แชร์

บทที่ 16

ผู้เขียน: สายลมไร้กาลเวลา
“เจ้าหมอนี่ ชักจูงจิตใจคนเก่งใช้ได้เลย!”

เฝิงมู่หลานมองเลี่ยวหยวนและคนอื่นๆ ที่ก้มหน้าเงียบ มีความไม่พอใจเสี้ยวหนึ่งแวบผ่านคิ้วงาม

แม้คำพูดของฉู่หนิงจะทำให้นางรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง แต่เขาจงใจกล่าวเช่นนี้เพียงเพื่อชนะใจคนกลุ่มนี้เท่านั้น

พวกเลี่ยวหยวนและคนอื่นๆ ไม่ใช่คนโง่เขลา จะต้องมองแผนของฉู่หนิงออกแน่นอน

ทว่าเสิ่นหว่านอิ๋งที่อยู่ด้านข้างกลับส่ายศีรษะเบาๆ และจับจ้องด้วยแววตาอันเปล่งประกาย

“การจะชักจูงจิตใจคนได้นั้น ต้องชนะใจคนให้ได้ก่อน!”

เสิ่นหว่านอิ๋งจ้องแผ่นหลังของฉู่หนิง บนใบหน้าปรากฏแววสนใจ “ดูเหมือนเผิงไหลจวิ้นอ๋องผู้นี้ ก็ไม่ได้แย่เหมือนที่ข้าคิดนะ”

เฝิงมู่หลานตะลึงงันทันที

ผ่านไปครู่หนึ่ง นางจึงจะค่อยๆ หันไปมองสหายของตนเองอย่างไม่อยากเชื่อสายตา “หว่านอิ๋ง เจ้าคงไม่ได้ชอบเจ้าหมอนี่แล้วกระมัง?”

เสิ่นหว่านอิ๋งส่ายศีรษะ พลางกล่าวเสียงเรียบ “แม้เขาจะพอมีความสามารถอยู่บ้าง แต่หากเก่งแต่ปากอย่างเดียว ก็ยังคงไม่สามารถปกป้องตระกูลเสิ่นของข้าได้”

แม้การกระทำเมื่อครู่ของฉู่หนิงจะทำให้นางคาดคิดไม่ถึง แต่ยังคงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของนาง

นางจะไม่แต่งงานกับฉู่หนิง

และฉู่หนิงต้องเป็นฝ่ายถอนหมั้น

เฝิงมู่หลานถอนหายใจด้วยความโล่งอก

โชคดีที่หว่านอิ๋งไม่ได้หุนหันพลันแล่น ไม่เช่นนั้นวันนี้กลับจะกลายเป็นสงเคราะห์ให้ฉู่หนิงสมหวังแทน!

นึกถึงฉู่หนิง สีหน้าเฝิงมู่หลานก็เย็นชาลงโดยพลัน และเมื่อเงยหน้ามองไป

เห็นเพียงฉู่หนิงที่ถูกปิดล้อมกลับมีท่าทีสงบเยือกเย็น ไม่กลัวว่าเลี่ยวหยวนและคนอื่นๆ จะลงมือเลย

ขณะนั้นเอง เลี่ยวหยวนถอนหายใจยาวทีหนึ่ง แล้วถอยกลับไปยังตำแหน่งเมื่อครู่

ทหารคนอื่นๆ ก็สะเทือนใจเพราะคำพูดของฉู่หนิง เมื่อเห็นนายกองของตนเองถอยกลับไป หลังจากหันไปมองหน้ากันก็พากันถอยเช่นกัน

กวนอวิ๋นกับจ้าวอวี๋ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

แม้พวกเขาสองคนมีวรยุทธ์เลิศล้ำ แต่ที่นี่คือค่ายทหารของกรมกลาโหม หากปะทะกันขึ้นมาจริงๆ พวกเขาฝ่าออกไปย่อมไม่เป็นปัญหา แต่ไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยของฉู่หนิง

เมื่อเห็นทุกคนยอมถอยเพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำของฉู่หนิง ทั้งสองยิ่งเลื่อมใสในตัวฉู่หนิงแล้ว

