"จงสำนึกผิดต่อบาปของเจ้า แม้ต้องแลกด้วยร่างกายและวิญญาณ ก็จงน้อมรับการชำระแค้นจากข้าเสีย" บาบารัส พญางูยักษ์สลักคำสาปด้วยนำเสียงกึกก้องกัมปนาทหมายให้กรีนชดใช้ในสิ่งที่ก่อ
View Moreเสียงกลุ่มนักศึกษาปีสี่คณะโบราณคดีของมหาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง ที่กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานเพื่อเตรียมตัวจะไปทัศนศึกษา เข้าแคมป์ในพื้นที่ป่าอุทยานในครั้งนี้ และในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าล้อรถก็กำลังจะหมุนเพื่อเดินทางไปยังที่หมาย นักศึกษาต่างพากันตื่นเต้นและเข้าแถวเพื่อเช็กจำนวนคนในการเตรียมตัวขึ้นรถทัวร์นำเที่ยวที่คณะจัดจ้าง หญิงสาวผิวขาว นัยน์ตาสีน้ำตาลทองบ่งบอกถึงความเป็นลูกครึ่งต่างสัญชาติได้ชัดเจน กรีนเด็กสาวผู้เป็นที่รักของเพื่อน ๆ กำลังเดินไปยังกลุ่มเพื่อนที่ยืนรออยู่ เธอนั้นรักเพื่อน ๆ กลุ่มนี้มากและพวกเขาก็เป็นเหมือนครอบครัวของเธอจริง ๆ
“รอฉันด้วยสิ” กรีนเดินไปยังกลุ่มเพื่อนที่กำลังพูดคุยกันอย่างออกรสและหันมาที่เธอด้วยรอยยิ้มก่อนจะพากันเดินขึ้นรถเมื่อทำการลงชื่อเข้ากิจกรรมกันเรียบร้อยแล้ว
บนรถทัวร์นักศึกษาต่างพากันจับจองที่นั่งของตัวเองก่อนคนขับจะเริ่มเปิดเพลงเพื่อสร้างความบันเทิงและครึกครื้น บางคนก็ลุกขึ้นเต้นบางคนก็นั่งแต่สวย บางคนก็นั่งมองเพื่อนที่กำลังออกท่าทางอย่างมีความสุข ภายในรถที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและเสียงหัวเราะของทุกคน และมุ่งหน้าไปยังแคมป์ที่ถูกจัดขึ้นในครั้งนี้
“วันนี้ฉันเอาขนมมาเผื่อทุกคนด้วย” วินหนุ่มน้อยน่ารัก เพียงคนเดียวของกลุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมกับชูถุงขนมในมือพร้อมกับยื่นให้เพื่อน ๆ ในกลุ่ม
ขนมมากมายถูกยกขึ้นเมื่อมีหญิงสาวอีกคนที่กำลังจะแย่งไปจากมือ ทุกคนต่างพากันแย่งขนมกันไปมาพร้อมกับหัวเราะและเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุข
“เราขอขนมด้วยสิ” ทิชาเพื่อนสาวอีกคนที่นั่งอยู่เบาะหลังเอี้ยวตัวมาเพื่อขอขนมด้วยเช่นกันจากนั้นก็เลยเกิดการแย่งขนมกันอย่างสนุกสนานอีกครั้ง
รถทัวร์แล่นมาจนถึงสถานที่ที่เป็นจุดหมายของวันนี้ กรีนมองไปยังเส้นทางตรงหน้าในส่วนของทางเข้า บริเวณแคมป์ดูสะอาดตาไม่ได้น่ากลัวและยังดูใหม่มาก ซึ่งต่างจากที่รุ่นพี่เคยเล่าต่อกันมาว่าแคมป์แห่งนี้ทั้งน่ากลัวและไม่น่าอยู่ มันเต็มไปด้วยป่าไม้ต้นไม้ที่รกทึบไปทั่วบริเวณ
ความโล่งใจเกิดขึ้นกับกรีนเมื่อได้เห็นสถานที่แห่งนี้ มันไม่ได้รกทึบและน่ากลัวอย่างที่คิด แต่ถ้าหากเป็นช่วงกลางคืนมันก็ไม่แน่…เพราะที่นี่มันคือบริเวณของอุทยานที่มีแต่ต้นไม้ขนาดใหญ่ปกคลุมไปทั่วบริเวณอย่างน้อยมันก็ไม่ได้ทำให้เสียชื่อพ่อของเธอ ที่คอยส่งเงินสนับสนุนที่นี่มาหลายปี และเธอไม่ชอบความมืดมิดและความหนาวเย็นในยามค่ำคืน เธอกลัวมันเสียยิ่งกว่าอะไร
