LOGINเหมือนจันทร์กลับถึงบ้านด้วยสภาพอ่อนแรง วันนี้ก็ดันเจอเรื่องแย่ๆจนทำให้จิตใจว้าวุ่นเหนื่อยล้าเพิ่มเท่าตัว เธอทิ้งตัวนอนกับเตียงในห้องด้วยความรู้สึกหนักอึ้งในหัว ยามเมื่อคิดถึงใบหน้าของชายแปลกหน้าซึ่งขโมยจูบแรกไปจำต้องยกมือขึ้นมาเช็ดริมฝีปากซ้ำๆจนแดงเรื่อ
ทำไมดวงซวยแบบนี้ ดันเสียจูบแรกกับคนแปลกหน้าเข้าเสียได้ แค่ชีวิตตอนนี้มันยังแย่ไม่พอหรือไง ทำไม พระเจ้าถึงยังเล่นตลกร้ายส่งบททดสอบมาให้ไม่หยุดเลย
เธอก็เหนื่อยเป็น ท้อแท้เป็นเหมือนกันนะ
กาสิโนแห่งหนึ่ง ชายสูงสมส่วนถือเอกสารในมือ ดันประตูเปิดในห้องชั้นสองซึ่งเป็นห้องส่วนตัวสำหรับเจ้าของอย่างเคยชินและรีบเร่ง สบตากับคนเป็นเจ้านายซึ่งนั่งพาดขาบนโต๊ะอย่างสบาย ข้างกายมีสาวสวยนางหนึ่งคลอเคลียไม่ห่างจนคนเข้ามาใหม่จำต้องหลุบตาต่ำทันควัน
“มีอะไรสำคัญ”
“เรื่องที่ให้ไปสืบ ได้ข้อมูลมาแล้วครับเสี่ย”
คนฟังกดยิ้มลึกที่มุมปาก ทำมือไล่สาวข้างกายจนเธอออกไปด้านนอก ดึงขาลงจากบนโต๊ะ นั่งหลังพิงพนักเก้าอี้ เท้ามือทั้งสองข้างลงกับโต๊ะแล้วกุมประสานไว้ตรงกลาง
“ว่าไง”
“เธอชื่อ เหมือนจันทร์ แสงกระจ่าง อายุ 24 ปี อาศัยอยู่กับพ่อแม่ที่หมู่บ้านนอกเมือง จากข้อมูลที่ค้น พบว่าพ่อของเธอ ชื่อดนัย ติดการพนันบ่อนที่นั่นด้วยครับ ไปเล่นทุกวันครับเสี่ย”
สิโรจน์ยกยิ้มชอบใจ ดวงตาวาววับประกายความดุร้าย
เหมือนจันทร์นะเหมือนจันทร์ เธอช่างสวยตราตรึงในใจเขาจริงๆ อีกทั้ง รสจูบแสนหวานนี้ ก็ทำให้เขามัวเมาลุ่มหลงอยากจะครอบครองทั้งตัว
“สั่งคนที่บ่อนนั่น ทำยังไงก็ได้ ให้ดนัยมันติดหนี้พนันจนไม่มีเงินชดใช้”
“ได้ครับเสี่ย”
“อ้อ แล้วก็ เตรียมเอกสารลูกหนี้ให้ด้วย ระบุว่าเป็นคู่นอนห้าเดือน แลกกับจำนวนเงินที่ติดหนี้ไว้”
จักร คนสนิทโค้งรับคำหนักแน่นแล้วเดินออกจากห้อง หากว่าเสี่ยสิโรจน์ถูกใจใคร ก็มักจะใช้แผนสกปรก ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาครอบครอง เพราะอย่างนั้น ที่บ้านในเขตรั้วของเสี่ย จึงมีสาวๆอยู่แล้วถึงหกคน พวกเธอพิเศษกว่าผู้หญิงที่เคยคั่วแล้วเลี้ยงไว้ตามสถานที่ต่างๆ ดังนั้นจึงได้อยู่ในเขตรั้วบ้านเดียวกับเสี่ยสิโรจน์นั่นเอง
ไม่รู้ว่า หนนี้ เหมือนจันทร์คนนั้น จะได้อยู่ส่วนไหนของชีวิตเสี่ยกัน