เดิมทีคิดว่าฉู่หนิงจะใช้ฐานะองค์ชาย และพระบัญชาของฝ่าบาทมาบังคับคนกลุ่มนี้ไปแนวหน้า

แต่ฉู่หนิงไม่ได้ใช้อำนาจข่มคน อาศัยเพียงความสามารถของตนเองก็คลี่คลายวิกฤตตรงหน้าแล้ว

แต่ต่อให้คนกลุ่มนี้รู้สึกละอายใจ เกรงว่าก็ไม่กล้าไปแนวหน้าอยู่ดี

ยอมถอยตอนนี้ ไม่ได้แปลว่าคนกลุ่มนี้ยอมลงสนามรบ!

ขณะที่ทั้งสองกำลังจมอยู่กับความคิด ฉู่หนิงมองผู้คนที่ยอมถอยกลับไปพลางพยักหน้าเบาๆ สีหน้าผ่อนคลายขึ้น

“ถือว่าพวกเจ้ายังพอรู้จักอายอยู่บ้าง!”

ฉู่หนิงพลันสะบัดแขนเสื้อ กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ตอนนี้พี่น้องของพวกเจ้ากำลังห้ำหั่นเอาชีวิตเป็นเดิมพันที่แนวหน้า แต่พวกเจ้าจะเสพสุขอยู่ที่นี่อย่างสบายใจหรือ?

รอพวกเขาล้มตายกันหมดแล้ว พวกเจ้าคิดว่าคนต่อไปที่จะต้องลงสนามรบคือใคร?

หลังจากทุกคนตายกันหมด ต้าฉู่ของเราก็จะล่มสลาย ลูกเมียและญาติพี่น้องของพวกเจ้าจะตกเป็นทาสของผู้อื่น!

ถึงเวลานั้น เมียพวกเจ้าจะกลายเป็นเมียผู้อื่น ลูกพวกเจ้าจะเปลี่ยนแซ่ตามผู้อื่น ญาติพี่น้องพวกเจ้าจะกลายเป็นไพร่ชั้นต่ำ!

บอกข้าหน่อย นี่คือสิ่งที่พวกเจ้าอยากเห็นหรือ?

“ไม่อยาก!”

เหล่าทหารพร้อมใจกันตะโกน เสียงดังกึกก้องราวฟ้าผ่า ทำเอาเสิ่นหว่านอิ๋งกับเฝิงมู่หลานที่ยืนชมเหตุการณ์อยู่ห่างๆ สะดุ้ง

เสียงอันหนักแน่นของฉู่หนิงดังขึ้น ท่ามกลางความประหลาดใจของหญิงสาวทั้งสอง “ดีมาก พวกเจ้าจงจดจำคำพูดของพวกเจ้าไว้ให้มั่น!”

“ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป พวกเจ้าก็คือองครักษ์ของข้า และยังคงขึ้นตรงต่อผู้บัญชาการนายกองเลี่ยว กวนอวิ๋น เจ้าพาพวกเขาไปตีอาวุธที่เหมาะมือที่ร้านตีเหล็ก”

“รีบทราบ!” กวนอวิ๋นขานรับเสียงหนักแน่น ก่อนจะพาเหล่าทหารออกไปยังนอกค่าย

เฝิงมู่หลานร้อนรนแล้ว

คนเหล่านี้ล้วนเป็นทหารผู้ใต้บังคับบัญชาของบิดานาง หากไปกับฉู่หนิง บิดาของนางไม่เท่ากับกลายเป็นหัวเดียวกระเทียมลีบหรือ?

“หยุดเดี๋ยวนี้!”

ทันใดนั้น เฝิงมู่หลานก็กระโจนออกไปขวางทางของกวนอวิ๋น

เสิ่นหว่านอิ๋งส่ายศีรษะ ก่อนจะก้าวตามไป

เมื่อฉู่หนิงได้ยินว่ามีคนขวางทาง ก็ขมวดคิ้วพลางหมุนกาย

แต่ทันทีที่หมุนกาย ก็สบตากับเสิ่นหว่านอิ๋งพอดี

สายตาทั้งสองประสานกัน สายตาของคนหนึ่งเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ส่วนสายตาของอีกคนดูเฉยชาเล็กน้อย

โลกใบนี้มีสตรีรูปโฉมงดงามเพียงนี้ด้วย!

