Mag-log inเธอยอมเป็นคู่นอนของเสี่ยซึ่งมีเมียอยู่แล้วถึง 6 คน และบรรดาผู้หญิงในคลังอีกสามสิบคน
view moreเหมือนจันทร์ แสงกระจ่าง มีใบหน้ารูปไข่ผิวขาวอมชมพู ดวงตากลมโตมักทอประกายความเศร้าบ่อยครั้ง จมูกโด่งรั้น ริมฝีปากบางกระจับชมพูแดงสะดุดตา ผมยาวสลวยจนถึงเอวคอดกิ่วถูกมัดลวกๆ ไว้ แม้จะใช้ชีวิตอย่างยากลำบากในชนบท ทว่า หญิงสาวกลับดูสวยสง่าน่ารัก ผิวพรรณละเอียดขาวราวกับหยวก เป็นที่สะดุดตาให้คนเมียงมองนัก
เพียงแต่หญิงสาวไม่คิดปักใจชื่นชอบคนเมืองเหล่านั้น เธอรู้ถึงฐานะต่ำต้อยของตนเอง ไม่อาจเอื้อมหวังจับคนรวย
แม้บิดาอย่าง ดนัยจะคอยยุแยงให้กระทำบ่อยครั้ง ทว่ามารดาอย่างกนกนุชก็คอยสั่งสอนให้รักดีเสมอ เธอรักแม่ ดังนั้นจึงเชื่อใจท่านตลอด แตกต่างกับดนัย ซึ่งมีฐานะเป็นเพียงแค่พ่อในนาม ไม่เคยปฏิบัติหน้าที่พ่อจริงๆ สักครั้ง ดนัยติดเหล้า ติดพนัน จากเงินทองที่เคยพอมีพอใช้กลับร่อยหรอจนกลายเป็นขัดสน เหมือนจันทร์และกนกนุชต้องทำงานเหน็ดเหนื่อย ขายของตามตลาดนัดไม่เพียงพอ เหมือนจันทร์ยังต้องสมัครทำงานกลางคืนที่ผับ เป็นเด็กเสิร์ฟอาหารที่นั่น เนื่องด้วยเจ้าของผับนึกเอ็นดูและสงสาร จึงรับและดูแลเป็นกรณีพิเศษ แม้จะมีลูกค้าเงินหนักหยิบยื่นการค้ากับเจ้าของร้านก็ไม่คิดขายเธอให้กับใคร เปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่อีกคนหนึ่งของเธอ เธอโชคดีที่ได้รับความเอ็นดูจาก บรรวรรณ วิเชียรชาญ เจ้าของผับชื่อดังย่านชนบทที่อาศัยอยู่ เมื่อก่อนตอนยังพอมีเงินเธอได้เข้าเรียนต่างจังหวัด ทำให้ได้พบเพื่อนอย่าง คคนานต์ ธนาปรีชา เพื่อนสาวเธอมีฐานะร่ำรวยจนเธอเทียบไม่ติด แต่อีกฝ่ายไม่อวดรวยไม่ถือตัว เธอผ่านมาได้หลายๆ ครั้งก็เพราะคคนานต์ หลังจากจบมัธยมศึกษา ต่างก็ต้องแยกย้ายไปเรียนมหาวิทยาลัยที่สอบได้ เพื่อนสาวเธอสอบได้เมืองนอก นั่นจึงทำให้ขาดช่วงติดต่อไป จนกระทั่งเมื่อหลายเดือนก่อนก็ได้ข่าวกลับไทยแล้ว ไม่เคยนึกอิจฉาคคนานต์ เพียงแค่เธอยอมคบหาด้วยก็ดีใจมากแล้ว ความจริงใจไม่สนฐานะ ทำให้เหมือนจันทร์รู้สึกโชคดีมากจริงๆ ที่มีเพื่อนอย่างคคนานต์ “จันทร์ มาช่วยแม่ยกหม้อลงจากเตาหน่อย” กนกนุชโผล่สีหน้าอิดโรยออกจากห้องครัว เหงื่อท่วมตัว ดวงตาอันอ่อนล้าจับจ้องเหมือนจันทร์ด้วยความอาทร “ได้ค่ะแม่” เหมือนจันทร์ลุกจากเก้าอี้ซึ่งกำลังนั่งพับกระทงใบตองเพื่อใส่ข้าวเหนียวสังขยาที่กนกนุชกำลังทำอยู่นั่นเอง สองสาวต่างวัยยกหม้อซึ่งมีสังขยาด้านใน พอวางลงกับโต๊ะในครัว กนกนุชก็ซวนเซจนเกือบล้มหน้าคะมำหากเหมือนจันทร์ประคองไว้ไม่ทัน “แม่คะ เป็นอะไรหรือเปล่า” “ไม่เป็นไรหรอก มาทำขนมต่อเถอะ” “จันทร์ว่าแม่ควรพักก่อนเถอะค่ะ ดูสิ หน้าซีดหมดแล้ว” “ไม่เป็นไรหรอก แม่ยังไหว” “หน้าแม่ซีดขนาดนี้ จะไหวยังไงคะ จันทร์ขอร้องนะคะแม่” กนกนุชจำต้องพยักหน้าแม้ไม่เต็มใจ ไม่อยากเห็นเหมือนจันทร์เป็นห่วง ไม่อยากให้ลูกต้องกังวล แค่สถานการณ์ตอนนี้ก็ย่ำแย่มากพอแล้วกนกนุชมองเหมือนจันทร์ทำงานคนเดียวด้วยความสงสาร ขบเม้มปากเล็กน้อย เธอไม่ได้อยากให้ลูกต้องมาลำบากด้วยกัน แต่เหมือนจันทร์ไม่ยอมจากไป คงเพราะเป็นห่วงเธอ หากเหมือนจันทร์ไป ใครจะช่วยเธอทำงานพวกนี้ ในเมื่อดนัย คนเป็นสามีหายตัววันๆ อยู่แต่บ่อนไม่คิดกลับบ้านหาเมียลูก ยามกลับก็ถามหาแต่เงิน พอไม่มีเงินให้ก็ถูกทำร้ายร่างกายจนเจ็บระบม
เหมือนจันทร์ใส่น้ำเหนียวมูลในกระทงใบตอง โปะหน้าด้วยสังขยาเมื่อเสร็จนำเรียงใส่ถาดสำหรับนำไปวางขายตลาด พวกเธอทำขนมไทยหลายอย่าง ทั้งข้าวเหนียวสังขยา บัวลอย สาคูเปียกน้ำกะทิ สาคูไส้หมูและยังมีก๋วยเตี๋ยวลุยสวน คิดค้นสูตรน้ำจิ้มรสเด็ดจนคนต่างบอกปากต่อปากว่าอร่อย เมื่อตระเตรียมทุกอย่างจนครบ สองแม่ลูกจึงพากันไปขายของตลาดเพราะมันถึงเวลาพอดี แดดในตอนบ่ายสองบ่ายสามค่อนข้างแรงพอควร ใบหน้างามแดงเรื่อ แต่กระนั้นกลับไม่ได้ดูคล้ำแต่อย่างใดจนคนได้แต่อิจฉา หลังจากขายของเสร็จกลับบ้าน เหมือนจันทร์ก็อาบน้ำเปลี่ยนชุดสบายๆ พร้อมออกเดินทางไปที่ผับ กนกนุชได้แต่มองตามด้วยความเป็นห่วง เหมือนจันทร์ขับรถมอไซต์คันเก่าๆ ออกจากบ้านตั้งแต่หกโมงเย็นพร้อมเริ่มงานที่โน่นหนึ่งทุ่ม หากชีวิตสามารถเลือกได้ เธอจะไม่ขอภาวนาให้ตัวเองมีชีวิตที่ดี ทว่า คำขอเพียงหนึ่งเดียวจากคนเป็นแม่ ขอให้เหมือนจันทร์หลุดพ้นจากขุมนรกแห่งนี้เท่านั้นเหมือนจันทร์ทำงานสนุกจนลืมวันลืมคืน คิดไม่ถึงว่าจะครบหนึ่งเดือนแล้วหลังจากที่สิโรจน์หายไป ตอนแรกๆยังกังวลและว้าวุ่นนิดหน่อย พอครบเดือนอย่างที่ไรยาพูด ตอนนี้จึงได้ดูสบายใจมากเหมือนจันทร์ยังทำงานที่ร้านอาหารบรรวรรณตามสัญญาสามวัน