Share

บทที่ 1635

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
หยิบหีบเครื่องหอมนั่นออกมา ฉีกผนึกเปิดกล่องออก กลับเห็นว่าด้านในมีเพียงเม็ดยาหอมขนาดเท่าเมล็ดถั่วลิสงหนึ่งเม็ด

“มีแค่เม็ดเดียวรึ?” เขานึกว่าในกล่องขนาดนั้นจะมีอยู่หลายเม็ด ที่ไหนได้กลับมีเพียงเม็ดเดียว

เขาก้มมองตัวอักษรที่เขียนอยู่ก้นกล่อง แม้จะเลือนรางแต่สายตาเขายังดี มองออกว่าเป็นสี่อักษรว่า “จวงโจวเมิ่งเตี๋ย”

จวงโจวฝันเป็นผีเสื้อ กลิ่นหอมฝันผีเสื้อ? ชื่อเช่นนี้ช่างลึกล้ำนัก

คิดแล้วคงทำให้ฝันดีได้จริงกระมัง

เขาเงยหน้ามองด้านบนของกล่อง ก็เห็นว่ามีตัวอักษรลายศิลป์แกะสลักอยู่หลายบรรทัด ตัวอักษรเล็กเท่ามด มองแทบไม่ออกว่าเขียนว่าอะไร เนี่ยเจิ้งอ๋องจึงมิได้ใส่ใจ ในเมื่อสองแคว้นเป่ยถังกับต้าซ่งมีสัมพันธ์อันดีมาโดยตลอด คงมิใช่ของที่จะให้โทษเป็นแน่

นอกจากอักษรไม่กี่บรรทัดนั้นแล้ว ยังมีวงกลมวงหนึ่ง พูดให้ถูกคือ เป็นวงกลมใหญ่ที่ประกอบจากวงกลมเล็กนับไม่ถ้วน

ในวงกลมใหญ่มีวงกลมเล็กซ้อนอยู่ทีละชั้น ทีละชั้น ไม่รู้ว่ามีกี่ชั้นกันแน่

ขณะจุดเครื่องหอม พระชายาเนี่ยเจิ้งอ๋องก็หลับไปแล้ว

เนี่ยเจิ้งอ๋องนอนอยู่ข้างกายนาง กลับมิได้กลิ่นหอมอันใด คิดว่าเครื่องหอมนั้นคงเก็บไว้นานเกินไป จึงมิได้ผลแล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1636

    ภายในโถงใหญ่ ซ่งฮูหยินนั่งสง่าอยู่บนเก้าอี้ ข้างกายมีป้าแม่บ้านและสาวรับใช้ยืนอยู่ ส่วนบนเก้าอี้สองฝั่งก็มีสะใภ้ของตระกูลซ่งนั่งอยู่ด้วยแม่สื่อกับจ้านเป่ยว่างนั่งอยู่ปลายแถวฝั่งซ้าย ใบหน้าเขาแดงก่ำ รวบรวมความกล้าทั้งหมดเอ่ยว่า “ฮูหยินวางใจเถิด ผู้แซ่จ้านขอสาบานด้วยชีวิตชาตินี้จะมิรับอนุภรรยา และไม่มีวันทอดทิ้งแม่นางซ่ง”ซ่งฮูหยินยังมิทันตอบ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเร่งร้อนดังขึ้น นางในยามนี้ดวงตาเลือนลาง มองเห็นได้เพียงเงาลางๆ เท่านั้นบุรุษนางนั้นพุ่งเข้ามาอย่างรีบเร่ง โผเข้ากอดนาง พร้อมกับเสียงสะอื้นเบาๆ เอ่ยคำหนึ่งว่า “ท่านแม่...”ซ่งฮูหยินเจ็บจี๊ดที่อก ไม่ใส่ใจว่าจ้านเป่ยว่างหรือแม่สื่อยังอยู่ ยื่นมือขึ้นลูบศีรษะนางเบาๆ “ฝันร้ายอีกแล้วหรือ?”เรื่องที่บิดาและพี่ชายของนางตายในสนามรบ ตอนนั้นก็ปิดบังไว้ไม่ให้นางรู้จนกระทั่งนางกลับจากเขาเหมยซาน ถึงเพิ่งทราบความจริง ร้องไห้จนเป็นลมหลายครา จนบัดนี้ก็ยังไม่อาจหลุดพ้นจากความโศกเศร้าซ่งซีซีกอดมารดาคุกเข่าอยู่กับพื้น ต่อให้เป็นเพียงความฝัน นางก็ไม่มีวันปล่อยมือ“น้องเล็ก อย่าร้องไห้เลย” สะใภ้รองเดินเข้ามา เอ่ยปลอบเบาๆ “มีแขกอยู่นะ”ซ่ง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1635