“นักศึกษาทุกคน มารับกุญแจเพื่อเข้าบ้านพักกันก่อน ตามกลุ่มที่กำหนดไว้ แล้วเข้าที่พักเพื่อเก็บสัมภาระให้เรียบร้อย และให้ออกมาที่ลานกว้างรวมตัวกันอีกครั้งภายในหนึ่งชั่วโมง” อาจารย์ประจำคณะเอ่ยขึ้นหลังจากที่ทุกคนมารวมตัวกันที่ลานกว้างของแคมป์ เมื่อสิ้นเสียงอาจารย์ประจำคณะก็ตามมาด้วยเสียงบ่นของบรรดานักศึกษาที่อยากจะเข้าที่พักแล้วนอนพักให้หายเหนื่อย
“ขออีกสักสองชั่วโมงไม่ได้เหรอคะอาจารย์” นักศึกษาสาวคนหนึ่งพูดขึ้นหลังจากที่อาจารย์ให้เวลาเพียงน้อยนิด
“ไม่ได้ค่ะ เรามีกิจกรรมที่ต้องทำกันต่อ” อาจารย์ประจำคณะเอ่ยก่อนจะยื่นกุญแจให้กับหัวหน้ากลุ่มที่จัดเตรียมไว้
กรีนและเพื่อน ๆ ได้อยู่กลุ่มเดียวกันอย่างที่ตั้งใจไว้ โดยจะนอนกันคนละฝั่งแยกชายหญิง สัมภาระมากมายถูกนำเข้ามาไว้ภายในบ้านพักขนาดกลาง มหาลัยเอกชนชั้นนำคงไม่ได้อยากทำเสียชื่อเรื่องสวัสดิการนักศึกษาเพราะนักศึกษาที่นั่น จ่ายค่าเทอมที่แสนจะแพง และไหนจะค่าสวัสดิการเข้าแคมป์อีกไม่น้อยถ้าไม่ได้สปอนเซอร์จากเหล่าลูกท่านหลานเธอมหาลัยฯ ก็คงไม่ได้มาถึงทุกวันนี้
“กรีน แกเก็บของเสร็จหรือยัง” ไลอันนาเพื่อนสาวอีกคนเอ่ยถามขึ้นเมื่อเธอจัดสัมภาระของเธอเรียบร้อยเสร็จแล้ว และแวะมาถามหญิงสาวที่ห้อง
“ใกล้เสร็จแล้ว เดี๋ยวขอเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน แล้วฉันจะตามออกไป” กระเป๋าที่กำลังจะถูกปิดกลับต้องชะงักเมื่อกรีนรู้สึกถึงอาการปวดหัว แปลก ๆ ก่อนจะสะบัดหัวเล็กน้อย และจัดการเก็บสัมภาระต่อจนเสร็จและเปลี่ยนเสื้อผ้าตามเพื่อน ๆ ออกไป
กลุ่มเพื่อนของเธอนั้นมีทั้งหมดสี่คนรวมถึงกรีนด้วย ไลอันนา ทิชา วินเทอร์ ทั้งสี่คนรู้จักกันในตอนเข้ามหาวิทยาลัยตอนปีหนึ่งซึ่งมาสายและโดนถูกเรียกตัวให้ไปซ่อมหรือทำโทษในข้อหาที่มาสาย นั่นคือไปนั่งถอนหญ้าหลังตึกเรียนเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ทำให้ทุกคนนั้นสนิทกันและเป็นเพื่อนกันมาจนถึงทุกวันนี้
เสียงฝีเท้าของคนมากมายกำลังมุ่งหน้าไปยังลานกว้างเพื่อทำกิจกรรม และเสียงประกาศตามสายที่เรียกรวมเหล่านักศึกษาให้มารวมตัวก็ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง กรีนและเพื่อน ๆ เดินมายังที่หมายเพื่อรวมแถวรอทำกิจกรรม กิจกรรมในวันนี้จากที่ได้ยินมาคร่าว ๆ นั่นคือ กิจกรรมล่าสมบัติ
“นักศึกษาที่มารวมตัวกันเรียบร้อยแล้ว ขอให้หัวหน้ากลุ่มเดินมารับซองเพื่อทำภารกิจและหลังจากนั้นอาจารย์จะทำการแจ้งเรื่องภารกิจในวันนี้ให้ทราบ”
