Home / แฟนตาซี / สงครามรักในเงามืด / ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าเจ็บตัวอีก

Share

ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าเจ็บตัวอีก

last update Last Updated: 2024-11-23 19:55:46

เวลาสองทุ่ม....

ขณะที่ฉันกำลังจะเปิดปากพูดอะไรบางอย่างกับเคียร์ทว่าสายเรียกเข้าโทรศัพท์ฉันก็ดังขึ้นขัดจังหวะทำให้ฉันจำใจต้องละสายตาจากเคียร์แล้วล้วงกระเป๋าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย

"ว่าไงคะพี่?"

"มินาโกะ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน"

"น้องอยู่ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ"

"พี่อยากให้เราไปที่เกิดเหตุ มีคนตายเพิ่มแต่พี่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พี่อยากจะให้เราไปดูให้หน่อย ทางนี้พี่ติดนักข่าวอยู่หน้าสำนักงานพี่จะส่งที่อยู่ให้..."

ฉันทำหน้านิ่งไปครู่หนึ่ง ทำให้ฉันรู้ทันทีว่านี่ต้องเป็นเรื่องของแวมไพร์แน่นอน คราวนี้จะเป็นปีศาจแบบไหนอีก

"ค่ะ น้องจะรีบไปเดี๋ยวนี้" ฉันตอบก่อนจะวางสายแล้วหันหน้าไปหาเคียร์

"ต้องไปแล้วนะลุง"

ในมือถือของเอามาวางหน้าเคาน์เตอร์จ่ายเงินกำลังจะเดินออกจากร้านเขาก็จับแขนซ้ายเอาไว้ฉันเหลียวหลังกลับไปก้มลงดูมือก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าของเขา

"เธอน่ะ เป็นคนที่ล้ำค่ามากเพราะงั้นอย่าเจ็บตัวนะ" ผมใช้นิ้วชี้เคาะหน้าผาก

ฉันอึ้งกับคำพูดของเขาคนเป็นแวมไพร์ พูดอะไรแบบนี้เป็นด้วยเหรอ เขากำลังเป็นห่วงฉันหรือแกล้งเป็นห่วงฉัน หูฉันคงไม่เฝื่อน ไปใช่ไหม ก่อนที่จะหันหลังอีกครั้ง นึกขึ้นได้ หยิบมือถือยื่นให้เขา

"ขอเบอร์ไว้หน่อยสิลุง อยากส่งข้อความหาลุงได้ไหม"

"พอดีคนหล่อคนนี้ไม่ให้เบอร์สาวนะ"

ใบหน้าของฉันทำหน้าเซ็งๆ เหมือนเขากำลังตั้งใจกวนประสาทฉันอยู่

"คือจะไม่ให้ สงสัยคงจะต้องเป็นสาวสวยหน้าอกตูม ถึงจะให้ถูกไหม ตาลุงหื่นกาม" (แวมไพร์ก็เจ้าชู้ไม่ใช่เล่นเลย)

ฉันไม่สนใจเขาแล้วรีบวิ่งออกจากซูเปอร์มาร์เก็ตทิ้งให้เขายืนมองตามหลังฉัน วิ่งจนมาถึงครึ่งทาง เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

"สวัสดีวันศุกร์ สาวน้อย"

เห็นข้อความทำให้ฉันยิ้มสดใส"ขนาดส่งข้อความยังเป็นคนแก่ไปได้ ตาลุงเอ่ย"

ย่านช้อปปิ้งแห่งหนึ่งในเวนิสต้า...

ฉันหยิบใส่ถุงมือสีดำเดินเข้ามาที่เกิดเหตุซึ่งถูกปิดกั้นด้วยแถบสีเหลืองของตำรวจผู้คนมากมายมุงดูเหตุการณ์ด้วยความตื่นตระหนกหวาดกลัว ฉันสวมหูฟังไร้สายและกดปุ่มติดต่อไปยังยูกิทันที

"ยูกิ ช่วยรายงานสถานการณ์ให้ฉันฟันหน่อย"

"นี่...หัวหน้าไปทำไมครับ มันอันตรายนะ หัวหน้าไม่ใช่..."

"หยุดบ่นแล้วรีบๆ พูดมาได้แล้ว"

"ครับ...หัวหน้า"

"จากการสอบสวนพยานเบื้องต้น เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อประมาณหนึ่งชั่วโมงที่แล้วมีชายหญิงคู่หนึ่งเริ่มทะเลาะกันอย่างรุนแรงกลางถนน จากนั้นก็ชักมีดออกมาแทงกันจนเสียชีวิตทั้งคู่ครับ"

ฉันที่ยืนดูพวกเขาถ่ายรูปศพ "แค่คู่เดียว?"

