Share

บทที่ 16

Penulis: สายลมไร้กาลเวลา
“เจ้าหมอนี่ ชักจูงจิตใจคนเก่งใช้ได้เลย!”

เฝิงมู่หลานมองเลี่ยวหยวนและคนอื่นๆ ที่ก้มหน้าเงียบ มีความไม่พอใจเสี้ยวหนึ่งแวบผ่านคิ้วงาม

แม้คำพูดของฉู่หนิงจะทำให้นางรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง แต่เขาจงใจกล่าวเช่นนี้เพียงเพื่อชนะใจคนกลุ่มนี้เท่านั้น

พวกเลี่ยวหยวนและคนอื่นๆ ไม่ใช่คนโง่เขลา จะต้องมองแผนของฉู่หนิงออกแน่นอน

ทว่าเสิ่นหว่านอิ๋งที่อยู่ด้านข้างกลับส่ายศีรษะเบาๆ และจับจ้องด้วยแววตาอันเปล่งประกาย

“การจะชักจูงจิตใจคนได้นั้น ต้องชนะใจคนให้ได้ก่อน!”

เสิ่นหว่านอิ๋งจ้องแผ่นหลังของฉู่หนิง บนใบหน้าปรากฏแววสนใจ “ดูเหมือนเผิงไหลจวิ้นอ๋องผู้นี้ ก็ไม่ได้แย่เหมือนที่ข้าคิดนะ”

เฝิงมู่หลานตะลึงงันทันที

ผ่านไปครู่หนึ่ง นางจึงจะค่อยๆ หันไปมองสหายของตนเองอย่างไม่อยากเชื่อสายตา “หว่านอิ๋ง เจ้าคงไม่ได้ชอบเจ้าหมอนี่แล้วกระมัง?”

เสิ่นหว่านอิ๋งส่ายศีรษะ พลางกล่าวเสียงเรียบ “แม้เขาจะพอมีความสามารถอยู่บ้าง แต่หากเก่งแต่ปากอย่างเดียว ก็ยังคงไม่สามารถปกป้องตระกูลเสิ่นของข้าได้”

แม้การกระทำเมื่อครู่ของฉู่หนิงจะทำให้นางคาดคิดไม่ถึง แต่ยังคงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของนาง

นางจะไม่แต่งงานกับฉู่หนิง

และฉู่หนิงต้องเป็นฝ่ายถอนหมั้น

เฝิงมู่หลานถอนหายใจด้วยความโล่งอก

โชคดีที่หว่านอิ๋งไม่ได้หุนหันพลันแล่น ไม่เช่นนั้นวันนี้กลับจะกลายเป็นสงเคราะห์ให้ฉู่หนิงสมหวังแทน!

นึกถึงฉู่หนิง สีหน้าเฝิงมู่หลานก็เย็นชาลงโดยพลัน และเมื่อเงยหน้ามองไป

เห็นเพียงฉู่หนิงที่ถูกปิดล้อมกลับมีท่าทีสงบเยือกเย็น ไม่กลัวว่าเลี่ยวหยวนและคนอื่นๆ จะลงมือเลย

ขณะนั้นเอง เลี่ยวหยวนถอนหายใจยาวทีหนึ่ง แล้วถอยกลับไปยังตำแหน่งเมื่อครู่

ทหารคนอื่นๆ ก็สะเทือนใจเพราะคำพูดของฉู่หนิง เมื่อเห็นนายกองของตนเองถอยกลับไป หลังจากหันไปมองหน้ากันก็พากันถอยเช่นกัน

กวนอวิ๋นกับจ้าวอวี๋ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

แม้พวกเขาสองคนมีวรยุทธ์เลิศล้ำ แต่ที่นี่คือค่ายทหารของกรมกลาโหม หากปะทะกันขึ้นมาจริงๆ พวกเขาฝ่าออกไปย่อมไม่เป็นปัญหา แต่ไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยของฉู่หนิง

เมื่อเห็นทุกคนยอมถอยเพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำของฉู่หนิง ทั้งสองยิ่งเลื่อมใสในตัวฉู่หนิงแล้ว

เดิมทีคิดว่าฉู่หนิงจะใช้ฐานะองค์ชาย และพระบัญชาของฝ่าบาทมาบังคับคนกลุ่มนี้ไปแนวหน้า

แต่ฉู่หนิงไม่ได้ใช้อำนาจข่มคน อาศัยเพียงความสามารถของตนเองก็คลี่คลายวิกฤตตรงหน้าแล้ว

แต่ต่อให้คนกลุ่มนี้รู้สึกละอายใจ เกรงว่าก็ไม่กล้าไปแนวหน้าอยู่ดี

ยอมถอยตอนนี้ ไม่ได้แปลว่าคนกลุ่มนี้ยอมลงสนามรบ!

