LOGINความอุ่นวาบที่พวยพุ่งเข้ามาช่วยดับความร้อนในร่างกายเด็กสาวได้เป็นอย่างดี ลลินล้มตัวลงทาบทับร่างใหญ่ด้วยอาการเหนื่อยหอบจากการร่วมรักที่กินเวลานาน แต่แน่นอนว่ายาที่เธอได้ดื่มเข้าไปนั้นมันไม่สามารถจะหมดฤทธิ์ลงได้จากการได้น้ำเชื้อแค่ครั้งเดียว เพียงแค่ได้พักไม่ถึงหนึ่งนาทีความต้องการของหญิงสาวก็กลับมาอีกครั้ง
เตชินท์จัดการยกร่างอรชรของคนที่นอนอยู่บนตัวเขาลงอย่างไม่ใยดีพร้อมกับยกสะโพกมนขึ้นด้วยความรวดเร็วเมื่อความใหญ่โตของเขากลับมาแข็งชันอีกครั้ง
สำหรับเขาไม่เคยมีครั้งไหนที่การมีเซ็กซ์จะจบแค่รอบเดียวอยู่แล้ว และยิ่งครั้งนี้คนที่ระบายอารมณ์ด้วยเป็นผู้หญิงที่เขา ‘ไม่ชอบ’ มากที่สุด ดังนั้นเขาก็ยิ่งอยากจะเอาเธอให้ยับเยินมากเท่านั้น
พรุ่งนี้ตื่นมาเธอจะเป็นอย่างไร? จะยังกล้าสู้หน้าคนที่บ้านของเขาหรือไม่? แล้วหญิงสาวจะทำอย่างไรต่อ?
เพียงแค่คิดมาเฟียหนุ่มก็รู้สึกสนุกที่จะรอให้ลลินได้รู้สึกตัวในวันพรุ่งนี้ เพราะนอกจากการอยู่นิ่ง ๆ อย่างน่ารำคาญใจแบบเมื่อก่อนแล้ว เขาเองก็ลืมไปว่าตัวเองสามารถที่จะทำให้เธอยอมออกจากครอบครัวของเขาไปได้ อย่างเช่นเหตุการณ์ในครั้งนี้
“ฉันหวังว่าเธอจะไม่กล้าสู้หน้าครอบครัวของฉันต่อ”
ดวงตาคมหลุบมองบั้นท้ายงามของเด็กสาวตรงหน้าเล็กน้อยก่อนจะจัดการชักรูดแก่นกายใหญ่แล้วสอดเข้าไปในช่องทางรักอีกครั้ง เตชินท์ระบายอารมณ์ดิบเถื่อนกับเรือนร่าง ‘น้องสาว’ ของเขาทั้งคืนครั้งแล้วครั้งเล่าจนเธอสลบไปเพราะไม่สามารถทนต่อการร่วมรักที่หนักหน่วงครั้งนี้ได้
หลังจากที่ปลดปล่อยจนสบายตัวแล้ว มาเฟียหนุ่มจึงเดินออกจากห้องไปโดยไม่สนใจเรือนร่างเปลือยเปล่าที่นอนอยู่กับคราบน้ำคาวของเขาเลยแม้แต่น้อย
ทันทีที่เดินออกมาจากห้อง ลูกน้องที่ยืนอยู่ก็รีบก้มหัวให้กับเจ้านายหนุ่มทันที พวกเขามองเสื้อผ้าที่ดูไม่ค่อยเรียบร้อยของคนตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างคุณหนูกับเจ้านายของพวกเขาภายในห้องนั้น แม้ทุกอย่างมันจะชัดเจนอยู่แล้วว่าคืนนี้เตชินท์ได้ทำอะไรลงไปบ้าง
“ไปส่งกูที่คอนโด” มาเฟียหนุ่มออกคำสั่งเสียงเรียบพลางยกมือขึ้นมานวดคลึงลำคอของตัวเองเล็กน้อยแล้วเดินตรงไปที่ลิฟต์ ซึ่งแน่นอนว่าลูกน้องทุกคนที่รู้ว่าลลินได้อยู่ในห้องกับเตชินท์นานหลายชั่วโมงและไม่ได้ออกมาพร้อมกัน ต่างก็ไม่มีใครถามถึงเด็กสาวเลยแม้แต่คนเดียว เช่นเดียวกับที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปด้านในห้องทำงานของเตชินท์เพราะเกรงว่าจะเข้าไปเห็นภาพที่ไม่เหมาะสมเข้า
อย่างไรคนที่อยู่ในห้องนั้นก็เป็นลูกบุญธรรมของนายใหญ่พวกเขา แต่หากจะให้ยื่นมือเข้าไปช่วยและเป็นศัตรูกับเตชินท์ พวกเขาก็ไม่ทำแบบนั้นเหมือนกัน
“เอ่อ...นายครับ” เสียงของชายหนุ่มบอกกับเจ้านายอย่างไม่ค่อยเต็มเสียงเท่าไรนัก
“พวกผมรู้ตัวของคนที่วางยาคุณหนูแล้ว ถ้านายอยากให้จัดการ...”