เมื่อทุกคนได้รับเอกสารแล้วต่างพากันเปิดมันออกแล้วก็ต้องร้องออกมาด้วยความตกใจ เพราะในเอกสารนั้นมีรายละเอียดของสีต่าง ๆ ที่อยู่ในเอกสารและอธิบายว่ามันคืออะไร และตามมาด้วยเสียงของอาจารย์ประจำคณะ
“นักศึกษาทุกคนคงได้เห็นรายละเอียดแล้ว กิจกรรมวันนี้คือกิจกรรมล่าสมบัติ ที่จะให้นักศึกษากลุ่มต่าง ๆ ออกตามหาธงแต่ละสี ใครที่ได้ธงครบก่อนจะได้คะแนนตามที่กำหนดไว้ หากใครได้ธงสีแดงก่อน ถือว่าเป็นผู้ชนะ และธงสีแดงจะมีเพียงผืนเดียวเท่านั้น”
“อาจารย์คะ แล้วถ้าเกิดว่าเดินไปแล้วเจอธงสีแดงเลย เพื่อนกลุ่มอื่นมีโอกาสแย่งธงของเราไหมคะ” นักศึกษาสาวคนหนึ่ง เอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ด้วยว่าธงสีแดงนั้นมีผืนเดียว กลุ่มอื่นสามารถแย่งไปได้ค่ะ จงรักษามันไว้ให้ดี”
เสียงฮือฮาเกิดขึ้นด้วยความตื่นเต้นหลังจากจบเสียงของอาจารย์ นักศึกษาทุกคนต่างพากันอ่านคำอธิบายและดูแผนที่ ที่ได้จัดทำขึ้นในการนำทาง เพราะที่นี่มันเป็นเขตอุทยาน บางพื้นที่จึงไม่สามารถเข้าไปได้
“อีกอย่างที่จะแจ้งให้ทราบนั่นคือ รางวัลของกิจกรรมนี้ ใครที่เจอธงสีแดงก่อนและรักษาไม่ให้ธงถูกแย่งไปได้จะได้รางวัลเป็นกำไลแห่งโชคชะตาที่เป็นเครื่องรางนำโชค ขอให้นักศึกษาโชคดี เริ่มกิจกรรมได้ค่ะ”
ในเวลานี้เป็นเวลาช่วงสายของวันทำให้อากาศนั้นร้อนจัด นักศึกษาบางคนถึงกับต้องกางร่มใส่เสื้อเพื่อป้องกันแสงแดดไม่ให้ผิวเสีย แต่กับกลุ่มเพื่อนของกรีนและทุกคนต่างพากันลุยอย่างเต็มที่ โดยที่ใส่เพียงเสื้อวอร์มสีดำที่เป็นลักษณะของเสื้อฮู้ด และมุ่งหวังต้องชนะกิจกรรมนี้ให้ได้
ท่ามกลางทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ ใบหญ้าเขียวขจีไหวเอนตามลมที่พัดผ่าน เสียงนกร้องเพลงอยู่ไกล ๆ และแสงแดดที่ส่องกระทบพื้นดินให้เกิดประกายอ่อน ๆ บรรยากาศรอบข้างเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความสุขในวันหยุดที่สมบูรณ์แบบ บาบารัสและกรีนพาลูก ๆ ออกมาเที่ยวในธรรมชาติที่งดงาม และวันนี้ก็เป็นวันที่ทั้งครอบครัวได้มาพักผ่อนในทุ่งหญ้ากว้างที่มีต้นไม้ใหญ่และดอกไม้หลากสีบาบารัสยิ้มอย่างมีความสุขขณะเล่นกับลูก ๆ ของเขา ลูกสาวคนโต บริสตัน วัย 4 ขวบ กำลังวิ่งไล่จับลูกบอลที่เขากลิ้งไปมาในสนาม เธอมีท่าทางฉลาดแฉลบและคล่องแคล่ว ทำให้บาบารัสรู้สึกภูมิใจในตัวลูกสาวมาก ส่วนกราเซีย ลูกสาวแฝดของเธอที่มีอายุเท่ากันกำลังวิ่งตามพี่สาวไป และในขณะเดียวกันลูกชายคนเล็ก บรากัส ที่มีอายุแค่ 3 ขวบก็วิ่งไป ๆ มา ๆ ไม่หยุด เขามักจะล้มตัวลงไปบ่อย ๆ แต่ก็ไม่เคยทำให้เขาหยุดยิ้ม“เร็ว ๆ หน่อย ! บรากัส !” บาบารัสตะโกนด้วยเสียงแหบ ๆ ขณะที่เขาวิ่งตามลูกชายที่ขำ ๆ กระโดดไปชนต้นไม้ จนเสียงดัง “โครม !” บรากัสล้มลงไปกองกับพื้น“โอ๊ะ ! บรากัส !” กรีนที่นั่งอยู่ห่าง ๆ ก็รีบลุกขึ้นมามอง แต่เมื่อเห็นลูกชายหัวเราะอย่างมีความสุขและไม่เป็