ใบหน้าอันงามเลิศคู่กับรูปร่างสูงโปร่ง ชายกระโปรงโบกพลิ้วระหว่านเดิน ทุกย่างก้าวสง่างาม ทำให้ยากจะละสายตา

สตรีผู้งดงามดั่งเทพธิดาจุติจากสวรรค์ ถึงกับบดบังสตรีผู้ไม่ได้งามน้อยหน้าที่อยู่ข้างกายจนมิด

“ฮึ่ม มองอะไรนักหนา ไม่เคยเห็นผู้หญิงหรือ?”

เฝิงมู่หลานสัมผัสถึงสายตาของฉู่หนิง ก็อดถลึงตาใส่ไม่ได้ ก่อนจะไปยืนขวางตรงหน้าเสิ่นหว่านอิ๋ง

เมื่อทัศนวิสัยถูกบดบัง ฉู่หนิงจึงจะละสายตา และหันไปมองสตรีที่ขวางทางแทน

เวลานี้ เลี่ยวหยวนรีบก้าวออกกระซิบเบาๆ “องค์ชาย นางคือบุตรีของผู้ช่วยเสนาบดีเฝิงขอรับ”

กล่าวจบก็หันไปมองเฝิงมู่หลานอย่างจนปัญญา “คุณหนูเฝิง ห้ามไร้มารยาทต่อองค์ชาย”

เฝิงมู่หลานขมวดคิ้ว มองฉู่หนิงพลางแค่นเสียงเยาะ “องค์ชาย? ต้าฉู่มีองค์ชายที่แย่งผู้ใต้บังคับบัญชาของผู้อื่นด้วยหรือ?”

“บังอาจ!”

กวนอวิ๋นตวาดลั่น พลางควงดาบกระโจนไปขวางตรงหน้าเฝิงมู่หลาน “เจ้ากล้าไร้มารยาทต่อองค์ชายหรือ!”

เฝิงมู่หลานก็ไม่มีท่าทีเกรงกลัวเลย นางชักกระบี่ ยืนประจันหน้าทันควัน “ฮึ่ม เขาแย่งผู้ใต้บังคับบัญชาของพ่อข้าก่อน เขาไร้ซึ่งความเมตตาก่อน เจ้ากล้าพูดได้อย่างไรว่าข้าไร้มารยาทต่อเขา?”

“เจ้า…” กวนหยวนเป็นคนหยาบกระด้าง ถูกโต้กลับจนพูดไม่ออกในชั่วขณะ

กลับเป็นที่เสิ่นหว่านอิ๋งที่รู้ตัวว่าไม่ได้มาเพื่อสร้างปัญหา นางก้าวออกมาโค้งคำนับฉู่หนิง “เสิ่นหว่านอิ๋งขอน้อมถวายบังคมเผิงไหลจวิ้นอ๋องเพคะ”

ที่แท้นางคือเสิ่นหว่านอิ๋ง!

คู่หมั้นที่เสด็จพ่อพระราชทานแก่เขา

ฉู่หนิงเข้าใจทุกอย่างแล้ว และยังกล่าวด้วยรอยยิ้มสุภาพ “ที่แท้ท่านหญิงเสิ่นนี่เอง ข้าเพิ่งมาถึงเมืองหลวง ไม่รู้จักท่านหญิง ต้องขออภัยด้วย”

ท่าทีที่อ่อนโยนและสุภาพของฉู่หนิง ทำให้เสิ่นหว่านอิ๋งสบายใจขึ้นมาก

ขอแค่เป็นคนมีเหตุผล นางก็มั่นใจว่าสามารถเกลี้ยกล่อมให้อีกฝ่ายถอนหมั้น

สิ่งที่นางกลัวที่สุดก็คืออีกฝ่ายไร้เหตุผล!