“ไม่มีความจำเป็นที่กูต้องสนใจ”
“ครับ” เพียงเท่านี้เขาก็รู้แล้วว่าเตชินท์ยังคงมีอคติกับลลินอยู่ แต่เขาไม่เข้าใจความคิดของชายหนุ่มเลยแม้แต่น้อยว่าตอนนี้เตชินท์ต้องการอะไรถึงได้ร่วมหลับนอนกับหญิงสาวที่อยู่ในครอบครัวของตัวเองแบบนี้
วันต่อมา
“อื้อ~” ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศปลุกให้ร่างบอบช้ำที่นอนอยู่รู้สึกตัวในช่วงสายของวันใหม่ ทว่าความรู้สึกแรกที่นอกจากความไม่สบายตัวแล้วก็คือความเจ็บระบมที่ช่วงล่างซึ่งตรงเข้าเล่นงาน นานอยู่พักใหญ่กว่าเธอจะได้สติว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องนอนของตัวเองอย่างเช่นทุกวัน
“อะ...โอ๊ย!” ทันทีที่ขยับตัวริมฝีปากบางก็ต้องหลุดเสียงร้องออกมา ดวงตากลมไล่สำรวจร่างกายเปลือยเปล่าของตัวเองที่มีแต่ร่องรอยความดิบเถื่อนด้วยความสับสน เพราะลลินแทบจำไม่ได้เลยว่าทุกอย่างมันเกิดขึ้นได้อย่างไร
เพียงแค่นึกถึงหยาดน้ำตาก็พลันเอ่อออกมา แม้หญิงสาวจะจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้ทั้งหมด แต่มันก็พอจะมีบางช่วงที่เธอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ถึงภาพเหตุการณ์จะยังคงเลือนลางแต่ร่องรอยรักรวมถึงคราบน้ำคาวที่เปรอะเปื้อนก็เป็นสิ่งยืนยันทั้งหมดแล้ว
ลลินพยายามที่จะพยุงร่างไร้เรี่ยวแรงของเธอเพื่อออกมาจากที่ตรงนี้ให้เร็วที่สุดเพื่อป้องกันเตชินท์กลับมาอีกครั้ง โดยที่เด็กสาวไม่รู้เลยว่าคนที่ร่วมหลับนอนด้วยกันเขาได้ทิ้งเธอไว้คนเดียวอย่างไม่ใยดีตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว และมันก็ไม่มีเหตุผลที่เตชินท์จะต้องกลับมาที่นี่อีกในตอนนี้
หญิงสาวพยายามที่จะหยิบของใช้ที่กระจัดกระจายรวมถึงเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นมาใส่ทั้งน้ำตาหลังรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำด้วยความกลัวในตอนที่กำลังจะเดินออกจากห้องไป แต่ถึงอย่างไรเธอก็ต้องรีบพาตัวเองออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
ลลินปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้วใช้มือเอื้อมไปจับชุดกระโปรงในส่วนที่ขาดเอาไว้ไม่ให้หลุดออกจากกัน จากนั้นจึงเดินตรงไปที่ประตูบานใหญ่ซึ่งเธอพอจะจำได้ลาง ๆ ว่าเมื่อคืนเข้ามาทางนี้