ในเมือง Sunthawarm ที่เต็มไปด้วยความสวยงามและความอบอุ่น แสงแดดที่ทอแสงอ่อน ๆ ปล่อยแสงทองสว่างไสวลงมาบนพื้นดินอันเขียวขจี ใบไม้ไหวเอนในลมอ่อน ๆ ที่พัดผ่านมา ทุกสิ่งดูเหมือนจะเปล่งประกายขึ้นด้วยความสุขและความมหัศจรรย์ การแต่งงานระหว่างบาบารัส มีเสน่ห์และความกล้าหาญกับกรีนผู้มีความใจดีและแข็งแกร่ง ทั้งสองเป็นคู่รักที่สมบูรณ์แบบ และวันนี้พวกเขาจะได้ประกาศความรักและผูกพันไปตลอดกาลในพิธีแต่งงานที่แสนพิเศษครั้งนี้เมือง Sunthawarm เป็นสถานที่ที่ได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นเมืองที่มีพลังมหัศจรรย์อันล้ำค่า โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า แสงแดดที่สัมผัสกับท้องฟ้าจะเปล่งประกายราวกับมีการเวทมนตร์แฝงอยู่ในนั้น พิธีการทั้งหมดจัดขึ้นในลานกว้างกลางเมือง ภายใต้ต้นไม้ใหญ่ที่มีกิ่งก้านสาขากว้างขวาง ดอกไม้สีทองอร่ามกระจายทั่วทุกมุม ลมอ่อน ๆ พัดผ่านลอยกลิ่นหอมจากดอกไม้หลากหลายชนิด ขนาบข้างไปกับเสียงร้องของนกที่บินอยู่เหนือท้องฟ้าและเสียงของแม่น้ำใสสะอาดที่ไหลผ่านตามธรรมชาติทุก ๆ คนที่มาร่วมงานในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้คนจากหมู่บ้านใกล้เคียง สัตว์ต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ในป่า แพะมังกรปีกสีน้ำเงิน หรือม
ในหลายวันถัดมา ภายในห้องนอนของบาบารัสที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอันเงียบสงบและอบอุ่น ทั้งสองคนกลับมาอยู่ร่วมกันอีกครั้งหลังจากเวลานานที่ห่างหายไป ความรู้สึกหลากหลายที่เคยปะปนกันในใจของบาบารัส ตอนนี้ได้ถูกละลายไปแล้วด้วยอ้อมกอดและสายตาของกรีนที่เต็มไปด้วยความรักและความห่วงใย ที่แม้กระทั่งบาบารัสยังไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าความอบอุ่นแบบนี้จะเข้ามาทำให้เขารู้สึกอ่อนลงจนแทบจะไม่สามารถต้านทานได้เขาค่อย ๆ ทอดตัวลงบนเตียงที่ถูกจัดวางอย่างสวยงามด้วยผ้าห่มหนานุ่ม มีแสงจันทร์ที่ทอดส่งลงมาอ่อน ๆ ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาทำให้ห้องนอนดูสงบและน่าหลงใหลยิ่งขึ้น ทุกครั้งที่บาบารัสหันไปมองกรีน ความรู้สึกที่ตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความรักจะกลับมาโหมกระหน่ำในหัวใจของเขา กรีนยังคงความงามที่ทำให้หัวใจของเขากระตุกทุกครั้งที่เห็น เธอมีดวงตาที่เปล่งประกายเหมือนดวงดาวในยามค่ำคืน ผมยาวสีดำที่สยายไปบนหมอนกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของเธอปลุกความรู้สึกอบอุ่นในตัวเขาให้ลุกโชนขึ้นอีกครั้งหลายครั้งที่บาบารัสนั่งอยู่ข้าง ๆ กรีน ขณะที่เธอกำลังอ่านหนังสือหรือนั่งทำอะไรบางอย่าง บาบารัสมักจะมองเธอด้วยความเงียบงัน การมองเธอในทุก ๆ การเคลื่อนไหวท