ขณะที่ทั้งสองกำลังจมอยู่กับความคิด ฉู่หนิงมองผู้คนที่ยอมถอยกลับไปพลางพยักหน้าเบาๆ สีหน้าผ่อนคลายขึ้น

“ถือว่าพวกเจ้ายังพอรู้จักอายอยู่บ้าง!”

ฉู่หนิงพลันสะบัดแขนเสื้อ กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ตอนนี้พี่น้องของพวกเจ้ากำลังห้ำหั่นเอาชีวิตเป็นเดิมพันที่แนวหน้า แต่พวกเจ้าจะเสพสุขอยู่ที่นี่อย่างสบายใจหรือ?

รอพวกเขาล้มตายกันหมดแล้ว พวกเจ้าคิดว่าคนต่อไปที่จะต้องลงสนามรบคือใคร?

หลังจากทุกคนตายกันหมด ต้าฉู่ของเราก็จะล่มสลาย ลูกเมียและญาติพี่น้องของพวกเจ้าจะตกเป็นทาสของผู้อื่น!

ถึงเวลานั้น เมียพวกเจ้าจะกลายเป็นเมียผู้อื่น ลูกพวกเจ้าจะเปลี่ยนแซ่ตามผู้อื่น ญาติพี่น้องพวกเจ้าจะกลายเป็นไพร่ชั้นต่ำ!

บอกข้าหน่อย นี่คือสิ่งที่พวกเจ้าอยากเห็นหรือ?

“ไม่อยาก!”

เหล่าทหารพร้อมใจกันตะโกน เสียงดังกึกก้องราวฟ้าผ่า ทำเอาเสิ่นหว่านอิ๋งกับเฝิงมู่หลานที่ยืนชมเหตุการณ์อยู่ห่างๆ สะดุ้ง

เสียงอันหนักแน่นของฉู่หนิงดังขึ้น ท่ามกลางความประหลาดใจของหญิงสาวทั้งสอง “ดีมาก พวกเจ้าจงจดจำคำพูดของพวกเจ้าไว้ให้มั่น!”

“ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป พวกเจ้าก็คือองครักษ์ของข้า และยังคงขึ้นตรงต่อผู้บัญชาการนายกองเลี่ยว กวนอวิ๋น เจ้าพาพวกเขาไปตีอาวุธที่เหมาะมือที่ร้านตีเหล็ก”

“รีบทราบ!” กวนอวิ๋นขานรับเสียงหนักแน่น ก่อนจะพาเหล่าทหารออกไปยังนอกค่าย

เฝิงมู่หลานร้อนรนแล้ว

คนเหล่านี้ล้วนเป็นทหารผู้ใต้บังคับบัญชาของบิดานาง หากไปกับฉู่หนิง บิดาของนางไม่เท่ากับกลายเป็นหัวเดียวกระเทียมลีบหรือ?

“หยุดเดี๋ยวนี้!”

ทันใดนั้น เฝิงมู่หลานก็กระโจนออกไปขวางทางของกวนอวิ๋น

เสิ่นหว่านอิ๋งส่ายศีรษะ ก่อนจะก้าวตามไป

เมื่อฉู่หนิงได้ยินว่ามีคนขวางทาง ก็ขมวดคิ้วพลางหมุนกาย

แต่ทันทีที่หมุนกาย ก็สบตากับเสิ่นหว่านอิ๋งพอดี

สายตาทั้งสองประสานกัน สายตาของคนหนึ่งเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ส่วนสายตาของอีกคนดูเฉยชาเล็กน้อย

โลกใบนี้มีสตรีรูปโฉมงดงามเพียงนี้ด้วย!