"ไม่ครับ หลังจากนั้นก็มีคนอื่นๆ เริ่มทำร้ายกันเองด้วยอาวุธมีคม มีผู้บาดเจ็บหลายราย บางคนก็เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ"

ความรู้สึกเย็นวาบไปทั้งสันหลัง เหตุการณ์นี้มันเกินกว่าจะอธิบายได้ด้วยเหตุผล พวกเขาทะเลาะกันจริงหรือมีใครบางคนบงการอยู่ถึงมาแทงในย่านนี้ ส่วนใหญ่แวมไพร์จะกัดที่คอแต่นี่กลับไม่มีรอยบนต้นคอมีแต่บาดแผลจากการแทงกันเท่านั้น

"มีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับพวกเขาไหม ยูกิ?"

"เอ่อ...พยานบางคนบอกว่า พวกเขาดูเหมือนคนเสียสติครับ ตาขวางและมีพูดแค่ว่าต้องฆ่าเท่านั้น"

"เข้าใจแล้วยูกิ ฉันจะเข้าไปดูสถานการณ์เอง ถ้ามีเรื่องอะไรก็รายงานมาได้เลย"

"ได้เลยครับ"

มือหยิบถอดหูฟังออกแล้วก้าวผ่านแถบกั้นเข้าไปในที่เกิดเหตุ ฉันเคยลองค้นหาในอินเทอร์เน็ต แวมไพร์นั้นมีหลายพลังที่สามารถควบคุมจิตให้มนุษย์หันมาฆ่ากันเองได้สายตาฉันสำรวจไปรอบๆ อย่างละเอียด กวาดสายตาที่นี่เป็นชุมชนย่านที่คนจะมาเดินเล่น มีอาหารให้กินตามทางมีกิจกรรมมากมาย พวกมันเลือกที่คนพลุ่งพล่าน

บรรยากาศในที่เกิดเหตุเริ่มทวีความน่าสะพรึงกลัวขึ้น ฉันสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างที่ชวนทำให้ขนลุก เหมือนมีสายตาหลายคู่จับจ้องมาที่ฉันจากเงามืด ราวกับมีสัตว์ร้ายกำลังรอจังหวะที่จะตะครุบเหยื่อ

"ทุกคนออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!"

ฉันตะโกนส่งเสียงดัง ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่สัญชาตญาณบอกฉันว่าทุกคนต้องออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด

"แต่พวกเรายังตรวจศพพวกเขายังไม่เสร็จเลยนะ"

มือหยิบปืนขึ้นมาจ่อกลางหัวคนที่กำลังตรวจศพ

"อยากตายตรงนี้หรือว่าอยากจะโดนคนพวกนี้กินแยกเป็นชิ้นๆ เลือกเอาจะเอาแบบไหน"

"บอกให้ออกไป ก็ออกไปสิ!"

เหล่าตำรวจและเจ้าหน้าที่ต่างมองหน้ากันด้วยความงุนงง แต่พวกเขาก็เชื่อฟังคำสั่งของฉันและเริ่มอพยพผู้คนออกจากพื้นที่

"ทำบ้าอะไร มินาโกะ" เสียงพี่เรียวจิตะโกนออกมา

ทันใดนั้น ร่างหนึ่งก็พุ่งออกมาจากเงามืดมีดสั้นวาววับอยู่ในมือของมันมุ่งตรงมายังฉัน ดวงตาเบิกกว้างอย่างตกตะลึง ทุกคนต่างกรี๊ดกันใหญ่ ทำให้คนวิ่งหนีอย่างอลหม่าน

ฉันพยายามหลบคมมีดที่พุ่งเข้ามา แต่ก็ไม่ทันได้รู้สึกถึง ความแสบที่แขนขวาเลือดสีแดงสดไหลลงแขน ทำให้เขาเปลี่ยนดวงตาจากสีดำเป็นสีแดง ฉันรีบชักปืนออกมายิงเข้าไปที่ขาสองข้าง แต่ก็เหมือนเขาจะไม่ค่อยเป็นอะไร

"ฮ่าๆๆๆ คิดจะสู้กันด้วยปืนกระจอกๆ นี่เหรอ เธอมันก็แค่เหยื่อตัวเล็กๆ เท่านั้น"

"อย่ามาดูถูกฉัน ถึงแกจะเป็นแวมไพร์ ฉันไม่ได้อ่อนแอ แน่จริงอย่าใช้มีดถ้าแกแข็งแกร่งพอ"

ถึงแวมไพร์จะมีพลังที่เหนือกว่ามนุษย์ก็จริงถ้าไม่ลองดูสักตั้งจะไปรู้ได้ยังไงว่าพลังของพวกมันมีมากน้อยแค่ไหน เหล่าตำรวจเอฟบีไอ กำลังจะเตรียมยิง...