“คุณดินเข้าไปไม่ได้นะครับ”
“พวกมึงมีอะไรปิดบังกูกันแน่ ลลินหายไปจากที่นี่ทั้งคืน จะให้กูอยู่เฉยได้ยังไง”
แกร๊ก~
ทว่าในจังหวะที่หญิงสาวกำลังเอื้อมมือออกไป บานประตูตรงหน้าก็ถูกเปิดออกอย่างแรงจากคนที่อยู่ด้านนอกเสียก่อน พร้อมกับเสียงโหวกเหวกที่เล็ดลอดเข้ามา
หญิงสาวตัวแข็งทื่อในตอนที่สบตากับพี่ชายของตนเอง ซึ่งแผ่นดินเองก็มีสีหน้าที่ตกใจไม่ต่างกันที่มาเจอลลินอยู่ในห้องของเตชินท์ในเวลาแบบนี้
เขาไล่สำรวจตามเรือนร่างน้องสาวคนเล็กอย่างเปิดเผยจนลลินตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว เธอก้มหน้าลงอย่างไม่กล้าจะสบตาเพราะสภาพของเธอในตอนนี้สามารถดูออกได้อย่างง่ายดายว่าเมื่อคืนได้ผ่านอะไรมาบ้าง
“เกิดอะไรขึ้นลิน ใครเป็นคนทำ”
หยาดน้ำตาที่กลั้นไว้พลันรินไหลออกมาเพียงแค่ได้ยินน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป ก่อนคนที่เคยยืนอยู่ตรงหน้าจะตรงเข้าไปที่ห้องนอนซึ่งอยู่ด้านในอย่างถือวิสาสะด้วยความรีบร้อน
ร่างสูงแทบจะล้มทั้งยืนหลังได้เห็นสภาพห้องที่ผ่านสมรภูมิรักมาอย่างหนัก ทั้งซองถุงยางอนามัยที่ตกอยู่ด้านล่าง หรือคราบน้ำคาวผสมกับเลือดสีแดงซึ่งเปรอะเปื้อนบนที่นอนของเตชินท์อยู่หลายแห่ง ซึ่งแน่นอนว่า...ไม่มีใครสามารถเข้ามาที่นี่นอกจาก ‘พี่ชาย’ ของเขาเท่านั้น
“กูต้องการคำอธิบายเรื่องนี้!” ชายหนุ่มแผดเสียงดังลั่นพร้อมกับตรงเข้าไปกระชากที่คอเสื้อของลูกน้องซึ่งพยายามจะกันเขาไว้ในตอนแรกราวกับจงใจที่จะปิดบังบางอย่าง จนทำให้เขาตัดสินใจบุกเข้ามาแล้วเจอกับภาพเหล่านี้ในที่สุด
“พูดออกมาสิวะ! มึงรู้ว่าลลินต้องเจอกับอะไร แต่ทำไมถึงไม่บอกให้กูรู้!”
“อึก...ฮือออ” เสียงร้องไห้ของหญิงสาวที่ปล่อยโฮออกมาเรียกความสนใจให้แผ่นดินยอมปล่อยมือออก เขาพ่นลมหายใจหนัก ๆ เพื่อสะกดกลั้นอารมณ์เดือดดาลของตัวเองเอาไว้ ก่อนจะเดินไปหาร่างเล็กที่ยืนตัวสั่นเทาอยู่
แผ่นดินขบกรามแน่นเมื่อได้เห็นสภาพของน้องสาวคนเล็กใกล้ ๆ อีกครั้ง เขาตัดสินใจเก็บเรื่องที่เกิดขึ้นไว้จัดการทีหลังแล้วรับเสื้อสูทมาคลุมทับชุดกระโปรงที่ขาดวิ่นให้กับเธอ
พรึ่บ!