“องค์ชายกล่าวหนักเกินไปแล้ว”

เสิ่นหว่านอิ๋งกล่าวเสียงเรียบ “หว่านอิ๋งเก็บตัวอยู่แต่ในจวน องค์ชายไม่รู้จักหว่านอิ๋งก็สมควรเพคะ”

นางเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวต่อ “น้องหญิงของหม่อมฉันนิสัยมุทะลุ หากมีสิ่งใดที่ล่วงเกิน องค์ชายโปรดให้อภัยเพคะ”

ฉู่หนิงพลันยิ้มบางๆ “ไม่เป็นไร ข้าแย่งผู้ใต้บังคับบัญชาของพ่อนางจริงๆ นางโกรธก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจได้

กวนอวิ๋น เจ้าพาพวกเขาไปที่ร้านตีเหล็กก่อน ตีอาวุธและชุดเกราะอย่างเต็มกำลัง”

จะปล่อยให้การปรากฏตัวของสตรีสองนางมาทำลายแผนการของตนไม่ได้

กวนอวิ๋นขานรับแล้วพาคนอื่นๆ เดินจากไป โดยทิ้งจ้าวอวี๋ไว้ปกป้องฉู่หนิง

เฝิงมู่หลานยังคิดจะขวาง กลับถูกเสิ่นหว่านอิ๋งคว้าแขนไว้ และเกลี้ยกล่อมเบาๆ

“นี่เป็นพระบัญชาของฝ่าบาท และองค์ชายก็ชนะใจพวกเขาด้วยความสามารถของตัวเอง เจ้ายังไปขวางอีกก็เท่ากับจงใจหาเรื่อง ฝ่าบาทจะลงโทษตระกูลเฝิงนะ!”

สีหน้าเฝิงมู่หลานเปลี่ยนเล็กน้อย

หากลงโทษนางผู้เดียว นางย่อมไม่กลัว

แต่หากลงโทษตระกูลเฝิง นางต้องพิจารณาถึงผลกระทบที่ตามมา

ฉู่หนิงมองเสิ่นหว่านอิ๋งด้วยความสนใจ บนใบหน้าปรากฏแววพินิจพิจารณา

คู่หมั้นผู้นี้ มีดีใช้ได้เลย

เฝิงมู่หลานผู้นี้แค่ดูก็รู้ว่าเป็นสตรีประเภทหน้าอกใหญ่สมองน้อย เสิ่นหว่านอิ๋งกลับสามารถเกลี้ยกล่อมด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ

หากได้แต่งงานกับสตรีเช่นนี้ จะต้องเป็นผู้ช่วยที่ยอดเยี่ยมแน่นอน

เมื่อนึกถึงตรงนี้ ฉู่หนิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่ทราบว่าท่านหญิงเสิ่นมาหาข้ามีธุระอะไร?”

เสิ่นหว่านอิ๋งยังไม่ทันได้เอ่ยปาก เฝิงมู่หลานก็ชิงกล่าวด้วยสีหน้าโกรธเคือง “ก็ต้องมาถอนหมั้นกับเจ้าน่ะสิ!”
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 100

    ฉู่หนิงถือจอกเหล้าแล้วยิ้ม “ขอบพระทัยเสด็จพ่อที่ช่วยให้ลูกได้แต่งงานในครั้งนี้”ฮ่องเต้พยักหน้าถือจอกเหล้า “จากนี้ เจ้าต้องดีกับท่านหญิงเสิ่นให้มาก”“เสด็จพ่อวางพระทัย ลูกจะไม่ทำให้หว่านอิ๋งต้องลำบากใจ!”“ดี ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”เมื่อเห็นฉู่หนิงเปลี่ยนกระทั่งสรรพนาม ส่วนเสิ่นหว่านอิ๋งไม่แสดงสีหน้าไม่สบอารมณ์ ฮ่องเต้หัวเราะเสียงดังยกจอกเหล้าในมือขึ้นดื่มจนหมดทว่า ในขณะที่ฉู่หนิงเตรียมดื่มคารวะฮองเฮา กลิ่นหอมโชยมาพร้อมเสียงฝีเท้าอย่างรวดเร็วต่อมา เสียงใสกังวานดังขึ้นด้านหลังเขา “ยินดีกับเผิงไหลจวิ้นอ๋องที่หมั้นหมายสำเร็จแล้ว เหล้าจอกนี้ข้าขอดื่มคารวะเจ้า!”ฉู่หนิงเลิกคิ้ว แม้จะแปลกใจอยู่บ้างที่จ้าวเฟยเยี่ยนเป็นฝ่ายเสนอหน้า แต่ก็หันหลังพร้อมหัวเราะเสียงค่อย“นานทีองค์หญิงแห่งต้าจ้าวจะเดินทางมาต้าฉู่ เหล้าจอกนี้ ข้าดื่มหมดจอก!”พูดจบ ฉู่หนิงดื่มจนหมดในคราวเดียวจ้าวเฟยเยี่ยนมุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ยกจอกเหล้าขึ้นดื่มจนหมดในคราวเดียวเช่นกันแม้จะเป็นสตรี แต่ความองอาจบนตัวนางกลับไม่แพ้ชายใดเมื่อดื่มเสร็จ จ้าวเฟยเยี่ยนหันมองเสิ่นหว่านอิ๋ง หยิบกาเหล้ารินเหล้าให้ตัวเองหนึ่งจอก พลางยิ้มแล้ว

