แชร์

บทที่ 1114

ผู้เขียน: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
ซ่งซีซียังคงเงียบ นัยน์ตายังแสดงถึงความเสียใจเล็กน้อย

ทุกคนที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้คงมีความฝัน คือ เดินทางรอบโลกด้วยดาบ ชักดาบเพื่อช่วยเมื่อมีความอยุติธรรมนตามท้องถนน หากใครพบเห็นตน ก็จะเรียกว่าจอมยุทธ์หญิง

นางมีความฝันเช่นนี้เสมอเมื่อตอนที่นางยังเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนางเพิ่งเริ่มฝึกฝนศิลปะการต่อสู้และประสบความสำเร็จเล็กน้อย ในความฝัน นางเป็นปรมาจารย์ที่ไม่มีใครเทียบได้ ฆ่าคนชั่วร้ายนับไม่ถ้วน ร้องขอความเมตตาด้วยดาบของนาง และนางต้องพูดอะไรบางอย่างเพื่อรักษาความยุติธรรมในโลก

ต่อมาเมื่อโตขึ้นก็พบว่ามันไม่ง่ายอย่างนั้น การกระทำอย่างกล้าหาญและชอบธรรมถือเป็นการละเมิดกฎหมาย เพราะจอมยุทธ์หญิงไม่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมายและไม่ได้เป็นคนของสาธารณะ

ยิ่งกว่านั้นการจะฆ่าคนต้องมีหลักฐานที่แน่ชัดถึงแม้จะเห็นคนร้ายกระทำความผิดด้วยตาของตนเองก็ตามก็ต้องมีหลักฐานยื่นต่อทางการได้ หลังจากที่ทางการพิจารณาแล้วแม้ว่าบุคคลนั้นจะถูกตัดสินให้ตัดศีรษะก็ตาม จะต้องส่งไปที่หอต้าหลี่เพื่อตรวจสอบก่อนที่เขาจะถูกประหาร

กระบวนการที่ยุ่งยากและการสอบสวนอย่างต่อเนื่องเพื่อหลีกเลี่ยงการพิพากษาลงโทษที่ไม่ยุติธรรม ที่เป็
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1644

    ซ่งซีซีได้พบกับเสิ่นว่านจือ เฉินเฉิน และคนอื่นๆ ในที่สุดใบหน้าหนุ่มสาวเหล่านั้น ทำให้ซ่งซีซีรู้สึกราวกับย้อนกลับไปอีกภพหนึ่งทุกคนเข้าสู่ค่ายฝึกทหารใหม่ ได้รับการฝึกขั้นพื้นฐานที่สุด ซึ่งแม้จะหนักสำหรับทหารใหม่ แต่สำหรับพวกเขา ก็ไม่ต่างจากขูดผิวเท่านั้นดังนั้นเมื่อฝึกทั้งวันจบลง ขณะที่เหล่าทหารใหม่คนอื่นนอนแผ่อยู่บนเตียงรวม หอบหายใจอย่างหนัก พวกเขากลับยังสามารถออกไปวิ่งอีกสองสามรอบ แล้วค่อยนอนบนผืนทรายวางแผนกันต่อใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว หมั่นโถวคาบต้นหญ้าไว้ในปาก สองมือหนุนศีรษะ พลางกล่าวอย่างไม่เข้าใจว่า “ซีซี ข้าว่าความฝันมันก็แค่ความฝัน เรื่องแค่นี้ถึงกับต้องทำขนาดนี้เลยหรือ? ลำบากลำบนมาถึงนี่เพื่อเป็นทหาร แต่ก็ยังไม่ได้ออกรบจริงจังเลยนะ”“ต้องทำขนาดนี้” เสิ่นว่านจือกับเฉินเฉินตอบขึ้นพร้อมกันเฉินเฉินใช้ข้อศอกสะกิดหมั่นโถว “จะไม่ทำถึงขนาดนี้ได้อย่างไรล่ะ? ก็มีเซียนมาเข้าฝันบอกซีซีเลยนะ ไม่อย่างนั้นข้ากับเจ้าฝันบ้างทำไมถึงได้ฝันแต่เรื่องขโมยไก่ขโมยหมา ไม่มีฝันเรื่องแผ่นดินบ้านเมืองเลย?”เสิ่นว่านจือกล่าว “ต่อให้ไม่มีเหตุผลอื่น อย่างน้อยก็มาหาประสบการณ์ยังดี”ใช่แล้ว