“อึก!” ริมฝีปากบางหลุดเสียงร้องออกมาพลางยกมือมากุมหน้าท้องไว้ในตอนที่ถูกแผ่นดินช้อนตัวขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว การกระทำของหญิงสาวล้วนเป็นดังใบมีดที่กรีดหัวใจแกร่งของชายหนุ่มซ้ำ ๆ ก่อนเขาจะพาเธอออกมาจากตรงนั้นโดยที่ไม่พูดอะไรมาตลอดทางเช่นเดียวกับลลินที่ยังคงนั่งร้องไห้ออกมาตลอดเช่นกัน
สวบ!“อ่าส์...” เตชินท์หลุดเสียงครางออกมาอย่างสุดกลั้นเมื่อสามารถสอดใส่เข้าไปได้จนสุดความยาวแล้ว จากนั้นจึงเริ่มซอยสะโพกเข้าออกอย่างช้า ๆ เนื่องจากน้ำหล่อลื่นด้านในที่ทำให้เขาขยับได้สะดวกกว่าเดิม“นิ่มมากเลย” ฝ่ามือใหญ่เลื่อนมากอบกุมเต้าอวบแล้วออกแรงบีบเคล้นไปตามความต้องการ โดยที่ช่วงล่างก็ยังคงออกแรงกระแทกกระทั้นเข้าออกอย่างไม่ลดละ เตชินท์โน้มใบหน้าลงไปฉกชิมความหวานจากเนื้อนุ่มจนยอมปทุมถันแข็งชันเป็นไต แล้วจึงไล่ขึ้นมาสูดดมความหอมจากลำคอขาวเนียนอย่างหลงใหล“อย่าทำรอยนะคะ อ๊ะ ๆ” สองแขนเรียวยกขึ้นมาโอบกอดแผ่นหลังแกร่งเอาไว้อย่างแนบชิดแล้วร้องบอกเสียงกระท่อนกระแท่นจากร่างกายของเธอที่กำลังโยกคลอนอยู่ ซึ่งเตชินท์เองก็ยอมทำตามความต้องการของลลินอย่างว่าง่ายเพราะเขารู้ดีว่าวันนี้เป็นวันสำคัญที่เทพพิพัฒน์ทั้งสองบ้านจะมารวมตัวกัน ดังนั้นภาพลักษณ์ของเธอจึงต้องดูดีที่สุดในสายตาของผู้ใหญ่“ยังตอดเก่งเหมือนเดิมเลยนะ”“อ อื้อ!”“ไม่ให้ทำรอยแต่ทำแบบนี้ได้ใช่ไหม?” เตชินท์เอ่ยถามคนใต้ร่างเสียงแหบพร่าหลังจากผละใบหน้าออกมาแล้ว โดยมือใหญ่ของเขาได้เอื้อมไปบีบที่ลำคอเล็กอย่างแรงเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ดิบของตัว
หนึ่งเดือนต่อมา@โรงแรมเทพพิพัฒน์“คุยกับใครอยู่?” ร่างสูงที่เดินออกมาจากห้องน้ำถามคนที่กำลังนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงเสียงเข้ม ขณะที่ลลินยกหัวขึ้นมาจากหมอนใบใหญ่เล็กน้อยแล้วตอบกลับไป“คุยกับพี่เทมป์ค่ะ พี่เขาซื้อน้องหมาตัวเล็กมาด้วย น่ารักมากเลย~”“อยู่บนเตียงกับพี่แต่พูดถึงผู้ชายคนอื่นงั้นเหรอ?”“หึงเหรอ~”“ถ้าบอกว่าหึงจะเลิกคุยไหม?” เขาล้มตัวลงนอนด้านข้างแล้วอุ้มร่างเล็กขึ้นมานอนทาบทับบนแผงอกแกร่งซึ่งเป็นที่ที่ลลินชอบนอนอยู่เป็นประจำ“ม่ายยยย” เด็กสาวหัวเราะชอบใจตอนที่ปลายจมูกโด่งเลื่อนมาคลอดเคลียที่แก้มนวลเป็นเชิงหยอกล้อ เพราะเธอรู้ดีว่าเตชินท์ไม่ได้หึงเธอกับเทมป์แล้ว และทั้งคู่ก็เคยคุยกันอยู่บ่อย ๆ จากการไปหาเธอที่ร้านดอกไม้ในทุกวันหยุด ซึ่งเทมป์ก็มาเป็นลูกค้าประจำ รวมถึงเตชินท์ที่มาอยู่เป็นเพื่อนเธอเช่นกัน“สัปดาห์หน้าพี่เทมป์มีฉลองสอบเสร็จกับเพื่อน ๆ เราชวนพี่เขามาที่ผับของเราดีไหมคะ”“ตามใจ เพราะยังไงลินก็มีอำนาจตัดสินใจเท่าพี่อยู่แล้ว”“งั้นลินบอกเลยแล้วกัน”“ว่าแต่เราเหลือเวลากันอีกกี่ชั่วโมงเหรอคะ?”“น่าจะประมาณสี่ถึงห้าชั่วโมง เดี๋ยวไอ้ติณมันจะบอกอีกที อยากไปไหนก่อนไหม?”
