Share

บทที่ 362

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
"อ๊า?" เซี่ยหลูโม่สะดุ้งครู่หนึ่ง จากนั้นดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสุข "เจ้าเป็นห่วงข้าถูกอาจารย์ลงโทษ เจ้ากำลังเป็นห่วงข้าหรือ"

"ข้าเป็นห่วงท่านอยู่แล้วนี่ ท่านไม่เคยได้รับความเจ็บจากหมัดแข็งๆ ของศิษย์อาเหรอ?" ซ่งซีซีเลิกคิ้ว

"อืม ไม่ค่อยถูกทุบตีมากนัก" เซี่ยหลูโม่คิดถึงเวลาที่เขาในสถาบัน พูดตามตรง ปีหนึ่งก็อยู่ได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน หาใช่ว่าไม่เคยถูกทุบตี แต่นี่เกี่ยวกับศักดิ์ศรี แม้ว่าเขาจะถูกทุบตี แต่ก็ไม่สามารถบอกได้

"ท่านประพฤติตัวดีมาตลอดเหรอ" ซ่งซีซีถามอย่างสงสัย ในสถาบันว่านซงเหมิน แม้แต่ศิษย์พี่ใหญ่ยังถูกลงโทษมาก่อน เขาจะประพฤติตัวดีกว่าศิษย์พี่อีกด้วยเหรอ

เซี่ยหลูโม่หันศีรษะและคิดอยู่ครู่หนึ่ง "หลักๆ ก็คือตอนที่ข้าไปสถาบันว่านซงเหมิน พวกเจ้าก็ไม่มาเล่นกับข้า ข้าได้แต่ฝึกฝนอย่างขยันขันแข็งเท่านั้น อาจารย์เลยพอใจกับข้ามาก"

ซ่งซีซีอดไม่ได้ที่จะมองดูเขาด้วยความชื่นชม ในฐานะศิษย์หลานอย่างพวกเขาล้วนถูกศิษย์อาลงโทษมา แต่เขาซึ่งเป็นลูกศิษย์โดยตรงกลับไม่เคยถูกลงโทษเลย

ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขามทักษะการต่อสู้เก่งเช่นนั้น เขาโดดเด่นมากทีเดียวจริงๆ

ในความเห็นนาง ผู้ที่อยู่ในสถาบันว่านซงเ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
เพ็ญพตรา สาพู สาพู
อยากอ่านแล้ว
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 363

    เซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีได้ไหว้กับอาจารย์ ศิษย์อา และพวกศิษย์พี่ตามลำอับดวงตาเล็กๆ ของศิษย์อาหรี่ตาลง มันมองไม่ออกจริงๆ ว่าเขาลืมตาอยู่หรือว่าหลับตาไว้ แต่ซ่งซีซีรู้ดีว่า ศิษย์อาในสภาพแบบนี้น่ากลัวที่สุด เพราะเขากำลังจับจ้องเจ้าอยู่ว่าได้ทำผิดอะไรหรือไม่ดังนั้น ซ่งซีซีจึงกราบไหว้อย่างจริงจังและออกแรงพอเหมาะ ยังสามารถได้ยินเสียง "ตงตง" และเสียงดังก้องมาก การกราบไหว้โดยใช้หัวจรดพื้นนั้นก็ถือว่าผ่านเกณฑ์ซ่งซีซีเคยได้รับการฝึกวิธีการการบไหว้ด้วยศิษย์อา เพราะเมื่อนางกราบไหว้ให้อาจารย์นั้น ไหว้อย่างขอไปทีมากคืนที่นางได้รับการฝึกฝนนั้น ศีรษะของนางแตะกับพื้นจนเวียนหัวและหน้าผากก็มีเลือดออก จนถึงเช่นนั้น ศิษย์อาถึงลืมตาขึ้นเล็กน้อยแล้วยกมือยอมปล่อยให้นางไปนางถึงขั้นเดินเองไม่ได้ สุดท้ายเป็นศิษย์พี่สาวรองที่ให้นางขี่หลังตนเองกลับห้องเมื่อนึกย้อนกลับไปในอดีต ช่างสงสารจริงๆเมื่อนางทำการกราบไหว้โดยเอาหัวจรดที่พื้นนั้น กลับพบว่าเซี่ยหลูโม่แค่โค้งคำนับให้อาจารย์และคนอื่นๆ และเพียงกราบไหว้ให้กับศิษย์อาเท่านั้น ยิ่งไปกว่าการเอาหัวแตะพื้นนั้นไม่มีเสียงอะไรเลย นี่มันไม่ผ่านเลยแย่แล้ว... ซ่งซ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 364

