตัดสินใจเปิดออกไปแล้วตะโกนลั่นทั้งน้ำตาอาบแก้ม
“อย่าไปนะ!” เธอเรียกรั้งคนที่หันหลังเดินหนีสุดเสียง
เสือได้ยินแต่ไม่ยอมหยุดเดิน สมองเธอเลยสั่งการให้วิ่งเข้าไปกอดรั้งเขาจากทางด้านหลัง ส่วนสูงที่ต่างกันชัดเจนทำให้ใบหน้าเธอซบลงที่กลางแผ่นหลังพอดี
“เราบอกว่าอย่าไปไงคะ... อย่าไป”
“อยากคุยกับพี่แล้วหรือไง”
“อื้อ... ฮึก แล้วพี่อยากคุยกับเราหรือยัง”
เธอพยักหน้าระรัวแล้วกอดกระชับแน่น ราวกับกลัวว่าเขาจะเดินหนีไป ก่อนที่จะได้ปรับความเข้าใจกันให้รู้เรื่อง
เสือพยายามแกะแขนเธอที่กอดอยู่ แต่ส้มหวานพยายามรั้งแรงไว้สุดท้ายก็สุดแรงชายฉกรรจ์ไม่ไหว โดนเขาจับแขนที่กอดเอวออกก่อนจะหมุนตัวกลับมาประจันหน้ากัน
“ไม่อยากคุย...” เขาพูดสั้นๆ แต่ทำเธอเบะปากร้องไห้โฮ
“ฮื่อ”
“พี่ไม่อยากคุยกับเด็กขี้แง”
“ฮึก...”
ส้มหวานบ่อน้ำตาแตกพรั่งพรูอีกครั้ง เมื่อถูกเขาทำหน้าดุไม่พอยังโดนสั่งห้ามให้ฮึบเหมือนตอนเด็กๆ เวลาร้องไห้อีก
“ฮึบเลย” เสือออกคำสั่งเสียงแข็งกร้าวทั้งแววตาดุดัน
“ฮึก”
“บอกให้ฮึบเดี๋ยวนี้”
ส้มหวานกัดปากกลั้นเสียงสะอื้น ดวงตากลมโตช้อนขึ้นสบมองเขา ใบหน้าแดงก่ำทั้งดูน่าสงสารแล้วก็น่ารังแก
“จะหยุดร้องไห้หรือยัง”
“หยุด- ฮึก หยุดแล้ว”
“เก็บเสียงสะอื้นเลย”
คนตัวเล็กทำตามทุกอย่างที่เขาสั่ง ภาพส้มหวานที่ทั้งกัดปากช้อนตามองและกลั้นเสียงร้องไห้โคตรน่าเอ็นดู ใจเสือมันสั่นไหวแต่แกล้งตีหน้าดุใส่เธอไปงั้น
“เธอชอบมั้ยที่พี่ดุแบบนี้”
เธอส่ายหน้าและไม่สะอื้นแล้ว แต่น้ำตามันไม่ยอมหยุดไหลสักที จนเธอต้องยกมือขึ้นถูดวงตาแล้วกลั้นน้ำตาไว้
“ถ้าไม่ชอบให้ดุก็ต้องเป็นเด็กดี... เข้าใจยัง”
อีกครั้งที่เธอพยักหน้าขึ้นลง สายตาสุดแสนจะอ้อนตอนสบมองคนตัวสูงกว่า มือที่กำชายเสื้อเสืออยู่บีบขยำ ในแววตาคู่สวยแสดงความต้องการอยากให้เขาปลอบ
“เราจะเป็นเด็กดี...” เธอรับปากแล้วข่มเสียงสะอื้นแน่น
มือหนาประคองใบหน้าเรียวเล็กด้วยสองมือ ก่อนจะประกบริมฝีปากจูบเธออย่างอ้อยอิ่ง แล้วเชิดหน้าเธอให้เงยขึ้นรับจุมพิตจากเขาโดยไร้ทางขัดขืน
คนตัวเล็กยังสะอื้นนิดๆ แต่สัมผัสจูบที่อ่อนโยนจากเสือนั้นกำลังปลอบประโลมให้เธอรู้สึกดี
“อึก...”
