Share

บทที่ 1427

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
รุ่งขึ้น เสนาบดีมู่มาถึงสำนักหมอหลวง

บรรดาหมอหลวงทั้งหมด รวมทั้งเจ้าสำนักอยู่พร้อมหน้า เสนาบดีมู่ประทับนั่งลงก่อนมองพวกเขาด้วยแววตาหนักอึ้ง "ข้าถามพวกเจ้าเพียงคำเดียว โรคของฝ่าบาท พวกเจ้ามีความมั่นใจหรือไม่?"

เหล่าแพทย์เงียบไปพักใหญ่ ก่อนที่อู๋ย่วนเจิ้งจะเงยหน้าที่ตาแดงก่ำเพราะอดหลับอดนอนขึ้นมองเสนาบดีมู่แล้วส่ายหน้า "ไม่มีขอรับ"

"ไม่มีเลยหรือ?" เสนาบดีมู่ถามด้วยท่าทีเหมือนไม่ยอมแพ้ "แม้แต่ความหวังเล็กๆ หรือวิธีการสักนิด?"

ในความเงียบงันอีกครั้ง ดวงตาของเสนาบดีมู่ค่อยๆ หมองลงจนไร้แสง

เขาถอนหายใจยาว "หากระดมกำลังจากสำนักหมอหลวงทั้งหมด จะยืดเวลาออกไปได้ถึงสองปีหรือไม่?"

อู๋ย่วนเจิ้งมีสีหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด "ท่านเสนาบดี โรคปอดทรุดนี้กำเริบอย่างรุนแรง อย่าว่าแต่สองปีเลย เพียงหนึ่งปีก็...ยากมากพ่ะย่ะค่ะ"

ครั้งนี้ถึงคราวเสนาบดีมู่เงียบไปนาน ก่อนทิ้งท้ายไว้ประโยคหนึ่ง "ระวังคำพูดของพวกเจ้าด้วย"

เขาค่อยๆ เดินออกจากสำนักหมอหลวง พลางกระชับเสื้อคลุมให้แน่น ฤดูหนาวผ่านเข้ามาเร็วนัก อากาศยิ่งหนาวจนแทงกระดูก

ไทเฮาดูเหมือนจะไม่ยุ่งเกี่ยว แต่แสงไฟในสำนักหมอหลวงสว่างตล
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1658

    ยี่ฝางไม่กล้ารับคำของซ่งซีซี ได้แต่กลืนความไม่พอใจลงคอ แล้วหันไปพูดกับจ้านเป่ยว่างว่า “พี่จ้าน ข้าไปกับท่านก็แล้วกัน”จ้านเป่ยว่างเหลือบตามองซ่งซีซีแวบหนึ่ง สีหน้าเรียบเฉย แล้วกล่าวว่า “เราฟังคำสั่งก็พอ จะได้ผลงานหรือไม่ก็ไม่สำคัญ สำคัญคือต้องทำภารกิจให้สำเร็จ แล้วกลับไปให้รอด”เขาย่อมไม่เชื่อว่าซ่งซีซีจะเข้าไปในคลังเสบียงเพียงคนเดียว เพราะเมื่อไม้รอบคลังถูกจุดไฟเผา คลังเสบียงย่อมกลายเป็นสถานที่อันตรายที่สุด แล้วยังจะต้องจุดไฟข้างในอีก ท่ามกลางเปลวเพลิง นางจะหนีออกมาได้อย่างไร?ฉะนั้นเขาคาดว่า ขณะที่พวกเขากำลังจุดไฟอยู่ด้านนอก ก็ต้องมีคนที่แอบซ่อนตัวอยู่ในคลังเสบียงจุดไฟไว้แล้ว ซ่งซีซีเพียงแค่ทำทีเป็นคนลงมือเท่านั้นแรกเริ่ม จ้านเป่ยว่างรู้สึกไม่ยุติธรรมในใจนัก ยิ่งรู้สึกว่าระบบขุนนางเป็นสิ่งน่าเศร้า ตระกูลขุนนางใหญ่ผลัดกันส่งต่ออำนาจ รุ่นแล้วรุ่นเล่า ขอเพียงบรรพชนมีผลงาน ก็สามารถไต่เต้าขึ้นไปได้โดยง่าย หรือมีโอกาสสร้างชื่อเสียง สืบทอดเกียรติภูมิของตระกูลต่อไปแต่คิดอีกที บิดาของเขาเองก็ไม่มีความสามารถนัก หากไม่ใช่เพราะท่านปู่มีผลงานในสนามรบ บิดาก็คงไม่ได้เป็นขุนนางด้วยซ้ำ อย่าว่า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1657

    เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเฉิน ยี่ฝางก็โมโหเป็นอย่างยิ่ง แต่เพราะนางรู้ดีว่าฝีมือของตนเทียบไม่ติดกับคนอื่น หากโต้แย้งไปก็มีแต่ขายหน้าตัวเอง ไหนๆ ก็ไม่ต้องยืนยามอยู่แล้ว จะทนโดนดูแคลนบ้างก็ช่างมันเถิดกุ้นเอ่อร์กับหมั่นโถวเดิมทีคิดว่าจะผลัดเวรกันเพียงสองคนก็พอแล้ว แต่ซ่งซีซีเห็นว่าทุกคนต่างเหนื่อยล้า จึงให้ผลัดกันยืนยามทั้งห้าคน จะได้พักผ่อนกันมากขึ้นหน่อยซ่งซีซีเป็นคนแรกที่รับหน้าที่เวรยาม นางถือแส้พิงประตูนั่งหันหลังพิงไว้ ประตูผุพังบานนั้นไม่อาจล็อกได้ จึงได้เพียงปิดพอเป็นพิธี ข้างนอกมืดมิดสนิท เงียบสงัดไร้เสียงรบกวนเรือนผุหลังนี้ไม่ได้มีคนอยู่มานานแล้ว ฝุ่นจับเต็มพื้น แต่ทุกคนล้วนเตรียมใจมาแล้วว่าจะต้องลำบาก ดังนั้นแม้แต่เสิ่นว่านจือก็ไม่ปริปากบ่น นอนลงบนพื้นดินทันทีแม้ซ่งซีซีจะเหนื่อย แต่หาได้ง่วงไม่ สมองแจ่มชัดเป็นพิเศษ ทั้งตัวยังอยู่ในสภาพตื่นตัวสูงสุดนางรู้ว่า องค์รัชทายาทแห่งซีจิงอยู่ในเมืองลู่เปินเอ่อร์ เพียงแต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงส่วนไหนของเมืองนางต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้มีการเผชิญหน้ากับเขา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเป็นราวหรือไม่ก็ตาม เพราะความเป็นความตายของเขา ไม่ควรมีความเกี่ยวข้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1656

    เขาเดินอยู่ด้านหลังพร้อมกับยี่ฝาง แล้วกล่าวเสียงต่ำว่า “บางทีเจ้าว่าถูก แม่ทัพใหญ่เซียวอาจต้องการหนุนนางจริงๆ”“ว่าไงนะ?” ดวงตายี่ฝางพลันสว่างวาบ “เจ้าพบว่ามีคนคอยคุ้มกันลับๆ หรือ?”จ้านเป่ยว่างตอบเสียงเบา “คลังเสบียงตั้งอยู่ในเมืองลู่เปินเอ่อร์ ปกติเราควรพบหน่วยลาดตระเวนตามทางบ้าง แต่กลับไม่เจอเลยสักครั้ง และพวกเราก็เลือกเดินทางเลาะเขา ใช้เส้นทางเล็ก ผ่านหมู่บ้านหลายแห่ง พวกเขาจะรู้ทางได้อย่างไร? ข้าสังเกตอย่างละเอียด จึงพบว่ามีคนทิ้งสัญลักษณ์ไว้ แสดงว่ามีคนล่วงหน้าไปสำรวจเส้นทาง อาจตอนนี้พวกเขากำลังซ่อนตัวอยู่ใกล้คลังเสบียงแล้วก็ได้”เดิมทียี่ฝางก็คิดว่าแม่ทัพใหญ่เซียวไม่มีทางปล่อยให้หลานสาวเสี่ยงอันตรายตามลำพัง ต้องวางแผนไว้แน่นอน พอได้ยินจ้านเป่ยว่างพูดเช่นนี้ ก็ยิ่งยืนยันความคิดในใจ นางจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกดูแคลนอยู่บ้าง แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าโชคดีที่ตนตัดสินใจมาด้วย ไม่เช่นนั้นคงพลาดโอกาสสร้างผลงานโดยเปล่า“ยังดีที่เจ้าเฉลียวฉลาด ยืนกรานจะมาด้วย” ยี่ฝางเอ่ยชมด้วยความชื่นชมจ้านเป่ยว่างส่ายหน้าโดยไม่รู้ตัว อยากจะบอกว่าเขาเพิ่งมารู้ตอนนี้ แต่เมื่อเห็นแววตายี่ฝางที่เปี่ยมด้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1655