"อย่ายิงเก็บปืน! ถ้ายิงเกิดโดนน้องสาวฉัน พวกนายจะรับผิดชอบไหวเหรอ"

พี่เรียวจิที่ตะโกนใส่พวกตำรวจสายตาหันมามองใบหน้าของแวมไพร์ตนนั้นรู้จักคนอย่างฉันน้อยไป ฉันเนี่ยดื้อตัวแม่ เคยต่อสู้มาตั้งเยอะ เขาเข้ามาโจมตีฉันทำให้หลบการโจมตีอย่างคล่องแคล่ว หาจังหวะที่จะโต้กลับพอเห็นช่องว่างหมุนตัวใช้ขาด้านซ้ายแตะไปที่ก้านคอของแวมไพร์ตนนั้นเข้าอย่างจัง

ดูเหมือนเขาเริ่มหงุดหงิด มันคงไม่คิดว่ามนุษย์ตัวเล็กๆ จะสามารถหลบการโจมตีของเขาได้ เขาพุ่งเข้าใส่ฉันอีกครั้งคราวนี้ด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น ฉันหลบได้อย่างหวุดหวิดกลายเป็นว่ามันเอาเล็บออกมาข่วนเข้าที่แขนของฉันถึงจะเฉียดก็ตาม

เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากบาดแผล ฉันปาดเลือดออกอย่างลวกๆ ถลึงตามองอย่างไม่ยอมแพ้

"แกมันก็แค่สัตว์ร้ายที่กระหายเลือด! แกไม่มีวันชนะฉันหรอก!"

เขาคำรามด้วยความโกรธ พุ่งมาทันทีคราวนี้ฉันไม่หลบ ฉันตั้งท่าเตรียมพร้อมที่จะรับการโจมตี แต่แล้ว...

เคร้ง!!

เสียงดังสนั่นหวั่นไหวราวกับแผ่นดินไหวขนาดย่อมเกิดขึ้นพร้อมกับแรงอัดอากาศมหาศาลที่ผลักฉันจนเซถลาดวงตาเบิกกว้างขึ้นฉันแสดงสีหน้าตะลึงพรึงเพริด พบว่ากระจกทุกบานในบริเวณนั้นแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ

คราวนี้สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ เคียร์ปรากฏตัวต่อหน้าฉันเหมือนมีแสงสีทองสว่างเต็มไปหมด ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวแววตาทอประกายสังหารเข้มข้นดวงตาลุกโชนราวกับเปลวเพลิง  ฉันกวาดสายตามองคนรอบข้างทุกอย่างหยุดนิ่ง

"เกิดปีไก่เหรอถึงได้จิกเก่งขนาดนี้ จิกไม่เลิกด้วยนะ"

น้ำเสียงเย็นชาก่อนจะพุ่งเข้าไปหาแวมไพร์ตนนั้นมือของผมคว้าเข้าที่ต้นคอของเขา บีบแน่นจนมันดิ้นทุรนทุราย

"คราวนี้ฉันขี้เกียจออกแรงก็จงทรมานอยู่สักพักนะ"

สิ้นคำพูดร่างของเขา ก็ลุกเป็นไฟสีแดงทั้งร่างกายมือเหวี่ยงลงพื้น..

เสียงร้องโหยหวนนั้นดังกว่าปกติทำให้ฉันเอามือขึ้นมาปิดหูทั้งสองข้าง 

ผมที่เหลียวหลังเดินไปหาเธอที่นั่งเอามือปิดหูอยู่นั้นเลยดีดนิ้วให้ฝนตกลงมาและเสกร่มขึ้นมากางย่อตัวลงเอาร่มเอียงไปทางเธอ

ฉันเงยหน้าขึ้นช้าๆ รอบข้างฝนตกหนักเห็นแค่สายตาของเขาใบหน้าของฉันก็แดงซ่านขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ เขาจ้องมองมาที่ฉันแล้วก้มลงมาจูบที่ริมฝีปากช้าๆ ค่อยๆ ผละออก