และไลฟ์สดขายเสื้อผ้าในวันหยุดทุกวัน สม่ำเสมอ ขยัน อดทน ไม่ย่อท้อ แม้แรกเริ่มจะมีคนดูเพียงสิบกว่าคน แต่เมื่อมีคนรีวิวสินค้าต่างๆ ลูกค้าก็เพิ่มขึ้น จากหลักสิบเป็นหลักร้อย จากร้อยเป็นพัน กลายเป็นว่าขายดิบขายดีจนต้องสั่งเสื้อผ้าเพิ่ม จากคอนโดซึ่งมีพื้นที่ว่างเต็ม ตอนนี้เต็มไปด้วยกองเสื้อผ้าจนไรยาได้แต่กุมขมับ แต่ถึงอย่างนั้น พอเห็นเหมือนจันทร์อดหลับอดนอนแพ็กสินค้าถึงตีสามตีสี่ เธอก็จำต้องเก็บความไม่สบายใจไว้แล้วคอยช่วยอีกฝ่ายแพ็กสินค้าส่งไม่น่าเชื่อว่าเวลาแค่ไม่กี่อาทิตย์ที่หญิงสาวขึ้นไลฟ์ จะขายดีเหมือนเป็นเดือนขนาดนี้“หากทำต่อไปเรื่อยๆ พี่ว่าจันทร์ไม่ต้องทำงานร้านอาหารแล้วล่ะ”เหมือนจันทร์ยิ้มร่า ไม่คิดว่าไลฟ์ขายของจะได้เงินขนาดนี้ หากตอนนั้นเธอมีทุนสักก้อนอย่างตอนนี้ ไม่แน่อาจไม่ต้องกลายมาเป็นผู้หญิงของเสี่ย“พี่ไรยาก็พูดไป”เหมือนจันทร์ยิ้มกว้างมากขึ้น อาจเพร
เหมือนจันทร์อดเม้มปากด้วยความขัดใจไม่ได้เมื่อเสียงไลน์โทรเข้ามาในเวลาสามทุ่มทุกวันนับแต่ที่สิโรจน์จากไป ทำราวกับกลัวเธอหายไป ทั้งที่ไรยาคงรายงานอยู่ตลอดแท้ๆเหมือนจันทร์สูดหายใจลึกกล้ำกลืนความรู้สึกไม่ชอบใจลง กดรับสายขานรับเสียงอ่อน“ค่ะเสี่ย”“วันนี้ทำอะไร”น้ำเสียงเรียบนิ่งดังตามสาย ตามด้วยเสียงกุกกักราวกำลังทำบางอย่างอยู่คงไม่ใช่ทำกิจกรรมอย่างว่าอีกหรอกนะเหมือนจันทร์คิดแล้วก็ทำหน้าบึ้งไม่พอใจเล็กน้อย“อยู่ห้องสิคะ วันนี้วันหยุดนี่นา”ก็เล่นให้ทำงานอาทิตย์ละสามวัน เธอยังจะไปไหนได้กัน“งั้นอยู่ห้องทำอะไรบ้าง”“อืม ทำกับข้าว ซักผ้า เก็บห้อง กวาด ถูบ้าน อะไรพวกนี้ค่ะ”เหมือนจันทร์เปิดลำโพง วางโทรศัพท์ลงกับเตียงนอน ขณะที่เธอนั่งด้านล่าง พับผ้าอย่างตั้งใจ“ของพวกนี้เป็นหน้าที่ของไรยาไม่ใช่เหรอ”มือบางชะงักก่อนพับเสื้อผ้าต่อ“ก็มันว่างนี่คะ เสี่ยไม่ให้ไปทำงานที่ร้านอาหาร ให้กินๆนอนๆอย่างเดียวเลย”“ไปชอปปิง เดินห้าง ซื้อของ เที่ยวก็ได้นี่ ไม่ได้ห้ามสักหน่อย”“ไม่เอาค่ะ”เหมือนจันทร์ตอบแทบจะทันทีเมื่อได้ยินข้อเสนอของสิโรจน์ เธอไม่อยากใช้เงินเขามากไปกว่านี้ “กลัวติดหนี้เพิ่มหรือยังไง”คนตัวเ