    ท้ายที่สุด กุ้นเอ่อร์ซึ่งมีสมญาว่าหมั่นโถวก็พาจ้านเป่ยว่างเดินนำหน้า ขณะที่เฉินเฉินและเสิ่นว่านจือนำทางยี่ฝาง คนทั้งเจ็ดอาศัยยามราตรีเร่งเดินทางอย่างรวดเร็วครั้นพบกับดงหนามทึบที่ผ่านไปไม่ได้ อีกทั้งไม่อยากสิ้นเปลืองพลังภายใน จึงใช้เคียวเปิดทางแทนตลอดเส้นทางราวกับแยกไม่ออกว่าฟ้าสางหรือพลบค่ำ ยี่ฝางกับจ้านเป่ยว่างไม่หลงเหลือท่าทีหยิ่งยโสใดๆ อีก เพียงแต่ปรารถนาให้ตนมีปีกเสียบ้าง จะได้ไม่ต้องให้ผู้อื่นลากจูงไปตลอดทางศักดิ์ศรีและหน้าตาล้วนสูญสิ้นอย่างสิ้นเชิงยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่พวกเขาคิดว่าเป็นไปไม่ได้ กลับกลายเป็นว่าพอฟ้าสาง พวกเขาก็มาถึงเชิงเขานอกเมืองลู่เปินเอ่อร์แล้วแถมไม่ได้ลงมาจากภูเขาฮึงซานโดยตรง หากแต่มาจากภูเขาที่ใช้เลี้ยงยางสนของเมืองลู่เปินเอ่อร์ หมายความว่าพวกเขาเดินทางมากกว่าหนึ่งลูกเขาทว่าซ่งซีซีก็หาได้เย้ยหยันไม่ เมื่อลงเขาแล้ว ยังให้พวกเขานั่งกินเสบียงริมทางอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใดชุดที่สวมใส่ได้เปลี่ยนเป็นแบบชาวเขาในเมืองลู่เปินเอ่อร์แล้ว แม้จะเป็นเช่นนั้น ยี่ฝางก็ยังรู้สึกว่าเช่นนี้มันโอหังเกินไป ราวกับไม่เห็นความตายอยู่ในสายตาแต่เพราะนางเหน็ดเหนื่อยถึงขีดส