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 99

    “ถวายบังคมเสด็จพ่อ ฮองเฮา!”ฉู่หนิงเดินเข้าไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้มรถม้าขบวนเสด็จหยุดลง ฮ่องเต้ที่สวมชุดสีเหลืองทองเป็นฝ่ายเดินลงมาก่อนฮ่องเต้เปลี่ยนจากความน่าเกรงขามในยามปกติที่สวมชุดมังกร เป็นรอยยิ้มที่มีเมตตาของบิดาต่อมา หญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งที่สวมชุดฝ่ายในสีม่วงเดินลงมาจากรถม้าหลวงอย่างเชื่องช้าแม้รูปโฉมนางจะไม่ได้งดงามมากนัก แต่บนตัวกลับมีพลังของความเป็นแม่แห่งแผ่นดินเผยออกมา!นั่นคือฮองเฮาแห่งต้าฉู่ มารดาแท้ ๆ ของรัชทายาทองค์ปัจจุบัน จูซูเหยา!เมื่อมองฉู่หนิงที่ก้มลงทำความเคารพแวบหนึ่ง ดวงตาฮองเฮามีความแปลกใจแวบผ่านช่วงเวลานี้ นางพอจะได้ยินเรื่องราวการกระทำของฉู่หนิงมาบ้าง แต่รู้ว่าฉู่หนิงกำลังจะไปเป็นตัวตายตัวแทนที่แนวหน้า ดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสนใจฉู่หนิงมากนักหากไม่ใช่เพราะฮ่องเต้เรียนเชิญด้วยพระองค์เอง นางคงไม่มีทางปรากฏตัวในงานหมั้นของฉู่หนิงครั้งแรกที่เห็นฉู่หนิง มองดูใบหน้าที่ละม้ายกับฮ่องเต้อยู่บ้าง ไม่รู้เหตุใด ในใจกลับรู้สึกประหม่าว่าฉู่หนิงจะชิงบัลลังก์กับลูกชายของนางต่อมาเมื่อนึกได้ว่าฉู่หนิงกำลังจะไปแนวหน้า ความกังวลนั้นก็หายเข้าไปในกลีบเมฆขณะ