    เหรินหยางอวิ๋นได้ยินคำตอบของนางอย่างว่าง่าย จากนั้นจึงยื่นมือออกไปเรียกนางว่า "มาหาอาจารย์"ซ่งซีซีเดินเข้าไปอย่างเชื่อฟัง และอาจารย์ก็ยื่นมือออกไปแล้วเคาะที่ปลายจมูกของนางซ่งซีซีคร่ำครวญว่า "อาจารย์ มันเจ็บนะ""การลงโทษ!" เหรินหยางอวิ๋นกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง "ใครใช้ให้เจ้าพอเจอเรื่องเข้าไม่ยอมบอก นี่ถือว่าลงโทษเบาแล้วนะ"ดวงตาของซ่งซีซีฉายแววด้วยความโศกเศร้า แต่ไม่นานนักก็ถูกปกปิดกลับไป "ข้ารู้แล้ว จะไม่ทำอีก"แน่นอนว่าเหรินหยางอวิ๋นจะไม่เพิกเฉยต่อสีหน้าของนาง และถอนหายใจในใจ ลูกศิษย์ตัวน้อยของเขาผ่านเรื่องพวกนั้น มันต้องห้ามคิด พอคิดแล้วก็ทำให้เขาใจหายเลยนางจับมือนาง ให้นางนั่งข้างเขาแล้วพูดว่า "นิสัยใจคอของเซี่ยหลูโม่ดีกว่าจ้านเป่ยว่างตั้งไม่รู้กี่เท่า ข้าเชื่อว่าเขาจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวังหรือปฏิบัติต่อเจ้าไม่ดี แต่โลกนี้ก็ไม่แน่นอน และใจคนก็เช่นกัน เมื่อก่อนเขาชอบเจ้า เมื่อเขาไม่ได้เจ้าก็คิดถึงเจ้า บัดนี้ได้แต่งงานกับเจ้าตามที่เขาปรารถนาแล้ว ก็ไม่รับประกันว่าเขาจะไม่เบื่อและไปชอบคนใหม่เข้า ผู้ชายไว้ใจไม่ได้สักคนเลย ดังนั้นหากเจ้าชอบเขา ก็ไม่สามารถเปิดใจให้เขาได้อย่างทั้งหมด เ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 365

    ผิงหวูจูงปาดน้ำตาออก "ศิษย์พี่ไม่จากไป ศิษย์พี่จะอยู่ในเมืองหลวงเป็นเพื่อนเจ้า อยู่ในจวนเสนาบดีกั๋วกง เมื่อใดก็ตามที่เจ้าคิดถึงศิษย์พี่ ก็กลับมาจวนเสนาบดีกั๋วกงมาเยี่ยมข้า""เราจะอยู่ด้วย!" เมื่อได้ยินศิษย์พี่สาวรองพูดแบบนั้น ทุกคนก็พูดตามๆ ไปซ่งซีซีซุกตัวเข้าไปในอ้อมแขนของศิษย์พี่สาวรอง นานมากแล้วที่นางไม่ได้รู้สึกปลอดภัยเหมือนตอนนี้เลยนางอยากจะร้องไห้ และอาลัยอาวรณ์ไม่อยากให้พวกเขาไปแต่อาจารย์พูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า "เจ้าจะอยู่กับนางไปตลอดชีวิตหรือไง? ทุกคนต้องใช้ชีวิตของตัวเอง นอกจากนี้ เมืองหลวงแห่งนี้เป็นสถานที่ที่อยู่ได้อย่างง่ายๆ หรือ ต่อให้มันอยู่ได้ง่าย ก็ไม่ใช่สถานที่ที่คนของสถาบันว่านซงเหมินของเราจะอยู่อย่างถาวร"เหรินหยางอวิ๋นไม่ชอบเมืองหลวง และเขาก็ไม่มีความประทับใจที่ดีต่อผู้คนในราชวงศ์ แต่นิสัยใจคอของเซี่ยหลูโม่ดีอย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งยังยึดเขตหนานเจียงกลับมาและทำให้ดินแดนของประเทศได้สมบูรณ์ ดังนั้นเขาจึงยอมรับเขา แต่ใจคนจะเปลี่ยนไปหรือไม่นั้น ยังต้องใช้เวลามาพิสูจน์ในตอนนั้น แต่เดิมเซี่ยหลูโม่อยากเป็นลูกศิษย์ของเขา แต่เขาไม่ต้องการยอมรับคนจากราชวงศ์ แต่ไม่รู้ว่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 366