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1654

    ห่างจากจวนแม่ทัพใหญ่ ซ่งซีซีเองก็ได้ยินเสียงโต้เถียงกันของคนสองคนเบื้องหน้าจากจวนแม่ทัพใหญ่ยี่ฝางโกรธมาก น้ำเสียงก็พลอยหงุดหงิดตามไปด้วย “ข้าไม่เข้าใจเลยว่าเจ้าจะอวดเก่งไปถึงไหน การไปครั้งนี้มีโอกาสชนะหรือ? เจ้าจะเชื่อซ่งซีซีจริงๆ หรือ? นางว่าอะไรก็เชื่อหมด ข้าว่าอะไรก็ไม่เคยเชื่อ เจ้านี่ช่างรั้นนัก! อย่าลืมนะว่าในอดีตบรรพบุรุษเจ้าก็เคยเป็นแม่ทัพใหญ่ หากพวกเขายังมีวิญญาณอยู่บนฟ้า ได้เห็นเจ้าคลานไปประจบผู้หญิงคนหนึ่งเช่นนี้ คงต้องหลับตาไม่ลงแน่”จ้านเป่ยว่างก็เริ่มไม่พอใจเช่นกัน “เหตุใดเจ้าจึงต้องพูดให้ฟังแล้วเจ็บใจทุกครั้ง? ไม่ใช่ว่าข้าเชื่อในตัวนาง แต่เพราะตอนนี้กำลังพลของเรากับฝ่ายซีจิงต่างกันเกินไป หลังเปิดศึกสองวัน เราก็รับมืออย่างยากลำบาก พี่น้องก็ล้มตายไปไม่น้อย พรุ่งนี้หากถอนทหารฝีมือดีไปบางส่วน สถานการณ์ยิ่งจะลำบากขึ้น วิธีลอบโจมตีของซ่งซีซีเป็นหนทางที่ดีที่สุดแล้ว…”“วิธีของนางดีอย่างนั้นหรือ?” ยี่ฝางโมโหจนขัดขึ้นมา “เจ้าเคยคิดบ้างไหมว่าหากไม่สำเร็จ อาจต้องตายที่เมืองลู่เปินเอ่อร์?”จ้านเป่ยว่างกดเสียงต่ำลง “แม้ข้าไม่ไป พรุ่งนี้ก็ต้องออกรบอยู่ดี หากสู้ต่อไป เราจะรอดชีวิตไ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1653

    ยี่ฝางมีท่าทีไม่อยากเชื่อ ภารกิจอันหนักหนาเช่นนี้ กลับส่งไปเพียงเจ็ดคนเท่านั้นหรือ?นางเพิ่งกล่าวข้างนอกว่าจะพาซ่งซีซีพวกเขาไปด้วย เพราะคิดจะอาศัยฐานะของซ่งซีซี ขอทหารจากท่านแม่ทัพเซียวเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อความปลอดภัยของตน และหวังจะได้สร้างความชอบในศึกแต่บัดนี้กลับกล่าวว่าจะส่งไปเพียงเจ็ดคน เรื่องสร้างผลงานขอวางไว้ก่อน ขอแค่รักษาชีวิตกลับมาก็ถือว่าโชคดีแล้วความเสี่ยงมากกว่าผลตอบแทน ยี่ฝางหาใช่คนโง่ ย่อมไม่เต็มใจอยู่แล้วแต่นางหาได้ปฏิเสธทันที เพียงลุกขึ้นมองไปยังซ่งซีซี ถามว่า “พวกเจ้าตั้งใจจะไปกันเพียงห้าคนแต่แรกหรือ? พวกเจ้ามั่นใจนักหรือว่าจะทำภารกิจได้โดยไม่มีผิดพลาดแม้แต่น้อย?”ซ่งซีซีสบตานางตอบกลับ “สรรพสิ่งย่อมไม่อาจไร้ซึ่งความผิดพลาด เพียงพยายามให้ถึงที่สุดก็พอแล้ว”ยี่ฝางขมวดคิ้ว “เช่นนั้นพวกเจ้ามั่นใจเพียงใด?”“ราวหกถึงเจ็ดส่วนเถิด แม้ไม่อาจสำเร็จภารกิจ ก็ยังสามารถถอนตัวได้โดยปลอดภัย”เดิมทีซ่งซีซีไม่คิดจะตอบคำถามนี้ ทว่าเมื่อมีท่านตาและบรรดาแม่ทัพอยู่ด้วย คำตอบที่ให้ยี่ฝางจึงเท่ากับตอบพวกเขาไปด้วยยี่ฝางกล่าว “คลังเสบียงย่อมมีทหารเฝ้าแน่นหนา พวกเจ้าไปกันเพียงห้าคน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status