ส้มหวานวางมือที่บ่ากว้าง เธอออกแรงขยำเสื้อยืดเขากับรอยจูบที่ไต่ระดับความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ
เสือร้ายพอได้โอกาสก็ตักตวงไม่หยุด จากละเลียดฉกชิมแค่ภายนอก เขาก็สอดใส่เรียวลิ้นเข้าไปในโพรงปากอุ่นร้อน กวาดต้อนลิ้นเล็กของเธอที่พยายามจูบตอบแบบเงอะงะ
ส้มหวานหลับตาปี๋ เธอโดนเขาจูบจนตัวร้อนวูบวาบ เสียดเสียวในช่องท้องน้อยจนหอบหายใจถี่กระชั้นตอนผละออก
“เธออยากทำมั้ย”
“คะ”
“ไหนตอบพี่ดิคนเก่ง... อยากทำหรือเปล่า”
“ยังไม่ใช่ตอนนี้ได้มั้ยเธอ...”น้ำเสียงของเสือเว้าวอนกว่าเธออีก ทั้งสีหน้าก็ดูลำบากใจกับการที่ส้มหวานรบเร้าในเรื่องนี้ต่อ“ทำไมล่ะคะ” เธอส่ายตาอย่างไม่เข้าใจเขา“ขอให้พี่จัดการอะไรก่อนก็แล้วกัน”“หมายถึงผู้หญิงของพี่ใช่มั้ยที่ต้องจัดการ”เสือลอบถอนหายใจ พลางส่ายหน้าว่าไม่ใช่สิ่งที่เธอคิด แต่ส้มหวานที่คิดไปไกลเริ่มน้อยใจขึ้นมา ไม่รู้ว่าติดปัญหาอะไรถึงขยับขึ้นเป็นตัวจริงของเขาไม่ได้“ไม่ใช่แบบนั้น...” เสือปฏิเสธไม่เต็มเสียงนัก ก่อนจะหลุบตามองส้มหวานที่มุ่ยปากงอนปึ่งเรียบร้อย“แล้วอะไรล่ะพี่เสือ”“พูดไปเด็กน้อยก็ไม่เข้าใจหรอก”เขาวางมือบนศีรษะเธอแล้วลูบเบาๆ แต่ส้มหวานกลับหน้าบึ้งตึง ไม่ชอบให้เขาใส่ฟิลเตอร์น้องสาวเพื่อนแบบนี้ ตอนนี้เธอโตพอที่จะรู้จักคำว่ารักเป็นแล้ว“เรา 20 แล้วนะคะ พี่ก็ยังมองเราเด็กอยู่เหรอ” เธอจับมือเขาออกแล้วขยับตัวนอนหันหลังให้“ถ้าไม่เด็กเธอก็ช่วยเข้าใจพี่หน่อยได้มั้ยเธอ”“แล้วเราไม่เข้าใจพี่ตรงไหน”“ถ้าเข้าใจแล้วนอนหันหลังให้พี่ทำไม”เสือขยับตัวลงนอน ก่อนจะจับส้มหวานให้พลิกตัวหันกลับมา แล้วใช้หลังมือเกลี่ยไล้ไปมาที่ผิวแก้มเธอคนตัวเล็กสบตามองมา ดูจากสีหน้าอาการก็รู
เสือขยับบั้นเอวอย่างหนักหน่วงและรุนแรง ในบางจังหวะก็ผ่อนแรงลงแต่ตอกอัดเน้นย้ำทุกดอกจนส้มหวานจุก เธอที่ถูกรังแกหน้าขึ้นสี ดวงตาฉ่ำเยิ้มเป็นประกายวาบหวามเรือนร่างอรชรอ้อนแอ้นดูบอบบาง ทั้งน่าทนุถนอมและน่ารังแกให้หนักๆ ตอนที่รูร่านเร่าขมิบเวลาเสียว“พี่เสือ... อ๊ะๆ อื้อ พี่เสือตรงนั้น อึก ตรงนั้นมัน...”ส้มหวานส่ายสะบัดหน้าไปมา เธอแทบแดดิ้นจะขาดใจเมื่อเอ็นอุ่นกระทุ้งลึกมากถึงจุดที่เธอเสียว จนเธอครางส่ำไม่เป็นคำออกมา“มันเสียวเหรอคะ” เสือยกยิ้มร้าย ไม่พอยังใช้นิ้วโป้งขยี้ติ่งเสียวเธอ ทำร่างบางบิดเร่าสะโพกแล้วหอบหายใจแรง“อื้อ อย่าเขี่ยนะ”“ไหนตอบดิเด็กดี เธอเสียวเหรอ”“สะ- เสียวค่ะ พี่เสือเราเสียวอ่ะ”เธอกัดปากระบายคว