    ดวงตาของซ่งซีซีร้อนขึ้นมา อาจารย์ อาจารย์ต้องการพารุ่ยเอ๋อร์กลับไปที่ภูเขาเหม่ยชานงั้นเหรอ?เหรินหยางอวิ๋นมองไปที่รุ่ยเอ๋อร์ และพูดอย่างมีเลศนัยว่า "ทำไมเจ้าถึงอยากฝึกทักษะการต่อสู้ให้ดีล่ะ""ปกป้องท่านอาของข้า" รุ่ยเอ๋อร์พูดเสียงดัง หลังจากหยุดชั่วคราว เขารู้สึกว่าตนเองมองโลกยังไม่ไกล "เช่นเดียวกับท่านปู่และท่านพ่อของข้า เข้าสู่สนามรบเพื่อปกป้องบ้านเมือง และปกป้องอาณาเขต"เหรินหยางอวิ๋นยิ้ม "ดีๆๆ อายุยังเด็ก แต่กลับมีความฝันที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ แต่การเป็นวีรบุรุษต้องทนต้องอดทนต่อความยากลำบาก เจ้าทำได้ไหม""ข้าทำได้!" รุ่ยเอ๋อร์ยืดอกของเขาให้ตรงและพูดเสียงดัง แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าทำไมซือกงถึงถามเช่นนี้ แต่การตอบเสียงดังย่อมไม่ผิดอย่างไรก็ตาม เขาได้อดทนต่อความยากลำบากทุกรูปแบบแล้ว"ถ้าต้องให้เจ้าแยกจากไปกับท่านอาของเจ้าล่ะ เจ้าก็ทำได้ไหม?" เหรินหยางอวิ๋นถาม"ข้าทำได้...อ๊า!" รุ่ยเอ๋อร์ถอยออกไปสองก้าวทันทีและส่ายหัวโดยไม่รู้ตัว "ไม่ ข้าจะไม่ออกไปจากท่านอาของข้า"ซ่งซีซีก็อาลัยอาวรณ์รุ่ยเอ๋อร์ บัดนี้เขาเป็นบุรุษคนเดียวในตระกูลซ่งแล้ว"อาจารย์ หากเขาต้องการเรียน ข้าจะสอนทักษะการต่อส

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 367

    บนรถม้า เซี่ยหลูโม่บอกกับซ่งซีซีเรื่องที่ศิษย์พี่สาวพูดกับเขาเมื่อกี้ซ่งซีซีเอาศีรษะพิงไหล่ของเขา กลั้นน้ำตาไว้เป็นเวลานาน แต่สุดท้ายก็ยังอดไม่ได้เซี่ยหลูโม่กอดนาง และวางคางบนหน้าผากของนาง "ศิษย์พี่สาวปฏิบัติต่อเจ้าเหมือนน้องสาวแท้ๆของนางเองจริงๆ""อืม ตอนที่ข้าไปที่สถาบันว่านซงเหมิน ส่วนมากเป็นศิษย์พี่สอนข้า นางเอ็นดูข้า เอ็นดูมากเลย"เซี่ยหลูโม่คิดในใจ มีผู้ใดหรือที่อยู่สถาบันว่านซงเหมินจะไม่เอ็นดูนาง? แม้ว่าตอนที่อาจารย์พูดคุยกับเขาอยู่ที่ห้องโถงด้านข้าง เขาก็กำชับตนเองต้องปฏิบัติต่อซ่งซีซีที่เป็นเด็ดซนอย่างดีอาจารย์แสดงสีหน้าเห็นอกเห็นใจอย่างที่ยากจะเห็น เขาพูดถึงครอบครัวของพ่อตา แววตาของเขาเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความเสียใจทุกคนในโลกนี้ต่างรู้สึกซาบซึ้งกับความทุ่มเทและความเสียสละของบุรุษจากจวนเสนาบดีกั๋วกงที่เพื่อประเทศชาติซ่งซีซีปาดน้ำตาแล้วถามว่า "กุ้นเอ๋อร์จะอยู่ในเมืองหลวงต่อ ท่านมีงานอะไรให้เขาทำบ้างไหม เขาไม่อยากกลับไปอยู่กองทัพ"เซี่ยหลูโม่กล่าวว่า "ง่ายมาก เชื้อพระวงศ์สามารถมีทหารประจำจวนห้าร้อยคน ข้ายังไม่ได้ก่อตั้งหน่วยนี้เลย งั้นให้เขาเป็นผู้นำ แล้วค่อยหาค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 368

    ก่อนอื่นนางไปหาหัวหน้าลู่ เพื่อเข้าใจภาพรวมของสถานการณ์ และการกระทำทางฝั่งร้านจิน หัวหน้าลู่ให้นางวางใจ หัวหน้าจ้าวถูกควบคุมตัวเอาไว้ และร้านจินก็ส่งคนจับตาดูว่ามีใครจะออกไป รายงานข่าวหรือไม่ซ่งซีซีเดินไปยังห้องบัญชีด้วยความวางใจสนมฮุ่ยไทเฟยยังตรวจสอบบัญชีไม่เสร็จ แต่ทุกคนในห้องบัญชีก็คุกเข่าลงด้วยความกลัวพื้นที่ไม่เป็นระเบียบ และทุกสิ่งที่สามารถโยนทิ้งบนโต๊ะก็ถูก นางโยนทิ้งไปหมด ยกเว้นสมุดบัญชี และนางยังทุบถ้วยชาไปสองสามใบด้วยซ้ำผมของสนมฮุ่ยไทเฟยยุ่งเหยิงและใบหน้าของนางซีดเผือด เมื่อนางเห็นซ่งซีซีกลับมา ความคับข้องใจและความอัปยศอดสูของนางก็ถึงจุดสูงสุด จากนั้นก็ร้องห่มร้องไห้ออกมา "พวกเขารังแกข้า!"ซ่งซีซีเข้าไปแล้วพูดกับทุกคน "พวกเจ้าลุกขึ้นก่อน นอกจากนักบัญชี คนอื่นๆ ก็ออกไปทั้งนั้น รวมถึงแม่นมเกาด้วย"ที่จวนอ๋องมีนักบัญชีหลายคน ยังมีหัวหน้าบัญชีหนึ่งคน ตอนนี้ล้วนคุกเข่าลงบนพื้นพลางตัวสั่น พวกเขาไม่เคยเห็นไทเฟยที่โกรธเกรี้ยวขนาดนี้มาก่อนคนรับใช้ที่เข้ามารับใช้นั้นต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นลุกขึ้นยืนและทำการไหว้ก่อนออกไปหัวหน้าจ้าวที่ยังคงคุกเข่าอยู่บนพื้นนั้น