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 98

    เมื่อมองดูใบหน้าของจ้าวเฟยเยี่ยนที่โกรธจนหน้าถมึงทึง เหล่าขุนนางหัวเราะเสียงดัง ต่างเยาะเย้ย“องค์ชายกล่าวถูกต้อง องค์หญิงเฟยเยี่ยนช่างเป็นคนดีเหลือเกิน”“ต้นโสมช่างให้ได้เหมาะเจาะ องค์หญิงเฟยเยี่ยน หากครั้งหน้ายังมีต้นโสมเช่นนี้โปรดส่งมาสักหลายต้น!”“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า องค์ชายรับต้นโสมเอาไว้ ได้ประโยชน์ถึงสองทาง!”“สมแล้วที่เป็นต้าจ้าว มั่งคั่งร่ำรวย รู้ว่ายามนี้องค์ชายต้องการต้นโสม ถึงกับนำมามอบให้เอง ถือเป็นการช่วยเหลือกันในยามยาก!”คำพูดของเหล่าขุนนางราวกระบี่คมกริบ เชือดเฉือนใจจ้าวเฟยเยี่ยนอย่างแรงนางไม่เคยนึกไม่เคยฝัน เจ้าฉู่หนิงกลับนึกถึงเหตุผลที่ไร้ยางอายขนาดนี้ได้นางปรามาสฉู่หนิงเกินไป!จ้าวเฟยเยี่ยนแววตาเย็นเยียบ ความทรงพลังทั่วร่างล่มสลายในวินาทีนี้ ไม่มีความกำเริบเสิบสานเหมือนตอนที่เพิ่งมาถึงจวนอ๋องทว่าขณะนั้น เจ้าฉู่หนิงกลัวหัวเราะ “ทำไมองค์หญิงเฟยเยี่ยนไม่พูดซะแล้วล่ะ? หรือไม่เห็นด้วยกับคำพูดของข้า?”จ้าวเฟยเยี่ยนจ้องมองฉู่หนิงครู่หนึ่ง “นึกไม่ถึงว่าองค์ชายจะพูดจาฉะฉานเช่นนี้ กลับเป็นเฟยเยี่ยนที่ไม่รอบคอบ ทว่า วันนี้เป็นวันมหามงคลขององค์ชาย เฟยเยี่ยนไม่ขอโดดเด่นเก

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 97

    ต้นโสมสามร้อยปีหนึ่งต้นทำให้ฉู่หนิงจมสู่ห้วงความคิดทว่าขณะนั้น นอกจวนอ๋องดันมีเสียงฝีเท้าม้าดังขึ้น ขุนนางมากมายต่างทยอยมาถึงแล้วพิธีกรที่เดิมทียืนอยู่หน้าประตูเตรียมเรียกขานสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย เข้ามากระซิบข้างกายฉู่หนิง “องค์ชาย ใกล้ถึงฤกษ์ดีแล้ว เหล่าขุนนางในราชสำนักมาแล้วขอรับ”ฉู่หนิงขมวดคิ้ว เงยหน้ามองไปที่ถนน พบว่ามีขุนนางมากมายบ้างก็ขี่ม้า บ้างก็นั่งเกี้ยวกำลังมุ่งหน้ามาทางจวนอ๋องหากยังมัวร่ำไรอยู่กับจ้าวเฟยเยี่ยน รอให้ทุกคนมาถึง กลับกลายเป็นที่ขบขันของทุกคนระหว่างครุ่นคิด มุมปากจ้าวเฟยเยี่ยนยกขึ้นเล็กน้อย จนเป็นองศาที่น่าตะลึงกลืนไม่เข้าคายไม่ออกละสิ?เหงื่อคงเต็มแผ่นหลังสินะ!ใครใช้ให้เจ้าเป็นอริกับข้า!วันนี้ ข้าจะทำให้เจ้าอับอายขายหน้าต่อหน้าธารกำนัลฮึ กล้าปฏิเสธองค์หญิงอย่างข้า ข้าจะให้เจ้าได้เห็นดีกัน!“แค่โสมต้นเดียวก็ทำให้จวิ้นอ๋องลำบากใจเพียงนี้เชียวหรือ?”จ้าวเฟยเยี่ยนขยับริมฝีปากแดงแผ่วเบา เหลือบมองร่างกายท่อนล่างของฉู่หนิง หัวเราะกล่าวว่า “หรือองค์ชายมีความลำบากที่ยากจะเอื้อยเอ่ย?”คำพูดประโยคหลัง นางเน้นย้ำเป็นพิเศษ!ฉู่หนิงเลิกคิ้ว “องค์หญิงเฟ