ดนัยแทบไม่อยากเชื่อ ว่าเขาจะชนะหลายครั้งติดจนเงินแตะถึงล้าน คิดว่าจะกลับ แต่คนก็ยังยั่วยุให้เล่นต่อ หากกล้าลงทุน ไม่แน่อาจจะพุ่งแตะสิบล้าน แน่นอน คนหัวพนันแบบเขาไม่ยอมให้ใครมาลบหลู่ลูบคม จัดการเทหมดหน้าตัก หนนี้กลับเคราะห์ร้าย สูญเสียเงินไปทั้งหมด
เกือบจะได้กลับ หากทางร้านไม่ยื่นข้อเสนอยืมเงินเท่าไหร่ไม่อั้นเนื่องจากเขาเป็นผู้ชนะหลายครั้งติด
ดนัยยิ้มร่า ผีพนันเข้าสิง ทุ่มหมดหน้าตัก คราวนี้ต้องเอาเงินคืนกลับมาได้แน่
แต่ยิ่งเล่นยิ่งแพ้ หนี้ที่ติดค้างบ่อนจากแสนก็เป็นล้าน จากล้านเข้าสู่สิบล้านจนดนัยหน้าเสีย
บัดซบเอ๊ย ทำไมวันนี้ดวงขึ้นๆลงๆแบบนี้วะ
กนกนุชใส่สาคูต้มในหม้อ มือก็คนไม่ให้มันติดหม้อบ่อยครั้ง อีกด้านหนึ่งเหมือนจันทร์กำลังซักผ้าซึ่งซักด้วยมืออยู่ ใบหน้าอ่อนหวานแดงเรื่อ เหงื่อผุดพรายเต็มหน้าเพราะทำงานหนักตลอดทั้งวัน ระหว่างนั้น ก็มีเสียงดังขึ้นหน้าประตู ทั้งสองสาวต่างพากันตกใจและหันไปมองทางเดียวกัน
ดนัยปรากฏตัวในสภาพสะบักสะบอม ใบหน้ามีแต่รอยช้ำและเลือด สองสาวต่างวัยพลันตื่นตระหนก รีบทิ้งงานที่ทำอยู่แล้วมาดูดนัยทันที
“พ่อ นี่มันเกิดอะไรขึ้น”
“คุณดนัย เป็นยังไงบ้างคะ”
ดนัยปวดร้าวไปทั้งตัว คิดว่าชีวิตจะไม่รอดแล้ว ที่ไหนได้ พวกมันซ้อมจนสลบแล้วแบกเขากลับบ้าน
“คุณดนัยติดหนี้พนันที่บ่อน ไม่มีเงินจ่าย”ชายฉกรรจ์สามคนก้าวเข้ามาในบ้านด้วยท่าทางดุดัน สีหน้าเย็นชาน่ากลัว
“อะไรนะ ติดหนี้เหรอ คุณดนัย คุณติดหนี้พวกมันเท่าไหร่”กนกนุชเสียใจจนน้ำตาคลอ ถามเสียงสั่นด้วยความปวดร้าวในอก
“โธ่เอ๊ย ก็ไม่เท่าไหร่ แค่ แค่สิบล้าน”
“อะไรนะ สิบล้าน!”สองสาวต่างวัยทวนประโยคพร้อมเพรียง ใบหน้าพลันซีดลงทั้งคู่
“พะ พวกเราไม่มีเงินเยอะขนาดนั้นหรอกนะ คุณบ้าไปแล้วหรือไงถึงได้ทำบ้าๆลงไป”กนกนุชผลักสามีออกด้วยความโมโหเสียใจ ลำพังแค่ชีวิตตอนนี้ก็แทบไม่มีกินอยู่แล้ว ดนัยยังทำให้เรื่องมันแย่ลงกว่าเดิมอีก
ดนัยทรงตัวแล้วก็กัดกรามแน่น เขาหยัดตัวลุกอย่างทุลักทุเล ทว่าไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือ
ปรายตามองเหมือนจันทร์แล้วก็หงุดหงิด ลังเลใจชั่วครู่ แต่กระนั้นก็จำต้องกัดฟันทน
“นี่ลูกสาวฉัน ฉันขอขายให้นายพวกแกตามสัญญาแลกกับเงินที่ติดหนี้ไว้”