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 369

    นางยังคงเงียบ และให้คนเตรียมอาหารให้นางกินก่อนหลังจากที่นางกินเสร็จ ซ่งซีซีกล่าวว่า "หาหนังสือข้อตกลงให้ข้าดูสักหน่อย กลัวว่าจะมีกับดักอะไร หากมีจริงๆ เราต้องเตรียมตัวล่วงหน้าก่อน"นางกระพริบตาที่น้ำตาคลอเบ้าอีกครั้ง "หากมีกับดักจะเตรียมตัวได้อย่างไรอีก""มีทางออก ไปเอามาให้ข้าดูก่อน" ซ่งซีซีไม่มองนาง โดยเฉพาะเวลานางหลั่งน้ำตา และหันไปหาแม่นมเกา สั่งให้แม่นมเกาไปหาหนังสือข้อตกลงแม่นมเการู้ว่าสิ่งเหล่านี้ถูกวางไว้ที่ไหน และในไม่ช้าก็พบพวกมันและส่งมอบให้กับซ่งซีซีซ่งซีซีอ่านหนังสือข้อตกลงอย่างละเอียดมาสามครั้งตั้งแต่ต้นจนจบกลับไม่พบปัญหาใดๆ ข้อตกลงนั้นยุติธรรมมากในส่วนของผู้ถือหุ้น ทางฝั่งสนมฮุ่ยไทเฟยใช้ชื่อแม่นมเกา เกากุ้ยเฟินท่านหญิงเจียอี้ใช้ชื่อของหัวหน้าจ้าว หัวหน้าจ้าวคนนี้กลับเป็นคนใช้ของนางหากฮูหยินจากตระกูลใหญ่จะทำธุรกิจนอกบ้าน นางจะไม่ใช้ชื่อของตัวเองในการทำ เพราะต้องผ่านกระบวนของรัฐมากมาย อีกอย่างมีความเป็นไปได้ต้องออกมาเพ่นพ่านให้ใครเห็นหน้าค่าตาด้วยซ้ำดังนั้น ไม่ใช้ในนามของผู้นำครอบครัวที่เป็นบุรุษ หรือไม่ก็ลูกชายของตนเอง ไม่งั้นก็คนใช้ที่ตนเองไว้ใจได้ เพราะถ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 370

    ซ่งซีซีครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และสั่งนำตัวหัวหน้าจ้าวมาสอบปากคำมีเตาถ่านอยู่ที่ห้องโถงด้านข้าง และมีแท่งไฟกำลังเผาบนเตาถ่าน หลังจากเผาไปสักพัก แท่งไฟครึ่งหนึ่งก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อหัวหน้าจ้าวเห็นฉากเช่นนั้น เขาตกใจมากจนแทบจะฉี่รดกางเกงก่อนคุกเข่าลง "พระชายาท่านอ๋องโปรดยกโทษให้ข้าน้อยด้วย พระชายาท่านอ๋องโปรดไว้ชีวิตให้ข้าน้อยด้วยขอรับ"ซ่งซีซีนั่งตัวตรงและขมวดคิ้ว "ข้าจะเอาชีวิจเจ้าไปทำอะไร แค่ถามเจ้าสักหน่อย เจ้าตอบตามความจริง"หัวหน้าจ้าวพยักหน้าหนัก "ข้าน้อยจะบอกทุกเรื่องที่รู้ขอรับ"ซ่งซีซีหยิบสมุดบัญชีของสินค้าที่ซื้อมาไว้ในมือ "ซื้อสินค้าราคาถูกและหยาบเหล่านี้ ท่านหญิงเจียอี้รู้เรื่องหรือไม่""รู้ขอรับ รู้ขอรับ นางเป็นคนสั่งเองขอรับ""เจ้าได้บอกนางหรือเปล่าว่าวัสดุที่ใช้ในเครื่องประดับทองนั้นหากไม่บริสุทธิ์ และเกิดปัญหาได้ง่าย"หัวหน้าจ้าวกลอกตาไปมาแล้วพูดว่า "ข้าน้อยได้บอกแล้ว แต่ท่านหญิงบอกว่าไม่เป็นไร หากเกิดปัญหาในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ตอนนั้นร้านของเราก็ปิดไปแล้ว"ซ่งซีซีหัวเราะเยาะ "คือจะปิดร้านหรือจะโยนความผิดทั้งหมดใหสนมฮุ่ยไทเฟย?"หัวหน้าจ้าวเงียบไป "นี่...