“ไม่รู้... เราไม่รู้”ส้มหวานหลบตามองไปทางอื่น แต่เสือจับปลายคางเธอให้เงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะสบตาอีกฝ่ายเพื่อรอคำตอบ“ก็แค่ตอบตามความรู้สึก อยากทำมั้ย” เสือรู้คำตอบอยู่ก่อนแล้ว แต่แค่อยากได้ยินจากปากเธอให้ชัดดวงตากลมโตหวานฉ่ำน้ำ ใบหน้าขึ้นริ้วสีแดงอย่างกับลูกตำลึงสุกแบบนี้ ถ้าพูดโกหกเขาก็คงต้องเช็คของให้แน่ใจ คำพูดอาจจะโกหกได้แต่ร่างกายที่รู้สึกไม่โกหกแน่นอน“หรือจะให้พี่เช็คของ”“มะ- ไม่เอานะ”“ถ้าไม่อยากทำงั้นพี่ก็จะไม่ทำ”เสือลดมือที่จับใบหน้าเล็กออก เป็นชนวนกระตุ้นส้มหวานให้รู้สึกถึงความต้องการทันทีไวเท่าความคิดเธอก็ยื่นมือไปรั้งแขนเขา เรียวคิ้วมุ่นเข้าหากันแล้วเป็นฝ่ายสอดมือจับข้างแก้มเขา ก่อนยื่นหน้าเข้าไปจูบเสือแล้วไล่พรหมจูบบริเวณสันกรามลามมาปลายคางส้มหวานยังคงเงอะงะ แต่ก็ฮึดสู้ที่จะเอาใจเสือเช่นกัน เธอกดแนบริมฝีปากลงไปที่ลำคอเขา ปลายเท้าเขย่งเล็กน้อยกับความสูงที่ต่างกับเขาหลายเซน“อึก” เสียงเสือกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ จังหวะที่ส้มหวานงับเบาๆ ที่ลูกกระเดือกเขา“พี่เสือถอดเสื้อออกหน่อย”“อืม”อืมเดียวที่เธอชอบ คงเป็นเสียงอืมตอนเขาครางหรือขานรับ ฟังดูกระเส่าใจจนซอกกลีบเปียกแฉะไปห
“พี่เสือใจร้าย... ฮึก”ร่างบางทรุดตัวนั่งกอดเข่าหลังพิงประตู น้ำตาเม็ดใหญ่รินไหลเปื้อนใบหน้าไม่ขาดสาย เธอเบะริมฝีปากสะอื้นไห้ราวกับเด็กสามขวบที่โดนดุตลอด 6 ปีที่รู้จักกันตั้งแต่รั้วมัธยมปลายมา เสือไม่เคยเมินเธอเลยสักครั้งเดียว ถึงจะปากร้ายแต่เป็นรุ่นพี่ที่ใจดีมากนี่เป็นครั้งแรกเลยที่เธอถูกเขาเมิน รู้สึกแย่จนรับรู้ได้ถึงหัวใจที่ถูกบีบรัดให้ปวดหน่วง หายใจไม่ทั่วท้องแล้วก็ตัวชาวาบไปทั้งร่างเลย“หมวยจิ๋วออกมาคุยกันก่อน”“ไม่...”“เปิดประตูเดี๋ยวนี้เลยส้มหวาน”เสือทั้งเคาะประตูและตะโกนลอดผ่านเข้ามา แต่ส้มหวานก็ยังนั่งกอดเข่าร้องไห้จนใบหน้าแดงก่ำ ไม่ยอมลุกขึ้นเปิดประตูตามที่เขาสั่ง“งั้นอยากให้พี่กลับใช่มั้ย ไม่อยากเจอหน้าก