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1643

    หากเปิดศึกขึ้นจริง ซ่งซีซีย่อมต้องขึ้นสู่สนามรบแน่นอน เพียงแต่ท่านตามิอนุญาต นางจึงต้องหาวิธีอื่นลำดับแรก นางต้องเข้าสังกัดทัพเพื่อเป็นทหาร ขณะนี้แม้นางจะเป็นเพียงทหารชั้นผู้น้อย แต่กลับถูกแม่ทัพหลูจับตามอง รอจนฝึกเสร็จ ก็จะขับไล่นางออกไปนางยังมิได้ขึ้นทะเบียนเป็นทหารไร้ซึ่งทะเบียนทหาร ย่อมมิใช่ทหารปกติ เช่นนั้นก็ย่อมไม่อาจขึ้นสู่สนามรบได้นางจึงหารือกับกุ้นเอ่อร์ ให้เขาอยู่ที่นี่ชั่วคราว ตนนั้นจะออกไปหาวิธี แล้วค่อยกลับมาภายใต้ตัวตนใหม่ เพื่อสมทบกับเขาอีกครั้งดังนั้น หลังจากอยู่ในค่ายฝึกไม่กี่วัน ซ่งซีซีก็กล่าวขอกลับเมืองหลวงแม้คนตระกูลเซียวจะอาลัยอาวรณ์ แต่มองเห็นศึกใหญ่ใกล้เข้ามา การที่นางอยู่ต่อไปย่อมไม่ปลอดภัย การกลับจึงเป็นทางที่ดีที่สุดแม่ทัพใหญ่เซียวให้นายท่านเซียวเจ็ดไปส่งนางกับเป่าจูออกจากชายแดนเฉิงหลิง ส่วนกุ้นเอ่อร์กล่าวว่าปรารถนาจะอยู่ในค่ายทหารเพื่อสร้างอนาคต แม่ทัพใหญ่เซียวก็อนุญาตโดยไม่ขัดข้องยามอำลา ต่างก็อาลัยอาวรณ์นัก ล่ำลากันเนิ่นนานแต่ยังมิทันจากตระกูลเซียวไปไกล ซ่งซีซีก็อ้างว่าหิว แล้วชวนท่านน้าลงร้านอาหารนางจะลอบเข้าค่ายทหาร ไม่อาจใช้วิธีสมัครเ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1642

    ซ่งซีซีและกุ้นเอ่อร์ร่วมฝึกอยู่หลายวัน กุ้นเอ่อร์ถึงกับติดใจ คิดว่าแถวรบแบบผลักดันนั้นน่าสนุกเป็นพิเศษแต่สำหรับซ่งซีซีแล้ว สิ่งเหล่านี้ล้วนเชี่ยวชาญจนฝังอยู่ในกระดูก นางแม้แต่สามารถให้คำแนะนำได้ด้วยซ้ำแม่ทัพหลูเป็นผู้เดียวที่รู้ฐานะของนาง ตอนนางไปพูดถึงข้อเสนอแนะต่างๆ แม่ทัพหลูก็ยังเข้าใจว่านางอยากอวดดี คิดจะเรียกร้องความสนใจกระทั่งฟังนางอธิบายการปรับเปลี่ยนแถวรบอยู่หลายรูปแบบ แม่ทัพหลูถึงกับตาเป็นประกาย ยกนิ้วโป้งชม “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น สมกับเป็นบุตรีของแม่ทัพใหญ่ซ่งจริงๆ”เมื่อได้ยินคำนี้ขึ้นมา ซ่งซีซีก็รู้สึกล่องลอยคล้ายฝันหลายปีแล้วที่ไม่มีผู้ใดเอ่ยชมเชยนางเช่นนี้ ครั้งแรกที่นางสร้างผลงานในเขตหนานเจียง ก็มีคนพูดแบบนี้ นางเป็นแม่ทัพประจำกองทัพซวนเจียมีคนพูดแบบนี้ตัวตนที่ผู้คนจดจำมากที่สุดของนาง ก็คือลูกสาวของซ่งหวยอันต่อมา แม้จะได้เป็นพระชายาเนี่ยเจิ้งอ๋อง แต่ผู้คนมากมายก็ยังเรียกนางว่า “ใต้เท้าซ่ง”แม้เมื่อถึงบั้นปลายชีวิต นางไม่ข้องเกี่ยวการเมืองอีกแล้ว ก็ยังมีผู้คนเรียกนางว่า “ใต้เท้าซ่งเฒ่า” บ้างก็ยังเรียก “พระชายาเนี่ยเจิ้งอ๋อง”ทุกสถานะที่ได้รับล้วนเป็นความภาคภู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1641