ใบหน้าอันงามเลิศคู่กับรูปร่างสูงโปร่ง ชายกระโปรงโบกพลิ้วระหว่านเดิน ทุกย่างก้าวสง่างาม ทำให้ยากจะละสายตา

สตรีผู้งดงามดั่งเทพธิดาจุติจากสวรรค์ ถึงกับบดบังสตรีผู้ไม่ได้งามน้อยหน้าที่อยู่ข้างกายจนมิด

“ฮึ่ม มองอะไรนักหนา ไม่เคยเห็นผู้หญิงหรือ?”

เฝิงมู่หลานสัมผัสถึงสายตาของฉู่หนิง ก็อดถลึงตาใส่ไม่ได้ ก่อนจะไปยืนขวางตรงหน้าเสิ่นหว่านอิ๋ง

เมื่อทัศนวิสัยถูกบดบัง ฉู่หนิงจึงจะละสายตา และหันไปมองสตรีที่ขวางทางแทน

เวลานี้ เลี่ยวหยวนรีบก้าวออกกระซิบเบาๆ “องค์ชาย นางคือบุตรีของผู้ช่วยเสนาบดีเฝิงขอรับ”

กล่าวจบก็หันไปมองเฝิงมู่หลานอย่างจนปัญญา “คุณหนูเฝิง ห้ามไร้มารยาทต่อองค์ชาย”

เฝิงมู่หลานขมวดคิ้ว มองฉู่หนิงพลางแค่นเสียงเยาะ “องค์ชาย? ต้าฉู่มีองค์ชายที่แย่งผู้ใต้บังคับบัญชาของผู้อื่นด้วยหรือ?”

“บังอาจ!”

กวนอวิ๋นตวาดลั่น พลางควงดาบกระโจนไปขวางตรงหน้าเฝิงมู่หลาน “เจ้ากล้าไร้มารยาทต่อองค์ชายหรือ!”

เฝิงมู่หลานก็ไม่มีท่าทีเกรงกลัวเลย นางชักกระบี่ ยืนประจันหน้าทันควัน “ฮึ่ม เขาแย่งผู้ใต้บังคับบัญชาของพ่อข้าก่อน เขาไร้ซึ่งความเมตตาก่อน เจ้ากล้าพูดได้อย่างไรว่าข้าไร้มารยาทต่อเขา?”

“เจ้า…” กวนหยวนเป็นคนหยาบกระด้าง ถูกโต้กลับจนพูดไม่ออกในชั่วขณะ

กลับเป็นที่เสิ่นหว่านอิ๋งที่รู้ตัวว่าไม่ได้มาเพื่อสร้างปัญหา นางก้าวออกมาโค้งคำนับฉู่หนิง “เสิ่นหว่านอิ๋งขอน้อมถวายบังคมเผิงไหลจวิ้นอ๋องเพคะ”

ที่แท้นางคือเสิ่นหว่านอิ๋ง!

คู่หมั้นที่เสด็จพ่อพระราชทานแก่เขา

ฉู่หนิงเข้าใจทุกอย่างแล้ว และยังกล่าวด้วยรอยยิ้มสุภาพ “ที่แท้ท่านหญิงเสิ่นนี่เอง ข้าเพิ่งมาถึงเมืองหลวง ไม่รู้จักท่านหญิง ต้องขออภัยด้วย”

ท่าทีที่อ่อนโยนและสุภาพของฉู่หนิง ทำให้เสิ่นหว่านอิ๋งสบายใจขึ้นมาก

ขอแค่เป็นคนมีเหตุผล นางก็มั่นใจว่าสามารถเกลี้ยกล่อมให้อีกฝ่ายถอนหมั้น

สิ่งที่นางกลัวที่สุดก็คืออีกฝ่ายไร้เหตุผล!