สองสาวพากันเบิกโพรงตากว้าง ใจสั่นระรัว กนกนุชรีบจับแขนเหมือนจันทร์แน่นเมื่อชายแปลกหน้าทั้งสามหันมอง
“คุณดนัย คุณบ้าไปแล้วหรือไง นี่ลูกของเรานะ คุณจะขายเพื่อใช้หนี้พนันแบบนี้ไม่ได้”
“โธ่เอ๊ย แค่ห้าเดือนเอง ใครๆก็อยากอยู่กับเสี่ยทั้งนั้น หากถูกใจเสี่ยเลี้ยงตลอดชีวิตเลยนะ”
“คุณดนัย นี่คุณยังมีความเป็นพ่อคนอยู่ไหม ทำไมถึงกล้าพูดเรื่องระยำพวกนี้ออกมาได้อย่างหน้าเฉย”กนกนุชตัวสั่นเทิ้ม ตวัดมือใส่หน้าดนัยสุดแรงจนฝ่ายชายเซถอยหลัง มันโกรธจนกำมือแน่น ตวัดดวงตาแข็งกร้าวดุร้ายใส่สองแม่ลูก เหมือนจันทร์ตัวสั่น เกาะแขนกนกนุชเป็นที่พึ่ง เพียงชั่วพริบตา ดนัยก็กระชากกนกนุชด้วยแขน พร้อมกับยกมือตบหน้าภรรยาด้วยความโกรธเสียหน้าจนหญิงสาวฟุบลงกับพื้น
เหมือนจันทร์เบิกตากว้าง น้ำตาปริ่มขอบตาทั้งสองข้าง ถลาเข้าไปกอดกนกนุชแน่นจนดนัยซึ่งจะซ้ำเติมอีกครั้งหยุดชะงัก สบตากับพวกลูกน้องซึ่งหรี่ตาลงข่มขู่
บ้าเอ๊ย หากไม่ถูกต้องตาต้องใจเสี่ย เขาจะตบสั่งสอนสองแม่ลูกนี่ให้สำนึก
“แม่ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ เจ็บไหม”น้ำเสียงหวานสั่นเครือไม่ต่างกับกายสั่นระริก กนกนุชน้ำตาร่วงด้วยความเสียใจเจ็บปวด ส่ายหน้าแล้วซับน้ำตาอย่างเข้มแข็ง ความเจ็บที่แก้มซ้ายยังน้อยกว่าใจมากโข
“ไปได้แล้ว พ่อเธอเซ็นสัญญากับเสี่ยแล้ว เธอต้องอยู่กับเสี่ยห้าเดือน”
“ไม่ อย่ามาแตะต้องตัวลูกสาวฉันนะ”
“ลากตัวมันไปได้”ดนัยรีบเข้าไปจับสองแม่ลูกซึ่งกอดกันกลมออกจากกัน กระชากกนกนุชมากอดแน่นขณะที่ชายฉกรรจ์ทั้งสองเข้ามาฉุดดึงเหมือนจันทร์ไปอีกด้าน
“ไม่นะ ฉันไม่เต็มใจนะ ปล่อยฉัน ฉันไม่ไปนะ”
“เฮ้ย เอายาสลบมาสิวะ”
“ไม่นะ ปล่อยฉันนะ”
“อย่าทำอะไรลูกฉันนะ ปล่อยจันทร์เดี๋ยวนี้ ปล่อยฉันนะคุณดนัย ปล่อย”ลูกน้องหยิบผ้าโปะยาสลบปิดจมูกและปากอวบอิ่มของเหมือนจันทร์จนร่างที่ดีดดิ้นสุดแรงเริ่มอ่อนกำลังจนสุดท้ายก็หมดสติ พวกเขารีบอุ้มพาไปขึ้นรถเพื่อส่งให้เจ้านายทันที
กนกนุชหัวใจแทบแหลกสลาย เธอกรีดร้องทุบตีดนัยสุดแรงแต่ก็ไม่อาจหลุดไปได้ ยิ่งเห็นเหมือนจันทร์หายไปจากสายตายิ่งเจ็บปวดใจ ร้องไห้สะอื้นด้วยความสงสาร
“จันทร์ จันทร์”