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1612

    สายหมอกเย็นยะเยือกปกคลุมยอด ดอกเหมยเบ่งบานหลายคราเซี่ยเจิงมีพรสวรรค์ทางวรยุทธ์สูงส่งนัก เรื่องนี้เรียกได้ว่าเก็บข้อดีของเซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีมาไว้ทั้งหมดเหรินหยางอวิ๋นสามารถกล่าวได้อย่างภาคภูมิใจว่า เซี่ยเจิงคือลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์สูงสุดในบรรดาศิษย์ทั้งหลายของภูเขาเหม่ยชานอูโซเว่ยเองก็ไม่อาจปฏิเสธเรื่องนี้ได้ เมื่อนางถูกเซี่ยเจิงถามว่าใครเก่งกว่ากัน ระหว่างนางกับท่านพ่อ อูโซเว่ยได้แต่ตอบอย่างเลี่ยงๆ ว่า "พอๆ กัน ต่างก็มีข้อดี"วรยุทธ์ของเซี่ยเจิงที่ฝึกฝนมาจนถึงวันนี้ หาได้มาจากเพียงหมื่นสำนักเท่านั้นนางได้ร่ำเรียนจากทุกฝ่ายในภูเขาเหม่ยชานเมื่อนางมาถึงภูเขาเหม่ยชาน ยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อย ผิวขาวเนียนราวหยก รอยยิ้มหวานละมุน ผู้ใดเห็นก็ต้องเอ็นดูนางช่างพูด ช่างคุ้นเคยเร็ว อีกทั้งปากหวานนัก หลอกล่อให้บรรดาหัวหน้าสำนักต่างถ่ายทอดวิชาให้หมดเปลือกเดิมทีนางมีนิสัยซุกซน แต่ด้วยการมุ่งมั่นฝึกวรยุทธ์ และฝึกฝนวิชาเนื้อใน จิตใจก็สงบนิ่งขึ้นมากครั้นถึงปีที่สิบห้า นางได้เข้าพิธีเก็บปิ่นพิธีเก็บปิ่นจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ของขวัญย่อมหลั่งไหลมาดังสายน้ำ ส่งเข้ามาไม่ขาดสายซ่งซีซีได้มอบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1611

    แสงแดดสาดลงบนกิ่งไม้ ใต้พุ่มใบหนาแน่น เผยให้เห็นขาเล็กๆ คู่หนึ่งแกว่งไปมา ดูแล้วชวนให้รู้สึกสบายใจนักนางมีนามเดิมว่าเซี่ยเจิง ชื่อนี้จารึกอยู่ในหยกพงศ์ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นชื่อเล่นว่าจิ้งเหยียนว่ากันว่าเพราะมารดาของนางรังเกียจที่นางพูดมาก จึงตั้งชื่อนี้เพื่อกดทับให้นางสงบลงเซี่ยเจิงเองเห็นว่าตั้งชื่อนี้ก็เปล่าประโยชน์ อีกทั้งฟังดูไม่น่าฟัง จิ้งเหยียนก็คือการเงียบงัน เช่นนั้นแล้วนางมีปากไว้ทำไม หากไม่ได้พูด เอาแต่กินหรือ?เช่นนั้นไม่ต้องกินจนอ้วนกลมไปหรอกหรือ?“ท่านหญิงของข้า ท่านอยู่ที่นี่เอง หาเสียจนข้าเหนื่อย” เป่าจูเงยหน้าขึ้นจากใต้ต้นไม้ ทั้งโกรธทั้งขบขัน “รีบลงมาเถิด ท่านอ๋องกับพระชายากำลังตามหาท่านอยู่”“ท่านอาเป่าจู พวกเขาเรียกหาข้าด้วยเรื่องอันใดกัน?” เสียงใสๆ ดังลงมาจากบนต้นไม้ แฝงด้วยความสบายใจและอิ่มหนำ“พระชายาจะไปภูเขาเหม่ยชาน บอกว่าจะพาท่านไปด้วย ท่านอยากไปหรือไม่?” เป่าจูเอ่ยเซี่ยเจิงได้ยินดังนั้น ก็รีบลื่นไถลลงจากลำต้นไม้ สองข้างไหล่มีเจ้าสุนัขจิ้งจอกสีขาวสองตัวเกาะอยู่ นางยิ้มดีใจกล่าวว่า “จริงหรือ? เช่นนั้นรีบไปเถิด”สองสุนัขจิ้งจอกนั้น ตัวหนึ่งชื่อเซวียนเช