“องค์ชายกล่าวหนักเกินไปแล้ว”

เสิ่นหว่านอิ๋งกล่าวเสียงเรียบ “หว่านอิ๋งเก็บตัวอยู่แต่ในจวน องค์ชายไม่รู้จักหว่านอิ๋งก็สมควรเพคะ”

นางเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวต่อ “น้องหญิงของหม่อมฉันนิสัยมุทะลุ หากมีสิ่งใดที่ล่วงเกิน องค์ชายโปรดให้อภัยเพคะ”

ฉู่หนิงพลันยิ้มบางๆ “ไม่เป็นไร ข้าแย่งผู้ใต้บังคับบัญชาของพ่อนางจริงๆ นางโกรธก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจได้

กวนอวิ๋น เจ้าพาพวกเขาไปที่ร้านตีเหล็กก่อน ตีอาวุธและชุดเกราะอย่างเต็มกำลัง”

จะปล่อยให้การปรากฏตัวของสตรีสองนางมาทำลายแผนการของตนไม่ได้

กวนอวิ๋นขานรับแล้วพาคนอื่นๆ เดินจากไป โดยทิ้งจ้าวอวี๋ไว้ปกป้องฉู่หนิง

เฝิงมู่หลานยังคิดจะขวาง กลับถูกเสิ่นหว่านอิ๋งคว้าแขนไว้ และเกลี้ยกล่อมเบาๆ

“นี่เป็นพระบัญชาของฝ่าบาท และองค์ชายก็ชนะใจพวกเขาด้วยความสามารถของตัวเอง เจ้ายังไปขวางอีกก็เท่ากับจงใจหาเรื่อง ฝ่าบาทจะลงโทษตระกูลเฝิงนะ!”

สีหน้าเฝิงมู่หลานเปลี่ยนเล็กน้อย

หากลงโทษนางผู้เดียว นางย่อมไม่กลัว

แต่หากลงโทษตระกูลเฝิง นางต้องพิจารณาถึงผลกระทบที่ตามมา

ฉู่หนิงมองเสิ่นหว่านอิ๋งด้วยความสนใจ บนใบหน้าปรากฏแววพินิจพิจารณา

คู่หมั้นผู้นี้ มีดีใช้ได้เลย

เฝิงมู่หลานผู้นี้แค่ดูก็รู้ว่าเป็นสตรีประเภทหน้าอกใหญ่สมองน้อย เสิ่นหว่านอิ๋งกลับสามารถเกลี้ยกล่อมด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ

หากได้แต่งงานกับสตรีเช่นนี้ จะต้องเป็นผู้ช่วยที่ยอดเยี่ยมแน่นอน

เมื่อนึกถึงตรงนี้ ฉู่หนิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่ทราบว่าท่านหญิงเสิ่นมาหาข้ามีธุระอะไร?”

เสิ่นหว่านอิ๋งยังไม่ทันได้เอ่ยปาก เฝิงมู่หลานก็ชิงกล่าวด้วยสีหน้าโกรธเคือง “ก็ต้องมาถอนหมั้นกับเจ้าน่ะสิ!”
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Komen (3)
goodnovel comment avatar
นายพีรวัส รัตนพงษ์เพียร
สนุกน่าติดตาามม
goodnovel comment avatar
เอก สีหราช
เติมยากเรื่องแยะถ้าเติมเงินง่ายๆคนจะอ่านอีกเยอะ
goodnovel comment avatar
Jagapun Huanon
เนื้อหานิยายทุกตอนชวนให้ติดตาม
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terbaru

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 350

    พอพูดจบ เฝิงมู่หลานออกจากห้องรับแขกความจริงใช่ว่านางจะไม่รู้ฐานะของตนเอง เพียงแต่เมื่อคิดว่าฉู่หนิงกำลังจะแต่งงานกับเสิ่นหว่านอิ๋ง ภายในใจนางหึงหวงอย่างมากจงใจหาข้ออ้างตามเสิ่นหว่านอิ๋งมาด้วย ก็เพื่ออยากอยู่กับฉู่หนิงให้นานขึ้นเท่านั้นแต่ตอนนี้เมื่อเห็นท่าทางเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยของฉู่หนิงและเสิ่นหว่านอิ๋ง ในใจนางทรมานยิ่งกว่าไม่สู้จากมา ไม่เห็นจะได้ไม่ต้องรกตา!เสิ่นหว่านอิ๋งไม่ได้รั้งไว้ นางรู้ว่าฉู่หนิงพานางมาที่นี่ต้องมีธุระแน่นอนเป็นไปตามคาด ฉู่หนิงยิ้มแล้วเดินมาข้างกาย จับมือนางแล้วเอ่ยขึ้น “ในที่สุดก็มีเวลาสำหรับพวกเราสองคนแล้ว”เสิ่นหว่านอิ๋งเคยชินกับการถูกฉู่หนิงจับมือ ครั้งนี้จึงไม่หน้าแดง“ท่านพาข้ามา คงไม่ใช่แค่เรื่องให้ข้ารับผิดชอบงานแต่งหรอกนะ?”“ไม่ใช่แน่นอน!”ฉู่หนิงพาเสิ่นหว่านอิ๋งไปนั่งลง แล้วยิ้ม “นอกจากเรื่องงานแต่ง ทางปิงโจวก็ต้องให้เจ้าช่วย”เสิ่นหว่านอิ๋งส่ายหน้าเบาๆ “ข้ารู้อยู่แล้วว่าท่านไม่หวังดี เงื่อนไขของท่านในคืนนี้เท่ากับเปลี่ยนปิงโจวให้กลายเป็นพื้นที่ของตัวเอง อยากปกครองทางโน้นให้ดี ถ้าไม่มีตัวเลือกที่เหมาะสมคงไม่ได้”หยุดไปครู่หนึ่ง นา