"ฉันบอกไปแล้วไงว่าอย่าเจ็บตัวอีก!" เขาพูดเสร็จก็ดีดมาที่หน้าผากของฉัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สงครามรักในเงามืด   อย่าเจอกันอีกเลยนะ

    ฉันถลกแขนเสื้อขึ้นเพิ่มความทะมัดทะแมงเตรียมพร้อมกระชับมือที่กุมเอาไว้ให้แนบแน่นมากขึ้น สูดลมหายใจเข้าออกตั้งสติแวมไพร์อีกหลายตน พวกมันจ้องมองฉันด้วยสายตาหิวกระหาย"นี่น่ะเหรอ คนที่มีพลังบริสุทธิ์ เป็นผู้หญิงที่งดงามแต่น่าเสียดายคิดจะสละชีวิตตัวเองเพื่อช่วยมนุษย์"ฉันยิ้มยวน "ถ้าใช่แล้วจะทำไม พวกนายมันก็ต้องการให้ฉันตายอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง!""โง่จริงๆ เธอไม่รู้หรอกว่าพลังของเธอมีค่ามากแค่ไหน ถ้าได้พลังนั้นมา มันสามารถชุบชีวิตคนตายได้ แทบยังทำให้มีพลังเหนือกว่าคนอื่น ที่ใครไม่สามารถต้านทานได้ ก็นะ เธอก็แค่มนุษย์เลยไม่ได้รับรู้ถึงพลังนั้น!"โครนอสหันไปสั่งเหล่าแวมไพร์ "จับตัวเธอมา!"พวกเหล่าแวมไพร์กำลังจะพุ่งเข้าใส่ฉันแต่ก่อนที่พวกมันจะทันได้แตะต้องฉัน เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านหลังพวกเขา"หยุดนะ! ใครกล้าแตะต้องเธอ ฉันฆ่าทิ้งแน่!"ผมเดินแหวกกลางมาหยุดตรงหน้าของเธอ ผมหันไปจ้องมองโครนอสด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว ก่อนจะหันกลับมาหามินาโกะฉันที่มองใบหน้าของเคียร์ ด้วยแววตาที่ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว"นายก็หลอกฉัน หลอกให้รัก หลอกให้เชื่อใจ หลอกว่านายจะจริงใจ แต่สุดท้ายนายก็ไม่ได้รักฉัน! สิ่งที่นายรักก็ค

  • สงครามรักในเงามืด   เริ่มสงครามกันเถอะ...

    เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวไปทั้งเมือง ตำรวจเอฟบีไอที่มาถึงที่เกิดเหตุต่างตกเป็นเป้าหมายของเหล่าแวมไพร์กระสุนปืนแลกเปลี่ยนกันอย่างดุเดือดฉันหลบอยู่หลังรถตำรวจเปลี่ยนชุดที่ถนัดในการต่อสู้ พอเปลี่ยนเสร็จฉันยิงสกัดแวมไพร์เดินถือปืนยิงแวมไพร์ที่เข้ามาใกล้ พวกมันมีจำนวนมากเกินไปการใช้ปืนคงจะเป็นไปได้ยาก สายตาหันไปทางพี่เรียวจิ กำลังฉีดยาที่อิซามูทำขึ้นมาเป็นควันสลบที่รุนแรง รีบสวมหน้ากากกันแก๊สทันใดนั้น ฉันเห็นซากุระ ล้มลงเธอกำลังจะถูกแวมไพร์ทำร้ายฉันไม่รอช้า รีบวิ่งออกไปขวางหน้า ย่อลงแล้วเล็งปืนแล้วเหนี่ยวไกทันทีกระสุนพุ่งเข้าเจาะทะลุกลางหัวใจของแวมไพร์ มันร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะล้มลงไปนอนกองกับพื้น"ซากุระ! ไม่เป็นไรนะ"ซากุระพยักหน้า "ฉันไม่เป็นไร ขอบใจนะมินาโกะ"สายตามองซากุระตัวสั่นเหมือนลูกนก สีหน้าของเธอซีดเผือดราวกับคนตาย"ยูกิ! พาซากุระกับอิซามูไปห้องใต้ดินของเอฟบีไอซะ นี่กุญแจแล้วฉันจะตามไปที่หลัง"ยูกิพยักหน้า เขาคว้ามือซากุระแล้วพาเธอนั่งรถขับออกไปทันที ฉันหันกลับไปเผชิญหน้ากับฝูงแวมไพร์ ต้องถ่วงเวลาให้เพื่อนๆ หนีไปให้ได้ฉันยกปืนขึ้นมาเล็งไปที่แวมไพร์ที่อยู่ใกล้ที่สุด ฉั