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 96

    กลับเป็นเสิ่นหว่านอิ๋งที่มองฉู่หนิงอย่างขอโทษ จากนั้นจึงคล้องแขนมารดาตัวเองเข้าไปพร้อมกันฉู่หนิงลูบจมูกตัวเอง แล้วหัวเราะเจื่อน กลับไม่ได้ซักไซ้อะไรให้มากความ อย่างไรวันนี้เป้าหมายของเขาคือของขวัญของเหล่าองค์ชายและขุนนาง ท่าทีที่เสิ่นฮูหยินมีต่อเขาไม่ใช่เรื่องสำคัญ“ดูแลเสิ่นฮูหยินกับท่านหญิงให้ดี ข้าจะไปต้อนรับทุกคนที่หน้าประตูด้วยตนเอง!”ฉู่หนิงสั่งการเสร็จสรรพ จึงได้พากวนอวิ๋นและจ้าวอวี่สองคนเดินไปต้อนรับหน้าประตูจวนภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูป แขกที่มาร่วมงานคนแรกปรากฏตัวแล้วคนผู้นั้นอยู่ในชุดทะมัดทะแมงสีน้ำเงิน ผมยาวถักเปียเป็นเส้นเล็กมากมาย ปล่อยสยายอยู่บนบ่าและแผ่นหลังดวงตาสดใสมีชีวิตชีวาคู่นั้น เข้าคู่กับใบหน้าที่มีรอยยิ้มจาง ๆ หากไม่ใช่จ้าวเฟยเยี่ยนองค์หญิงสิบแห่งต้าจ้าวจะเป็นใครได้อีก!ฉู่หนิงอึ้งไปชั่วขณะ นึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะมาถึงเป็นคนแรกส่วนกวนอวิ๋นกับจ้าวอวี่สีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย เคลื่อนฝีเท้าไปข้างกายฉู่หนิง หากอีกฝ่ายกล้าก่อเรื่อง พวกเขาไม่ปล่อยไปง่ายๆ แน่!”“ขอแสดงความยินดีกับเผิงไหลจวิ้นอ๋องที่หมั้นหมายในวันนี้ ข้ามาด้วยตัวเอง ไม่ใช่ว่าจวิ้นอ๋องคงไม่อย

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 95

    “อะไรนะ ฉู่หนิงเอาเรื่องที่เรากับฮองเฮาจะไปร่วมงานหมั้นของเขาไปเผยแพร่หรือ?”คืนนั้น ภายในตำหนักอิงอู่ของวังหลวงเสียงประหลาดใจของฮ่องเต้ดังขึ้นมาองครักษ์เงาภายในตำหนักเอ่ยด้วยความเคารพว่า “เรื่องนี้แพร่กระจายในเมืองแล้วพ่ะย่ะค่ะ องค์ชายทั้งหมดกับขุนนางใหญ่ได้ยินข่าวนี้ก็กำลังเปลี่ยนของขวัญที่เตรียมไว้แต่เดิมกันแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ฮ่องเต้ตาเป็นประกายขึ้นมา ทำหน้าเข้าใจทันทีที่แท้ฉู่หนิงทำเพื่อของขวัญแสดงความยินดีที่คนเหล่านี้มอบให้ถึงแม้ว่าเดิมทีอยากเก็บเรื่องเข้าร่วมงานนี้ไว้อย่างเงียบ ๆ ข่มขวัญพวกคนที่อยากจะก่อความวุ่นวายในงานหมั้นเพื่อหนุนหลังฉู่หนิง แต่ในเมื่อฉู่หนิงอยากให้เอิกเกริก เช่นนั้นก็เอาให้เอิกเกริกไปเลยถึงอย่างไรของขวัญแสดงความยินดีที่ฉู่หนิงได้รับพวกนั้นก็ไม่อาจเก็บไว้ได้อยู่ดี ถูกนำไปใช้ในแนวหน้ามากกว่าครึ่งว่าไปแล้วนี่ก็เป็นเรื่องดีสำหรับต้าฉู่เหมือนกัน“ในเมื่อเรื่องแพร่ไปแล้ว เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังแล้ว จ้าวหมิง เจ้าให้กรมวังไปเตรียมราชรถสำหรับอีกสองวันข้างหน้า” “กระหม่อมน้อมรับคำสั่งพ่ะย่ะค่ะ!” จ้าวหมิงรับคำแล้วไปเตรียมการทันทีต่อมา ฮ่องเต้ก็เผยส

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status