    หยิบหีบเครื่องหอมนั่นออกมา ฉีกผนึกเปิดกล่องออก กลับเห็นว่าด้านในมีเพียงเม็ดยาหอมขนาดเท่าเมล็ดถั่วลิสงหนึ่งเม็ด“มีแค่เม็ดเดียวรึ?” เขานึกว่าในกล่องขนาดนั้นจะมีอยู่หลายเม็ด ที่ไหนได้กลับมีเพียงเม็ดเดียวเขาก้มมองตัวอักษรที่เขียนอยู่ก้นกล่อง แม้จะเลือนรางแต่สายตาเขายังดี มองออกว่าเป็นสี่อักษรว่า “จวงโจวเมิ่งเตี๋ย”จวงโจวฝันเป็นผีเสื้อ กลิ่นหอมฝันผีเสื้อ? ชื่อเช่นนี้ช่างลึกล้ำนักคิดแล้วคงทำให้ฝันดีได้จริงกระมังเขาเงยหน้ามองด้านบนของกล่อง ก็เห็นว่ามีตัวอักษรลายศิลป์แกะสลักอยู่หลายบรรทัด ตัวอักษรเล็กเท่ามด มองแทบไม่ออกว่าเขียนว่าอะไร เนี่ยเจิ้งอ๋องจึงมิได้ใส่ใจ ในเมื่อสองแคว้นเป่ยถังกับต้าซ่งมีสัมพันธ์อันดีมาโดยตลอด คงมิใช่ของที่จะให้โทษเป็นแน่นอกจากอักษรไม่กี่บรรทัดนั้นแล้ว ยังมีวงกลมวงหนึ่ง พูดให้ถูกคือ เป็นวงกลมใหญ่ที่ประกอบจากวงกลมเล็กนับไม่ถ้วนในวงกลมใหญ่มีวงกลมเล็กซ้อนอยู่ทีละชั้น ทีละชั้น ไม่รู้ว่ามีกี่ชั้นกันแน่ขณะจุดเครื่องหอม พระชายาเนี่ยเจิ้งอ๋องก็หลับไปแล้วเนี่ยเจิ้งอ๋องนอนอยู่ข้างกายนาง กลับมิได้กลิ่นหอมอันใด คิดว่าเครื่องหอมนั้นคงเก็บไว้นานเกินไป จึงมิได้ผลแล้ว