บรรยากาศในห้องสมุดใหญ่ของปราสาทหลากหลายสีสันยังคงเงียบสงัดเหมือนเคย สองมือของบาบารัสจับแน่นกับตำรามหาวิทยาลัยเก่าแก่เล่มหนึ่งที่อยู่ตรงหน้า เขาไม่ยอมละสายตาจากหน้าเรียบ ๆ ของมัน แม้จะเป็นตำราที่เต็มไปด้วยตัวอักษรที่ทับซ้อนจนยากจะเข้าใจ ความมุ่งมั่นและความหลงใหลในเป้าหมายของเขายังคงท่วมท้น มันไม่ใช่แค่การค้นหาความรู้ทางเวทมนตร์ แต่เป็นการค้นหาทางสู่คนที่เขารัก และเขาคิดว่าไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม เขาก็จะทำเพื่อเธอให้ได้ตั้งแต่วันนั้นที่เขาได้รู้ว่าเธอได้จากไปที่โลกมนุษย์ เขาแทบจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ เขาหมกมุ่นกับการฝึกฝนเวทมนตร์ที่เขาเชื่อว่าจะพาเขากลับไปหากรีนได้ ไม่ว่าโลกนี้จะให้ราคาต่ำกับความพยายามของเขามากแค่ไหน เขาก็จะไม่ยอมแพ้ เพราะเขาเชื่อมั่นว่ามีบางอย่างในเวทมนตร์ที่จะทำให้เขาได้กลับไปหาคนที่เขารักหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาแทบจะไม่ได้พักผ่อนเลย แม้กระทั่งในยามค่ำคืนที่ปราสาทเงียบสงัด เขาก็ยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ยกแก้วสุราเข้าปากเพื่อทำให้ความมึนเมาสามารถกลบเสียงในหัวที่กระซิบถึงชื่อของเธอได้บ้าง แต่ก็ทำไม่ได้ ความคิดถึงของกรีนยังคงกัดกร่อนในจิตใจของเขาอยู่เสมอ
“ก็ตามที่ข้าคุยกับเจ้าไว้ว่าเจ้าต้องกลับบ้านแบบที่ไม่ได้กลับจริง ๆ ข้าจะพาเจ้าไปอยู่ที่หนึ่งก่อน เหมือนเจ้าได้หายตัวไปจากพวกเราจริง ๆ” รอยยิ้มได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าสวยเมื่อได้เวลาเล่นสนุกกับบางสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น“จะพาฉันไปไหน” กรีนมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความกลัวเพราะถึงเธอจะดูน่ารักแต่ก็เจ้าแผนการณ์ไม่ใช่น้อย“เชื่อใจข้าเถอะแค่ไปอยู่ที่นั่นเดี๋ยวเดียวก็กลับ” มิสไวท์ลุกขึ้นพร้อมกับจูงมือหญิงสาวเดินออกจากห้องหมากรุกและสั่งเหล่าทหารให้พากันเตรียมตัวออกเดินทางส่งนางเอกกลับโลกมนุษย์โดยที่ยังไม่บอกบาบารัสทุกอย่างเตรียมการณ์อย่างรวดเร็วและทุกอย่างถูกปกปิดไว้ไม่ให้ผู้ปกครองเมืองอย่างบาบารัสให้ได้รู้เพราะตอนนี้มิสไวท์ได้ให้ทหารคอยจับตาดูบาบารัสไว้ เมื่อถึงเวลาที่ได้กำหนดกันไว้ค่อยปล่อยข่าวไปถึงหูสหายของตน“เจ้าพร้อมแล้วใช่ไหม ถ้าพร้อมแล้วก็ขึ้นรถม้าคันนั้นไปได้เลย” มิสไวท์เอ่ยพร้อมพาตัวหญิงสาวมายังรถม้าที่จะออกเดินทาง และมันไม่ได้ไปไกลจากที่นี่มากนักคิดเสียว่าให้หญิงสาวได้ออกมาพักผ่อนจิตใจ“อื้ม...ข้าฝากด้วยนะ” กรีนเดินขึ้นรถม้าที่ไม่เป็นที่สะดุดตาพร้อมเดินทางออกจากคฤหาสน์ไปทางด้านหลังโดยมีทห
กรีนตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงีย ร่างเปลือยเปล่าขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะสัมผัสได้ถึงแขนแกร่งที่ยังคงโอบรัดเธอไว้ เหตุการณ์ก่อนหน้านี้เธอไม่น่าให้มันเกิดขึ้นเสียด้วยซ้ำ หากใจอ่อนแผนที่ได้วางไว้คงได้พังลงแน่ ๆ ความเหนียวหนึบตามตัวทำให้เธอนั้นขยับตัวได้อย่างยากลำบาก ก่อนจะคว้าผ้ามาคลุมตัวไว้เพื่อไปชำระร่างกาย เสียงน้ำที่ตกกระทบทำให้อสรพิษหนุ่มตื่นขึ้น ใบหน้าคมหันมองคนข้างกายแต่กลับไม่พบกายหนาย่างกายไปตามเสียงของน้ำด้วยสภาพเปลือยเปล่า เขามองเห็นกรีนที่กำลังอาบน้ำอยู่ หากแบบนี้อาจจะเรียกว่าถ้ำมองหรือไม่ก็ไม่แน่ใจ แต่เขาไม่ใช่ใครที่ไหนเขาคือคนรักของเธอคงไม่เป็นอะไร“เจ้า…” บาบารัสเอ่ยด้วยเสียงนุ่มนวล“นาย !!” กรีนร้องออกมาด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบคว้าผ้ามาห่อตัวเอาไว้“เจ้าจะอายอะไรข้าอีก เห็นกันมานักต่อนักแล้ว” เสียงราบเรียบเอ่ยขึ้นพร้อมยื่นแขนแกร่งไปสัมผัสที่หญิงสาวเสียงของชายหนุ่มดูหยอกล้อเมื่อเห็นหญิงสาวทำท่าทางกลัวเขาเห็นของรัก ในเมื่อเห็นมากันทุกซอกทุกมุมแล้วจะไปกลัวอะไร แปลกคนยิ่งนัก “ออกไป...” กรีนเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบเช่นกัน พร้อมกับเห็นสีหน้าที่ทำเขานิ่งอึ้งไป“ไม่...ข้าไม่ไป” อสรพิษหนุ
ร่างกำยำกอดรัดเอวบางแนบชิดตัว สายตาดุดันที่ยากจะกักเก็บความรู้สึกเอาไว้ สิ่งที่เขาได้ยินสิ่งที่เขาได้เห็นว่าพวกบ้านั่นมันพูดถึงคนที่ตนรักว่าอย่างไร เพียงนึกถึงตอนที่อยู่ในบาร์นั่นเขาก็แบบอยากจะลุกอัดหน้าพวกนั้นให้แหลกคามือ เขามองจ้องไปยังร่างบางอยู่ภายใต้การควบคุมของตนในตอนนี้ เธอมองเขาด้วยสายตาสั่นระริก “ข้าไม่ชอบ...”เสียงหายใจหอบที่ปนไปด้วยความรู้สึกที่อัดอั้น เขาพยายามอดกลั้นอารมณ์ของตัวเองแต่ดูเหมือนว่าในตอนนี้มันไม่สามารถควบคุมได้อีกแล้ว สายตาไล่มองไปตามเรือนร่างอรชร เสื้อผ้าที่สวมใส่มันดูบางเบาถึงแม้ด้านในจะเป็นผ้าหนาทึบแสงก็ตาม สันจมูกคมดอมดไปตามกรอบหน้าสวยไล่คลอเคลียคอระหงอย่างช้า ๆ จนได้ยินเสียงหัวใจของหญิงสาวที่กำลังเต้นโครมครามเหมือนกลองรัว “อ๊ะ…บาบารัสอย่านะ” กรีนร้องออกมาพร้อมกับหดคอหนีด้วยความรวดเร็ว“อย่าขัดใจข้า” บาบารัสเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “เอาแต่ใจที่สุด…คนใจร้าย” กรีนเอ่ยด้วยน้ำเสียงน้อยใจพร้อมกับดันอกแกร่งที่ยังคงอยู่เหนือร่างของเธอ“ใจร้ายเหรอ เจ้านั่นแหละที่ใจร้ายกับข้า” “ฉันเนี่ยนะ...”กรีนเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจ บาบารัสยังคงไม่รู้ความผิดของตัวเอง ทั้