“โธ่เอ๊ย หยุดบ้าสักที”ดนัยรำคาญ ปัดป้องมือเธอด้วยความหงุดหงิดรำคาญ พอไม่ได้ดั่งใจก็บันดาลโทสะตบหน้าด้วยแรงที่มากพอจนกนกนุชทรุดฮวบลงกับพื้น เลือดออกซิบมุมปาก น้ำตานองหน้าเจ็บปวดกายไม่นานก็หายแต่เจ็บใจนี่เล่าต้องทำยังไงถึงหาย
“คุณดนัย คุณติดพนันจนกลายเป็นบ้าไปแล้วหรือไง นั่นลูกสาวเรานะ คุณกล้าขายให้เสี่ยแบบนี้ได้ยังไง คุณทำร้ายจิตใจลูกแบบนี้ได้ยังไง คุณยังเป็นพ่อคนอยู่ไหม”
“สิ่งที่ฉันทำมีแต่ได้กับได้ หากนางจันทร์ถูกใจเสี่ยขึ้นมา มันสบาย พวกเราก็สบายไปด้วย ไม่รู้หรือไงว่าเสี่ยสนใจมัน ถึงเสนอเงื่อนไขแลกมันกับเงินสิบล้าน และถึงต่อให้เสี่ยไม่เอามันแล้วหลังครบสัญญา พวกเราก็ยังมีแต่ได้กับได้ เงินสิบล้านเลยนะ เธอมีปัญญาชดใช้หรือไง”ดนัยตะคอกใส่ด้วยแรงอารมณ์ ใบหน้าบูดบึ้งไม่ชอบใจเท่าไหร่แต่หากคิดๆแล้วพวกเขามีแต่ได้กับได้เท่านั้น
“แล้วจันทร์ล่ะ คุณเคยนึกถึงความรู้สึกลูกบ้างไหม ไม่มีใครอยากเป็นเมียน้อยใครหรอกนะ”
“ก็ถ้าเป็นแล้วสบาย ยอมๆไปก็ไม่เสียหายไม่ใช่หรือไง อย่าลืมสิ ว่าที่พวกเธอต้องดิ้นรนทำงานหนักสายตัวแทบขาดก็เพราะเงิน นี่ไง ฉันหาหนทางทำเงินมาให้แล้วก็รู้จักสำนึกบ้าง”
“คุณมัน ฉันไม่น่าแต่งงานกับคนเลวอย่างคุณเลย ทำไมคุณถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ คุณดนัย”กนกนุชกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ตะคอกตอบกลับจนเอ็นขึ้นที่คอ น้ำตานองหน้า
ดนัยแสยะยิ้ม มองกนกนุชด้วยความเย็นชา
“อย่ามาเรียกร้องอะไรตอนนี้น่า ชีวิตมันก็มีขึ้นลงแบบนี้แหละ รอนางจันทร์มันรวย พวกเราก็สบายแล้ว”
นอกจากไม่สำนึก ยังวาดฝันว่าเหมือนจันทร์จะกอบโกยสมบัติจากเสี่ยมาให้ใช้ไม่ได้นึกถึงความรู้สึกลูกสาวเลยสักนิด
กนกนุชกำหมัดแน่น ก้มหน้าร้องไห้กับความว่างเปล่าอย่างไร้หนทางช่วยเหลือ
จันทร์ เหมือนจันทร์ลูกแม่…แม่จะช่วยจันทร์ยังไงดี ต้องทำยังไง
เหมือนจันทร์ทำงานสนุกจนลืมวันลืมคืน คิดไม่ถึงว่าจะครบหนึ่งเดือนแล้วหลังจากที่สิโรจน์หายไป ตอนแรกๆยังกังวลและว้าวุ่นนิดหน่อย พอครบเดือนอย่างที่ไรยาพูด ตอนนี้จึงได้ดูสบายใจมากเหมือนจันทร์ยังทำงานที่ร้านอาหารบรรวรรณตามสัญญาสามวัน และไลฟ์สดขายเสื้อผ้าในวันหยุดทุกวัน สม่ำเสมอ ขยัน อดทน ไม่ย่อท้อ แม้แรกเริ่มจะมีคนดูเพียงสิบกว่าคน แต่เมื่อมีคนรีวิวสินค้าต่างๆ ลูกค้าก็เพิ่มขึ้น จากหลักสิบเป็นหลักร้อย