“เดี๋ยวนี้ตัวติดกับพี่เตจนลืมพ่อกับแม่แล้วนะ” ฉัตรพลหยอกล้อคนที่เดินเข้ามากับภรรยาของตัวเอง ทั้งที่เมื่อก่อนเด็กสาวมักจะอยู่บ้านตลอดเวลาที่ว่าง แต่ดูเหมือนในตอนนี้เธอจะใช้เวลาอยู่ที่อื่นเสียมากกว่า“ฮืออ หนูไม่ได้ลืมทุกคนนะคะ” ลลินแสร้งเบะปากราวกับจะร้องไห้เพื่อเรียกความเห็นใจ เพราะว่าตอนนี้เหมือนทุกคนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันหมดถึงความคลั่งรักของทั้งคู่ที่ตัวติดกันตลอดเวลา“ไม่ต้องมาทำตาใสเลย พ่อไม่สงสารหรอกนะ”“ไม่ต้องไปสนใจหรอก” เตชินท์เอ่ยบอกเด็กสาวเสียงเรียบแล้วรั้งตัวของเธอมานั่งบนหน้าตักจนลลินไม่ทันตั้งตัว ยิ่งทำให้เธอรู้สึกเขินอายมากกว่าเดิม“พี่เตปล่อยลินก่อนค่ะ พ่อกับแม่อยู่นะ”“แค่นั่งตัก”“แต่ตอนนี้เรากำลังจะกินข้าวกันนะคะ จะนั่งแบบนี้ได้ยังไง”“ลินกินก่อน เดี๋ยวพี่ค่อยกิน”“อย่าไปตามใจพี่เขามากนะลิน” กานต์พิชชาเอ่ยปรามลูกสาวคนเล็กที่พ่วงมาด้วยตำแหน่งของลูกสะใภ้หลังได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่ที่คล้ายกับว่าลูกชายของเธอจะเอาแต่ใจแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเมื่อได้อยู่กับเมียตัวเล็ก แต่ฉัตรพลกลับหัวเราะออกมาเบา ๆ แล้วหันไปบอกภรรยาของตนเอง“ไม่รู้ว่าใครตามใจใครกันแน่นะ”“แล้วเป็นยังไงบ้าง
“แฮ่ก~” ลลินหอบหายใจออกมาแล้วล้มตัวลงนอนทาบทับบนแผงอกแกร่งอย่างหมดแรง ขณะที่ทั้งคู่กำลังอยู่บนโซฟาโดยมีเตชินท์เป็นคนที่นอนอยู่และลลินนั่งคร่อมด้านบน จุดเชื่อมต่อของทั้งสองคนยังคงเป็นหนึ่งเดียวกันอยู่แบบตอนแรก“เมียเด็กนี่แรงเยอะจังเลยนะ” เขาเอ่ยหยอกล้อโดยที่มือยังคงลูบแผ่นหลังชุ่มเหงื่อไปด้วยเบา ๆ“พี่เตเองก็แรงเยอะเหมือนกันแหละค่ะ ทำตรงนั้นของลินแสบไปหมดเลย”“แล้วชอบไหม?”“ชอบค่ะ” มาเฟียหนุ่มหลุดยิ้มกับคำตอบทะเล้นของคนรักก่อนเขาจะเป็นฝ่ายอุ้มเธอไปทำความสะอาดคราบน้ำเชื้อเหนอะหนะอย่างเช่นทุกครั้ง และกลับมานอนบนเตียงที่ตอนนี้ทั้งผ้าห่มและผ้าปูที่นอนกระจัดกระจายอย่างไม่เป็นระเบียบ“กอดของพี่เตอุ่นจังเลย~” ใบหน้าจิ้มลิ้มซุกหน้าเข้าที่แผงอกแกร่งแบบที่ชอบทำเพื่อหาความอบอุ่นจากร่างกำยำแล้วเอ่ยออกมาอย่างอารมณ์ดีที่เตชินท์ยังคงปฏิบัติต่อเธอเหมือนวันแรกที่ตัดสินใจคบหากันจนถึงตอนนี้“มีอะไรจะบอกพี่แค่นี้เองเหรอ?”“ต้องบอกอะไรอีกเหรอคะ”“ลิน”“ฮ่า ๆ ลินคิดว่าพี่จะฟังจนเบื่อแล้วซะอีก”“อยากฟังอีก แล้วก็ไม่มีวันเบื่อด้วย จะอีกกี่ปีก็อยากฟังทุกวัน”“เพราะพี่ยังเสมอต้นเสมอปลายหรอกนะคะ ลินเลยพูดคำนี้