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1610

    เพียงแต่ ข้าก็รู้ดีว่าในใจของซ่งซีซีไม่ได้มีเสด็จน้อง นางเลือกแต่งกับเสด็จน้อง ก็เพียงเพราะไม่อยากเข้าวังถวายงานแม้นไม่ใช่สามีภรรยาที่จิตใจเป็นหนึ่งเดียว เช่นนั้นข้าจึงแต่งตั้งซ่งซีซีเป็นแม่ทัพใหญ่กองทัพซวนเจีย ให้รับผิดชอบดูแลกองทัพซวนเจียแทนในสายตาของผู้อื่น กองทัพซวนเจียยังคงอยู่ในมือของสามีภรรยาคู่นี้ ข้าไม่ได้ตัดอำนาจของเสด็จน้องเพิ่มเติมเมื่อมองในขณะนั้นแล้ว นับเป็นความคิดที่แยบยลอย่างยิ่งแต่ข้ากลับไม่คาดคิดว่าสามีภรรยาจะไม่ใช่คู่ที่ใจไม่ตรงกันเสมอไป เมื่อนานวันเข้าย่อมเกิดความรักใคร่ อีกทั้งผลประโยชน์ก็เป็นหนึ่งเดียวกันข้าไม่รู้เลย เพราะข้ากับฮองเฮาแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ได้ใจตรงกัน ข้าเองก็ไม่เคยไตร่ตรองเรื่องของสามีภรรยาแต่โชคดีที่ แม้ว่าพวกเขาสองสามีภรรยาจะรักใคร่กันภายหลัง แต่ก็ไม่เคยเกิดความทะเยอทะยานที่คิดจะชิงอำนาจเป็นข้าที่ระแวงเกินไปเดิมที ข้าเห็นว่าซ่งซีซีแม้จะมีวรยุทธ์สูงส่ง แต่การบัญชาการกองทัพซวนเจียย่อมลำบาก อีกทั้งมีผู้ไม่ยอมรับนางมากมาย ข้าคิดว่านางอาจถอดใจในสามหรือห้าเดือน เช่นนั้นข้าก็จะหาคนใหม่มาแทนที่แต่ไม่คาดเลยว่า เหล่าทหารหัวแข็งในกองทัพซวนเจี

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1609

    แต่!แต่คนหนึ่งจะมีจิตใจที่มั่นคงและกล้าหาญได้อย่างไรเล่า?ใครจะคิดว่าในวันนั้นซ่งซีซีไม่ได้รับความไว้วางใจจากข้า แต่กลับขี่ม้าไปยังหนานเจียงเพื่อแจ้งข่าวให้เสด็จน้องทราบนี่เป็นเรื่องใหญ่ที่น่าตกใจและน่าทึ่งจริงๆ!หญิงที่หย่าร้างออกจากบ้าน ไม่มีผู้ติดตามหรือองครักษ์ กล้าบุกเข้าไปในค่ายทหารหนานเจียง ความกล้าหาญและความเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ในราชสำนักนี้ไม่มีใครทำได้หลายคนเสด็จน้องและข้าก็ต่างกัน เขาเชื่อในตัวซ่งซีซี และเตรียมทัพก่อนเวลา เพื่อรับมือกับกองทัพพันธมิตรแคว้นซาและซีจิงสนามรบจะอันตรายแค่ไหน ข้ารู้ดีไม่ต้องเล่ารายละเอียดเมื่อข่าวดีในการยึดหนานเจียงมาถึง น้ำตาไหลนองหน้าข้าหลังจากนั้นเสด็จน้องส่งคำกราบทูลเพื่อยกย่องทหารซ่งซีซีและพรรคพวกของนางแน่นอนว่าเป็นผู้มีคุณูปการใหญ่ ข้าจะให้รางวัลแก่พวกเขาแต่จ้านเป่ยว่างและยี่ฝางกลับทำให้ข้าผิดหวัง ข้าจึงต้องคิดอย่างลึกซึ้งถึงเหตุผลที่คนจากซีจิงทำลายข้อตกลงในสนามรบหนานเจียงข้าก็ไม่ใช่คนที่เริ่มคิดเรื่องนี้ในเวลานี้ แต่การแบ่งเขตแดนของเส้นแนวกั้นหลิ่งหลิงก็เป็นหนึ่งในผลงานการบริหารของข้า ข้าจึงพอใจในใจคนเรามักจะโลภ แต่ก็ต้องรู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1608