จากร้อยเป็นพัน กลายเป็นว่าขายดิบขายดีจนต้องสั่งเสื้อผ้าเพิ่ม จากคอนโดซึ่งมีพื้นที่ว่างเต็ม ตอนนี้เต็มไปด้วยกองเสื้อผ้าจนไรยาได้แต่กุมขมับ แต่ถึงอย่างนั้น พอเห็นเหมือนจันทร์อดหลับอดนอนแพ็กสินค้าถึงตีสามตีสี่ เธอก็จำต้องเก็บความไม่สบายใจไว้แล้วคอยช่วยอีกฝ่ายแพ็กสินค้าส่งไม่น่าเชื่อว่าเวลาแค่ไม่กี่อาทิตย์ที่หญิงสาวขึ้นไลฟ์ จะขายดีเหมือนเป็นเดือนขนาดนี้“หากทำต่อไปเรื่อยๆ พี่ว่าจันทร์ไม่ต้องทำงานร้านอาหารแล้วล่ะ”เหมือนจันทร์ยิ้มร่า ไม่คิดว่าไลฟ์ขายของจะได้เงินขนาดนี้ หากตอนนั้นเธอมีทุนสักก้อนอย่างตอนนี้ ไม่แน่อาจไม่ต้องกลายมาเป็นผู้หญิงของเสี่ย“พี่ไรยาก็พูดไป”เหมือนจันทร์ยิ้มกว้างมากขึ้น อาจเพร
เหมือนจันทร์อดเม้มปากด้วยความขัดใจไม่ได้เมื่อเสียงไลน์โทรเข้ามาในเวลาสามทุ่มทุกวันนับแต่ที่สิโรจน์จากไป ทำราวกับกลัวเธอหายไป ทั้งที่ไรยาคงรายงานอยู่ตลอดแท้ๆเหมือนจันทร์สูดหายใจลึกกล้ำกลืนความรู้สึกไม่ชอบใจลง กดรับสายขานรับเสียงอ่อน“ค่ะเสี่ย”“วันนี้ทำอะไร”น้ำเสียงเรียบนิ่งดังตามสาย ตามด้วยเสียงกุกกักราวกำลังทำบางอย่างอยู่คงไม่ใช่ทำกิจกรรมอย่างว่าอีกหรอกนะเหมือนจันทร์คิดแล้วก็ทำหน้าบึ้งไม่พอใจเล็กน้อย“อยู่ห้องสิคะ วันนี้วันหยุดนี่นา”ก็เล่นให้ทำงานอาทิตย์ละสามวัน เธอยังจะไปไหนได้กัน“งั้นอยู่ห้องทำอะไรบ้าง”“อืม ทำกับข้าว ซักผ้า เก็บห้อง กวาด ถูบ้าน อะไรพวกนี้ค่ะ”เหมือนจันทร์เปิดลำโพง วางโทรศัพท์ลงกับเตียงนอน ขณะที่เธอนั่งด้านล่าง พับผ้าอย่างตั้งใจ“ของพวกนี้เป็นหน้าที่ของไรยาไม่ใช่เหรอ”มือบางชะงักก่อนพับเสื้อผ้าต่อ“ก็มันว่างนี่คะ เสี่ยไม่ให้ไปทำงานที่ร้านอาหาร ให้กินๆนอนๆอย่างเดียวเลย”“ไปชอปปิง เดินห้าง ซื้อของ เที่ยวก็ได้นี่ ไม่ได้ห้ามสักหน่อย”“ไม่เอาค่ะ”เหมือนจันทร์ตอบแทบจะทันทีเมื่อได้ยินข้อเสนอของสิโรจน์ เธอไม่อยากใช้เงินเขามากไปกว่านี้ “กลัวติดหนี้เพิ่มหรือยังไง”คนตัวเ
ธุระที่สิโรจน์พูดถึงคือการมาเดินชอปปิงห้าง คนไม่คุ้นชินอย่างเหมือนจันทร์ถึงกับทำตัวไม่ถูก ยิ่งตลอดการเดินซื้อของมีสายตามากมายจับจ้องยิ่งทำให้ประหม่า วางสีหน้าแทบไม่เป็น“เกร็งอะไรขนาดนั้น เป็นผู้หญิงของเสี่ยไม่ต้องอาย ใครๆก็อยากเป็น”แต่ไม่ใช่กับเธอ เหมือนจันทร์ตอบประโยคต่อในใจ ไม่ได้พูด