  • สงครามรักในเงามืด    พระจันทร์สีเลือด

    ฉันที่มองเคียร์คล้ายกับว่าสีหน้าท่าทางเหมือนกำลังโกรธรังสีอำมหิตแผ่ออกมาจากร่างเขาฉุนเฉียวไม่เป็นตัวของตัวเอง"ลุง...อย่าบอกนะว่า กำลังหึงฉันที่ไปยุ่งกับผู้ชายคนอื่นใช่ไหม"ผมชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำเป็นไม่ใส่ใจ"ไม่ใช่ ฉันไม่ได้หึง"แต่แววตาของเขาเลิ่กลั่กขาและแขนแกว่งไปทางเดียวกันอย่างไม่เป็น ธรรมชาติ เวลาเขาไม่พูดความจริงเขาชอบทำท่าทางแบบนี้ตลอด ฉันเลยเอื้อมมือไปจับมือของเขามาทาบบนอกของฉัน"ทำอะไรของเธอเนี่ย ยัยบื้อ ไม่อายคนเหรอ""ลุงตรงนี้หัวใจของฉัน มันอยู่ตรงนี้ ได้ยินใช่มั้ย หัวใจดวงนี้ฉันมอบให้ลุงทั้งหมดที่มี"จู่ๆ ใบหูของผมก็ร้อนขึ้นมา ควันร้อนแทบจะพวยพุ่งขึ้นบนศีรษะ ใบหน้าด้านข้างผมเปลี่ยนเป็นสีเข้ม"ยัยบื้อ ฉัน...ไม่...ช่างเถอะ"เคียร์วาร์ปหายหัวตัวไปต่อหน้าต่อตาฉัน ด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ ทำให้อมยิ้มเล็กน้อยถึงในคำพูดของฉันจะบอกใบ้ให้กับเขาแต่เขาก็คงไม่สงสัยอะไรฉันเงยหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้า..."เหลือเวลาไม่มากแล้วสินะ"องค์กรซีไอเอ...ทันทีประตูบริษัทเปิดออกฉันเดินเข้ามาจะไปห้องทำงานคาโอรุก็รีบเดินเข้ามาหาฉันสีหน้าไม่สบายใจ"มินาโกะ เธออย่าเพิ่งเข้า

  • สงครามรักในเงามืด   แฟนเก่าเธอ?

    เช้าวันรุ่งขึ้นของวันที่สี่...ฉันขยี้ตาไปมาเพื่อไล่ความง่วงงุนออกไปจากร่างกาย ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นยืนและเดินไปยังกระจกบานใหญ่ริมห้อง ฉันมองเงาสะท้อนของตนเองในกระจกใบหน้าที่ยังคงมีคราบง่วงอยู่จางๆ ดวงตาที่ปรืออยู่เล็กน้อย แล้วคำพูดของเคียร์ยังคงอยู่ในหัวฉัน"รักฉัน ให้ตายเถอะ อยากจะดีใจแต่ก็ดีใจไม่สุด อยากจะบ้าจริงๆ"ฉันก้าวออกจากประตูคอนโดฉันสวมเสื้อโค้ตสีดำส่วนข้างในใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวกระโปรงสีดำ รองเท้าส้นสูงสีครีม ผมยาวสลวยปล่อยตรงและใส่สร้อยคอที่เคียร์ให้มาฉันอมยิ้มสายตาฉันสะดุดกับร่างสูงโปร่งของชายคนหนึ่งผมสีทอง ดวงตาสีม่วง สวมสูทสีเทาเข้มดูภูมิฐานมือของเขาถือช่อดอกไม้สีแดงสดขนาดใหญ่"เรเวน? "ฉันอุทานออกมาและนิ่งอึ้งไปหลายวินาทีเรเวน ยิ้มกว้างเมื่อเห็นฉัน "มินาโกะไม่ได้เจอกันนานเลยนะ"ฉันรีบเดินเข้าไปหาเขา ในมือของเขายื่นดอกไม้มาให้ฉัน มือจึงรับช่อดอกไม้จากมือเขาด้วยรอยยิ้มบ้างๆ"ซื้อดอกไม้มาทำไมเนี่ย เปลืองเงิน""ไม่เปลืองเงินเลย ผมแค่อยากจะมาเซอร์ไพรส์คุณ และจำได้ว่าคุณชอบดอกกุหลาบสีแดง"ฉันยิ้มเต็มใบหน้า "มีอะไรหรือเปล่าถึงมาหากันถึงที่นี่เลย"เรเวน ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขามองต

  • สงครามรักในเงามืด   ของขวัญสำหรับเธอ

    สำนักงานใหญ่เอฟบีไอ....ผมกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของผมสายตาจดจ่ออยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งกำลังแสดงภาพถ่ายของมินาโกะและเคียร์ที่กำลังเดินออกจากสำนักงานด้วยกันวันนี้ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ผมจะทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ทุกครั้งที่เธอทำเกินหน้าเกินตา ผมกลับต้องเป็นคนแบกรับผลกระทบทั้งหมดจากพวกที่ชอบโอ้อวดไม่ยุติธรรมเลยสักนิด ความโกรธเริ่มสะสมในใจของผมเหมือนน้ำในแก้วที่ใกล้จะล้นออกมาผมขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ ไม่คิดว่าน้องสาวของผมจะกล้าคบหากับประธานเคียร์ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วส่งภาพถ่ายนั้นไปให้แม่ดู พร้อมกับข้อความว่า"แม่ครับมินาโกะกำลังคบกับประธานเคียร์อยู่ครับ"ไม่นานนัก แม่ก็โทรกลับมา"เรียวจินี่มันเรื่องจริงเหรอ?"เสียงของแม่พูดขึ้นจากปลายสายด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก"ครับแม่ ภาพนักข่าวก็เอาไปลงโซเซียลตอนนี้คงจะเป็นข่าวใหญ่แล้วล่ะครับ""ไม่ได้น่ะ มินาโกะจะไปคบกับประธานไม่ได้ทำไมไม่รู้จักเจียมตัวต้องคบคนฐานะที่ต่ำกว่าตัวเองสิ""แต่ทั้งสองก็เหมาะสมกันนะครับแม่""ไม่! นางจะต้องไม่ได้ดีไปกว่าลูกเข้าใจนะ แม่จะรีบกลับไป"ผมวางสายจากแม่แล้วนั่งพิงเก้าอี้ ยิ้มแบะปากผมรู้ว่าแม่ไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้

  • สงครามรักในเงามืด   รักเขาไปแล้ว

    ฉันรีบดึงมือเคียร์ให้เดินตามฉันเข้าไปในห้องทำงานทันทีพอหลุดจากสายตาของเพื่อนๆ ฉันปิดประตูห้องแล้วเดินไปหยิบรีโมทปิดหน้าต่างให้เป็นสีดำสนิทจากนั้นหันกลับมาหาเขาด้วยสีหน้าหงุดหงิดเล็กน้อย"ทำไมลุงถึงพูดออกไปอย่างนั้น เราไม่ได้เป็นแฟนกันทั้งที่มันไม่ใช่"ผมที่ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงต้องโมโหขนาดนี้ด้วย"ทำไมล่ะ เธอคือแฟนฉันนะ ยัยบื้อ เธอกับฉันก็ได้กันตั้งสองครั้ง จะให้เป็นคนแปลกหน้าหรือไง"กลายเป็นว่าเขาพูดออกมาทำให้ฉันถึงกับพูดไม่ออก มือกำแน่นจิกเข้าเนื้อตัวเอง ฉันรู้สึก ลำบากใจกับคำถาม เม้มปากเข้าหากันแน่น เขาก้าวเข้ามาใกล้ฉันเพียงก้าวเดียว ฉันที่ถอยจนติดโต๊ะทำงาน สายตาของเขาจ้องมาที่ฉัน เลยเบี่ยงเบนสายตาไปทางอื่น"ฉันรู้ว่ามันอาจจะทำให้เธอตั้งตัวไม่ทัน แต่ฉันไม่อาจจะปฏิเสธความรู้สึกของตัวเองได้อีกต่อไปแล้ว"เขายิ้มบางๆ ฉันที่อ้าปากแล้วก็หุบลงไปอีกครั้งเขายกมือขึ้นเชยคางฉันขึ้นมาบังคับให้ฉันมองหน้าเขา"มองตาฉันสิ แล้วบอกฉันว่าเธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับฉัน"เป็นสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกในขณะที่เคียร์กำลังจมอยู่ในห้วงอารมณ์ประตูห้องทำงานก็เปิดออกอย่างกะทันหัน อิซามูก้าวเข้ามาพร้อมกับแฟ้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status