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1634

    จวนเนี่ยเจิ้งอ๋อง สายฝนโปรยปรายไม่ขาดสายในฤดูเช็งเม้งของเดือนสาม ทุกหนแห่งล้วนชุ่มชื้นเปียกแฉะซ่งรุ่ยพยุงผู้หนึ่งเดินออกมา ถามด้วยความร้อนรนว่า “ซิวเช่อ อาการของท่านอาสะใภ้ข้าเป็นอย่างไรบ้าง?”ซิวเช่อสวมชุดสีคราม เส้นผมขาวโพลนไปแล้ว เขาถอนใจพลางกล่าวว่า “ท่านอาสะใภ้ก็อายุแปดสิบแปดแล้ว ไม่น่าปล่อยให้ออกไปเซ่นไหว้ในวันเช็งเม้งเลย ครั้นเปียกฝนจนหนาว ย่อมกระทบถึงปอดและหัวใจ”เจิ้นกั๋วกงซ่งรุ่ยถอนหายใจ “ข้าก็ห้ามแล้ว แต่ห้ามไม่อยู่ ท่านอายืนยันจะไปให้ได้ ช่วงสองปีนี้ท่านเริ่มหลงลืม เรื่องในปัจจุบันจำไม่ค่อยได้แล้ว แต่กลับจำเรื่องในอดีตได้แม่นยำ หากไม่ให้ไปไหว้ ท่านก็จะวุ่นวายใหญ่โต”“โรคในใจของท่านไม่เคยหาย ภัยพิบัติที่ทำให้ทั้งตระกูลถูกสังหาร เป็นฝันร้ายที่ท่านมิอาจลืมได้ไปชั่วชีวิต” ซิวเช่อเดินออกจากเรือนเหมยฮวา มุ่งหน้าไปยังห้องข้างเพื่อเขียนใบสั่งยา “เสด็จอาเฝ้าอยู่กับท่านตลอดเวลา เพียงแต่ท่านอาสะใภ้เองก็สุขภาพไม่ดีนัก ไม่ควรเหน็ดเหนื่อยเกินไป”“น้องเซี่ยเจิงกับพวกเด็ก ๆ ก็อยู่ด้วยกัน แต่ท่านอาเขยก็ยังยืนกรานจะดูแลด้วยตนเอง” ซ่งรุ่ยช่วยเขากางกระดาษตำรายาแล้วบดหมึก “สองสามีภรรยานี้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1633

    ข้าไม่คิดเลยว่า หยุนฮั่นหลินจะขอให้ฮูหยินเสนาบดีมาเป็นแม่สื่ออีกครั้ง และครานี้เขาก็มาด้วยตนเองของกำนัลที่เขานำมาวางเรียงเต็มโต๊ะ แม้มิใช่สิ่งของล้ำค่าใด แต่ก็ดูออกว่าตั้งใจเลือกมาอย่างถี่ถ้วนเขารับเงินเดือนไม่มากนัก ได้ยินว่าต้องขายเรือนและร้านค้าที่บ้านเสียก่อน จึงจะสามารถซื้อบ้านเล็กๆ ในเมืองหลวงได้ฮูหยินเสนาบดีพูดว่า “ท่านหญิง ข้าเองก็เกลี้ยกล่อมเขาหลายครั้งแล้ว ให้เขาล้มเลิกความคิดนี้เสีย แต่เขาดื้อรั้นนัก จึงได้ยอมมาด้วยเป็นครั้งสุดท้าย เช่นนี้เถิด พวกเจ้าคุยกันเอง หากเจ้าไร้ใจจริงๆ ก็บอกปฏิเสธเขาให้เด็ดขาด อย่าให้เขายังฝังใจไม่เลิกราอีก”ข้าคิดว่าพูดให้ชัดเจนเสียย่อมดี จะได้ไม่ต้องให้ภาพของเขาแวบมาในใจข้าอีกเป็นครั้งคราวฮูหยินเสนาบดีอ้างว่าจะไปเดินชมสวน ทิ้งข้าไว้กับเขาในห้องโถง ข้ารับรู้ได้ว่าบรรดาสาวใช้ที่ยืนรออยู่ด้านนอก ต่างก็มีแววตาคาดหวังและยินดีคนอื่นไม่ต้องพูดถึงก็ได้ แต่ซวงซวงผู้รับใช้ข้ามานาน นางติดตามข้าไปอยู่ที่จวนเฉิงเอินป๋อ และย้ายออกมากับข้าด้วย นางย่อมไม่อยากให้ข้าอยู่โดดเดี่ยวไปตลอดชีวิตนางมักพูดว่า บุรุษในใต้หล้านั้น มิใช่ทุกคนจะเป็นคนใจดำไม่รู้คุณ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1632