และเป็นเด็กดีเดินตามเขาพาเข้าร้านเสื้อผ้าแบรนด์ Uniqlo “เลือกชุดที่ชอบ ถูกใจกี่ชุดเอามาให้หมด หรือจะเหมาทั้งร้านก็ได้”โอ้โห อวดรวยจริงๆ เหมือนจันทร์ทำทีเป็นเดินดู แอบหยิบป้ายราคาหลักพันขึ้นทั้งนั้น ราคาแรงจนไม่กล้าหยิบจับอะไรอีก คนเดินตามหลังอย่างสิโรจน์ก็ขมวดคิ้ว เพราะเห็นเธอเดินวนเกือบทั่วร้านแต่ยังไม่หยิบชุดสักชุด“ไม่ถูกใจเหรอ”เหมือนจันทร์หยุดเท้า หันไปสบตากับสิโรจน์ พร้อมส่ายหน้าปฏิเสธ“เปล่าค่ะ ชุดสวยมาก แต่จันทร์ไม่อยากได้อะไรค่ะ แค่ของที่คอนโดก็พอแล้ว”สิโรจน์เลิกคิ้ว หรี่ตาจับจ้องหญิงสาวอีกครั้งราวกับค้นคว้า ปกติ พวกผู้หญิงที่พามาซื้อก็อ้อนให้ซื้อโน่นซื้อนี่เยอะแยะ แต่พอเป็นเหมือนจันทร์ นอกจากไม่เอาอะไรแล้วยังคิดจะใช้ผ้าเน่าๆของเธออีกใครรู้เข้า เสี่ยอย่างเขาคงเสียชื่อแน่“เลือกชุดที่เข้าก
เหมือนจันทร์เรียกกำลังใจให้ตัวเองอยู่พักหนึ่งก่อนตัดสินใจเคาะประตูห้องนอน“เสี่ยคะ จันทร์เองค่ะ”“เข้ามา”น้ำเสียงดุดันดังขึ้น ทำเอาเหมือนจันทร์อยากจะหันหลังหนีไปจากตรงนี้จริงๆ หากไม่ติดว่าเป็นลูกหนี้ เธอคงไม่อยู่รอแล้วสูดหายใจลึกแล้วเปิดประตูก่อนจะปิดลง ปั้นหน้ายิ้มสุดความสามารถ สาวเท้าไปหยุดข้างๆสิโรจน์ซึ่งนั่งอยู่ปลายเตียง นัยน์ตาคมกริบหรี่ลงสำรวจเรือนกายเล็ก ใบหน้าวางนิ่งเฉยเสียจนคนเข้ามาใจเสีย มือหนาตบที่ว่างข้างตัว โดยไม่มีคำพูดใด “จันทร์ขอโทษค่ะ จันทร์ไม่รู้ว่าเสี่ยจะมา”เหมือนจันทร์ทิ้งตัวนั่งข้างๆ มือประสานกันแน่นบนตัก เงยหน้ามองสิโรจน์“ไปไหนมา”“คือ จันทร์ไปทำงานที่ร้านอาหารพี่วรรณมาค่ะ”คนฟังขมวดคิ้ว หรี่ตาลงดุดัน วางมือบนมือนุ่มแล้วบีบแน่น สีหน้าเย็นชาจนคนมองหน้าเจื่อน“อนุญาตให้ไปทำเหรอ”“จันทร์ไม่ทราบว่าต้องขออนุญาตจากเสี่ยด้วย”“เป็นผู้หญิงของเสี่ย ทุกตารางนิ้วบนร่างกายคือของฉัน”ฝ่ามือร้อนช้อนใบหน้างามแหงนขึ้นให้ตนสำรวจถี่ถ้วน อีกข้างก็เลื่อนจากมือเล็กไปรวบเอวคอด ดึงเข้ามาจนเหมือนจันทร์ต้องใช้มือยันอกกว้าง “จันทร์อยากทำงานค่ะเสี่ย ให้จันทร์ทำเถอะนะคะ จันทร์อยากมีเงิน