    พวกเขาจึงรีบเรียกเหล่าแม่ทัพนายกองมาประชุมหารือทันที พร้อมทั้งส่งสายลับออกไปสืบข่าวเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แน่นอนยิ่งขึ้น แล้วส่งข่าวกลับเมืองหลวงโดยใช้ม้าเร็วเร่งด่วนแปดร้อยลี้ ขอให้ราชสำนักส่งกำลังเสริมโดยเร็วหนานซื่อจัดให้ซ่งซีซีอยู่ในที่พักเรียบร้อย แล้วก็นั่งพูดคุยกับนางอีกนานหนานซื่อปลอบใจนางมิให้โศกเศร้าเกินไป ให้มองไปข้างหน้า แต่ตัวนางเองกลับต้องหันหน้าไปซับน้ำตาหลายคราซ่งซีซีแนบกายอยู่ข้างกายท่านอาสะใภ้ เพียงรู้สึกว่าการได้มีโอกาสเริ่มต้นใหม่อีกครั้งนั้นช่างดีนัก หลายสิ่งยังมีหวังจะชดเชยได้รุ่งเช้า แม่ทัพใหญ่เซียวออกคำสั่งให้เหล่าทหารกลับเข้าตำแหน่ง ร่วมฝึกทัพ เสริมความแข็งแกร่งให้กำแพงเมือง และวางกลไกในเขตกำแพงชั้นในซ่งซีซีฉวยโอกาสนี้ขออนุญาตท่านตา ขอร่วมฝึกทัพกับกุ้นเอ่อร์ด้วยแม่ทัพใหญ่เซียวคัดค้านอย่างหนัก “ก่อนเจ้าจะมาถึง จดหมายจากมารดาเจ้าก็มาถึงก่อนแล้ว กำชับข้าหลายครั้งนักว่าอย่าให้เจ้าเหยียบสนามรบเด็ดขาด”“ข้าไม่ได้จะเข้าร่วมสนามรบนะเจ้าคะ ข้าเพียงแค่ร่วมฝึกทัพเท่านั้น” ซ่งซีซีเห็นท่านตามีท่าทีเด็ดขาด ก็ยิ้มพลางเขย่าแขนของท่านตา “ท่านตาก็รู้ว่าข้าฝึก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1640