    คลื่นแผ่วบางในใจข้าที่เคยพัดผ่าน ก็หาได้แผ่ขยายในทะเลสาบใจข้าไม่ ข้ายังคงใช้ชีวิตไปตามครรลองเช่นเดิมบางคนก็เปรียบได้กับแสงตะวันอุ่นในชีวิต นำพาความอบอุ่นมาเพียงครู่หนึ่ง จากนั้นตะวันก็ตกดิน แล้วก็หายไปจนกระทั่งผ่านไปหลายเดือน พี่สาวมาหาข้า บอกว่าเหลียงเส้าไปแจ้งความที่จวนผู้ตรวจการประจำเมืองหลวง บอกว่ามีคนติดตามเขาตลอด จวนผู้ตรวจการตรวจสอบแล้วจึงทราบว่าเป็นคนของหยุนฮั่นหลินที่ส่งไปติดตามนางจึงไปพบหยุนฮั่นหลิน และเขาก็บอกว่า เป็นห่วงว่าเหลียงเส้าจะมาก่อกวนข้าอีก จึงส่งคนไปเฝ้าดูไว้แน่นอนว่า ยังได้รู้เรื่องอื่นอีกด้วยเดิมที ก่อนที่หยุนฮั่นหลินจะได้เป็นจอหงวน ปีหนึ่ง เขาเคยพามารดาเข้าเมืองหลวงเพื่อเข้าสอบ ตอนนั้นมารดาของเขามีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เพียงแต่ก่อนสิ้นใจอยากเห็นเขาสอบได้จึงฝืนมาแต่พอมาถึงเมืองหลวง เพราะความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง โรคจึงกำเริบหนัก ถึงขั้นเป็นลมหมดสติในโรงเตี๊ยมตอนนั้นเจ้าของโรงเตี๊ยมกลัวว่านางจะสิ้นใจในโรงเตี๊ยม จึงขับไล่แม่ลูกคู่นี้ออกมาเขาแบกมารดาไปขอพักที่อื่น แต่ไม่มีผู้ใดยอมรับ ต้องนอนข้างถนนอยู่สองคืนติดอากาศในฤดูใบไม้ร่วงก็เริ่มเย็น ทำให

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1631

    เหลียงเส้าไม่กล้ามาอีกแล้ว แต่กลับเป็นหยุนฮั่นหลินที่มักจะปรากฏตัวตรงหน้าข้าเสมอหลายครั้งที่เขาพาคนมาที่ร้านของโรงงานที่ข้าจัดตั้งไว้ ร้านนี้ขายงานปักที่พวกสาวช่างปักทำขึ้น ตลอดหลายปีมานี้ก็สะสมลูกค้าสตรีจากตระกูลใหญ่และภรรยาเหล่าขุนนางไว้มากมาย ข้าบางคราก็มาเยี่ยมเยือนสังสรรค์บ้างแท้จริงแล้ว งานปักมิได้ขายยากนัก ทั่วทั้งเมืองหลวงแทบไม่มีใครเทียบฝีมือของแม่นางม่อได้ เพียงแต่หากจะขายให้แขกชั้นสูง ก็จะตั้งราคาสูงขึ้นบ้างบัดนี้ราชสำนักอนุญาตให้หญิงตั้งบ้านเป็นของตนเองได้ พวกนางต่างหวังว่าจะหาเงินได้มากพอเพื่อซื้อเรือนเล็กๆ สักหลัง แล้วใช้ชีวิตอย่างสงบสุขข้าเป็นถึงฮูหยินเสนาบดี อีกทั้งยังเป็นญาติฝ่ายแม่ของพระชายาเนี่ยเจิ้งอ๋อง สตรีเหล่านั้นย่อมยินดีจะสนิทสนมกับข้าทีแรกหยุนฮั่นหลินเพียงพาคนผ่านหน้าร้าน บังเอิญหันตามองเข้ามาคราหนึ่งแล้วก็จากไปครั้นทำเช่นนั้นหลายครั้งเข้า เขาก็เริ่มเข้ามาซื้อของในร้านเสียเลยในร้านนอกจากเสื้อผ้าชุดคลุมแล้ว ยังมีงานปักเล็กๆ เช่น พัด ผ้าเช็ดหน้า ฉากกั้นเล็กๆ ส่วนใหญ่เป็นของใช้สำหรับสตรีเขามิได้ซื้อเสื้อผ้าเลย ซื้อแต่พัดพับเท่านั้นแท้จริงพัดพับม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status