เหมือนจันทร์ยังไม่ทันเตรียมตัวเตรียมใจ สิโรจน์ก็เร่งรัดจะทำตอนนี้เลยเหรอ แต่ทำอย่างไรได้ ในเมื่อตอบตกลงไปแล้ว“เสี่ยจะไม่ผิดสัญญาใช่ไหม”เหมือนจันทร์ยังลังเล หวาดกลัวการถูกหลอกนัก สิโรจน์ยืดตัวนั่งตรง เดินไปหยิบเอกสาร ขีดฆ่าแล้ววางลงตรงหน้าพร้อมกับนั่งที่เดิม“สัญญาลูกหนี้หนึ่งปี เซ็นซะสิ”ในสัญญามีลายเซ็นของสิโรจน์อยู่แล้ว มีสองฉบับ คาดว่าอีกฉบับให้เธอ เหมือนจันทร์จับปากกาไว้แน่น เซ็นชื่อลงไปอย่างรวดเร็ว พอเสร็จ อีกฝ่ายก็ยื่นฉบับหนึ่งมาให้เธอเก็บไว้จริงๆ“ทีนี้ จันทร์ก็ต้องทำหน้าที่ให้ดี”เหมือนจันทร์สูดหายใจลึก ข่มความรู้สึกขมขื่นในอกไว้ กัดฟันยอมทิ้งศักดิ์ศรีไป เธอลุกขึ้นเชื่องช้าเล็กน้อยเพราะตามร่างกายเจ็บระบมไปหมด กระนั้นก็ไม่ปริปากบ่น ถอดเสื้อยืดเก่าๆของตนออกตามด้วยกางเกงขายาว เหลือไว้เพียงชุดชั้นในสองชิ้นสิโรจน์กวาดมองเรือนร่างเย้ายวนเบื้องหน้า แม้ตามตัวจะมีรอยฟกช้ำรอยแดงเรื่อ ทว่าก็ไม่อาจปกปิดความงามของเธอได้ เขาลุกแล้วเดินมาหยุดตรงหน้า มือหยาบกระด้างวางทาบบั้นท้ายงอนงาม บีบขยำเบาๆจนหญิงสาวจิกเล็บเท้าลงกับพื้น หลุบตาต่ำไม่ได้สบตา“ไปห้องน้ำ”ไม่ได้รอฟังคำตอบ สิโรจน์ช้อนตัวเธอข
เหมือนจันทร์ได้สติอีกครั้งเมื่อบางอย่างเย็นๆแนบใบหน้า เธอปรือตาขึ้นอย่างยากเย็นเพราะมันยังรู้สึกหนักอึ้งและมึนศีรษะ แต่พอเห็นชายแปลกหน้าชัดเจน เหมือนจันทร์ก็เบิกตากว้าง ผลักอกเขา ขยับตัวนั่งติดหัวเตียง ใบหน้าขาวนวลซีดเผือด สำรวจเรือนร่างตนเองพบว่าเสื้อผ้ายังอยู่ครบจึงพอเบาใจ ใช้แขนกอดตัวเองแน่น จ้องมองอีกฝ่ายด้วยความเกลียดชังและหวาดหวั่น“คุณ ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ ที่นี่คือที่ไหน คุณทำอะไรฉัน”คุณ ที่เธอถามนั้น ก็คือผู้ชายแปลกหน้าซึ่งขโมยจูบแรกของตนไปนั่นเองสิโรจน์ยกยิ้มนิดๆ แววตาแสดงความพึงพอใจ เขาวางผ้าเย็นสำหรับเช็ดหน้าผิวอ่อนโยนลงกับโต๊ะข้างเตียง จากนั้นจึงย้ายสายตามาประสานกับหญิงสาว“ใจเย็นๆ ไม่ต้องกังวล เธออยู่ที่คอนโดแห่งหนึ่งของฉัน และฉันก็คือเจ้าหนี้ที่เธอต้องอยู่ชดใช้ วางใจ ฉันไม่ใช่คนชอบบังคับฝืนใจใคร”ใบหน้าคมคายไม่ทุกข์ร้อน ทุกคำพูดราบเรียบเหมือนคุยเรื่องปกติทั่วไป ทั้งที่ประโยคเหล่านั้นมันกำลังทำให้เธอสั่นกลัวเพิ่มมากขึ้น“คุณ คุณคือเสี่ยสิโรจน์ คือเจ้าหนี้ของพ่อเหรอ”เหมือนจันทร์แทบไม่อยากเชื่อว่าคนที่ขโมยจูบแรกไปจะกลายมาเป็นเจ้าหนี้ของตนไปได้คนฟังพยักหน้ารับ สีหน้าร