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 349

    จวนอ๋องฉู่แสงไฟภายในห้องรับแขกกระพริบ กลิ่นชาอบอวล ทำให้จิตใจผ่อนคลายฉู่หนิงนั่งตรงตำแหน่งประธานจิบชาร้อนหนึ่งคำ ถึงได้รู้สึกว่าร่างกายอบอุ่นไม่น้อย อาการมึนเมาเมื่อครู่ก็ตื่นขึ้นมาบ้างย่างเข้าเดือนสิบเอ็ดแล้ว อากาศเริ่มเย็นลง ฉู่หนิงกลัวเสิ่นหว่านอิ๋งหนาว จึงอดยิ้มไม่ได้ “หว่านอิ๋ง ดื่มชาร้อนอุ่นร่างกายสักถ้วย”เสิ่นหว่านอิ๋งพยักหน้า ยกถ้วยน้ำชาดื่มหนึ่งคำใครจะไปคิดว่ายามนี้ เฝิงมู่หลานที่อยู่ข้างกันกลอกตา “ทำไม ให้แค่หว่านอิ๋งดื่มชา ไม่ให้คุณหนูอย่างข้าดื่มหรือ?”ฉู่หนิงปวดหัวไม่น้อยก้างขวางคอชิ้นโตอยู่ตรงนี้เกะกะเหลือเกิน ข้าอยากพัฒนาความสัมพันธ์กับหว่านอิ๋งอีกขั้น ก็ยังไม่มีโอกาสทว่า หากจัดการหญิงป่าเถื่อนอย่างเฝิงมู่หลานได้ไม่ดี เกรงว่าข้าคงไม่มีวันสงบสุขฉู่หนิงวางถ้วยน้ำชาลง แล้วยิ้มเจื่อน “ข้าแค่เป็นห่วงร่างกายหว่านอิ๋งจะหนาว คุณหนูเฝิงเจ้าวรยุทธ์สูงส่ง ย่อมไม่กังวลเรื่องนี้แต่ชานี่ก็เป็นชาที่ดีจริงๆ หากคุณหนูเฝิงสนใจก็ลองชิมดูสักคำ”เฝิงมู่หลานกลับทำเสียงฮึดฮัด “ข้าไม่สนใจชาของเจ้าหรอก!”มุมปากฉู่หนิงกระตุก ทำหน้าหมดคำพูดเจ้าว่าข้าไม่ให้เจ้าดื่ม พอตอนนี้ให