ธุระที่สิโรจน์พูดถึงคือการมาเดินชอปปิงห้าง คนไม่คุ้นชินอย่างเหมือนจันทร์ถึงกับทำตัวไม่ถูก ยิ่งตลอดการเดินซื้อของมีสายตามากมายจับจ้องยิ่งทำให้ประหม่า วางสีหน้าแทบไม่เป็น“เกร็งอะไรขนาดนั้น เป็นผู้หญิงของเสี่ยไม่ต้องอาย ใครๆก็อยากเป็น”แต่ไม่ใช่กับเธอ เหมือนจันทร์ตอบประโยคต่อในใจ ไม่ได้พูด และเป็นเด็กดีเดินตามเขาพาเข้าร้านเสื้อผ้าแบรนด์ Uniqlo “เลือกชุดที่ชอบ ถูกใจกี่ชุดเอามาให้หมด หรือจะเหมาทั้งร้านก็ได้”โอ้โห อวดรวยจริงๆ เหมือนจันทร์ทำทีเป็นเดินดู แอบหยิบป้ายราคาหลักพันขึ้นทั้งนั้น ราคาแรงจนไม่กล้าหยิบจับอะไรอีก คนเดินตามหลังอย่างสิโรจน์ก็ขมวดคิ้ว เพราะเห็นเธอเดินวนเกือบทั่วร้านแต่ยังไม่หยิบชุดสักชุด“ไม่ถูกใจเหรอ”เหมือนจันทร์หยุดเท้า หันไปสบตากับสิโรจน์ พร้อมส่ายหน้าปฏิเสธ“เปล่าค่ะ ชุดสวยมาก แต่จันทร์ไม่อยากได้อะไรค่ะ แค่ของที่คอนโดก็พอแล้ว”สิโรจน์เลิกคิ้ว หรี่ตาจับจ้องหญิงสาวอีกครั้งราวกับค้นคว้า ปกติ พวกผู้หญิงที่พามาซื้อก็อ้อนให้ซื้อโน่นซื้อนี่เยอะแยะ แต่พอเป็นเหมือนจันทร์ นอกจากไม่เอาอะไรแล้วยังคิดจะใช้ผ้าเน่าๆของเธออีกใครรู้เข้า เสี่ยอย่างเขาคงเสียชื่อแน่“เลือกชุดที่เข้าก
เหมือนจันทร์เรียกกำลังใจให้ตัวเองอยู่พักหนึ่งก่อนตัดสินใจเคาะประตูห้องนอน“เสี่ยคะ จันทร์เองค่ะ”“เข้ามา”น้ำเสียงดุดันดังขึ้น ทำเอาเหมือนจันทร์อยากจะหันหลังหนีไปจากตรงนี้จริงๆ หากไม่ติดว่าเป็นลูกหนี้ เธอคงไม่อยู่รอแล้วสูดหายใจลึกแล้วเปิดประตูก่อนจะปิดลง ปั้นหน้ายิ้มสุดความสามารถ สาวเท้าไปหยุดข้างๆสิโรจน์ซึ่งนั่งอยู่ปลายเตียง นัยน์ตาคมกริบหรี่ลงสำรวจเรือนกายเล็ก ใบหน้าวางนิ่งเฉยเสียจนคนเข้ามาใจเสีย มือหนาตบที่ว่างข้างตัว โดยไม่มีคำพูดใด “จันทร์ขอโทษค่ะ จันทร์ไม่รู้ว่าเสี่ยจะมา”เหมือนจันทร์ทิ้งตัวนั่งข้างๆ มือประสานกันแน่นบนตัก เงยหน้ามองสิโรจน์“ไปไหนมา”“คือ จันทร์ไปทำงานที่ร้านอาหารพี่วรรณมาค่ะ”คนฟังขมวดคิ้ว หรี่ตาลงดุดัน วางมือบนมือนุ่มแล้วบีบแน่น สีหน้าเย็นชาจนคนมองหน้าเจื่อน“อนุญาตให้ไปทำเหรอ”“จันทร์ไม่ทราบว่าต้องขออนุญาตจากเสี่ยด้วย”“เป็นผู้หญิงของเสี่ย ทุกตารางนิ้วบนร่างกายคือของฉัน”ฝ่ามือร้อนช้อนใบหน้างามแหงนขึ้นให้ตนสำรวจถี่ถ้วน อีกข้างก็เลื่อนจากมือเล็กไปรวบเอวคอด ดึงเข้ามาจนเหมือนจันทร์ต้องใช้มือยันอกกว้าง “จันทร์อยากทำงานค่ะเสี่ย ให้จันทร์ทำเถอะนะคะ จันทร์อยากมีเงิน