    ตอนออกจากวัง ไทเฮาทรงให้ฝูกงกงส่งนางออกจากตำหนักฉือหนิง ซ่งซีซีฉวยโอกาสนั้นยัดซองจดหมายให้ฝูกงกง “รบกวนกงกงมอบถวายแด่ไทเฮาด้วยเจ้าค่ะ”ฝูกงกงชะงักเล็กน้อย “เหตุใดแม่นางซ่งถึงไม่ถวายต่อหน้าเมื่อครู่นี้เล่า?”ซ่งซีซีพยุงมารดา เดินไปพลางกล่าวว่า “เป็นถ้อยคำขอบพระทัยไทเฮาเจ้าค่ะ ข้าพูดไม่เก่ง เอ่ยออกไปไม่ได้จึงได้เขียนไว้แทนใจเจ้าค่ะ”ฝูกงกงหัวเราะเบาๆ “อย่างนั้นเองหรือ เช่นนั้นก็ได้ ข้าจะรับไว้แล้วนำไปถวายให้”ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนั้น ซ่งซีซีก็ออกเดินทางไปชายแดนเฉิงหลิงพร้อมกุ้นเอ่อร์และเป่าจู ก่อนออกเดินทาง นางยังส่งจดหมายไปถึงเสิ่นว่านจือและหมั่นโถวให้ตามไปที่ชายแดนเฉิงหลิงด้วยนางต้องไปถึงชายแดนเฉิงหลิงก่อนการศึกป้องกันเมืองจะเริ่มขึ้นจดหมายที่นางเขียนถึงไทเฮานั้น ไม่ใช่ถ้อยคำขอบพระทัย หากแต่เป็นการแจ้งว่า พี่สาวร่วมสำนักของนางที่ออกเดินทางร่อนเร่ไปทั่วชื่อศิษย์พี่ผิง พบว่าซีจิงกำลังต่อสู้กันเองอย่างหนัก และได้ยินว่าพวกเขาจะฉวยโอกาสในศึกครั้งนี้เป็นเครื่องมือทางการเมืองไทเฮาปกติไม่ยุ่งเกี่ยวกับราชการแผ่นดิน แต่เมื่อเป็นเรื่องใหญ่เช่นนี้ หากพระองค์ทรงเชื่อ ก็จะนำไปทูลหารือกับฮ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1639

    ก่อนจะเดินทางไปชายแดนเฉิงหลิง ซ่งซีซีอยากเข้าเฝ้าไทเฮาเพื่อขอถวายบังคมเสียก่อนนางอยากเข้าวังเฝ้าไทเฮามาโดยตลอด อยากพบกับสนมฮุ่ยไทเฟย หรือบางทีอาจเข้าพบฮ่องเต้ในชาติก่อน เมื่อตอนที่ไทเฮาและไทเฟยสิ้นพระชนม์ แม้พระชนมายุมากแล้ว แต่ความเป็นความตายก็ยังยากจะยอมรับ นางเศร้าเสียใจอยู่นานนักเดิมทีคิดว่านั่นคือการจากลาตลอดกาล คาดไม่ถึงว่าวันนี้ยังมีโอกาสได้พบหน้าอีกคราตอนนี้นางยังเป็นสาวในห้องหอ หากจะเข้าวังเฝ้า ก็ต้องให้นางพาแม่ไปด้วย และให้มารดานำบัตรขอเข้าเฝ้าไปถวาย หากไทเฮาโปรด ก็จึงจะได้เข้าวังนับแต่บิดาและพี่ชายสิ้นชีวิต มารดาก็ไม่เคยออกจากจวนเลย ครานี้ได้ออกมาเดินเล่น พบไทเฮาให้เบิกบานใจบ้าง ก็อาจจะดีต่ออาการป่วยของนางซ่งฮูหยินเดิมทีก็ไม่อยากไป ทว่าทนลูกสาวเซ้าซี้หลายครั้งก็จนใจต้องยอมตกลงเพราะดวงตาของนางทำให้เดินไม่สะดวก ตลอดทางที่เข้าวังจึงต้องให้ซ่งซีซีคอยพยุงทั้งสองเดินทางมาจนถึงตำหนักฉือหนิงฝูกงกงออกมาต้อนรับ พอเห็นซ่งฮูหยิน น้ำตาก็คลอหน่อยๆ ใช้พู่ปัดฝุ่นสะบัดหนึ่งที แล้ววางแขนขวาไว้ในอ้อมพับ “ท่านหญิงสบายดีหรือไม่”“กงกงมีน้ำใจ ข้าสบายดีทุกประการ” ซ่งฮูหยินกล่าวพ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status