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 348

    เอาอีกแล้ว!โรคแคลงใจที่องค์รัชทายาทสืบทอดมาจากฮ่องเต้!หลิงเฟยเยียนสีหน้ามืดครึ้ม บนใบหน้างดงามปรากฏแววโกรธ “ฉู่หนิงเพิ่งกลับเมืองหลวง หม่อมฉันจะไปมีอะไรกับเขาได้อย่างไร?”องค์รัชทายาทชะงักถูกต้อง ฉู่หนิงเพิ่งกลับมา เป็นไปไม่ได้ที่จะมีเวลามาหาหลิงเฟยเยียนหรือข้าคิดมากเกินไป?องค์รัชทายาทที่หายโกรธถึงได้ปล่อยมือหลิงเฟยเยียน สูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามให้ตัวเองสงบลง“ข้าวู่วามไปเอง เจ้าฉู่หนิงนั่นน่าชังยิ่งนัก ถึงขนาดโต้แย้งข้าต่อหน้าธารกำนัล!”องค์รัชทายาทมองข้อมือหลิงเฟยเยียนแวบหนึ่ง แสร้งเอ่ยอ่อนโยน “มือเจ้าไม่เป็นไรนะ?”ขณะที่พูด เขาอยากเข้าไปตรวจดูแต่ใครจะคิดหลิงเฟยเยียนถอยหลังสองก้าว เอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชา “หากองค์รัชทายาทไม่มีเรื่องอื่น หม่อมฉันขอตัวก่อน”พูดจบก็ไม่รอองค์รัชทายาทตอบ หันหลังจากไปทันทีองค์รัชทายาทยื่นมือออกไปอยากเรียกหลิงเฟยเยียนไว้ แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่เมื่อครู่เขากระทำต่อนาง ก็ไม่รู้จะเริ่มเอ่ยปากอย่างไร ได้แต่ทนดูหลิงเฟยเยียนจากไปต่อหน้าต่อตาหญิงชั้นต่ำผู้นี้ ถึงขนาดกล้าชักสีหน้าใส่ข้าเชียวหรือ!ฮึ หากไม่เห็นแก่บิดาของเจ้าที่ยังมีประโยชน์ต่อข้า จะป

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 347

    ฉู่หนิงได้รับสิทธิ์ในการปกครองตนเองที่เขาอยากได้จากฮ่องเต้แล้ว จึงเตรียมจากไป แต่องค์รัชทายาทกลับหาเรื่องเหล่าขุนนางที่อยู่ตรงนี้ก็ไม่ไปแล้ว แต่ละคนล้วนกำลังรอดูละครฉากเด็ดยิ่งองค์ชายอื่นๆ ยิ่งเผยสีหน้าเพลิดเพลิน อยากให้องค์รัชทายาทลงมือกับฉู่หนิงเหลือเกินแม้จะไม่ทำให้ฉู่หนิงถึงตายทันที แต่ลดทอนอำนาจและชื่อเสียงของฉู่หนิงน่าจะได้ศึกนี้ทำให้ชื่อเสียงฉู่หนิงโด่งดัง อยู่เหนือองค์ชายทุกคน ทำให้พวกเขาไม่สบอารมณ์อย่างยิ่งจำเป็นต้องลดทอนชื่อเสียงของฉู่หนิง พวกเขาถึงจะผงาดขึ้นมาได้!ขณะที่ทุกคนรอดูละครฉากเด็ด ฉู่หนิงเลิกคิ้ว หันมององค์รัชทายาท“ท่านพี่องค์รัชทายาท ความจริงน้องมีเรื่องหนึ่งที่ไม่กระจ่าง ขอท่านพี่องค์รัชทายาทโปรดชี้แนะด้วย”องค์รัชทายาทแค่นหัวเราะ สองมือไพล่หลัง ทำหน้าเย่อหยิ่ง “เรื่องที่ทำให้น้องสิบแปดไม่กระจ่าง ข้าอยากรู้นัก”ฉู่หนิงชี้นิ้วไปที่หลิงเฮ่าหรานท่ามกลางเหล่าขุนนาง เอ่ยเสียงเรียบ “เสนาบดีกรมอาญาคือใต้เท้าหลิง ท่านพี่องค์รัชทายาทไม่ได้ดูแลกรมอาญา เหตุใดท่านจึงมักจะทำงานแทนกรมอาญา?”“ข้า...” องค์รัชทายาทกำลังจะอธิบายฉู่หนิงยิ้มแล้วพูดขัดขึ้น “ท่านพี่อ