“ทำไมอ้อนเก่ง” ไม่ใช่ว่าลลินไม่เคยเป็นฝ่ายควบคุมเกมรักด้วยตัวเอง และไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยอ้อนเขาแบบนี้ แต่ว่าท่าทางที่ดูเหมือนแมวตัวเล็กน่ารักนั้นทำเอาหัวใจแกร่งของมาเฟียอย่างเขาหัวใจอ่อนยวบแล้วอดที่จะถามไม่ได้ถึง ‘ความน่ารัก’ ที่นับวันลลินก็ยิ่งมีมากขึ้นเรื่อย ๆ“ลินเห็นพี่ทำเพื่อลินมามากแล้วค่ะ ลินเลยอยากตอบแทนให้พี่มีความสุขบ้าง”“ที่ทำทั้งหมดเพราะแค่อยากตอบแทนงั้นเหรอ?”“เปล่าค่ะ เพราะหนูก็ต้องการเหมือนกัน”เตชินท์ยกยิ้มกับคำพูดเอาใจของคนตัวเล็กก่อนที่ลลินจะเป็นฝ่ายขยับขึ้นมาคร่อมบนหน้าตักของเขาไว้ แก่นกายใหญ่ที่เพิ่งอ่อนตัวลงกลับมาแข็งชันอีกครั้งหลังจากที่ถูกมือนุ่มสัมผัสได้สักพักลลินจัดการยกตัวขึ้นเล็กน้อยก่อนจะจับปลายหัวเห็ดแดงก่ำมาจ่อตรงปากร่องสวาทของตัวเอง จากนั้นจึงกดตัวลงช้า ๆ โดยที่มีมือของเตชินท์คอยประคองเอวคอดเอาไว้“อ อื้อ~”“ทำแบบนี้มันก็ยิ่งเข้าไปลึกสิ” เตชินท์จ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่บิดเบี้ยวเล็กน้อยด้วยความเอ็นดู ก่อนจะขยับไปนั่งพิงหัวเตียงเพื่อที่จะได้โอบกอดคนตัวเล็กได้สะดวกมากกว่าเดิมโดยที่มืออีกข้างของเขาก็กำลังบีบเคล้นหน้าอกใหญ่ไปด้วย“อยากขยับไหม?”“ไม่เป็นไรค่ะ
“ขอเหมือนเดิมหนึ่งแก้วค่ะ” เด็กสาวในชุดสายเดี่ยวยืนสั่งบาร์เทนเดอร์เสียงหวานหลังจากที่เพื่อนทั้งสามคนแยกย้ายกันกลับไปแล้ว เธอคิดว่าจะดื่มต่ออีกสักแก้วแล้วค่อยไปนอนบนเตียงนุ่ม ๆ ของเตชินท์เพื่อคิดถึงเขาไปด้วย ระหว่างนั้นมือเรียวก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะดูว่าแฟนหนุ่มได้อ่านข้อความที่เธอส่งไปหรือยัง“อ๊ะ!”“แอบมาหนีเที่ยวแบบนี้ไม่กลัวโดนทำโทษเหรอครับ” ทว่าในจังหวะที่กำลังปลดล็อคหน้าจอ ท่อนแขนแกร่งของชายหนุ่มบางคนก็สอดเอามาโอบที่เอวคอดของลลินอย่างไม่ทันตั้งตัว เสียงทุ้มที่เอ่ยประชิดกับใบหูเล็กและกลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคยพาลทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำ เธอรีบหมุนตัวกลับไปแล้วตวัดแขนโอบกอดลำคอหนาไว้แน่นด้วยความคิดถึง“ที่รักกลับมาหาหนูแล้ว”“แอบหนีพี่เที่ยวงั้นเหรอ?” เตชินท์โอบกอดที่เอวบางเอาไว้พร้อมกับโน้มใบหน้าลงมาสูดดมกลิ่นหอมบริเวณไหล่มนด้วยความคิดถึงไม่ต่างกัน ขณะที่มืออีกข้างก็ลูบแผ่นหลังบางของคนตัวเล็กเบา ๆ ไปด้วย“หนูส่งข้อความบอกแล้วนะคะ แต่พี่เตไม่อ่านเอง รู้ไหมว่าตลอดสองวันที่ไม่ได้คุยกันหนูคิดถึงมากแค่ไหน”“พี่รีบทำงานเพื่อจะกลับมาหาเด็กน้อยแถวนี้อยู่ แล้วก็ว่าจะกลับมาเซอร์ไพรส