หญิงสาวร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อเธอได้ยินเสียงใครบางคนเข้ามาในห้องของเธอ ร่างบางจึงหันกลับไปมองแต่ไม่คิดว่าคนที่เข้ามานั้นจะเป็นบาบารัสที่เข้ามาประชิดตัวเธออย่างรวดเร็วจนเธอนั้นตั้งตัวไม่ทัน จนเกือบเซล้มลงไป“ตกใจอะไรขนาดนั้น” อสรพิษหนุ่มมองเข้าไปในดวงตาจองเธอที่ดูสั่นไหวกลิ่นเครื่องหอมที่คละคลุ้งไปทั่วทั้งตัวหญิงสาว ทำให้บาบารัสถึงกับขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิดอีกครั้ง แขนแกร่งคว้าตัวเธอเข้ามาแนบชิดกายหนาของตนเอง พร้อมกับสูดดมความหอมจากตัวเธอ ยิ่งดมแล้วยิ่งหงุดหงิด ริมฝีปากหนาซุกไซ้ไปตามคอระหงก่อนจะขบกัดจนเป็นรอยแดงเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ ก่อนจะสัมผัสได้ถึงร่างเล็กที่กำลังสั่นเทาด้วยความกลัว“เจ้าเป็นอะไร” บาบารัสเอ่ยเมื่อถอนริมฝีปากของตนเองออกจากคอของเธอ“นายทำอะไร...ทำแบบนี้ทำไม” กรีนฉวยโอกาสถดตัวหนีเพื่อรักษาระยะห่างจากชายหนุ่ม“ชุดนี่มันอะไร แล้วกลิ่นเครื่องหอมนี่อีก จะออกไปไหนกัน” ชายหนุ่มถามเสียงเข้มและไม่ได้ตอบคำถามของเธอ ตอนนี้เขารู้สึกหงุดหงิดใจเป็นอย่างมาก ไม่อยากให้เธอออกไปไหนในเวลาแบบนี้ แถมชุดที่เธอใส่นั้นมันดูเย้ายวนสายตาชายอื่นเป็นอย่างมาก หากเป็นเขาเองก็แทบไม่อยากละส
เมื่อกรีนทำตามแผนของมิสไวท์ใจของเธอก็ได้แต่ภาวนาให้เขานั้นสนใจเธอบ้าง แต่เขากลับเดินหนีออกไปโดยไม่พูดอะไร จากสีหน้าของเขาเหมือนจะโกรธและไม่พอใจเป็นอย่างมาก มือของเขาที่กำแน่นเธออยากจะเข้าไปจับมือของเขาเพื่อปลอบโยน แต่ก็ได้แต่เก็บความรู้สึกนั้นไว้ก่อน “เจ้าได้บอกกับบาบารัสไปแล้วใช่หรือไม่” มิสไวท์เดินเข้ามาถามเมื่อเห็นชายหนุ่มเดินออกไป“ฉันบอกเขาไปแล้ว…เขาดู…” กรีนพูดด้วยเสียงแผ่วเบา“ตอนนี้เจ้าไม่ต้องคิดอะไรอีกแล้วหลังจากนี้ทำตามที่ข้าบอกก็พอ” หญิงสาวมองกรีนด้วยสายตามุ่งมั่นในสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้ การเดินทางกลับของกรีนจะเกิดขึ้นในอีกสามวันข้างหน้า และได้ถูกบอกต่อกันไปทั่วคฤหาสน์ บรรดาสาวใช้ต่างพากันเศร้าสร้อย เพราะไม่ได้อยากให้หญิงสาวนั้นกลับไป เพราะเธอทั้งใจดี และเป็นกันเองต่างจากคนที่อยู่ที่นี่ เมื่อเวลาผ่านไปอีกวัน นัยน์ตาสีสวยมองตนเองที่อยู่ในกระจก ใบหน้าที่ไม่ได้แต่งแต้มเติมสี ตอนนี้มันถูกตกแต่งอย่างสวยงามราวกับรูปวาด ริมฝีปากเรียวคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อยกับสิ่งที่ตัวเองได้เห็น ฝ่ามือสวยสัมผัสไปที่ใบหน้าของตนเองอย่างช้าเพื่อชื่นชมความแปลกตาในวันนี้ “เจ้าสวยมากเลยนะกรีน ทำไม
Comments