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 346

    ฮ่องเต้เลิกคิ้ว มององค์รัชทายาทแวบหนึ่งเรายังไม่เอ่ยปาก เจ้ารีบร้อนอะไร?องค์รัชทายาทหดคอ ชั่วขณะนั้นไม่กล้าพูดสิ่งใดนิสัยฮ่องเต้ก็เป็นเช่นนี้ เมื่อครู่ยังยิ้มแย้ม แต่ปุบปับก็อาจโกรธเคือง อย่างไรระวังไว้ก่อนดีกว่าโชคดีที่ฮ่องเต้ไม่ได้จ้ององค์รัชทายาทตลอด หันมองฉู่หนิง แล้วเอ่ยเสียงเรียบ “เงื่อนไขของเจ้า เราสามารถรับปาก”ฉู่หนิงตาลุกวาวทว่าต่อมาฮ่องเต้กลับส่ายหน้า “แต่สิบปี นานเกินไป!”หลังหยุดไปชั่วครู่ ฮ่องเต้ยื่นฝ่ามือขวาออกมา แล้วเอ่ยเชื่องช้า “เอาอย่างนี้ เราให้เวลาเจ้าห้าปี ว่าอย่างไร?”ฉู่หนิงหน้าเศร้า “ห้าปีน้อยเกินไปแล้ว เสด็จพ่อ พระองค์ก็ต่อรองโหดเกินไปแล้วกระมัง หั่นครึ่งเช่นนี้ได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”“แต่ในเมื่อเสด็จพ่อเอ่ยปาก กระหม่อมก็ต้องให้เกียรติพระองค์ เอาอย่างนี้ แปดปี แปดปีเป็นอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”ทั้งสองต่อรองกันไปมาเหล่าองค์ชายและเหล่าขุนนางรอบข้างต่างตะลึงนี่เป็นเรื่องใหญ่ของบ้านเมือง ไฉนทั้งสองจึงทำตัวเหมือนแม่ค้าตลาดสดซะอย่างนั้น?ท่ามกลางสายตาประหลาดใจของทุกคน ฮ่องเต้เลิกคิ้ว “แปดปีหรือ? นานไปหน่อย เอาอย่างนี้ เรากับเจ้าถอยกันคนละหนึ่งก้าว เจ็ดปี

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 345

    “เงื่อนไขหรือ?”ฮ่องเต้ตะลึงเรามอบอำนาจทางทหารให้เจ้า เจ้ายังยื่นเงื่อนไขกับเราหรือ?หรืออำนาจทางทหารของต้าฉู่ตกต่ำจนถึงขั้นนี้แล้ว?“ถูกต้อง หากเสด็จพ่อยอมรับเงื่อนไขของกระหม่อมได้ กระหม่อมถึงจะกล้ารับช่วงทหารแนวหน้า ไม่อย่างนั้นกระหม่อมยอมถูกพระองค์ตำหนิก็จะทิ้งตราอาญาสิทธิ์ไว้พ่ะย่ะค่ะ!”ท่าทางของฉู่หนิงหนักแน่น ขณะกล่าว ตราอาญาสิทธิ์ในมือถูกเขาวางไว้บนโต๊ะมุมปากฮ่องเต้กระตุก ในใจไม่ค่อยสบอารมณ์องค์รัชทายาทข้างกันสังเกตเห็นสีหน้าผิดปกติของฮ่องเต้ จึงอดไม่ได้ต้องหรี่ตา ทั้งมีความแปลกใจแวบผ่านหากคืนนี้ไม่ให้ฉู่หนิงรับตราอาญาสิทธิ์ไป เสด็จพ่อต้องเลือกให้ข้าหรือหนึ่งในท่ามกลางองค์ชายอื่นรับตราอาญาสิทธิ์เอาไว้ ถึงยามนั้น เรื่องยุ่งยากกลับมาตกอยู่ที่ข้าไม่ได้ ต้องทำให้ฉู่หนิงรับตราอาญาสิทธิ์ไว้“เสด็จพ่อ น้องสิบแปดเพิ่งชนะศึกกลับมา อย่างไรลองฟังเงื่อนไขของเขาก่อนดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ”องค์รัชทายาทยิ้มอย่างประนีประนอม “หากเงื่อนไขของน้องสิบแปดมีเหตุผล ทางราชสำนักจะพิจารณาอย่างเหมาะสม”ใครก็รู้ว่าฮ่องเต้รักหน้าตา หากไม่ให้ทางลงแก่ฮ่องเต้ ฮ่องเต้คงไม่ยอมรับปากโดยง่ายองค์ชายอื่น

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status