    เมื่อครั้งที่ข้าขึ้นครองราชย์ การศึกชิงคืนหนานเจียงก็ดำเนินมาแล้วหลายปี ชายแดนเฉิงหลิงก็ยังไม่สงบ ส่งผลให้ท้องพระคลังร่อยหรอ ราษฎรพลัดถิ่นไร้ที่อยู่อาศัยยามที่ข้าสวมอาภรณ์มังกร ประทับเหนือบัลลังก์มังกร ก็ลั่นวาจาในใจว่า ถึงจะไม่อาจเปรียบได้กับสมเด็จพระบรมราชบุพการีผู้ทรงพระปรีชาสามารถ แต่ข้าก็จะไม่เป็นจักรพรรดิที่โง่เขลาไร้ความสามารถ ข้าจะต้องชิงคืนหนานเจียง ทำให้แคว้นซางรุ่งเรือง ราษฎรมีความสุขต่อมาข้าจึงได้รู้ว่า มนุษย์นั้นมีเพียงในยามโง่เขลาหรือมีสติปัญญาเป็นเลิศเท่านั้น ถึงกล้าตั้งปณิธานยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้หนานเจียงพ่ายแพ้ ตระกูลซ่งทั้งเจ็ดพี่น้องล้วนพลีชีพในสนามรบแรกเริ่ม เสด็จพ่อและข้าก็ยังมีความหวังลมๆ แล้งๆ คิดว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งมีประสบการณ์ในสนามรบมาก อีกทั้งทหารที่เขานำก็กล้าหาญเชี่ยวชาญเสียดายที่เสบียงล่าช้า ทหารต้องสู้รบทั้งที่ท้องว่าง แม้จะทุ่มสุดกำลัง ก็ยังสู้ฝ่ายศัตรูไม่ได้ยิ่งเมื่อเคยยึดหนานเจียงกลับมาได้แล้ว แต่ต้องเสียคืนไป ผู้คนก็ยิ่งเชื่อว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งยังมีหวังจะตีคืนได้ด้วยเหตุผลหลายประการและความลังเลมากมาย ทำให้ข้าไม่อาจส่งกองทัพเป่ยหมิงของเสด็จน้องไปได

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1607

    ข้าเคยอ่านบันทึกการชันสูตรศพโดยมือชันสูตรแล้ว คำให้การของเขานั้นตรงกับบันทึกแทบทุกประการรายละเอียดอื่นๆ ของคดีก็เช่นกัน ข้าซักถามทีละข้อ เมื่อมั่นใจว่าตรงกันหมดแล้ว จึงส่งตัวเขาไปยังสำนักเขตจิงจ้าว และให้ท่านกงไต้เหรินส่งคนไปค้นหาอาวุธสังหารข้านึกว่าเมื่อจับคนร้ายได้ คดีนี้ก็ถือว่าเสร็จสิ้น ไม่นับว่าสิ่งที่ข้าอดทนลอบเฝ้าอยู่หลายวันนั้นสูญเปล่าใครจะรู้ว่า พอไปถึงสำนักเขตจิงจ้าว หลิวเซิ่งกลับกลับคำให้การ บอกว่าถูกข้าบีบบังคับจนต้องรับสารภาพ คำสารภาพที่ข้าให้เขาเอ่ยออกมา ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าบังคับให้เขาพูดทีละคำเขาร้องขอความเป็นธรรม ยืนกรานว่าตนเองบริสุทธิ์กลับกัน เขายังกล่าวหาข้าว่าเป็นโจรหญิง ขอให้สำนักเขตจิงจ้าวจับข้าและข่าวร้ายก็มาอีก ระบุจุดที่เขาบอกว่าโยนอาวุธสังหารไป สำนักเขตจิงจ้าวส่งคนหลายสิบลงงมหา กลับไม่พบเสื้อผ้าหรือมีดเลยแม้แต่น้อยสำนักเขตจิงจ้าวสอบสวนอยู่หลายวัน เพราะเขามีบาดแผล จึงไม่ได้ใช้การทรมาน เขายังคงร้องขอความเป็นธรรม ตะโกนเสียงแหบพร่า ว่าตนบริสุทธิ์ไร้ซึ่งหลักฐาน อีกทั้งยังถูกข้อกล่าวหาว่าข้าบีบบังคับคำสารภาพ จึงจำต้องปล่อยตัวเขาไปก็ในตอนนั้นเอง ข้าจ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1606

    ผู้ใต้บัญชาทำงานรวดเร็วยิ่งนัก ตอนที่เขาลืมตาตื่น เครื่องทรมานก็ถูกขนเข้ามาเรียบร้อยแล้วเตาถ่านถูกตั้งขึ้น คีมเหล็กถูกเผาจนแดง แส้ที่เปื้อนเลือดฟาดกลางอากาศสองสามครั้ง เพี้ยะ เพี้ยะ ดังสะท้านใจหลิวเซิ่งถึงอย่างไรก็เคยฆ่าคนมาก่อน ใจคอจึงหนักแน่นแม้ยามเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ มิแม้แต่กระพริบตา กล่าวว่า “พวกเจ้าตั้งศาลเถื่อนเช่นนี้ ถือเป็นความผิดใหญ่หลวง พวกเจ้ายังมีขื่อมีแปหรือไม่?”คนบางประเภทก็มักเป็นเช่นนี้ คิดว่ากฎหมายใช้บังคับกับใครก็ได้ ยกเว้นตนเองตนกระทำผิด แต่กลับคิดใช้กฎหมายปกป้องตนกับคนประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องโต้แย้ง การโต้แย้งมีแต่จะยิ่งเปิดช่องให้เขาพูดจาไร้สาระมากขึ้นข้าหยิบคีมเหล็กที่ถูกเผาจนแดงก่ำหนีบเข้าที่แขนเขาทันที พอกดแน่นลงไป เสื้อก็ละลายจนเป็นรู เสียงเนื้อถูกไหม้ดัง ซี่ๆๆ…เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นไม่เป็นไร ที่นี่เป็นห้องใต้ดินลับ ต่อให้ร้องจนเสียงขาดหาย ก็ไม่มีผู้ใดได้ยินแม้กระดูกจะแข็งเพียงใด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเครื่องทรมาน ก็ไร้ซึ่งพลังต่อต้านข้ายังมิทันได้เริ่มถอนเล็บ เขาก็สารภาพทุกสิ่งอย่างละเอียดทั้งสองครอบครัวสนิทกันจริง พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายร

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1605

    ข้ามองดูหลิวเซิ่งพูดยั่วยุนางไม่หยุด คล้ายจะจงใจยั่วยุให้นางคิดสั้น ไม่ได้มีเจตนาจะลงมือฆ่าเอง“ครอบครัวเจ้าตายหมดแล้ว เจ้ายังจะอยู่ต่อไปอย่างครึ่งคนครึ่งผี บ้าๆ บอๆ เช่นนี้อีกหรือ? เจ้าก็แค่สวะ ครอบครัวเจ้าก็เป็นสวะ! ยังจะกล้ามาหัวเราะเยาะข้าว่าสอบไม่ติดอีกหรือ? พวกเจ้ามันสมควรตายทั้งบ้าน เจ้าดูเชือกที่ห้องเก็บฟืนสิ ใช้มันแขวนคอตัวเองเสีย แล้วจะได้ไปอยู่กับครอบครัวเจ้า”“หากเจ้ายังไม่ตาย พวกเขาจะต้องตกนรกสิบแปดชั้น ถูกไฟเผาทุกวัน ถูกควักหัวใจ ถอนลิ้น เพราะพวกเจ้ามันใจดำอำมหิต ชอบใส่ร้ายป้ายสี นี่คือกรรมสนองที่สวรรค์ประทานให้ พวกทำชั่วไม่สมควรมีชีวิตอยู่”ข้ายิ่งฟังยิ่งโกรธจนแทบระเบิด คนทำชั่วคือเขาชัดๆ แต่กลับพลิกกลับความหมายเสียอย่างหน้าด้านๆแม่นางสุ่ยในยามนี้ก็บ้าเสียแล้ว หากถูกเขายั่วยุหนักเข้า ก็อาจคิดฆ่าตัวตายได้จริงๆข้าเปิดประตูพุ่งออกไป ห้องข้ากับห้องแม่นางสุ่ยอยู่ติดกัน พอข้าไปถึง หลิวเซิ่งยังไม่ทันตั้งตัว ยังปิดปากแม่นางสุ่ยอยู่เมื่อเห็นข้า แววตาเขาก็สั่นไหว รีบปล่อยมือทันทีแม่นางสุ่ยตกใจจนน้ำตาร่วง แต่นางไม่ได้ส่งเสียงร้อง แม้แต่เสียงสะอื้นก็ไม่มีข้าจ้องหน้าเขาแ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1604

    สุดท้ายข้าก็ทำได้เพียงลอบเฝ้าติดตามแม่นางสุ่ยในเงามืดข้าคิดว่า ฆาตกรที่ฆ่าล้างครอบครัวนาง ย่อมต้องมีแรงจูงใจเป็นแน่หากโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ ไม่เพราะรัก ก็ต้องเพราะแค้น หรือไม่ก็เพราะเงินทอง อย่างไรเสียย่อมต้องมีสักอย่างแม่นางสุ่ยยังมีชีวิตอยู่ แล้วฆาตกรจะสามารถหลบหนีไปได้อย่างสงบเช่นนั้นหรือ?มีความเป็นไปได้หรือไม่ว่า พอเรื่องราวเงียบไปแล้ว ฆาตกรจะย้อนกลับมาฆ่านางอีกครั้ง?การคาดคะเนนี้ดูจะมีเหตุผล แต่ประเด็นสำคัญคือ ข้าไม่อาจหาทิศทางอื่นได้อีกแล้วเถ้าแก่สวีเดิมทีจ้างแม่นมมาคอยดูแลแม่นางสุ่ย แต่แม่นางสุ่ยนั้นหวาดกลัวคนแปลกหน้าอย่างยิ่ง ดังนั้นเถ้าแก่สวีจึงได้แต่ขอร้องให้เพื่อนบ้านโดยรอบแวะเวียนมาดูบ้าง ส่งอาหารมาให้บ้างมารดาของหลิวเซิ่งจะมาทุกวันเว้นวัน เพื่ออาบน้ำล้างหน้าให้แม่นางสุ่ย คอยดูแลให้สะอาดเรียบร้อยข้าพบว่าตระกูลหลิวยังปฏิบัติต่อนางด้วยดี เพียงแต่หลิวเซิ่งผู้นั้นกลับไม่เคยมา หนึ่งคือเขาต้องกลับไปยังโรงเรียน สองคืออาจเพราะในใจก็ยังมีความคับแค้นอยู่บ้าง เพราะคำกล่าวหาของแม่นางสุ่ยที่ทำให้เขาต้องติดคุกอยู่ช่วงหนึ่งชายหนุ่มผู้เป็นบัณฑิตย่อมมีความเย่อหยิ่งในใจบ้าง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status