“ต้าวจ้มทางนี้เลย”เสียงใสของเจ้าหญิงทักทาย โบกไม้โบกมือดีใจที่เห็นส้มหวานเดินเข้าห้องเรียนมา แตงโมที่นั่งเล่นมือถือก็เงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ข้างตัวเธอให้ส้มหวานนั่งคนตัวเล็กเดินก้มหน้าเล็กน้อย มือก็คอยดึงกระโปรงทรงแคบลง ส้มหวานนั่งลงข้างแตงโม เจ้าหญิงก็เลยลุกจากที่นั่งไปนั่งประกบขวามือเธอแทน“เป็นไง หึงจนหน้าเขียวเป็นบล็อกโคลีเลยมั้ย” เจ้าหญิงยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาว แต่อีกฝ่ายกลับดูไม่มั่นใจซะงั้น“ไม่รู้สิ พี่เสือเขาไม่ได้พูดว่าหึงที่เราใส่เลยนะ”“พวกหึงเงียบล่ะสิ หึงแต่เก็บอาการไงส้มหวาน”“จะ- จริงเหรอ พี่เสือจะหึงเราจริงเหรอ”เจ้าหญิงพยักหน้าอย่างมั่นใจ กระโปรงที่ส้มหวานใส่ก็เป็นสิ่งที่เธอแนะนำให้ เธอไม่รู้หรอกว่าหนุ่มรุ่นพี่คิดอะไรอยู่ ทำไมถึงให้สถานะส้มหวานไม่ได้กันแต่ถ้ากั๊กไว้ก็ต้องทำในสิ่งที่คนไม่ใช่แฟนไม่มีสิทธิ์...“ถ้าอยากให้ชัดต้องมีตัวช่วยหน่อย”“ยังไงเหรอ”“ขอไปนอนคิดสักคืนแล้วจะมาบอกละกัน”ส้มหวานยิ้มรับให้กับกูรูส่วนตัว เมื่อวันอาทิตย์เจ้าหญิงไปนอนเล่นที่ห้องมา ทั้งคู่พูดคุยถึงปฏิบัติการเลิกจืด เพื่อที่จะมัดใจเสือร้ายให้หยุดหมัดทีแรกส้มหวานไม่ได้เล่าเรื่อง
เสือขับรถจี๊ปลูกรักไปรับส้มหวานที่คอนโดมามหาวิทยาลัยแต่เช้า ตั้งแต่วันที่ทั้งคู่มีอะไรกัน เสือก็คอยตามรับส่งส้มหวานอยู่ตลอด แต่ปกปิดเรื่องความสัมพันธ์นี้ไว้ไม่ให้สิงห์รู้เขาจอดรถหน้าตึกคณะเธอ ก่อนที่จะโน้มตัวไปปลดเข็มขัดนิรภัยให้ แล้วกระตุกแขนอีกฝ่ายให้เข้ามาใกล้ จนเธอตกใจผงะถอยไปเล็กน้อย“เย็นนี้ขอไปนอนเล่นห้องเธอได้มั้ย” เขาทำหน้าอ้อนอย่างมีหวัง แต่ก็ถูกดับฝันกลางวันในทันที“ไม่ได้ค่ะ เราต้องอ่านหนังสืออีกแล้ว”“จะอ่านหนังสืออีกแล้วเหรอไอ้หมวยจิ๋ว”ส้มหวานพยักหน้ารับหงึกหงัก แววตาเธอไร้เดียงสาและดูมุ่งมั่นกับการอ่านหนังสือมาก จนใครบางคนเริ่มจะหงุดหงิดหนังสือทุกเล่มที่เธอหยิบอ่านแล้ว“มันใกล้จะสอบมิดเทอมแล้วนี่คะ เราไม่อยากรู้สึกผิดทีหลังถ้าทำได้ไม่เต็มที่พอ”